ยามพลบค่ำสายลมพัดโบกโบยของเหมันต์ฤดูได้เริ่มขึ้นดั่งที่ได้ยินพยากรณ์อากาศในคลื่นวิทยุ ใบไม้บนต้นเปลี่ยนทิศไปตามแรงลมจะพาไป

ไร่ส้มบ่มรัก - ตอนที่ ๔ โดย พวงพะยอม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผู้ใหญ่,รัก,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ไร่ส้มบ่มรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผู้ใหญ่,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ยามพลบค่ำสายลมพัดโบกโบยของเหมันต์ฤดูได้เริ่มขึ้นดั่งที่ได้ยินพยากรณ์อากาศในคลื่นวิทยุ ใบไม้บนต้นเปลี่ยนทิศไปตามแรงลมจะพาไป

ผู้แต่ง

พวงพะยอม

เรื่องย่อ

สารบัญ

ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๑,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๒,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๓,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๔,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๕,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๖,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๗,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๘,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๙,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๑๐,ไร่ส้มบ่มรัก-ตอนที่ ๑๑

เนื้อหา

ตอนที่ ๔

                         บทที่ ๔



เจ้าของความสูง ๑๖๘ เดินตามหลังผู้เป็นพ่อต้อยๆ ในยามเช้าตรู่ที่มีหมอกจางๆ

หลังจากเธอไปอ้อนคุณพ่อเอาไว้ว่าขอให้พาไปเดินเชยชมบรรยากาศตามไหล่เขาสักหน่อย ไปเดินเล่นล่าสุดเมื่อไหร่ส้มจำความรู้สึกนั้นไม่ได้แล้ว 

ดอกไม้ที่ทั้งปลูกเองและเกิดขึ้นเองบานแข่งกันอย่างงดงาม

"พ่อ บ้านพี่ๆ คนงานแข็งแรงพอที่กันลมหนาวได้ไหม" เธอว่าพลางมองไปยังบ้านพักของลูกจ้างของจรัสเพชร

"ได้สิลูก แข็งแรงนะ และพ่อก็กำชับพวกเขาไว้แล้วว่าถ้าหากขาดเหลืออะไรให้บอก"

"โล่งใจหน่อย"

"ไม่ต้องกังวลเรื่องสวัสดิการหรอกลูก เรื่องนี้พ่อให้ความสำคัญที่สุดอยู่แล้ว"

"ค่ะพ่อ" เธอไม่ได้กลัวว่าบิดาของตัวเองจะไม่ให้ความสำคัญของลูกจ้างหรอกนะ แต่ลองสอบถามดูเพียงเพราะกลัวว่าจรัสเพชรงานยุ่งจนตกหล่นอะไรไปก็เท่านั้นเอง



"อ้าว! เหนือ วันหยุดไม่ใช่เหรอ" เสียงชายวัย ๕๓ ร้องทัก เมื่อพบลูกจ้างตัวเองเดินดุ่มๆ เข้าสวนในชุดที่พร้อมทำงานแต่เช้า

"ครับ แวะมาแต่งกิ่งนิดเดียวครับ ไม่มีอะไรทำ" เสียงหนุ่มให้คำตอบ

"พักบ้างนะ เดี๋ยวป่วยขึ้นมาจะยุ่ง"

"ไม่ป่วยครับ แค่นี้ชิลๆ" ขยันทำงานจนนายจ้างต้องคอยปราม



เหนือรัก หนุ่มวัย ๒๓ ดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง คณะเกษตรศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทันทีที่เรียนจบมาแล้วนั้นเขาตรงดิ่งมาสมัครงานในตำแหน่งคนสวนแห่งนี้อย่างไม่ลังเล จรัสเพชรจำเขาได้ว่าสมัยยังเรียนอยู่เหนือเคยมาดูงานที่ไร่ เลยแนะนำเขาไปว่ามีหลายตำแหน่งนะ แต่เหนือรักยังยืนกรานว่าจะสมัครเข้าทำงานเป็นชาวสวนและให้เหตุผลว่าเขาได้ทฤษฎีมามากพอแล้วอยากลุยงานสวนมากกว่า จรัสผู้เป็นเจ้าของไร่เห็นหน้าขาวๆ ท่าทางคุณหนูสุดๆ ไม่คิดว่าเหนือจะอยู่กับตนในตำแหน่งชาวสวนได้จวนจะครบหนึ่งปีแล้ว ค่อนข้างเกินความคาดหมาย เหนือรักเคยมาทำงานที่ไร่ก็จริงแต่นั่นมันเป็นเพียงช่วงปิดเทอมในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้นเอง



เมื่อแสงแดดสาดส่องมากขึ้นพ่อลูกก็เดินกลับบ้าน

อย่างที่เหนือบอกไว้ว่ามุมนี้ก็สวย แต่ตอนเดินขึ้นจะเหนื่อยหน่อย ส้มรู้สึกว่าไม่หน่อยแล้วแหละ เหนื่อยพอสมควรเลย



ด้วยความที่บ้านของทอประกายอยู่นอกเมืองแถมยังอยู่ท้ายไร่อีกต่างหาก บางครั้งเธอก็คิดถึงความเจริญที่ได้เดินช็อปปิ้งทุกวัน ส้มขับรถไม่เป็นจะไปไหนแต่ละทีก็กลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตเพราะต้องวิ่งหาคนที่ไปส่งเธอได้ ในยามที่คุณพ่อกับคุณแม่ของเธอไม่ว่าง

วันนี้เธออยากไปช็อปปิ้งในเมืองสักหน่อย ต้องทำการสำรวจอีกแล้วว่าใครพอจะว่างไปส่งเธอได้บ้าง 

เริ่มจากคุณพ่อ ก็ตามคาด ไม่ว่างต้องไปดูงานที่ไร่ของเพื่อน

ส่วนคุณแม่นั้นก็ไม่ว่างเพราะต้องพิมพ์งานอีกกองโต

"หนูชวนเหนือไปได้ไหมแม่" เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูมีความหวัง

"เขาอยากพักหรือเปล่าลูก เพิ่งได้หยุดเอง" นึกตามคำพูดของผู้เป็นแม่ก็น่าเห็นใจเหนือ ขืนชวนก็ไม่กล้าปฏิเสธหรอกเพราะเกรงใจ แต่ทำยังไงได้ อยากช็อปจะแย่

"ลองถามเขาดูก่อนไหม" หน้าเล็กเอ่ยเสียงเบาพลางยู่หน้า

"งั้นตามใจ"

จบประโยค ส้มใช้มือถือแม่โทรหาเหนือรัก เพราะเธอไม่มีเบอร์เขา



"ได้ๆ ต้องแต่งตัวหล่อหรือเปล่า" ตามคาด เขาไม่ปฏิเสธ

"ตามสะดวกเถอะ"

หลังจากวางสาย เธอยิ้มแป้นอย่างมีความสุข



ทอประกายย่างกรายไปอาบน้ำแต่งตัว หวังจะไปในลุคชิวๆ แต่คนติดเป๊ะ ติดแบรนด์อย่างเธอมันก็ยากจะชิว

ส้มแต่งหน้าจนกว่าจะได้ในแบบที่ตนพึงพอใจก็นานโข ผมต้องเป็นลอนโค้งสวยเป็นเกลียว

สวมเสื้อยืดกับกระโปรงสั้นสีขาวสุดชิลแต่ประโคมแบรนด์ไฮเอนด์ตั้งแต่หัวจรดเท้า

"รอนานยัง" คนร่างบางเอ่ยถามคนที่นั่งรออยู่ตรงเก้าอี้หน้าบ้าน

"ไม่นาน เพิ่งมา" เจ้าของเสื้อยืดสีขาวตอบ

"เอาคันไหนไป คันนี้เหรอ" เหนือชี้ไปยังไอ้แดง

"ไม่" ส้มเอ่ยเสียงแข็ง อีกฝ่ายขำเบาๆ



วันนี้ออกจากบ้านด้วยรถเบนซ์คันเก่งของคุณแม่

"เหนือ ถามอะไรหน่อย" เสียงหวานเอ่ย

"ว่า"

"เหนือมีแฟนป่ะ"

"ไม่มี" เขาตอบไปอย่างงงวย ลึกๆ ก็แอบสงสัยว่าถามไปทำไม

"โล่งใจหน่อย ถ้าเหนือมีแฟนแล้ว มากับเราสองต่อสองแบบนี้ไม่น่าจะดี" 

"อ้อ ถึงมีก็ไม่เป็นไรมั้ง ก็มาทำงานนี่นา"

"ที่ถามก็ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องตกใจ แค่กลัวว่าจะมีปัญหากับแฟน" ส้มพยายามเบรกเกรงว่าจะคิดไปไกล

"ก็ไม่ได้ตกใจหรอก แล้วส้มไม่มีแฟนเหรอ" เหนือรักถามกลับบ้าง

"ไม่มี" เธอตอบพลางปรายตามองดูวิวข้างทางไปด้วย

"ส้มยังขับรถไม่เป็นเหรอ" เสียงทุ้มเริ่มบทสนทนา เมื่อบรรยากาศเริ่มเงียบ

"ไม่เป็น ยังไม่เคยฝึกจริงจังอะ ก็เลยต้องรบกวนคนไปทั่ว" ว่าด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

"จะไปไหนก็บอกเราดิ เดี๋ยวขับให้ถ้าไม่ได้ทำงาน ชอบขับรถ ไม่ต้องเกรงใจ" เหนือรักเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

"จริงเหรอ" ทอประกายถามย้ำคำพูดของเขา 

"จริง ไม่ต้องเกรงใจ" เขาย้ำ

เธอไม่ได้กลัวการขับรถหรอก เพียงแค่ยังไม่พร้อมเท่านั้นเอง



เมื่อถึงห้างที่ใกล้บ้านที่สุด สิ่งแรกที่ทำคือเหนือขอเลี้ยงไอติมเธอบ้าง

"เป็นคนคิดเล็กคิดน้อยนะเนี่ย" เสียงเล็กว่า

"เป็นคนคำไหนคำนั้นมากกว่า" เหนือร้องค้าน



เมื่อทานไอศกรีมเสร็จ ทอประกายแวะช็อปแบรนด์เนมสะบัด ตอนแรกก็ปฏิเสธตอนเหนือรักอาสาช่วยถือของ เมื่อเริ่มถือไม่ไหวเลยยอมให้เขาช่วยถือจนได้ ซื้อจนหนำใจก็พากันกลับบ้าน 



รถเบนซ์สีขาวกำลังวิ่งเข้าไปยังบ้านหลังใหญ่ท้ายไร่ พอถึงบ้านเหนือก็ช่วยหิ้วของไปวางตรงโต๊ะหน้าบ้าน

"เหนืออย่าเพิ่งไปนะ ซื้อเสื้อมาฝากเหนือด้วย" เธอหยิบถุงแบรนด์ชื่อดัง ซึ่งเมื่อเห็นเพียงโลโก้ก็พอจะทราบว่าราคาไม่เบา

"ซื้อให้ทำไมอะ แพงไป ไม่เอา" เขาพยายามจะยื่นให้เธอคืน

"ไม่แพง ก็แทนคำขอบคุณไงเหนืออุตส่าห์ขับรถให้ ไม่พอยังช่วยถือของอีก" 

เพราะเธอคะยั้นคะยอให้รับและตั้งใจซื้อมาให้จริงๆ เหนือจำต้องรับไว้แม้จะเกรงใจก็ตาม