ค่ายสัมพันธ์สวาท กิจกรรมเข้าค่ายสำหรับผู้ใหญ่ที่มีกล่องถุงยางอนามัยและแผงยาคุมแนบมากับจดหมายเชิญ ผู้เข้าร่วมค่าย 20 คน กับช่วงเวลา 3วัน 2คืน ในค่ายซึ่งตำแหน่งที่ตั้งถูกเก็บเป็นความลับ พร้อมกิจกามและการตะลุยฐานที่ตื่นเต้น ร้อนแรงจนลืมไม่ลง
ผู้ใหญ่,ผจญภัย,ชาย-หญิง,รัก,เข้าค่าย,nc,nfsw,18+,pwp,Erotic,exhibitionism,voyeur,หลายP,3P,DirtyTalk,pornwithplot,นางเอกร่าน,รุม,สวิง,Wild,BDSM,ลึกลับ,เร้าใจ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ค่ายสัมพันธ์สวาทค่ายสัมพันธ์สวาท กิจกรรมเข้าค่ายสำหรับผู้ใหญ่ที่มีกล่องถุงยางอนามัยและแผงยาคุมแนบมากับจดหมายเชิญ ผู้เข้าร่วมค่าย 20 คน กับช่วงเวลา 3วัน 2คืน ในค่ายซึ่งตำแหน่งที่ตั้งถูกเก็บเป็นความลับ พร้อมกิจกามและการตะลุยฐานที่ตื่นเต้น ร้อนแรงจนลืมไม่ลง
"ค่ายกิจกามเพื่อความสุขสุดเร้าใจในแบบที่คุณหาจากที่ไหนไม่ได้"
ค่ายสัมพันธ์สวาท กิจกรรมเข้าค่ายสำหรับผู้ใหญ่ที่มีกล่องถุงยางอนามัยและแผงยาคุมแนบมากับจดหมายเชิญ
ผู้เข้าร่วมค่าย 20 คน กับช่วงเวลา 3วัน 2คืน
ในค่ายซึ่งตำแหน่งที่ตั้งถูกเก็บเป็นความลับ
พร้อมกิจกามและการตะลุยฐานที่ตื่นเต้น ร้อนแรงจนลืมไม่ลง
https://youtube.com/shorts/eMaBwdQiVNY?si=1VAqkORRd2uzU8mU
_______________________________________________________
⚠️ เนื้อหาส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องเพศและการร่วมเพศแบบดิบเถื่อนเหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ20ปีขึ้นไป⚠️
เรื่องนี้มีเนื้อหาที่ค่อนข้างwild แสดงถึงสัญชาตญาณกำหนัดในใจของมนุษย์โดยเสริมจินตนาการเข้าไป จึงจะมีการกระทำรวมถึงคำพูดที่ไม่เหมาะสมและไม่สมเหตุสมผล
ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
TW: Group sex / Exhibitionism / Wild / Dirty talk / voyeur / public / การถ่ายรูป,วิดีโอขณะมีเพศสัมพันธ์ / คำหยาบคาย / ไม่สวมถุงยางอนามัย / cum drinking / นางเอกมีความสัมพันธ์กับชายหลายคน / ลักหลับ / Creampie / Masturbation / sextoy / Anal / การตี,ฟาด / triple penetration / blowjob / role play / rough sex / BDSM Play
***นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้แต่ง ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่หรือเหตุการณ์ใดในชีวิตจริงทั้งสิ้น***
ตอนที่ 2
ภายในรถบัสสีขาวคันใหญ่
วารีปลดล็อกประตูด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะผลักประตูเปิดออก โดยเธอลืมไปเสียสนิทเลยว่าตอนนี้ร่างกายของเธอนั้นไร้อาภรณ์ปกปิด
บนตัวเธอมีเพียงผ้าขนหนูผืนบางที่พาดยาวปิดเต้านมอวบด้านซ้ายไว้ ส่วนอีกเต้านั้นเชิดชี้รับอากาศจากภายนอก เช่นเดียวกับโหนกนูนเรียบเนียน
"...คุณวารี วัลเล่ย์หรือเปล่าครับ?" เกิดอาการชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนท่าทางของชายหนุ่มผู้มาเยือนจะกลายเป็นเหมือนกับคนไร้ความรู้สึกราวกับว่าเขาไม่ได้สังเกตเห็นว่าตรงหน้ามีสาวเซ็กซี่ยืนเปลือยกายโชว์เรือนร่างอยู่
"ค่ะ..." วารีตอบ
ตอนนี้เธอรู้ตัวแล้วว่าเผลอมาเปิดประตูรับแขกในสภาพโป๊เปลือย จึงค่อยๆ ใช้ผ้าขนหนูพันปิดรอบตัวแล้วขมวดผ้าเหน็บปมตามที่ตัวเธอถนัด
ผ้าขนหนูผืนเล็กที่เปียกชื้นลู่แนบหน้าอกใหญ่ มองเห็นหัวนมแข็งดันเนื้อผ้าอย่างชัดเจน ส่วนล่างถูกปกปิดไว้อย่างหมิ่นเหม่ แค่เธอขยับตัวหรือแม้แต่ก้าวเดิน โหนกนูนกับแก้มก้นก็โผล่ออกมาวับๆ แวมๆ
"เชิญคุณตามผมไปที่รถครับ" ชายหนุ่มบอกพลางผายมือไปทางบันได
"อ๋อได้ค่ะ แต่… ฉันขอแต่งตัวก่อนได้ไหมคะ?" วารีเอ่ยก้มมองร่างกายที่มีเพียงผ้าขนหนูห่อหุ้มพร้อมเสียงหัวเราะแห้งๆ
"ด้วยเหตุผลด้านเวลา ผมอภัยที่ต้องปฏิเสธครับ ... เชิญทางนี้ครับ" วารีมองอีกคนอย่างอึ้งๆ กะจิตกะใจเขาจะให้เธอเดินลงบันไดสองชั้นด้วยสภาพนี้น่ะหรือ?
"เชิญครับ" ชายหนุ่มพูดย้ำ พลางมองหน้าวารีนิ่ง
หญิงสาวดูท่าว่าอีกคนคงจะไม่ยอมอ่อนลงง่ายๆ จึงตัดสินใจตามน้ำไป เพราะไม่แน่ว่านี่อาจเป็นบททดสอบสุดท้ายของผู้ที่จะได้ไปค่ายสัมพันธ์สวาทก็เป็นได้
"ค่ะ ก็ได้ค่ะ.. แต่ก่อนไปฉันขอไปหยิบของเล่นกับใบรับรองแพทย์ก่อนได้ไหมคะ? มันอยู่ในรายการของที่ต้องเอาไปด้วยค่ะ"
วารีเอ่ยอย่างใจเย็น ชายหนุ่มผู้เคร่งครัดเรื่องเวลาคิดอยู่เพียงครู่เดียวก็ตอบ
"ครับ"
"ขอบคุณค่ะ..." เสียงกล่าวขอบคุณค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ เนื่องจากคนพูดเริ่มออกวิ่งไปหยิบคว้าสิ่งของจำเป็นทั้งสองอย่าง แล้วรีบจ้ำอ้าวกลับมายืนหน้าประตู
"ถ้าเรียบร้อยแล้ว เชิญทางนี้ครับ"
ชายหนุ่มในเสื้อวอร์มพูดพลางผายมือไปทางบันได วารีพยักหน้ารับแล้วก้าวเดินออกจากห้องพัก เธอหันซ้ายแลขวากวาดสายตามองรอบโถงทางเดินรู้สึกโชคดีไม่น้อยที่เหล่าเพื่อนร่วมอพาร์ตเมนต์ของเธอนั่นไม่ใช่คนที่ชอบตื่นเช้า
เมื่อล็อกประตูห้องพักเสร็จเรียบร้อย วารีจึงเดินนำชายผู้มาเยือนไปที่ทางลงบันได เธอก้าวลงบันไดพร้อมความรู้สึกวาบหวิว
สายลมโชยกระทบผิวเนียนทำให้ขนบนร่างกายลุกซู่ชูชัน แผ่นกระดาษสีขาวและกระเป๋าใบเล็กถูกกอดแนบอกคนถือไว้แน่น ใช้เวลาไม่นานนักทั้งคู่ก็ลงมาถึงด้านล่าง โดยไม่พบเจอใครเดินสวนทางมาเลยสักคน
ชายหนุ่มในเสื้อวอร์มเร่งฝีเท้าเดินนำวารีไปยังรถเก๋งยี่ห้อหรูสีดำที่จอดอยู่
เมื่อชายคนดังกล่าวเดินแซงไป วารีจึงได้เห็นข้อความซึ่งสกรีนอยู่ด้านหลังเสื้อวอร์มที่เขาสวมอยู่
ตัวอักษรสีทองอร่ามตัดกับสีดำของเนื้อผ้าเรียงกันเป็นคำว่า 'ค่ายสัมพันธ์สวาท' ขนาดของมันใหญ่จนแทบเต็มแผ่นหลังกว้างๆ ของคนสวมใส่
วารีไม่ได้พูดหรือแสดงอาการอะไร เธอเดินตามเขาไปขึ้นรถอย่างว่าง่าย โดยไม่สังเกตเห็นดวงตาเบิกกว้างของคนที่ขี่จักรยานผ่านไป
บรรยากาศภายในรถเงียบสงัด เงียบเสียจนวารีแทบกลั้นหายใจเพราะกลัวเสียงหายใจจะทำเสียงดังเกินไป เธอใช้มือดึงปลายผ้าขนหนูที่ร่นขึ้นเมื่อนั่งลงให้ปิดโหนกนูนไว้อย่างหมิ่นเหม่
เธอลอบมองชายหนุ่มข้างตัว พบว่าสายตาของเขาจับจ้องไปที่ท้องถนนโดยไม่เหลียวมองเธอแม้แต่น้อย
บนถนนนั้นมีรถสัญจรบางตา ทำให้รถหรูเคลื่อนตัวไปด้วยความเร็ว ก่อนจะเริ่มชะลอความเร็วลงเมื่อถึงหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ทันทีที่รถขับเข้าไปในลานจอด วารีก็มองเห็นรถบัสสีขาวคันใหญ่จอดเด่นอยู่ท่ามกลางลานจอดที่ร้างทั้งผู้คนและรถรา
"เชิญขึ้นรถบัสได้เลยครับ" เมื่อรถเก๋งสีดำขลับจอดนิ่งสนิทที่ข้างรถบัสคันใหญ่ ชายหนุ่มพลขับที่นั่งเงียบงันมาตลอดทางก็พูดขึ้น
"เอ่อ... ค่ะ" ถึงจะยังงุนงงแต่วารีก็ทำตามที่อีกฝ่ายบอกอย่างว่าง่าย เธอหอบเอาใบรับรองแพทย์และกระเป๋าใบเล็กลงจากรถแล้วเดินตรงไปที่ประตูรถบัส
"สวัสดีค่ะ เชิญขึ้นมาเลือกที่นั่งตามสะดวกค่ะ" ทันทีที่ประตูเหวี่ยงตัวเปิดออก ก็มีเสียงพูดแหลมสูงดังขึ้น
ที่หน้าประตูรถปรากฏมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับวารียืนยิ้มอย่างเป็นมิตรอยู่ เธอนั้นสวมเสื้อวอร์มสีดำกับกางเกงขายาวสีเขียวขี้ม้าอ่อน เป็นชุดแบบเดียวกับชายที่ขับพาวารีมายังจุดนัดหมายนี้
"อา... ค่ะ" วารีตอบรับ ก่อนจะค่อยๆ เยื้องย่างขึ้นรถบัสด้วยความรู้สึกที่ปะปน ทั้งตื่นเต้นและกังวลอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อเธอก้าวเข้ามาถึงในห้องโดยสารก็พบว่าตอนนี้มีสายตานับสิบคู่กำลังมองมาทางเธอ ด้วยแววตาที่แตกต่างกันไป ก่อนที่ทั้งหมดจะกลับไปสนใจสิ่งที่ทำอยู่ก่อนหน้า
ในตอนแรกวารีกังวลเรื่องที่เธอนุ่งเพียงผ้าขนหนูผ้าบางผืนเดียวมาจุดนัดหมายนี้ เพราะกลัวผู้เข้าร่วมค่ายคนอื่นจะมองเธอแปลกๆ แต่ภาพตรงหน้าที่เธอเห็นในตอนนี้ ทำให้ความกังวลนั้นหายไปราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้น
สองขาของวารีนิ่งสนิทอยู่กับที่ เธอกวาดสายตาไปทั่วรถพบว่าที่นั่งหลายที่ได้ถูกจับจองไปแล้วโดยชายหญิงสิบห้าคน
วารีมองไปที่เบาะนั่งหลังสุดเธอเห็นผู้ชายร่างกายกำยำนั่งเรียงหน้ากระดานกันอยู่ถึงสี่คน มันจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากสามในสี่คนไม่ได้ใส่เพียงชั้นในตัวเดียว
ส่วนอีกคนที่นั่งอยู่ด้วยกันนั้นสวมชุดนอน เส้นผมบนหัวของเขายุ่งเหยิงชี้ฟู มองไปที่เบาะถัดขึ้นมาฝั่งขวาเห็นผู้ชายแต่งตัวเรียบร้อยกำลังนั่งพูดคุยอยู่กับชายหนุ่มใบหน้าอ่อนเยาว์ที่สวมเพียงกางเกงนอนขายาวลายตารางสีเทา
เบาะทางฝั่งซ้ายมีชายอีกสองคนนั่งคู่กันอยู่ ทั้งสองใส่กางเกงนอนขาสั้น คนหนึ่งสวมเสื้อกล้าม อีกคนท่อนบนเปล่าเปลือย
ที่เบาะคู่หน้าใกล้กับวารีที่สุด มีผู้ชายที่ดูจะมีอายุมากกว่าเธอนั่งอยู่ พวกเขามีสภาพไม่ต่างจากวารีนัก บนร่างกายของพวกเขามีเพียงผ้าขนหนูผูกรอบเอวไว้
ชายที่นั่งติดริมหน้าต่างกำลังมองจ้องวารีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม บนหน้าอกและต้นแขนแกร่งสองข้างของเขามีรอยสักสีดำน่ามองจนวารีเผลอจ้องค้างนานจนคนที่ถูกมองเริ่มยกยิ้มมุมปาก
เขาค่อยๆ ใช้มือเกี่ยวผ้าขนหนูที่ปิดอยู่บนตักให้เปิดออก จนวารีสามารถมองเห็นส่วนหัวของแก่นกายที่เริ่มแข็งของเขา
"หวัดดี!" เสียงหวานที่เบาะนั่งคู่รองทางฝั่งซ้ายดังขึ้นเรียกความสนใจจากวารี เธอละสายตาจากปลายลำ มามองเจ้าของเสียง
มีหญิงสาวนั่งรวมกลุ่มกันอยู่ห้าคน สองคนที่เบาะหน้าเป็นสาวสวยที่ดูเป็นผู้ใหญ่ คนหนึ่งสวมเพียงชุดชั้นในสีแดง ส่วนอีกคนสวมชุดนอนผ้าไหมราคาแพง ทั้งสองส่งยิ้มบางให้ก่อนจะหันไปคุยกันต่อ
ที่เบาะถัดไปเป็นที่นั่งของหญิงสาวสองคนที่ดูเด็กกว่าวารีเล็กน้อย คนที่นั่งริมหน้าต่าง สวมเสื้อสายเดี่ยวสีดำ กับกางเกงชั้นในสีครีม ส่วนอีกคนสวมเสื้อยืดสีขาวหลวมโพรก หากมองดูดีๆ จะเห็นยอดอกที่ดุนดันเนื้อผ้าของมาทั้งสองข้าง
และที่เบาะตรงกลางเป็นที่นั่งของเจ้าของเสียงหวานที่กล่าวทักทาย วารีส่งยิ้มให้เธอก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เบาะนั่ง
"ตรงนี้ว่างนะ นั่งสิ" หญิงสาวที่นั่งอยู่ก่อนพูดอย่างร่าเริง วารีพยักหน้าก่อนจะนั่งลงที่เบาะนั่งข้างๆ
"เราชื่อข้าวสวยนะ" ทันทีที่วารีนั่งลง หญิงสาวก็พุ่งตัวเข้ามาแนะนำตัว
"ระ..เราวารี"
"โดนลากมาตอนอาบน้ำใช่ไหมเนี่ย?" ข้าวสวยก้มมองผ้าขนหนูผืนบางแล้วพูดต่อ
"เราตื่นมานั่งรอตั้งแต่ตีสี่เลยแต่งตัวทัน แต่ก็แอบเสียดายนะ รู้งี้ใส่แต่เสื้อในกางเกงในมาบ้างก็ดี"
ข้าวสวยเป็นคนมีเสน่ห์น่ามอง ผมของเธอเป็นสีดำที่ถูกตัดซอยสั้นให้เข้ารูปหน้า
เธอสวมกางเกงขาสั้นสีดำเว้าขาสูงกับเกาะอกหลังรัดรูปสีดำเงาขนาดพอดีกับหน้าอกอิ่ม ด้านหน้ามีเส้นซิปสีทองที่พร้อมจะถูกรูดลงอยู่ตลอดเวลา ผิวสีน้ำผึ้งที่โผล่เสื้อผ้าออกมาดูเนียนละเอียดไปเสียทุกส่วน
"เรากะเวลาผิดน่ะ พออาบน้ำเสร็จเขาก็มารอหน้าห้องแล้ว" วารีเล่า ขณะจัดผ้าขนหนูคลุมกายให้เรียบร้อย
"เลยโดนลากมาเลยใช่ไหมล่ะ เห็นพี่น้ำฟ้าที่ใส่แต่ชุดชั้นในตรงนั้นไหม?" ข้าวสวยพยักพเยิดไปทางที่นั่งด้านหน้า
"เห็นสิ"
"นั่นน่ะ พี่เขากำลังแต่งตัวอยู่ ยังแต่ไม่ทันเสร็จก็โดนเร่งจนตั้งใจจะเปิดประตูออกไปด่า แต่สุดท้ายก็โดนหิ้วมาตามสภาพที่เห็นนี่แหละ"
"เอ่อ..แบบนี้ก็น่ากลัวอยู่นะ" วารีเอ่ยสีหน้าเหยเก นึกไปว่าหากเธอยังรั้นที่จะแต่งตัวต่อ ชายหนุ่มในเสื้อวอร์มคนนั้นก็คงจะต้องทำแบบเดียวกันเป็นแน่
"แล้ว...เธอรู้จักค่ายนี้ได้ยังไงเหรอ?" ข้าวสวยถาม
"เราไปเจอคลิปของค่าย ก็เลยลองหาข้อมูลดู พอเห็นว่าเปิดรับสมัครอยู่ก็เลยลองสมัครดูน่ะ" คำตอบของวารีทำให้คนฟังยิ้มอย่างตื่นเต้นก่อนจะพูด
"เหมือนกันเลย เราเห็นคลิปที่เขาแข่งวิ่งแซนด์วิชกัน เรารีบสมัครทันทีเลย"
คลิปวิดีโอแข่งวิ่งแซนด์วิชที่ข้าวสวยพูดถึงเป็นคลิปโปรดของวารีเช่นกัน เธอดูมันขณะเล่นกับของเล่นชิ้นโปรดอยู่หลายครั้ง
การแข่งวิ่งแซนด์วิช คือการให้ผู้เข้าร่วมชายอุ้มตัวผู้เข้าร่วมหญิงขึ้น โดยการใช้มือสอดเข้าที่ใต้ขาทั้งสองข้างของเธอ ก่อนจะแทรกท่อนลำเข้าไปในช่องทางด้านหน้า แล้วให้ผู้เข้าร่วมชายอีกคนสอดใส่ในช่องทางหลัง
จากนั้นผู้เข้าร่วมชายทั้งสองคนจะต้องออกวิ่งในจังหวะที่สอดคล้องกันเพื่อให้ถึงเส้นชัยได้เร็วที่สุด โดยมีผู้เข้าร่วมหญิงกระเด้งกระดอนอยู่ระหว่างกลางผู้เข้าร่วมชายทั้งสองราวกับไส้แซนด์วิชรสเลิศ
วารีแอบหวังอยู่ลึกๆ ว่าปีมีจะมีกิจกรรมวิ่งแซนด์วิชให้เธอได้ลองเป็นไส้แซนด์วิชที่ถูกหิ้ววิ่งไปวิ่งมาสักครั้ง
"ขอตรวจใบรับรองแพทย์กับของเล่นด้วยค่ะ" อยู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ข้างตัววารี
เธอรีบเรียกสติกลับมาแล้วยื่นของทั้งสองสิ่งให้กับคนที่พูดนั่นก็คือหญิงสาวในเสื้อวอร์มที่เธอเจอตรงประตูรถ หญิงสาวคนนั้นรับเอาแผ่นกระดาษและกระเป๋าใบเล็กไปตรวจดูอยู่ครู่หนึ่งก็พูดขึ้น
"เรียบร้อยค่ะ ทีมงานขอเก็บเอกสารใบรับรองแพทย์และของเล่นไว้ให้ก่อนนะคะ" วารีได้ฟังก็พยักหน้าเข้าใจ เธอรู้อยู่แล้วว่าทีมงานต้องมาเก็บของไป เนื่องจากคนรอบตัวเธอต่างก็นั่งมือเปล่ากันทั้งนั้น
"ค่ะ" วารีตอบรับ แล้วทีมงานสาวก็เดินไปยืนที่หน้าประตูรถดังเดิม
"วารี! ดูนั่นสิ!"
(โปรดติดตามตอนต่อไป)