สงครามระหว่างสัตว์โบราณ เมื่ออดีตกาล การต่อสู้เพื่อทำลาย และ การต่อสู้เพื่อปกป้อง จุดจบสงครามด้วยการสละชีวิตของมังกรหิมะ เพื่อแช่แข็งวิหคเพลิงไปตลอดกาล

วิหคเพลิงผนึกใจ - บทที่ 13 อดีตของไรเซล โดย malisam @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,รัก,ชาย-หญิง,ยุคกลาง,ตะวันตก,แฟนตาซี,โรแมนติกแฟนตาซี,ฟีนิกซ์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วิหคเพลิงผนึกใจ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,รัก,ชาย-หญิง,ยุคกลาง,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,โรแมนติกแฟนตาซี,ฟีนิกซ์

รายละเอียด

สงครามระหว่างสัตว์โบราณ เมื่ออดีตกาล การต่อสู้เพื่อทำลาย และ การต่อสู้เพื่อปกป้อง จุดจบสงครามด้วยการสละชีวิตของมังกรหิมะ เพื่อแช่แข็งวิหคเพลิงไปตลอดกาล

ผู้แต่ง

malisam

เรื่องย่อ


อาณาจักรคาร์เทียร์ ได้ถูกก่อตั้งเมื่อ 400 ปีก่อน ตระกูลคาร์เทียร์ได้รวบรวมอาณาจักรขึ้นด้วยการทำสงครามกับอาณาจักรข้างเคียงโดยมีมังกรเพลิงนามว่า ดรากัส ร่วมต่อสู้และปกป้องผู้คนในอาณาจักร มังกรดรากัส นั้นมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ปีกมังกรยามสะบัดก่อให้เกิดลมแรงราวกับพายุ เกล็ดผิวหนังแข็งราวกับเหล็ก ไม่ว่าอาวุธใดแทบไม่สามารถทะลุผ่านได้ และลมหายใจเพลิงมีพลังทำลายล้าง ได้เกือบครึ่งเมืองต่อการพ่นลมหายใจหนึ่งครั้ง ทำให้การต่อสู้เพื่อรวบรวมอาณาจักรเป็นไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ผู้นำตระกูลคาร์เทียร์ขณะนั้นคล้ายว่าสามารถสื่อสารเข้าถึงจิตใจของมังกร จึงสามารถควบคุมดรากัสให้เข้าร่วมต่อสู้อยู่เคียงข้าง จนสามารถปราบข้าศึกของอาณาจักรข้างเคียงได้สำเร็จและสถาปนาขึ้นเป็นราชาของอาณาจักร โดยมีมังกรเป็นสัตว์ประจำราชวงศ์ ผู้คนในอาณาจักรต่างชื่นชมและยอมรับราชวงศ์คาร์เทียร์ให้เป็นผู้ปกครองอาณาจักร หลังจากเสร็จศึกสงคราม มังกรดรากัสก็เข้าสู่ภาวะจำศีลโดยหลบซ่อนตัวในถ้ำบริเวณหุบเขาทางตอนใต้   

 

 เมืองฟลอเรนเซีย ถูกปกครองโดยตระกูลเอเลนอร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของอาณาจักรคาร์เทียร์ ถือว่าเป็นเมืองสำคัญของอาณาจักร เนื่องจากฟลอเรนเซียเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้มีความสามารถเรื่องการทำกสิกรรม รวมทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับเมืองท่าหลายแห่ง ทำให้เป็นจุดศูนย์กลางในการค้าขาย ถือได้ว่าเป็นตระกูลมั่งคั่งลำดับต้นๆ ของอาณาจักร ในอดีตมีเรื่องเล่าที่ว่า สมบัติประจำตระกูล เป็นอัญมณีสีแดงประกายแวววาว ภายในนั้นบรรจุผลึกเวทย์มนตร์ของวิหคเพลิง ซึ่งเป็นเวทย์มนตร์ที่มีพลังเผาผลาญทำลายล้างสูงไม่ด้อยไปกว่ามังกร อีกทั้งยังมีพลังเยียวยาฟื้นคืนชีวิต และมีเพียงสายเลือดของบุตรีตระกูลเอเลนอร์เท่านั้นที่สามารถเรียกพลังจากอัญมณีได้ เอกลักษณ์ของสายเลือดผู้ปลุกพลังนั้นจะมีเส้นผมและดวงตาสีแดงเข้ม อย่างไรก็ดี เนื่องจากพลังเวทย์มนตร์ที่ว่านั้นยิ่งใหญ่ ไม่ว่าผู้ใดก็ต้องการครอบครอง ชนชั้นสูงต่างๆ ของอาณาจักร แม้แต่เหล่าเชื้อพระวงศ์ หวังจะครอบครอง เซร่า เอเลนอร์ ผู้นำตระกูล ณ ขณะนั้น จึงนำไปเก็บซ่อนไว้ ปัจจุบันไม่มีผู้ใดทราบว่าถูกเก็บอยู่ที่ใด วันเวลาผ่านไปเกือบหลายร้อยปีผู้คนต่างก็ลืมเลือนไปไม่มีผู้ใดพูดถึง



       สวัสดีนักอ่านทุกท่านนะคะ เรื่องวิหคเพลิงผนึกใจ เป็นนิยายรักโรแมนติกแฟนตาซี ที่เล่าถึงเรื่องราวความรักของชายหนุ่มตระกูลอัศวินและหญิงสาวตระกูลพ่อค้าซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับสัตว์โบราณในอดีตกาล

        นิยายเรื่องนี้ถูกแต่งโดยจินตนาการของนักเขียน หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ นักอ่านสามารถแสดงความคิดเห็น ติชม และกดติดตามเพื่อแจ้งเตือนตอนใหม่ และกดถูกใจเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะคะ :)


สารบัญ

วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 1 บุรุษผู้ฝึกสอน,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 2 ของขวัญวันเกิด,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 3 ตัดใจ,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 4 สงครามเพลิง,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 5 จบสงคราม,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 6 คณะพ่อค้า,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 7 มังกรดรากัส,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 8 งานเทศกาล,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 9 ลักพาตัว,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 10 ช่วยเหลือ,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 11 สอบสวน,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 12 เยี่ยมเยียน,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 13 อดีตของไรเซล,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 14 งานเลี้ยงเต้นรำ,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 15 เซร่า เอเลนอร์,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 16 ดูดาว,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 17 แผลเก่า,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 18 เซร่าและเลออน,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 19 จับกุมตัว,วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 20 จับกุมตัว (2),วิหคเพลิงผนึกใจ-บทที่ 21 หลบหนี

เนื้อหา

บทที่ 13 อดีตของไรเซล


หลังจากที่ไรเซลเอาแต่นิ่งเงียบ รูดวิก คานเดลจึงสั่งให้บุตรชายกลับไปพักผ่อน ค่อยมาพูดคุยกันใหม่ในวันพรุ่งนี้ เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ พลางนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา …

ไรเซลนั้นเป็นบุตรชายนอกสมรสของเขากับ เรน่า หญิงสาวธรรมดาที่เป็นเพียงลูกสาวของแม่นม ด้วยนิสัยอ่อนโยนและรูปโฉมที่งดงามของเรน่า รูดวิกได้ตกหลุมรักเธอและพวกเขาได้แอบคบกันในช่วงวัยที่เริ่มเป็นหนุ่มสาว 

แต่หลังจากที่ตัวเขาได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้สืบทอดตระกูล เขาได้รับคำสั่งให้แต่งงานกับอิซาเบลล่า บุตรีตระกูลใหญ่ที่สามารถสนับสนุนเขาในหลายๆด้าน เรน่าจึงค่อยๆ หมดความสำคัญต่อชายหนุ่ม เธอทำได้เพียงคอยดูแลเขาในฐานะสาวใช้คนหนึ่ง 

แน่นอนว่าอิซาเบลล่านั้นเกลียดเรน่า หญิงสาวที่แย่งความรักของสามีของเธอไป หลังจากที่อิซาเบลล่าได้ให้กำเนิด ฮานส์ ลูกชายคนแรกแค่เพียง 1 ปี เรน่าก็ได้ให้กำเนิดไรเซล

อิซาเบลล่าได้ยื่นคำขาดต่อรูดวิกให้ไล่เรน่าและไรเซลออกไปจากตระกูล รูดวิกตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากใจ สุดท้ายเขาเลือกที่จะส่งเพียงเรน่าออกนอกคฤหาสน์ อย่างไรเสีย ไรเซลก็เป็นบุตรชายของเขา และ 2 ปีหลังจากนั้น อิซาเบลล่าก็ได้ให้กำเนิดเฟลิค บุตรชายคนที่สอง

รูดวิกที่ได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลก็ทำงานหนักจนแทบไม่ค่อยที่จะมีเวลาดูแลบุตร การดูแลสิ่งต่างๆ ภายในคฤหาสน์จึงเป็นหน้าที่ของอิซาเบลล่า ไรเซลที่เป็นลูกนอกสมรสนั้น จึงถูกปฏิบัติราวกับไม่ใช่บุคคลในตระกูล เขาไม่ได้รับการเรียนการสอนจากอาจารย์ที่ดีที่สุดเหมือนบุตรคนอื่นๆ เด็กหนุ่มจึงมักจะไปอาศัยอยู่กับลูคัส หัวหน้ากองอัศวินในขณะนั้น ที่เป็นทั้งเพื่อนและลูกน้องของบิดาในอาคารเล็กที่เป็นที่พักของเหล่าทหาร

ด้วยความรู้สึกสงสาร ลูคัสจึงเลี้ยงดูและสั่งสอนทุกอย่างที่เขารู้ในการเป็นทหารอัศวินให้แก่ไรเซล ทั้งทักษะการต่อสู้และการใช้อาวุธทุกประเภท เขาสัมผัสได้ทันทีเมื่อได้ฝึกสอน เด็กหนุ่มนั้นมีพรสวรรค์เหมือนบิดา และการคัดเลือกผู้สืบทอดตระกูลคนต่อไปนั้น ลูกศิษย์ของเขาจะต้องเป็นตัวเต็งในการแข่งขันอย่างแน่นอน

 

“ท่านพี่ไรเซลครับ สอนข้าใช้ดาบหน่อยได้มั้ยครับ” คาร์ล บุตรชายคนสุดท้องของอิซาเบลล่าอายุ 5 ปี กำลังวิ่งตามหลังพี่ชายต้อยๆ

“เจ้ามีพี่ชายอยู่ตั้งสองคน เหตุใดต้องมาขอร้องให้ข้าสอนด้วยเล่า” ไรเซลที่บัดนี้อายุ 14 ปี นานๆ ครั้งจะเข้ามาในอาคารใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลคานเดล เพื่อไปห้องสมุดของตระกูลค้นหาและอ่านหนังสือจำพวกการวางแผนการรบและการทำสงคราม

“ท่านพี่ฮานส์และท่านพี่เฟลิคชอบล้อที่ข้าตัวเตี้ย แถมยังชอบแกล้งข้าด้วยครับ” คาร์ลมักจะตามติดพี่ชายคนนี้เสมอเวลามารดาของเขาไม่อยู่

“ข้าเกลียดแม่ของเจ้า อย่ามายุ่งกับข้า” ไรเซลพูดเสียงแข็งเพื่อตัดสัมพันธ์พลางก้าวเท้าถี่ๆ เพื่อทิ้งระยะห่างกับเด็กน้อย

‘โอ้ยย!’ เด็กน้อยที่กำลังวิ่งตามพี่ชายสะดุดเท้าตนเองล้มลง ก่อนที่ไรเซลหยุดชะงักรีบหันเดินกลับไปดูน้อยชายพลางถอนหายใจ

“เฮ้อออ… เจ้าจะวิ่งตามข้ามาทำไมกันล่ะ เจ็บไหม ข้าจะพาไปทำแผล” เด็กหนุ่มอุ้มเด็กน้อยขึ้นและพาไปทำแผลที่ห้องของเขาที่นานๆ จะได้มา 

คาร์ลนั้นรู้ดีว่าพี่ชายคนละแม่คนนี้เป็นอย่างไร เด็กน้อยชื่นชมไรเซล เขามักจะมองเห็นการฝึกซ้อมการต่อสู้ของพี่ชายในสวนฝั่งอาคารเล็กอยู่บ่อยๆ เพราะมารดาของตนไม่อนุญาตให้ไรเซลได้ใช้ลานฝึกซ้อมของตระกูล และถึงแม้ว่าจะถูกอิซาเบลล่าดุว่าอยู่บ่อยๆ แต่ไรเซลก็ยังใจดีกับตนทุกครั้งแม้ภายนอกจะดูไม่สนใจก็ตาม

ฝั่งไรเซล เขาไม่รู้ว่าทำไมคาร์ลถึงมักจะวิ่งไล่ตามหลังเขาอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่เท่าไหร่ที่จะมีน้องชายมาตามติด อาจเป็นเพราะมันทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองก็มีพี่น้องมีครอบครัวอยู่เหมือนกัน …


“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้าทุกคนมา เพื่อจะแจ้งว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ข้าจะเริ่มคัดเลือกผู้สืบทอดตระกูลคานเดล“ รูดวิก คานเดล ผู้นำตระกูลได้เรียกให้บุตรชายทั้ง 4 คนของเขาเข้าพบที่ห้องทำงาน

“ในการคัดเลือกจะเป็นไปตามธรรมเนียมของตระกูลที่สืบทอดกันมา ซึ่งพวกเจ้าน่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว ในเมื่อเราเป็นตระกูลอัศวิน คนที่จะขึ้นเป็นผู้นำตระกูลต่อไป ก็ต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับเป็นทหารอัศวิน“

การคัดเลือกผู้สืบทอดของตระกูลคานเดลนั้น เป็นการให้ทายาทของตระกูลแข่งขันกันเพื่อคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดโดยในขณะนี้

ฮานส์ บุตรชายคนโต อายุ 18 ปี

ไรเซล บุตรชายคนที่สอง อายุ 17 ปี

เฟลิค บุตรชายคนที่สาม อายุ 15 ปี

คาร์ล บุตรชายคนเล็ก อายุ 8 ปี

และเนื่องจากคาร์ลยังเด็กเกินกว่าจะได้ร่วมแข่งขันจึงถูกตัดสิทธิ์ไป


ช่วงเย็นของวันนั้น ไรเซลไปหาเรน่าผู้เป็นมารดาที่บ้านหลังเล็กในเขตชานเมืองค่อนข้างจะห่างไกลจากเมืองหลวง

“ท่านแม่ หนึ่งเดือนหลังจากนี้ข้าจะต้องเตรียมตัวเพื่อคัดเลือกเป็นผู้สืบทอดครับ อาจจะไม่ได้มาหาท่านบ่อยนัก”

“อย่ากังวลไปเลย แม่จะทำของโปรดของเจ้าส่งไปให้บ่อยๆ ก็แล้วกัน” เรน่ากล่าวกับไรเซลด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินเข้าไปจับมือมารดาไว้ กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังและมุ่งมั่น

“ข้าจะต้องชนะการแข่งขันให้ได้ เพื่อให้ท่านได้กลับไปอยู่ที่ตระกูลและอยู่อย่างสุขสบายกว่านี้”

“ไรเซล เจ้าไม่ต้องทำเพื่อแม่หรอกนะ จงทำเพื่อตนเองซะ แม่อยู่ที่นี่สุขสบายดีแล้ว หากกลับไปก็มีแต่จะทำให้บิดาของเจ้าต้องลำบากใจ” เรน่าพูดพลางกระชับมือลูกชายไว้แน่น

“และจงระวังตัวด้วย แม่คิดว่าทางฝั่งของท่านอิซาเบลล่า ก็คงไม่อยู่เฉยแน่ หากเจ้าทำผลงานได้ดี” 

 

การแข่งขันคัดเลือกผู้สืบทอดตระกูลคานเดลได้เริ่มต้นขึ้น

ในรอบแรกนั้นจะเป็นการแข่งขันในภาคทฤษฎี โดยมีโจทย์ที่ว่า ‘ให้วางแผนการรบในสภาวะที่อาณาจักรอยู่ในสงคราม และข้าศึกนั้นมีกำลังรบเหนือกว่า’

แน่นอนว่าฮานส์และเฟลิคที่ได้เล่าเรียนมากับผู้กำหนดโจทย์ สามารถวิเคราะห์และเขียนแผนการรบได้อย่างถูกต้องตามตำรา

สำหรับไรเซลซึ่งไม่ได้เล่าเรียนกับเหล่าอาจารย์ แต่กระนั้น เขาที่มักจะเข้าไปอ่านตำราหรือบันทึกเกี่ยวกับสงครามในห้องสมุดของตระกูล ทำให้มุมมองของเขานั้นกว้างขวาง เขาไม่ได้วิเคราะห์แค่เพียงกำลังรบและอาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ยังคำนึงถึงเสบียงที่เพียงพอหากสงครามยึดเยื้อ ช่องทางการขนส่งและสื่อสารที่ปลอดภัย รวมไปถึงสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่จะสามารถทำให้ได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เขาวางแผนโดยใช้สิ่งที่มีอยู่ได้คุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

คำตอบของไรเซลนั้นทำให้เหล่ากรรมการประหลาดใจและประทับใจมากทีเดียว แต่ก็ไม่สามารถให้คะแนนได้เหนือกว่าลูกศิษย์ของตน การแข่งขันในรอบแรกทายาททั้งสามจึงได้รับคะแนนเท่ากัน


การแข่งขันในรอบที่สองจะเป็นทักษะการขี่ม้าและการใช้อาวุธ โดยให้ผู้แข่งขันทำการขี่ม้าพร้อมทั้งใช้ดาบและธนูจัดการหุ่นฟางที่ถูกติดตั้งไว้รอบลานต่อสู้

แน่นอนว่าไรเซลนั้นทำผลงานได้ดีและโดดเด่นที่สุด เขาสามารถขี่ม้าและใช้อาวุธไปด้วยได้อย่างช่ำชองและแม่นยำ และเพราะว่าในการแข่งขันในรอบนี้ นอกจากคณะกรรมการแล้ว ยังมีผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์คนอื่นๆ ทำให้เหล่ากรรมการไม่สามารถให้คะแนนที่ค้านต่อสายตาผู้ร่วมชมได้

ที่มุมด้านข้างของลานการแข่งขัน ลูคัส ผู้ฝึกสอนไรเซล ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับผลการแข่งขันที่ออกมา

“อะแฮ่ม เป็นเจ้าสินะที่ฝึกสอนไรเซลจนทำได้ดีขนาดนี้” รูดวิกที่ร่วมดูการแข่นขันอยู่ด้วย เดินมาตบบ่าเพื่อนรัก

“พอได้อยู่กับไรเซลแล้ว ข้ารู้สึกเหมือนได้อยู่กับเจ้าสมัยเด็กเลย แต่ติดตรงที่ว่าไรเซลนั้นได้เรน่ามาเยอะ จึงรูปงามกว่าเจ้ามากนัก ฮ่าๆๆๆ” ลูคัสหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะมีสีหน้ากังวลขึ้นมา “ข้าเป็นห่วงนัก หากไรเซลนั้นได้ตำแหน่งผู้สืบทอดขึ้นมา ทางฝั่งของอิซาเบลล่าจะทำอย่างไร” 

รูดวิกเองก็เริ่มมีสีหน้ากังวลเช่นเดียวกัน


ด้านอิซาเบลล่า ที่ได้ทราบผลการแข่งขันรอบที่สองก็เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย ‘ทำไมกันนะ ทั้งๆ ที่ผ่านมาเธอกีดกันเจ้าเด็กนั่นทุกทาง แต่เจ้านั่นก็ยังสามารถเอาชนะบุตรของเธอได้’ เธอต้องทำอะไรสักอย่างก่อนการแข่งขันรอบสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้

เวลาเกือบเที่ยงคืนในคืนก่อนการแข่งขันรอบสุดท้าย ไรเซลที่กำลังเดินผ่านบริเวณสวนของคฤหาสน์เพื่อกลับห้องของตนที่อาคารใหญ่ หลังจากที่ไปพูดคุยกับลูคัสที่อาคารเล็ก จู่ๆ ก็มีชายในชุดสีดำกลุ่มหนึ่งตรงเข้ามาทำร้ายเขา เด็กหนุ่มกำลังโดนรุมและพยายามต่อสู้กลับอย่างเต็มที่ 

คาร์ลที่มองเห็นไรเซลอยู่แวบๆ บริเวณสวน รีบเดินกึ่งวิ่งไปหาพี่ชายด้วยความดีใจ อยากจะไปแสดงความยินดีกับเขาหลังจากที่ได้ทราบผลการแข่งขันในรอบที่สอง ก่อนจะตกใจกับสถานการณ์ตรงหน้า เด็กน้อยรีบตะโกนเสียงดังเพื่อขอความช่วยเหลือ 

ไรเซลที่สังเกตเห็นน้องชายอยู่ไม่ไกล จึงรีบตะโกนบอกให้น้องชายของเขาหนีไป ไม่ทันขาดคำ มีดสั้นที่ชายชุดดำขว้างใส่เขาได้ถูกปัดป้องออกไป ปลายคมมีดกระทบเข้าที่ดวงตาทั้งสองข้างของคาร์ล โลหิตสีแดงไหลรินเต็มใบหน้าของเด็กชาย ไรเซลเบิกตากว้าง รีบวิ่งเข้าไปหาน้องชายที่กำลังล้มลง ฝั่งเหล่าชายชุดดำที่พบว่า คาร์ลได้โดนลูกหลงจากการต่อสู้ก็ตกใจและรีบวิ่งหนีออกไป 

รูดวิกที่บังเอิญอยู่ในบริเวณสวนและกำลังวิ่งตามเสียงตะโกนของคาร์ลเมื่อครู่ ได้สวนกับเหล่าชายชุดดำที่กำลังหลบหนี เขาอยากจะตามไป แต่ก็เป็นห่วงบุตรชายมากกว่าจึงรีบรุดเข้าไปดูอาการ

การทดสอบรอบสุดท้ายได้ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อคืน ดวงตาของคาร์ลนั้นอาการสาหัสเกินกว่าที่จะรักษาได้ เด็กน้อยนั้นได้สูญเสียการมองเห็นทั้งสองข้าง อิซาเบลล่าแทบจะขาดใจ ตัวเธอนั้นรู้สาเหตุดี เพราะผู้ที่เป็นคนว่าจ้างเหล่าชายชุดดำนั้นก็คือเธอ เธอไม่คิดว่าคำสั่งที่ให้ไปจัดการไรเซล จะทำให้ลูกชายคนเล็กของเธอกลายเป็นแบบนี้ จากความเสียใจกลายเป็นเคียดแค้น อิซาเบลล่าได้สั่งการคนของเธอให้จัดการวางยาพิษบุคคลรอบข้างของไรเซล

จากนั้นไม่นาน เด็กหนุ่มก็ได้รับข่าวร้ายว่า เรน่า มารดาผู้อ่อนโยนของเขาได้ถูกวางยาจนเสียชีวิต พร้อมกับลูคัส บุคคลที่เขาเคารพราวกับเป็นบิดาของตนก็ได้เสียชีวิตในเวลาใกล้เคียงกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้หัวใจของเขาแตกสลาย การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเขา ทำให้เขานึกเกลียดบิดาของตนที่ไม่สามารถปกป้องผู้ใดได้เลย

สำหรับรูดวิกแน่นอนว่าเขาเสียใจต่อการจากไปของเรน่าและลูคัส และเขาไม่รู้จะปลอบโยนไรเซลได้อย่างไร เขาทำได้เพียงสืบหาตัวผู้ร้าย จนได้ทราบในภายหลังว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ถูกบงการโดยอิซาเบลล่า แต่ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างตระกูล เขาจึงทำได้เพียงขอแยกทางกับเธอ โดยเอาหลักฐานที่มีทั้งหมดใช้ในการต่อรอง อิซาเบลล่าไม่มีทางเลือก จึงได้แต่ยอมหย่าและออกจากตระกูล และหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ข่าวคราวว่าเธอดื่มยาพิษฆ่าตัวตาย

หลังจากเรื่องราวทั้งหมดสงบลง รูดวิกจึงจัดการแข่งขันคัดเลือกผู้สืบทอดตระกูลรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นการแข่งขันต่อสู้ประชิดตัวโดยไร้อาวุธ และแน่นอนว่าไรเซลได้จัดการพี่น้องทั้งสองคนจนหมดสภาพ และชนะในการแข่งขันทั้งหมด …

ถึงแม้ว่าความสูญเสียที่ไรเซลได้รับนั้น ทำให้เขาไม่ต้องการจะเป็นผู้สืบทอดตระกูล แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ได้ฝึกฝนและเรียนรู้มาตลอดจากลูคัส เขาจึงไม่อยากจะให้มันเสียเปล่า จึงยอมรับตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูล และขอไปประจำอยู่ในเขตชายแดน เพราะไม่อยากอยู่ใกล้ชิดกับคนในตระกูล

ตลอด 15 ปีหลังจากนั้น เขาก็ทำตามคำสั่งของบิดามาโดยตลอด ด้วยท่าทีที่เฉยเมยและแทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนในตระกูล มีเพียงคาร์ลที่เขามักจะส่งของไปฝากและไปเยี่ยมเยือนในบางครั้งเท่านั้น