ยมทูตหนุ่ม ที่กำลังจะได้ไปเกิด แต่เผลอทำผิดกฎของยมโลกอย่างร้ายแรง จึงต้องถูกส่งตัวลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ มิเช่นนั้นจะไม่ได้ไปเกิด

คิมหันต์ สรัลทม - บทนำ อารัมภบท โดย อมายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน,อมายา,อดีตชาติ,ตามหาร่าง,รักเก่า,ยมทูต,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คิมหันต์ สรัลทม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อมายา,อดีตชาติ,ตามหาร่าง,รักเก่า,ยมทูต

รายละเอียด

ยมทูตหนุ่ม ที่กำลังจะได้ไปเกิด แต่เผลอทำผิดกฎของยมโลกอย่างร้ายแรง จึงต้องถูกส่งตัวลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ มิเช่นนั้นจะไม่ได้ไปเกิด

ผู้แต่ง

อมายา

เรื่องย่อ

คิมหันต์ หรือ คิม ยมทูตหนุ่มหน้าหล่อ ที่กำลังจะได้ไปเกิดเป็นคนธรรมดา แต่เขาได้เผลอทำผิดร้ายแรง จนต้องถูกส่งตัวมาที่โลกมนุษย์ เพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ ถึงจะได้ไปเกิดตามที่หวังเอาไว้ แต่กว่าทุกเรื่องจะผ่านไปได้ด้วยดี กลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเอาไว้


คำเตือน

เนื้อเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องสมมุติขึ้นมาเท่านั้น สถานที่และตัวละครก็เช่นกัน

บางฉากบางตอนอาจมีเหตุการณ์รุนแรง และไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

สารบัญ

คิมหันต์ สรัลทม-บทนำ อารัมภบท,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๑ ยามหนุ่ม,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๒ ยามหนุ่ม,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๓ เจ้าสาวชุดแดง,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๔ เจ้าสาวชุดแดง,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๕ คุณยายชมพู,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๖ คุณยายชมพู,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๗ เจ้าของร้านชำ

เนื้อหา

บทนำ อารัมภบท

อารัมภบท
ณ ยมโลกที่มีเหล่ายมทูตชายหญิงเดินสวนกันไปมา เต็มพื้นที่ เนื่องจากว่ากำลังจะมียมทูตตนใหม่เข้ามาประจำการ
ไม่นานก็มีเสียงประกาศดังลั่นไปทั่วสารทิศ
“ประกาศ เวลานี้ขอให้ยมทูตทุกตน โปรดมารวมกันที่หอประชุมใหญ่ โดยด่วน ด่วน ด่วน”
หลังสิ้นเสียงประกาศ ยมทูตเริ่มซุบซิบพูดคุยกัน ถึงยมทูตตนใหม่ที่กำลังจะเข้ามาประจำการที่ยมโลกแห่งนี้ บ้างก็บอกว่ายมทูตที่กำลังจะมาใหม่หน้าตาดีหล่อเหลา บ้างก็บอกว่าโหดร้ายอำมหิตสุด ๆ
ไม่นานยมทูตทุกตนก็ได้เข้ามารวมกันอยู่ที่หอประชุม พร้อมกับเสียงพูดคุยดังลั่นไปทั่วทั้งหอประชุม
ในเวลาเดียวกัน บนเวทีด้านหน้า ก็มียมทูตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งเดินขึ้นมา พร้อมกับกล่าวคำทักทายเหล่ายมทูตตนอื่น ๆ
“สวัสดีทุกท่านด้วยนะครับ ผมชื่อค่าย นคินทร์ อมรสิริโยธินนะครับ ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับทุกท่านด้วยนะครับ”
หลังจากที่ค่ายแนะนำตัวเรียบร้อยแล้ว เหล่ายมทูตก็ได้แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง แต่ทว่าค่ายกลับเดินตรงไปที่ห้องทำงานของใครของบางคนด้วยสีหน้าจริงจังปนความเจ้าเล่ห์
ค่ายเดินหาห้องทำงานของใครคนนั้นอยู่ประมาณสิบนาที ก็ได้มาหยุดอยู่ที่ห้องห้องหนึ่ง ซึ่งมีชื่อติดอยู่ที่หน้าห้องว่า ‘คิม คิมหันต์ อมรสิริโยธิน’
ทันทีที่ค่ายเห็นชื่อบนหน้าประตู ก็ได้เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนจะเอื้อมมือไปจับลูกบิดและเปิดประตูเข้าไป
“ไง...พี่ชาย ไม่เจอกันนานเลยนะ”
“...”
“พูดไม่ออกเลยเหรอ นี่น้องชายเองนะเนี่ย”
“ออกไป! อย่ามากวนประสาทแถวนี้”
“โถ่...พี่คิม พูดแบบนี้เสียใจแย่เลย นี่น้องชายนะ พูดจาดี ๆ ก็ได้”
คิม หรือ ที่ยมทูตตนอื่นเรียกกันว่า ‘ท่านคิมหันต์’ ซึ่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คิมก็จะได้ไปเกิดเป็นคนธรรมดา เพราะว่าเป็นยมทูตครบสามร้อยปีแล้ว
“กูไม่มีน้องชายแบบมึงหรอกนะ”
“แล้วมึงคิดว่ากูอยากจะมีพี่ชายที่ทิ้งน้องชายไปแบบมึงงั้นเหรอ”
ทันทีที่ค่ายพูดจบ คิมก็พุ่งตัวเข้าไปกระชากคอเสื้อค่ายอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกัดฟันพูดด้วยความโมโห
“กูไม่เคยทิ้งใครทั้งนั้น...แล้วมึงก็ออกไปจากห้องทำงานกูซะ” ค่ายผลักคิมออกจากตัวเอง พร้อมกับยกมือขึ้นมันจัดระเบียบคอเสื้อให้เรียบร้อยเช่นเดิม ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
ค่ายเดินออกไปไม่นาน ภายในห้องของคิมก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นที่ด้านหลัง คิมเดินไปรับโทรศัพท์ จึงได้รู้ว่าเป็นสายเรียกเข้าจากหัวหน้ายมทูต ซึ่งหัวหน้ายมทูตได้เรียกให้คิมเข้าไปพบ เพราะต้องการจะคุยเกี่ยวกับน้องชายของคิม
เมื่อคิมเปิดประตูเข้าไป ก็เจอหัวหน้ายมทูตนั่งหน้าตาตึงเครียดอยู่ที่โต๊ะทำงาน แต่ทว่าสายตากลับแฝงไปด้วยความกังวล
“เอ่อ...ท่านเรียกผมมา มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เรื่องน้องชายของท่านนั่นแหละ ผมรู้นะว่าท่านทั้งสองไม่ค่อยจะคุยกันเสียเท่าไร ผมกลัวว่าเขาจะมากวนใจท่าน จนเผลอไปทำร้ายเขาเข้าน่ะ”
“ไม่หรอกครับท่าน ผมรู้ดีว่าควรทำตัวยังไง”
“อือ ก็ดีแล้ว มันจะส่งผลเสียกับท่านนะ ช่วงนี้ก็ระวังการกระทำด้วยล่ะ กลับไปทำงานต่อเถอะ”
คิมเปิดประตูออกไปก็เจอเข้ากับน้องชายหรือค่ายยืนอยู่ที่หน้าประตูพอดี
แต่คิมเลือกที่จะเดินแทรกตัวหนีออกไป เพราะไม่อยากจะมีปัญหากับค่าย อีกหนึ่งเหตุผลก็กลัวจะส่งผลไม่ดีตามทีหลัง
ทว่าค่ายกลับไม่ยอมหลบให้คิมออกไปดี ๆ แถมยังกวนประสาท โดยที่ไม่ว่าคิมจะเดินไปซ้ายหรือทางขวา ค่ายก็จะขยับไปขวางทางเอาไว้ จนคิมเริ่มทนไม่ไหว
“หลบ!”
ค่ายพ่นเสียงหัวเราะใส่หน้าคิม ก่อนจะขยับตัวหลบทาง พร้อมกับผายมือเชิญให้คิมเดินออกไป เชิงกวนประสาท เพื่อยั่วยุให้คิมโมโหเล่น ๆ
แต่ก็พบว่าไม่เป็นไปดั่งที่ตนหวัง เพราะคิมไม่ได้โมโหเลยแม้แต่น้อย แถมยังไม่สนใจการกระทำของตัวเองอีก
คิม หลังจากที่เดินพ้นออกมาจากค่ายได้ ก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะว่าถ้าเมื่อสักครู่ค่ายยังไม่หลบ ตนคงจะได้ต่อยหน้าค่ายไปสักทีสองทีเป็นแน่
| วันต่อมา
ค่ายได้มายืนรออยู่ที่หน้าห้องทำงานของคิมแต่เช้าตรู่
เมื่อคิมมาถึง และเห็นว่าค่ายยืนอยู่ที่หน้าห้อง คิมจึงเลือกเดินออกไปทางอื่น เพื่อรอให้ค่ายออกไปก่อน แล้วจึงค่อยกลับไปห้องทำงาน
เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงที่คิมนั่งเล่นอยู่ที่สวนหย่อมหลังตึกอำนวยการ คิมเห็นว่าเวลาก็ผ่านมาเกือบชั่วโมงแล้ว จึงตัดสินใจเดินกลับไปดูที่ห้องทำงาน พบว่าไม่มีใครอยู่ที่หน้าห้องแล้ว จึงเดินไปที่ห้องทำงานอย่างสบายใจ
แต่แล้วจู่ ๆ เมื่อคิมเปิดประตูเข้าไป ก็เจอเข้ากับ...
“อ่าว...ว่าไงพี่ชาย รอตั้งนาน”
“มึงเข้ามาได้ยังไง?”
“ก็เปิดประตูเข้ามาสิ...เห็นมึงเดินออกไปทางสวนข้างหลัง เลยเข้ามารอในห้อง”
“มึงออกไปซะ อย่ามากวนประสาทแถวนี้ กูรำคาญ” ค่ายไม่ตอบกลับแต่อย่างใด แต่กลับเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะลุกขึ้นยืน และเดินตรงเข้าไปคิมทันที พร้อมกับเอ่ยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“มึงอยากไปเกิดขนาดนั้นเลยเหรอวะคิม”
“...”
“มึงนี่ยังเหมือนเดิม...กับตอนเป็นคนปกติเลย ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตัวเอง แม้กระทั่งน้องชายตัวเอง”
“กูไม่เคยทิ้งใคร...มึงพูดจาดี ๆ หน่อยนะค่าย”
“มึงทิ้งกูไง ขนาดเป็นยมทูต มึงยังทิ้งกูเลยคิม มึงมันเห็นแก่ตัว”
สิ้นเสียงคำพูดของค่าย คิมพุ่งตัวเข้าไปต่อยหน้าค่ายทันที จนค่ายล้มลงไปกองที่พื้น
คิมด้วยความที่กำลังโมโห และความโกรธกำลังครอบงำ จึงได้ลงไปต่อยหน้าค่ายซ้ำอีกหลายต่อหลายครั้ง
แต่ทว่าค่ายที่กำลังโดนต่อยอยู่ กลับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรืออะไรแม้แต่น้อย แถมใบหน้ายังเต็มไปด้วยสะใจ พร้อมกับเสียงหัวเราะเจ้าเล่ห์ร้ายลึก
ทั้งสองเริ่มสู้กันไปมา จนข้าวของภายในห้องทำงานพังเละไม่เป็นท่า แถมยังส่งเสียงดังไปถึงข้างนอก จนยมทูตที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องรีบไปบอกกับหัวหน้ายมทูตให้มาห้ามทั้งสองตน
และเมื่อหัวหน้ายมทูตเปิดประตูเข้ามาก็พบเข้ากับสภาพห้องที่พัง และข้าวของกระจัดกระจายไปทั่วห้อง หัวหน้ายมทูตโมโหมาก จนต้องใช้พลังในการแยกทั้งสองตนออกจากกัน เพราะว่าห้ามด้วยปากเปล่าไม่มีใครฟัง
“อยากทะเลาะกันมากใช่มั้ย”
“...”
“นี่คิม ข้าบอกท่านแล้วไม่ใช่เหรอ ให้ระวังการกระทำหน่อย จะได้ไปเกิดอยู่แล้ว ถ้ามีอีกครั้ง ก็ไม่ต้องมีใครไปเกิดทั้งนั้นแหละ”
คิมเดินหนีออกไปอย่างไม่สบอารมณ์ และก็ได้ลงมานั่งสงบอารมณ์อยู่ที่โลกมนุษย์ ในเวลาเดียวกันตรงหน้าของคิมก็มีหญิงสาวตั้งครรภ์ถูกรถเก๋งสีดำคันหรูชนเข้าอย่างจัง แต่รถเก๋งคันนั้นไม่ได้ลงมาดูหญิงสาว ได้ขับหนีไป หญิงสาวตั้งครรภ์พยายามร้องขอความช่วยเหลือจากคนแถวนั้น แต่ทว่าแถวนั้นกลับไม่มีใครเลยสักคน
ด้วยความที่คิมเป็นคนขี้สงสาร และใจดี ได้เผลอตัวใช้พลังเพื่อช่วยหญิงสาวคนนั้นให้รอดชีวิตพร้อมกับลูกในท้องของเธอ
ทันทีที่คิมช่วยหญิงสาวคนนั้น คิมก็ได้ยินเสียงเรียกจากยมโลกให้เข้าพบโดยด่วน
ทางด้านคิม ที่เพิ่งจะได้สติกลับมา ก็ได้รู้ว่าตัวเองได้ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำลงไปเมื่อเสียแล้ว ก่อนจะรีบกลับไปที่ยมโลกตามเสียงเรียกของ
“ท่าน...มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“แล้วท่านไปทำอะไรไว้...รู้ตัวหรือไม่”
“รู้...ครับ”
“แล้วรู้ใช่หรือไม่...ว่าคือความผิดร้ายแรงยิ่งกว่าทะเลาะวิวาทกันน่ะ”
“ครับท่าน”
หัวหน้ายมทูตได้พูดถึงบทลงโทษของการเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเวรกรรมของมนุษย์ ดังนั้นคิมจะต้องถูกลงโทษอย่างเด็ดขาด โดยการลงไปช่วยเหล่าวิญญาณที่โลกมนุษย์ตามหาร่าง และตัวคิมเองก็ต้องตามหาคนรักเก่าให้เจอ และต้องทำให้เธอคนนั้นกลับมารักตัวเองให้ได้ มิเช่นนั้นคิมจะไม่ได้ไปเกิด จนกว่าจะตามหาเธอคนนั้นเจอและกลับมารักกันให้ได้
ในเวลาเดียวกัน ก็มีเสียงเตือนดังขึ้นภายในห้องทำงานของหัวหน้ายมทูต ว่ามียมทูตฝึกหัดตนหนึ่งเข้าไปยุ่งกับเวรกรรมของมนุษย์เช่นเดียวกับคิม
ไม่นานยมทูตฝึกหัดตนนั้นก็เปิดประตูเข้า จึงได้รู้ว่ายมทูตตนนั้นชื่อว่า ‘ชาน ชานนท์ กรกุล’ เพิ่งมาเป็นยมทูตได้เพียงหนึ่งร้อยปี แถมเพิ่งได้ลงไปที่โลกมนุษย์เป็นครั้งแรก
ทางหัวหน้ายมทูตเลยให้ทั้งสองลงไปที่โลกมนุษย์พร้อมกัน และถ้าชานสามารถช่วยให้คิมเจอกลับคนรักเก่าได้ ชานก็จะได้ไปเกิดเช่นเดียวกัน