ยมทูตหนุ่ม ที่กำลังจะได้ไปเกิด แต่เผลอทำผิดกฎของยมโลกอย่างร้ายแรง จึงต้องถูกส่งตัวลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ มิเช่นนั้นจะไม่ได้ไปเกิด

คิมหันต์ สรัลทม - บทที่ ๔ เจ้าสาวชุดแดง โดย อมายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน,อมายา,อดีตชาติ,ตามหาร่าง,รักเก่า,ยมทูต,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คิมหันต์ สรัลทม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อมายา,อดีตชาติ,ตามหาร่าง,รักเก่า,ยมทูต

รายละเอียด

ยมทูตหนุ่ม ที่กำลังจะได้ไปเกิด แต่เผลอทำผิดกฎของยมโลกอย่างร้ายแรง จึงต้องถูกส่งตัวลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ มิเช่นนั้นจะไม่ได้ไปเกิด

ผู้แต่ง

อมายา

เรื่องย่อ

คิมหันต์ หรือ คิม ยมทูตหนุ่มหน้าหล่อ ที่กำลังจะได้ไปเกิดเป็นคนธรรมดา แต่เขาได้เผลอทำผิดร้ายแรง จนต้องถูกส่งตัวมาที่โลกมนุษย์ เพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ ถึงจะได้ไปเกิดตามที่หวังเอาไว้ แต่กว่าทุกเรื่องจะผ่านไปได้ด้วยดี กลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเอาไว้


คำเตือน

เนื้อเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องสมมุติขึ้นมาเท่านั้น สถานที่และตัวละครก็เช่นกัน

บางฉากบางตอนอาจมีเหตุการณ์รุนแรง และไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

สารบัญ

คิมหันต์ สรัลทม-บทนำ อารัมภบท,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๑ ยามหนุ่ม,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๒ ยามหนุ่ม,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๓ เจ้าสาวชุดแดง,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๔ เจ้าสาวชุดแดง,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๕ คุณยายชมพู,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๖ คุณยายชมพู,คิมหันต์ สรัลทม-บทที่ ๗ เจ้าของร้านชำ

เนื้อหา

บทที่ ๔ เจ้าสาวชุดแดง

บทที่ ๔ เจ้าสาวชุดแดง
คิมยืนรอไม่นาน ชานก็เดินมาถึง พร้อมกับเอ่ยแซวคิมมาไกล
“คุณคิมครับ เมื่อกี้ผมเจอสาวที่คุณคิมชอบด้วยครับ”
“...” คิมไม่เพียงแต่ไม่พูดกับชาน แต่ยังมองค้อนใส่ชานอย่างคาดโทษ
ส่วนชานที่ได้เห็นสายพิฆาตของคิมแล้วก็ต้องรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“เราไปกันเถอะ”
คิมละสายตาจากชาน และเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ
ชานได้แต่งุนงง เพราะปกติทุกครั้งคิมมักจะให้ชานเป็นคนขับตลอด
แต่คราวนี้ คิมเห็นว่าชานชอบกวนประสาท จึงอยากจะแกล้งนิดหน่อย
ซึ่งคิมและชานตกลงกันว่าจะไปที่บ้านของลิษาก่อน เพราะคิมคิดว่าที่บ้านของลิษา อาจจะมีหลักฐานที่พอจะมัดตัวดนัยได้อยู่บ้าง
ออกรถมาได้ไม่นาน จู่ ๆ คิมก็เหยียบคันเร่งจุดเกือบสุด เพราะรู้ว่าชานกลัวการขับรถเร็ว
ชานที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ได้แค่ร้องโวยวายออกลั่นรถ
“โอ๊ย! คุณคิมครับ...ผมจะตายอีกรอบมั้ยครับ”
คิมยังคงไม่สนใจคำขอร้องของชาน แถมยิ่งขับเร็วขึ้นมากกว่าเดิม จนชานนั้นเป็นลมสลบไป คิมค่อย ๆ เผยรอยยิ้มมีความสุขออกมา ก่อนจะค่อย ๆ เบาความเร็วลง
คิมขับรถต่อไปอีกราว ๆ ครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงบ้านของลิษา และที่ต้องใช้เวลานาน เพราะว่าบ้านของเธอนั้นอยู่อีกอำเภอหนึ่ง เลยต้องใช้เวลาในการเดินทาง
คิมเปิดประตูลงจากรถ และหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้าน เมื่อมองเข้าไปก็พบว่าบ้านปิดเงียบ เหมือนไม่มีใครอยู่บ้าน
คิมเลยเดินกลับมาที่รถ และเดินอ้อมไปฝั่งที่ชานนอนสลบอยู่ และได้ปลุกชานให้ตื่นขึ้นมา
เมื่อชานได้สติ ลืมตาตื่น คิมชวนชานแอบเข้าไปในบ้าน เพื่อจะหาหลักฐาน
ทั้งสองคนเข้ามาถึงภายในตัวบ้านแล้ว ก็เจอเข้ากับรองเท้าผ้าใบสีขาวเปื้อนเลือดวางแอบอยู่ที่หลังประตูหนึ่งข้าง คิมได้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ก่อนจะบอกให้ชานเก็บรองเท้าไปและส่งให้ตำรวจทันที จากนั้นก็เดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้าน และก็เจอการ์ดแต่งงานวางอยู่ พบว่าสถานที่จัดงานก็คือ โรงแรมสรัลทมนั่นเอง
หลังจากที่คิมและชานได้หลักฐานเรียบร้อยแล้ว ก็รีบตรงไปที่โรงแรมสรัลทมทันที
เมื่อมาถึงโรงแรมสรัลทม ก็เจอสรัลกำลังวิ่งวุ่นอยู่ภายในงานอย่างขะมักเขม้น เนื่องจากเธอรับหน้าที่จัดดอกไม้ภายในงานแต่งของลิษา
ทว่าสรัลไม่ได้วิ่งวุ่นเพราะเรื่องจัดดอกไม้ แต่ดูเหมือนภายในงานจะมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน คิมเลยให้ชานเข้าไปถามกับคนภายในงานว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม่นานชานก็เดินกลับมา พร้อมกับเรื่องที่คิมให้ไปถาม จึงได้รู้ว่าเจ้าสาวหนีไป พร้อมกับชายอื่น และเจ้าบ่าวยังนั่งร้องไห้เสียใจอยู่ภายในงาน
คิมที่ได้ยินเช่นนั้น ก็เดินตรงเข้าไปหาว่าที่เจ้าบ่าวทันที เพราะอยากจะถามให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย ว่าสรุปแล้วเรื่องทั้งหมดมันเป็นอย่างไรกันแน่ และทันทีที่คิมเดินมาถึงตัวว่าที่เจ้าบ่าว คิมก็เอ่ยเปิดประเด็นทันที
“สวัสดีครับ คุณดนัยใช่มั้ย”
ดนัยค่อยเงยหน้าขึ้นมอง ชายร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามกลับด้วยเสียงสะอึกสะอื้น
"ชะ...ใช่ครับ ผมดนัย...ว่าแต่คุณเป็น...”
“ผมคิมครับ...คุณเป็นคนผลักคุณลิษาตกหน้าผาใช่มั้ยครับ”
สิ้นเสียงคำพูดของคิม ทุกคนในงานต่างก็พากันจับจ้องและให้ความสนใจมาที่คิมและดนัย
ดนัยหันมองซ้ายมองขวา ก่อนจะหันกลับมาที่คิม
“คุณ...พูดอะไรของคุณ ผะ...ผมไม่รู้เรื่อง”
“คุณแน่ใจนะครับ ว่าไม่รู้เรื่องอะไร” คิมพูด พลางหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา ก่อนจะเปิดรูปถ่ายให้ดนัยดู
ดนัยมองรูปภาพสลับกับมองหน้าคิม ก่อนจะร้องไห้ออกมา
“ผมขอโทษ...ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“คุณตั้งใจแน่นอนครับ ไม่มีหรอก ที่บอกว่าไม่ได้ตั้งจะฆ่าคนที่กำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้ว คุณหวังเพียงแค่ข้าวของเงินทองของคุณลิษาเท่านั้น” ดนัยจากที่ร้องไห้ เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธและโมโห
“คุณจะไปรู้อะไร อีนั่นมันขี้งกจะตาย มันเอาแต่ครอบครัวมัน มันเคยสนใจครอบครัวผมที่ไหน”
“เหตุผลแค่นี้น่ะเหรอครับ...ที่คุณถึงกับต้องฆ่าว่าที่ภรรยาของคุณ”
“ผมอยู่กับมันมาตั้งหลายปี ไม่เคยได้อะไรเลย แม้แต่ตำแหน่งหน้าที่ในบริษัท มันก็ยังให้ผมเป็นลูกน้องมันเหมือนเดิม”
“...”
“แล้วคุณรู้อะไรมั้ย...ก็ผมเนี่ยแหละที่หลอกให้อีลิษามันไปทำประกันชีวิต แล้วชื่อคนรับเป็นใครรู้มั้ยล่ะ” ดนัยเริ่มพูดจาพร่ำเพ้อ ราวกับคนไม่มีสติ
“ก็คงต้องเป็นคุณ ไม่งั้นคุณคงไม่ฆ่าเขาหรอก...จริงมั้ย”
“ก็ใช่ไง...แล้วตอนนี้...อีลิษามันก็นอนอยู่หลังบ้านมันไง” ดนัยยังคงพูดอย่างไม่รู้สึกผิด ทำเอาผู้คนภายในงานต่างก็ตกตะลึงกับคำพูดของดนัย
หลังจากที่ดนัยสารภาพความจริงทุกอย่างออกมา ตำรวจที่ยืนแอบอยู่ตามมุมเสา ก็ได้โผล่ออกมาและจำกุมดนัยในที่สุด
ทางด้านครอบครัวลิษาได้แต่ยืนมองดนัยถูกตำรวจลากออกไปอย่างโกรธเคือง ก่อนจะพ่นคำด่าทอใส่ดนัย
และทางด้านของตำรวจ ได้เข้าไปค้นหาร่างของลิษาตามที่ดนัยได้พูดเอาไว้ ก็เจอร่างที่ไร้วิญญาณของลิษาอยู่หลังบ้านจริง
หลังจากที่เสร็จหน้าที่แล้ว คิมและชานก็ตรงกลับไปที่ร้านดอกไม้ทันที เพราะช่วงกลางวันแทบไม่ได้อยู่ที่ร้านเลย
เพราะเหตุนี้ คิมจึงได้จ้างพนักงานไว้สามคน เพื่อที่จะช่วยงานของที่ร้านดอกไม้แทนตัวเองและชาน เนื่องจากคิมและชานแทบจะไม่มีเวลาขายดอกไม้เองเลย เพราะแค่เรื่องของการตามร่างก็แทบไม่มีเวลาพักผ่อนแล้ว
แต่เมื่อคิมเดินมาถึงหน้าร้าน ก็เจอสรัลยืนอยู่ที่หน้าร้าน ราวกับว่ากำลังรอตนอยู่ คิมจึงค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ จนมาหยุดยืนอยู่ที่ด้านหลังของสรัล คิมยื่นหน้าไปข้างหูของสรัล ก่อนจะพูดออกมาเบา ๆ
“มารอใครครับ”
“อุ๊ย! แม่ร่วง เล่นอะไรของคุณเนี่ย ตกใจหมด” สรัลเอ่ยถาม พลางยกมือทาบอก
คิมหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“คุณมาทำอะไรล่ะครับ”
“ฉันจะมาคุย...เรื่องที่ขอให้ร้านคุณส่งดอกไม้ให้ทุกวันตอนตีห้าน่ะค่ะ พอดีว่าเมื่อเช้าฉันรีบเลยยังไม่ได้คุยกับพนักงานในร้าน”
“เชิญครับ” คิมผายมือเพื่อเชิญสรัลเข้าไปในร้านดอกไม้
หลังจากที่สรัลเดินเข้าไป คิมก็ตามหลังไปติด ๆ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ประจำตัวด้วยความเหนื่อยล้า แต่ทว่าสรัลกลับชวนคิมคุยเรื่องการส่งดอกไม้ทันที