ยมทูตหนุ่ม ที่กำลังจะได้ไปเกิด แต่เผลอทำผิดกฎของยมโลกอย่างร้ายแรง จึงต้องถูกส่งตัวลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ มิเช่นนั้นจะไม่ได้ไปเกิด
รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน,อมายา,อดีตชาติ,ตามหาร่าง,รักเก่า,ยมทูต,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บทที่ ๖ คุณยายชมพู
รุ่งเช้า คิมและชานเตรียมตัวออกไปที่บ้านของคุณยายทันที เพราะจะได้รีบตามหาร่างของคุณยาย
แต่เมื่อคิมเดินออกมาที่ประตูร้านดอกไม้ ก็ได้มองซ้ายมองขวา ราวกับว่ากำลังมองหาใครบางคนอยู่ จนชานเดินมาเห็น เขาเลยโดนแซวไปอีกครั้ง
“แหม มองหาเขาขนาดนี้ ขับรถไปหาที่โรงแรมเลยมั้ยครับคุณคิม”
“ไอ้ชาน เอาอีกแล้วนะ ไปขับรถเลยไป พูดมากอยู่ได้”
“ครับผม เชิญครับ”
จากนั้นทั้งสองคนก็ตรงไปบ้านของคุณยายทันที ซึ่งบ้านของคุณยายก็อยู่ไม่ใกล้ และไม่ไกลจนเกินไป
เมื่อมาถึงคิมและชานก็เปิดประตูเข้าไปตามปกติ เพราะบ้านของคุณยายไม่ได้ล็อก
เมื่อเข้ามาถึงภายในบ้าน ก็เจอเข้ากับภาพถ่ายครอบครัวของคุณยายที่ติดอยู่กับผนังบ้าน ทำให้ได้รู้ว่าคุณยายนั้นมีลูกหลานหลายสิบคนมาก
จนเกิดคำถามมากมายขึ้นภายในใจของคิมที่ว่า...
ทำไม่ลูกหลานเยอะขนาดนี้ ถึงปล่อยทิ้งแม่ไว้คนเดียวแบบนี้
ทำไมแม่เพียงคนเดียว ลูก ๆ ถึงดูแลไม่ได้
แต่แล้วชานที่กำลังเดินสำรวจบ้านของคุณยายอยู่ ก็ได้ไปเจอเข้ากับชุดทำงานของคุณยาย ซึ่งก็คือชุดแม่บ้านที่มีโลโก้ของสถานที่ทำงานติดอยู่ ชานรีบตะโกนเรียกให้คิมมาดู
“โรงแรมสรัลทม?”
“มันจะไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอครับคุณคิมที่...วิญญาณทั้งสามดวง เกี่ยวข้องกับโรงแรมสรัลทมหมดเลย”
“...”
“ผมว่าเราไปถามเขาเลย...ดีมั้ยครับ” คิมพยักตอบรับ ก่อนจะเดินนำชานไปที่รถ และคราวนี้คิมเป็นคนขับเอง ชานที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่เสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก
และแล้วก็เป็นจริงดั่งที่ชานกลัว เพราะว่าคิมนั้นเหยียบคันเร่งจนสุดราวกับว่ากำลังแข่งรถอยู่ในสนาม ไม่นานรถของคิมก็มาจอดนิ่งอยู่ที่หน้าโรงแรมสรัลทม
แต่คิมกลับลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เพราะเมื่อวานเพิ่งพูดจาไม่ดีใส่เขาไป คิดว่าเขาคงจะโกรธอยู่เป็นแน่ คิมจึงตัดสินใจจะเข้าไปขอโทษสรัล ก่อนที่จะถามเรื่องราวของคุณยาย
คิมเดินเข้าในโรงแรมก่อนชาน เพราะได้ให้ชานเอารถไปจอดที่ลานจอดรถของโรงแรมเสียก่อน
คิมเดินเข้ามาก็เจอสรัลกำลังสั่งงานพนักงานคนอื่น ๆ อยู่ ด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง
คิมจึงทำได้เพียงแค่ยืนรออยู่ห่าง ๆ ทว่าเวลาที่คิมเจอสรัลในโหมดจริงจังกับงานแบบนี้ คิมไม่สามารถสายตาจากสรัลได้เลย เพราะสรัลดูมีเสน่ห์ ดึงดูดสายตามาก ๆ
ในเวลาเดียวกัน ขณะที่คิมกำลังจ้องมองสรัลอยู่ จู่ ๆ สรัลก็หันมา ทำให้คิมลุกลี้ลุกลนรีบหลุบตาลงทันที
สรัลจัดแจงงานให้พนักงานเรียบร้อยแล้ว ก็ค่อยตรงเดินเข้ามาหาคิมที่ยืนรออยู่ พร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแฝงไปด้วยความโกรธเคือง
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“คือ...ว่า...คือผม”
“คืออะไรคะ ฉันจะไปทำงาน ไม่มีเวลามานั่งฟังคือ ๆ ของคุณหรอกนะ”
“ผมขอโทษ...ที่พูดจาไม่ดีใส่คุณเมื่อวาน” สรัลเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรค่ะ แล้ว...นี่คุณมาทำอะไรที่นี่”
“คุณพอจะรู้จักคนนี้มั้ยครับ” คิมเอ่ยถามพร้อมกับเปิดภาพในโทรศัพท์ให้สรัลดู
“อ๋อ...ยายนวล แกเป็นแม่บ้านที่นี่แหละค่ะ ลูกหลานแกทิ้งไปหมด แกต้องทำงานเลี้ยงตัวเอง...ว่าแต่คุณมาถามหาแกทำไมเหรอ”
“เปล่าครับ คุณพอจะมีเบอร์ลูกหรือหลานของคุณยายมั้ยครับ”
“เหมือนจะมีเบอร์ลูกชายของยายอยู่นะคะ” สรัลยกโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อที่จะหาเบอร์ลูกชายของยายนวลให้คิม
แต่ทว่าก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ป้านวลยังไม่มาทำงานเลย และสรัลก็เจอเบอร์ของลูกชายยายนวลพอดี จึงได้ยื่นโทรศัพท์ให้คิม พร้อมกับเอ่ยถามว่า
“คุณเจอยายนวลเหรอคะ ฉันเพิ่งนึกได้...ว่าวันนี้ยายนวลยังไม่มาทำงานเลย” คิมเงยหน้ามองสรัล ก่อนจะส่งโทรศัพท์คืน พร้อมกับเอ่ยพูดอย่างนิ่งเฉย
“แกคงไม่มาแล้วแหละครับ”
“อ่าว ทำไมล่ะคะ”
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” คิมหันหลังเดินออกไปทันที ปล่อยให้สรัลยืนงุนงงอยู่เพียงคนเดียว
ทางด้านของชานที่เพิ่งหาที่จอดรถได้ และกำลังจะวิ่งเข้ามาคิม แต่ก็เห็นว่าคิมและสรัลคุยกันเรียบร้อยแล้ว และคิมก็กำลังเดินออกมา ชานทำได้แต่ยืนรอด้วยความเหนื่อยหอบ
“โห่ คุณคิม ไม่โทรบอกกันก่อน ผมจะได้ไม่ต้องวิ่งมา มันเหนื่อยนะครับ”
“แล้วทำไมไม่โทรมาถามล่ะ ไป”
“ไปไหนอีกครับ”
“บ้านคุณยาย”
ชานได้แต่วิ่งตามคิมไปที่รถ ด้วยท่าทางที่ไม่สบอารมณ์เสียเท่าไร แถมพอมาถึงรถ คิมยังใช้ให้ขับรถอีก
ระหว่างทางไปบ้านคุณยาย คิมพยายามติดต่อหาลูกชายของคุณยาย แต่ไม่จะพยายามเท่าไร ก็ไม่สามารถติดต่อ
แต่แล้วคิมก็ต้องเครียดอีกครั้ง เพราะว่าตอนนี้ยังไม่รู้ว่าร่างของคุณยายอยู่ที่ไหน จู่ ๆ คิมก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เมื่อตอนที่คุณยายเข้ามาในร้านดอกไม้ของตน ตัวของคุณยายนั้นเปียกชุ่มน้ำไปทั้งตัว คิมเลยหันไปถามกับชานว่า
“ชาน นายพอจะเห็นคลองหรือบ่อน้ำอะไรแถวบ้านคุณยายมั้ย”
“คลองหรือบ่อน้ำเหรอครับ”
“อือ”
“อ๋อ ผมนึกออกแล้ว มีบ่อน้ำอยู่ข้างบ้านคุณยายครับ” คิมเพียงแค่พยักหน้าตอบรับ ก่อนจะเอนหลังนอนราบไปกับเบาะ
ชานที่เห็นเช่นนั้นก็ได้แต่ขยับปากบ่นพึมพำอยู่คนเดียว แต่คิมก็ยังได้ยินอยู่ดี
“บ่นอะไร”
“เปล่าครับ คุณคิมหลับให้สบายนะครับ”
“ไอ้ชาน” ชานหัวเราะคิก ๆ และหันหน้าไปขับรถต่อ
ผ่านไปสักพัก รถของคิมก็มาจอดอยู่หน้าบ้านของคุณยาย คิมและชานเดินตรงไปที่บ่อน้ำข้างบ้านทันที และทุกอย่างก็เป็นจริงดั่งที่คิมคิดเอาไว้
ภาพที่ทั้งสองในเห็นก็คือคุณยายสวมชุดผ้าไทยสีชมพูลวดลายสวยสด ลอยอยู่ในบ่อน้ำ
ซึ่งบริเวณขอบบ่อมีรอยลื่นลงไปในน้ำ ทำให้คิมและชานเข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณยาย คิมจึงบอกให้ชานโทรแจ้งตำรวจ
ชานได้โทรแจ้งตำรวจเข้ามาที่บ้านของคุณยาย แถมชานยังทำเกินที่คิมสั่ง โดยการโทรบอกสรัลอีกคน
ไม่นานตำรวจและสรัลก็มาถึงบ้านคุณยาย ทันทีที่คิมเห็น หน้าสรัล คิมรู้ได้ทันที ก่อนจะหันหน้าไปมองชานอย่างคาดโทษ
ขณะที่คิมกำลังจ้องหน้าชานอยู่ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คิมหยิบขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นเบอร์ของลูกชายของคุณยายนั่นเอง คิมมองโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกดรับสาย
“สวัสดีครับ ใช่ลูกชายของคุณยายนวลหรือเปล่าครับ”
[ครับ...ใช่ครับ]
“แม่คุณเสียชีวิตแล้วนะครับ”
[คุณพูดเรื่องอะไร แม่ผมจะตายได้ยังไง]
“แล้วทำไมคุณมาดูแลท่านล่ะครับ ตอนนี้คุณจะมาถามว่าแม่คุณตายได้ยังไงเนี่ยนะครับ แค่แม่คนเดียว คุณยังไม่มีปัญญาจะดูแลท่านเลยสักนิด”
[แม่]
“เสียใจตอนนี้ มันไม่สายไปหน่อยเหรอครับ อย่าลืมกลับมาหาท่านด้วยนะครับ”
หลังจากที่คิมกดวางสายไป สรัลก็เดินเข้ามาหาพอดี พร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“เป็นไรหรือเปล่าคุณ หน้าตาดูไม่ค่อยดีเลย”
“เปล่าครับ”
“เออ...ว่าแต่คุณรู้ได้ยังไงเหรอคะว่ายายนวลแกเสียชีวิตแล้ว”
“เปล่าครับ ขอตัวก่อนนะครับ”
จากนั้นคิมก็เดินไปคุยกับตำรวจ ก่อนจะเดินกลับไปที่ชานที่นั่งรออยู่ในรถ และก็ตรงกลับร้านดอกไม้ทันที เนื่องจากจัดการเรื่องของเสร็จเรียบร้อยไว ทั้งสองเลยมีเวลาพักผ่อนร่างกายเพิ่มขึ้น