หน้าหวาน ๆ แบบนี้ มีแฟนหรือยังครับ ?

ตกหลุมรักโค้ชเข้าแล้ว - ตอนที่ 4 ความสมบูรณ์แบบ โดย พวงพะยอม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ตกหลุมรักโค้ชเข้าแล้ว

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รักวัยรุ่น

รายละเอียด

หน้าหวาน ๆ แบบนี้ มีแฟนหรือยังครับ ?

ผู้แต่ง

พวงพะยอม

เรื่องย่อ

พระเอกหน้าใหม่ วัย 26 ปี ที่คนใกล้ตัวต่างรู้ดีว่าเขามาตรฐานสูง 


ไม่ตื่นเต้น ไม่หวั่นไหวกับใครง่าย ๆ

  ............................................

จนวันนึงก็มีหญิงสาววัย 28 ที่ดึงความสนใจจากเขาไปได้ตั้งแต่แรกเจอ อย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อน

สารบัญ

ตกหลุมรักโค้ชเข้าแล้ว-ตอนที่ 1 ส่อง,ตกหลุมรักโค้ชเข้าแล้ว-ตอนที่ 2 ติดตาม,ตกหลุมรักโค้ชเข้าแล้ว-ตอนที่ 3 ซ้อม,ตกหลุมรักโค้ชเข้าแล้ว-ตอนที่ 4 ความสมบูรณ์แบบ

เนื้อหา

ตอนที่ 4 ความสมบูรณ์แบบ

ตอนที่ 4 ความสมบูรณ์แบบ



เติบโต

เพื่อเรียนรู้

เพื่อหลงทาง

เพื่อสับสน

เพื่อล้มเหลว

เพื่อสำเร็จ

ชีวิตมันก็แค่นี้แหละ ไม่มีทางที่จะได้ดั่งใจตลอด และไม่มีทางที่จะล้มเหลวตลอดเช่นกัน



“จับฉ่าย

ไปไม่สุดสักทาง”

นี่คือชุดคำพูดที่คนเป็นนักกีฬาและเด็กที่ทำกิจกรรมเยอะ ๆ อย่างเจสซี่ มักจะโดนยัดเยียดให้มาตั้งแต่ยังเยาว์วัย ตั้งแต่ยังไม่เข้าใจความหมายของคำเหล่านี้ดีด้วยซ้ำไป



เมื่อเริ่มหยิบจับอะไรสักอย่างก็มักจะโดนตั้งคำถามและถูกคาดการณ์ผลลัพธ์ว่ามันต้องดีที่สุดตั้งแต่เองยังไม่มีความฝันเลยด้วยซ้ำไป

คำพูดเหล่านี้ก็มาจากทั้งคนที่รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง ป้าข้างบ้านบ้าง





ตอนอายุ 15 เจสซี่เคยเรียนเปียโน แต่สักพักก็ล้มเลิกไปเพราะเธอรู้สึกว่ามันยากไปสำหรับเธอและไม่ได้รู้สึกชอบ

บางคนที่ทราบเรื่องราวพวกนี้ก็จะมีภาพจำว่าเธอช่างเป็นคนที่ล้มเหลว และพยายามยกเรื่องนี้มาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกครั้งที่มีโอกาส ต่อให้เธอจะทำได้ดีในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย คนพวกนี้ก็ไม่สน เขาจะยกมันมาพูดซ้ำ ๆ จะสะกดจิตให้เธอกลายเป็นคนที่ล้มเหลวให้ได้





บางคนที่เห็นแต่ความสำเร็จของเธอ ก็มักจะถูกมองว่าเธอช่างเก่งและสมบูรณ์แบบเหลือเกิน



เจสซี่เชื่อว่าความสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีอยู่จริงและไม่มีใครเก่งทุกอย่าง ทุกคนล้วนแล้วแต่มีบาดแผลและมีสิ่งที่ไม่ถนัด อยู่ที่ว่าใครจะเลือกโชว์ด้านไหน และคนเห็นด้านไหนก็เท่านั้นเอง



สวย

เรียนเก่ง

เล่นกีฬาเก่ง

ก็เป็นคำพูดที่เจสซี่ได้รับอยู่บ่อย ๆ เช่นกัน

เมื่อโตขึ้นมันทำให้เธอตกตะกอนอะไรหลาย ๆ อย่างได้

ไม่จมอยู่กับคำดูถูกและไม่ลุ่มหลงไปกับคำชมมากเกินไป

ก็ทั้งความล้มเหลวและความสำเร็จนี่แหละมันคือองค์ประกอบของความสมดุลในชีวิต



จนปัจจุบันนี้ก็ยังมีคนมาว่าเธอยังเก่งไม่พอที่จะมาเป็นโค้ชสอนเทควันโด

แม่ค้าขายกล้วยทอดในตลาดที่คอยพูดจาดักหน้าดักหลังถ้ารู้ว่าใครจะมาเรียนที่ยิมของเธอ และเอาแต่บอกว่าที่ยิมหลานสาวฉันสอนดีกว่าอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจเสียจริง



ใครจะมองว่าเธอไม่เก่งแล้วไปเรียนที่อื่นก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ใช่เที่ยวดิสเครดิตกันโต้ง ๆ แบบนี้

เธอไม่เคยบอกว่าตัวเองเก่งที่สุดอยู่คนเดียว ชอบสไตล์การสอนของที่ไหนก็ไปเรียนที่นั่นก็เท่านั้นเอง



“หลานชายเรียนที่ยิมนั้นหรอ” แม่ค้ากล้วยทอดถามมิ้มเพราะเห็นหลานชายของเธอในชุดเทควันโด แม่ค้าถามพลางชี้ไปฝั่งที่ยิมของเจสซี่ตั้งอยู่

“ใช่ค่ะ”

“ยิมนั้นสอนไม่ค่อยดีนะ โค้ชไม่ค่อยเก่ง”

“หรอคะ แล้วยิมไหนสอนดี” มิ้มเอ่ยเสียงเรียบ

แม้ค้าขายกล้วยทอดโปรโมทยิมหลานชายตัวเองสุดตัว แต่โดนมิ้มสวนกลับทันควัน

“คุณป้าเคยเรียนที่นั่นด้วยหรอคะ ทราบได้ยังไงว่าไม่ดี เขาก็มีมาตรฐานของเขา ถ้ายิมหลานชายป้าดีกว่าจริง ๆ เขาน่าจะมีมาตรฐานการโปรโมทที่ดีอยู่แล้วใช่ไหมคะ? คงไม่ใช่การไล่ดิสเครดิตยิมอื่นแบบนี้”

มิ้มเป็นเพื่อนของเจสซี่ตอนมัธยมปลาย ซึ่งแม่ค้าขายกล้วยทอดคนนั้นคงไม่รู้ว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน วินาทีนั้นเธอโกรธแทนเพื่อนมาก

แม่ค้าขายกล้วยทอดถึงกับหน้าเจื่อน

เจสซี่ในวันหยุด เธอนั่งทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา

“อายุ 28 ก็ผ่านอะไรมามากมายเหมือนกันนะเนี่ย” เจ้าของผมลอนสีน้ำตาลนั่งพึมพำอยู่ริมระเบียงบ้าน



เธอได้ตกตะกอนมานานพอสมควรแล้วว่า

ต่อให้เรากำลังอยู่ในเวอร์ชั่นที่ตัวเองกำลังภูมิใจในตัวเองที่สุด มันก็ยังมีคนที่พยายามด้อยค่าแล้วบอกว่ายังดีไม่พอ หรือยังไม่เก่งเท่าคนนั้น ยังไม่เก่งเท่าคนนี้ เพราะฉะนั้นถ้าจะภูมิใจในตัวเอง ก็ทำได้เลย ไม่ต้องรอใครบอก





……………………………………………………………………………………………………

‘ภูผา’

ฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวยอะไรนัก เป็นลูกชาวสวน ชาวไร่ธรรมดา

มันเลยทำให้เขาพยายามพัฒนาตัวเองสุด ๆ ไขว่คว้าและวิ่งหาโอกาสอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการประกวดร้องเพลง การแข่งเต้น ต่าง ๆ แต่เขาก็ไม่ทิ้งการเรียน และยังเรียนเก่งอีกด้วย



ความโชคดี

พรสวรรค์

พรแสวง

และจังหวะชีวิต

หลาย ๆ อย่างประกอบกัน จนทำให้มันมีวันของภูผาสักที



เขาเริ่มต้นชีวิตในวงการบันเทิงจากการชนะการประกวดร้องเพลง ปล่อยเพลงมาเรื่อย ๆ เป็นไปตามเป้าหมายบ้าง ไม่เป็นไปตามเป้าหมายบ้าง และซีรีย์เรื่องที่ทำมาจากนิยายที่เจสซี่เป็นคนเขียนนั่นแหละภูผาจะได้เล่นเป็นตัวหลักเรื่องแรก เขาตั้งใจเหมือนกับทุกครั้งที่ได้รับโอกาสมา แต่มีความกดดันมากหน่อยเพราะเขามองว่ามันเป็นโอกาสใหญ่ และอยากทำมันให้ดีที่สุด



ตอนนี้การเงิน การเงิน ของภูผาคล่องตัวขึ้นมากแล้ว ไม่ถึงกับหรูหรา ฟู่ฟ่า แต่ก็ไม่ขัดสน

รวมถึงคุณภาพของครอบครัวเขาด้วย



การร้องเพลง

เต้นเต้น

สำหรับภูผาแล้วนั้นมันคือชีวิต เขาชอบมันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เริ่มต้นจากการฝึกเองบวกกับพรสวรรค์ เมื่อครูที่โรงเรียนประถมเห็นแววเลยเอาไปปั้น พาฝึกซ้อมเพื่อเป็นนักร้องโรงเรียน และเป็นตัวแทนโรงเรียนในการประกวดอยู่บ่อยครั้ง เขาทำสิ่งนี้เรื่อย ๆ มาตั้งแต่เด็กแล้ว มีแพ้บ้างชนะบ้าง แต่ถ้วยก็เต็มบ้านเพราะประกวดมาเยอะ



เมื่อเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงเขาก็พยายามพัฒนาตัวเองอีกหลาย ๆ ด้าน เพื่อเปิดโอกาสที่หลากหลายมากขึ้นให้กับตัวเอง

ภูผามีทุนเดิมที่พ่อแม่ให้มาคือหน้าตาดีตั้งแต่เกิด และเขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างมีแบบมีแผน

ในวัยเด็กเขาไม่ค่อยเกเร เมื่อโตขึ้นก็มีสังสรรค์บ้างบางโอกาสแต่ยังอยู่ในกรอบที่ตัวเองวางเอาไว้