ถ้ากวางบอกว่ารักทั้งสองคน มันจะเป็นยังไง
ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ยุคปัจจุบัน,ไทย,รัก,รักวัยรุ่น,3P,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กวางตัวนี้เป็นของคู่แฝด 3Pถ้ากวางบอกว่ารักทั้งสองคน มันจะเป็นยังไง
ความรักที่เกิดขึ้นของกวาง ผู้หญิงหน้าสวยและเซ็กซี่ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าแฟนหนุ่มที่คบหากันมีพี่ชายฝาแฝดหน้าเหมือนจนแยกไม่ออก คืนวันที่เธอเผลอใจให้อีกคนแบบไม่รู้และถลำลึกจนถอนตัวไม่ขึ้น เลือกทางไหนไม่ได้ ก็ขอเลือกทั้งสองคน
3 วันต่อมา
หลังจากที่มิกกี้มาถึงประเทศไทยก็พักให้หายเหนื่อยจากการเดินทางข้ามน้ำเข้ามทะเลเพียงหนึ่งคืน จากนั้นก็เข้ามายังออฟฟิศของน้องชายเพื่อช่วยดูระบบงานต่างๆ ครั้นผู้เป็นแม่ไหว้วานให้เขามาดูช่วยน้องชายฝาแฝด ขณะที่แม็กเวลล์ก็ยุ่งไม่ต่าง วางระบบไอทีที่ทันสมัยเพื่อให้ทันกับวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาไปในทุกวัน
มิกกี้ที่กำลังวางแผนงานบริหารให้น้องชาย ก็ต้องละสายตาออกจากงานสำคัญนั้น เมื่อจอมือถือมีข้อความแจ้งเข้ามา
“Let’s break up” (เราเลิกกันเถอะ)
เหมือนโดนไฟซ็อตทั่วทั้งร่าง เมื่อมาเรียมแฟนสาวลูกครึ่งไทยอเมริกา รุ่นน้องอายุอ่อนกว่าเขาเพียงสองปีส่งข้อความมาหาเพื่อขอตัดความสัมพันธ์อย่างเลือดเย็น แม้จะมีสัญญาณบอกเหตุแต่ไม่นึกว่ามันจะรวดเร็วขนาด เพราะก่อนหน้าเขาและแฟนสาวมีเรื่องบาดหมางใจกันตามประสาคนคบกัน การใช้ชีวิตและทัศนคติที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันก็ต้องปรับตัวเข้าหาเพื่อประคับประคองความรักให้มันตลอดรอดฝั่ง และแทนที่เขาจะมีเวลาได้อยู่ปรับความเข้าใจกับมาเรียม ทว่าจำเป็นต้องเดินทางมาประเทศไทยเพื่อช่วยงานน้องเพราะแม่เร่งรัดและร้องขอ แต่กลับกลายเป็นการเว้นช่องว่างให้แฟนสาวได้ตีตัวออกห่าง ครั้นระหองระแหงกันมานานมากกว่า 3 เดือน
มิกกี้ยกมือกุมหน้าตัวเองด้วยอาการของคนอกหัก เป็นครั้งแรกกับความรู้สึกนี้เพราะมาเรียมคือแฟนคนแรกที่เขาจริงจังจนตกลงเป็นแฟนและศึกษากันนานถึงห้าปี แต่ก็ไม่นึกว่าห้าปีที่พยายามกันทั้งสองฝ่ายจะจบลงในจังหวะที่อยู่ห่างกันไกลคนละทวีปแบบนี้
ชายหนุ่มสูดหายใจแรงๆ เหมือนพยายามตั้งสติกับเหตุการณ์แสนเจ็บปวดนี้ ต่อให้แอบคิดหรือเตรียมใจมาบ้างเล็กน้อย แต่พอเจอเข้าจังๆ ก็ตั้งรับไม่ทันอยู่ดี และเป็นจังหวะที่น้องชายเดินเข้ามาพอดี
” พี่มิก งานส่วนบริหารผมจะ”
แม็กเวลล์หยุดพูดกะทันหัน เมื่อเห็นพี่ชายฝาแฝดอยู่ในอาการนิ่งผิดปกติ มือกุมที่หน้าก่อนจะค่อยๆ ลดลงแล้ววางไว้ที่โต๊ะทำงานสีขาว แม้อาการในตอนนี้จะเรียบเฉยแต่สีหน้าของมิกกี้บ่งบอกว่ากำลังเศร้าแบบขั้นสุด
“เป็นไรอ่ะ”
“…”
“แฟนบอกเลิกเหรอ”
เขาแค่พูดเล่นๆ ไม่นึกว่ามันจะเป็นเรื่องจริง มิกกี้พยักหน้าเป็นคำตอบแทนคำพูด นัยน์ตาแดงก่ำคล้ายคนจะร้องไห้ สีหน้าก็เศร้าและเสียใจลงไปทุกที แม็กเวลล์เองก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่กล้าหักอกพี่ชายนั้นเป็นใคร ไม่ได้สนใจจะไถ่ถามหาสาเหตุ เพราะถามไปก็กลัวว่าจะขยี้แผลที่มันกำลังพองสดๆ ร้อนๆ แต่เมื่อพี่ชายกำลังทุกข์ใจ คนเป็นน้องมีหรือจะปล่อยให้มิกกี้จมอยู่กับความเสียใจได้
“เอาน่าพี่ คนเรามันต้องมีรสชาติขมคอกันบ้าง”
“...”
“อกหักก็แบบนี้แหละ จะได้มีภูมิต้านทาน”
มือหนาของคนอายุน้อยกว่าไม่กี่นาทีแตะลงที่บ่าพี่ชาย ตบเบาๆ เป็นการให้กำลังใจกับความรู้สึกที่พังย่อยยับในครั้งนี้
“พี่อยากอยู่คนเดียว”
“ไหวหรือเปล่า”
“ไหว”
เมื่อมิกกี้อยากอยู่เพียงลำพัง ก็เดินออกมาแล้วยืนกอดอกวนอยู่หน้าประตูห้องที่พี่ชายนั่งทอดอารมณ์ความเศร้าด้านใน เขากำลังนึกหาวิธีให้มิกกี้ไม่คิดมากและหายเสียใจให้เร็วที่สุดและก็คงไม่พ้นสถานที่ตัวเองชอบไปกับเพื่อนๆ ของตน
ABC Club
สถานบันเทิงชื่อดังย่านถนนบรมรักษ์และเจ้าของคือเพื่อนสนิทของแม็กเวลล์ สองพี่น้องเข้ามานั่งด้วยกัน แม้มิกกี้จะปฏิเสธว่าอยากอยู่บ้านมากกว่า แต่ด้วยความเป็นน้องและรับรู้ถึงอารมณ์การอกหักว่ามันดิ่งแค่ไหน คงปล่อยให้พี่ชายคนเดียวของตัวเองจมอยู่กับเสียใจในคืนนี้ไม่ได้ อีกทั้งมิกกี้ยังไม่คุ้นเคยกับประเทศไทยมากเสียเท่าไหร่ หากปล่อยให้นอนซมที่เตียงเพียงลำพังคงว้าเหว่น่าดู
“ดื่มเลย เสียใจเท่าไหร่ก็ดื่มให้เต็มที่”
“...”
มิกกี้ไม่ตอบอะไร แววตาที่ไม่สดใสจ้องไปยังขวดเหล้าที่วางบนโต๊ะ จากนั้นรินลงแก้วแล้วยกดื่มเหมือนอยากให้แอลกอฮอล์ล้างใจอันชอกช้ำ ส่วนแม็กเวลล์ก็ไม่ต่าง ยกดื่มราวกับว่าตัวเองนั้นก็อกหักแต่เปล่าเลย เขาเพียงอยากเสพบรรยากาศและกลืนรสชาติน้ำสีอำพัน ครั้นไม่ได้ดื่มมาหลายวันเพราะมัวแต่วุ่นวายกับบริษัทใหม่ของตัวเอง
“คลับนี้ของเพื่อนผมเอง ไม่ต้องห่วง เมาได้ตามสบายเพราะเดี๋ยวมันก็ให้ลูกน้องมาแบกเราไปนอน”
“...”
ตั้งแต่มาถึงมิกกี้ก็ไม่พูดอะไร นอกจากฟังน้องและดื่มเหล้าลงย้อมใจ คนเด็กกว่าไม่กี่นาทีมองออกเลยว่าพี่ชายตัวเองนั้นเสียใจค่อนข้างมาก เปราะบางกับเรื่องความรักเพราะโดยส่วนตัว มิกกี้เป็นคนเปิดใจรักใครยาก แต่เมื่อล้มเหลวและผิดหวังย่อมเศร้าแบบสุดๆ เป็นธรรมดา แต่ยังดีที่ไม่มีน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมา
ผ่านไป 2 ชั่วโมง สองพี่น้องที่นั่งกอดคอแสดงความรักเป็นห่วงเป็นใยนั้นเริ่มเมาหนัก โดยเฉพาะแม็กเวลล์ที่ดื่มจนตัวเองไม่ไหว หงายท้องลงไปนอนบนโซฟาสีดำสนิทมองแทบไม่เห็นเลยว่ามีคนนอนอยู่ตรงนี้ ครั้นคนเมาสวมชุดสีดำกลืนไปกับสีของโซฟา ส่วนมิกกี้เองก็คงเป็นครั้งแรกที่เขาดื่มหนักขนาดนี้
ครืดดดดด
มือถือวางบนโต๊ะ สว่างขึ้นมาเพราะมีคนโทรเข้า เจ้าของมันน็อกหลับไปแล้ว เหลือเพียงมิกกี้ที่ยังพอลืมตาได้ แม้จะมองไปยังจอมือถือเพื่อดูว่าใครโทรมา แต่เพราะสายตาที่พร่าเบลอจากแสงไฟหลากสีก็ยิ่งเบลอหนักไปใหญ่เพราะความเมา มิกกี้เพิกเฉยเพราะความเมา และยังไม่ใช่เจ้าของมือถือเครื่องนั้น แต่เมื่อมันถูกโทรเข้ามาถี่ๆ ก็หยิบมันขึ้นมารับแบบงงๆ
(อยู่ไหน)
“...”
(ถามว่าอยู่ไหนทำไมไม่ตอบ)
“...”
มิกกี้เองก็ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะเขาก็จำไม่ได้ว่าที่นี่เป็นที่ไหนก็ได้แต่เงียบปากแล้วฟังคนในสายอย่างเดียว กระนั้นก็ยังคิดว่าเป็นน้าแรมโทรเข้ามาเพราะเป็นเสียงผู้หญิง ขณะที่ปลายสายนั้นเริ่มเดาออกว่าเสียงที่ดังอึกทึกเข้ามานั้นเป็นที่ไหน ก็ตัดสายทิ้งในทันที ส่วนมิกกี้ก็ยังซดน้ำเหล้าย้อมใจนั่งเฝ้าน้องที่ชิงเมาหลับไปก่อน เพราะยกซดแบบเอาเป็นเอาตาย
นั่งดื่มด่ำกับความเสียใจและเสียงเพลงที่ดังอยู่รอบตัวได้ไม่นาน ก็ปรากฏร่างหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเขา ภาพที่เห็นนั้นเป็นเงารางๆ ไม่เห็นหน้าที่ชัดเจน รู้แต่เพียงว่ารูปร่างสมส่วน ไม่อ้วนหรือผอม สูงในระดับที่เขายืนก็ประมาทหน้าอก
เหมือนมาเรียมไม่มีผิด
เพราะความเมาเลยเข้าใจว่าเป็นแฟนสาวที่บอกเลิกกัน เลอะเลือนกระทั่งนึกว่าตัวเองยังอยู่ที่แอลเอ
“ดื่มหนักขนาดนี้เลยเหรอ”
เป็นเสียงของกวางแฟนแม็กเวลล์ เพราะด้านในมืดพอสมควรทำหญิงสาวมองไม่เห็นแฟนตัวจริงนอนบนโซฟาที่อยู่ด้านในถัดไปอีก เขาพยุงผู้ชายหน้าเหมือนแฟนตัวเอง และตอนนี้กวางกำลังเข้าใจว่าชายหนุ่มที่ประคองกันเดินขึ้นรถในตอนนี้เป็นแม็กแวล์ แต่เปล่าเลย คนที่เธอพยุงไปเป็นพี่ชายฝาแฝดของแฟนหนุ่ม ที่หน้ากันเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วจนแยกไม่ออก
มิกกี้ พี่คนโตของแม็กเวลล์...