ผู้ใหญ่,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Chapter4 หลับ
เวย์หลับไปชั่วโมงกว่าๆ แต่เจ้าของห้องไม่ได้คิดจะปลุก ปล่อยให้นอนไปแบบนั้นแหละ เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็รีบขอตัวไปล้างหน้าแล้วรีบมานั่งทำงานอย่างรู้สึกเขินๆ ที่หลับจริงจังขนาดนั้นเพราะจริงๆ แล้วเขาตั้งใจจะงีบแป๊บๆ แต่จะว่าไปหลังจะนอนอิ่มก็รู้สึกหัวโล่งขึ้นมาหน่อย สมองแล่นพร้อมทำงานต่อ
“หลับไปนานเลยโทษที” เสียงทุ้มเอ่ย
“ขอโทษทำไม ไม่เห็นเป็นไร ก็เวย์ทำงานจนไม่ได้นอนไม่ใช่เหรอ”
มันก็จริงที่ว่าเขาทำงานวิชานี้จนอดหลับอดนอน แต่ก็อดเขินไม่ได้อยู่ดีก็เลยขอโทษกลบเกลื่อน
“หิวข้าวป่ะเวย์”
“ก็… นิดนึง”
หลังจากที่เขาตอบไปแบบนั้นเธอก็เดินเข้าไปในครัว แล้วกลับมาพร้อมกับผัดซีอิ๊วสองจาน
“ทำเองเหรอ”
“เปล่า สั่งมาตอนเวย์หลับ”
เขานั่งกินผัดซีอิ๊วที่เธอเอามาวางไว้ตรงหน้า บอกว่าหิวนิดนึงไม่มีอยู่จริง เล่นซัดเกลี้ยงจานขนาดนั้น
“เราซื้อช็อคโกแลตมาเผื่อเอมด้วยนะ” เขาว่าแล้วหยิบถุงขนมวางตรงหน้าเธอ ใช้คำว่าซื้อมาเผื่องั้นเหรอ เอมจำได้ดีว่าเวย์เกลียดช็อคโกแลตยิ่งกว่าอะไร ซื้อมาฝากมากกว่า โกหกใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่คนที่เคยรู้จักกันดีที่สุด หรือความชอบเปลี่ยนไปงั้นเหรอ เวย์อ่านจะหันไปชอบสิ่งที่เกลียดที่สุดก็เป็นไปได้
“ยังชอบช็อคโกแลตอยู่ไหม” เขาถามเพราะไม่เห็นเธอหยิบมันไปสักที
“ก็ยังชอบเหมือนเดิม หมายถึงช็อคโกแลตนะ”
“รู้ครับ แต่เกลียดคนซื้อไปแล้วหรือเปล่า ทำไมไม่กิน” เวย์พูดเสียงเบา
“กินสิ ทำไมจะไม่กิน” เธอรีบหยิบมันเข้าปากเพราะเบื่อจะต่อความยาวสาวความยืด เพราะรูปประโยคชักจะเริ่มไปกันใหญ่แล้ว
“เวย์มาดูนี่ดิ ใช้ได้ป่ะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจสุดๆ ในที่สุดก็ค้นหาข้อมูลที่ต้องการมานานมากเจอสักที
เขาลุกมาแล้วหย่อนสะโพกลงใกล้ๆ เธอ นั่งติดกันอย่างไม่เว้นระยะห่างอย่างลืมคิดอะไรไปเพราะมัวแต่โฟกัสที่หน้าจอ
มีจังหวะหนึ่งที่ทั้งคู่เผลอหันมาสบตากันแล้วจ้องหน้ากันสักพัก
“เอมยังใช้น้ำหอมกลิ่นเดิมอยู่เหรอ”
“ใช่ จำได้ด้วยเหรอ”
“อะไรที่เป็นเอม เราก็จำได้หมดแหละ”
“ขนาดนั้นเลย”
“แน่นอน”
“เราก็ชอบอะไรเดิมๆ แหละ อะไรที่มันดีอยู่แล้วก็ไม่อยากเปลี่ยน”
“แล้วเวลาพูดเหมือนมีอะไรแฝงตลอดเลย โกรธอะไรเราเปล่าเนี่ย”
“ก็ไม่ เวย์อ่ะคิดมาก”
“ไม่ก็ไม่” เขาอมยิ้ม
“ยิ้มไม่ได้เหรอ จะให้หน้าขรึมตลอดเวลาเลยหรือไง”
ร่วมสองปีหลังจากที่ทั้งคู่เลิกรากันแล้วไม่ได้ใกล้ชิดกันมากขนาดนี้ ก็แหงดิ เธอเล่นหนีเขาราวกับโจรหลบตำรวจ
“อยู่ใกล้เราแล้วรู้สึกยังไงบ้าง” เวย์ถาม
“อึดอัด ไป ขยับไปได้แล้ว”
“ไล่อะไร ก็ดูงานอยู่เนี่ย”
เจ้าของห้องพยายามเบี่ยงตัวออกแต่ออกไปไม่ได้เพราะติดมือเขาราวกับโอบเธอไว้ แต่จริงๆ แล้วกำลังจับเม้าส์อยู่
“เวย์ ทำอะไรเนี่ย เอามือออก”
เขามองหน้าเธอแล้วเลิกคิ้วใส่
“กวน” เธอตอบแล้วยอมนั่งอยู่ในอ้อมแขนของเขาต่อ
“ตัวหอมขนาดนี้ถ้ายังเป็นแฟนกันอยู่นะ ช้ำแน่”
“จะทำอะไรเหรอ ลืมอ่ะ นานแล้ว”
“เอมพูดอะไรรู้ตัวหรือเปล่า อย่ามาท้าคนอย่างเรานะ”
“ก็เพราะรู้ไง ว่าท้าแล้วเวย์จะทำไงต่อ”
“เอม” เขาหลุดโฟกัสจากหน้าจอเป็นหน้าเธอแทน เอมมาลินยื่นแก้มเข้าไปใกล้เขากว่าเดิมแล้วอมยิ้ม อีกคนนั่งจ้องสักพักก่อนจะเลื่อนจมูกโด่งกดลงมาที่แก้มอมชมพูอย่างช้าๆ เธอทำแบบเดียวที่เขาทำกับเธอทันทีจนอีกฝ่ายอึ้งไปพักหนึ่ง
“ใช่ อันนี้ใช้ได้” เขาเปลี่ยนเรื่องแล้วหันไปมองที่หน้าจอ
“แล้วอันนี้ใช้ได้ไหม” เธอว่าแล้วซุกไซ้ไปที่สันกรามของอชิราแล้วไล้ลงไปตามซอกคอ
“เอม” เขาเรียกชื่อเธอเพื่ออยากย้ำให้เธอรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่
“อือ ทำไม โกรธเหรอ”
“ก็…เปล่า”
“กลิ่นตัวเวย์ก็ยังหอมเหมือนเดิมเลยนะ” เธอว่าแล้วทำเหมือนเดิมไม่หยุด
“เอม ถ้าเราทำแบบนี้บ้างจะโกรธไหม”
“ก็รออยู่”