เธอผู้หนีไม่พ้นคำครหาที่ว่า "เด็กเสี่ย"

ทรายโอบทะเล - chapter 4 ง้้อ โดย พวงพะยอม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,อีโรติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ทรายโอบทะเล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อีโรติก

รายละเอียด

เธอผู้หนีไม่พ้นคำครหาที่ว่า "เด็กเสี่ย"

ผู้แต่ง

พวงพะยอม

เรื่องย่อ

คำก็เด็กเสี่ย สองคำก็เด็กเสี่ยคือสิ่งที่เธอโดนนินทามาตลอด เพียงเพราะเธออายุห่างกับแฟนสิบปี เธอ21ส่วนเขา 31ที่เพียบพร้อมทั้งการงานและสถานะทางการเงิน คำว่ารักมันต้องซับซ้อนต้องมีเงื่อนไขมากมายขนาดนั้นเลยเหรอ 

สารบัญ

ทรายโอบทะเล-chapter 1 ไม่ใช่เด็กเสี่ย,ทรายโอบทะเล-chapter 2 ซาลาเปา,ทรายโอบทะเล-chapter 3 แฟนเก่า,ทรายโอบทะเล-chapter 4 ง้้อ,ทรายโอบทะเล-chapter 5 เที่ยว,ทรายโอบทะเล-chapter 6 กลับ,ทรายโอบทะเล-chapter 7 แพน,ทรายโอบทะเล-chapter 8 ซีน,ทรายโอบทะเล-chapter 9 งานด่วน,ทรายโอบทะเล-chapter 10 ซีนกับโต้,ทรายโอบทะเล-chapter 11 ปรึกษาเรื่องงาน,ทรายโอบทะเล-chapter 12 รีสอร์ท,ทรายโอบทะเล-chapter 13 เด็กฝึกงาน,ทรายโอบทะเล-chapter 14 ไม่อยากทำลาย,ทรายโอบทะเล-chapter 15 ห้องครัว,ทรายโอบทะเล-chapter 16 ที่เดิม,ทรายโอบทะเล-chapter 17 พ่อ,ทรายโอบทะเล-chapter 18 เคาท์ดาวน์,ทรายโอบทะเล-chapter 19 การบูร,ทรายโอบทะเล-chapter 20 ขอโทษ

เนื้อหา

chapter 4 ง้้อ

Chapter4 ง้อ



เสียงคลื่นกระทบฝั่งกับชายร่างสูงยืนโอบคนตัวเล็กของเขาอยู่ ทั้งคู่ยังไม่หยุดร้องให้ คนตัวโตสะอื้นหนักกว่าเพราะเพิ่งถูกบอกเลิกไป กอดเธอเอาไว้อย่างไม่รู้ว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่า ทุกครั้งที่ทะเลาะกันมากเพียงไรก็ยังไม่เคยถูกเธอพูดแบบนี้ใส่

“ซีช่วยใจเย็นกับพี่หน่อยได้ไหม ต้องทำยังไงถึงจะยอมอยู่กับพี่ อยู่กับพี่ซีไม่มีความสุขใช่ไหม” ทรายว่าเสียงสะอื้นจนแทบขาดใจดั่งฟ้ากำลังจะถล่มลงมาในใจเขา

“ใจเย็นยังไง เหมือนหนูมาอยู่ทับที่ใครก็ไม่รู้ พี่ยังดีกับเขาอยู่แล้วจะให้หนูอยู่ยังไง พี่วางหนูไว้แค่ตรงนั้นเอง ไม่มีหนูชีวิตพี่ก็คงไม่ขาดอะไร” เธอสะอื้นไม่แพ้กัน จำใจด้วยซ้ำไปที่จะพูดอะไรแบบนี้แต่ถ้าเกิดยังเป็นแบบนี้ต่อไปเธอก็ไม่สะดวกใจที่จะอยู่แล้ว

“ไม่พูดแบบนี้ได้ไหม พี่จะลองคุยกับเฮียแมนให้ไปดูแลสาขาที่แพนมาอยู่ แล้วพี่ไปทำสาขานั้นแทน” แมนเป็นพี่ชายของทราย ที่ปกติแล้วจะดูแลอีกสาขาหนึ่ง

เธอไม่ได้ตอบอะไรเอาแต่สะอื้นไม่หยุดโดยมีทรายคอยปลอบทั้งที่เขาเองก็ยังไม่หยุดสะอื้น



“ไม่เอาแล้ว ไม่เป็นแบบนี้ได้ไหมซี ไม่ร้องให้แล้วนะ” คนถูกบอกเลิกกลับเป็นฝ่ายปลอบ เธอปาดน้ำตาแล้วค่อย ๆ คิดทบทวนตามเขาที่พยายามหาทางออกอยู่ครู่หนึ่ง

“มันไม่มีอะไรจริง ๆ เชื่อใจพี่นะ” เขาย้ำอีกที

“อื้อ” เธอรับปากสั้น ๆ



ทั้งคู่เดินเล่นริมทะเลอยู่ครู่ใหญ่ คนตัวสูงจับมือเธอไว้แน่นราวกับกลัวโดนไล่ไปไหน คนตัวเล็กถึงคราวใจร้ายก็แสนน่ากลัว

“ไม่ไล่พี่อีกแล้วนะ” ทรายพูดพลางมองหน้าคนข้างกายอย่างกลัวว่าจะโดนเธอไล่ไปไหนอีก

“ขอโทษ” เธอว่าพลางแหงนหน้ามองคนตัวสูงกว่าราวกับว่าจะปล่อยโฮมาอีกระลอก

“ไม่ต้องขอโทษ ไม่เคยโกรธ” เขาตอบพร้อมกับมือหนาที่คว้าเอวเธอเข้ามากอด

“ยังจะรักพี่ต่อไปใช่ไหม” เสียงทุ้มถามเพื่อความชัดเจน

“รัก” เธอตอบสั้น ๆ แต่กอดเขาแน่นขึ้นราวกลับกลัวหาย

“ทรายต้องคู่กับทะเล” เขาย้ำ



การขับรถตามของทรายครั้งนี้ไม่สูญเปล่า เขาไม่เคยกลัวอะไรนอกจากกลัวว่าจะทำเธอเสียใจกับทำให้เธอหายไป เขาย้ำมาตลอดว่า จะเป็นทรายที่โอบทะเลเอาไว้เอง เขาพร่ำบอกเธอเสมอ สาย ๆ ทั้งคู่เดินเข้ามาในบ้านที่แม่ของเธอเตรียมอาหารเช้าไว้รอจนเก้อทั้งเขาและเธอนั่งกินมือเช้าในเวลาสาย ๆ พร้อมกับพ่อและแม่



“ทรายกินข้าวเสร็จไปคุยกับพ่อที่หลังบ้านหน่อยลูก” พ่อว่าเสียงเข้ม ซีที่มองตามอย่าง งงๆ มีความลับอะไร ทำไมไม่คุยตรงนี้เลย แต่เธอไม่ได้คะยั้นคะยออะไรหรอกเอาไว้หลอกถามทรายก็ได้ หลังจากกินข้าวเสร็จพ่อเดินนำไปที่หลังบ้านก่อนสักครู่ทรายก็เดินตามไป

“ครั้งนี้ทะเลาะกันหนักเลยหรอ” ทุกครั้งซีไม่เคยหนีมาแบบนี้ อย่างมาก็โทรมาร้องไห้กับแม่เท่านั้น

“ครับ” ทรายตอบสั้น ๆ

“ซีขี้น้อยใจ ชอบคิดเล็กคิดน้อย รู้ใช่ไหมลูก”

“รู้ครับ”

“ไม่มีอะไรหรอก ปกติเวลามีอะไรซีเขาชอบเก็บเอาไว้คนเดียว ถ้าไม่สุด ๆ คงไม่เป็นสภาพนี้ คนเป็นพ่อก็อดเป็นห่วงไม่ได้”

“ผมเข้าใจครับ”

“ทะเลาะกันขนาดไหนก็อย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือนะลูก ถือว่าพ่อขอแล้วกัน”

“ผมรักลูกพ่อมากนะครับ ไม่มีวันนั้นหรอก”

“อันนั้นพ่อรู้อยู่ กลัวว่าจะโมโหแล้วมีพลั้งมือ อีกคนกำลังร้อนอีกคนก็ต้องเย็นนะ จะไม่ซักไซ้อะไรหรอกพ่อแค่อย่างเตือนสติบ้างอะไรบ้าง ไม่โกรธพ่อใช่ไหมที่เรียกมาสอนแบบนี้ เพราะทรายก็โตมากแล้ว”

“ไม่โกรธครับ ผมเข้าใจ” การที่พ่อของซีเรียกทรายไปคุยก็ไม่ได้มีอะไรนอกเหนือไปจากความห่วงใยอยากสอนอยากเตือนตามประสา สักพักทรายเดินเข้ามาก่อนและพ่อก็เดินตามมาทีหลัง





ช่วงบ่าย ๆ พ่อกับแม่มีธุระต้องเข้าไปในตัวเมืองส่วนซีกับทรายนอนหลับอยู่ในห้องจากความอ่อนเพลียทั้งการเดินทางและการร้องให้อย่างหนักหน่วงที่เพิ่งผ่านพ้นไป เป็นซีที่ตื่นขึ้นมาก่อนและหยิบมือถือเล่นตามปกติ สักพักทรายก็ตื่นและเอื้อมมือไปกอดอีกคน

“พ่อพูดอะไรกับพี่บ้าง” ซีถามด้วยอย่างไม่เต็มเสียงเพราะเพิ่งตื่น

“บอกว่าถ้าทำซีร้องให้อีกจะยิงพี่ทิ้ง”

“อย่าไม่ตลก พ่อไม่มีทางพูดแบบนั้น” ทั้งพ่อและแม่เธอเป็นคนใจดี

“ไม่มีอะไรหรอก ไปพูดคุยตามภาษาผู้ชาย”

“เอาดี ๆ ”

“ให้เอาตอนนี้หรอ”

“พี่

ทราย” ว่าเสียงเรียบ

“ก็บอกว่าถ้าทะเลาะกันอย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือ แค่นั้นแหละ พ่อบอกว่าซีขี้น้อยใจด้วย ไปน้อยใจอะไรพ่ออีก คิดว่าน้อยใจใส่พี่คนเดียว”

“ขี้น้อยใจอะไร ไม่เคยน้อยใจ มั่วทั้งพ่อและพี่ทรายนั่นแหล่ะ”

“พูดอยู่นั่นแหละว่าไม่เหมาะกับพี่ คุณนะเหมาะกับผมที่สุด ทะเลต้องคู่กับทราย คนสวยอย่างคุณก็ต้องคู่กับผมก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ” เขาพูดอย่างหยอกล้อแต่เต็มไปด้วยความจริงใจทั้งนั้น

“ก็คนอื่นเขาชอบว่าอ่ะ”

“ก็ช่างคนอื่นเขาไปสิ”