การกระทำของเซเรนอสที่จับกุมและทรมานเอเรนผู้นำระดับสูงสุดของโลก เป็นการหยามเกียรติอย่างที่สุด!แต่จำไว้ว่าในดินแดนของเซเรนอส กฎของเรายังคงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคารพ!!!
ชาย-ชาย,#BL,แฟนตาซี,อวกาศ ,ไซไฟ,ดราม่า,สัตว์บรรพกาล,ต่างโลก,อัลฟ่า,เจ้าชายคาเลบ,เอเรนคนครั่งรัก,พระเอกอบอุ่น,พระเอกครั่งรัก,นายเอกเป็นเจ้าชาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
รักล้านปีแสงการกระทำของเซเรนอสที่จับกุมและทรมานเอเรนผู้นำระดับสูงสุดของโลก เป็นการหยามเกียรติอย่างที่สุด!แต่จำไว้ว่าในดินแดนของเซเรนอส กฎของเรายังคงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคารพ!!!
ถึงผู้เข้าคัดเลือกทุกท่าน,
นี่เป็นอีเมลฉบับเดียวและฉบับสุดท้ายที่ท่านจะได้รับจากเรา หลังจากอีเมลฉบับนี้ ทุกท่านจะถูกเชื่อมเข้ากับระบบ "แท็กเวลา"
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ใช้ในการส่งข้อความหรือข้อมูลไปยังผู้รับในเวลาที่กำหนดโดยอัตโนมัติการนัดหมายและการสื่อสารทั้งหมดของท่านหลังจากนี้จะถูกจัดการผ่านระบบนี้ ท่านสามารถเช็คตารางสนามสอบ หรือรับข้อมูลและการอัปเดตที่สำคัญในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาข้อความหรืออีเมลแบบดั้งเดิมอีกต่อไป
ขอให้ท่านเตรียมพร้อมสำหรับการสื่อสารในรูปแบบใหม่ และขอให้โชคดีกับกระบวนการคัดเลือกขอแสดงความนับถือ,
[ชื่อผู้ส่ง] : คาเลบ ออร์บิเทอร์
[ตำแหน่ง/แผนก] : ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งอาณาจักรเซเรนอส
[ชื่อองค์กร] : กระทรวงการป้องกันราชอาณาจักร
....................................................................
“หนามจิตสำนึก” ถือเป็นเครื่องมือทรมานที่ล้ำสมัยและโหดร้ายที่สุดในอาณาจักรเซเรนอส หนามเหล่านี้ไม่ได้ทำร้ายร่างกายโดยตรง แต่จะเจาะเข้าไปในระบบประสาทของเหยื่อ ผ่านการปล่อยสัญญาณไฟฟ้าคลื่นความถี่สูงที่สามารถกระตุ้นสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บปวดและความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุดของเหยื่อได้
หนามเหล่านี้จะถูกฝังลงไปในผิวหนังของเอเรน สัญญาณไฟฟ้าจะถูกส่งผ่านเข้าสู่ระบบประสาทโดยตรง ส่งผลให้สมองของเขาสร้างความรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง ทั้งทางกายและจิตใจ นอกจากนี้ อุปกรณ์นี้ยังสามารถกระตุ้นให้เหยื่อเผชิญหน้ากับความทรงจำที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของพวกเขา ราวกับว่าพวกเขากำลังสัมผัสกับเหตุการณ์เหล่านั้นอีกครั้ง
มิคาเอลพูดขณะยิ้มอย่างเยือกเย็น "หนามจิตสำนึกนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ท่านชายรู้สึกเจ็บปวดทางกาย แต่มันจะทำให้ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่น่ากลัวที่สุด สิ่งที่ท่านพยายามลืม"
....................................................................
ยินดีต้อนรับสู่เซเรนอส
จุดเริ่มต้น
ปี 2205 ณ อาณาจักรเซเรนอส
จากดาวโลก "เอเรน" ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าการ Vortrex ในการเดินทางมนุษยชาติได้พัฒนาเทคโนโลยีจนสามารถเดินทางข้ามดวงดาวและสำรวจจักรวาลได้ (แม้อย่างหลังจะยังเป็นเรื่องผิดกฏหมาย)
ยานรบ...เวกเตอร์...ซึ่งเป็นยานรบขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อการแทรกซึมและการลอบโจมตียานมีรูปร่างเรียวเพรียวล้ำสมัยสีดำด้านไม่สะท้อนแสงเพื่อการซ่อนตัวยานนี้ติดตั้งเทคโนโลยีการพรางตัวที่สามารถทำให้ยานหายไปจากการตรวจจับได้ในระยะเวลาสั้นๆมีอาวุธและระบบป้องกันที่สามารถป้องกันการโจมตีและลอบโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"พระเจ้า...นี่มันเกินกว่าที่คิดไว้เยอะเลย"
ต้องยอมรับว่าเซเรนอสมีสภาพแวดล้อมที่น่าทึ่งและแตกต่างจากโลกอย่างสิ้นเชิงพื้นดินมีสีฟ้าประกายอ่อน ๆ อุณหภูมิของดาวอยู่ในช่วงเย็นสบายทั้งกลางวันและกลางคืนในเซเรนอสมีช่วงเวลาที่สมดุลอากาศที่นี่บริสุทธิ์สะอาด ปราศจากมลพิษ ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถควบคุมสภาพอากาศได้ผู้คนที่นี่สามารถปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการดำรงชีวิตและการทำงานของตนเอง
"สมแล้วที่เป็นอาณาจักรพรีเอเตอร์"
"สายันต์สวัสดิ์ผู้พันเอเรน"
...อินฟินิตลิงค์...เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กแต่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่พัฒนาโดยกองทัพโลกถูกฝังอยู่ในชุดรบและเชื่อมต่อกับระบบประสาทของเอเรนโดยตรงในการมาทำภารกิจครั้งนี้เอเรนมาเพียงตัวคนเดียวเนื่องจากต้องเก็บเป็นความลับและมีความเสี่ยงสูงของภารกิจ การมีผู้ร่วมเดินทางอาจเพิ่มโอกาสในการถูกตรวจพบ ดังนั้นมีเพียงอินฟินิตลิงค์ก็สามารถสื่อสารและส่งข้อมูลกลับไปยังหอบัญชาการที่โลกได้อย่างต่อเนื่องอุปกรณ์นี้มีความสามารถในการตรวจจับและบันทึกสิ่งที่เอเรนเห็นด้วยตารวมถึงการเคลื่อนที่ของเขา ทุกครั้งที่เอเรนเคลื่อนไหวหรือพบเห็นสิ่งที่สำคัญข้อมูลจะถูกส่งกลับไปยังโลกทันทีโดยไม่ต้องสั่งการ
"สายันต์สวัสดิ์โอลาฟ...ฉันอยากให้นายมาเห็นที่นี้ด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต"
ปลายสายกลั้วหัวเราะในลำคอ "ขอรายงานด้วยครับท่านผู้พัน"
เอเรนรายงานสิ่งที่เห็นผ่านอินฟินิตลิงค์ด้วยเสียงเบา ๆ แต่มั่นคง "รายงานสถานะ: ผมมาถึงเซเรนอสแล้วทุกอย่างเกินกว่าที่เราประเมินไว้ เมืองนี้เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่างเหลือเชื่อ ผมจะส่งข้อมูลเพิ่มเติมทุกครั้งที่เคลื่อนไหว"
"รับทราบครับผู้พัน เราได้รับข้อมูลภาพแรกจากกล้องแล้ว ที่นั้นเหมือนสวรรค์ของเทคโนโลยี พวกเขาทำได้ยังไง?"
"นั่นคือสิ่งที่ผมเองก็ยังไม่แน่ใจ ทุกอย่างดูสะอาดเรียบง่ายแต่ซับซ้อนในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน พวกเขาคงใช้ระบบควบคุมสภาพอากาศและพลังงานแบบที่เรายังไปไม่ถึง"
"ครับท่าน...คุณคือสายตาของพวกเราที่นั้น ข้อมูลทุกอย่างมีค่ามาก สำคัญที่สุดคืออาร์คคอร์ อย่าลืมว่าภารกิจหลักของเราคืออะไร"
"ไม่ต้องห่วง ผมไม่ลืม ภารกิจนี้มีความสำคัญมากสำหรับพวกเราทุกคน ผมจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อให้มันสำเร็จ"
"ครับ...หากมีอะไรผิดปกติ หรือผู้พันรู้สึกว่าอันตรายเกินไป ให้รีบแจ้งเราทันที เซเรนอสอาจมีอะไรที่เราคาดไม่ถึงอีกมาก"
"เข้าใจแล้ว ผมจะระมัดระวังและรายงานทุกอย่างให้คุณทราบ ผมกำลังเคลื่อนไปยังจุดถัดไป เตรียมรับข้อมูลใหม่ได้เลย"
"รับทราบ"
เอเรนยืนอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่ให้มุมมองกว้างไกลของเมืองเซเรนอสเบื้องหน้าดวงตาของเขาสะท้อนแสงวิบวับจากเมืองที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย อาคารสูงระฟ้ากระจายตัวอย่างเป็นระเบียบมันสร้างจากวัสดุโปร่งใสและมีแสงไฟหลากสีสันเปล่งประกายออกมาในยามค่ำคืนถนนที่คดเคี้ยวไปมานั้นลอยอยู่เหนือพื้นดินเล็กน้อย มีพาหนะล้ำอนาคตวิ่งผ่านไปอย่างเงียบเชียบอากาศรอบตัวเขาช่างบริสุทธิ์และเย็นสบาย ราวกับว่ามีระบบควบคุมอุณหภูมิในอากาศที่ทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบต้นหญ้าและพื้นดินที่เขายืนอยู่มีสีเขียวเข้มปนด้วยสีทองอ่อนๆ ซึ่งสะท้อนแสงแดดราวกับมีชีวิตพื้นดินที่เต็มไปด้วยความสมบูรณ์และความเจริญนี้แทบไม่มีสิ่งใดบกพร่อง มันคือภาพของโลกอนาคตที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง
เอเรนยกยิ้มมุมปาก ดวงตาเป็นประกายด้วยความท้าทายและความตื่นเต้น ใบหน้าหล่อเหลาของเขานั้นไร้ที่ติแฝงไว้ด้วยเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน เขายืนมั่นคงด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความมั่นใจชายหนุ่มผู้ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใด และไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดในชีวิตก่อนมุ่งหน้าไปหาเป้าหมายเขาหันไปทางยานเวกเตอร์ของเขา ที่จอดอยู่ในที่ลับไม่ไกลออกไปก่อนจะสั่งการด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“ถึงเวลาซ่อนแอบ” ยานเวกเตอร์ของเขาติดตั้งระบบ AIที่ชื่อว่าอาร์เทมิส "รีบูทระบบภายในยานให้พร้อม เตรียมพร้อมทุกอย่างอยู่เสมอ"
AIอาร์เทมิส: "รับคำสั่งกำลังเปิดใช้งานระบบพรางตัวขั้นสูง"
ทันใดนั้นยานเวกเตอร์ของเอเรนเริ่มเปลี่ยนแปลงไป พื้นผิวของยานมีลักษณะเป็นเส้นแสงสีฟ้าละเอียดที่ค่อยๆ ไหลเวียนไปทั่วลำยาน เส้นแสงเหล่านี้เริ่มหายไปทีละน้อยจนกระทั่งยานทั้งลำกลายเป็นโปร่งใสราวกับว่ามันกลายเป็นส่วนหนึ่งของอากาศและสภาพแวดล้อมโดยรอบเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ซ่อนยานจากสายตามนุษย์หรือกล้องเท่านั้นแต่ยังป้องกันการตรวจจับจากระบบเรดาร์และการสแกนทางพลังงานด้วย
"ยอดเยี่ยม อาร์เทมิส ระวังเรื่องเสียง ระวังทุกสัญญาณที่อาจเปิดเผยตัวเรา"
อาร์เทมิส: "ทราบระบบป้องกันเสียงและการปลดปล่อยพลังงานถูกปิดใช้งานยานจะไม่มีการปล่อยสัญญาณใดๆ จนกว่าจะได้รับคำสั่งเพิ่มเติมจากคุณ...ผู้พัน"
เอเรนพยักหน้าเล็กน้อยมองไปที่ที่ว่างเปล่าที่เคยมียานเวกเตอร์จอดอยู่ เพียงไม่กี่วินาที มันก็หายไปอย่างสมบูรณ์ทำให้เขารู้สึกถึงความล้ำสมัยและความสามารถของเทคโนโลยีที่อยู่ในมือของเขาก่อนจากไปเขาเช็คระดับความเข้าใจระหว่างเขากับยาน และ ระบบAIอีกครั้ง
"นายรู้ใช่ไหมว่าเราจะต้องพร้อมเสมอ หากฉันต้องการนาย นายจะปรากฏขึ้นทันทีที่ฉันเรียกหา"
อาร์เทมิส: "แน่นอน...ผู้พันฉันจะอยู่ที่นี่เสมอ รอคำสั่งจากคุณ เพียงแค่เรียกหา ฉันจะปรากฏตัวในเสี้ยววินาที และพร้อมรับทุกคำสั่ง"
............................................................................................................
สถานที่แรกของคืนนี้ที่เอเรนจะมุ่งไปคือบาร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองเขาเลือกพาตัวเองไปนั่งที่ด้านในสุดและอับแสงที่สุดของร้าน แต่ด้วยรูปร่างสูงโปร่งประมาณ 190 เซนติเมตรร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนักทำให้ดูแข็งแรงและมีความคล่องแคล่ว เขามีผิวสีแทนคล้ำจากการใช้ชีวิตในยานรบและการฝึกทหารผมของเอเรนมีสีดำเข้มมันถูกตัดสั้นและเซทเป็นทรงตั้งเหมือนพวกนักแสดงดวงตาของเขามีสีเทาเข้มแวววาวเหมือนลูกแก้ว การแต่งกายของเขาเน้นที่ความเรียบง่ายไม่เน้นให้เป็นจุดสนใจแต่ด้วยรูปร่างที่ดีและหน้าตาที่จัดว่าหล่อเหลาทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจของสาว ๆ ในเซเรนอสไปซะได้
"พี่ชายมาคนเดียวเหรอ?" สาวหน้าตาไม่น้อยแล้วในชุดกระโปรงบานซ้อนกันเป็นชั้นๆเหมือนกลีบดอกกุหลาบยันแขนกับโต๊ะของเขาด้วยท่าทางอ่อยให้นิด ๆ "มีใครเลี้ยงเบียร์พี่ชายหรือยัง" เธอถามทำเสียงเล็กเสียงน้อย
เอเรนเอนกายพิงผนังเก้าอี้ด้วยมาดเพลย์บอยแม้เธอจะไม่ใช่สเปคแต่เขาก็ไม่ไช่คนไร้มารยาทขนาดนั้น "ผมคออ่อน...แค่แก้วนี้พอแล้ว"
ก้อนเนื้อในอกเต้นแทบกระด้อนออกทางปากแม้จะเจอสาวไม่ตรงสเปคแต่เขามันพวกไก่อ่อนเรื่องผู้หญิงจะสวยเหมือนนางฟ้าหรือสวยเหมือนลูกเป็ดขี้เหร่เขาก็ตื่นเต้นพอ ๆ กัน และเมื่ออะดรีนาลีนในร่างกายสูบฉีดอินฟินิตลิงค์ที่เชื่อมต่อกับระบบประสาทของเขาโดยตรงก็เริ่มทำงาน ไม่เกินชั่วอึดใจเสียงปลายสายก็ดังอยู่ในหัวเขา
"สวัสดีผู้พัน" โอลาฟคนเดิมยังคงไม่เลิกงาน
เอเรน : "..." เงียบ
โอลาฟ : "เฮ!...ผู้พัน"
เอเรน : "..." เงียบ
เมื่อไม่ได้รับสัญญาณตอบกลับใด ๆ จากเอเรนแต่ระดับการเต้นของหัวใจห้องบนยังบีบตัวและอะดรินาลินยังสูงขึ้นทำให้โอลาฟยืนยันขอเปิดระบบติดตามแบบ Eyewhat ผ่านบันทึกสิ่งที่เอเรนเห็นด้วยตาและความเงียบก็ถูกทำลายลงในไม่กี่วินาทีต่อมา
โอลาฟ : "เธอสวย...แต่อาจไม่ใช่สเปคคุณ...ผู้พัน"
เอเรนยังนั่งบื้ออยู่ที่เดิมเขาเป็นชายหนุ่มในวัย 34 ปีที่ผ่านสงครามอวกาศมาอย่างโชกโชน เขาไม่เคยกลัวเผ่าพันธุ์หน้าไหนในจักรวาลนี้ เผ่าไวท์วิงค์ที่ว่าแน่ถึงขนาดที่ทุก being เรียกว่าอันพาลเอเรนยังตามไปจัดการจนสงบมาถึงทุกวันนี้ก็ปาเข้าไป 30 ปีแสงแล้วแต่เขากับกลัวสาว!!! โอลาฟนั่งมองสาวงามเมืองเซเลนอสผ่านสายตาของเอเรนแล้วจึงเริ่มจัดการเคลียปัญหาให้เขา
"บอกเธอไปว่าคืนนี้คุณเหนื่อยและหมดแก้วนี้คุณต้องขอตัว"
เอเรนไม่รอช้าเขาเอื้อมมือไปกระชากหูแก้วมัคใบใหญ่ที่ใส่เบียร์วุ้นสีทองอร่ามมาสาดลงคอก่อนจะพูดประโยคที่โอลาฟเพิ่งบอก หญิงสาวหยักไหล่นิดหน่อยและเลือกที่จะไม่ยื้อเขาไว้แต่เมื่อทันทีที่เอเรนยืนขึ้นเธอก็โอบไหล่เขาแล้วเหนี่ยวคอลงไปหอมแก้มฟอดใหญ่เสียงเฮดังลั่นอยู่ในหัวผู้พันหนุ่ม ในดวงตาเหมือนมีพลุระเบิดเขาไม่เคยอยู่ใกล้ผู้หญิง
"วุ้ยยยย โอมายก้อดดด สาวเซเรนอสนี่ไวของจริง" เสียงเป่าปากเฮฮาดังอยู่ในอินฟินิตลิงค์ที่เชื่อมกับตัวเขา
"เงียบ!" และนี้คือคำแรกที่ท่านผู้พันพูดได้หลังออกจากบาร์
............................................................................................................................
เอเรนพาตัวเองออกมายืนอยู่หน้าร้านดวงตาของเขามองไปยังเมืองที่ล้ำสมัยท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงสีจากอาคารที่สูงตระหง่านเขาสวมชุดรบที่พัฒนาจากเทคโนโลยีขั้นสูงของโลก ชุดนี้ทำจากวัสดุเบาแต่แข็งแรง ทนต่อการโจมตีและสามารถปรับอุณหภูมิร่างกายได้ตามสภาพแวดล้อม ชุดมีสีดำด้านพร้อมกับลายเส้นสีเงินบางๆ ที่ส่องแสงในที่มืด หลังจากที่ตั้งสติได้เขาก็เริ่มคิดว่าคืนนี้เขาจะนอนที่ไหนเอเรนใช้สองนิ้วแตะอินฟินิตลิงค์ที่บริเวณใบหูปลายสายก็ตอบกลับแทบทันที
"สวัสดีผู้พันคืนนี้เราเจอกันบ่อย"
"ผมต้องการที่พัก" เอเรนยังหัวเสียกับเรื่องผู้หญิงเมื่อกี้ไม่หาย
"โว้ววว ผมคิดว่าคืนนี้คุณจะไปกับเธอซะอีก" โอลาฟยังเย้า
"โอลาฟ...ผมมาทำงาน!"
"ขออภัยผู้พัน" ปลายสายเงียบไปสักครู่ "เราได้ส่งโรงแรมและสกุลเงินที่จะใช้ให้คุณแล้วกรุณาดูในกระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของคุณผู้พัน"
เอเรนลูบมือไปที่หน้าอกด้านซ้ายก็พบการ์ดแข็ง ๆ หนึ่งใบที่อกด้านนั้น "ขอบคุณ"
"ไม่มีปัญหาครับ..."
ก่อนที่เอเรนจะตัดสัญญาณเขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนที่อยู่บาร์เขาต้องการอะไร
"เออ...โอลาฟ ผมต้องการแผนที่ของเมืองนี้โดยละเอียด รวมถึงแปลนห้องต่างๆ ของปราสาทเซเรนอส คุณจัดการให้ผมได้ไหม?"
"หา....แผนที่ของเมืองเซเรนอสไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้มาเมืองนี้มีการป้องกันทางดิจิทัลที่ซับซ้อน ระบบความปลอดภัยของพวกเขาทำให้เราไม่สามารถแฮ็กข้อมูลจากภายนอกได้"
"ผมเข้าใจ แต่ผมต้องการแผนที่และแปลนห้องไม่งั้นภารกิจนี้จะลำบากกว่าที่คิด ผมไม่สามารถลอบเข้าไปได้โดยไม่มีข้อมูลพื้นฐาน"
"ฟังนะผู้พัน...ทางเดียวที่จะได้ข้อมูลพวกนี้คือคุณต้องแทรกซึมเข้าไปในระบบของพวกเขาโดยตรงบางทีพวกเขาอาจเก็บข้อมูลแผนที่ในห้องควบคุมหลักที่ปราสาทเซเรนอสเอง"
"โอเค...โอลาฟ...และนั่นคือเหตุผลที่ผมต้องการแผนที่และแปลนห้องต่างๆ เพื่อให้ผมรู้ว่าจะเข้าไปได้อย่างไรผมไม่อยากเสียเวลาเดินหลงในปราสาทที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงแบบนั้น"
"รับทราบ...เข้าใจแล้วครับผมจะพยายามเจาะระบบเซเรนอสจากฝั่งนี้เพื่อหาข้อมูลเบื้องต้น...คุณอาจต้องหาทางเข้าถึงเครือข่ายภายในของพวกเขาแล้วส่งข้อมูลกลับมาให้เราได้วิเคราะห์ต่อ"
"รับทราบ...ผมจะพยายามหาทางเข้าถึงระบบพวกเขาระหว่างนี้ช่วยเตรียมทีมของคุณให้พร้อมเพื่อรองรับข้อมูลที่ผมจะส่งไป"
"ครับท่านผู้พัน ทางเราจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรับข้อมูลที่คุณส่งมา"
.....................................................................................................................................................
เอเรนตัดการสื่อสารหลังจากนั้นเขารู้ว่าภารกิจนี้จะไม่ง่ายแต่แล้วไงใครแคร์คืนนี้เขาก็แค่เลิกงาน
และมีความสุขเตียงนอนนุ่ม ๆ ในเมืองแห่งอนาคตนี้