รัก,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Chapter 1 ชานนท์คลั่งรัก
ชานนท์: วันนี้กูมีเรียนแค่เช้า มึงเลิกกี่โมงนะ
แพงพวย:สี่โมงเย็น มึงกลับก่อนเลย เดี๋ยวกูกลับแท็กซี่ได้
ชานนท์:กูรอดีกว่า ก็ไม่ได้จะรีบไปไหน
แพงพวย:เออ มันนานนะเว้ย ถ้ารอไม่ไหวกลับก่อนได้เลยนะ
ชานนท์:กูบอกรอ ก็คือรอ
บทสนทนาในไลน์ได้สิ้นสุดลงเพราะแพงพวยอาจจะกำลังโฟกัสกับสิ่งที่เรียนอยู่ตรงหน้า นนท์จึงตัดสินใจไปนั่งรอในร้านชานมไข่มุก สัปหงกไปสองสามรอบก็ยังไม่มีข้อความจากแพงพวย จนได้สั่งชาไข่มุกอีกแก้วนั่งกินจนหมด แพงพวยก็ยังไม่เลิกเรียน
แพงพวย: นนท์อยู่ไหน กูเลิกล่ะ
ชานนท์: อยู่ร้านน้ำ เอาไรป่าว
แพงพวย: ชาเขียวก็ได้ ให้กูรอไหน
ชานนท์:รออยู่หน้าคณะ เดี๋ยวกูขับไปรับฝั่งนั้น
ชานนท์ถือชาเขียวมาหนึ่งแก้วเดินไปที่รถแล้วขับไปหน้าคณะนิเทศ จอดใกล้ ๆ กับหญิงสาวที่ยืนรอเขาอยู่
“รอเป็นชาติอะดิ ให้กลับก่อนก็ไม่กลับ” แพงพวยกล่าวขณะที่ก้าวขาขึ้นรถ
“ให้แฟนกลับแท็กคนเดียว แล้วตัวเองขับรถกลับอย่างสบายใจกูทำไม่ได้หรอก”
“ไม่คนเดียวหรอก ถ้ามึงไม่รอก็กลับกับเพื่อนได้ไง”
“แต่ตอนนี้ก็มีกูแล้วไง”
บรรยากาศในรถเริ่มเงียบเมื่อขับออกจากมหาลัยได้สักพัก
“เราเลิกพูดเหมือนตอนเป็นเพื่อนกันได้ไหมวะ” นนท์ว่า
“คะ ขา เหรอ กูทำไม่ได้หรอก”
“ก็ไม่ขนาดนั้น แค่ไม่มึงกูอะ ได้ไหมวะ”
“เรื่องนี้เราคุยกันตั้งกี่ทีแล้ว สุดท้ายก็มามึงกูเหมือนเดิม”
“มึงไม่ชอบเหรอ ถ้าไม่ชอบแบบนี้มึงก็ไปหาแฟน...”
“หยุดนะพวย อย่าพูดออกมา” เขาเบรกไว้เสียก่อนเพราะแพงพวยชอบไล่เขาให้ไปหาแฟนใหม่อยู่เรื่อย
“คืนนี้กูขอไปร้านเหล้านะ ไปด้วยกันป่าว”
“ไม่เอาอ่ะ มึงไปเถอะ”
“มึงไม่หวงกันสักนิดเลยเหรอวะ จะไปไหนมาไหนไม่เคยตามไม่เคยห้ามกูเลย” ว่าเสียงเรียบ
“หาเรื่องว่ะนนท์” ต่อให้เขาจะไปไหนต่อไหนแพงพวยก็ไม่เคยห้ามเลย มือถือก็ไม่เคยเช็ค
ชานนท์ต้องขับอ้อมไปอีกฝั่งของถนน แล้วต้องไปยูเทิร์นไกลหน่อย
“กูลงฝั่งนี้ก็ได้เดินข้ามสะพานลอยแป๊บ ๆ ก็ถึงแล้ว แต่มึงดิต้องอ้อมไกลแบบนี้ทุกวันเลย”
“นิดเดียวเอง กูไม่ได้เหนื่อยอะไร”
“ขอบใจมากมึง ขับรถกลับดี ๆ”
“เดี๋ยวก่อน หอมแก้มทีดิ” เขาว่าพลางคว้ามือเธอไว้
“ไม่เอาอ่ะ ตัวกูมีแต่กลิ่นเหงื่อ ไว้วันหลัง”
“วันหลังมาเป็นปีแล้วมั้ง เออบ๊าย บาย ถึงเดี๋ยวกูโทรหา”
“เออ ๆ ” แพงพวยลงจากรถ ส่วนคนมาส่งก็ต้องไปยูเทิร์นอีกไกล
เธอเดินขึ้นห้องแล้วทิ้งตัวลงเตียงทั้งชุดนักศึกษาแล้วนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนข้อเสียงไลน์ดังขึ้นเป็นนนท์ที่ส่งข้อความมาบอกว่าถึงคอนโดแล้ว
แพงพวย: ขอบคุณอีกครั้งที่มาส่ง อย่าเมามากนะมึง
ชานนท์: เออรู้ว่ามึงไม่ชอบ
แพงพวยอาบน้ำในเวลาหกโมงกว่า ๆ เปลี่ยนเป็นชุดนอนเสร็จสรรพ อาหารเย็นไม่พ้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกเช่นเคย
ชานนท์: กูสั่งข้าวให้แล้วลงไปรับด้วย
แพงพวย: มึงไม่ถามกูก่อนวะ เพิ่งกินมาม่าไป
ชานนท์: ไม่ถาม ไม่กินก็ทิ้ง จบ
แพงพวย: รวยนักรึไง
ชานนท์ : เออรวย มึงไม่รู้จริงเหรอ
ชานนท์มักเป็นแบบนี้เสมอเพราะรู้ว่าสองเหตุผลของแพงพวยคือขี้เกียจออกไปข้างนอกกับประหยัด พวยติดห้องต่างจากแฟนหนุ่มคือชานนท์ที่สายปาร์ตี้ ถามว่าหวงนนท์ไหมแพงพวยคงเฉย ๆ เพราะชินกับไลฟ์สไตล์ของเขากอปรกับความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นอย่างเพื่อน เพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันตั้งแต่ประถม เพื่อนกันตอนมัธยมแต่เรียนคนละห้อง มหาลัยก็เรียนที่เดียวกันอีกแต่คนละคณะ ชานนท์เรียนบริหารส่วนแพงพวยเรียนนิเทศ
ก๊อก ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูดังจนแทบทะลุเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผักบุ้งเพื่อนซี้ที่อยู่หอเดียวกันแต่อยู่กันคนละชั้น
“พวยไปกินข้าวกันเถอะ ทีแรกว่าจะไม่กินแต่ตอนนี้เริ่มหิววะ”
“กินนี่ดิ กูกินมาม่าไปแล้วแต่นนท์แม่งสั่งมาให้ไม่ถามก่อนเลย”
“เออ ก็ดีจะได้ไม่ต้องออก”
“กูเห็นนนท์เช็คอินร้านเหล้าอีกล่ะ มึงไม่หวงมันเหรอวะพวย หญิงเข้าหามันเยอะจะตาย” ผักบุ้งว่าขณะกำลังนั่งกินข้าว
“มึงเคยเห็นมันเล่นด้วยสักคนเหรอวะ เห็นหน้าแตกกลับไปทุกราย กูเลยไม่ห่วงเรื่องนี้ไง อีกอย่างมันไม่เมาหรอกเชื่อดิเพราะกูไม่ชอบ”
แพงพวยนั่งทบทวนสิ่งที่กำลังเรียนไปในวันนี้หลังจากที่ผักบุ้งกลับห้องของตัวเองไป และเธอก็เตรียมตัวกับวิชาที่จะเรียนพรุ่งนี้ต่อ
ชานนท์: นอนยัง
แพงพวย:ยัง อ่านหนังสืออยู่
ชานนท์:ไปหาได้ป่ะ
แพงพวย:มาหาตอนนี้มึงคิดอะไรอยู่นนท์
ชานนท์: กูจะเอาเต้าหู้ไปให้ มึงอะคิดอะไร
แพงพวย:ดึกขนาดนี้แล้วไม่ต้องเอามา
ชานนท์: มึงกลัวแฟนตัวเองจนขี้ขึ้นสมองแล้วหรือไงวะพวย
แพงพวย: ใครกลัวมึง
ชานนท์: ไม่เอาก็ไม่เอา
ชานนท์ขับรถออกจากร้านเหล้ากลับคอนโดไม่ได้แตะแอลกอฮอล์สักหยด ถ้าเมาก็คงเมาน้ำอัดลม วันนี้กลับเร็วหน่อยเพราะต้องตื่นเช้าไปรับพวยแล้วไปส่งที่มหาลัย
“พรุ่งนี้ไม่มีเรียนตื่นสายได้ สบายหน่อย” ไอเต้ที่นั่งอยู่ข้างคนขับพูดขึ้น
“พรุ่งนี้กูไปส่งพวยมีเรียนแต่เช้า”
“แฟนที่ดีมาก พวยโคตรโชคดี”
“พวยจะคิดแบบนั้นไหมวะมึง คบมาจะปีก็ไม่เคยทำอะไรแบบคนที่เป็นแฟนเขาทำกันเลย มีแค่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันมากขึ้น ชวนไปเที่ยวก็ไม่ค่อยอยากจะไปด้วยแค่ยอมให้ไปรับไปส่งก็บุญหัวกูแล้ว”
“มึงกำลังจะพูดถึงเรื่องนั้นนะเหรอ” เต้ว่า
“เรื่องนั้นบ้าอะไร แค่กูโดนตัวหน่อยสะบัดหนีแล้ว”
“เค้าอาจไม่ชอบหรือเปล่า ถ้ามึงรักเค้ามึงต้องเข้าใจเค้าด้วย เราเป็นผู้ชายมันท้องไม่ได้ ถ้าเค้าจะเป็นคนหวงเนื้อหวงตัวก็ไม่ผิด”
“แต่หวงตัวกับแฟนเนี่ยนะ”
“มึงอย่าลืมดิ ว่ามึงเริ่มต้นจากความเป็นเพื่อนกัน พวยคบมึงเพราะอะไร” เต้ยั้งปากตัวเองไม่ทัน เผลอไปตอกย้ำเรื่องนี้เข้าให้อีกแล้ว
“เห้ยนนท์ กูขอโทษ”
“กูไม่อะไร มึงไม่พูดคนอื่นก็พูดอยู่ดี กูก็รู้ตัวอยู่ตลอดที่พวยปรารถนาดีกับกูทุกวันนี้กูก็ไม่รู้ว่าเป็นรูปแบบไหน แบบเพื่อน เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน หรือแบบแฟน กูรักเขาเกินกว่าจะแยกออกว่าความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันคืออะไร”
“มึงไหวป่าววะนนท์ ไม่ไหวก็ถอยนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่เขาอยู่ให้รักกูก็มีความสุขมากพอแล้ว”
นนท์แวะไปส่งไอเต้ที่คอนโดก่อนจะถึงคอนโดของเขาเองที่อยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่นัก เขาเดินเข้าห้องไปส่องกระจกสังเกตรูปร่างผิวพรรณของตัวเอง เขาผิดอะไร ไม่หล่อตรงไหน หรือนิสัยไม่ดียังไง ขาดตกบกพร่องอะไรไปหรือเปล่าทำไมแพงพวยทำเหมือนยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลย หน้าใส ๆ กับเคราที่เริ่มยาวเพราะโกนไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน หรือผิดที่เครา
ชานนท์: หลับยังพวย กูถึงคอนโดแล้วนะจะรีบนอน พรุ่งนี้จะได้ไปส่งมึงไหว มึงจะได้ไม่ต้องรอกูนาน
แพงพวย: เมาไหม กูไปเองได้ มึงนอนตื่นสายสบาย ๆ เถอะหน่า
ชานนท์: เมาน้ำอัดลมดิ อยากคอลอะได้ป่ะ
แพงพวย: กูแต่งตัวไม่สุภาพ
ชานนท์ : กูไม่ใช่พระ ไม่ต้องสุภาพ
แพงพวย: กูหมายถึงไม่ได้ใส่บรา มึงก็เห็นหมดสิ
ชานนท์: เออ ๆ ก็ได้ พรุ่งนี้กูจะรีบไปรับ
ชานนท์รีบอาบน้ำปิดไฟนอนไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้เพราะเกรงว่าจะตื่นไปส่งเธอไม่ทัน
ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด
หลับยังไม่เต็มอิ่มชานนท์ก็รีบสะดุ้งตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุก เขารีบมาอาบน้ำแต่งตัวไปรับแพงพวยที่หอ
“มานานยังสหาย” แพงพวยเอ่ยเมื่อก้าวขาขึ้นรถ
“สหายบ้านมึง กูนนท์แฟนมึงไง” แพงพวยยิ้มจนแก้มปริ
“จะปีสี่แล้วอย่าทำเป็นเล่นไปมึง เดี๋ยวก็Fเป็นแถบ”
“เออ รู้หน่า”
“วันนี้กูหล่อไหมพวย” เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“ก็เหมือนทุกวัน”
“แล้วทุกวันกูหล่อไหม”
“เออหล่อ มึงเป็นไรเนี่ย”
“เป็นแฟนมึงไง” เขามักย้ำคำนี้เสมอให้สมกับการรอคอยสถานะ
“เฮ้อ”
“ขอบใจมาก” แพงพวยว่าขณะที่ถึงหน้าคณะ
“เดี๋ยว จะชิ่งเหรอ เมื่อวานมึงบอกว่าไง” ชานนท์คว้ามือเธอไว้ก่อนจะลงจากรถ เธอรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร
“คนเยอะนนท์”
“มันไม่มีคนเลย” เช้ามากมีคนไม่กี่คนสามารถนับได้เลยด้วยซ้ำไป
“มันมีกล้อง ไม่เอาดินนท์” เธอปรามขณะที่ชานนท์เอี้ยวตัวใกล้เธอกว่าเก่า แพงพวยรีบลงจากรถปล่อยให้นนท์มองตามตาละห้อย
ชานนท์ขับรถกลับคอนโด เมื่อถึงคอนโดก็นอนต่อสักพักแล้วตื่นขึ้นมากินข้าวเช้าในเวลาสิบเอ็มโมง
ชานนท์: ถ้าเลิกแล้วบอกนะ
แพงพวย: ได้ ๆ
ตื่นยังไม่เต็มตาก็คว้ามือถือส่งข้อความไปหาแพงพวยทันที ใครว่าชานนท์คลั่งรักก็เป็นสิ่งที่เขาก็ยากจะเถียง