รัก,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Chapter4 ติดกลิ่นตัวมึง
“พวยกูเห็นมึงเผลอขยี้ตาตอนหลับตลอดเลย เล็บมึงยาวมากด้วย ตัดไปก่อนไหมช่วงนี้แล้วค่อยไว้ใหม่” เขาถือกรรไกรตัดเล็บมาแล้วนั่งลงข้างเธอที่นั่งอยู่ตรงโซฟา
“ตัดก็ดีนะ ยืมกรรไกรตัดเล็บหน่อยดิ”
“มากูตัดให้” เขาว่าแล้วดึงมาเธอไปตัดเล็บให้อย่างบรรจง
“มึงจะทำให้กูทุกอย่างเลยไงวะนนท์ อีกนิดคือกูเป็นแผลกดทับแล้ว” เธอว่าขณะมองเขาที่บรรจงตัดเล็บให้
“อยากดูแลมึงไง”
“มึงก็ดูแลกูดีมาตลอดอยู่แล้วไหมนนท์”
“รู้แบบนี้ก็รักกูเยอะ ๆ ดิ”
เธอเงียบไปชั่วขณะกับคำพูดของชานนท์
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มึง กูไม่ใช่ลูกคุณหนู”
“ไม่ใช่ลูกคุณหนู แต่มึงแฟนกูครับ” เขาก้มหน้าลงตัดเล็บให้เธอจนครบ
“เล็บเท้าด้วยไหม ไหน ๆ ก็ตัดแล้ว”
“มานี่กูตัดเอง” เธอเอื้อมมือไปจะคว้ากรรไกรตัดเล็บจากเขา
“ไม่ดิพวย กูอยากทำให้” เขาลงไปนั่งที่พื้นแล้วยกเท้าเธอวางไว้บนตัก
“นนท์ไม่เอา กูทำเองได้”
“รู้ แต่กูอยากทำให้” ว่าแล้วตัดเล็บให้เธอจนครบทั้งสิบนิ้ว
“ขอบใจมาก แต่มันต้องขนาดนี้เลยเหรอวะ” เธอว่า
“เออดิ ก็บอกกูอยากทำให้ไง”
“มึงรักกูมากขนาดนี้เลยเหรอนนท์”
“รักมากกว่าที่มึงคิดหลายเท่า”
“ขอเหตุผล” ชานนท์เงียบทำหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิด
“รัก ไม่ต้องมีเหตุผลหรอก”
ชานนท์ขยับเข้าไปนั่งแนบชิดกับเธอแล้วกดปลายจมูกลงที่หัวไหล่ เธอบ่ายตัวหนี
“เริ่มหายแล้วหวงตัวทันทีเลย น้อยใจว่ะพวย” เขาว่าเสียงเบา
“กูตัวเหม็น ไว้อาบน้ำก่อนดิ”
“ไม่เหม็น” เขาเถียงทันที
“มึงดมดิ” เธอว่าพลางยกรักแร้แล้วขยับไปใกล้เขา อีกคนก็กดจมูกลงไปอย่างจัง
“ไม่เห็นจะเหม็น”
“ไอ้นนท์ กูไม่คิดว่ามึงจะดมจริง” เขายกยิ้มมุมปาก
“ก็หอมดี ทำไมว่ะ”
“กูยอมมึงจริง ๆ เลย”
“ไม่จริงหรอก” เสียงทุ้มกล่าว
สักพักแพงพวยก็เดินไปอาบน้ำแล้วเดินออกมาด้วยผมที่เปียก
“มีที่เป่าผมป่าวนนท์”
“มี ไปนั่งเดี๋ยวกูเป่าให้”
“ไม่เอา มึงก็ขยันปรนนิบัติกูจัง”
“มึงทำให้กูทุกอย่างแล้ว เหลือย่อยอาหารให้กู” เธอว่าพลางนั่งลงตรงเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
“มึงไม่ขี้เกียจบ้างเหรอว่ะนนท์”
“กับมึงก็ไม่นะ”
“เกิดชาติหน้ากูจะหาแฟนได้ดีขนาดนี้ไหมว่ะ” เธอว่า เขาลอบมองเธอในกระจก มึงกำลังจะบอกว่าตัวเองโชคดีที่มีกูเป็นแฟนใช่ไหมพวย หวังว่ามึงจะรู้สึกแบบนั้นนะ
“ชาตินี้ได้แล้วก็รีบกอบโกยสิวะ” เขาว่าแล้วยิ้มอ่อน
“ถ้าไม่รีบกอบโกยเขาจะหายไปไหมวะ”
“ก็ไม่แน่ใจ แต่การรักข้างเดียวมันเหนื่อยจะตาย” เขาว่าเสียงเบา
บรรยากาศเงียบลงชั่วขณะมีเพียงเสียงไดร์เป่าผมกลบเสียงความคิดของแพงพวย สักพักใหญ่ ๆ ผมเธอก็แห้ง
“จะไปส่งกูวันไหนนนท์”
“ให้หายดีก่อนค่อยกลับไม่ได้ไงวะ”
“เป็นอาทิตย์แหละกูว่า”
“จะกี่อาทิตย์เถอะ อยู่ให้กูดูแลก่อนนะพวย อย่าเพิ่งกลับไปเลย” เธอทำหน้าครุ่นคิดแล้วพยักหน้าตอบ เหมือนเป็นความโชคร้ายแต่ก็ยังโชคดีที่อาจารย์กำลังจะปิดคอร์สเกือบทุกวิชาแล้ว เหลือบางวิชาที่ยังไม่บอกแนวข้อสอบก็รอถามผักบุ้งเอาแล้วกัน พักสักอาทิตย์ก็ดีเหมือนกัน จะได้เอาแรงไว้ลุยข้อสอบอย่างเดียว ดีที่พวยอ่าน ทบทวนหลังเรียนเป็นประจำตอนสอบก็เลยไม่ต้องเหนื่อยมาก
เธอหันหน้าเข้าหาชานนท์แล้วกอดแน่น เขาลูบหัวเธอ
“กูติดกลิ่นตัวมึงแล้วทำไงวะนนท์”
“กูให้มึงกอด มึงหอมได้ตลอดอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องคิดเลยว่าทำยังไง” เขาตั้งตัวไม่ค่อยทันเพราะปกติเธอจะหวงตัวชนิดที่ว่าโดนปุ๊บสะบัดหนีปั๊บเลยล่ะ
“ดีขึ้นบ้างป่ะ” เขาว่าพลางเชยคางเธอขึ้น
“ก็ยังเคือง ๆ อยู่แหละ”
“ไปนอนพักไหม หรือยังไง”
“นอนอีกล่ะ น่าเบื่อว่ะ” เธอว่า
“กูอ่านหนังสือให้ฟังไหม” ชานนท์ออกความเห็น ส่วนเธอพยักหน้าตอบ
ชานนท์นั่งอ่านหนังสือให้แพงพวยฟังซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ กันนี่แหละ
“กูนอนตักมึงได้ไหมนนท์”
“มาดิ” เธอค่อย ๆ เลื่อนนตัวลงนอนบนตักเขามีผ้าบาง ๆ ไว้คลุม แล้วนอนฟังชานนท์อ่านหนังสือต่อ
เธอหาวทำท่าจะหลับไปอีกแล้ว ชีวิตคนป่วยก็มีแค่นี้ กิน นอน นั่ง วนอยู่แบบนี้
“ง่วงเหรอ ไปนอนที่เตียงดี ๆ ไหมมึง นอนนี่ปวดหลัง กูเคยนอนแล้ว”
“เออก็ได้” เธอว่าพร้อมดิ่งตรงไปยังเตียงของเขาที่เธอเริ่มจะคุ้นเคยแล้ว เธอค่อย ๆ ทิ้งตัวลงนอน
“นนท์ มึงทำอะไรอยู่” เธอตะโกนเรียกชานนท์ที่อยู่นอกห้อง
“มีไรวะ”
“มึงทำอะไรอยู่ ยุ่งอยู่ป่าว” เธอถามเสียงเบา
“ก็ไม่ยุ่ง หาอะไรทำแก้เบื่อเรื่อยเปื่อย”
“ถ้ากูขอให้มึงมาลูบหัวจนกูหลับมึงจะเบื่อไหม กูขอมากไปไหมนนท์”
“ได้ดิ มากไปอะไร” เขาว่าแล้วเดินมานั่งที่หัวเตียงแล้วลูบหัวเธออย่างอ่อนโย
“ติดกูแล้วสินะพวย”
“มึงทำเสน่ห์ใส่กูป่าว”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงกูน่าจะทำตั้งนานเนาะ” นนท์ว่า แล้วทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ เธอ