ชานนท์ตามจีบแพงพวยมาตั้งแต่ปีหนึ่งกว่าจะสมดั่งใจหมายก็ปีสาม

แพงพวยริมทาง - chapter 4 ติดกลิ่นตัวมึง โดย พวงพะยอม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แพงพวยริมทาง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

ชานนท์ตามจีบแพงพวยมาตั้งแต่ปีหนึ่งกว่าจะสมดั่งใจหมายก็ปีสาม

ผู้แต่ง

พวงพะยอม

เรื่องย่อ

ชานนท์ตามจีบแพงพวยมาตั้งแต่ปีหนึ่งกว่าจะสมดั่งใจหมายก็ปีสาม แพงพวยเป็นคนที่มีกำแพงในใจสูงแต่จนแล้วจนรอดก็ได้ตกลงปลงใจคบหากับชานนท์ตอนอยู่ปีสาม




“คบกันมาจะสองปีมึงไม่รักกูบ้างเลยเหรอวะพวย กูทำให้มึงรักกูไม่ได้สักนิดเลยเหรอ” น้ำตาชายหนุ่มไหลรินกับสองมือที่จับไหล่หญิงสาวตรงหน้า

“ขอโทษ”

“ขอโทษเหรอวะ แต่ช่างเถอะ กูผิดเองแหละที่รู้ทั้งรู้แต่ยังดันทุรัง”






สารบัญ

แพงพวยริมทาง-chapter 1 ชานนท์คลั่งรัก,แพงพวยริมทาง-chapter 2 อะไรอะไรก็พวย,แพงพวยริมทาง-chapter 3 อ่านหนังสือ,แพงพวยริมทาง-chapter 4 ติดกลิ่นตัวมึง,แพงพวยริมทาง-chapter 5 สัปดาห์แห่งการสอบ,แพงพวยริมทาง-chapter 6 สุราเมรัย,แพงพวยริมทาง-chapter 7 หลบหน้า,แพงพวยริมทาง-chapter 8 ใครกันแน่ที่หลบหน้า,แพงพวยริมทาง-chapter 9 ง้อยังไง,แพงพวยริมทาง-chapter 10 ครั้งแรก,แพงพวยริมทาง-chapter 11 ฝนตก,แพงพวยริมทาง-chapter 12 ผัดไท,แพงพวยริมทาง-chapter 13 ผัดไทที่ใส่ใจ,แพงพวยริมทาง-chapter 14 ป่วย,แพงพวยริมทาง-chapter 15 เต้าหู้ก็แค่ข้ออ้าง,แพงพวยริมทาง-chapter 16 บ้านนนท์,แพงพวยริมทาง-chapter 17 เกรดออก,แพงพวยริมทาง-chapter 18 ทำงานกลุ่ม,แพงพวยริมทาง-chapter 19 หลักฐานชั้นดี,แพงพวยริมทาง-chapter 20 ฝัน,แพงพวยริมทาง-chapter 21 คอนซีลเลอร์,แพงพวยริมทาง-chapter 22 กลับคอนโด,แพงพวยริมทาง-chapter 23 บายเนียร์

เนื้อหา

chapter 4 ติดกลิ่นตัวมึง

Chapter4 ติดกลิ่นตัวมึง



“พวยกูเห็นมึงเผลอขยี้ตาตอนหลับตลอดเลย เล็บมึงยาวมากด้วย ตัดไปก่อนไหมช่วงนี้แล้วค่อยไว้ใหม่” เขาถือกรรไกรตัดเล็บมาแล้วนั่งลงข้างเธอที่นั่งอยู่ตรงโซฟา

“ตัดก็ดีนะ ยืมกรรไกรตัดเล็บหน่อยดิ”

“มากูตัดให้” เขาว่าแล้วดึงมาเธอไปตัดเล็บให้อย่างบรรจง

“มึงจะทำให้กูทุกอย่างเลยไงวะนนท์ อีกนิดคือกูเป็นแผลกดทับแล้ว” เธอว่าขณะมองเขาที่บรรจงตัดเล็บให้

“อยากดูแลมึงไง”

“มึงก็ดูแลกูดีมาตลอดอยู่แล้วไหมนนท์”

“รู้แบบนี้ก็รักกูเยอะ ๆ ดิ”

เธอเงียบไปชั่วขณะกับคำพูดของชานนท์

“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มึง กูไม่ใช่ลูกคุณหนู”

“ไม่ใช่ลูกคุณหนู แต่มึงแฟนกูครับ” เขาก้มหน้าลงตัดเล็บให้เธอจนครบ

“เล็บเท้าด้วยไหม ไหน ๆ ก็ตัดแล้ว”

“มานี่กูตัดเอง” เธอเอื้อมมือไปจะคว้ากรรไกรตัดเล็บจากเขา

“ไม่ดิพวย กูอยากทำให้” เขาลงไปนั่งที่พื้นแล้วยกเท้าเธอวางไว้บนตัก

“นนท์ไม่เอา กูทำเองได้”

“รู้ แต่กูอยากทำให้” ว่าแล้วตัดเล็บให้เธอจนครบทั้งสิบนิ้ว

“ขอบใจมาก แต่มันต้องขนาดนี้เลยเหรอวะ” เธอว่า

“เออดิ ก็บอกกูอยากทำให้ไง”

“มึงรักกูมากขนาดนี้เลยเหรอนนท์”

“รักมากกว่าที่มึงคิดหลายเท่า”

“ขอเหตุผล” ชานนท์เงียบทำหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิด

“รัก ไม่ต้องมีเหตุผลหรอก”



ชานนท์ขยับเข้าไปนั่งแนบชิดกับเธอแล้วกดปลายจมูกลงที่หัวไหล่ เธอบ่ายตัวหนี

“เริ่มหายแล้วหวงตัวทันทีเลย น้อยใจว่ะพวย” เขาว่าเสียงเบา

“กูตัวเหม็น ไว้อาบน้ำก่อนดิ”

“ไม่เหม็น” เขาเถียงทันที

“มึงดมดิ” เธอว่าพลางยกรักแร้แล้วขยับไปใกล้เขา อีกคนก็กดจมูกลงไปอย่างจัง

“ไม่เห็นจะเหม็น”

“ไอ้นนท์ กูไม่คิดว่ามึงจะดมจริง” เขายกยิ้มมุมปาก

“ก็หอมดี ทำไมว่ะ”

“กูยอมมึงจริง ๆ เลย”

“ไม่จริงหรอก” เสียงทุ้มกล่าว

สักพักแพงพวยก็เดินไปอาบน้ำแล้วเดินออกมาด้วยผมที่เปียก

“มีที่เป่าผมป่าวนนท์”

“มี ไปนั่งเดี๋ยวกูเป่าให้”

“ไม่เอา มึงก็ขยันปรนนิบัติกูจัง”

“มึงทำให้กูทุกอย่างแล้ว เหลือย่อยอาหารให้กู” เธอว่าพลางนั่งลงตรงเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง

“มึงไม่ขี้เกียจบ้างเหรอว่ะนนท์”

“กับมึงก็ไม่นะ”

“เกิดชาติหน้ากูจะหาแฟนได้ดีขนาดนี้ไหมว่ะ” เธอว่า เขาลอบมองเธอในกระจก มึงกำลังจะบอกว่าตัวเองโชคดีที่มีกูเป็นแฟนใช่ไหมพวย หวังว่ามึงจะรู้สึกแบบนั้นนะ

“ชาตินี้ได้แล้วก็รีบกอบโกยสิวะ” เขาว่าแล้วยิ้มอ่อน

“ถ้าไม่รีบกอบโกยเขาจะหายไปไหมวะ”

“ก็ไม่แน่ใจ แต่การรักข้างเดียวมันเหนื่อยจะตาย” เขาว่าเสียงเบา

บรรยากาศเงียบลงชั่วขณะมีเพียงเสียงไดร์เป่าผมกลบเสียงความคิดของแพงพวย สักพักใหญ่ ๆ ผมเธอก็แห้ง

“จะไปส่งกูวันไหนนนท์”

“ให้หายดีก่อนค่อยกลับไม่ได้ไงวะ”

“เป็นอาทิตย์แหละกูว่า”

“จะกี่อาทิตย์เถอะ อยู่ให้กูดูแลก่อนนะพวย อย่าเพิ่งกลับไปเลย” เธอทำหน้าครุ่นคิดแล้วพยักหน้าตอบ เหมือนเป็นความโชคร้ายแต่ก็ยังโชคดีที่อาจารย์กำลังจะปิดคอร์สเกือบทุกวิชาแล้ว เหลือบางวิชาที่ยังไม่บอกแนวข้อสอบก็รอถามผักบุ้งเอาแล้วกัน พักสักอาทิตย์ก็ดีเหมือนกัน จะได้เอาแรงไว้ลุยข้อสอบอย่างเดียว ดีที่พวยอ่าน ทบทวนหลังเรียนเป็นประจำตอนสอบก็เลยไม่ต้องเหนื่อยมาก

เธอหันหน้าเข้าหาชานนท์แล้วกอดแน่น เขาลูบหัวเธอ

“กูติดกลิ่นตัวมึงแล้วทำไงวะนนท์”

“กูให้มึงกอด มึงหอมได้ตลอดอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องคิดเลยว่าทำยังไง” เขาตั้งตัวไม่ค่อยทันเพราะปกติเธอจะหวงตัวชนิดที่ว่าโดนปุ๊บสะบัดหนีปั๊บเลยล่ะ



“ดีขึ้นบ้างป่ะ” เขาว่าพลางเชยคางเธอขึ้น

“ก็ยังเคือง ๆ อยู่แหละ”

“ไปนอนพักไหม หรือยังไง”

“นอนอีกล่ะ น่าเบื่อว่ะ” เธอว่า

“กูอ่านหนังสือให้ฟังไหม” ชานนท์ออกความเห็น ส่วนเธอพยักหน้าตอบ

ชานนท์นั่งอ่านหนังสือให้แพงพวยฟังซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ กันนี่แหละ

“กูนอนตักมึงได้ไหมนนท์”

“มาดิ” เธอค่อย ๆ เลื่อนนตัวลงนอนบนตักเขามีผ้าบาง ๆ ไว้คลุม แล้วนอนฟังชานนท์อ่านหนังสือต่อ



เธอหาวทำท่าจะหลับไปอีกแล้ว ชีวิตคนป่วยก็มีแค่นี้ กิน นอน นั่ง วนอยู่แบบนี้

“ง่วงเหรอ ไปนอนที่เตียงดี ๆ ไหมมึง นอนนี่ปวดหลัง กูเคยนอนแล้ว”

“เออก็ได้” เธอว่าพร้อมดิ่งตรงไปยังเตียงของเขาที่เธอเริ่มจะคุ้นเคยแล้ว เธอค่อย ๆ ทิ้งตัวลงนอน

“นนท์ มึงทำอะไรอยู่” เธอตะโกนเรียกชานนท์ที่อยู่นอกห้อง

“มีไรวะ”

“มึงทำอะไรอยู่ ยุ่งอยู่ป่าว” เธอถามเสียงเบา

“ก็ไม่ยุ่ง หาอะไรทำแก้เบื่อเรื่อยเปื่อย”

“ถ้ากูขอให้มึงมาลูบหัวจนกูหลับมึงจะเบื่อไหม กูขอมากไปไหมนนท์”

“ได้ดิ มากไปอะไร” เขาว่าแล้วเดินมานั่งที่หัวเตียงแล้วลูบหัวเธออย่างอ่อนโย

“ติดกูแล้วสินะพวย”

“มึงทำเสน่ห์ใส่กูป่าว”

“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงกูน่าจะทำตั้งนานเนาะ” นนท์ว่า แล้วทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ เธอ