รัก,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Chapter5 สัปดาห์แห่งการสอบ
หลังจากที่แพงพวยไปอยู่ที่คอนโดของชานนท์ร่วมสัปดาห์จนสุขภาพตีขึ้นมากแล้วก็เข้าสู่สัปดาห์แห่งการสอบพอดี สอบไฟนอลแล้ว ปิดเทอมแล้วเปิดเทอมาอีกทีก็ปีสี่ ชานนท์ขับรถไปรับแพงพวยที่หอพักอย่างเคย
“พวย อย่าลืมนะถ้าเกรดออก มึงบอกจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกับกู”
“กูบอกถ้าเกรดมึงได้เยอะกว่าเทอมก่อน”
“เออ วันนี้กูไปเฉลยข้อสอบชัด ๆ พร้อมมาก ไม่เคยจะสอบแล้วพร้อมขนาดนี้มาก่อน”
“มันขนาดนั้นเลยเหรอวะนนท์”
บทสนทนาในรถระหว่างทางไปมหา’ ลัย ก็มีแต่ชานนท์ที่ทวงสัญญาเรื่องไปเที่ยวกับเธอ
“สอบเสร็จบอกนะ” เขากับเธอขณะไปจอดรถหน้าคณะนิเทศแล้วขับไปจอดที่คณะบริหาร
แพงพวยไปถึงคณะก็ส่งข้อความหาผักบุ้งทันที ส่วนมากวันหยุดผักบุ้งจะกลับไปบ้านและช่วยแม่ขายข้าวที่ตลาด วันนี้พ่อก็เลยมาส่งผักบุ้งและนัดเจอกันที่หน้าห้องสอบเลย ไม่นานก็ถึงเวลาสอบสำหรับแพงพวยแล้วไม่ได้ซีเรียสอะไรมากเพราะเตรียมตัวมาดีโดยตลอดเลย วันนี้เป็นวิชาสุดท้ายแล้วจะได้กลับบ้านไปหายายสักที
เมื่อสอบเสร็จก็มารอชานนท์ที่เดิม เขาไม่เคยปล่อยให้เธอต้องรอนานและวันนี้ก็เช่นกัน
“ไหน ทำได้จริงป่าว” เสียงใสเอ่ยถามอีกคนอย่างอยากรู้ว่าจะเก่งอย่างที่โม้เอาไว้หรือเปล่า
“ชิล แพ็คกระเป๋าไว้เลย”
“มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“เออดิ ไปหาอะไรกินก่อนป่ะ”
“แล้วแต่ กูยังไงก็ได้” เธอกล่าว อีกคนก็เลยแวะร้านขนมหวานใกล้ ๆ กับมหา’ ลัย นั่งกินสักพักก็ไปส่งแพงพวยที่หอ
“ของเยอะป่าววะให้กูไปช่วยยกไหม” วันนี้แพงจะกลับบ้านที่อยู่ชานเมืองโดยมีชานนท์ไปส่ง
“ไม่เยอะหรอก” เธอหายไปครู่หนึ่งแล้วกลับมาพร้อมกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ
และก็ขับรถออกจากหอพักของเธอ ชานนท์เคยไปบ้านของแพงพวยก็จริงแต่ก็ไม่ได้บ่อยนัก
“มึงมาอยู่บ้านแล้ว ถ้ากูคิดถึงมาหาได้ไหมวะ”
“ได้แหละ แต่ผู้ใหญ่อยู่เยอะ กูเกรงใจวะ มึงเข้าใจกูใช่ไหม” แพงพวยเป็นเด็กกำพร้า พ่อกับแม่แยกทางกันไปตั้งแต่เธอยังเด็กแล้วและต่างคนก็ต่างไปมีครอบครัวใหม่ คนที่ส่งเสียเธอคือตากับยายและป้า
“กูเข้าใจมึงอยู่แล้ว กูโทรหามึงบ่อย ๆ ได้ไหมวะ มึงจะรำคาญไหม มึงจะว่างคุยกับกูหรือเปล่า มึงจะหายไปไหนไหม”
“อย่ามาเว่อร์ กูแค่กลับบ้าน”
“ไม่แค่ดิ ก่อนหน้านี้กูก็เจอหน้ามึงทุกวัน ไม่ให้คิดถึงได้ไงวะ”
“เปิดเทอมก็เจอกันเถอะ”
“โทรหากูบ่อย ๆ นะพวย อย่าหายไปไหน”
“เออหน่า กูจะหายไปไหน” เธอว่าเสียงเบา
เมื่อถึงบ้านแพงพวยชานนท์ลงมาทักทายญาติผู้ใหญ่ของเธอ สักพักเขาก็ขับรถกลับบ้านของตัวเองที่อยู่ในตัวเมือง เป็นเส้นทางที่เขาคุ้นเคยดีเพราะบ้านเก่าเขาอยู่ที่นี่
ที่เขาย้ำนักย้ำหนาเพราะกลัวเธอจะหายไปอย่างที่เคยเป็น เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ปฏิบัติกับเขาช่วงหลัง ๆ มานี้มันคืออะไร เป็นแฟนกันมาปีกว่า ๆ จะสองปี เพิ่งจะยอมไปไหนมาไหนด้วยแบบสองต่อสอง เพิ่งจะยอมให้มาส่งที่บ้านแบบไม่บ่ายเบี่ยงเหมือนทุกที ทุกอย่างก็เหมือนเดิมก่อนคบ ยังเป็นชานนท์ที่หมั่นโทรหาเธอก่อนอยู่ฝ่ายเดียว ยังเป็นชานนท์ที่คอยชวนไปนั่นไปนี่ไม่งั้นก็คงไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน มีสถานะก็จริงแต่ชานนท์เหมือนได้แค่สถานะแต่ยังไม่ได้ใจเธอ แพงพวยกลัวอะไร กลัวชานนท์เกินเลย หรือกลัวใจตัวเองกันแน่
เขาขับรถกลับบ้านในชุดนักศึกษาที่ยังไปเปลี่ยน ในรถมีกระเป๋าหนึ่งใบ
“พี่นนท์ ได้กลับสักที แม่บอกพี่นนท์ติดสาว”
“ไอ้เนม แก่แดดจริง ๆ มึง”
“แหม กูก็สิบแปดแล้วไหม จะปีหนึ่งแล้วพี่”
“ไหนแม่วะ”
เนมน้องชายคนเดียวของชานนท์อดใจไม่ได้ที่จะแซว เพราะนนท์เล่นลงรูปคู่ในโซเชียลเต็มไปหมด แม้กระทั่งรูปโปรไฟล์ก็ยังเป็นรูปคู่แทบแยกไม่ออกว่าใครเล่นกันแน่ถ้าไม่อ่านชื่อ
“หลังบ้านมั้ง ไปดูดิ”
ชานนท์เดินไปหาแม่ที่หลังบ้าน
“แม่ หวัดดีครับ”
“โอ้ย จะตะโกนอะไรขนาดนั้นล่ะลูก” ชานนท์เล่นตะโกนแทบลั่นบ้าน
“คิดถึงแม่” ชานนท์ว่าแล้วเดินไปกอด
“ไม่พาแฟนมาเจอแม่บ้างล่ะลูก” จะว่าไปแพงพวยยังไม่เคยยอมมาเจอครอบครัวของนนท์เป็นกิจจะลักษณะเลย ชานนท์เคยพยายามหว่านล้อมแล้วแต่ไม่สำเร็จ เอาแต่บอกว่าเขินยังไม่พร้อม
“เค้าบอกเขิน ยังไม่กล้ามาเจอ” ชานนท์วพูดแล้วยิ้มอย่างเขิน ๆ
“จะมาเป็นลูกสะไภ้แล้วเขินได้ยังไงกัน ไอ้เด็กพวกนี้นี่”
“แล้วเราพอจะว่างไหมปิดเทอมก็ไปช่วยดูงานพ่อหน่อยแล้วกัน ถ้าว่างนะ” บ้านของชานนท์ทำธุรกิจขายส่งเสื้อยืด ซึ่งมีหลายสาขามากนั่นเป็นสาเหตุที่นนท์เลือกเรียนบริหาร
“ก็ว่างอยู่แล้ว”
“แล้วไอ้เนมมันเรียนต่อไหนแม่”
“เองไม่ถามมันล่ะ”
“ขี้เกียจคุยเรื่องมีสาระกับด้วย มันกวน”
สักพักชานนท์ก็เดินขึ้นห้องแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดูหวังว่าจะมีข้อความจากแพงพวยแต่ก็ว่างเปล่า ไม่มีสายเรียกเข้า ไม่เป็นห่วงกันบ้างเลยหรือไง ขับรถ ไป-กลับ ตั้งไกล ไม่ถามหน่อยเหรอ ว่าถึงบ้านหรือยัง เหนื่อยหรือเปล่า จะไม่ว่างจนพิมพ์ข้อความสั้น ๆ ส่งหากันไม่ได้เชียวเหรอ ไม่พ้นเป็นชานนท์ที่เริ่มบทสนทนาก่อนอีกเช่นเคยเพราะคิดถึงเธอ ครั้นจะน้อยใจจะแกล้ง ๆ หายไปก็กลัวเธอไม่ตาม
บีม:ร้านเหล้าที่เก่าที่เดิมหน่อยไหมสหาย
ชานนท์: เออ ๆ เจอกัน
เป็นข้อความจากไอ้บีมเพื่อนซี้ของเขาอีกคน ทักมาทีไรไม่พ้นร้านเหล้า ชานนท์ไม่ได้จะไปดื่มหรอก ไปเจอเพื่อนเฉย ๆ แหละ
อยู่ไกลกันแม้เธอจะไม่ค่อยจะติดต่อมาก็รายงานตลอดว่าจะออกไปร้านเหล้านะ แต่ไม่ดื่มหรอก แค่อยากไปเจอเพื่อนเฉย ๆ
แพงพวย: อย่าเมานะเว้ย ถ้าเมาห้ามขับรถเอง
กว่าเธอจะตอบกลับมาก็สามสี่ชั่วโมงแล้ว ได้แต่เข้าข้างตัวเองว่าเธออาจจะยุ่งอยู่ก็ได้
ชานนท์: ไม่ได้ดื่มหรอก
ดึก ๆ ชานนท์ก็แต่งตัวออกไปข้างนอกตามที่นัดกับสองสหายเอาไว้ เสื้อเชิ้ตฮาวายตัวโคร่ง สร้อยเส้นโปรดที่ใส่ติดตัวประจำ กับน้ำหอมอ่อน ๆ หน้าตาดีอยู่ในระดับที่เดินสวนใครก็ต้องเหลียวมอง
“โอ้โหชานนท์ แต่งหล่อไปหาสาวอีกแล้ว”
“พูดมากไอ้เนม ดึกดื่นมืดค่ำเมื่อไหร่มึงจะนอน ดูซีรี่ย์เหรอวะ”
“ดูซีรีย์อะไร กูเล่นเกมส์”
ขับไปสักพักก็ถึงที่นัดกันเอาไว้
“ถึงนานยังวะ” นนท์ถามสองคนที่มาถึงก่อน
“ก็สักพัก แต่เมื่อกี้กูเจอเฟรมเดินเข้าไปวะ เปลี่ยนร้านป่ะ” เต้ว่า
“เปลี่ยนทำไม เราก็อยู่ของเราป่าววะ” นนท์กล่าว
“มึงแน่ใจนะนนท์” บีมย้ำ
“แน่ใจดิ” นนท์ว่าเสียงเรียบ