เสียงของเขาทำให้สะดุดหู รูปลักษณ์ของเขาทำให้สะดุดตา อยากเจอพี่เขาตัวจริงสักครั้งจัง พี่เสียงเพราะคนนั้น...
รัก,ผู้ใหญ่,วัยว้าวุ่น,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Chapter 2 วันรัก...วันลา
เสียงเพลงเราและนายของ เสก โลโซ ดังขึ้น ที่ถูกนำมาขับร้องโดยนักร้องโรงเรียนกับบรรยากาศวันรักวันลามีทั้งสนุกสนานและซาบซึ้ง มีรุ่นน้องมอบดอกไม้และของขวัญให้แก่รุ่นพี่ มีการบูมให้รุ่นกับพี่ ม.6 บรรยากาศที่ดีใจว่าจะจบมัธยมแล้วแต่อีกใจก็ใจหายเหมือนกันที่ต้องไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับสังคมใหม่ ๆ แต่เบลอ่ะเรียนที่เดียวกันกับแป้งสมหวังดั่งใจหมายทั้งคู่คือคณะครุศาสตร์ สาขาภาษาไทย เพราะเราสนิทกันมีความสนใจหลาย ๆ อย่างเหมือนกัน อีกอย่างคือสนใจคณะเดียวกันและสาขาเดียวกันอีกต่างหาก เพื่อนหลายคนก็เริ่มทยอยสอบติดกันแล้วเช่นกัน บ้างก็สมหวัง บ้างก็ผิดหวัง แต่ท้ายที่สุดก็ต้องเลือกทางใดทางหนึ่งให้ตัวเอง ชีวิตก็แบบนี้แหล่ะ ไม่เป็นไปดั่งใจซ่ะทุกอย่างหรอก
“แป้งจะเบื่อเราไหมน้า เรียนด้วยกันมาตั้ง 6 ปีแล้ว ไปมหาลัยก็เจอกันอีก” เสียงใส ๆ เอ่ยถามเพื่อนซี้ของเธอ
“เบื่อ” แป้งพูดอย่างแกล้ง ๆ อมยิ้มจนแก้มปริจนเบลหน้าเสีย
“เห้อ เพื่อนดี ๆ อย่างเรา จะหาที่ไหนได้อีกน้า” เบลรู้ว่าแป้งล้อเล่น เธอเลยแหย่กลับบ้าง
“นั่นสิ จะหาเพื่อนดี ๆ เหมือนเบลได้ที่ไหนอีกนะ” เธอว่าพร้อมโผกอดเบล
“อ้าว! ซึ้งเฉย เราปรับอารณ์ไม่ทันแล้วเนี่ยะ”
“ก็พูดเรื่องจริงนี่นา” แป้งว่า
“ตกลง แป้งว่าไง เรื่องที่ตกลงกันไว้ สนใจไปสอนหนังสือน้อง ๆ กับเราป่าว ทำแก้เหงาไป ยายเรามีค่าขนมให้ด้วยนะ คิคิ”
“ไปสิ เราคุยกับที่บ้านแล้ว”
“เย้ ๆ ๆ เราจะไม่เหงาแล้ว จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน”
ที่แป้งยอมไปสอนกับเบลอีกหนึ่งเหตุผลก็อยากไปอยู่เป็นเพื่อนเบลนี่แหล่ะ เขารู้ว่าเบลยังเศร้าอยู่ อีกอย่างก็ปิดเทอมยาวเลยถือว่าได้ฝึก ได้ทดลองสอนไปในตัวเลยก็แล้วกันแต่ที่ตัดสินใจช้าหน่อยก็เพราะต้องไปนอนค้างที่บ้านเบลเพราะบ้านเราทั้งสองอยู่ไกลกันคนละอำเภอเลยหล่ะ ก็เลยต้องใช้เวลาเจรจากับที่บ้านพอสมควรเลยทีเดียว
เสียงกริ่งจากหน้าบ้านดังขึ้นเป็นแป้งเองที่มีพ่อขับรถมาส่ง
“ถ้าดื้อตีได้เลยนะครับคุณยาย” พ่อของแป้งพูดกับยายของเบล
“ไม่ต้องห่วงเลย อยู่กับแบบสบาย ๆ ตื่นสายได้ ไม่ต้องเกร็ง” ยายตอบกลับอย่างเป็นกันเอง แววตาที่ไม่บอกก็รู้ว่าใจดี แต่เคร่งกับบางอย่างเท่านั้น ไม่ได้ถึงกับตึงเครียดมาก
“งั้นผมกลับก่อนนะครับ ฝากด้วยครับ”
“ขอบคุณที่อนุญาตให้น้องแป้งมานะคะ ยัยเบลจะได้ไม่เหงา ไม่ฟุ้งซ่าน เข้าไปทานน้ำทานขนมก่อนดีไหมคะ”
“ยินดีมาก ๆ ครับ แต่ผมต้องรีบไปทำงานน่ะครับ ไว้โอกาสหน้านะครับ สวัสดีครับ” พูดพร้อมยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะ” ยายรับไหว้
สิ้นสุดบทสนทนาเบลพาแป้งเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บข้างบนห้องวันนี้มีสอนสองชั่งโมงช่วงเย็น ๆ ทั้งคู่เลยนอนดูทีวีกันสักพักก็มาเตรียมการสอนเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากเพราะเพิ่งผ่านสมรภูมิสอบมากมากมาย กำลังร้อนวิชาเลยก็ว่าได้
“วันแรกเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยไหมเด็ก ๆ ” ยายถามขึ้นขณะกำลังจะเดินเข้าครัวทั้งคู่สายหน้าเป็นการปฏิเสธ
“ตาสวัสดีค่ะ” แป้งทักคุณตาที่เดินเข้ามาในบ้าน วันนี้ตาไม่มีสอนก็เลยแวะไปดูสวนมะม่วงที่ได้ปลูกเอาไว้หลังบ้านทั้งวัน
“เด็ก ๆ วันนี้จะกินอะไรกัน” ยายถามขึ้นอีกครั้ง
“หนูอยากกินไข่เจียวค่ะ” เบลตอบ
“ทำไมอยากกินของยากจัง” ยายตอบพร้อมเสียงกึ่งขำ
“แล้วแป้งหล่ะลูก ไม่ต้องเกรงใจนะ ตามสบายเลย” ยายรีบดักไว้ก่อนเพราะไม่อยากให้แป้งเกร็ง
“หนูอยากกินไข่ต้มค่ะ” แป้งตอบ
“อันนี้ยิ่งยากไปใหญ่” ยายตอบพร้อมกับขำเล็กน้อย
“พรุ่งนี้มีสอนเวลาเดิมนะเด็ก ๆ ตื่นสายได้” ยายว่าขณะอยู่บนโต๊ะอาหารมื้อเย็นที่บรรยากาศสบาย ๆ
“ยายของเบลนี่ใจดีกว่าที่คิดอีกนะ ปกติก็พอรู้อยู่บ้างทุกทีก็มาบ่อย ๆ ไม่เกร็งอย่างที่คิดเลย” แป้งว่าขณะนอนอยู่บนเตียงที่ห้องนอนของเบล
“ใช่ ใจดีสุดๆ เลยหล่ะ แต่แค่เป็นคนละเอียดเฉยๆ ตอนสอน” เบลว่า
“ถึงว่า เบลถึงได้เรียนเก่ง”
“ไม่ขนาดนั้นมั้ง”
“แหม เด็กทุนเลยนะ ไม่ธรรมดาแล้ว”
“อวยเกินไปแล้ว นอน ๆ ” เบลว่า
การทำตัวยุ่ง ๆ การมีแป้งมาอยู่เป็นแบบนี้ก็พอให้เบลคลายเศร้าได้บ้าง อีกอย่างก็ได้ช่วยตากับยายหารายได้อีกทางแม้จะสอบได้ทุนตามเป้าหมายก็ตามแต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกไม่น้อย ค่ำคืนนี้พอจะหลับได้ง่ายบ้างอาจจะเพราะเพลียกับการติวกับการใช้สมองในวันนี้ด้วยก็ส่วนหนึ่ง