เสียงของเขาทำให้สะดุดหู รูปลักษณ์ของเขาทำให้สะดุดตา อยากเจอพี่เขาตัวจริงสักครั้งจัง พี่เสียงเพราะคนนั้น...
รัก,ผู้ใหญ่,วัยว้าวุ่น,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Chapter 10 ดาวมหาลัย
สัปดาห์ถัดมาเป็นวันประกวดไม่ผิดคาดตำแหน่งดาวมหาลัยคือเบลอย่างที่ฟ้าได้อวยน้องรหัสคนนี้เอาไว้ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเบลก็ลงจากเวทีเดินไปหาแป้งกับขวัญที่กำลังยืนคุยกันอยู่ แต่ถูกคนร่างสูงเดินมาเรียกไว้เสียก่อน “เก่งมาก ยินดีด้วยนะ” บีเดินมาพร้อมดอกไม้ช่อโต “ขอบคุณค่ะ” เธอรับดอกไม้มาอย่าง งง ๆ ไม่ลืมกล่าวขอบคุณ ตกลงใครเป็นแฟนคลับใครกันล่ะทีนี้ เบลสถาปนาตัวเองว่าเป็นแฟนคลับบีทั้งทีไม่เคยฟังบีร้องเพลงสด ๆ เลยสักครั้งนอกจากตอนเฉลยว่าเป็นพี่รหัสของแป้ง กับร้องเพลงวันรับน้อง แฟนคลับที่เขินจะบอกเจ้าตัวว่าตัวเองเป็นแฟนคลับ มาขนาดนี้แล้วไม่บอกแล้วแหล่ะ
“เบล เบล ทางนี้” ทั้งแป้งและขวัญกวักมือเรียกเพื่อนหยอย ๆ
“อุ้ย… สวัสดีค่ะ พี่บี” สองรุ่นน้องถึงกับผงะที่เห็นบี รุ่นน้องในสาขาก็มีหลายคนอยู่นะ ทำไมให้ดอกไม้แต่ยัยเบล เริ่มเป็นปริศนา เรื่องนี้ยัยเบลต้องแถลงไข
“หวัดดีครับ” บีรับไหว้รุ่นน้องที่ทักทาย
“พี่ไปละนะ ไปหาเพื่อนเถอะ” บีว่าพร้อมเดินออกไปช้า ๆ
“โอเคค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” บีหันมาพยักหน้าอีกครั้ง
“อะไรยังไงเบลอย่ากั๊ก ปิดบังเพื่อนเหรอ” ก้าวเท้าไปถึงต่ำแหน่งที่เพื่อนอยู่ไม่ทันไรก็ถูกซักไซ้เสียแล้ว
“ก็เท่าที่เห็นเลย เรารู้เท่าที่ทุกคนรู้ ฮ่า ๆ ๆ ” เธอตอบอย่างอารมณ์ขัน
หลังจากเหนื่อยหน่ายกับวันนี้สามสาวตกลงร้านกันได้คือชาบูใกล้ ๆ มหา’ ลัย
“ตอนเบลอยู่บนเวทีนะโคตรเด่น เต้นเก่งมากอะ สอนเราบ้างได้ป่าว” ขวัญถึงกับเอ่ยชมเพราะไม่เคยเห็นเบลเต้นมาก่อน
“ฮ่า ๆ ๆ ได้เลย แป้งก็เต้นได้ อยู่วงโคฟด้วยกัน”
“แต่ไม่ได้เต้นนานแล้ว กระดูกกระเดี้ยวไม่รู้ยังไหวอยู่หรือเปล่า ฮ่า ๆ ๆ ” แป้งว่าอย่างอารมณ์ดี
“เออๆ เจ๋งอ่ะ”
หลังจากมื้อเย็นก็กลับอพาร์ทเม้นท์อย่างเคย วันนี้ขวัญกลับรถแป้งด้วย จากปกติขวัญจะขับรถไปเองหรือไม่ก็ไปกับแฟน แต่วันนี้ไปช่วยเบลทำนู่นทำนี่ก็เลยได้กลับด้วยกัน ระหว่างทางกลับฟ้าเริ่มมืดครื้มทันทีที่จอดรถที่อพาร์ทเม้นท์เหมือนท้องฟ้าจะถล่มลงมายังไงยังงั้น แป้งจับมือเบลไว้แน่น สีหน้าเบลไม่ไหวจริง ๆ
“ให้เรามานอนกับเบลไหม หรือมานอนห้องเรา” แป้งถามอย่างรู้ดีว่าเบลไม่ชอบหน้าฝน เป็นห่วงกลัวว่าจะคิดไปต่าง ๆ นา ๆ ส่วนขวัญยังไม่รู้ภูมิหลังเบลเท่าไหร่นัก แต่เห็นจากการจับมือ การปลอบก็รู้เพียงว่าเบลน่าจะไม่ชอบฝน
“แล้วแต่แป้งเลย” เบลตอบทั้งที่สีไม่สู้ดีนัก
“งั้นเรานอนห้องเบลละกัน ขวัญมานอนห้องเบลป่ะจะได้อยู่กันหลาย ๆ คน”
“ได้ ๆ ขวัญมานอนห้องเราไหม” เบลเอ่ยชวนสีหน้าออดอ้อน ถ้ามีเพื่อนก็คงจะดีกว่าอยู่คนเดียว
“ได้อยู่แล้ว”
เข้มแข็ง คือสิ่งที่เบลพยายามจะทำให้ได้แต่ใจกลับห่อเหี่ยวลงทุกทีเมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้องหรือเมื่อฝนตก ฝนตกก็มีข้อดีนั้นเบลเองก็รู้ดีแต่วันฝนตกในวันนั้นเป็นวันที่เธอสูญเสียโลกทั้งใบไป พยายามเข้มแข็งแค่ไหนก็ยังมีใจหวิว ๆ ทุกทีเลย โชคดีที่มีเพื่อนดี ๆ อย่างแป้ง และขวัญเพื่อนใหม่ มิตรภาพใหม่ก็พร้อมเคียงข้างและใจดีกับเบลไม่น้อย ทั้งสามคนนั่งอยู่เป็นเพื่อนขณะที่ชุดนักศึกษายังไม่เปลี่ยนตราบฝนซาและไร้สนิทซึ่งเสียงฟ้าร้อง
“ไปเปลี่ยนชุดกันก่อนได้นะ ขอบคุณที่มาอยู่เป็นเพื่อนนะเราจะรีบดีขึ้น” เบลพูดขึ้นขณะไร้ฝนเม็ดเล็กเม็ดใหญ่ก็ตามหยุดลงหลังจากที่ทั้งเสียงฟ้าร้องโครมครามและเหล่าสายธารสาดกระเซ็นไปทั่วผืนดินราวกับฟ้าจะถล่มลง
“ไม่ต้องรีบค่อยเป็นค่อยไป อะไรที่รีบจะเหนื่อย” แป้งพูดอย่างเข้าใจเพราะบาดแผลจากการกลัวฝนของเบลแสนยิ่งใหญ่
“คิดถึงพ่อกับแม่จัง ฮือ ๆ ” น้ำตาที่กลั้นไว้ในที่สุดก็ล้นทะลักออกมาหยาดน้ำเปรอะขนตาเรียวยาวไหลอาบแก้มเนียนขาวจนหน้าแดงก่ำ เพื่อนรักโผกอดแน่น เพื่อนใหม่จับมือไว้อย่างแสดงว่าจะอยู่ข้าง ๆ ตราบจนเธอหยุดร้องไห้ อีกคนจับมือปลอบทั้งที่ยังไม่รู้ว่าเธอไปเจออะไรมาบ้าง เธอไม่ได้อยากปกปิดแค่ยังไม่อยากพูดอะไรเศร้า ๆ อยากเป็นคนที่สดใส แต่ทุกคนก็ย่อมอ่อนแอได้ไม่เสียหายแต่ถ้าบ่อยคงไม่ดี เพื่อนรักกอดกันกลมจนคนอ่อนแอจากหน้าฝนหายสะอื้น
“ดีขึ้นไหม” แป้งถามหลังจากคนร้องไห้หยุดสะอื้น
“ดีขึ้นเพราะมีแป้งกับขวัญ ขอบคุณมาก ๆ นะ” เธอพูดพร้อมปาดน้ำตาจนหายสนิท
เพื่อนทั้งสองคนนั่งอยู่อีกสักพักก่อนจะไปอาบน้ำอาบท่าที่ห้องของตัวเอง
“ทำไมเบลกลัวฝนตกหรือฟ้าร้องมากขนาดนี้ พอจะเล่าได้ไหม ถ้าเล่าไม่ได้ไม่เป็นไรนะ” ขวัญถามอย่างห่วงใยขณะเดินออกไปจากห้องของเบล
“เล่าได้ จำเรื่องกลอนที่เบลแต่งแล้วอ่านหน้าชั้นจนร้องให้ได้ไหม นั่นแหล่ะพ่อกับแม่เบลรถชนตอนหน้าฝนก่อนจะขึ้นปีหนึ่งนี้เอง” แป้งถือวิสาสะเล่าเรื่องนี้ให้ขวัญฟังกับคนที่หวังดีกับคนที่เป็นห่วงคงไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร
“โอโห เศร้าอ่ะ เท่านี้เบลก็เก่งมาก ๆ แล้ว”
“ใช่ เก่งมาก ๆ เลย” ทั้งคู่แยกย้ายกันไปอาบน้ำอาบท่าและกลับมาในชุดนอนกับเจ้าของห้องที่อยู่ในชุดนอนเช่นเดียวกันแต่ใบหน้าก็ยังบวมอยู่เลยแต่เดี๋ยวก็หาย สักวันหนึ่งเบลจะอยู่กับมันได้เอง