ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย
พอโดนแซวจนทุกคนชอบใจไปแล้ว พวกเขาก็กลับมาทำงานกันต่อ พวกเขาใช้เวลาเยอะเหมือนกัน เพราะต้องจัดเอกสารและหนังสือให้เป็นระเบียบ โพรทาเลียเสนอให้จัดหนังสือเป็นระเบียบและทำชั้นตารางสี่เหลี่ยมหลายช่อง เพื่อนำเอกสารแบบม้วนเอาไว้ขข้างในช่องสี่เหลี่ยม ไม่นานนั้นแม่ก็เข้ามาตรวจงานที่พวกเด็ก ๆ ทำกัน ทุกคนต่างมองคนเป็นแม่ว่าจะติดว่าอะไรหรือไหม พอแอนนาเบ็ธตรวจสอบเธอก็หันมาโอเคกับงานที่เด็ก ๆ ทำ ทุกคนต่างส่งเสียงดีใจกันยกใหญ่ที่ทำงานได้อย่างเสร็จไว้ก่อนจะถึงมื้อเย็น ทุกคนต่างรีบกันออกจากบ้านใหญ่เพื่อไปทานอาหาร เหลือแค่คีย์ที่กำลังแอบจ้องมองหนังสืออย่างพินิจว่ามีหนังสืออะไรน่าอ่านมั้ง แอนนาเบ็ธที่ดูชั้นหนังสืออย่างชอบใจอยู่นั้นก็หันไปหาทางเด็กชายที่กำลังยืนมองหนังสืออย่างตั้งใจ จนเธอนึกสิ่งที่สัญญากับเด็กชายไว้ เธอเลยเดินไปหาอีกฝ่าย
“วันเดอร์เลอร์...”
“อ๊ะ...?” โพรทาเลียหันไปหาแม่ทันที “มีอะไรเหรอขอรับ?”
“ขอโทษนะ...ฉันลืมไปว่าตัวเองสัญญาว่าจะให้เธออ่านหนังสือ แต่เธอต้องไปทานอาหารก่อนนะ”
“อ๋อ...จริงด้วย...งั้นไว้ครั้งหน้าก็ได้นะขอรับ...”
“เอ่อ...งั้นเอางี้ เธอยืมหนังสือไปละกัน อยากได้กี่เล่มก็เอาไป แต่ครั้งหน้าก็มายืมได้นะจ๊ะ”
“จริงเหรอขอรับ!!” โพรทาเลียมีสีหน้าดีใจมากๆ “งั้นข้าขอไปสัก 3 เล่มนะขอรับ”
“ได้จ้ะ” แอนนาเบ็ธยิ้มให้อีกฝ่าย
โพรทาเลียยิ้มร่าอย่างมีความสุขที่จะได้ยืมหนังสือที่ไม่เคยเห็นในปราสาทนรกนั้น เธอเลือกหนังสือที่สนใจไปสามเล่มก่อนจะหยิบลงใส่กระเป๋าคาดเอว ทำให้แอนนาเบ็ธจ้องมองอย่างสงสัยว่าเด็กชายมีกระเป๋าวิเศษคล้ายกับลีโอไม่มีผิด พอโพรทาเลียเลือกหนังสือได้ครบก็หันไปมองคนเป็นแม่ด้วยใบหน้ามีความสุข แอนนาเบ็ธเห็นก็พอใจกับใบหน้านั้นของเด็กชายทำให้เธออยากให้คนในบ้านร่าเริงแบบนี้จริง ๆ
“ขอบคุณที่ให้ข้ายืมหนังสือขอรับ คุณนายแจ็กสัน” โพรทาเลียเอ่ยขอบคุณแม่
“ก็แค่หนังสือนะจ๊ะ แต่ก็รักษาดี ๆ ล่ะ” แอนนาเบ็ธยิ้มแล้วลูบหัวอีกฝ่ายเบา ๆ
“อ๊ะ...อืมมมม!”
ฝ่ามือของคนเป็นแม่กำลังลูบหัวของเธออย่างอ่อนโยน ทำเอาโพรทาเลียเคลิ้มกับความรู้สึกที่คิดถึงนี้จนอยากให้แม่ลูบหัวเธอบ่อย ๆ ก่อนที่เธอจะกล่าวตอบกลับไป
“ขอรับ งั้นข้าไปก่อนนะขอรับ เดียวไปสายจะไม่มีอะไรทานพอดีขอรับ!”
“ได้เลยจ้ะ โชคดีนะ วันเดอร์เลอร์” แอนนาเบ็ธกล่าวลาอีกฝ่ายตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
โพรทาเลียโค้งตัวให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินออกไปห้องนั้นไปในทันที เธอมีความสุขมาก ๆ ที่ได้ยืมหนังสือ แล้วก็มีความสุขที่ได้ให้แม่ลูบหัวตั้งสองครั้ง โพรทาเลียกระโดดโลดเต้นไปมาจนกระทั่งถึงเสียงหนึ่งดังขึ้น
“เดียวสิ! คีย์”
เสียงสองเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ทำเอาโพรทาเลียที่กระโดดโลดเต้นนั้นถึงกับไถลไปข้างหน้าทันที
“เฮ้ย!”
“พี่ชายไม่เป็นไรนะ?”
โพรทาเลียรีบลุกขึ้นมาตั้งตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเธอค่อย ๆ หันไปมองต้นเสียงที่อยู่ด้านข้าง เธอก็พบกับชายหนุ่มทั้งสองคนที่เธอยังไม่อยากเจออีกฝ่ายในเวลานี้เลยจริง ๆ
“อึ้ก!! พวกนาย!!” โพรทาเลียมองทั้งสองด้วยใบหน้าที่คิ้วขมวดอย่างสงสัยว่าทำไมทั้งสองยังอยู่ “ฟีนีอุส! มาร์โค!”
“ไง พี่ชาย!” มาร์โคยิ้มอย่างอ่อนโยนด้วยใบหน้าอันเป็นมิตร
“กำลังจะไปทานอาหารสินะ” ฟีนีอุสพูดขึ้นก่อนจะเดินมาใกล้ๆ คีย์ “งั้นไปกับฉันเถอะนะ”
“พวกเรา!” มาร์โคกล่าวขึ้น
สายตาของทั้งสองจ้องมองกันอย่างไม่ชอบใจกันทันที ทำเอาโพรทาเลียทำสีหน้าอย่างไม่ชอบใจและรู้สึกตึงเครียด ถ้าทั้งสองอยู่ด้วยกัน แต่ว่าก็ต้องยอมไปกับทั้งสองคนตลอดทางเดินนั้น เธอโดนทั้งสองหนุ่มยืนขนานข้างคนละฝั่งจนเธอรู้สึกเหมือนแซนด์วิชไม่มีผิด เดินไปตามทางนั้นโพรทาเลียก็ใช้สายตาจับจ้องชายสองคนอย่างพินิจก่อนจะมีคำถามนึกที่เธอสงสัยพอดี เธอก็หันไปหาฟีนีอุส
“นี่ เกรซ…”
“ฟีนีอุส!” ฟีนีอุสหันมาย้ำกับชื่อของเขา
โพรทาเลียทำหน้านิ่งทันที “เอ่อ...ฟีนีอุส”
“มีอะไรเหรอ?” เขายิ้มให้คีย์ทันที
“ข้าสงสัยอย่างนะ” โพรทาเลียเริ่มทำหน้าซีเรียสขึ้น
“อืมๆ” ฟีนีอุสมองแล้วพยักหน้าทันที
“นายมาทำอะไรในบ้านใหญ่นะ! ?”
เพียงแค่คำถามเดียวของเธอ ทำให้ฟีนีอุสหยุดเดินในทันใด จนมาร์โคจ้องมองอีกฝ่ายอย่างสงสัยว่าเป็นอะไร ฟีนีอุสพึ่งนึกได้ว่าตนไปทำอะไรที่บ้านใหญ่
“ซวยแล้ว!! ฉันจะรายงานเรื่องออกไปข้างนอกนี่น่า!!” ฟีนีอุสถึงกับย่อตัวนั่งลงกับพื้นทันที แล้วเขาลุกขึ้นอีกครั้ง “งั้นฉันไปก่อนนะ! ไม่งั้นคุณเพอร์ซีย์เล่นงานแน่ ๆ มาร์โค ครั้งนี้ฉันยอมให้นายไปกับคีย์ แต่ครั้งหน้าไม่มีแน่ ๆ !!”
ฟีนีอุสคาดโทษกับอีกฝ่ายไว้ ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งกลับไปบ้านใหญ่อย่างรวดเร็วจนทั้งสองคนที่อยู่ตรงนั้นจ้องมองอย่างงุนงงว่าอีกฝ่ายต๊องแค่ไหนถึงลืมงานของตนเอง
“ทำไมรู้สึกว่าฟีนีอุสเขาต๊องๆ ยังไงชอบกล” โพรทาเลียพูดขึ้น
“ถ้าต่อหน้าคนอื่นนะ เขาเป็นคนสุขุม มาดเข้มมากกว่านี้น่านะ แต่พออยู่ข้างคนที่ชอบ เขาน่าจะแสดงอีกมุมของตัวเองออกมามากกว่านะ”
“หือ?” โพรทาเลียสงสัยกับคำพูดของมาร์โคก่อนจะมองอีกฝ่ายแล้วเอียงคอแบบสงสัย “คนที่ชอบเหรอ?”
“ก็นะ...” มาร์โคพูดจบก็เดินต่อทันที
โพรทาเลียยังยืนงงว่าน้องชายหมายถึงอะไร ระหว่างที่คิดนั้นมาร์โคก็เดินนำไปก่อน เธอก็รีบวิ่งตามอีกฝ่ายจนมาเดินอยู่ข้าง ๆ ระหว่างที่เดินกันไปนั้นสายตาของโพรทาเลียก็มองน้องชายของเธอที่ตอนแรกเธอไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะเป็นน้องชายคนสุดท้องของบ้านที่ตอนนี้กลายเป็นเด็กหนุ่มตัวสูงไปแล้ว ตัวเธอตอนนี้อยู่แค่หน้าอกของเขาเอง ทำเอาเธอหงุดหงิดเลยจริง ๆ ที่น้องชายสูงเกินเธอไปแล้ว แต่ก็น่าเสียใจที่ไม่ได้ดูการเติบโตของน้องชาย แต่ตอนนี้เธอได้อยู่ข้างน้องชายก็มีความสุขมาก ๆ แล้วล่ะ พวกเขาเดินไปตามทางจนจ๊ะเอ๋กับสองคนที่โพรทาเลียไม่นึกว่าพวกเขาจะมาด้วยกัน
“หือ? พี่!!” โพรทาเลียหันไปเจอกับลิซ่าที่กำลังเดินมา
“อ๊ะ!! คีย์!!” ลิซ่าถึงกับตกใจที่โพรทาเลียเอ่ยเรียก
โพรทาเลียมองเทพีก่อนจะเห็นคนที่อยู่ข้าง ๆ ก็คือพี่ชายของเธอ ทำเอาเธอขมวดคิ้วอย่างสงสัยเลยว่าทำไมสองคนนี้มาด้วยกันได้ยังไง
“ทำไมทั้งสองคนถึงมาด้วยกัน!?” โพรทาเลียยกคิ้วถามอย่างสงสัย
“ก็บอกแล้วไงว่าจะมาคุยกับโอราอุสนะ แต่ก็...” ลิซ่าตอบกลับไป สายตาก็มองไปทางโอราอุสด้วยสีหน้าแดง ๆ
โอราอุสก็มองตอบก่อนจะหันหน้าหนีด้วยสีที่แดงก่ำเช่นกัน โพรทาเลียจ้องมองอย่างรู้สึกแปลก ๆ ระหว่างสองคนนี้ขึ้นมา ก่อนที่เธอจะเขยิบเข้าหาพี่ชายของเธอด้วยสีหน้าซีเรียส
“พี่โอราอุสไม่ได้ทำอะไรพี่สาวข้านะ!?”
“เย้ย!!”
โอราอุสตกใจที่น้องสาวยืนหน้าเข้ามาประชิดกับเขา แล้วเสียงของเธอนั้นเปลี่ยนไปเหมือนปีศาจกำลังเอ่ยถาม ทำเอาเขากลัวขึ้นมา แล้วยิ่งรอบตัวของโพรทาเลียกับมีออร่าสีดำม่วงปะทุขึ้น
“เดียวคีย์!! ฉันไม่ได้ทำอะไรลิซ่านะ สาบานได้เลยนะจริงไหม? ลิซ่า”
“ใช่ ๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!”
“แน่นะ?” โพรทาเลียมองจ้องแบบไม่ไว้ใจ
“จริงสิ นายจะโกรธอะไรกันล่ะ จริงสิพวกนายสองคนอยู่ด้วยกันแปลว่ามาร์โคบอกนายแล้วสินะ?”
“บอก? บอกอะไร?” โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าพี่ชายกำลังพูดถึงอะไร
มาร์โคเริ่มเหงื่อตกเมื่อพี่ชายของเขากำลังเปิดเผยบางอย่าง เขาค่อย ๆ เตรียมตัวหลบมุมอย่างช้า ๆ
“ก็มาร์โครู้เรื่องที่ว่าเธอเป็นใครแล้วนะ!”
สิ้นเสียงของพี่ชาย สีหน้าของโพรทาเลียถึงกับนิ่งเงียบไปในทันใด ก่อนที่สมองของเธอจะนึกย้อนไปก่อนหน้าว่าน้องชายแกล้งเธอตอนอยู่บ้านใหญ่ เพราะอีกฝ่ายรู้ว่าเธอเป็นใครนั้นทำให้เธอถึงกับคิ้วกระตุกอย่างเคือง
“อ๋อ...แบบนี้เองสินะ...” โพรทาเลียยกมือขึ้นมาหักนิ้วให้เกิดเสียงดังเป๊าะ เป๊าะ
มาร์โคได้ยินถึงกับสะดุ้งกับเสียงนั้น
“มาร์โคคคคค~” โพรทาเลียค่อย ๆ หันไปทางน้องชายที่อยู่ด้านหลัง “นาย...เล่นกับความรู้สึกพี่สาวตัวเอง สนุกมากไหมเอย!?”
“พี่...” มาร์โคเห็นสีหน้าของพี่สาว ใบหน้าของเขาตอนนี้ซีดเผือกในทันใด ก่อนที่เขาจะโดนพี่สาวกระชากคอเสียงทันที “อ๊ากกกกกกกกกกกกก!! ผมขอโทษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษ!!”
โพรทาเลียเอาคืนที่น้องชายแกล้งตั้งแต่อยู่ในห้องเอกสาร เล่นมากระซิบข้าง ๆ หู ส่งยิ้ม ไม่แม้กระทั่งเป็นหมาหวงก้าง ทำเอาโพรทาเลียโกรธน้องชายที่มาแกล้งเธอแบบนั้น แต่ก็ตกใจที่อีกฝ่ายรู้เรื่องเธอได้ยังไง จนเธอหันไปทางพี่ชายถึงเรื่องน้องชาย โอราอุสเลยจ้องบอกว่าในคืนที่เขารู้นั้นมาร์โคก็แอบตามเขาไป ทำให้รู้ว่าคีย์คือโพรทาเลีย
“แบบนี้นี่เอง ถึงได้เจ้ามาอยู่ข้าง ๆ ข้าสินะ มาร์โค” โพรทาเลียหันไปหามาร์โคที่โดยโพรทาเลียเล่นซะสะบักสะบอมไปเลย
“ครับ...ขอโทษที่ไม่บอก...แต่พี่ก็เหมือนกันนั้นล่ะ!!” มาร์โคใช้น้ำรักษาตัวเองทันที ก่อนจะเข้าใกล้พี่สาว “พี่น่าจะบอกพวกเราหน่อยก็ดี ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันมา 10 กว่าปี แต่พวกเราก็เป็นพี่น้องกันนะ!! พวกเรานะ...ถึงจะดูห่างเหินแค่ไหน...แต่ผมก็ยังรู้สึก...เหมือนสายใยระหว่างพี่น้องยังไม่เคยตัดขาดไปไหนเลยนะ...”
โพรทาเลียมองมาร์โคอย่างอึ้ง ๆ ที่เขาพูด เธอนึกว่าการหายของเธอ 10 ปีกว่าอาจจะทำให้พี่น้องของเธอห่างเหินกับเธอ แต่ว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยเหมือนกับพวกเขานั้นยังระลึกถึงตัวเธอตอนเป็นเด็กอยู่เหมือนเมื่อก่อนอยู่ ทำเอาโพรทาเลียยิ้มขึ้นมาในทันใด
“ฮิ ๆ ขอบใจที่พูดแบบนั้นออกมานะ มาร์โค” โพรทาเลียลูบหัวน้องชายเบา ๆ
“ครับ” มาร์โคยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะปล่อยให้พี่สาวลูบหัว
“เอาล่ะๆ พี่น้องก็กลับมาสนิทกัน งั้นเราไปทานอาหารกันดีกว่านะ”
“อ๋อ ลืมไปเลย!!” โพรทาเลียนึกได้ว่าต้องไปทานข้าวอีก “ขอให้วันนี้มีขนมปังทานนะ”
“อะไรกัน! โพรน้องจะเอาแค่นั้นเหรอ?” โอราอุสมองน้องสาวที่กินแค่ขนมปัง
“ท่านพี่ ข้าบอกแล้วนะว่าเรียกคีย์!” โพรทาเลียต้องกำชับเรื่องชื่อของเธอเมื่ออยู่ในเขตที่มีผู้คน
“อุ๊ย! โทษที!!” โอราอุสลืมตัวไปทันที
ระหว่างที่ทั้งสี่กำลังเดินไปยังโรงอาหารอยู่นั้น ก็มีคนหนึ่งที่เหมือนกำลังรอใครบางคนแอบมองทั้งสี่คนที่กำลังเดินผ่านจุดนั้นไป บุคคลนั้นจึงแอบอยู่หลังต้นไม้แล้วจ้องมองพวกเขาที่เดินออกไป สายตาของเขาจ้องมองคีย์ด้วยสายตาอันคิดถึงและโหยหามาก ๆ ในใจเข้าอยากเข้าไปใกล้ ๆ แต่เขาต้องเก็บความรู้สึกนั้นไว้เสียก่อน รอจนกว่าจะถึงเวลาที่เขาควรที่จะออกมาจากเงามืด
“ผมกำลังรออยู่นะ...โพรทาเลีย แจ็กสัน”
ตกเย็นโพรทาเลียก็ได้ทานอาหารอร่อยที่อร่อยมากโดยมีมาร์โคตักมาให้ทาน ทำเอาหลายคนมองอย่างสงสัยว่าน้องเล็กบ้านแจ็กสันเข้ามาเกาะแกะอะไรคีย์หนักหน้า โพรทาเลียก็ดีใจน่านะที่น้องชายสนใจเธอ แต่ทำนิสัยคล้าย ๆ พี่ชายตรงที่พอรู้ว่าคีย์เป็นใคร การแสดงออกนอกหน้ามาอย่างเร็วสุด ๆ พอทานอาหารเสร็จโพรทาเลียกำลังหาที่เงียบ ๆ ให้ตัวเองในค่าย เธอไม่รู้จะเอาจุดไหนเป็นที่สงบดี จนพี่โอราอุสสงสัยว่าน้องสาวกำลังคิดอะไรอยู่เลยเข้าไปถาม พอเขารู้ว่าโพรทาเลียต้องการที่เงียบ ๆ เขาเลยเสนอบ้านของตัวเองที่เขาเคยพาลิซ่าไปเมื่อตอนเช้า
“บ้านของพี่เหรอ?” โพรทาเลียมองที่ชายอย่างไม่น่าเชื่อว่าอายุเท่านี้เขาจะมีบ้านแล้ว “พี่นี่...โตขึ้นมากเลยนะ”
“หึ น้องก็โตขึ้นเหมือนกันโพรทาเลีย” โอราอุสลูบหัวน้องสาวเบา ๆ
“แล้วจะชวนคนบางคนไปด้วยไหม?” มาร์โคแอบมาเสนอหน้าในทันใด
โอราอุสหันไปหาเจ้าของเสียงที่จู่ ๆ ก็เข้ามาขัดในทันใด มาร์โคจ้องพี่ชายอย่างสงสัยว่ามีอะไรหรือ
“นี่!! ให้ผมไปด้วยน่า!!” มาร์โคขอด้วยใบหน้าอ้อนออด
ทั้งสองเห็นใบหน้าน้องชายขำออกในทันที ก่อนที่โพรทาเลียจะเดินออกจากทั้งสองคนแล้วไปหาลิซ่า
“พี่ลิซ่าไปด้วยกันไหม?”
“ไปสิ เพื่อจะได้คุยอะไรอีกน่านะ”
“อืม งั้นไปกัน!!” โพรทาเลียกอดแขนพี่ลิซ่าทันที
พอคุยกันเสร็จนั้นเธอก็ให้พี่ชายนำทางพาไปบ้านของอีกฝ่าย ทั้งสามคนก็ตามโอราอุสไปยังบ้านพักยามดึก ระหว่างที่ทั้งสี่เดินออกจากโรงอาหาร ก็มีบางคนจับกลุ่มซุบซิบกัรว่าทำไมบ้านแจ็กสันเริ่มจับกลุ่มอยู่กับเด็กใหม่กัน แล้วก็บางคนที่อยู่กลุ่มเดียวกับนูอัสก็มีความรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรระหว่างพวกนั้นแน่ ๆ ส่วนนูอัสจ้องมองแผ่นหลังของคีย์ ทำให้เธอไม่ชอบใจมาก ๆ เธอกำลังคิดแผนสำหรับกำจัดวันเดอร์เลอร์ในอนาคต เธอมีหลายแผนที่อยากใช้ เธอคิดไปก็ยิ้มไปจนออกนอกหน้าจนคนรอบ ๆ มองกันว่าเธอเป็นบ้าเหรอถึงยิ้มคนเดียว
ทางด้านพวกโพรทาเลียก็เดินไม่กี่นาทีจากโรงอาหารเดินตรงไปยังบ้านพักมนุษย์กึ่งเทพ แล้วตรงจนมาถึงจุดที่มีซุ้มขนาดใหญ่ที่มีป้ายเขียนไว้ว่า ‘โซนที่พักอาศัย’ โพรทาเลียเห็นก็นึกถึงแผนที่ที่โทมัสให้เธอในทันใดว่าจุดนี้อยู่ไม่ห่างจากบ้านพักเลย จนพี่ชายพาเธอเดินตรงเข้าไปข้างในก็มีบ้านอยู่ไม่กี่หลังภายในเขตนี้และแล้วโอราอุสก็พาพวกเขามาถึงบ้านของเขา
“ยินดีต้องรับสู่บ้านฉัน”
พอพี่ชายพูดแบบนั้นเธอก็เงยหน้ามองอย่างตกใจ “ว้าวววววววววววว!! นี่บ้านของพี่เหรอเนี่ย!!”
“ใช่แล้ว!! อุตส่าห์เก็บเงินตั้งแต่เด็กจนโตเลยล่ะ”
“นี่ล่ะ โอราอุส ลูกชายคนโตของบ้านแจ็กสัน ทำอะไรได้หมดทุกอย่างนั้นล่ะ”
มาร์โคมองบ้านพี่อย่างภูมิใจในตัวพี่ชายที่ทำได้ทุกอย่าง ตัวเขายังทำได้แค่เก็บเงินไปเรื่อย ๆ
“สุดยอด!” โพรทาเลียโคตรรู้สึกประทับใจพี่ชาย “แบบนี้พี่ก็ย้ายออกจากบ้านที่อยู่ในเมืองสินะ”
“เปล่านะ อยู่ข้าง ๆ นี้เองนะ” มาร์โคพูดพร้อมกับชี้ไปบ้านข้าง ๆ บ้านพี่ชาย
“ข้าง ๆ !?” โพรทาเลียหันไปมองตามที่น้องชายชี้ เธอก็เห็นบ้านที่คล้าย ๆ กับบ้านที่เธอเคยอยู่สมัยเด็ก “อย่าบอกนะว่า...”
“ข้างๆ บ้านของพวกเรานะ พี่โพร”
“เอ๋!!” โพรทาเลียตกใจทันทีที่ข้างๆ คือบ้านของเธอ “ทำไมบ้านเรามาอยู่นี้กัน!?”
“ก็เกิดเรื่องนิดหน่อยนะ ทำให้พ่อต้องย้ายบ้านมาอยู่ที่นี้นะ”
“เกิดเรื่อง!?” โพรทาเลียมองอย่างตกใจทันที “เรื่องอะไร! ?”
“ก็พวกปีศาจบุกมาที่บ้านนะ มาทำร้ายบ้านของเราจนเละ ตอนนั้นดีที่พวกเราอยู่กันครบเลยจัดการได้นะ”
“บุกมาที่บ้าน...”
พอพูดถึงคำว่าบุกบ้านนั้น ทำให้โพรทาเลียนึกบางอย่างขึ้นมาได้ว่ามีช่วงเวลาหนึ่งที่เธอไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก พอเธอนึกขึ้นมานั้นทำให้สีหน้าเธอดูตื่นกลัวและเคร่งเครียดขึ้นมา จนลิซ่าเห็นแบบนั้นต้องเข้ามาดูใกล้ ๆ
“โพรทาเลีย...”
โพรทาเลียตั้งสติออกจากภวังค์หันหน้าไปทางลิซ่า “ตอนนั้น...คงไม่ใช่...”
“ขอโทษนะ...นั้นคือคำสั่งของแซเทิร์น...พวกปีศาจก็ไปจัดการนะ...”
โพรทาเลียอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะทำสีหน้าอย่างไปพอใจ “บ้าบอสิ้นดี!!”
“ทั้งสองคนไม่เป็นไรกันนะ?” มาร์โคถามด้วยความสงสัย
โอราอุสรู้เลยว่าหมายถึงอะไร เขาเดินไปหาโพรทาเลียทันที “โพร...”
โอราอุสย่อตัวลงมองหน้าโพรทาเลียที่ซีดมากๆ เหมือนเธอขาดเลือดไม่มีผิด
“นั้นไม่ใช่ความผิดของน้องนะ นั้นเป็นความผิดของแซเทิร์นที่ส่งปีศาจมาทำร้ายพวกเรา แต่ทุกคนปลอดภัย เธอไม่ต้องเครียดอะไรนะ”
“แต่ว่าตอนนั้น...!!” โพรทาเลียเริ่มทำสีหน้าที่เคร่งเครียดมากขึ้น
โพรทาเลียนึกถึงเรื่องที่แซเทิร์นจะฝึกให้เธอแข็งแกร่งขึ้น แต่เธอไม่ทำตามจนเขาต้องเอาลูกแก้วหนึ่งออกมาแล้วสั่งให้ปีศาจออกไปจัดการครอบครัวเธอ ตอนนั้นเธอได้เห็นบ้านของเธอพังและครอบครัวบาดเจ็บ เธอโกรธมาก ๆ จึงยอมทำตาม แซเทิร์นยอมทำตาม เขาสั่งคนกลับมาทันที
“ถ้าตอนนั้นข้ายอมทำตาม...พวกพี่ ๆ น้อง ๆ แล้วท่านพ่อ ท่านแม่คงไม่ต้องบาดเจ็บแบบนั้นจริง ๆ” โพรทาเลียรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
มาร์โคเห็นพี่สาวมีน้ำตาไหลออกมา ทำให้เขาไม่ชอบใจเลยที่ไอ้เทพที่จับตัวพี่สาวไปเล่นลูกไม้แบบนี้กับพี่สาว ระหว่างที่พวกเขากำลังปลอบโพรทาเลียก็มีใครบางคนออกมาจากบ้านแจ็กสัน โอราอุสกับมาร์โคหันไปด้วยความตกใจ ก่อนจะเห็นคนที่พวกเขาไม่คิดว่าจะกลับมาบ้านแล้ว
“พ่อ!!”
เพอร์ซีย์คิ้วขมวดมองเด็กทั้งสี่คนยืนเกาะกลุ่มกันอยู่หน้าบ้านโอราอุส โพรทาเลียได้ยินก็รีบเช็ดน้ำตา เธอยังไม่กล้าหันไปหาพ่อ เพราะถ้าหันไปคงได้มีน้ำตาไหลเพิ่มแน่ ๆ
“นึกอยู่ว่าใครกันมาส่งเสียงดังอยู่นอกบ้าน” เพอร์ซีย์กอดอกมองลูก ๆ ของเขากับเด็กใหม่
โอราอุสกับมาร์โคมายืนข้าง ๆ กัน โดยช่วยบังโพรทาเลียที่กำลังร้องไห้อยู่ เธอรีบเช็ดน้ำตาของตัวเองโดยไว แต่มันก็ไม่ยอมหยุดไหลสักที
“ขอโทษทีครับ พ่อ พอดีพวกเราคุยอะไรกันนิดหน่อยนะ”
เพอร์ซีย์จ้องมองพวกเด็ก ๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย โอราอุสเห็นว่าถ้าอยู่นานกว่านี้ พ่อคงมีเรื่องได้ถามพวกเขาอีกเยอะแน่ ๆ
“เอ่อ...งั้นพวกผมขอตัวนะ ไปกันเถอะทุกคน ขอโทษทีรบกวนครับ พ่อ”
โอราอุสหันไปหาโพรทาเลียก็จะอุ้มเธอโดยไม่สนใจพ่อเลยสักนิด แล้วพาเข้าบ้านไปในทันใด คนอื่นก็ตามกันเข้าไปด้วยเช่นกัน ทำให้เพอร์ซีย์รู้สึกว่าเห็นอะไรแวบ ๆ ตอนลูกชายอุ้มคีย์ว่าเด็กชายคนนั้นเหมือนมน้ำตาไหลออกมา ทำให้เขาสงสัยว่าเด็กคนนั้นร้องไห้ทำไม แต่เขากับรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ ที่หัวใจ เขาส่ายหน้าอย่างงุนงงว่าช่วงนี้มีอารมณ์อ่อนไหวกับเด็กใหม่คนนี้ชอบกล เพอร์ซีย์เลิกคิดก่อนจะเดินกลับเข้าบ้าน
ทั้งสี่คนพากันเข้าบ้านมาเป็นที่เรียบร้อย โอราอุสก็อุ้มพาโพรทาเลียมานั่งที่โซฟาในห้องของเขา โดยที่ใบหน้าของเธอยังมีน้ำตาไหลอยู่ โอราอุสเห็นแบบนั้นก็หยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้น้องสาว ส่วนมาร์โคก็ไปแอบดูพ่อว่าออกไปจากบริเวณนี้หรือยัง พอเขาเห็นพ่อเดินเข้าบ้านก็โล่งใจไปเล็กน้อย
“เฮ้อ...ไม่นึกว่าพ่อจะกลับบ้านเร็วกว่าปกตินะเนี่ย” มาร์โคพูดจบเขาหันไปมองพี่สาวที่ยังร้องไห้อยู่ เขาถอนหายใจทันทีที่เห็นพี่สาวยังไม่เลิกร้องไห้
ลิซ่าเดินมาลูบหัวโพรทาเลียเบา ๆ เป็นการปลอบใจ เธอรู้ว่าโพรทาเลียนั้นอ่อนไหวแค่ไหน แต่พออายุเยอะความเครียดมันก็สะสมจนระเบิดออกมา พอโอราอุสเห็นว่าอีกฝ่ายดูแลน้องสาวเขา เขาก็เดินออกจากตรงนั้นไปห้องครัวทันที โพรทาเลียหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดน้ำตาของตัวเองทันที มาร์โคมานั่งตรงหน้าของเธอทันที
“นี่พี่...เรื่องมันก็นานแล้วนะ...พี่ไม่ต้องห่วงหรอกนะว่า พวกเรานะไม่เป็นอะไรหรอกนะ หลังจากวันนั้นพวกเราก็มีแต่ต้องฝึกเลยล่ะ ต้องขอบคุณเหตุการณ์นั้นนะ ทำให้ผมโตขึ้นมาได้ขนาดนี้นะ”
โพรทาเลียที่กำลังร้องไห้อยู่นั้น ลืมตาขึ้นมามองน้องชายของเธอก่อนที่เธอจะหยิกแก้มอีกฝ่าย
“อ๊าก!!”
“นายมันน้องชายหรือพี่ชายกันแน่! ?” โพรทาเลียจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่ชอบใจที่ตัวสูงกว่าเธอ
“ผมเจ็บนะพี่!!” มาร์โคจับมือที่สาวที่หยิกแก้มเขาอยู่
“งื้ออออออ!!” โพรทาเลียพ่องแก้มอย่างไม่พอใจน้องชายสุด ๆ
ไม่นานนักโอราอุสก็เดินกลับมาจากห้องครัว แต่แล้วเขาก็เห็นมาร์โคโดนโพรทาเลียหยิกแก้มอยู่จนเขาคิดเลยว่าทั้งสองทะเลาะกันหรือเปล่า ก่อนจะพูดเตือนออกไป
“ทั้งสองคนไม่ทะเลาะกันนะ!”
โพรทาเลียได้ยินเสียงเตือนของพี่ชาย ก่อนจะปล่อยมือออกจากแก้มน้องชาย
“โอ๊ย!” มาร์โคทรงตัวไม่ทันจนล้มลงไปกับพื้นทันที
“เปล่าทะเลาะสักหน่อย...”
“เจ็บ ๆ พี่นี่...หยิกเจ็บเป็นบ้า!!”
โอราอุสวางถาดลงก่อนจะเสิร์ฟบางอย่างที่ทำให้โพรทาเลียเห็นแล้วเกิดความสนใจในทันใด
“เค้ก...” ใบหน้าของโพรทาเลียเกิดเป็นประกายในทันใด
“ใช่ พี่ทำไว้เมื่อวานนะ พอดีไม่รู้จะให้ใครทานดี เลยคิดว่าให้พวกเธอกินดีกว่านะ” โอราอุสวางไว้ตรงหน้าของโพรทาเลียทันที “น้องจะได้หายเศร้าด้วยน่านะ”
โพรทาเลียมองพี่ชายก่อนจะยิ้มให้ “ขอบคุณเจ้าค่ะ...”
มาร์โคมองอย่างสงสัย “ผมว่าพี่ต้องกลับมาพูดแบบเดิมได้แล้วนะ”
“มาร์โคตอนนี้ไม่ใช่มาพูดเรื่องการพูดนะ” โอราอุสกล่าวเตือนน้องชาย
“คร้าบ ๆ” มาร์โคลุกขึ้นมาหยิบจานเค้ก แล้วมานั่งที่โซฟาเดียวแล้วนั่งทานเค้กอย่างสบายอารมณ์
โพรทาเลียจ้องเค้กก่อนจะหยิบส้อมขึ้นมาตักเค้กแล้วลองกินทันที “อื้อ! อร่อย!”
“ใช่ไหมล่ะ?” โอราอุสมองน้องสาวที่กำลังกินอย่างมีความสุข “เท่านี้ก็ไม่ต้องเศร้าแล้วนะ โพรทาเลียยังอยู่กับพวกพี่ ๆ น้อง ๆ อีกนะ”
โพรทาเลียมองพี่ชายก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่าย “ขอบคุณค่ะ พี่”
โอราอุสยิ้มแล้วลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ
“อย่างที่พี่โอราอุสพูดไปนะ พี่ยังมีพวกผมนะ พวกผมจะปกป้องพี่เอง” มาร์โคพูดเสริมขึ้นมา
พอโพรทาเลียฟังที่มาร์โคพูดถึงกับขำออกมา “คิกๆ”
“พี่ขำอะไรนะ!!” มาร์โคมองอย่างสงสัย พร้อมกับทานเค้กไปด้วย
“ฉันแค่สงสัยนะ นายนะรู้หรือเปล่าว่าพี่นะ มีพละกำลังแค่ไหนนะ” โพรทาเลียกลับมายิ้มร่าเริงอีกครั้ง ก่อนจะใช้สายตาเจ้าเล่ห์มองใส่น้องชาย
“อึ้ก!!” มาร์โคมองอย่างเครียดว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่
“พี่ว่าคนที่จะปกป้องใครนะ คงเป็นโพรทาเลียที่ปกป้องพวกเรามากกว่าน่านะ”
“เอ๋!!” มาร์โคมองพี่ชายอย่างสงสัย ๆ แล้วหันไปทางพี่สาวของเขา เธอยิ้มออกมามุมปากทันที ทำเอาเขาขนลุกเลยจริง ๆ
“แต่ก็สงสัยอยู่อย่างนะ...” โอราอุสพูดขึ้น
“อะไรเหรอเจ้าค่ะ?” โพรทาเลียถามขึ้น
“นายนะ มาร์โค!” โอราอุสหันไปถามมาร์โค
มาร์โคหันมามองทันที “อะไรเหรอ?”
มาร์โคหันไปก็กินเค้กไปด้วย โอราอุสก็มองอีกฝ่ายเอาแต่กินเค้กก่อนจะถามขึ้น
“นายมาแย่งโพรทาเลียกินเค้กนี้ กลัวกลับบ้านจะไม่ได้กิน เพราะนูอัสแย่งนายกินสินะ”
“อึ้ก!! พี่ก็รู้นี้ว่ายัยนั้นชอบแย่งผมกินนะ” มาร์โคอารมณ์ขึ้นทันที
“มันมีอะไรกันเหรอ? พี่โอราอุส”
“อ๋อก็...” โอราอุสกำลังพูดอยู่นั้น มาร์โคก็พูดแซงขึ้นมาทันที
“ยัยปีศาจนั้นชอบแย่งขนมของน้อง ๆ นะสิ ผมเลยไม่ได้ทานขนมเลยสักครั้งนะ”
“แย่จังเลยนะเจ้าค่ะ” ลิซ่าที่นิ่งเงียบมานาน ก็เริ่มพูดทันที
“ท่านพี่ไม่ค่อยพูดเลยนะ เจ้าค่ะ”
“ขอโทษนะ ไม่อยากขัดพี่น้องคุยกันเท่าไรนะ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ลิซ่า เธออยู่กับโพรทาเลียมานาน ก็ถือว่าเป็นคนในครอบครัวแจ็กสันเหมือนกันน่านะ”
“ครอบครัว...ครอบครัวแจ็กสัน”
“อืม ๆ ท่านพี่ก็เหมือนพี่สาวและแม่ของข้านะ” โพรทาเลียกอดแขนพี่ลิซ่าที่นั่งข้าง ๆ เธอ
ลิซ่ายิ้มออกมาทันที ทำให้โอราอุสที่มองอยู่ถึงกับเคลิ้มไปกับรอยยิ้มของลิซ่า เขาคิดในใจเลยว่าตัวเองจะบาปไหมที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังหลงรักลิซ่าอยู่ แต่เขาคงต้องเก็บความรู้สึกไว้ใจ ไม่ให้น้องสาวเขาหาเรื่องเขาเด็ดขาด รู้สึกโพรทาเลียจะชอบลิซ่ามาก ๆ เป็นใครจะยอมให้คนที่รักไปอยู่กับคนอื่นล่ะนะ
“งั้นมาร์โคก็ทานเค้กเยอะ ๆ ล่ะกัน”
“อืม! ขอบคุณครับพี่” มาร์โคยิ้มให้โพรทาเลีย แล้วทานเค้กต่อทันที
โพรทาเลียจ้องมาร์โค แล้วหันไปมองพี่ชาย เธอมองมาร์โคเท่าไรก็นึกว่าพ่อหรือไม่ก็พี่โอราอุส
“นายนี่เหมือนพ่อกับพี่โอราอุสไม่ผิดเลยนะ”
“แหะๆ ก็นะ มีแต่คนพูดแบบนั้น แต่การที่พี่สาวที่ไม่ได้เจอกันนานแบบนี้มาพูด ทำให้ผมเขินยังไงชอบกล” มาร์โคเกาแก้มตัวเองหน่อยๆ
โพรทาเลียเห็นอีกฝ่ายเขินทำให้เธอเขินไปด้วยเลย “เจ้าบ้า มาพูดกับข้าแบบนั้น คนเราก็...”
มาร์โคยิ้มออกมาทันทีที่เห็นว่าพี่สาวเขาเขินกับคำพูดของเขา เขาไม่คิดว่าตัวเองจะยิ้มออกมาได้อีก หลังจากที่เขาเจอแต่เรื่องแย่ ๆ ในชีวิตตอนเด็ก ๆ แต่การที่เขาได้เห็นพี่สาวเขาที่เคยทำให้เขายิ้ม เขาก็มีความสุขอีก เขาจะไม่ยอมปล่อยให้พี่สาวเขาออกจากครอบครัวเขาไปอีกแน่ ๆ โอราอุสมองน้องทั้งสองของเขา นี่ละครอบครัวเขา เขาจะไม่ยอมให้ใครมาพรากคนในครอบครัวของเขาไปอีกเช่นเดียวกัน โพรทาเลียที่มองน้องชายอยู่ก็หันไปมองพี่ลิซ่าที่นั่งเฉย ๆ ไม่แตะเค้กเลยสักชิ้น
“ท่านพี่ลิซ่าไม่ทานเค้กหรือเจ้าค่ะ?”
“อ๊ะ ไม่ล่ะ พี่ทานก่อนหน้านั้นแล้วนะ” ลิซ่าปฏิเสธทันที
“เอ๋ ทานก่อนหน้านั้น?” โพรทาเลียสงสัยทันที “หรือว่า...”
โพรทาเลียใช่สายตาหันไปมองพี่ชายของเธอ โอราอุสหลบหน้าทันที โพรทาเลียรู้เลยว่าพี่ชายเธอเอาขนมให้พี่ลิซ่าก่อนหน้าไปแล้วจริงๆ
“พี่ให้ท่านลิซ่าทานก่อนหน้านั้นแล้วจริง ๆ สินะ”
“แหะ ๆ ใช่แล้วล่ะ” โอราอุสยิ้มแห้งออกมา
โพรทาเลียจ้องมองพี่ชายไปกินเค้กไปจนหมดสองชิ้น ทำเอามาร์โคที่กำลังกินชิ้นแรกนั้นตกใจกับการกินของพี่สาวที่กินเค้กสองชิ้นหมดไปพริบตา
“พี่! ทานเร็วเกินไปแล้ว!!”
“หือ?” โพรทาเลียมองเค้กที่หายไปแล้วสองชิ้น “ก็ปกตินะ”
“ไม่ปกติเลยนะ พี่นี่เหมือนพี่โฟกัสไม่มีผิด”
“เหมือนก็ไม่แปลกนี้ มาร์โค ก็ฝาแฝดกันนี่น่า”
“ก็จริงนะ...” มาร์โคนึกถึงพี่สาวของเขาทั้งสองทันที “นิสัยคงเหมือนกันมากแน่ ๆ ยกเว้นแค่พี่โพรทาเลียดูเป็นผู้ใหญ่กว่า”
“แหะ ๆ” โพรทาเลยเขินที่น้องชม
ลิซ่ายิ้มอย่างชอบใจเธอเห็นด้วยว่าโพรทาเลียนั้นทำตัวเหมือนผู้ใหญ่มาก ๆ แต่ก็ยังมีความเป็นเด็กที่ต้องการให้ผู้ใหญ่ปลอบใจนั้นแหละ โพรทาเลียจ้องมองพี่น้องของเธอการที่พวกเขามาทำให้เธอมีความสุขนั้น มันช่างสุขใจเหนือกว่าอะไรบนโลกนี้จริง ๆ เธออยากใช้เวลาแบบนี้ไปนาน ๆ ได้หัวเราะ ได้พูดคุยกับคนที่เธอรัก หลังจากนั้นพวกเขาก็ทานเค้กจนหมดกัน เวลาตอนนี้ก็ดึกมากแล้วจนโอราอุสอนุญาตให้พวกโพรทาเลียค้างบ้านของเขา มาร์โคได้ยินก็ขอค้างด้วยคน ตอนแรกโอราอุสจะไม่ยอมแต่โพรทาเลียก็ขอให้พี่ชายยอม ๆ โอราอุสก็ยอมแล้วเตรียมไปจัดห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนโดยลากฟูกหนา ๆ มาวางบนพื้นที่วาง โพรทาเลียจ้องมองฟูกที่ว่าทำไมรู้สึกว่ามันดูนิ่มแบบแปลก ๆ จนเธอลองเอามือแตะ ๆ มันเด้งตีมือขึ้นมา โพรทาเลียจึงลองนอนลงบนฟูกนั้น ความนุ่มของเตียงปะทะกับตัวของเธอมันช่างนุ่มจนเหมือนร่างกายโดนฟูกนั้นดูดลงไป ใบหน้าของโพรทาเลียดูเคลิ้มและฟินกับฟูกนอนนี้
“อ๊า~ สบายจังเลยยยยย”
“สิ่งที่หนาๆ นี้ ดูนุ่มจังเลยนะ โอราอุส” ลิซ่ารู้สึกแปลกใจที่ได้ลองสัมผัสกับฟูกหนา ๆ นุ่ม ๆ จนน่านอนมาก ๆ
“มันคือฟูกนะ ฉันใช้เวลาที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากห้องนอนตัวเองนะ” โอราอุสเอาผ้าห่มและหมอนมาให้พวกเขา “อยู่บนเกาะนั้น โพรทาเลียคงไม่ได้นอนที่ดีๆ สินะ”
“เจ้าค่ะ นางได้นอนในห้องที่โล่งไม่มีของอะไรสักอย่าง นอนบนพื้นหินแข็งนะเจ้าคะ...อ๊ะ...” ลิซ่ากล่าวจบก็จะหันไปมองโพรทาเลีย แต่แล้วก็ต้องตกใจที่เด็กน้อยหลับไปแล้ว “ตายจริง...คงจะเหนื่อยสินะ หลับซะล่ะ”
โอราอุสได้ยินก็หันไปมองน้องสาวที่หลับไปแล้ว เขาเห็นก็ยิ้มอย่างชอบใจที่นอนสาวได้ แต่ในใจลึก ๆ เขาก็คิดบางอย่างเกี่ยวกับโพรทาเลีย ว่าถ้าเขานั้นมีพลังช่วยน้องสาวได้ตั้งแต่แรก น้องก็คงไม่ต้องลำบากจนมาถึงตอนนี้ ลิซ่าลูบหัวโพรทาเลียเบา ๆ ก่อนที่เธอจะเงยหน้ามองโอราอุสที่กำลังคิดบางอย่างอยู่ เธอเห็นใบหน้าอีกฝ่ายก็จับไปที่มืออีกฝ่ายในทันใด
“ตอนนั้นคุณยังเด็ก ถึงมีพลังก็อาจจะโดนลูกหลงได้นะคะ”
“อ๊ะ!!” โอราอุสอึ้งเลยที่อีกฝ่ายเหมือนรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร “เอ่อ...รู้ด้วยเหรอว่าฉันคิดอะไร?”
“ฉันเป็นเทพีนี่เจ้าค่ะ ก็ต้องรู้ล่ะคะ”
ลิซ่ายิ้มให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ทั้งสองต่างมองกันและกันอยู่สักระยะ ทำเอาคนที่ยังอยู่ตรงนั้นต้องกระแอมขึ้นมาในทันใด
“อะแฮ่ม! เกรงใจคนยังไม่นอนด้วย!!” มาร์โคเอ่ยพูดขึ้น
ทั้งสองคนต่างสะดุ้งทันที ลิซ่าก็ขอเตรียมตัวนอนทันที โอราอุสรีบออกมาเตรียมของต่อ มาร์โคจ้องมองสองคนนี้มันได้มีคู่รักเกิดขึ้นอย่างไม่ขนาดคิดจริง ๆ มาร์โคหยิบผ้าห่มเตรียมตัวนอนมั้ง ทางด้านโพรทาเลียนั้นหลับอย่างสบายใจแบบไม่เคยสบายใจแบบนี้มาก่อน เวลาผ่านไปเรื่อยจนมาถึงสี่ทุ่มก็มีเสียงหนึ่งที่รู้สึกคุ้นเคยส่งเสียงดังขึ้นข้าง ๆ หูของโพรทาเลีย
“นอนหลับสบายเลยนะ โพรทาเลีย” เสียงนั้นเอ่ยพูดกับโพรทาเลียแล้วจ้องมองอย่างสบายใจที่อีกฝ่ายนอนอย่างสบาย ก่อนจะบ่นบางอย่างออกมา "แต่ทำไมกัน!! ตอนนั้นน่าจะจัดการยัยปีศาจงูนั้นไปเลยนะ โพรทาเลีย"
โพรทาเลียได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กอย่างสงสัยว่าเสียงที่กำลังพูดกับเธอนั้นมันรู้สึกคุ้น ๆ ชอบกล แต่เธอก็ละเมอเอ่ยพูดออกไป
“จัดการไปก็มีแต่ปัญหานี่น่า...”
“แย่ ๆ โพรทาเลีย เดียวพลังของเธอจะถดถอยนะ ต้องฝึกแล้วล่ะ!! ต้องเก่งกว่านี้อีก แต่เธอก็เก่งอยู่แล้วนี่น่า...” เสียงนั้นตอนแรกก็ดูรุนแรงแต่ก็กลับมาเป็นเสียงเรียบนิ่งปกติ
“อืม ๆ เก่ง...หือ...” โพรทาเลียเริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังคุยกับใครกัน เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาดู "ฉันคุยกับใครกัน?"
โพรทาเลียยกมือขึ้นมาขยี้ตาของตน สายตาเบลออยู่สักระยะ แล้วเธอชายตามองรอบ ๆ ว่าเสียงมาจากไหน ก่อนที่ห่างตาจะเห็นอะไรสว่างบางอย่างอยู่ด้านข้าง เธอเลยหันไปมองข้าง ๆ หมอนนอนของเธอก็เห็นสิ่งมีชีวิตคล้ายคนแต่ตัวเล็กกว่าคนปกติ สายตาของโพรทาเลียถึงกับเปิดกว้างอย่างตะลึงที่เห็นสิ่งตรงหน้า
“ก็คุยกับข้าไงล่ะ!” เสียงอันสดใสของเฟอร์ร่าเอ่ยพูดขึ้นอย่างดีใจ
“หือ!!” โพรทาเลียลุกขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าตกใจ"เฟอร์ร่า!!”
“ใช่แล้วจ้า!” เฟอร์ร่ายิ้มร่าให้อีกฝ่ายอย่างสนุกที่ได้ออกมาเจออีกฝ่ายสักที
จบตอนที่ 12 โปรดอ่านตอนที่ 13 ต่อไป