ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง
โพรทาเลียจ้องมองเฟอร์ร่าอย่างตกใจแบบสุดๆ เมื่อได้เห็นเฟอร์ร่าในร่างที่เล็กแล้วน่ารัก ขนาดตัวอีกฝ่ายอยู่ที่ 1 ส่วน 2 เท่านั้น ทำเอาโพรทาเลียสงสัยในหลายๆ อย่างมากๆ แต่ตอนนี้เธอต้องถามอีกฝ่ายก่อนว่าทำไมอีกฝ่ายมาคุยกับเธอแล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี้กัน
“เอ่อ...ทำไมเจ้ายังอยู่ล่ะ?”
“หือ?” เฟอร์ร่าอึ้งกับคำถามของอีกฝ่ายก่อนจะขำออกมา “ฮ่าๆ เจ้าคิดว่าข้าไปสบายแล้วหรือ โพรทาเลีย ไม่เลยๆ ข้ายังอยู่ ข้าก็บอกเจ้าแล้วนะว่าข้าจะอยู่ข้างๆ เจ้านะ”
“เอ๋? เจ้าอยู่ข้างๆ ข้าเหรอ?” โพรทาเลียทำหน้างงกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
“ใช่แล้วล่ะ” เฟอร์ร่าพูดจบก็ลอยอยู่ตรงหน้าของโพรทาเลีย โพรทาเลียถอยตัวเล็กน้อยทันที “ข้านะ อยู่ข้างๆ เจ้า แต่เจ้าไม่เห็น เพราะว่าข้าไม่ได้ให้เจ้า ถ้าเจ้าต้องการข้าจะออกมาเองนะ”
“อ๋อ...แบบนี้เอง...” โพรทาเลียทำท่าเข้าใจทันที “อืม...ข้ายังมีอะไรอยากถามอีกนะ...แต่ว่า...”
ทั้งสองคนหันไปมองที่เหลือที่หลับอยู่ โพรทาเลียไม่อยากตรงนี้เท่าไร เพราะเธอกลัวว่าตัวเองจะเผลอตะโกนอะไรออกมาตอนตกใจเข้า โพรทาเลียลุกขึ้นแล้วใช้นิ้วกวักเรียกอีกฝ่ายให้ตาม เฟอร์ร่าเห็นก็ลอยตามอีกฝ่ายไปทันที โพรทาเลียพามาที่ห้องห้องหนึ่งก็คือ ห้องครัว โพรทาเลียรู้สึกหิวน้ำขึ้นมา เธอคิดว่าควรหยิบเครื่องดื่มมาดื่มด้วยระหว่างคุย เธอเดินไปที่ตู้เย็น เธอมองแล้วลูบเบาๆ นี้เป็นครั้งแรกในรอบอายุ 15 ปีของฉันที่สัมผัสสิ่งที่เคยเห็นตอนเด็กๆ อีกครั้ง เธอค่อยๆ เปิดประตูออกมา เธอสัมผัสได้ถึงความเย็นทันที
“อึ้ก! เย็นจัง...”
โพรทาเลียทำท่าสั่นนิดหน่อยก่อนจะมองหาเครื่องดื่ม เธอเห็นมีกล่องทรงสูงอยู่ข้างๆ ประตูตู้เย็น เธอลองหยิบขึ้นมาอ่านเธอเห็นมันเขียนว่า ‘น้ำส้ม’ โพรทาเลียเห็นแบบนั้นนึกถึงสมัยเด็กๆ ของเธอที่ได้ดื่มน้ำที่มีรสชาติหวานๆ เปรี้ยวทำให้สดชื่นมากๆ โพรทาเลียไปหยิบแก้วเล็กและใหญ่มาวางแล้วเทเครื่องดื่มลงในแก้ว พอเทลงมาก็มีน้ำสีส้มๆ ออกมา โพรทาเลียเห็นก็แปลกใจที่น้ำกลายเป็นสีส้มได้ เธอเก็บกล่องนั้นแล้ว ค่อยๆ เดินมานั่งที่เก้าอี้ เธอวางแก้วให้ตัวเองและให้เฟอร์ร่า
“อันนี้ของเจ้า เฟอร์ร่า” โพรทาเลียวางลงตรงหน้าของเฟอร์ร่า
เฟอร์ร่าที่ลอยตัวอยู่ ก็มองน้ำที่มีสีส้ม เธอสงสัยว่าอะไร ก่อนจะลองตัวเข้าไปใกล้ๆ แล้วยื่นหน้าลงไปดื่มทันที พอลิ้มรสแค่หยดเดียวเฟอร์ร่าถึงกับสะดุ้งตัวขึ้นมาทันที
“อืมมมมมมม!! สดชื่นจัง แถมหวานด้วย!!” เฟอร์ร่าตาเป็นประกายทันที เฟอร์ร่าถูกใจกับน้ำสีส้มนี้เธอก็ลอยตัวลงไปดื่มต่อทันที
“คิกๆ ดีใจที่เจ้าชอบน่านะ” โพรทาเลียมองเฟอร์ร่ากำลังดื่มน้ำส้มอย่างชอบใจอยู่
“โพรทาเลียเจ้านี้คืออะไรนะ?” เฟอร์ร่าโผล่หน้าออกมาจากแก้วทันที
“มันเรียกว่าน้ำส้มนะ”
“สีส้มอยู่แล้วชื่อก็เป็นน้ำส้มอีก แปลกดีจังนะ” เฟอร์ร่ายิ้มก่อนจะลงไปดื่มต่อ
โพรทาเลียขำสิ่งที่เฟอร์ร่าคิด ก่อนจะนึกเรื่องที่อยากถามอีกฝ่ายขึ้นมา
“เฟอร์ร่า...”
“อะไรหรือ?”
เฟอร์ร่าโผล่ออกมาจากแก้วทันที ตัวเธอเลอะน้ำส้ม เพราะว่าเผลอลอยตัวจนตกลงไปน้ำส้ม โพรทาเลียเห็นก็ส่ายหัวแล้วไปหยิบโหลบางอย่างมาแล้วใส่น้ำ เธอมาวางข้างๆ เฟอร์ร่าเห็นก็ชอบใจแล้วกระโดดลงไปเล่นน้ำทันที
“ขอบคุณนะ โพรทาเลีย แล้วเมื่อกี้เจ้าเรียกข้ามีอะไรหรือ?”
“คือ...ข้ากำลังเจอกับอะไร?” โพรทาเลียถามออกไป เพราะเธอยังไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเจอ
“อืม...” เฟอร์ร่าลอยตัวอยู่ในน้ำ เธอมองเพดานอย่างเงียบๆ “ข้าไม่รู้ว่าจะพูดว่าบททดสอบได้หรือเปล่านะ...แต่มันเหมือนบททดสอบที่เทพผู้ยิ่งใหญ่ต้องการให้เจ้าเจอ”
“เทพผู้ยิ่งใหญ่?” โพรทาเลียนึกว่าเทพผู้ยิ่งใหญ่นี่ใครกัน เธอก็นึกออกอยู่ 3 เทพ "หมายถึง 3 มหาเทพนะเหรอ?"
เฟอร์ร่าเปลี่ยนท่ามาลอยตัวแล้วมองโพรทาเลียทันที เธอส่ายหน้าเบาๆ “ไม่ใช่...เทพที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น เทพที่สรรค์สร้างทวยเทพขึ้น...”
“เคออส...”
เฟอร์ร่าพยักหน้าทันที “ใช่...เทพองค์นั้นทำอะไรก็ได้ นางเป็นเทพแห่งความโกลาหล…”
“แล้วทำไมนางอย่างทดสอบข้าล่ะ?”
“ไม่รู้สินะ...” เฟอร์ร่ามองอย่างเศร้า “แต่ว่าที่ข้ามาทดสอบเจ้าก็เป็นบททดสอบของเทพอีกองค์ด้วยเพื่อให้เจ้ารวบรวมพลังของเขาใหม่อีกครั้ง”
“เทพอีกองค์?”
“อืม ครั้งแรกที่ข้าเจอเขา เขาบอกว่าตนคือชาติแรกของพวกเราทั้งหมด เขาเป็นชายที่สง่างามมากๆ นามของเขามีนามว่า แองเจิล”
“แองเจิล!!” โพรทาเลยนึกถึงชายที่เธอเคยเจอในความฝันทันที “ตั้งแต่เข้าค่ายมา ข้ายังไม่เคยฟันถึงเขาเลย...”
“เจ้าเคยเจอเหรอ?” เฟอร์ร่าถามขึ้น
“อืม หลังจากอายุ 13 ปี ข้าเริ่มฝันขึ้นเขามากขึ้นนะ”
โพรทาเลียนึกถึงครั้งแรกเลยที่เจอกับแองเจิล ตอนนั้นเธอได้ยินแค่เสียง แต่หลังๆ เริ่มเห็นอีกฝ่ายยกเว้นใบหน้า แต่ล่าสุดที่เจอพึ่งเห็นใบหน้าของแองเจิลครั้งแรก และนามของอีกฝ่าย
“อืม...สักวันเจ้าจะได้เจอเขาอีกแน่ๆ”
“งั้นเหรอ...จริงสิ เจ้าบอกว่าเขากำลังรวบรวมพลังอยู่หรือ?”
“ใช่...พลังของเขา เมื่อก่อนพลังของเทพทั้ง13องค์ เคยเป็นพลังของเขาจนกระทั่งเขาตายแล้วส่งต่อพลังของเขาสู่เทพปัจจุบัน”
“ทำไมฟังแล้ว...ดูเศร้ายังไงชอบกล?”
“ใช่ เศร้ามาก...เขาเป็นบุตรแห่งโครนอสที่ยอมเสียสละตนเอง” เฟอร์ร่าพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าสร้อย เฟอร์ร่าเปลี่ยนสีหน้าทันที “แต่เราจะช่วยกันรวบรวมพลังทั้งหมดที่ถูกแยกออกจากร่างกัน”
“ทำไมข้าฟังแล้วแบบมันเหมือนไม่ได้มีแค่พลังเดียว?”
“ใช่ พลังของแองเจิลมีทั้งหมด 13 พลัง มันถูกแยกออกแล้วกลายเป็นร่างจุติใหม่ถึง 13 ตน”
“13 ตน!! ในตัวข้านะเหรอ?” โพรทาเลียมองเฟอร์ร่าอย่างตกใจ
“ไม่ใช่นะ ในตัวของเจ้ามีแค่ 7 ตน”
“แค่ 7 ตนเองเหรอ? แล้วอีก 6 ตนล่ะ?”
“อยู่กับอีกร่างของเจ้า!” เฟอร์ร่าพูดแล้วยิ้มมุมปาก
“อีกร่างเหรอ? หมายถึงอะไร? มีอีกคนที่เหมือนข้าเหรอ?”
“ใช่ เจ้าเคยได้ยินประโยคนี้ไหม สายเลือด 1 ใน 3 มหาเทพถือกำเนิดแฝดชายหรือหญิงคู่หนึ่ง ผู้ถูกเลือกเป็นร่างอวตาร!”
“เอ๋?” โพรทาเลียมองอย่างสงสัยทันที “นั้นคือ?”
“คำพยากรณ์เมื่อหลายร้อยปีก่อนนะ ข้าจำได้เท่านี้ล่ะ”
“งั้นเหรอ...แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ...เดียว...แฝด...เจ้าคงไม่หมายถึง โฟกัสหรอกนะ”
“ใช่ เจ้าทั้งสองต้องเป็นแฝดที่เกิดจากวิญญาณสุดท้ายของท่านแองเจิล แล้วมีพวกเราทั้ง 13 เป็นสื่อกลางนั้นเอง”
“เหอะๆ ทำไมฟังแล้วแบบพวกเราเป็นความหวังสุดท้ายเลยแฮะ...”
“ก็นะ” เฟอร์ร่าทำหน้าสีหน้าไม่ค่อยถูกเท่าไร “แต่ยังไงข้าก็เชื่อว่าเจ้ากับโฟกัสต้องทำมันได้ พวกเจ้าจะต้องรวบรวมพลังทั้งหมดได้แน่ๆ”
“อืม...ข้าคงทำอะไรไม่ได้ตอนนี้นอกจากรอให้การทดสอบเข้ามาหาตัวเองสินะ”
“ใช่ เจ้าก็ใช้ชีวิตให้คุ้มกับที่เจ้าเสียไป!!”
“ใช้ชีวิตให้คุ้มเหรอ?” โพรทาเลียนึกถึงเรื่องของเธอที่ไม่เคยได้สนุกมานานทำให้เธอคิดเลยว่าก็จริงที่เฟอร์ร่าพูดออกมา “จริงของเจ้าน่านะ...งั้นหลังจากนี้ข้าจะใช้ชีวิตให้คุ้มแบบสุดๆ”
“ดีมาก โพรทาเลีย!!”
โพรทาเลียหันไปยิ้มให้เฟอร์ร่าก่อนจะนึกได้ว่า ตอนนี้ดึกมาแล้วควรไปนอนกันได้แล้ว “ข้าว่าเรากลับไปนอนต่อดีกว่านะ”
“โอเคเลย!!”
เฟอร์ร่าออกมาจากโหลทันที เธอทำตัวให้แห้งทันที โพรทาเลียเก็บของทั้งหมดที่หยิบมาไปล้าง แล้วก็พาเฟอร์ร่ากลับไปนอน เฟอร์ร่าก็ตามอีกฝ่ายไปด้วยทันที พอโพรทาเลียเดินกลับมาที่ห้องนั่งเล่นที่พวกเขานอนกัน เธอมองอย่างดีใจที่เธอยังมีคนสนิทที่คุยด้วยได้ แต่มีภาพที่เห็นทำเอาเธอเคืองหน่อยๆ คือ พี่ชายเธอนอนกอดพี่ลิซ่า โพรทาเลียจ้องแบบไม่ชอบใจเท่าไรจริงๆ เธอแกะมือพี่ชายแล้วเขยิบพี่ชายไปนอนข้างๆ น้องชายทันที แล้วเธอก็นอนกอดพี่ลิซ่าทันที เฟอร์ร่าเห็นภาพทุกอย่างก็ขำดีที่เห็นอะไรแบบนี้ ก่อนที่เธอจะไปนอนข้างๆ หัวของโพรทาเลีย
เช้าวันต่อมา โพรทาเลียยังนอนอยู่บนฟูกอย่างสบายใจ โอราอุสตื่นขึ้นแต่เช้า เพราะเขายังมีงานต้องทำอีก เขามองทั้งสามคนที่ยังนอนอยู่ก่อนจะคิดว่าพวกเขาคงตื่นสายแน่ๆ เขาเลยเตรียมอาหารไว้ให้ทั้งสามคนไว้กินหลังจากตื่น เขาทำอะไรเสร็จก็ออกไปข้างนอกทันที ปล่อยให้ทั้งสามคนนอนหลับไป เวลาผ่านไปจนถึงเวลาช่วงสาย โพรทาเลียยังนอนกลับอยู่บนฟูกคนเดียว เธอนอนดิ้นไปมาจนเธอเริ่มรู้สึกว่ารอบๆ ตัวเธอนั้นไม่มีคนนอนข้างๆ แล้ว เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเธอมองข้างซ้ายข้างขวาว่าไม่มีใคร ก่อนจะเห็นนาฬิกาบอกเวลา เธอเห็นก็ตกใจทันที
“ตายแล้ว!! นี่ 8 โมงแล้ว!! ตื่นสายซะได้!!” หน้าตาของโพรทาเลียตกใจสุดขีด ก่อนจะลุกขึ้นพรวดพราดทันที
ลิซ่าที่อยู่ในห้องครัวได้ยินเสียงของโพรทาเลียเธอรีบออกมาก็เจอโพรทาเลียกำลังจะเดินออกไป
“โพรทาเลีย เดียวก่อน!!”
โพรทาเลียหยุดเดินแล้วรีบหันหลังไปมองทันที “พี่!! มันสายแล้ว อาหารตอนเช้ามันจะ...”
“ใจเย็นๆ โพรทาเลีย” ลิซ่าเดินเข้าไปทำให้โพรทาเลียใจเย็นๆ “ไม่ต้องห่วงนะ เรื่องอาหารเช้า โอราอุสทำเอาไว้ให้พวกเราแล้วนะ”
“จริงเหรอ?” โพรทาเลียมองอย่างสงสัย
“ก็จริงสิ” มาร์โคออกมาจากห้องครัวพร้อมกับจานอาหาร “อาหารที่พี่เขาทำนะ อร่อยนะ แถมพี่ไม่ต้องห่วงว่าทางค่ายจะสงสัยว่าพวกเราไปไหน เพราะยังไงพี่ก็ต้องบอกว่าเราทำอะไรอยู่นะ”
“งั้นเหรอ...” พอโพรทาเลียเข้าใจอยู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น “โครกกกกกกกก~~~~~”
ทั้งสองคนได้ยิน โพรทาเลียก็หน้าแดงทันทีที่ท้องของตนเองนั้นดังร้องขึ้นมา มาร์โคถึงกับกลั้นขำไม่อยู่จริงๆ
“ฮ่าๆ ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ มาเร็วพี่ มาทานอาหารกัน”
“นายยังไม่ได้กลับไปเหรอ มาร์โค”
“ยังอ่ะ ขี้เกียจเจอยัยปีศาจนั้นรังแกผมอีกนะ มันน่ารำคาญนะ” มาร์โคพูดแล้วเดินกลับมานั่งทานอาหารที่โต๊ะ
โพรทาเลียเดินตามแล้วมานั่งที่เก้าอี้ทันที
“งื้อ...มีอะไรน่าทานมั้งเนี่ย?” โพรทาเลียมองในจานเป็นมันบด ซอสเกรวี่ สเต๊ก ผัก “อืม...น่าทานจัง”
“ใช่ไหมล่ะ? ผมบอกแล้วว่าพี่เขาทำอาหารอร่อยมากๆ น่านะ”
“อิจฉาจัง ตอนอยู่กับแซเทิร์นกินแต่อาหารแย่ๆ ได้ทานขนมปังฝีมือเทพีอลิซ่าเบ็ธก็ถือว่าดีที่สุดแล้วล่ะ”
“โธ่ โพรแค่ขนมปังธรรมดาเองนะ” ลิซ่าเขินที่โพรทาเลียชมเรื่องขนมปัง
“หนูว่าอร่อยนะ”
“เดียวนะ พี่บอกว่าลิซ่าเป็นเทพีเหรอ?” มาร์โคได้ฟังที่พี่สาวพูดก็มีสีหน้าตกใจทันที
โพรทาเลียหันไปมองทันที “อืม พี่ไม่เคยบอกเหรอ? ว่าพี่ลิซ่าคือเทพีที่ดูแลพี่ตั้งแต่อยู่ในเกาะนะ”
มาร์โคได้ยินแบบนั้นเขาอึ้งไปทันที โพรทาเลียเอามือโบกตรงหน้าอีกฝ่าย อีกฝ่ายไม่ขยับตัวเอง ทำเอาโพรทาเลียงงว่าน้องเป็นอะไร
“มาร์โค...”
มาร์โคได้สติทันที “พี่! น่าจะบอกผมมั้งนะ!! ว่าพี่ลิซ่าเป็นเทพีนะ!!”
“ทำไมอ่ะ?”
“ผมจะได้ทำตัวดีๆ ไง” มาร์โคหันไปหาลิซ่าทันที “เทพีกระผมขอโทษกับกิริยาก่อนหน้า ถ้าทำอะไรผิดนะขอรับ”
“ไม่ต้องคิดมากจ้า ข้าไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้วนะ โพรทาเลียก็พูดเยอะกว่าเธออีกนะ ข้ายังไม่คิดอะไรมากเลยนะ” ลิซ่าหันไปหาโพรทาเลียแล้วลูบหัวโพรทาเลีย
โพรทาเลียกินอาหารอยู่ก็ชอบใจที่อีกฝ่ายลูบหัว มาร์โคมองพี่สาวที่ทำท่าทางน่ารักเมื่อเทพีลูบหัว ทำเอาเขามองแบบรู้สึกว่าพี่สาวเขาเวลาอยู่ต่อหน้าเทพีจะเปลี่ยนเป็นคนละคน มาร์โคขมวดคิ้วเหมือนแฝงบางอย่างแต่ในใจของเขาคือ พี่สาวลำเอียง ในการแสดงท่าทางกับเขาสุดๆ
“พี่สาว...ลำเอียง!”
“หือ?” โพรทาเลียมองแบบสงสัยว่าน้องพูดอะไร
หลังจากทานอาหารเสร็จ แต่ละคนก็แยกย้ายกันกลับไปที่ที่พวกเขาจะต้องไปทำงานต่อ โพรทาเลียโบกมือลามาร์โคแล้วเดินตามพี่ลิซ่าไปที่บ้านพักหมายเลข 11 ทันที ส่วนมาร์โคจะต้องไปฝึกกับพี่สาวฝาแฝดทั้งสองของเขาอีก มาร์โคมีสีหน้าเศร้าๆ เหมือนไม่อยากไปเลยเขาอยากอยู่กับพี่สาวของเขามากกว่า เขามองพี่สาวที่เดินไปอยากเศร้าๆ แต่ก็ต้องเดินไปหาพี่ๆ อยู่ดี
โพรทาเลียกับลิซ่าเดินไปเรื่อยๆ ก็มีแต่คนมาทักพวกเขา ส่วนใหญ่จะทักทายโพรทาเลียมากกว่า เพราะว่าเธอทำเรื่องไว้บางตอนอยู่ค่าย แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่มากกว่าที่ทำให้โพรทาเลียดังไปเลยในฐานะ คีย์ วันเดอร์เลอร์ ทั้งสองคนเดินกันจนมาถึงบ้านพักแล้วเดินเข้ามาข้างในเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ก็เจอเสียงตะโกนออกมาจากบ้านพัก
“พวกนายจะไม่มีใครอาสาไปทำกันมั้งเลยหรือไง!!” เสียงของโทมัสดังขึ้น
“ไม่เอาหรอกนะ ไปแล้วจะโดนพ่อใช้งานอะไรอีกนะ” สาวคนหนึ่งยกมือขึ้นเป็นกากบาท
“จริงด้วยๆ ไปครั้งก่อนเล่นพวกเราซะปวดร่างกายไปหมดเลยนะ!!” ชายหนุ่มอีกคนก็พูดขึ้นเช่นกัน
“ใช่ๆ แถมถ้าโดนสั่งให้ไปส่งของนอกบริษัทก็โดนใช้งานหนักอีก คนงานก็มีแต่พ่อก็ใช้งานพวกเราไปด้วย!” อีกคนก็พูดเช่นกัน
“โถ่พวกนาย!! พ่อเขาอุตส่าห์ให้พวกเราทำงานเผื่อในอนาคตเราจะทำงานกับพ่อก็ได้ แถมพวกเด็กคนอื่นๆ ก็ไปกันครบแล้วนี่น่า ตอนนี้ก็ถึงเวลาครบรอบตาพวกนายแล้วนะ”
“ห๊า!!” ทั้งสามคนต่างร้องอุทานออกมา
โพรทาเลียเห็นว่าพวกนั้นต่างพูดกันเสียงดังเลยลองเข้าไปหาพวกเขาทันที
“เอ่อ...กำลังคุยอะไรกันนะ?” โพรทาเลียถามออกไปทันที
พวกเขาทั้งหมดต่างหันมามองคีย์ที่เข้ามาทัก พวกเขาก็คิดออกทันที
“จริงด้วย!! โทมัส! พวกคีย์ก็อยู่ ทำไมนายไม่ให้พวกเขาไปล่ะ! ?” ชายผมสีดำเข้มพูดขึ้น
“อ้าว? ก็คีย์กับลิซ่าเป็นเด็กใหม่แถมยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นบุตรของใคร เขายังไม่ใช่สายเลือดเฮอร์มีสนะ จะให้พวกเขาไปทำเพื่อ!”
“โธ่!!” พวกเขาต่างไม่พอใจสุดๆ
“กำลังคุยเรื่องอะไรกันนะ?” โพรทาเลียถามอีก เพราะยังงงว่าพวกเขาคุยอะไรกัน
“อ๋อ พอดีฉันกำลังหาคนไปทำงานกับเฮอร์มีสนะ”
“ทำงานเหรอ?” โพรทาเลียสงสัยเลยว่าทำงานอะไร “แล้วทำงานอะไรเหรอ?”
“นายน่าจะรู้นะสำหรับเฮอร์มีสจะทำงานอะไรนะ” อีกสามคนพูดพร้อมกันทันที
“เอ่อ...ส่งจดหมายเหรอ?” โพรทาเลียตอบออกไป
“ใช่ จดหมาย พัสดุ อื่นอะไรต่างๆ ที่มีคนจะให้ส่งไปให้ถึงผู้รับนะ”
“ว้าว ดูเป็นงานทั้งง่ายกับยากในเวลาเดียวกันเลยนะ”
“ใช่เลยล่ะ พวกเราเจอแต่งานยากๆ น่านะ ทำเอาไม่อยากไปอีกเลย อยากได้งานง่ายๆ มากกว่า”
“เหอะๆ” โพรทาเลียหัวเราะเบาๆ เธอคิดเลยว่าพวกวัยรุ่นสมัยนี้ช่างคิดอะไรที่ง่ายเกินไปไหมนะ
“พวกนายนี้น่า หวังอะไรที่ง่ายๆ แล้วจะได้เงินเนี่ย คนเราต้องทำอะไรที่ยากๆ ถึงจะได้เงิน ถ้าอยากได้อะไรง่ายๆ มันไม่มีบนโลกนี้หรอกนะ” โทมัสโต้แย้งกับพวกเด็กๆ พวกนั้น
“อืม น่าสนใจนะ เอ่อ...ข้าไม่ใช่สายเลือดเฮอร์มีสคงทำไม่ได้สินะ”
“ไม่รู้น่านะ แต่นายสนใจงานแบบนี้เนี่ยนะ นายต้องบ้าแน่ๆ” สาวผมทองพูดขึ้นเมื่อเห็นเด็กใหม่ของบ้านสนใจงานที่พ่อพวกเธอเสนอให้ทำ
ลิซ่าขำนิดหน่อยที่ได้ยินคนอื่นพูดแบบนั้นกับโพรทาเลีย เพราะเธอรู้ว่างานนี้น่าจะยังน้อยกว่าที่โพรทาเลียเคยเจอแน่ๆ เธอก็ดีใจที่โพรทาเลียสนใจทำอย่างอื่นมั้ง
โทมัสมองคีย์ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมา “งั้นเอางี้ ฉันจะลองไปถามพ่อดู เพื่อนายได้ไปทำงานที่นั่นไหมล่ะ คีย์”
“จริงเหรอขอรับ ดีจัง ขอบคุณมากขอรับ” โพรทาเลียดีใจมากๆ ที่เพื่อจะได้ทำอะไรสนุกมั้ง แต่เธอพึ่งนึกได้ว่าต้องไปทำที่ไหน “แล้วต้องไปทำที่ไหนเหรองานนี้นะ”
“ข้างนอกค่ายนะ!!” ทั้งสี่คนต่างพูดพร้อมกัน
“ข้างนอก!! จะไม่โดยปีศาจเล่นงานเหรอ! ?” โพรทาเลียถามทันที
“ไม่มีทางนะ เพราะว่าเฮอร์มีสจะช่วงปกป้องพวกเราอย่างดีเลยนะ!!”
“โล่งอกไปที”
โพรทาเลียโล่งใจเลยที่เหล่าเทพจะปกป้อง แต่เธอต้องดูก่อนว่าเธอกับลิซ่าจะมีสิทธิ์ได้ไปทำงานกับเฮอร์มีสไหม ที่เธอสนใจงานที่ว่า เธออยากลองทำอะไรมั้งไม่ใช่อยู่แต่ในค่ายเอาแต่ฝึกอย่างเดียว เธออยากทำอะไรที่เหนือกว่าที่เธอเคยทำอีก
“งั้นให้ข้าด้วยสิ” ลิซ่าเดินไปหาพวกเขาทันที “ถ้าน้องข้าได้ทำ ข้าก็อยากทำเช่นกัน งานพวกนี้อาจจะง่ายกว่างานที่เราเคยทำก็ได้เนอะ น้องรัก”
ลิซ่าโอบไหล่ของโพรทาเลียแล้วยิ้มให้เธอ โพรทาเลียยิ้มตอบแล้วหันไปมองโทมัสทันที
“จริงด้วยนะ ขอรับ ได้ใช่ไหม พี่โทมัส! ?” โพรทาเลียส่งสายตาอ้อนๆ ให้โทมัส
โทมัสเห็นถึงกับปลื้มใจกับใบหน้าของอีกฝ่ายทันที “ได้เลยน้องชาย พี่จะจัดการให้นะ!!”
ส่วนสามคนตรงนั้นเห็นโทมัสมีสีหน้าที่ดูปลื้มใจเกินไปทำเอาพวกเขาหมั่นไส้ขึ้นมาทันที พอสนทนากันเสร็จ โทมัสก็ขอตัวไปปรึกษากับพ่อของตัวเองเรื่องของพวกคีย์ที่อยากไปทำงานกับท่านพ่อ พวกโพรทาเลียก็เตรียมตัวกันเพื่อจะไปทำกิจกรรมต่อไปที่พวกเขาต้องไปทำ ระหว่างที่โพรทาเลียเตรียมของอยู่นั้น ลิซ่าก็สะกิดใจบางอย่างขึ้นมาทันที แล้วหันไปเรียกโพรทาเลีย
“โพรทาเลีย...”
โพรทาเลียหันไปหาอีกฝ่ายทันที “ขอรับท่านพี่”
“คือว่า...เอ่อ...ตอนที่อยู่ที่บ้านของโอราอุส...หลังทานอาหารเสร็จนะ...” ลิซ่าอ้ำอึ้ง เธอมองอีกฝ่ายแล้วพูดออกมาทันที “เจ้าไปปลุกใครเหรอ?”
โพรทาเลียนิ่งไปแป๊บหนึ่ง “เอ๊ะ!!!” โพรทาเลียนึกออกทันทีว่าตอนนั้นทำอะไร
ตอนนั้นเธอกำลังปลุกเฟอร์ร่าที่หลับอยู่นั้นเอง เธอไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะเห็นว่าเธอทำอะไรตอนนั้นด้วย
“คือว่าตอนนั้นข้า...เอ่อ...ข้า...”
ลิซ่าหรี่ตาลงด้วยสงสัย เธอลุกขึ้นแล้วมานั่งข้างๆ อีกฝ่ายทันที “เจ้ากำลังปิดปังอะไรข้าหรือ คีย์!”
“คือข้า…” โพรทาเลียหลบสายตาอีกฝ่ายทันทีทำเอาเธอเหงื่อตกแบบสุดๆ
ลิซ่ากดดันโพรทาเลียขนาดนั้น ทำให้เจ้าตัวต้องยอมบอกลิซ่าเกี่ยวกับสิ่งที่เธอทำ เพราะถ้าโกหกลิซ่าคงไม่ชอบใจแน่ๆ ที่เธอโกหกอีกฝ่าย เธอได้บอกไปว่าปลุกใคร แล้วลิซ่าก็สงสัยว่าใครกัน โพรทาเลียอยากแสดงตัวของเฟอร์ร่าให้ลิซ่าดู แต่ว่าเธอเรียกเท่าไรก็ไม่มีสิ่งตอบรับเลยสักนิด
“ดูเหมือนนางยังไม่ตื่นนะ”
“เหรอ แย่จัง คงต้องคราวหน้าสินะ ข้าจะรอ”
“ขอรับ” โพรทาเลียยิ่งเหงื่อตก เธอนึกว่าจะโดนอีกฝ่ายโกรธซะแล้ว เพราะเธอไม่ยอมบอกอะไรเลย เมื่อเกิดเรื่องแปลกๆ ขึ้นกับเธอ
เวลาผ่านไปจนถึงเวลา 8 โมงเช้า โพรทาเลียแยกทางกับลิซ่าแล้วไปยังสถานที่ที่เรียกว่า ‘ศิลปะและงานฝีมือ’ โพรทาเลียมาถึงก็เจอสอนในการถึงศิลปะการปั้น โพรทาเลียฟังก็แอบฮ้าวหน่อยๆ จนทางอาจารย์สอนเริ่มให้พวกเขาทำงานปั้นสักงานให้อาจารย์ดู ทุกคนก็เริ่มเตรียมอุปกรณ์ โพรทาเลียกำลังจะเดินไปเอาอุปกรณ์ พอไปเอาอุปกรณ์ที่น่าจะเหลือกับไม่มีเหลือเลย โพรทาเลียงงเลยว่าทำไมไม่เหลือเลยจนนึกออกทันทีว่าเป็นฝีมือใคร เธอหันไปมองนูอัสทันที เธอได้เห็นสีหน้าที่ชอบใจที่ทำให้โพรทาเลียลำบากแบบสุดๆ พวกนั้นหัวเราะคิกๆ แบบทำให้โพรทาเลียอยากฆ่าพวกนี้ให้ตายเร็วๆ เธอทำหน้านิ่งๆ ก่อนจะไปหยิบดินเหนียวกับน้ำ แล้วกลับไปที่โต๊ะ ทางอาจารย์ที่กำลังเดินดูอยู่ก็ได้เห็นเธอที่ไม่มีอุปกรณ์เลยบนโต๊ะ
“วันเดอร์เลอร์จ้ะ อุปกรณ์ล่ะจ้ะ?”
โพรทาเลียหันไปมองอาจารย์สาว เธอมีผมสั้นสีแดงประบ่า รูปร่างอวบๆ ของเธอทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากๆ แล้วเธอมีชื่อว่า ทูริ ปาร์คเกอร์ เป็นชื่อที่เธอไม่เคยได้ยินเท่าไร แต่ก็ดูเหมาะกับอาจารย์สาวน่านะ
“เอ่อ...หมดนะขอรับ”
“เอ๋ หมดเหรอ?” อาจารย์สาวหันไปมองทันทีว่าหมดจริงเหรอ เพราะเธอเตรียมไว้เยอะว่าจำนวนคนที่มาเรียน “ตายล่ะ! นี่เด็กๆ ใครเอาอุปกรณ์ไปกันเพื่อนไม่มีอุปกรณ์ใช้นะ!!”
อาจารย์ตะโกนขึ้น ทุกคนต่างมองกันอย่างสงสัยว่าใครเอาไปกัน พวกนูอัสไม่สนใจ แต่ตัวเองก็แอบของที่หยิบมาไว้ตรงจุดที่คิดว่าอาจารย์จะไม่เจอแน่ๆ
“อาจารย์ทูริขอรับ” โพรทาเลียเรียกอาจารย์ทันที “ไม่ต้องห่วงกระผมหรอกขอรับ”
“แต่ว่า!” ทูริสงสารเด็กชายที่ไม่มีอุปกรณ์ ไม่งั้นอีกฝ่ายคงทำอะไรไม่ได้แน่ๆ
โพรทาเลียยิ้มให้อาจารย์ ก่อนจะลวงมือเขาไปในกระเป๋าคาดเอวของตนเอง ทำเอาคนอื่นๆ ต่างตกใจกับกระเป๋าคาดเอวอีกฝ่าย โพรทาเลียหยิบอุปกรณ์ปั้นของตนเองออกมาทันที
“ตายล่ะ! นั้นอุปกรณ์การปั้นเหรอจ๊ะ วันเดอร์เลอร์”
“ขอรับ ข้าชอบการปั้นเลยมีอุปกรณ์ที่ข้าเป็นคนทำนะขอรับ ข้าเลยไม่เรียกร้องอะไรเท่าไรนะขอรับ”
“แม้ๆ เป็นเด็กดีจริงๆ เลย งั้นให้แต้มบ้านเฮอร์มีส 10 แต้มจ้า”
“เย้!!” เด็กบ้านเฮอร์มีสต่างดีใจมากๆ ที่มีคนทำแต้มให้บ้านได้
แต้มของบ้านเริ่มมีขึ้นเมื่อหลายปีก่อน เพื่อความสนุกของค่าย เพราะมีเหล่าอาจารย์ต่างรู้สึกว่าเด็กๆ เริ่มเบื่อกับการใช้ชีวิตในค่ายเลยต้องมีอะไรเพิ่มเติมสำหรับความสนุกมากขึ้นคือการนับแต้มของบ้านนั้นเอง โพรทาเลียก็รู้ตอนที่โทมัสบอก เธอเลยยิ้มแบบชอบใจสุดๆ ส่วนนูอัสถึงกับหน้าแดงจัดเพราะโกรธมากๆ ที่จะแกล้งคีย์แต่ก็ผิดพลาดที่เพราะเจ้าตัวมีอุปกรณ์ติดตัวอยู่แล้ว หลังจากนั้นโพรทาเลียก็ทำการปั้นทันที แต่เธอก็นึกไม่ออกว่าจะปั้นอะไร เธอนึกไม่ออกเลยว่าจะปั้นอะไรจนเธอหันไปมองโฟกัสที่กำลังตั้งใจปั้นอยู่ โพรทาเลียเลยนึกออกเลยว่าจะปั้นอะไร
“คิกๆ”
โพรทาเลียปั้นไปก็ยิ้มไปทำให้คนอยู่ข้างๆ ต่างมองสิ่งที่อีกฝ่ายปั้นแล้วแบบมองของตัวเองเลยว่ามันห่วยมาก อาจารย์ทูริก็มามองสิ่งที่โพรทาเลียทำทันที
“ว้าว! วันเดอร์เลอร์ เธอปั้นได้งดงามมากเลยจ้ะ” อาจารย์ทูริชมคีย์ทันที
“อ๊ะ...” โพรทาเลียหันไปมองอาจารย์ทันที
รูปปั้นที่โพรทาเลียปั้นเป็นเด็กน้อยสองคนที่เดินจับมือกัน แล้วมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เหมาะสำหรับเด็กน้อยทั้งสองคน เหล่าเพื่อนๆ รอบๆ ก็ต่างมาดูกันต่างพูดชมกันว่างานของคีย์งดงามมากๆ
“ว้าว ดูเหมือนมีชีวิตเลยนะ” เด็กสาวคนหนึ่งชมรูปปั้นของคีย์ทันที
“จริงด้วยนะ เหมือนคนจริงๆ เลยล่ะนะ”
มีแต่เสียงที่ชมสิ่งที่โพรทาเลียทำเอาเจ้าตัวเขินเหมือนกัน
“แหะๆ ก็ไม่เท่าไรเหรอนะ” โพรทาเลียเกาแก้มหน่อยๆ
“แล้วนี่ทำไมถึงปั้นเด็กสองคนเหรอจ๊ะ วันเดอร์เลอร์” อาจารย์ทูริถามทันที
พออาจารย์ถามแบบนั้น โพรทาเลียหยุดชะงักเลย เธอนั่งคิดเลยว่าทำไม ก่อนจะตอบอาจารย์ทูริไป
“คือ...มันเป็นภาพในความทรงจำนะขอรับ...”
“ภาพในความทรงจำ?” อาจารย์สงสัยเลยว่าภาพในความทรงจำของเด็กน้อยเป็นแบบไหน
โฟกัสที่สนใจว่าทุกคนมารุมอะไรคีย์อยู่ เธอก็ของแซงทุกคนเพื่อเข้าไปข้างในมั้ง เธอเข้ามาถึงก็เห็นรูปปั้นที่คีย์ทำ มันทำให้เธอสะดุดตาตรงที่มันคล้ายๆ ตัวเธอกับพี่สาว
“ขอรับ...มันเป็นช่วงเวลาที่ข้าได้หัวเราะกับน้องสาวของข้านะ...แต่...มันไม่มีวันนั้นอีกแล้วนะ...”
น้ำเสียงของคีย์นั้นต่ำลงเหมือนกำลังเศร้า ทุกคนได้ยินน้ำเสียงแบบนั้น ทำเอาอาจารย์ต้องขอโทษทันที
“ตายล่ะ อาจารย์ขอโทษนะ วันเดอร์เลอร์ ที่ทำให้เธอนึกถึงวันแย่ๆ นะจ้ะ”
“อ๊ะ...ไม่เป็นไรหรอกขอรับ กระผมไม่ถือขอรับ”
“งั้นเหรอจ๊ะ เอ่อ...งั้นเด็กๆ วันนี้ถือเป็นวันดี อาจารย์ให้เลิกก่อนเวลานะจ๊ะ”
“คร้าบบบ!! /ค่าาาา!!” ทุกคนต่างดีใจก่อนจะเก็บของตัวเองและนำรูปปั้นของตัวเองมาเรียงกัน
โพรทาเลียยิ้มที่ทุกคนต่างชอบใจกัน โพรทาเลียมองไปที่รูปปั้นเด็กสองคนที่เธอปั้น เธอจ้องมันอยู่นานก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาก็เจอโฟกัสอยู่ข้างๆ เธอ
“อ๊ะ!! โฟกัสเมซ่า...”
โฟกัสจ้องคีย์ แล้วจ้องไปที่รูปปั้นของอีกฝ่าย “ดูรูปปั้นนี้ ดูมีความสุขจังนะ”
“ก...ก็ไม่เท่าไรนะ...” โพรทาเลียประหม่าเลยที่โฟกัสมาอยู่ข้างๆ “แล้วเจ้าล่ะ...”
“หือ...” โฟกัสมองคีย์แล้วหันไปมองรูปปั้นของตัวเอง เธอปั้นหญิงสาวที่งดงามมากๆ ทำให้โพรทาเลียปลื้มใจที่น้องสาวก็เก่งเหมือนเธอ
“ปั้นเก่งเหมือนกันนี่น่า”
“หึ ก็นะ คนมีฝีมือก็ต้องเก่งอยู่แล้วล่ะ”
“คิกๆ” โพรทาเลียขำนิดหน่อยก่อนจะเผลอพูดอะไรออกมาเบาๆ “เหมือนเมื่อก่อนไม่เปลี่ยนเลยนะ”
“เมื่อกี้นายพูดอะไรป่ะ” โฟกัสถามคีย์ทันที
โพรทาเลียมองอีกฝ่ายแล้วปฏิเสธทันที “เปล่านี่ ข้าไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”
“เหรอ?” โฟกัสมองอีกฝ่ายแล้วมองไปที่รูปปั้นของอีกฝ่าย “นายเคยมีน้องสาวเหรอ?”
“จะบอกว่าเคยมันก็พูดลำบากน่านะ...”
“งั้นเหรอ...ฉันไม่กวนล่ะ” โฟกัสเดินออกมาจากตรงนั้นทันที เธอกลับไปที่รูปปั้นของเธอแล้วเตรียมเก็บของ
พอโฟกัสเดินออกไป โพรทาเลียนั่งอยู่เงียบๆ ภายในใจมีความเศร้าอยู่ ความเศร้าที่เห็นใบหน้าของโฟกัสที่ดูเศร้า
“ข้าขอโทษนะ...โฟกัสที่ต้องให้น้องทนทุกข์กับสิ่งที่นูอัสทำ...ช่วยรออีกสักหน่อยนะ น้องรัก...”
จบตอนที่ 13 โปรดติดตามอ่านตอนที่ 14 ต่อไป