ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 17 แผนการล้ม
โพรทาเลียจ้องไปที่เกราะใหญ่เธอเอาแต่คิดบางอย่างอยู่ เธอกำลังคิดว่าในเมื่อมาร์โคออกมาได้อย่างปลอดภัย แปลว่าพวกเขาน่าจะเข้าไปช่วยคนอื่นๆ ที่ล้มอยู่ออกมาได้ มาร์โคมองพี่สาวที่กำลังคิดบางอย่างอยู่ เขาสงสัยเลยว่าพี่สาวคิดอะไรอยู่ แต่ก่อนหน้าที่เขาได้ยินประโยคที่พี่สาวพูดออกมา เขารู้เลยว่าพี่สาวคนโกรธมากแน่ๆ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้คงทำให้หลายคนระแวงระหว่างเดินไปไหนมาไหนแน่ๆ ระหว่างที่ทั้งสองคนยืนอยู่ข้างๆ กัน เพอร์ซีย์คุยกับลูกๆ เสร็จ เขาเดินไปหาคีย์ทันที
“วันเดอร์เลอร์...” เพอร์ซีย์เรียกคีย์ทันที
“ครับ...” โพรทาเลียหันไปทางพ่อทันที
“เอ่อ...พอดีเราจะจัดตั้งทีมเข้าไปพาตัวคนอื่นๆ ออกมาจากเกราะใหญ่...” เพอร์ซีย์อ้ำอึ้งอยู่สักแป๊บ เขาคิดว่าแผนเมื่อกี้อีกฝ่ายจะไม่ได้ผล แต่ก็ได้ผลแล้วนำลูกๆ ของเขาออกมาอย่างปลอดภัย เขาทำใจสักแป๊บก่อนจะพูดออกไป “คือ...นอกจากมาร์โคที่มีเกราะที่เธอบอกว่าเธอสร้างขึ้น ยังมีใครทำได้อีกไหม?”
“เอ่อ...มีผม พี่สาวผม พี่โอราอุสและมาร์โค แค่สี่คนนะครับ”
“อืม...แล้วไม่มีของที่ว่าเพิ่มเหรอ?”
“ขอโทษครับ ผมมีแค่สี่อันตามจำนวนคนที่ผมพูดนะครับ”
“งั้นเหรอ...” เพอร์ซีย์เอามือลูบคางอย่างครุ่นคิด เพอร์ซีย์หันไปข้างหลัง “โอราอุส ลิซ่า เชิญทางนี้!!”
โอราอุสกับลิซ่ามองหน้ากันก่อนจะเดินไปตามที่อีกฝ่ายเรียกพวกเขา พอทั้ง 4 คนมายืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกัน เพอร์ซีย์หายใจเข้าหนึ่งครั้งก่อนจะพูดออกมา
“เอาล่ะ ทั้ง 4 คน ในครั้งนี้อาจจะขออะไรที่เสี่ยงต่อพวกเธอ แต่ถ้าเธอเสี่ยง เธอจะช่วยคนได้เยอะ ฉันจะขอแค่ขอให้พวกเธอทั้งสองและลูกสองคนเข้าไปช่วยพาคนในเกราะนั้นออกมา จะได้ไหม?”
“เอ่อ...” โพรทาเลียคิดเลยว่าควรตอบยังไงดี
ลิซ่ามองโพรทาเลียที่ยังยืนนิ่งอยู่ เธอก็เลยพูดขึ้นทันที “ถ้าคีย์ตอบรับ ข้าก็จะทำด้วยค่ะ”
“ท่านพี่...” โพรทาเลียมองอย่างอึ้งๆ
“ใช่อย่างที่ลิซ่าพูด ถ้านายตอบรับพวกเราก็จะไปด้วย!” โอราอุสพูดเสริมทันที
“ผมด้วย!!” มาร์โคทำท่าทางดีใจทันที
โพรทาเลียได้ฟังแบบนั้น เธอรู้สึกปลื้มปีติ “ทุกคน...” โพรทาเลียหันไปทางพ่อของเธอทันที “เราจะทำครับ!!”
เพอร์ซีย์อมยิ้มทันทีที่อีกฝ่ายตอบรับ “ขอบใจมากเด็กๆ งั้น-”
“เดียวครับ!!” เสียงของฟีนีอุสได้ดังขึ้น เขาเดินมาหาพวกคีย์ทันที “คุณแจ็กสัน จะให้พวกเขาไปข้างในนั้น มันอันตรายนะครับ!!”
“เฮ้อ...ฉันรู้ ฟีนีอุส แต่เราไม่มีใครสามารถผ่านควันนั้นไปได้ นอกจากพวกเขา” เพอร์ซีย์หันไปมองทั้ง 4 คน
ฟีนีอุสทำหน้าไม่ชอบใจที่พวกคีย์ต้องเข้าไปเสี่ยงอันตราย เขาอยากจะไปเองมากกว่า แต่ถ้าตามคำสั่งของคุณแจ็กสัน ฟีนีอุสเองก็ต้องยอมไม่เข้าไปยุ่ง เขาเดินไปหาพวกคีย์
“ถ้าเกิดอันตรายต้องรีบออกมานะ” ฟีนีอุสออกคำสั่ง แต่สายตาของเขากับมองมาที่คีย์
โพรทาเลียเห็นอีกฝ่ายมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง โพรทาเลียกำลังจะขานรับนั้น โอราอุสก็เข้ามาขั้นกลางระหว่างทั้งสองคน โพรทาเลียมองอย่างอึ้งๆ ทันทีพี่ชายมาขวางระหว่างกลาง
โอราอุสจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา “พวกเราจะทำฟีนีอุส เอาล่ะขอปล่อยให้พวกเราทำหน้าที่ที่มอบหมายหน่อยละกันนะ”
โอราอุสจับมือโพรทาเลียแล้วเรียกคนอื่นๆ เพื่อไปคุยเรื่องที่จะเข้าไปข้างใน ฟีนีอุสส่ายหน้าเบาๆ ที่โอราอุสชอบเขามาขัดจังหวะเขาจริงๆ ทั้ง 4 คนคุยกันเรื่องที่ว่าคนที่ล้มอยู่นั้นแค่สลบไปเท่านั้น พวกเขาพอเข้าใจก็ต้องระวังเรื่องร่างกายของพวกที่สลบ โพรทาเลียเสนอว่าถ้าควันนั้นแค่ดมไปก็สลบ ให้เอาผ้ามาปิดจมูกและปากดีที่สุด พวกเขาพอเข้าใจแล้ว พวกเขาก็เตรียมตัวกัน ใส่หน้าปิดปากและเกราะป้องกันที่พร้อมจะทำงาน
“เอาล่ะพวกเราเตรียมตัวพร้อมนะ” โอราอุสถามทั้ง 3 คนทันที
“พร้อม!!” ทั้ง 3 คนก็พูดพร้อมกันทันที
“งั้นไปกันเลย!!”
พอโอราอุสพูดจบพวกเขาก็เข้าไปข้างในเกราะใหญ่ทันที พอเข้าไปเกราะก็เริ่มทำงาน เกราะเริ่มปกคลุมพวกเขาทั้ง 4 คน พวกเขาจัดแจงว่าใครต้องไปทางไหนมั้ง พวกเขาแบ่งเป็น 4 ทาง โพรทาเลียอยู่โซนทางเหนือ ลิซ่าอยู่โซนทางใต้ โอราอุสอยู่โซนตะวันออก มาร์โคโซนตะวันตก พวกเขาเริ่มออกเดินไปตรงโซนพวกเขา แล้วนำพาคนที่เป็นลมไป ตอนแรกพวกโอราอุสบอกให้จับคู่กัน เพราะบางคนก็ตัวหนักคนเดียวคงยกไม่ได้ แต่สาวๆ กับบอกว่ายกได้อยู่แล้ว ทำเอาสองหนุ่มงงว่าทำไมถึงบอกว่ายกได้ พวกหนุ่มๆ กำลังอุ้มคนที่สลบ ก็มีเสียงร้องแปลกใจออกมา
“โอ้!!”
สองหนุ่มหันไปมองทันที ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถึงกับตกใจทันทีที่เห็นโพรทาเลียอุ้มชายร่างที่ใหญ่ 2 คนที่ตัวใหญ่กว่าตัวเอง 2 เท่า กำลังพาออกไป ลิซ่าก็ใช้พลังบางอย่างทำให้คนที่สลบไปตัวเบาลงจนลอย แล้วเธอก็จับผูกทุกคนพาไปจนถึงเกราะใหญ่ เธอก็ค่อยๆ ลากคนอื่นๆ ออกไป แล้วคนอื่นๆ ก็มาดูอาการพวกเขา ทำเอาสองหนุ่มตกใจเลยว่าทำไมสองคนนี้ถึงแปลกประหลาดสุดๆ ยิ่งแปลกคือโพรทาเลียที่แรงเยอะมากๆ พวกเขาช่วยกันยกออกมาจนครบทุกคน พวกโอราอุสถึงกับเหนื่อยหน่อยๆ แต่ยกเว้นพวกโพรทาเลียที่ไม่เห็นจะเหนื่อยเลยสักนิด
“พวกพี่ๆ ทำไมถึงไม่เหนื่อยอะไรเลย...” มาร์โคถามทั้งที่ยังหอบอยู่
โพรทาเลียมองน้องชายแล้วหันมามองลิซ่าก่อนจะยิ้มออกมา “คนที่โดนฝึกหนักก็ไม่เหนื่อยง่ายๆ หรอกนะ”
“โธ่ พี่...” มาร์โคนอนกับพื้นทันที
โพรทาเลียมองมาร์โคที่ดูเหนื่อย เธอมองไปที่เหล่าคนจากสถานพยาบาลตรวจคนที่พวกเธอพาออกมา พอโล่งใจว่าทุกคนน่าจะปลอดภัยแล้ว โพรทาเลียก็คิดบางอย่างหันกลับไปมองภายในเกราะใหญ่ เธอคิดบางอย่างได้เธอก็เดินเข้าไปข้างในเกราะนั้นทันที ลิซ่าหันไปมองทันที
“คีย์…” ลิซ่าหันไปหาอีกฝ่ายแล้ว เอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่าย
โอราอุสได้ยินเสียงลิซ่าเขาหันไปมองตามเธอ เขาเห็นโพรทาเลียเดินเข้าไปในเกราะใหญ่ เขาก็เดินตามไปทันที
“โพร...” โอราอุสเอ่ยเรียกอีกฝ่ายเบาๆ เขาเข้ามาใกล้ๆ เธอ โพรทาเลียมองพี่ชายของเธอ “เข้ามาในนี้อีกทำไม?”
“หนูกำลังหาจุดต้นตอของควันนะ”
“จุดต้นตอ?” โอราอุสมองอย่างสงสัย เขาก็คิดว่าน่าจะหาเหมือนกัน เพราะว่าตอนนี้เหลือแค่จุดต้นตอที่ทำให้คนสลบไป “งั้นพี่จะช่วยหาด้วยนะ”
“งั้นใส่ผ้าปิดปากให้แน่นนะคะ เพราะว่าเราต้องเข้าใกล้มันมากๆ เราไม่รู้ว่ามันจะทำให้เราสลบด้วยไหม” โพรทาเลียพูดก็นำผ้ามาปิดปากเหมือนเดิม
“ได้เลย” โอราอุสใช้ผ้าปิดปากตัวเองทันที
ทั้งสองคนเริ่มหาจุดต้นตอของควันนั้นทันที ลิซ่ามองทั้งสองคนอย่างกังวลว่าทั้งสองคนเข้าไปทำไม เธออยากเขาไปแต่เขาไปจะโดนดุนี้สิ เพอร์ซีย์อยากจะไปแสดงคำขอบคุณกับลูกๆ และพี่น้องวันเดอร์เลอร์ พอเขากำลังเดินมา เขาเห็นแค่มาร์โคกับลิซ่าอยู่กันแค่สองคน
“วันเดอร์เลอร์กับโอราอุสไปไหนนะ?”
ลิซ่าได้ยินเสียงคุณแจ็กสัน เธอหันไปมองทันที “คุณแจ็กสัน!”
เพอร์ซีย์เห็นอีกฝ่ายหันมาเขาเลยสังเกตว่าทำไมอีกฝ่ายหันไปมองเกราะใหญ่ เขาเงยหน้ามองขึ้นมาเห็นวันเดอร์เลอร์และโอราอุสอยู่ข้างในเกราะใหญ่
“ทั้งสองคน! เข้าไปทำอะไรในนั้นกัน!!”
โอราอุสกับโพรทาเลียได้ยินเสียงพ่อก็สะดุ้งหันไปมองทันที พวกเขาเห็นใบหน้าพ่อดูตื่นตกใจทันที โอราอุสคิดว่าควรพูดกับพ่อ
“พวกเราหาต้นตอของควันอยู่ครับ!!” โอราอุสตะโกนออกไป
“จะบ้าหรือ โอราอุส ออกมาเดียวนี้!! มันอันตรายนะ!!”
“ผมรู้ครับพ่อ แต่ถ้าเราไม่ทำควันนั้นก็จะออกไปทำร้ายคนอื่นอีกนะครับ!!”
แอนนาเบ็ธได้ยินเสียงสามีของเธอและลูกตะโกนอยู่ เธอเลยเดินมาดูก็เห็นโอราอุสอยู่ข้างในเกราะใหญ่
“ตายแล้ว โอราอุส ลูกเข้าไปทำไมนะ!!” แอนนาเบ็ธเห็นลูกชายของเธออยู่ข้างในก็หน้าซีเรียสทันที
“ลูกๆ กำลังหาต้นตอของควันอยู่นะ แอนนี่”
“ว่าไงนะ!!” แอนนาเบ็ธมองลูกชายของเธอ “งั้นให้พวกเขาหา!!”
“อะไรนะ!!” เพอร์ซีย์ตกใจที่ภรรยาของตน ตัดสินใจแบบนั้นออกมา
“เพอร์ซีย์ เธอต้องเชื่อในตัวลูกนะ ขอล่ะ พวกเขาน่าจะหาเจอ เราจะได้รู้ว่าต้นต่ออยู่ไหนนะ”
เพอร์ซีย์กำหมัดแน่น ก่อนจะยอมที่ภรรยาพูด เขาหันไปทางทั้งสองคน “งั้นหากันดีๆ นะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นรีบวิ่งกันเลยนะทั้งสอง”
“ครับ!!”
ทั้งสองคนต้นตอของควันทันที พวกเขาหาอยู่นานพอควร โอราอุสยังสงสัยจุดที่มาร์โคบอกว่าตรงไหนที่มันออกมา แต่ก็ไม่เห็นว่าอยู่ไหนกัน โพรทาเลียสงสัยว่ามันอยู่ตรงไหน ระหว่างที่ทั้งสองคนหาจุดต้นตอก็มีคนหนึ่งแอบอยู่หลังต้นไม้ห่างๆ เขาเหมือนกำลังจะกดปุ่มบางอย่าง พอกดก็มีควันออกมาจากจุดเดิมของครั้งแรก โพรทาเลียกับโอราอุสเห็นตกใจทันที พวกเพอร์ซีย์เห็นตกใจทันที จนฟีนีอุสตะโกนออกไป
“พวกนายออกมา!!”
“เดียวก่อน!!” โพรทาเลียหยุดดูอย่างชะงัก เพราะควันนั้นขึ้นมาน้อยมากๆ
โอราอุสก็มองอย่างสงสัยเหมือนกัน “เอาไง คีย์...”
“...” โพรทาเลียมองว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกไหม ก็มีควันขึ้นอีก แต่มันเหมือนกับน้อยกว่าเดิม “รู้สึกว่าควันนั้นออกมาน้อยลงแล้วนะ…”
เจ้าคนที่กดปุ่มนั้นก็กดปุ่มเท่าไรก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แปลว่ามันหมดแล้ว โพรทาเลียเห็นก็จะเข้าไปใกล้ๆ จุดนั้น
“คีย์ ระวังด้วย!” ฟีนีอุสเตือนอีกฝ่ายทันที
โพรทาเลียหันไปมองพร้อมกับยกนิ้วโอเค ก่อนจะเดินไปใกล้ๆ โอราอุสก็เดินตามโพรทาเลียไป พอเข้ามาใกล้ๆ พวกเขาก็ไม่เห็นอะไร โพรทาเลียกับโอราอุสมองหน้ากันอย่างสงสัย โพรทาเลียคิดอย่างสงสัย ก่อนที่เธอจะสังเกตบางอย่างข้างในดิน เธอย่อตัวลงมองไปที่ดิน มันมีเหมือนรูขนาดเล็กอยู่ โพรทาเลียลองเอามือขุดดินทันที
“ทำอะไรนะ? คีย์”
“ขุดดินออก เพราะว่า...”
โพรทาเลียขุดดินจนเห็นอะไรบางอย่างเป็นสีเงินๆ พอเธอเห็นก็รีบขุดจนมือของเธอมีดินติดอยู่ที่นิ้ว จนได้เห็นบางอย่างเป็นวงกลมๆ หนาๆ มีช่องตรงกลาง โพรทาเลียสงสัยว่ามันคืออะไร
“มันคืออะไรนะ? มันคือสิ่งที่พ่นควันออกมาเหรอ!?” โพรทาเลียหยิบมันออกมาโชว์ให้พี่ดู
โอราอุสขมวดคิ้ว เมื่อเห็นตราหนึ่งในอุปกรณ์นั้น “นั้น...เป็นสิ่งประดิษฐ์ของบ้านเฮเฟตัส!!”
โอราอุสกำหมัดแน่นทันที เขาหยิบเครื่องพ่นควันจากมือโพรทาเลีย แล้วเดินออกมาจากเกราะใหญ่ เพอร์ซีย์เห็นลูกชายขมวดคิ้วอย่างโกรธ
“ใครประดิษฐ์นี้กัน!!” โอราอุสยกเครื่องพ่นควันขึ้นมาทันที ทุกคนต่างมองด้วยความสงสัย ก่อนที่โอราอุสจะหันไปหาคนคนหนึ่ง “เบ็น!!”
คนที่โอราอุสเรียกชื่อสะดุ้งทันที “ว่า...”
ชายที่ชื่อ เบ็น เขามีรูปลักษณ์ที่สูงผอมแต่ก็มีกล้ามนิดหน่อย เขามีผิวสีแทนเหมือนคนอาบแดดตลอด เขามีผมสีน้ำตาลและดวงตาสีน้ำตาล ตอนนี้เขาระแวงว่าเพื่อนของเขาจะทำอะไรกับเขา
โอราอุสเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายทันที “เด็กบ้านนายคนไหนสร้างสิ่งนี้!!”
โอราอุสส่งเครื่องพ่นควันให้เบ็น เบ็นดูหน้าซีดทันที เขาอึ้งที่เห็นอุปกรณ์นี้อยู่ในค่ายได้ “นี่...อย่าบอกนะ...”
“ใช่ เมื่อกี้คีย์ขุดมันออกมาจากดิน แล้วมีตราของบ้านเฮเฟตัสอยู่ นายจะอธิบายยังไง!! เบ็น” โอราอุสพูดด้วยอาการเสียงดัง
ฟีนีอุสรีบเข้ามาห้ามทันที “โอราอุสใจเย็นๆ สิ!!”
“จริงด้วยเพื่อน!!” โคลก็เข้ามาช่วยหยุดกัน
“ฉัน...ฉันสร้างมันเอง โอราอุส...”
“ว่าไงนะ!” โอราอุสกำหมัดแน่นทันที เขามีความคิดหลายอย่างในหัวเลย “นาย!!”
โพรทาเลียออกมาจากเกราะใหญ่ ตัวเธอมีแต่ดินติดอยู่ที่ใบหน้า ทำเอาเพอร์ซีย์ที่มอง มองอย่างสงสัยว่าเด็กน้อยทำไมออกมามีสภาพแบบนั้น แต่เธอถือถุงบางอย่างมาว่างทันที
“ผมฝากเครื่องพ่นควันด้วยนะครับ คุณแจ็กสัน”
เพอร์ซีย์กับแอนนาเบ็ธมองอย่างสงสัย ก่อนจะเปิดถุงดูก็เห็นแต่เครื่องพ่นควันอยู่ในถุง มันโดนปิดสวิตช์หมดแล้ว เพราะตัวเครื่องมีที่ปิดสวิตช์อยู่ แต่พวกเขาสงสัยเลยว่าคีย์ทำไมขุดเอาออกมาเร็วแบบนี้ โพรทาเลียเดินไปหาพี่โอราอุส ตัวเธอเข้าไปห้ามระหว่างพวกเขาโดยทันที โอราอุสเห็นอีกฝ่ายก็ตกใจทันที
“คีย์!!”
“ผมว่าพี่ใจเย็นดีกว่านะครับ แล้วฟังที่คุณเบ็นพูดก่อนดีกว่านะครับว่าอุปกรณ์ของเขาถึงมาอยู่ที่นี้ได้นะครับ!” โพรทาเลียขอร้องพี่ชายให้ใจเย็นๆ
“แต่ว่า!” โอราอุสตอนนี้มีอารมณ์โกรธอยู่มากๆ
“นะพี่ครับ...” โพรทาเลียส่งสายตาอ้อนวอนอีกฝ่าย
คนอื่นๆ เห็นใบหน้าของคีย์ถึงจะมีดินติด แต่ใบหน้าแบบนั้นทำเอาทุกคนใจเต้นไปหมด
โอราอุสเห็นก็ถึงกับรู้สึกใจอ่อนทันที “ก็ได้...นายช่วยบอกพวกเรามาเบ็นทำไมสิ่งประดิษฐ์นายถึงมาอยู่ที่นี้ได้ แล้วทำไมถึงมาเป็นอาวุธทำให้คนสลบได้กัน!!”
“ฉันไม่รู้นะ โอราอุส สิ่งประดิษฐ์ของฉัน ฉันพึ่งเอาออกไปขายในย่านการค้าของมนุษย์กึ่งเทพเป็นจำนวนเยอะๆ แต่ไม่นึกว่าจะมีคนซื้อแล้วนำมาใช้ในค่ายนะ!!”
“นายพูดจริงใช่ไหม!” โอราอุสถามอีกฝ่ายทันที
“ฉันสาบานเลย!!” เบ็นทำสีหน้ามั่นใจว่าตัวเองพูดจริง
“พอแล้วเด็กๆ!!”
เสียงหนึ่งที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้น ทุกคนหันไปมองต้นเสียงนั้น ก็มีชายคนหนึ่งเดินมาเพื่อจะห้ามพวกเขา โพรทาเลียเห็นเขามีลักษณะผมสีทองสั้น ดวงตาสีฟ้าเหมือนสีตาของฟีนีอุส แล้วตรงปากของเขามีรอยแผลเป็นที่ปากข้างซ้ายเล็ก แล้วสวมแว่นหนานิดหน่อย
“พ่อ!!” ฟีนีอุสตกใจที่พ่อของเขามาอยู่ที่นี้
“พ่อเหรอ?” โพรทาเลียมองอย่างสงสัยว่าคนนี้นะเหรอ พ่อของฟีนีอุส
“คุณเจสัน!” โอราอุสเห็นก็ไม่นึกว่าพ่อของฟีนีอุสจะอยู่ที่นี้ในตอนนี้
“ไง โอราอุส ฉันว่าเลิกทะเลาะกันดีกว่านะ” พอเจสันพูดจบก็มีเหล่าคนชุดสีม่วงเดินกันตามมา "พวกเราค่ายจูปิเตอร์จะตรวจสอบเรื่องสถานที่ที่คุณวัลเดซนำอุปกรณ์ตัวเองไปขายเอง พวกเธอช่วยกันตรวจดูคนที่สลบดีกว่ามาทะเลาะกันดีกว่านะ"
“พวกนาย...ฉันขอโทษ...” เบ็นทำหน้าเศร้าทันที เขาไม่นึกว่าของเขาจะกลายเป็นอาวุธได้
“เฮ้อ!! ฉันก็ขอโทษที่ตะโกนใส่ ฉันไม่นึกว่าของที่พวกนายจะสร้างจะเป็นอาวุธได้ มันเหมือนกับ...”
“เหมือนกับมีคนกำลังจะทำให้คนในค่ายแตกคอกันเอง?”
“!!”
ทุกคนตกใจกับประโยคนั้น พวกเขามองต้นเสียง พวกเขาเห็นคีย์กำลังยืนคิดบางอย่างอยู่ เธอพูดออกมาโดยไม่ได้รู้เลยว่าสิ่งที่ตัวเองคิด แล้วตัวเองพูดมันออกมา เจสันได้ยินแบบนั้น เขาสนใจเด็กที่พูดแบบนั้นทันที เขาเลยเดินเข้าไปใกล้ๆ ระหว่างที่คีย์คิดเขาก็เห็นเงาที่มาบังเขา เขาเลยงงว่าใครมาบังเขาเลยเงยหน้าขึ้นเพื่อมองว่าใครมายืนตรงหน้า
“เอ่อ...มีอะไรเหรอครับ?”
เขาก้มมองเด็กชายตรงหน้า “เมื่อกี้ที่เธอพูด เธอคิดว่ามีคนกำลังทำให้คนในค่ายแตกคอกันเหรอ?”
“อ๊ะ!! ผมพูดเหรอ?” โพรทาเลียตกใจเลยว่าสิ่งที่ตัวเองคิด แล้วตัวเองพูดออกมาซะงั้น “เอ่อ...แบบแค่ความคิดนะครับ...”
“หือ...” เกรซมองเด็กชายอย่างสงสัย “เธอเด็กใหม่ของค่ายฮาล์ฟบลัดเหรอ?”
“ครับ ผม คีย์ วันเดอร์เลอร์ ครับ” โพรทาเลียแนะนำตัวทันที
“คีย์เหรอ?” เกรซได้ยินชื่ออีกฝ่ายเขายิ้มมุมปากทันที “เธอเองสินะ”
“เอ๋! ?” โพรทาเลียงงว่าอีกฝ่ายทำไมยิ้มมุมปากกัน
เกรซยกมืออีกฝ่ายขึ้นมาจุ๊บที่มืออีกฝ่าย “ฉัน เจสัน เกรซ ฉันได้ยินเรื่องของเธอมาพอสมควรจากฟีนีอุส หวังว่าเราจะได้คุยกันอีกนะ วันเดอร์เลอร์”
โพรทาเลียมองอีกฝ่าย ทำเอาเธอหน้าแดงขึ้นมาเมื่ออีกฝ่ายเล่นจุ๊บที่มือของเธอและยิ้มให้เธอ ฟีนีอุสเห็นรีบวิ่งมาทันที แล้วเอามือพ่อออกจากมือคีย์ทันที
“พ่อ แม่เขามองอยู่นะ อย่าหว่านเสน่ห์ใส่คนอื่นสิ!”
“หือ อะไรฟีนีอุสหวงหรือไง! ?”
“หวงอะไร!!” ฟีนีอุสหน้าแดงออกมา “ผมแค่ระแวงพ่อต่างหาก!! เดียวก็โดนแม่เขาหึงหรอกนะ!!”
“หึๆ จ้าๆ ไว้เจอกันอีกนะ วันเดอร์เลอร์”
“คะ...ครับ...” โพรทาเลียสงสัยเลยว่าสองพ่อลูกคู่นี้เป็นอะไรกัน
ฟีนีอุสจ้องพ่อแบบไม่ชอบใจทันที โพรทาเลียมองฟีนีอุสที่โกรธอะไรพ่อตัวเองแบบนั้นกัน
“ฟีนีอุสกับพ่อไม่ถูกกันเหรอ?”
“ห๊า...ก็ไม่เชิงนะ แค่เขาชอบทำตัวแบบพวกหว่านเสน่ห์สาวๆ แม่เลยชอบระแวงพ่อนะ ฉันเป็นลูกเลยต้องดูแลน่านะ”
“คิกๆ เป็นคนห่วงครอบครัวนี่เอง นายนี่...” โพรทาเลียเข้าไปใกล้ๆ อีกฝ่ายแล้วยิ้มแล้วขยิบตาให้อีกฝ่าย “เป็นคนน่าสนใจจังนะ”
ฟีนีอุสเห็นใบหน้าอีกฝ่ายที่ยิ้มให้เขา เขาก็เขินทันที เขาหันหน้าหนีไปอีกทาง ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมายื่นให้อีกฝ่าย
“เอ๋?” โพรทาเลียมองอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ทำไม
“ใบหน้านาย...มันเลอะอยู่นะ”
“เอ๋...ตายจริงตรงไหนนะ?” โพรทาเลียสงสัยเลยว่าตรงไหน เพราะเธอไม่เห็น
“เอ่อ...งั้นฉันช่วยเช็ดนะ”
ฟีนีอุสขอช่วยเช็ดใบหน้าอีกฝ่าย โพรทาเลียก็ยอมให้อีกฝ่ายเช็ดให้ ฟีนีอุสช่วยเช็ดให้อย่างเบามือ โพรทาเลียรู้สึกจั๊กจี้หน่อยๆ ที่อีกฝ่ายเช็ดใบหน้าให้เธอ แต่ไม่รู้ทำไมพอมองอีกฝ่ายเธอรู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับอีกฝ่าย วันแรกๆ ที่เจอ เธอไม่เคยสนใจเขา แต่พอเขาเข้ามาใกล้มาสนิทกับเธอมั้ง เธอก็รู้สึกมีความรู้สึกแปลกๆ ข้างในอกของเธอ ฟีนีอุสที่เช็ดหน้าให้อีกฝ่าย เขามองอีกฝ่ายแล้วยิ้มให้เขา ทำเอาโพรทาเลียหน้าแดงทันที ระหว่างฟีนีอุสเช็ดหน้าให้โพรทาเลียสองพี่น้องบ้านแจ็กสันกำลังมองอย่างไม่ชอบใจสุดๆ พวกเขาขมวดคิ้วแบบสุดๆ
“พี่! คิดเหมือนผมไหม?”
“คิดสิ เจ้าบ้านั้นแตะอั๋งคีย์ ฉันอยากซัดหน้าฟีนีอุส”
“ผมด้วย!!”
ลิซ่ามองทั้งสองคนก็ขำทันที เธอเดินมาอยู่ระหว่างกลางของทั้งสองคนทันที
“ไม่เอาน่าๆ ใจเย็นๆ เหอะ พวกนายไปทำงานต่อดีกว่านะ คุณแจ็กสันเรียกแล้วนะ” ลิซ่าพาทั้งสองคนออกจากตรงนั้นทันที
“แต่ว่า!!” ทั้งสองคนโดนลิซ่าพาไปหาคุณแจ็กสันทันที
หลังจากที่ฟีนีอุสเช็ดใบหน้าของคีย์เสร็จ พวกเขาก็ไปรวมตัวกับคนอื่นๆ เพอร์ซีย์แอบมองคีย์อยู่ เขาเห็นตอนที่ฟีนีอุสเช็ดใบหน้าให้คีย์ เขารู้สึกไม่ชอบใจที่เห็นแบบนั้น เพอร์ซีย์ส่ายหน้า เขาสงสัยว่าตัวเองทำไมคิดแบบนั้น เขาเหมือนไม่ชอบใจที่เห็นฟีนีอุสแตะต้องคีย์ เขาเลิกคิดเรื่องนี้ก่อนจะหันไปทำหน้าที่ตัวเองต่อ เขาสั่งให้พวกเจ้าหน้าที่สนามพยาบาลพาคนสลบกลับไปโรงสถานพยาบาล แล้วจะมีอีกกลุ่มจะมีพวกที่เก่งวิทยาศาสตร์จะตรวจสอบเครื่องพ่นควันว่ามีสารหรือยาอะไรที่โดนพ่นออกมา ทั้งสองจุดนั้นมีแต่ความวุ่นวายมากๆ ส่วนคีย์นั้นโดนห้ามไปวุ่นวายกับพวกนั้นเด็ดขาด โพรทาเลียก็เซ็งหน่อยๆ
ระหว่างที่ทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่นั้น คนที่แอบอยู่ที่กดปุ่มเครื่องพ่นควัน มองพวกคีย์อย่างไม่ชอบใจที่แผนนี้กับเสร็จสิ้นไม่กี่เปอร์เซ็นต์ เขาเดินหนีไปในป่าทันที เขาเดินเข้าป่ามาก็มีถ้ำใหญ่หนึ่งถ้ำมีต้นไม้ เถาวัลย์ ปกคลุมถ้ำไว้ พอมาถึงปากประตูถ้ำมีก้อนหินบังอยู่ พอมาถึงเขาก็พูดรหัสผ่าน พอพูดไปก้อนหินก็ขยับให้เขาผ่าน พอผ่านเข้ามา เขาก็เดินเข้าไปเรื่อยๆ ก่อนจะเดินมาถึงจุดที่เหล่าอสุรกายทุกตัวกำลังเกาะกลุ่มกันหรือกำลังสังสรรค์กันอย่างมีความสุข
“นูอัส!!” คนที่เข้ามาเรียกนูอัสทันที
“หือ! ?”
นูอัสได้ยินคนเรียกชื่อตนเอง เธอลุกขึ้นมาทันที พอเธอหันมาตัวเธอได้อยู่ในร่างเดิมของเธอ ตอนนี้เธอมีรูปลักษณ์เหมือนมนุษย์แต่มีผมเป็นงูสีฟ้าน้ำเงิน แต่ไม่สามารถทำให้ใครเป็นหินได้ เธอเดินมาหาอูโร คนที่เธอสั่งให้ไปวางกับดักควัน
“มีอะไรอูโร!!”
อูโรทำหน้าซีดและเหงื่อตก เขาไม่หันมามองนูอัสเลย “แผน...แผนเจ้า...ล้ม!!”
นูอัสได้ยินแบบนั้น เธอรีบเดินไปหาอีกฝ่ายทันที แล้วจะกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายทันที
“แกพูดอะไรนะ!!” นูอัสพูดพร้อมกับถลึงตาใส่อีกฝ่ายอีก
อูโรรู้สึกอึดอัดสุดๆ เขาพยายามจะพูดออกไป “แผน...แผนเจ้าล้ม!!”
“เป็นงั้นได้ไง!!” นูอัสถามทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น “มันเกิดอะไรขึ้น!? อูโร!!”
“แบบว่า...หลังจากควันทำให้พวกฮาล์ฟบลัดสลบไป แล้วโฟกัสเมซ่ากับวันเดอร์เลอร์ สร้างเกราะปกคลุมเขตที่เจ้ากำหนดให้ข้าไปทำ แถมเจ้าวันเดอร์เลอร์มีสิ่งประดิษฐ์ป้องกันควันนั้นด้วย!! ทำให้ตนเองเข้าไปช่วยพวกที่สลบแล้วจัดการเครื่องพ่นควันนั้น!”
นูอัสได้ยินถึงกับอารมณ์เสียทันที “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!! ทำไม ทำไม” นูอัสปล่อยคอเสื้ออีกฝ่าย แล้วอาละวาดพังข้าวของทันที “ทำไมต้องเป็นเจ้านั้น ใครก็ได้ฆ่ามันได้ไหม!!”
“หึๆ งั้นหลังจากนี้ถึงตาข้าแล้วสินะ!!” เฟลพูดขึ้นทันที “เจ้าอยู่เฉยๆ ดีที่สุดแล้ว นูอัส”
“พูดไปเถอะ!! ถ้าเจ้าทำแผนล้มเหมือนกัน เฟล อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้า!!”
“เฮ้อ...พวกน่ารำคาญ” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น
“แกว่าไงนะ!!” เฟลหันไปทางชายคนนั้นทันที “แกพูดกับข้าแบบนั้นหมายความว่าไง โวดูลักซ์”
ชายที่พูดว่าน่ารำคาญ เขามีลักษณะคล้ายมนุษย์ แต่มีเกล็ดปลาตามตัวบางจุดแล้วมีหูเหมือนครีบปลา เขานั่งดื่มเหล้าอยู่ ก่อนจะหันไปมองเฟล
“ก็อย่างที่พูด น่ารำคาญมีแต่ปาก แต่ก็ไม่เคยทำได้ นูอัสก็ทำมาหลายปี แต่ก็... “โวดูลักซ์ยกเหล้าขึ้นดื่มก่อนจะพูดต่อ” พลาด เพราะเจ้าพวกกลุ่มของแจ็กสันมาวุ่นวายตลอด และแก้ปัญหาตลอด”
“เลิกพูดเลย โวดูลักซ์ ยังไม่เคยทำอะไรก็อย่าพูด ข้าอุตส่าห์ทำให้พวกแกทุกอย่าง แต่พวกแกไม่เห็นช่วยกันสักนิด!!” นูอัสเดินเข้าไปใกล้แล้วชี้หน้าโวดูลักซ์
“แม้ๆ ช่วยก็แย่ไปด้วยสิ” โวดูลักซ์พูดขึ้นแล้วยื่นหน้าเข้าหานูอัส "แต่หลังจากนี้พวกเราคงต้องคิดแผนดีๆ ได้นั้นล่ะ"
“ใช่ งั้นตอนนี้…” นูอัสพูดขึ้นเธอเดินมาอยู่ใจกลางลานกว้างของถ้ำ ทุกคนต่างมองเธอทันที “เราต้องกลับค่ายเพื่อไม่ให้เป็นที่น่าสงสัย แล้วค่อยมาคิดแผนต่อไปกัน!!”
จบตอนที่ 17 โปรดติดตามอ่านตอนที่ 18 ต่อไป