ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด
สองสาวเดินกันไปที่โรงอาหารทันที พอเดินกันไปก็ไปตักอาหารเพื่อกลับไปนั่งที พอแย่งทางกัน โพรทาเลียถือถาดของตัวเองที่ตักมาเยอะเหมือนเดิม พอเธอเดินมานั่งที่เธอก็เห็นเด็กตัวน้อยของเธอและพี่สาวของเธอกำลังป้อนอาหารให้แก่ลูกน้อยของเธอ โพรทาเลียเห็นก็ยิ้มอย่างชอบใจ เธอค่อยๆ เดินไปนั่งข้างๆ ลูกสาวของตนทันที
“อร่อยไหมเอย? คาเร็นน่า”
“ม๊ะม๊า!”
คาเร็นน่าเรียกผู้เป็นแม่ออกมาจนเสียงดัง ทำให้ทุกคนในบ้านเฮอร์มีสหรือบ้านข้างๆ ต่างมองกัน โพรทาเลียหลับตาเก็บความเคืองที่เด็กน้อยคนนี้ทำให้เธอจะลำบากเอาได้จริงๆ
“คาเร็นน่า พี่บอกแล้วไงว่าให้เรียกพี่ชายไม่ใช่เหรอ?”
“ก็หนูอยากเรียกพี่ว่าม๊ะม๊านี่น่า เพราะว่าพี่เลี้ยงหนูมาตั้งแต่เป็นทารกนี่น่า”
คาเร็นน่ายิ้มอย่างอ่อนโยนจนทำให้โพรทาเลียไม่กล้าโกรธเลยจริงๆ ส่วนรอบข้างพอได้ยินแบบนั้นก็หันไปกินอาหารต่อทันที เธอเขยิบตาให้ลูกสาว คาเร็นน่าก็เขยิบตาให้แม่ทันที สองแม่ลูกนี่เหมือนรู้ใจกันว่าต้องทำอะไรมั้ง โพรทาเลียขอพี่ลิซ่าว่าจะป้อนข้าให้ลูกสาวต่อเอง แต่คาเร็นน่าห้ามทันทีที่ เพราะเธออยากฝึกกินเองมั้ง นั้นทำให้โพรทาเลียแปลกใจที่ลูกสาวอยากทำอะไรด้วยตนเองมั้ง เธอลูบหัวลูกสาวเบาๆ ก่อนที่เธอจะรู้สึกสายตาที่มองเธอ เธอหันไปมองด้านข้างของเธอที่ลิซ่ากำลังจับจ้องเธอด้วยรอยยิ้มอันมีความสุข
“เอ่อ...มีอะไรที่ทำให้ท่านพี่มีความสุขจนยิ้มขนาดนั้นหรือครับ?”
ลิซ่าได้ยินโพรทาเลียถามเธอก็ออกจากวังวนความคิดของตนเอง “อ๊ะ...เปล่านะ แค่มีความสุขที่ได้เห็นเจ้ามีความสุขอีกครั้ง”
โพรทาเลียนิ่งไปทันทีที่เธอยิ้มออกมา “งั้นเหรอ...”
ลิซ่าพยักหน้าเล็กน้อย “ใช่ ข้าไม่ได้เห็นเจ้ามีความสุขมานานแค่ไหนกัน ทุกทีเจ้าเอาแต่มีสีหน้าที่นิ่งหรือไม่ก็โศกเศร้า...จนพวกเรามาอยู่ที่นี้...จนสามารถแสดงสีหน้าที่เจ้าไม่เคยแสดงให้ข้าได้เห็นมัน”
คำพูดทุกอย่างของลิซ่า ทำให้เธอรู้สึกตะลึงใจของเธอมากๆ จนอยากร้องไห้จริงๆ
“ไม่หรอก...ถึงผมมาอยู่ที่นี่ ถึงจะมีความสุขก็ตาม…” เธอค่อยๆ ยื่นมืออันเรียวบางเล็กไปจับมืออันดูเบาะบางของอีกฝ่ายเบาๆ “แต่ถ้าผมไม่มีท่าน ผมก็คงไม่ได้มีความสุขขนาดนี้หรอกครับ”
“…” ลิซ่านิ่งไปกับคำพูดอีกฝ่าย น้ำตาเธอได้ไหลลงมาจากดวงตา เธอค่อยๆยิ้มให้เด็กน้อย “ข้าก็เหมือนกัน...ถ้าเจ้าไม่เข้ามาในชีวิต ข้าก็คง...ไม่ได้มีวันเวลาที่ข้ารู้สึกมีความสุขแบบนี้”
ทั้งสองคนต่างยิ้มกันอย่างมีความสุข คาเร็นน่าที่กำลังทานอาหารอยู่ก็ออกมาจากการทานอาหารแล้วกอดลิซ่าแน่นๆ
“หนูก็ดีใจที่ได้เจอพี่ลิซ่าที่ทั้งใจดีและน่ารักแบบนี้นะคะ”
“คาเร็นน่า...” ลิซ่ามองเด็กตัวน้อยที่เธอช่วยโพรทาเลียเลี้ยงมาตั้งแต่เป็นทารก เธอไม่นึกว่าเด็กตัวเล็กแค่นี้จะพูดอะไรได้ดีแบบนี้ ก่อนที่เธอจะกอดเด็กน้อยตอบ “ข้าก็ดีใจที่ได้เจอเจ้านะ คาเร็นน่า เจ้าเป็นเด็กน้อยที่น่ารักและซนมากสำหรับข้าจริงๆ”
“คิกๆ” คาเร็นน่ายิ้มอย่างมีความสุข
ลิซ่าจ้องมองคาเร็นน่าอย่างรู้สึกรักใคร่จริงๆ ทำให้เธออยากมีเจ้าตัวน้อยเหมือนกันขึ้นมาทันที ก่อนจะเผลอพูดบางอย่างออกมา
“ชักอยากจะมีลูกแล้วสิ”
โพรทาเลียได้ยินถึงกับอึ้งไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ในหัวของเธอคิดเยอะเลยว่าพี่สาวพูดแบบนั้น อีกฝ่ายยังไม่มีคนรักไม่ใช่เหรอ ระหว่างที่โพรทาเลียคิด สายตาของลิซ่าหันไปมองตรงทางโซนบ้านโพไซดอน โพรทาเลียหันไปมองตามจุดที่ลิซ่ามองเธอ เธอกระจ่างทันทีกับคำพูดนั้นของลิซ่า
“นี่พี่...มีคนมีใจให้ใครแล้วหรือ?” โพรทาเลียถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“เอ๊ะ!!” ลิซ่าหน้าแดงขึ้นมาทันที “คือว่า...”
พอได้เห็นใบหน้าอันแดงก่ำของลิซ่า เธอถึงกับคิดหนักเลยว่าชายผู้นั้นเป็นใครกัน เธอต้องตรวจสอบและต้องดูว่าอีกฝ่ายรักลิซ่าจริงไหม เพราะเธอไม่อยากให้พี่สาวโดนหลอกล่ะ แต่ในใจเธอกับคิดว่าคนที่พี่สาวมีใจให้นั้นไม่พ้นจากคนใกล้ตัวเธอแน่ๆ ถ้าใช่คนที่เธอคิดจริงๆ คงต้องทำการทดสอบคนคนนั้นซะหน่อย โพรทาเลียเลิกคิดทุกอย่างก่อนจะทานอาหารทันที ทานไปได้สักระยะทุกคนในบ้านเฮอร์มีสต่างลุกพร้อมกันทำให้พวกโพรทาเลียตกใจขึ้นมาทันที
“ทุกคนจะไปไหนกัน?” โพรทาเลียถามด้วยความสงสัย
"อ๋อ พวกเรากำลังจะไปเตรียมตัวสำหรับการฝึกนะ พวกเราอยากไปก่อนเพื่อจับคู่ฝึกกันนะ งั้นพวกเราไปนะ วันเดอร์เลอร์"
“โชคดีทุกคน”
ทุกคนต่างเดินกันออกไป โพรทาเลียมองทุกคนที่ออกไป เธอก็พึ่งสังเกตว่าบ้านอื่นๆ ก็หายไปกันเยอะเหมือนกัน แปลว่าทุกคนดูสนใจการฝึกนี่จริงๆ ตอนนี้ที่โต๊ะของบ้านเฮอร์มีสก็เหลืออยู่แค่ 4 คน คือ ตัวเธอ ลิซ่า คาเร็นน่าและคนสุกท้ายที่กำลังทานอาหารอย่างช้าๆ หัวหน้าบ้านโทมัส โพรทาเลียเห็นอีกฝ่ายก็สงสัยว่าอีกฝ่ายไม่สนใจการฝึกเหรอ เธอลองถามอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอ
“แล้วพี่ไม่ตามพวกเขาไปเหรอ? พี่โทมัส”
“ไม่อ่ะ รีบไปก็เท่านั้น แต่ว่านะนายกลับมาเรียกพี่ได้แล้วเหรอ? บางครั้งนายเรียกฉันแบบเป็นกันเองมากกว่า”
“อ๊ะ...แฮะๆ โทษที ผมเผลอๆนะ แต่เรียกแบบไหนก็ได้ไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ๆ ต้องเรียกพี่!!” โทมัสพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
โพรทาเลียตกใจทันทีที่อีกฝ่ายตะโกนเสียงดังออกมา เธอตั้งสติดีๆ ก่อนจะตอบออกไป “ครับๆ ผมเรียกพี่เหมือนเดิมก็ได้...”
“อืม!!” โทมัสยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนจะกลับมานั่งทานอาหารต่อทันที
เมื่อพวกเขานั่งทานอาหารกันต่ออย่างสบายใจกัน ตรงบ้านอาธีน่าเด็กน้อยสองสาวที่กำลังจ้องมองมาที่พี่สาวของพวกเอก่อนที่พวกเธอจะลุกขึ้นกันถือจานเดินไปที่โต๊ะบ้านเฮอร์มีสทันที มาร์โคกำลังทานอาหารเห็นพี่สาวของตนเองกำลังเดินไปบ้านเฮอร์มีส เขาก็ลุกขึ้นตามทันที ก่อนจะไปหาพวกพี่สาวที่กำลังเดินไป
“พี่ๆ จะไปไหนกันนะ”
“ไปนั่งกับพี่นะสิ!” สองสาวพูดพร้อมกัน
มาร์โคได้ยินแบบนั้น เขาถึงกับชอบความคิดของพวกพี่ๆ ทันที พวกเขาทั้งสามคนเดินกันไปจนถึงโต๊ะบ้านเฮอร์มีสทันที โพรทาเลียรู้สึกว่ามีใครกำลังยืนอยู่ข้างหลังโทมัส เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาดูว่าใครที่กำลังยืนอยู่ เธอก็เห็นสงสัยว่าพวกเขามาทำอะไร
“อ้าว...พวกเธอ?” พอโพรทาเลียมองพวกเขา
โทมัสก็หันไปมองทันทีว่าใครมากัน “เห้ย? พวกบ้านแจ็กสันมาทำอะไรกันล่ะเนี่ย?”
“เราทำอะไรก็ไม่ได้ขอพี่สักหน่อยนะ” คาเร็นน่าพูดก่อนจะนั่งตรงข้ามกับพี่สาวทันที
“เห้ยๆ นี่ที่นั่งของบ้านเฮอร์มีสนะ พวกเธอ”
“แล้ว! ?” คาเร็นน่าหันไปหาโทมัส
ทั้งสองต่างจ้องหน้ากันอย่างเคืองๆ กัน ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะดูไม่ชอบขี้หน้ากัน แต่ลึกๆ น่าจะแค่เล่นๆ กันนั้นล่ะ โพรทาเลียยิ้มออกมาก่อนจะห้ามทั้งสองคน
“เอาล่ะๆ เลิกทะเลาะกันเถอะนะ ไม่ได้มีกฎห้ามนั่งโต๊ะอื่นนี่น่า อยากนั่งก็นั่งเถอะนะ”
“ถ้าพูดแบบนั้นก็ขอนั่งด้วยละกัน!”
เสียงของโอราอุสดังขึ้นมา แต่เสียงดูเหมือนอยู่ใกล้ๆ โพรทาเลียหันไปตามเสียงนั้นก็เห็นโอราอุสนั่งข้างๆ ลิซ่าทันที ทั้งสองคนต่างยิ้มให้กันอย่างเขินๆ ทำเอาคิ้วของโพรทาเลียขมวดคิ้วมาทันที
“เห้ยๆ โอราอุสนายก็ด้วยอีกคนเหรอเนี่ย!!”
“ทำไมโทมัส นายมีปัญหาหรือไง?” โอราอุสยกคิ้วขึ้นให้เชิงแบบถาม
“มี...” โทมัสจ้องมองอีกฝ่ายไม่วางตา
โพรทาเลียมองทั้งสองที่กำลังทำสงครามตากันอยู่ แต่เธอก็หันสายตาไปทางพี่ชายของตนเอง ด้วยสีหน้าที่นิ่งสนิท โอราอุสรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที เขารู้สึกว่ามีใครกำลังมองเขาด้วยสายตาไม่หวังดีบางอย่าง ตัวเขาค่อยๆ หันไปด้านซ้ายมือของเขา เขาก็ได้เห็นน้องสาวของตนใช้สายตาที่จ้องมองเหมือนกำลังจ้องศัตรูอยู่ ทำเอาตัวเขางงเลยว่าไปทำอะไรให้น้องสาวกัน
“คะ...คีย์ นายจ้องฉันแบบนั้นทำไมล่ะนั้น”
โพรทาเลียไม่พูดอะไรเขาใช้สายตาเลื่อนมองต่ำ โอราอุสที่เห็นแบบนั้น เขามองลงต่ำก็เห็นว่ามือของเขากำลังจับมือลิซ่าอยู่นั้น แต่ลิซ่าไม่ทำอะไรสักอย่าง เขาเลยปล่อยมืออีกฝ่ายช้าๆ ก่อนจะกล่าวขอโทษ
“ขอโทษทีจับมือครับ...”
“ไม่เป็นไรค่ะ...”
โพรทาเลียจ้องเขม็งกว่าเดิม เธอเห็นลางที่ว่าลิซ่าได้แต่งงานกับพี่ชายเธอแน่ๆ แบบนี้ต้องมีเรื่องทำให้เจ็บปวดใจแน่ๆ แต่เธอคิดคนเรารักกันมันก็ไม่ได้ผิดนี่น่า แต่นี่มันแค่ไม่กี่เดือนที่มาอยู่ที่นี้เองนะ โพรทาเลียคิดหนักเลยว่าต้องให้พวกเขานั้นเจอบททดสอบที่ทำให้ความรักของพวกเขานั้นมั่งคงให้ได้ ระหว่างที่โพรทาเลียคิดหนักนั้น คาเร็นน่าทานอาหารเสร็จก็รู้สึกอยากทานขนมหวานทันที เธอหันไปหาผู้เป็นแม่ทันที
“ม๊ะม๊า หนูอยากทานขนมอ่ะ”
“เอ่อ...ขนม...” โพรทาเลียกำลังนึกอยู่ว่า วันนี้มีขนมอะไร
“วันนี้มีไอศกรีมค่ะ” เสียงของโฟกัสพูดขึ้นเธอมานั่งข้างๆ พี่สาวของตัวเองทันที “โฟกัส…”
โฟกัสยิ้มให้พี่สาวแล้วหันไปมองเด็กน้อย “ถ้าอยากทานขนมวันนี้มีไอศกรีมนะจ๊ะ”
พอคาเร็นน่าได้ยินก็ตาลุกวาวทันที “ว้าว ม๊ะม๊า หนูอยากทานไอศกรีมค่ะ!”
“จ้าๆ เดียวไปตักให้นะ” โพรทาเลียลุกขึ้นทันที ก่อนจะแตะไหล่ของโฟกัสเบาๆ “ฉันฝากน้องสาวด้วยนะ โฟกัส”
“ได้ค่ะพี่!” โฟกัสยิ้มให้พี่สาวก่อนจะหันไปคุยกับคาเร็นน่าอย่างสนิทสนมทันที
โพรทาเลียเดินออกมาตรงจุดที่มีอาหารวางตามโต๊ะที่มีจัดไว้ โพรทาเลียมองหาไอศกรีม ก่อนจะเห็นกล่องเหล็กสี่เหลี่ยมให้โพรทาเลียมองอย่างสงสัยว่ามันคืออะไร พอแตะที่กล่องเหล็กสี่เหลี่ยมนั้นมันเย็นมากๆ จนน่าสงสัย ทำเอาโพรทาเลียสะดุ้งไปเลย ก่อนจะมีคนอื่นๆ เดิมมาตรงจุดที่เธอยืนอยู่
“ขอโทษทีนะ”
“อ๊ะ...อืม...”
โพรทาเลียหลบทางให้คนที่เดินแซงเธอไปก่อน เขาจับไปที่ด้ามจับที่ติดอยู่กับกล่องเหล็กสี่เหลี่ยม พอเขาดึงด้ามจับนั้นมันก็เปิดมันก็เปิดออกแล้วมีไอเย็นออกมา ชายคนนั้นเขาไปหยิบไอศกรีมถ้วยหนึ่งออกมาแล้วก็ปิดฝานั้น โพรทาเลียก็รู้ล่ะว่าไอศกรีมอยู่ไหน เธอยกสิ่งที่เธอคิดว่ามันน่าจะเป็นฝาปิดเปิดสำหรับกล่องเล็กนี่ล่ะมั้ง พอเธอยกมันขึ้นไอความเย็นก็ไหลออกมา โพรทาเลียรู้สึกเย็นมาก แต่พอไอเย็นออกมาเธอก็มองไปที่ไอศกรีมที่อยู่ในกล่องนั้น เธอจ้องมองว่าจะเอาไอศกรีมรสอะไรดี แต่พอมองๆ เธอกับรู้สึกแปลกๆ หัวใจที่เต้นเร็วขึ้น แล้วภาพในหัวที่อยู่ๆ ขึ้นมาภาพตอนที่เธอโดนลักพาตัวไปครั้งแรก เธอรีบปิดฝานั้นทันทีจนมันเสียงดังทำให้ทุกคนหันไปมองกัน โพรทาเลียถอดหายใจเข้าออกอย่างแรก เธอไม่เคยเป็นแบบนี้เลยสักครั้งทำไมเธอถึงมาเป็นได้ เธอยกมือของตัวเองขึ้นมามันสั่นไปหมด เธอสงสัยว่าตัวเองเป็นอะไรไป ก็มีมือมาจับที่มือของเธอ โพรทาเลียหันไปมองคนที่มาจับมือของเธอ เธอเห็นใบหน้าของน้องสาวที่กำลังมีสีหน้าที่เป็นห่วง
“เดียวหนูหยิบให้เองดีกว่านะ”
โฟกัสไม่ถามอะไรพี่สาวเลย เธอเหมือนรู้ว่าพี่สาวนั้นเป็นอะไร เธอพูดจบก็ให้พี่สาวเธอออกห่างๆ จากตู้นั้น แล้วเธอไปหยิบไอศกรีมมา 3 ถ้วยทั้งหมดเป็นรสช็อกโกแลตหมด โฟกัสถือทั้งสามถ้วยไว้ที่มือข้างขวาของตัวเอง ก่อนจะเดินไปหาพี่สาวพร้อมกับจับมือพี่สาวทันที
“กลับที่กัน”
โฟกัสพูดจบก็จูงพี่สาวของเธอไปทันที โพรทาเลียมองน้องสาวของเธอที่กำลังจับมือเธอ เธอไม่นึกว่าจะมีวันที่โดนน้องสาวจูงมือเธอไปเอง ทุกทีเธอจะเป็นคนจูงมือน้องสาวตลอด ตอนนี้มันเหมือนสลับกันไปเลย ผู้คนบางส่วนจับจ้องมองทั้งสองคนอย่างสงสัย เพอร์ซีย์ที่นั่งทานอาหารอยู่มุมของผู้ดูแลพร้อมกับข้างๆ มีภรรยาของเขาที่เป็นผู้ช่วย แอนนาเบ็ธมองเด็กทั้งสองคนจูงมือกันไปอย่างน่าเอ็นดู ทำให้เธอคิดถึงเวลาที่ลูกๆ ของเธอจูงมือกันเดินไปจริงๆ
“เหมือนโพรทาเลียกับโฟกัสตอนเด็กๆ เลยแฮะ”
“หือ? เธอว่าอะไรนะ?” เพอร์ซีย์รู้สึกเหมือนภรรยาของเขาพูดอะไรบางอย่างแต่เขาไม่ทันได้ฟัง
“ฉันมองโฟกัสที่กำลังจูงมือคีย์นะ นึกถึงตอนที่โพรทาเลียจูงมือโฟกัสมากๆ เลยล่ะ เด็กทั้งสอง คนหนึ่งช่างมีความกล้าที่จะเผชิญกับทุกอย่าง อีกคนนั้นช่างขี้กลัวจนไม่อยากทำอะไรจนพี่สาวต้องเป็นคนนำให้ตลอด…แต่ว่า...”
“พอเถอะเวลามันผ่านไปแล้ว โฟกัสก็ดูเข้มแข็งขึ้นมากแต่ก่อนอีกนะ”
“ก็จริงน่านะ...แต่ยังไงเด็กสองคนนั้นก็ทำให้รู้สึกเหมือนลูกๆ เราตอนเด็กๆ อยู่ดีน่านะ จริงสิ...เพอร์ซีย์~” แอนนาเบ็ธหันไปมองสามีของตนทันที
เพอร์ซีย์รู้สึกสังหรณ์ไม่ดีที่ภรรยาอยู่ๆ ก็พูดน้ำเสียงอ้อนๆ อีก “มะ...มีอะไรหรือ แอนนี่?”
“คิกๆ ไม่มีอะไรจ๊ะ”
“อ้าว!” เพอร์ซีย์งงเลยว่าอยู่ๆ เรียกเขาด้วยเสียงหวานๆ แต่กลับบอกว่าไม่มีอะไร “แล้วจะเรียกทำไมล่ะนั้น”
“แค่อยากเรียกน่านะ”
“ห๊า!?” เพอร์ซีย์งงว่าภรรยาเขาเป็นอะไรวันนี้
แอนนาเบ็ธยังยิ้มอย่างไม่มีอะไร แต่ในใจของเธอกับมีบางอย่างที่อยากพูดกับเพอร์ซีย์ เรื่องโพรทาเลียที่หายออกไปนอกค่าย เธอรู้ว่าสามีของตัวเองนั้นได้ส่งข่าวคนภายนอกช่วยหาโพรทาเลีย แต่เธอกับรู้สึกว่าถึงไม่หาลูกสาว แต่ความรู้สึกที่ว่าลูกสาวอยู่ใกล้ๆ นี่เอง เธอสงสัยว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น
ทางด้านโพรทาเลียที่กลับมาเธอยังนั่งนิ่งไม่ได้แตะอาหารที่ยังเหลืออยู่ โฟกัสมองพี่สาวที่นั่งนิ่งไป ทำเอาเธอเป็นห่วงชอบกล เธอกำลังห่วงพี่สาวอยู่นั้น ก็มีคนมาดันตัวเธอออกจากตรงนั้นแล้วเขาก็มานั่งคัดกลางทันที โฟกัสมองอย่างสงสัยว่าใครกัน ก่อนจะเห็นว่าเป็นคนสนิทของเธอ
“คราวิล!!” โฟกัสตกใจขึ้นมาที่เห็นแฟนหนุ่ม ก่อนจะต่อว่าแฟนหนุ่มทันที “นายมาดันฉันออกจากที่ฉันทำไมเนี่ย?”
“ทำไม? ฉันจะนั่งตรงนี้!”
เขาพูดน้ำเสียงเยือกเย็น สายตาของเขามองไปที่คีย์ เขารู้สึกไม่ชอบใจที่อีกฝ่ายนั้นมาทำตัวสนิทกับแฟนเขา ทั้งจับมือกัน ทั้งแตะตัวกัน เขาเป็นแฟนยังไม่ทำอะไรขนาดนั้นเลยนะ โพรทาเลียไม่ได้สนใจชายที่มานั่งข้างๆ เธอเลย ตัวเธอยังสับสนอยู่ว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกหัวใจที่เต้นเร็วผิดปกติ มือที่สั่นตลอด เธอจำความรู้สึกนี่ได้ ความรู้สึกถึงความหวาดกลัว เธอขมวดคิ้วทันที ว่าทำไมตัวเธอถึงเป็นแบบนี้กัน
คาเร็นน่ายกช้อนที่มีไอศกรีมอยู่ขึ้นมาจ่อไปทางแม่ของตนทันที “ม๊ะม๊า อ้า!”
โพรทาเลียได้ยินเสียงลูกสาว เธอหันไปมองเธอมองแววตาของลูกสาวที่แฝงความเป็นอยู่ลึกๆ เธอยิ้มออกมาก่อนจะก่อนจะอ้าปากกินไอศกรีมนั้น
“อร่อยไหมคะ”
“อืม อร่อยมากเลย” โพรทาเลียกอดลูกสาวของเธอเบาๆ
เธอสะบัดความกลัวนั้นออกไปทันที เธอไม่อยากให้มันทำให้เธอหวาดกลัว เธอหวาดกลัวมาทั้งชีวิตแล้ว เธอจะไม่ยอมให้มันทำให้เธอหวาดกลัวอีก
โพรทาเลียเห็นรู้สึกบางอย่างเลยว่าสายตาอีกฝ่ายเหมือนเป็นสายตาที่บ่งบอกว่าไม่ชอบขี้หน้าเธอ แต่ทำไมอีกฝ่ายถึงต้องมองเธอแบบนั้นล่ะ โฟกัสเห็นทั้งสองคนจ้องมองกันไม่ละสายตาทำให้ตัวเธอนั้นต้องยกช้อนที่มีอาหารขึ้นมา ยัดใส่ปากของชายข้างๆ เธอทันที ทุกคนกำลังนั่งทานอาหารกันอย่างอร่อยจนเวลานั้นเลยมาเยอะแล้วจนพวกหนุ่มๆ พึ่งสังเกต
“ตายแล้ว!! พวกเราไปสายแล้ว!!”
“ว่าไงนะ!!” โทมัสดูที่นาฬิกาทันที “จริงด้วย!!”
“สายเหรอ!”
ทุกคนได้ยินรีบกินอาหารของตัวเองกัน แล้วเอาจานไปเก็บตรงจุดที่พวกเขาให้วางกัน ทุกคนต่างรีบวิ่งออกจากโรงอาหารทันที โพรทาเลียที่กำลังจะวิ่งนั้น เธอเกือบลูกสาวของเธอ เธอหันไปมองคาเร็นน่ากำลังจะวิ่งมา แต่ก็เธอก็หอบแล้ว โพรทาเลียรีบวิ่งไปหาแล้วอุ้มลูกสาวแล้ววิ่งตามทุกคนไปทันที พวกเขาวิ่งตรงไปยังสนามฝึกกัน พอมาถึงกันก็ได้เห็นทุกคนนั้นกำลังจับคู่ฝึกอยู่ พวกเขาแอบมองกันก่อนว่าอาจารย์ไครอนไม่ได้อยู่แถวนั้น พวกเขาก็ค่อยๆ แอบเข้าไปกันอย่างช้าๆ
“ดูเหมือนพวกเจ้าจะชะล่าใจว่าข้าจะยอมปล่อยให้เวลานั้นเชื่องช้าต่อไปหรือ...”
ทุกคนต่างหยุดนิ่งไปกันทันที ก่อนที่พวกเขาจะหันไปมองต้นเสียงที่พูดขึ้นมา ทุกคนถึงกับสะดุ้งทันทีที่เห็นคนข้างหลังพวกเขาคือ อาจารย์ไครอน
“อาจารย์ไครอน!!”
“วันนี้คงต้องมีเด็กที่ต้องฝึกหนักหน่อยแล้วสินะ” ทุกคนได้ยินถึงกับหน้าซีดทันที ไครอนมองเด็กทั้ง 10 คนก่อนจะเห็นเด็กน้อยที่คีย์กำลังอุ้มอยู่ “แต่...ยกเว้นเด็กตัวเล็กคนนั้นคนเดียวที่ไม่ต้องฝึก”
ไครอนชี้มาที่คาเร็นน่า โพรทาเลียถึงกับโล่งอกที่ลูกสาวตัวเองไม่ต้องโดนลูกหลงด้วย
“เอาล่ะ พวกเจ้าทั้งที่เหลือไปจับคู่ฝึกกันซะ!”
ทุกคนถึงกับหงอยไปกันเลย แต่ก็ไปจับคู่กันโฟกัสตอนแรกอยากไปจับคู่กับพี่สาว แต่ก็โดนแฟนหนุ่มลากไปฝึกกัน ทุกคนต่างจับคู่กันไปแล้วจนเหลือแค่โพรทาเลียที่ยังอยู่กับลูกสาวอยู่ตรงนั้น
“รู้สึกจะเหลือแค่พวกเราสองคนสินะคะ ม๊ะม๊า”
โพรทาเลียย่อตัวลงข้างๆ ลูกสาว “ก็จริงน่านะ...แต่ว่านะคาเร็นน่า ทำไมถึงมาเรียกเหมือนเมื่อก่อนแทนล่ะ”
“ก็เรียกแม่เฉยๆ มันแปลกๆ เลยเรียกม๊ะม๊าดีกว่านะคะ”
“งั้นเหรอ...” เธอไม่ค่อยเข้าใจลูกสาวตัวเองเท่าไร แต่เรียกยังไงก็ได้น่านะ
โพรทาเลียยกมือขึ้นมา ตอนนี้มือเธอหายสั่นไปแล้ว ช่วงนี้เธอคงต้องห้ามไปมองไอศกรีมนั้น ไม่งั้นคงมีความรู้หวาดกลัวแบบนั้นอีกแน่ๆ โพรทาเลียกำลังคิดบางอย่างนั้น ก็มีเงาดำมาบังแดด เธอค่อยๆ เงยหน้ามองเธอเห็นอาจารย์ไครอนที่มายืนตรงหน้าของเธอ
เธอลุกขึ้นทันทีทันใด “อาจารย์ไครอน!!”
“ข้าเห็นว่าเจ้าไม่มีคู่ เลยมีคนหนึ่งอาสาจะฝึกกับเจ้านะ”
“ใครเหรอครับ?”
“ฉันเอง!” เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นมา
โพรทาเลียมองต้นเสียงนั้นทันทีที่พอเห็นอีกฝ่ายเธอถึงกับตะลึงไปทันทีตรงหน้าของเธอคือ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน พ่อของเธอนั้นเอง
จบตอนที่ 34 โปรดติดตามตอนที่ 35 ต่อไป