ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว
ดวงตาสีเขียวมรกตกำลังจับจ้องกับสถานที่ตรงหน้าอย่างสงสัยว่าที่นี้มีขนาดกว้างแค่ไหนกัน หลังจากที่พวกเธอได้ทำงานในไปรษณีย์ของเฮอร์มีส ตอนนี้พวกเธอยืนมองผู้คนจำนวนหนึ่งกำลังพักผ่อนในเวลาของตนเองกัน โทมัสนำทางทั้งสองคนไปยังข้างใน เดินไปยังห้องโถงที่มีโซฟาให้นั่งพัก มีตู้อาหารและเครื่องดื่ม ทำเอาโพรทาเลียคิดเลยว่าที่นี้ช่างอำนวยความสะดวกจริงๆ
‘เฮอร์มีสนี่...ใส่ใจ ลูกน้องเป็นด้วยแฮะ...’
ระหว่างที่โพรทาเลียคิดแบบนั้น เธอกับรู้สึกแปลกๆ เมื่อคิดถึงเฮอร์มีสขึ้นมา แต่ไม่รู้ทำไมเธอนึกถึงเทพองค์นั้นขึ้นมาได้ โดยที่พวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกัน หรือจะเป็นจิตวิญญาณที่เธอตามหาอยู่ อาจจะเกี่ยวข้องกับเฮอร์มีส ในหัวของโพรทาเลียมีแต่เรื่องให้คิดมากมายจนคิวทั้งสองข้างขมวดกันจนจะผูกเป็นโบได้อยู่แล้ว จนกระทั่งพวกเขาทั้งสามคนเดินตรงมาถึงหน้าประตูบานหนึ่ง
“เอาล่ะ ที่นี้เป็นห้องของพวกเธอนะ พอดีช่วงนี้พนักงานเยอะขึ้น ห้องว่างเลยน้อยลง...เอ่อ...พวกเธออยู่กันได้ใช่ไหม...หรือคีย์อยากย้ายไปกับนอนกับเพศเดียวกันดีละ?”
“เอ่อ...” โพรทาเลียคิดเลยว่าจะตอบยังไงดี
โฟกัสเข้ามากอดจากด้านหลังของโพรทาเลียทันที “ไม่ต้องให้คีย์ย้ายไปหรอก โทมัส ข้ากับน้องชายก็อยู่ด้วยกันมาตลอดอยู่แล้วเนอะ คีย์”
ใบหน้าอันอ้ำอึ้งของโพรทาเลียจับจ้องมองน้องสาวที่ยิ้มมาให้ ทำเอาเธอต้องตามน้ำน้องสาวทันที
“ใช่ครับ...พี่...งั้นพวกเรานอนห้องเดียวกันก็ได้ครับ เราอยู่กันแค่ไม่กี่วันเองนี่ครับ”
โทมัสมองทั้งสองคนก่อนจะยิ้มออกมา “รับทราบ! งั้นวันนี้พวกเธอก็พักได้เลยนะ พรุ่งนี้เริ่มงานเต็มวันเลยนะ!”
“ครับ/ค่ะ”
“แล้วก็นะ พวกเธอสามารถออกไปเที่ยวข้างนอกได้ แต่มีเวลากำหนดว่าต้องกลับมาตอน 3 ทุ่ม คงเข้าใจกันนะ”
“เข้าใจแล้วครับ พี่โทมัส”
“อืมๆ” โฟกัสพยักหน้าทันทีทันใด
“โอเค งั้นฉันไปล่ะ เชิญเข้าห้องกันไปเลยนะ” โทมัสเดินออกจากตรงนั้น พร้อมกับโบกมือลาทั้งสองคน
“ขอบคุณที่ดูแลพวกเรานะ โทมัส” โฟกัสพูดตามหลังโทมัสที่เดินออกไป
พอโทมัสเดินออกไปแล้ว ทั้งสองคนต่างใช้หางตามองหน้ากัน ก่อนจะเดินตรงกันเข้าไปข้างในห้องนอน พอได้เปิดประตูเข้าไปก็พบกับห้องนอนที่ดูสบายตามากๆ ภายในมีเตียงนอน 2 เตียง ระหว่างกลางก็มีโต๊ะหนังสือ และเครื่องตกแต่งตามห้องและกำแพง ทั้งสองคนต่างมองหน้ากันก่อนจะวิ่งกันเข้าไปนอนที่เตียงทันที
“อ๊า~~~”
เสียงอันดูสบายใจพูดออกมาพร้อมกัน เมื่อนอนลงก็ต่างยิ้มให้กัน
“ได้อยู่กันสองคนแล้วสินะ”
“จริงด้วยค่ะ...พี่ค่ะ...วันนี้เหนื่อยจังนะ”
“อืม เหนื่อยนะ แต่ก็สนุกดีเป็นงานที่ดูง่าย แต่ก็ยากตรงที่ต้องดูให้ละเอียดและรอบคอบน่าเนอะ”
“อืม งานพวกนี้มันละเอียดอ่อนน่านะ”
ทั้งสองคุยกันอยู่ท้องของทั้งสองต่างร้องออกมาพร้อมกัน
‘โครกกกกกกก~’
สองพี่น้องต่างหน้าแดงกันทันที พอมองหน้ากันก็ต่างหัวเราะกันอย่างมีความสุข เมื่อมองหน้ากันอีกก็ทำให้นึกถึงสมัยก่อนตอนที่พวกเธอยังอยู่ด้วยกันเสมอ
“นึกถึงสมัยก่อนเลยเนอะ”
“อืม สมัยที่พวกเรายังตัวติดกันน่าเนอะ”
เมื่อนึกย้อนกลับไปหลายปีก่อนทั้งสองคนเป็นฝาแฝดที่ตัวติดกันมากๆ ไม่เคยที่จะตัวห่างกันจนวันนั้นที่พวกเธอออกห่างกันโดยไม่รู้อะไรกัน
“นึกย้อนไปทีไร ทำเอาหนูเจ็บปวด...ที่รู้ๆ ว่าพี่ไม่ได้อยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้...”
“ช่างเถอะ โฟกัส...เรื่องมันผ่านไปแล้วนะ ปล่อยมันไปเถอะ...”
“พี่...”
“พี่รอวันที่จะได้จัดการกับหมอนั้น!”
โฟกัสได้ยินน้ำเสียงของพี่สาวเปลี่ยนพอเข้าใจเลย ถึงพี่สาวจะบอกว่าให้ปล่อยมันไป แต่ในใจพี่กับไม่ปล่อยเลย
“เอ่อ...ไปหาอะไรทานกันไหม?”
“อืม เอาสิ!”
ทั้งสองคนพยุงตัวขึ้นเพื่อลุกออกจากเตียงนอน ทั้งสองจับมือกันเหมือนสมัยก่อนที่จะจับมือกันไปไหนตลอด โฟกัสเลือกสถานที่ที่เธอเคยไปอย่างห้างใกล้ๆ ที่อยู่แถวนั้นพอดี ภายในห้างสรรพสินค้านั้นมีตั้งแต่ร้านเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องนอน เครื่องหอม และที่สำคัญที่สุดคือ ร้านอาหาร นั้นเอง โฟกัสอย่างให้พี่สาวได้ทานอาหารแสนอร่อย เพราะจากความทรงจำที่พี่สาวสื่อให้เห็น มีแต่อาหารน่าสยดสยองที่สุดที่เธอเห็นนั้นเอง เธอจะไม่ยอมให้พี่สาวได้ทานอาหารแบบนั้นอีกเด็ดขาด
ภายในห้างสรรพสินค้า มีผู้คนมากมายกำลังเดินกันไปตามทางต่างๆ ตรงจุดพักแถวบันไดเลื่อนทางขึ้นชั้นสี่ เอสเทลที่ออกมาจากบ้านตั้งแต่บ่ายโมง ได้มานักเจอกลุ่มเพื่อนสาวที่จะมาห้างกัน เอสเทลที่ไม่ได้สนใจเพื่อนๆ ที่เอาแต่จับจ้องมองผู้คนมากมายที่กำลังเดินอยู่ข้างล่างเลยสักนิด เธอเอาแต่คิดเรื่องเมื่อตอนกลางวันที่หลานสาวดูแตกต่างกว่าตอนที่เธอเคยเจอและยังมองของขวัญให้เธออีก เธอหันไปมองเข็มกลัดที่เธอได้มา มันทำให้เธอสับสนเลยว่านี่มันเรื่องอะไรกัน เพื่อนสาวคนหนึ่งหันมามองเอสเทลที่เอาแต่เหม่อลอยไม่สนใจสิ่งที่พวกเธอทำเหมือนทุกครั้ง
“นี่ เธอเป็นอะไร?” เพื่อนสาวเดินมาถามอย่างสงสัย
เอสเทลเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนสาวทันที “อ๋อ...เปล่านะ...”
เธอตอบปฏิเสธไปทันที โดยที่ไม่คิดเลยว่าเพื่อนสาวนั้นรู้ว่าเธอกำลังมีเรื่องคิดหนักอยู่ เธอเลยนั่งลงข้างๆ พร้อมกับพูดกับอีกฝ่าย
“ปากบอกเปล่า แต่ใบหน้าเธอกับมีสีหน้าที่กำลังคิดบางอย่างจนคิ้วชนกันแล้วนะ เอสเทล”
พอได้ยินแบบนั้นทำเอาเอสเทลยกมือขึ้นมาสัมผัสคิ้วของเธอที่เหมือนมันกำลังจะชนกันอยู่จริงๆ
“สีหน้าฉันออกขนาดนั้นเลยสินะ...”
” ใช่ มีเรื่องอะไรปรึกษาได้นะ เพื่อน”
“อืม...ไม่รู้สีว่าจะปรึกษายังไง...มันเรื่องส่วนตัวมากๆ นะ”
“อืม...ถ้าส่วนตัวเรื่องครอบครัว เธอคงต้องหาคนที่ปรึกษาได้ อย่างพี่ชายเธอ เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วนี่น่า ถามเขาสิ!”
เอสเทลนึกพี่ชายที่ไม่ได้เจอกันนานหลังจากเกิดเหตุการณ์ภายในครอบครัว อยากคุยกับพี่ก็ต้องโทรเวลาที่กำหนด สองสามปีมานี้เธอเลยไม่ติดต่อพี่ชายเท่าไร แต่พอมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทำให้เธอคิดเลยว่าต้องปรึกษาพี่ชายจริงๆ
“อืม...ฉันจะหาเวลาไปคุยกับพี่นะ...ขอบใจนะ” เธอกล่าวขอบคุณเพื่อนสาวที่แนะนำให้เธอปรึกษากับพี่ชายดู
“คิกๆ ฉันช่วยเธอได้เสมอนั้นล่ะ เอสเทล”
ทั้งสองคนต่างยิ้มกันอย่างมีความสุข ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน เพื่อนเหลือที่กำลังยืนพิงราวส่องชายหนุ่มกันอย่างสนุกสนามจนกระทั่งเพื่อนสาวคนหนึ่งในกลุ่มได้เห็นหนุ่มหน้าตาดีตตรงสเปกเธอมากๆ
“ตายแล้ว!! คนอะไรหน้าตาดูดีแถมน่ารักอีกนะ!!”
“มีคนหน้าตาน่ารักด้วยเหรอ สเปกเธอคนไหนนะ!!”
เพื่อนสาวคนที่สองรีบส่องมองก่อนที่เพื่อนสาวที่พูดคนแรกจะพูดบอกว่าตรงไหน เมื่อสายตาจับจ้องไปตรงจุดที่เพื่อนสาวคนแรกพูด ทำเอาเพื่อนสาวคนที่สองตาก็เป็นประกายทันที
“ตายแล้วดูน่ารักผสมหล่อด้วยนะนั่น สเปกเธอดูน่ารักจริงๆ เลยนะ”
“ใช่ไหมล่ะ ฉันอยากมีหนุ่มน้อยค่อยเอาใจฉัน ถึงหน้าตาน่ารัก แต่ถ้าแรงดีฉันก็เลิฟเลยล่ะ!”
“รสนิยมเธอนี่แปลกจริงๆ นะ”
“แต่ฉันว่าเขามากับแฟนสาวนะ” เพื่อนสาวคนที่สามเอ่ยขึ้น
“ว่าไงนะ!!” เพื่อนสาวทั้งสองคนต่างมองกันทันที
“ไหนๆ!!”
พวกสาวๆ ต่างมองกันก็เห็นว่าเด็กหนุ่มที่พูดถึงกำลังจับมือกับหญิงสาวอยู่
“อ๊าาาาาาาาาาา ทำไมคนหล่อถึงมีคนรักแล้วอ่ะ!!” เพื่อนสาวคนแรกถึงกับหน้าตาตกทันที
เอสเทลกับเพื่อนสาวอีกคนต่างมองเพื่อนๆ ที่พูดอะไรเสียงดังจนไม่เกรงใจชาวบ้านสักคน พวกเธอมองหน้ากันก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหาเพื่อนทั้งสามคนทันที
“นี้ๆ เกรงใจชาวบ้านหน่อยนะ พวกเธอเสียงดังไปแล้วนะ”
“แงงงง เอสเทล เด็กหนุ่มคนนั้นฉันอยากได้เป็นแฟนอ่ะ แต่เขาจูงมือกับผู้หญิงอ่ะ”
“พอเลยๆ เธอก็พูดแบบนี้ทุกครั้งนะ แต่ก็หาคนอื่นแทน แต่คนที่พูดถึงนี่ หน้าตายังไงนะ”
“นั้นอ่ะ...” เพื่อนคนแรกชี้ไปทางเด็กหนุ่มผมน้ำตาล “เด็กหนุ่มผมน้ำตาลกับสาวผมน้ำตาลสั้นนะ”
เอสเทลโผล่หน้าออกไปมองอย่างสงสัยว่าคนที่เพื่อนโวยวายอยากได้เป็นใครอีก พอเธอมองดูเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังขึ้นบันไดของชั้นสองมา ดวงตาเธอเปิดกว้างทันทีทันใด เธอเห็นคนที่รู้สึกไม่รู้จัก แต่เมื่อมองเสื้อผ้าของพวกเขานั้นทำเอาเธออึ้งไปเลยว่าทำไมพวกเขานั้นถึงใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกับคนที่เธอรู้จัก แต่แล้วดวงตาของเธอเริ่มทำงาน การมองเห็นผ่านมนต์บังตานั้นเป็นความสามารถพิเศษสำหรับมนุษย์ที่พิเศษคนหนึ่ง แล้วเอสเทลเป็นหนึ่งในนั้น ตอนนี้เธอก็ได้เห็นร่างของชายหญิงผมสีน้ำตาลเปลี่ยนไปเป็นคนที่เธอรู้จักในทันที
“พอเห็นแบบนี้อยากเข้าไปแย่งเลยอ่ะ!”
“เดียวโดนข้อหาแย่งผัวชาวบ้านหรอกนะ”
” จริงด้วยๆ”
“แต่ฉันอยากได้เขาอ่ะ! โตขึ้นอาจจะหล่อก็ได้นะ!!”
“ฉันว่าอย่าฝันดีกว่านะ” เอสเทลพูดก่อนจะเดินลงไปตรงไปที่บันไดเลื่อนเพื่อลงไปข้างล่าง
พวกสาวๆ เห็นเพื่อนสาวกำลังจะเดินลงข้างล่างทำให้สงสัยกันทันที
“เธอจะไปไหนนะ? เอสเทล”
เอสเทลเงยหน้าไปมองเพื่อนๆ “ไปหาหลานๆ นะ”
“เอ๋!?”
พวกเพื่อนสาวต่างตาโตกันไป พวกสาวเกือบลืมว่าเอสเทลมีหลานๆ ที่อายุน้อยกว่าตัวเธออยู่ด้วย เอสเทลรีบเดินไปที่ชั้นสามที่สองชายหญิงกำลังขึ้นมาอยู่ เธอเลยไปดักรออยู่หน้าบันไดเลื่อนที่กำลังขึ้นชั้นสามมาอยู่ ทั้งสองคนกำลังคุยเรื่องที่จะกินอะไรนอกจากเบอร์เกอร์
“พี่ไม่รู้เหรอคะ ว่าอยากกินอะไรนอกจากที่หนูเสนอไปนะ?”
“อืม นึกไม่ออกเลยนะว่าจะกินอะไรนอกจากเบอร์เกอร์น่านะ”
“งั้นเหรอ...” โฟกัสอยากให้พี่สาวกินหลายอย่าง เพราะตัวโพรทาเลียนั้นก็ผอมอยู่แล้ว
“ถ้าอยากกินอร่อยๆ นอกจากเบอร์เกอร์ละก็...”
ทั้งสองคนได้ยินเสียงอันคุ้นเคย ทำเอาสะดุ้งเมื่อบันไดขึ้นมาถึงชั้นสาม พวกเขาก็เห็นคนที่รู้จักที่ดักรออยู่
‘พี่เอสเทล!!’
พอทั้งสองคนขึ้นมาถึงชั้นสามพวกเธอเดินหลบๆ ผู้คนที่เดินตามมา โพรทาเลียเห็นอีกฝ่ายก็แอบไปอยู่ข้างหลังโฟกัสที่ตอนนี้กลายเป็นพี่ลิซ่าทันใด ทั้งสองคนมองอีกฝ่ายอย่างกังวล โฟกัสเห็นว่าพี่สาวคงไม่กล้าพูดอะไรแน่ๆ เธอเลยเอ่ยขึ้นมาทันที
“เอ่อ...คุยกับพวกเราเหรอคะ?”
“อ้าว? ไม่คุยกับพวกเธอจะให้คุยกับใครล่ะ?” เอสเทลมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย
“แต่เรา...”
“โฟกัส!”
“!!” โฟกัสได้ยินชื่อตัวเองก็เหงื่อตกทันที “โทษนะคะ ฉันชื่อ ลิซ่า นะคะ ไม่ใช่...”
เอสเทลยกนิ้วขึ้นมาเหมือนบอกให้อีกฝ่ายเงียบ “เธอลืมไปไหมว่าถึงใช้มนต์บังตาในการอำพราง ก็ไม่สามารถหลบสายตาที่มองทะลุมันได้อย่างน้าสาวคนนี้หรอกนะ หลานทั้งสอง”
โพรทาเลียถึงกับสะดุ้งเลยเธอโทรจิตกับน้องสาวทันที
‘ที่พี่เอสเทลพูดมันจริงเหรอ?’
‘จริงค่ะ ความสามารถพิเศษจากคุณย่าส่งต่อกันมานะคะ’
‘แย่จริง...’
โพรทาเลียเดินออกมาจากหลังของโฟกัสทันที ก่อนที่จะเอามือขึ้นมาเกาหัวของตัวเอง
“เฮ้อ...อุปกรณ์ของฉัน ทำให้มนุษย์พิเศษๆ แบบพี่มองผ่านร่างแปลงได้นี้แย่จริงๆ นะ”
“แล้วทำไมต้องปลอมตัวกันด้วยล่ะ โฟกัสก็ด้วย ทุกทีก็ไม่เคยเลยนี่น่า”
“คือว่า...”
“มีเหตุผลนะ!”
“เหตุผล?” เอสเทลเอียงคอสงสัย
"ใช่ ถ้าพี่อยากฟัง เราค่อยหาที่ทานอาหารแล้วค่อยทานอาหารไปกินไปละกันนะ"
พอโพรทาเลียพูดแบบนั้น เอสเทลก็เข้าใจทันที “ก็ได้ๆ งั้นไปร้านที่มีอาหารอร่อยกว่าเบอร์เกอร์ดีกว่าไหม? น้าเลี้ยงเอง!”
“ไม่เอาค่ะ!!” โพรทาเลียเอ่ยขึ้นทันที
“เอ๋!” เอสเมลงุนงงทันที “ทำไมล่ะ?”
“หนูอยากจ่ายด้วยเงินตัวเองนะคะ!”
“อ๊ะ...งั้นเหรอ...เอ่อ...ตามสบายเลยนะ...” เอสเทลปล่อยให้หลานสาวจัดการเรื่องค่าอาหารเองเลย
ทั้งสองคนมองหน้ากันก่อนจะยิ้มให้กันทันที
“งั้นไปกันเลยนะ!”
เอสเทลเดินไปจับมือขอทั้งสองแล้วลากพาไปยังร้านที่เธออยากพาไปทันใด ทำเอาเพื่อนๆ ของเธอมองอย่างงงว่านั้นใช้หลานของเอสเทลแน่เหรอนั้น ทั้งสามคนต่างเดินกันจนมาถึงชั้นสาม ที่มีร้านอาหารที่เอสเทลอยากให้ลองทานกันถึงแม้อยากพาไปร้านของแม่ก็ตามที แต่ช่วงเวลานี้คงลำบากในการไปทานเพราะคนเยอะ เดินมาอีกสักพักก็ได้อยู่ตรงหน้าร้านที่มีรูปอาหารที่โดยห่อด้วยแป้ง โพรทาเลียเห็นก็พอนึกออกว่านี่คือร้านอะไร
“ร้านทาโก้เหรอ?” โพรทาเลียเอ่ยถามอย่างสงสัย ถึงจะเห็นก็ตามว่าตรงหน้าคือร้านทาโก้ก็ตาม
“ใช่แล้ว ร้านนี้อร่อยนะ ซอสทาโก้หลายแบบ แป้งมีทั้งหนา บาง กรอบ ให้เลือก มีหลายอย่างให้ทานด้วยนะ”
โฟกัสตื่นเต้นกับร้านที่ตัวเองยังไม่เคยมาทาน “ว้าว หนูอยากกินแล้วสิ แล้วพี่ล่ะ” เธอรีบหัวไปหาพี่สาวทันที "!?"
สีหน้าโฟกัสตกใจทันทีที่เห็นใบหน้าของพี่สาวที่ดูจะหิวจนน้ำลายไหลออกมาจากปากซะแล้ว ทำเอาโฟกัสต้องรีบเตือนพี่สาวทันที
“พี่จ้า! น้ำลายไหลหมดแล้ว!!”
“อ๊ะ!” โพรทาเลียฟังเรื่องของอร่อยจนทำให้น้ำลายไหล เมื่อน้องสาวทักเธอรีบเช็ดน้ำลายออกจากข้างปากทันที “งั้นไปทานกัน!”
“โอ้ว!”
สองแฝดต่างพากันเข้าไปข้างในก่อนผู้เป็นน้าสาว ระหว่างที่รอกันนั้นพวกเธอต่างมองรายการอาหารบนกำแพงที่ติดอยู่ มันมีอาหารหลายอย่างจนโพรทาเลียเลือกไม่ถูกจริงๆ เมื่อพวกเธอต่อแถวกันจนมาถึงคิวของพวกเธอ พนักงานต่างยิ้มเพื่อต้อนรับพวกเธอก่อนจะกล่าวคำพูดของพวกเขาเป็นประจำ
“ยินดีต้อนรับสู่ร้านทาโก้เลิฟเวอร์ค่ะ! จะรับอะไรดีคะ!”
เมื่อฟังชื่อร้านจากพนักงานโพรทาเลียคิดเลยว่าคนที่ตั้งชื่อร้านนี้ไม่ใช่คนเม็กซิกันแน่ๆ เพราะเป็นการตั้งชื่อแบบง่ายๆ จริงๆ
“เอ่อ...ฉันขอซอฟท์ ทาโก้เพิ่มหมู เพิ่มชีส และก็ซี่รีย์ฟรายส์ดับเบิ้ลชีส”
เอสเทลชี้ที่เมนูที่ตัวเธออยากกิน โพรทาเลียจ้องมองเมนูที่น้าสาวชี้ อย่างเมนูซอฟท์ทาโก้เป็นแป้งบาง มีผักต่างๆ และหมูอยู่ข้างล่างสุดของแป้ง ส่วนซี่รีย์ฟรายส์ดับเบิ้ลชีส จะเป็นมันฝรั่งเป็นแท่งๆ ทอดวางบนจานพร้อมกับใส่วัตถุดิบหลายอย่างพร้อมกับราดซอสชีสอย่างเยอะ โพรทาเลียเห็นถึงกับน้ำลายไหลทันที
“ของฉันเท่านี้ เอาล่ะทั้งสองคนจะสั่งอะไรดีล่ะ?” เอสเทลหันไปมองทั้งสองคนทันที
“งั้นหนู...” โฟกัสอยากสั่งหลายอย่างแบบสุดๆ แต่ต้องคิดก่อนว่าใครจ่าย
“ฉัน...” โพรทาเลียกำลังจะพูดบางอย่าง ทำให้ทั้งสองคนต่างมองโพรทาเลีย “ฉัน...ขอสั่งทุกเมนูเลยค่ะ!!”
“เอ๋”
“เอ๋”
“เอออออออออออออออออออออออ๋!!!”
เพราะคำพูดของโพรทาเลียนั้นเอง พนักงานภายในโซนทำอาหารต้องรับทำอาหารอย่างเร่งรีบ เพราะจำนวนเมนูที่โดยสั่งโดยลูกค้าสาวอย่างโพรทาเลีย โฟกัสเห็นเมนูของพี่สาวแล้วเธอก็อยากสั่งมั้ง โพรทาเลียเลยบอกให้น้องสาวสั่งต่อเลย เพราะเธอเป็นคนจ่ายอยู่แล้ว พอสั่งของครบแล้วก็จ่ายค่าอาหารทันที เมื่อโพรทาเลียหยิบแบงค์ร้อนดอลลาร์ออกมาหลายใบทำเอาเอสเทลที่อยู่ข้างๆ อึ้งไปทันทีว่าหลานสาวของเธอนั้นไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะแบบนี้
“นี่หลาน...ไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะนะ โพรทาเลีย...”
โพรทาเลียหันไปหาน้าสาวทันที “คิกๆ ความลับค่ะ”
เธอไม่กล้าบอกเท่าไรว่าได้เงินจากการเอาของที่ขโมยมาจากแซเทิร์นไปแลกเป็นเงินจำนวนมากน่านะ
“สงสัยเลยนะเนี่ย...” เอสเทลขมวดคิ้วอย่างสงสัย
พอจ่ายเงินเสร็จทั้งสามคนก็ไปนั่งรอที่โต๊ะ เพราะพนักงานบอกจะนำไปเสิร์ฟให้ พอมานั่งที่เก้าอี้แล้ว เอสเทลเอาแต่จ้องมองโพรทาเลียอย่างสงสัยสุดๆ ในหัวของเธอคิดเยอะตั้งแต่เรื่องที่คนตรงหน้าคือหลานของเธอจริงๆ และเรื่องที่หลานมีเงินเยอะเต็มกระเป๋าแบบนี้ อีกฝ่ายติดอะไรเยอะแยะจนไม่ได้สังเกตเลยว่าอาหารจำนวนมากมาเสิร์ฟเลย พวกโพรทาเลียก็ทานอาหารตรงหน้าทันที เอสเทลเอาแต่คิดอย่างเดียวจนทำให้โฟกัสสงสัยว่าน้าสาวไม่สนใจรอบข้างเลย ทำให้เธอต้องเรียกอีกฝ่ายทันที
“เอส...เทส พี่เอสเอสค่ะ!”
“อ๊ะ!” เอสเทลได้สติก็มองหลานสาวทันที “อะไรเหรอ? โฟกัส”
“อาหารมาถึงแล้ว พี่ยังไม่ยอมทานเลยนี่ค่ะ พวกเราทานหมดไปครึ่งหนึ่งแล้วนะ”
“เอ๋...เอ๋!!” เธอมองอาหารตรงหน้าที่ยังเยอะอยู่เลย แต่หลานสาวบอกว่าทาไปครึ่งหนึ่งแล้ว เธอเหงื่อตกเลยที่หลานๆ เธอกินจุแบบนี้ “พวกเธอ...กินเก่งกันเหมือนเดิมเลยนะ...”
“ค่ะ ของหนูนะกินปกติ แต่พี่โพรทาเลียน่าจะทานเยอะกว่าหนูอีกน่านะ” โฟกัสหันไปพี่สาวที่กินทาโก้อย่างอร่อย
“งั้นบอกพี่ได้ไหมว่าทำไมต้องปลอมตัวด้วยนะ”
“ถ้างั้นหนูเล่าเองละกันนะ เพราะพี่โพรทาเลียทานอาหารอยู่”
โฟกัสเล่าเรื่องทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนมาถึงปัจจุบันว่าเกิดอะไรขึ้น เอสเทลได้ฟังทุกอย่างสีหน้าของเธอนั้นมีตั้งเรียบเฉย บางอย่างขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ พอฟังจบเธอถึงกับทำหน้าซีเรียสมากๆ
” บัดซบ!!”
“!!” สองแฝดตกใจที่น้าสาวพูดกับสบถออกมา
เอสเทลเห็นหลานๆ ตกใจ เธอก็ทำสีหน้าเป็นปกติทันที “ขอโทษที...ฉันได้ตั้งใจให้พวกเธอตกใจนะ”
“เปล่าตกใจที่พี่เอสเทลสบถหรอกค่ะ”
“แต่น่าจะตกใจที่พี่เอสเทลจะพูดแบบนั้นออกมาน่านะ”
“อะไรกันๆ ฉันก็คนนะทั้งสองคน มันก็ต้องมีพูดอะไรแบบนั้นมั้งน่านะ”
“ค่า!!” ทั้งสองขานรับก่อนจะทานอาหารกันหมด
“ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ!”
“อ๊า...” เอสเทลมองหลานๆ ที่ทานอาหารจนหมด ทำเอาอึ้งไปแบบสุดๆ “พวกนี้...ไม่ใช่คนแน่ๆ ...”
“พวกเราเป็นคนนะ!” ทั้งสองต่างพูดพร้อมกัน
“จ้าๆ” เอสเทลหัวเราะแหะๆ
ทั้งสามคนต่างพูดคุยกันอย่างสนุกๆ เอสเทลดีใจที่ได้กลับมาคุยดีๆ กับหลานๆได้ ตอนนี้เธอต้องเปลี่ยนความคิดเรื่องโพรทาเลียไปหมดว่าตลอดหลายปีนั้นคนที่อยู่ด้วยเป็นตัวปลอม ทำให้อยากเจอเจ้าตัวปลอมนี้แล้วอัดหน้าด้วยกำปั้นของเธอจริงๆ ระหว่างคุยไปเอสเทลก็กินอาหารของตัวที่เหลืออยู่คนเดียว แต่แล้วก็เกิดเสียงดังในร้านนั้นขึ้น
‘เปรี๊ยะ!’
ทุกคนภายในร้านต่างหันไปมองต้นเสียงมาจากชายคนหนึ่งที่ ลุกขึ้นมาอยู่ข้างๆ เด็กตัวเล็กที่อยู่ตรงที่นั่งแบบโซฟา โพรทาเลียจับจ้องชายคนนั้น เธอรู้สึกได้ถึงอารมณ์ของเขาที่กำลังพุ่งขึ้นและอารมณ์ของเด็กน้อยที่กำลังหวาดกลัวต่อสิ่งที่ชายคนนั้นทำ เธอสังเกตเห็นใบหน้าของเด็กน้อยจากสีขาวเริ่มกลายเป็นสีแดงก่ำ นั้นทำให้เธอรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กน้อย
“แย่ล่ะ เด็กคนนั้น…” โพรทาเลียยังพูดไม่ทันจบ
ชายคนนั้นก็ตะโกนใส่เด็กน้อยทันที “เรื่องมากอะไรนักหนา!! ฉันอุตส่าห์พาแกมากินอาหารอร่อยๆ แต่กับเรื่องมากเรื่องอาหาร ฉันไม่ใช่พ่อแกที่จะใจดีกับแกนะ! ไอ้เด็กเวร!!”
เสียงของชายคนหนึ่งทำเอาเด็กน้อยตัวสั่นเท่าจนหวาดกลัว ใบหน้าของเธอเหมือนอยากจะร้องไห้ โพรทาเลียมองคนรอบข้างไม่มีใครจะเข้าไปช่วยเด็กน้อยเลยสักคน โพรทาเลียเห็นเด็กน้อย เธอนึกถึงลูกสาวเลยว่าถ้าโดนแบบนี้เธอจะกลัวแค่ไหน เธอกำลังจะลุกขึ้นไปช่วยเด็ก แต่คนข้างๆ เธอก็ลุกขึ้นทันที โพรทาเลียเห็นก็ตกใจเลยที่อีกฝ่ายลุกขึ้น
"โฟกัส!"
โฟกัสเดินตรงไปหาชายคนนั้น พร้อมกับจับไหล่ของชายคนนั้นทันที “นี่คุณ!”
ชายคนนั้นหันไปมองด้วยสายตาน่ากลัวใส่โฟกัส “อะไร! เธอมายุ่งอะไรด้วยกัน!”
“อ๋อ...ไม่อยากยุ่งหรอกนะคะ แต่...คุณกำลังทำร้ายเด็กน้อย จนฉัน...”
“จนฉันอะไรไม่ทราบ! เรื่องครอบครัวคนอื่น อย่ามาเสือกสิเว้ย!!” ชายคนนั้นกระชากคอเสื้อของโฟกัสในทันที
โฟกัสมองลงต่ำไปที่มือของอีกฝ่ายที่จับคอเสื้อของเธอ ก่อนจะยกสายตาขึ้นมามองอีกฝ่ายทันที “เรื่องครอบครัวแล้วทำไม? แต่แกกำลังทำผิดกฎหมายข้อหาทำร้ายเด็กนะสิเว้ย!!”
สิ้นเสียงของโฟกัส เธอย่อตัวลงเล็กน้อย แล้วยกขาข้างหนึ่งเข้าหาตัวก่อนจะใช้เท้าเตะเข้าไปที่ท้องของชายตรงหน้าทันทีจนกระเด็นไปข้างหลัง ทำเอาคนรอบๆ ต่างตกใจไปทันที โพรทาเลียก็เช่นกันเธอไม่นึกว่าน้องสาวของเธอจะโหดได้ขนาดนี้
“น้องสาวเรา...โคตรโหดเลยแฮะ...”
จบตอนที่ 48 โปรดติดตามตอนที่ 49 ต่อไป