ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย
ภาพตรงหน้าทำเอาโพรทาเลียอึ้งแรงของน้องสาวที่เตะชายวัยกลางคนกระเด็นจนสลบไปเลย ดีที่อีกฝ่ายไม่มีเพื่อนหรือใครมาช่วยโจมตีพวกเรา ไม่งั้นโพรทาเลียคงได้ออกโล่งด้วยแน่ๆ ผู้คนรอบๆ ต่างยังมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางคนที่อยู่โต๊ะใกล้ๆ ต่างชมพวกเราที่เข้าไปช่วยเด็ก เด็กน้อยที่นั่งอย่างหวาดกลัว โฟกัสก็ใช้อ้อมกอดทำให้เด็กน้อยหายกลัว โพรทาเลียมองดีๆ เด็กน้อยคนนี้ดูคล้ายๆ ทั้งเด็กชายและเด็กหญิง เพราะผมสั้นคล้ายเด็กชาย แต่ในความรู้สึกของโพรทาเลียเด็กต้องหน้าคงเป็นเด็กผู้หญิงแน่ๆ
พนักงานในร้านช่วยกันโทรเรียกตำรวจให้มาจับชายที่ทำร้ายเด็ก พอตำรวจมาก็ตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิด โพรทาเลียสงสัยหน่อยๆ ว่าสิ่งที่พวกเขาดูมันคืออะไร โฟกัสอธิบายให้โพรทาเลียฟังว่ามันเป็นสิ่งที่สามารถบันทึกภาพต่างๆ ที่ฉายออกมาได้ เหมือนหนัง พอบอกเหมือนหนังโพรทาเลียนึกถึงหนังสมัยก่อนตอนที่เธอยังอยู่กับครอบครัวเลย
“ได้ยินแบบนั้นนึกถึงหนังกับการ์ตูนสมัยก่อนเลยแฮะ...”
“คิกๆ งั้นไว้กลับที่พักแล้วจะให้ดูนะ”
“เอ๋? ที่พักมีเครื่องเล่นซีดีด้วยเหรอ?”
“ไม่รู้สิ แต่มีมือถือแค่เครื่องเดียวก็สามารถดูหนังที่พี่อยากดูได้เลยนะ”
“จริงเหรอ?” โพรทาเลียตาเป็นประกายทันที
“หนูดูด้วยได้ไหม?” เสียงอันเล็กจ๋อยได้เอยขึ้น
สองแฝดต่างหันไปมองต้นเสียงที่อยู่ในอ้อมกอดของโฟกัส ก็คือเด็กน้อยที่เป็นเหยื่อของเรื่องนี้ น้ำเสียงของเด็กน้อยบ่งบอกเลยว่าเป็นเด็กผู้หญิง ทั้งสองต่างยิ้มให้เด็กน้อย
“ขอโทษนะจ๊ะ น้องต้องไปกับคุณตำรวจ เพื่อไปพบผู้ปกครองนะจ๊ะ”
“ใช่แล้วล่ะ จะได้เจอคุณแม่ไงล่ะ”
“ไม่!!” เด็กน้อยพูดขึ้นพร้อมกับกอดคอโฟกัสอย่างแน่น “โนอาห์จะอยู่กับพี่ๆ!”
“!!”
ทั้งสองคนต่างมีสีหน้ากังวล แต่โพรทาเลียกับเห็นปฏิกิริยาของเด็กน้อย ตัวของเด็กนั้นมีอาการสั่นหน่อยๆ ทำให้โพรทาเลียคิดเลยว่ามันต้องมีเรื่องอะไรแอบแฝงแน่ๆ ตำรวจเดินมาหาพวกเรา พร้อมกับบอกว่าแม่ของเด็กจะมารับลูก แต่พอพูดถึงแม่เด็กก็ดูมีอาการแปลกๆ โพรทาเลียสงสัยยิ่งนัก เธอเดินไปหาพี่สาวพร้อมกับคุยบางอย่างกับเธอ
ระยะเวลาต่อมา
พวกเขารอคนเป็นแม่อยู่นานพอตัวจนใกล้เวลาที่สองแฝดต้องกลับที่พัก จนกระทั่งเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
“ลูกแม่!”
พวกโพรทาเลียหันไปมองต้นเสียงก็เห็นหญิงสาวที่มีผิวซีด ขอบตาดำ ผมมัดอย่างยุ่งๆ วิ่งตรงมาหานี้ รูปลักษณ์ของหญิงสาวทำให้โพรทาเลียนั้นสงสัยเลยว่าอีกฝ่ายนั้นมีอาการป่วยหรือเปล่า ตำรวจเข้าไปหาคนเป็นแม่ทันที
“คุณเวนโรเซนต์ เราจะขอถามหน่อยนะครับ เรื่องผู้ชายที่อยู่กับลูกคุณ เขาเป็นแฟนคุณเหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ แต่ที่คุณบอกทางมือถือ ไม่จริงแน่ๆ ที่แฟนฉันจะทำร้ายลูกของฉันนะ”
สามสาวได้ยินแบบนั้นถึงกับรู้สึกไม่ชอบใจคนเป็นแม่ที่เข้าข้างผู้ชายโดยไม่ห่วงลูกตัวเองเลย ทำให้โฟกัสถึงกับเคืองกับคำพูดคนเป็นแม่อย่างมาก
“นี่! คุณกล้าพูดได้ไง!?”
โฟกัสตะโกนออกมา เธอยื่นเด็กน้อยที่ตัวเองอุ้มอยู่กับพี่สาวของเธอทันที
“คุณไม่ได้ห่วงลูกของคุณเลยหรือไง! แถมคุณไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่กล้าปฏิเสธว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้ทำอะไรเนี่ยนะ!!”
“เธอเป็นใครกันมายุ่งอะไรด้วย!!”
“เป็นใคร เป็นคนที่ช่วยเด็กจากไอ้คนที่คุณเรียกว่าแฟนนะสิ!!”
“อ๋อ แกเองสินะ! มาวุ่นวายเรื่องคนอื่น มาทำให้แฟนฉันโดนตำรวจจับ เพราะอยากได้เงินช่วยเหลือสินะ!”
“ห๊า!! ว่าไงนะ!!” โฟกัสได้ยินถึงกับโกรธยิ่งกว่าเดิม “ใช้อะไรคิดกัน!! ฉันช่วยเด็กจากการทำร้ายของแฟนคุณไม่ได้ต้องการอะไร ถ้ายังกล่าวหาฉัน ให้คุณตำรวจพาคุณไปดูดีกว่าไหมว่าแฟนคุณทำอะไรเด็กมั้งนะ!!”
คนเป็นแม่ได้ยินสิ่งที่โฟกัสพูด เธอหน้าซีดหน่อยๆ ที่นี้มีกล้องที่จะทำให้แฟนของเธอติดคุกได้ทันที เธอหันไปมองลูกของตนทันที
“ทำเป็นพูด ถึงมีกล้องก็จัดฉากได้อยู่แล้ว ไม่น่าเธอกับคุณตำรวจอาจจะวางแผนให้ฉันจ่ายเงินค่าปรับของแฟนฉันใช่ไหมล่ะ!!”
“อะไรนะ!! คุณนี่มันเป็นผู้ใหญ่ที่บ้าบอสุดๆ!!”
“ว่าใครบ้ากัน!! ไอ้เด็กเปรต!!”
เสียงทะเลาะของทั้งสองคนเริ่มดังขึ้น โพรทาเลียไม่อยากเข้าไปยุ่งเท่าไร แต่เธอดูพฤติกรรมของคนเป็นแม่ เมื่ออยากหาเรื่องโฟกัสให้โฟกัสโดนข้อหาไปด้วย โพรทาเลียได้รู้บางอย่างจากน้าสาวว่าโลกนี้มีกฎมากมายที่เธอยังไม่รู้จักอยู่เยอะ พอเดินออกมาห่างๆ โพรทาเลียลูบหลังเด็กน้อยที่กอดเธออย่างแน่น ลูบๆ หลังเด็กน้อยนั้นเธอก็รู้สึกถึงบางอย่างที่มีความขรุขระไม่เรียบเหมือนหลังเด็กทั่วไป เธอลองเปิดเสื้อเด็กก็เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น เธอเลยรู้ล่ะว่าทำไมคนเป็นแม่ถึงเริ่มหาเรื่องโฟกัสและอยากพาเด็กกลับบ้าน
“พอๆ กันเลยครับ พวกคุณช่วยอยู่ในส่วนของใครของมันด้วยนะครับ” คุณตำรวจรีบเข้ามาขัดขวางทั้งสองคนแล้ว แล้วหันไปมองคนเป็นแม่ "ส่วนคุณแม่ จะต้องไปกับเรา เพื่อพาเด็กไปตรวจร่างกายเพิ่มที่สถานีตำรวจนะครับ"
“ห๊า!” คนเป็นแม่หน้าถอดสีทันทีก่อนจะโวยวายขึ้นมา “ฉันไม่ไป ฉันจะพาลูกกลับบ้าน!!”
คนเป็นแม่โวยวายมากกว่าเดิมจนตำรวจไม่ชอบที่คนเป็นแม่โวยวาย จนโพรทาเลียต้องเดินเข้ามาพร้อมกับอุ้มเด็กน้อย
“ร้องโวยวายไปก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ คุณแม่...ไม่สิ...”
ทุกคนต่างหันไปมองโพรทาเลีย แต่สีหน้าเธอกับดูน่ากลัวจนทำให้คนเป็นแม่ดูหวาดกลัวขึ้นมา โพรทาเลียเริ่มพูดต่อ
“น่าจะให้เรียกว่า ผู้ร้ายทำร้ายเด็ก!”
“!!” ผู้เป็นแม่ทำหน้าซีดทันที
โฟกัสมีสีหน้างุนงงว่าพี่สาวหมายความว่าไง “หมายความว่าไงเหรอ? พี่...เอ๊ย...คีย์...”
“หมายความว่าไงนะเหรอ? ก็...”
โพรทาเลียจับไปที่ปลายเสื้อของเด็ก คนเป็นแม่เห็นแบบนั้นรีบจะวิ่งเข้ามาทันที แต่เอสเทลรีบมาขัดขวางทันที
“อย่าหวังที่จะทำอะไรดีกว่านะ”
“อึ้ก!!”
คนเป็นแม่ยิ่งหน้าซีดจนอยากจะหนี แต่ก็มีตำรวจอีกนายหนึ่งเข้ามาขวางด้านหลังไว้ โพรทาเลียเปิดเสื้อเด็กขึ้นจนทำให้เห็นแผ่นหลังที่มีแผลทั้งเก่าและใหม่ รวมถึงแผลตามตัวก็ด้วย
“รู้สึกคุณจะเอาลูกตัวเองเป็นกระสอบทรายรับอารมณ์ของคุณกับแฟนคุณนะ คุณเวนโรเซนต์”
“พวกแก!!”
ตำรวจเข้ามาดูหลังของเด็ก นั้นทำให้เขาไม่ชอบใจสุดๆ แล้วหันไปมองคนเป็นแม่ทันที
“ผมว่าคุณต้องไปสถานีตำรวจกับพวกเราแล้วล่ะครับ คุณเวนโรเซนต์!!” ตำรวจเดินเข้าไปใส่กุญแจมือกับคนเป็นแม่ทันที
“ไม่! ฉันไม่ยอมโดนจับแน่ๆ ฉันจะฟ้องพวกแกที่มายุ่งกับครอบครัวฉัน!!”
สามสาวต่างมองคนเป็นแม่ที่โดนคุณตำรวจใส่กุญแจมือและลากออกจากร้านไปในทันที ทำให้พวกเธอนั้นปวดหัวจริงๆ กับเจอคนเป็นแม่ที่กล้าทำร้ายลูกตัวเองได้แบบนี้ โพรทาเลียมองเด็กน้อยอย่างเป็นห่วง ดูแล้วเด็กน้อยอายุน่าจะพอๆ กับลูกของเธอ เธอยังไม่กล้าทำร้ายลูกตัวเองเลยนะ มาเจอคนใจดำแบบนี้ช่างแย่สำหรับคนเป็นลูกจริงๆ พอคนเป็นแม่ไปแล้วคุณตำรวจอีกคนก็เดินมาหาพวกเธอทันที
“งั้นขอเชิญพยานทั้งสามคนไปที่สถานที่ตำรวจกับพวกเราได้ไหมครับ?”
“เอ๋? พวกเราต้องไปด้วยเหรอครับ?” โพรทาเลียถามด้วยความสงสัย
“ครับ เพื่อจะได้จัดการกับคนเป็นแม่และแฟนของเธอด้วยนะครับ”
โพรทาเลียหน้าซีดเลยว่าถ้าตัวเธอไปยังสถานที่ที่ว่านั้นจะดีหรือเปล่า พอเธอกำลังจะตอบว่าไม่ไปได้ไหม โฟกัสก็มาข้างหลังแล้วแตะไหล่พี่สาวทันที
“ได้เลยค่ะ เดียวเราไปให้ปากคำค่ะ!”
“!!” โพรทาเลียตกใจพร้อมกับเหงื่อตกแบบสุดๆ
‘เธอทำอะไรนะโฟกัส!’
‘น่าๆ เดียวหนูจัดการเองนะ!’ โฟกัสกะพริบตาพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“โอเคครับ งั้นผมขอเด็กที่เป็นผู้เสียหายไปกับรถอีกคันได้ไหมครับ?”
"ดะ...ได้ครับ..." โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็จะส่งตัวเด็ก แต่ดึงเด็กไม่ออก เพราะเด็กจับเสื้อไว้แน่นทีเดียว “เอ่อ...คือ...เด็กเขาจับเสื้อไว้แน่นเลยนะครับ”
“อ๊ะ...เหรอครับ...งั้นให้นั่งกับพวกคุณละกันครับ งั้นเชิญตามไปที่รถเลยนะครับ!”
“ครับ/ค่ะ!”
พวกโพรทาเลียยอมตามคุณตำรวจไปยังรถตำรวจที่อยู่ข้างนอกห้าง แต่รู้สึกอึดอัดกับสายตาผู้คนที่จ้องมองพวกเธอจริงๆ ไม่รู้ทำไมถึงมีแต่คนจ้องเวลามีคนมากับตำรวจ เธอจำได้เลยตอนเด็กๆ สมัยยังอยู่กับพ่อแม่ ก็มีเรื่องแบบนี้เวลาคนทำอะไรผิดหรือเหยื่อที่โดนทำร้าย ชีวิตปกติช่างเป็นอะไรที่ลำบากจริงๆ สำหรับโพรทาเลียชีวิตการอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบธรรมชาติดูน่าจะเป็นชีวิตที่เธอชอบมากกว่า พวกเธอขึ้นรถตำรวจไปยังสถานีทันที
พอมาถึงสถานีก็ได้รู้ว่าผู้ชายที่ทำร้ายเด็กนั้น แต่งงานกับคนเป็นแม่แล้ว แบบนี้ก็ต้องเรียกว่าพ่อเลี้ยงแทนนั้นล่ะ ทั้งสองคนเอาแต่ตะโกนว่าตัวเองไม่ผิด แถมเสียงดังไปทั้งสถานี ทำเอาพวกตำรวจจ้องมองกันอย่างเซ็งที่เจอคนผิดที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดจริงๆ ส่วนพวกโพรทาเลียไม่สนใจอะไรนอกจากให้ปากคำเหมือนตามในวิดีโอว่าเกิดอะไรขึ้นมั้ง จนถึงเรื่องของเด็กว่าจะต้องไปอยู่กับใครนี่ล่ะ
“แบบนี้ถ้าแม่เด็กกับพ่อเลี้ยงโดนจับเข้าคุกเด็กก็ต้องไปอยู่กับญาติ แต่ในประวัติดูเหมือนคนเป็นแม่ไม่มีญาติเลยนะครับ ส่วนพ่อแท้ๆ มีแต่ชื่อไม่มีที่อยู่หรืออะไรเลยนะครับ”
“พ่อเด็ก ชื่ออะไรเหรอ?” โฟกัสถามอย่างสงสัย
“อืม ชื่อว่า...โพลาโล ครับ”
“โพลาโล...” โพรทาเลียสงสัยชื่อแปลกๆ ชอบกล “ชื่อเหมือนคนฮาวายชอบกล”
“โพลาโล...” เอสเทลใช้ความคิดอยู่นาน ก่อนจะจำได้ว่าชื่อนี่มันคล้ายๆ ชื่อใคร “เอ่อ...หนูขอออกไปโทรศัพท์สักครู่ได้ไหมคะ?”
“ได้ครับ!”
เอสเทลลุกจากเก้าอี้แล้วไปโทรหาใครสักคน โพรทาเลียมองอย่างสงสัยว่าน้าสาวโทรหาใครกัน ไม่กี่นาทีก็กลับมาพร้อมกับสีหน้าที่ดูเซ็งหน่อยๆ โพรทาเลียเห็นก็หันไปหาทันที
“เอ่อ...พี่เอสเทลไปโทรหาใครเหรอ?”
“เจ้าคนบ้าๆ คนหนึ่งนะ!!”
“คนบ้าๆ?” โพรทาเลียกับโฟกัสเอียงคอสงสัยว่าใครคือคนที่น้าสาวพูดถึง
ระหว่างที่เธอให้ปากคำกัน เด็กน้อยก็เดินออกมาจากห้องที่ตำรวจพาไปตรวจร่างกายก็รีบวิ่งกลับมาหาพวกโพรทาเลีย คนแม่กำลังลุกไปหาลูกตัวเอง แต่เด็กเห็นแบบนั้นจึงหลบไปจุดอื่น แล้ววิ่งไปหาพวกโพรทาเลียอย่างเร็ว จนโพรทาเลียรีบอุ้มเด็กคนนั้นทันที คนเป็นแม่เห็นแบบนั้น รู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่ลูกของตนหันไปสนใครคนอื่นแทน
“พวกแก!! พวกแกสอนเด็กให้เข้าหาสินะ! ลูกฉันถึงเป็นแบบนั้น คุณตำรวจ จับพวกต้มตุ๋นพวกนี้เลยนะ พวกมันหวังจะเอาตัวเองไปขาย มันถึงให้ฉันติดคุกนะ!!”
“นี่คุณ! เลิกโวยวายสักที พวกเขาช่วยเด็ก เด็กก็ไว้ใจ ไว้ใจมากกว่าคนเป็นพ่อคนเป็นแม่ซะอีก” คุณตำรวจนายหนึ่งพูดขึ้น
“พวกแก!!” คนเป็นแม่รู้สึกโกรธมากๆ
“แหมๆ เป็นคำพูดที่ถูกใจฉันจริงๆ เลยนะ!” เสียงปริศนาดังขึ้นมา ทำให้ทุกคนต่างหันไปมองอย่างสนใจ
ใบหน้าของคนเป็นแม่ถึงกับหวาดกลัวขึ้นมาเมื่อเห็นเจ้าของเสียงนั้น “อะ...อะ...”
เมื่อหันมามองเจ้าของเสียงนั้น เขามีรูปลักษณ์ที่สูงโปร่ง ผมทอง สวมแว่นดำ เสื้อผ้าที่ดูสบายๆ อย่างเสื้อกล้าม เสื้อคลุมและกางเกงยีน เขาเดินเข้ามาทำเอาหลายๆ คนที่มองหลงใหลไปกับความหล่อเหลาของเขา ถึงแม้ยังไม่ถอดแว่นตาของตามที แต่ในสายตาของโพรทาเลียรู้สึกสงสัยเลยว่าชายคนนี้ ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ อยู่ข้างใน
“มาได้สักที ตาเทพบ้านี่!” เอสเทลบ่นออกมาอย่างเบา แต่โพรทาเลียได้ยินที่อาสาวพูดพอดี
“เทพ?” โพรทาเลียได้ยินแบบนั้น ก็ทำให้คล้ายสงสัยว่าความรู้สึกแปลกๆ นี่คืออะไร “หรือว่าเขาคือ…!”
ตำรวจชายนายหนึ่งเดินเข้าไปหาชายสวมแว่นดำ “เอ่อ...มาทำอะไรครับ มาแจ้งความหรือทำธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ก็ไม่เชิงนะครับ ผมแค่มาคุยเรื่องลูกผมคนนี้นะ” ชายหนุ่มหันไปมองเด็กน้อยที่หันมามองเขาอย่างสงสัย
“ป๊ะ...ป๊า...”
“หยุดเลยนะ!! เด็กคนนี้เป็นลูกฉัน คนอย่างคุณไม่เกี่ยวอะไรด้วยสักหน่อย!”
“ไม่เกี่ยว พูดจริงสิ แล้วทำไมลูกเธอถึงมีดีเอ็นเอของฉันได้ล่ะ แล้วอีกอย่างถ้าเธอกับอีตาสามีใหม่เธอโดนจับขัง เด็กคนนี้ก็เหลือแค่ฉันกับพี่ชายเขา” ชายหนุ่มนึกถึงลูกชายอีกคนทันที "จริงสิ...เธอเกลียดลูกชายตัวเองจนเขาหนีไปนี่เนอะ แล้วก็ถึงเธอไม่อยากให้เด็กอยู่กับฉันยังไงพวกตำรวจก็ต้องส่งเด็กไปอยู่กับพี่เขาจริงไหมล่ะ?"
“แก!!” คนเป็นแม่ดูไม่ชอบใจเลยที่อีกฝ่ายพูดถึงลูกของเธออีกคน
“งั้นผมขอพูดคุยกับคุณพ่อได้ไหมครับ?”
“ได้เลยครับ”
ชายหนุ่มก็เดินไปคุยกับตำรวจ ทำเอาคนเป็นแม่ไม่ชอบใจเริ่มอาละวาดมากขึ้นจนกุญแจมือออกจากมือ แล้ววิ่งมาทางพวกโพรทาเลีย
“เอาลูกฉันคืนมานะ!!”
“แย่แล้ว!!” ตำรวจนายหนึ่งตกใจทันที
ทุกคนต่างแตกตื่นกันที่ผู้ต้องหาหลุดจากกุญแจมือได้ นั้นทำให้พวกโพรทาเลียอยู่ในอันตรายทันที แต่ว่าเมื่อโพรทาเลียเห็นแบบนั้น เธอกอดเด็กไว้แน่นก่อนจะใช้เท้ายกขึ้นถีบลงหน้าของคนเป็นแม่ไปทันที ทำให้เธอหยุดชะงักก่อนจะล้มลงไปกับพื้นทันที เจ้าหน้าที่แต่ละคนรีบมาจับกุมเธอทันที
“พวกเธอไม่เป็นไรนะ?”
“ไม่น่าถามพวกเรานะคะ น่าจะถาม...” เอสเทลมองคนแม่ที่สลบไปแล้ว แถมใบหน้ามีรองเท้าของหลานสาวติดอยู่
“งั้นพวกผมขอไปผู้ต้องหาไปเข้าห้องขังก่อนนะครับ!”
คุณตำรวจรวบตัวทั้งสองคนไปห้องขังทันที ส่วนชายที่บอกว่าเป็นพ่อนั้นคุยกับเจ้าหน้าที่จบก็เดินมาหาพวกเธอทันที พร้อมกับรอยยิ้มที่โพรทาเลียไม่ค่อยชอบเท่าไร
“ดูเหมือนท่านจะจัดการทุกอย่างจบแล้วสินะ อะพอลโล!”
“อะพอลโล?” โฟกัสได้ยินแบบนั้นก็ตกใจทันที
แต่โพรทาเลียกับมีความรู้สึกกับเขาแบบแปลกๆ แปลกแบบที่เธอไม่เคยรู้สึก
“จบแล้วล่ะนะ แล้วก็เอกสารนี่ข้าฝากเจ้าให้ลูกชายข้าด้วยนะ!”
อะพอลโลยื่นเอกสารให้โพรทาเลีย โพรทาเลียมองเอกสารชั่วคราวให้คนเป็นพี่ชายดูแลน้องสาว แต่พอมองชื่อในเอกสารทำให้โพรทาเลียอึ้งเลยว่าพี่ชายของเด็กคือใคร
“เอ๋...นี่? โอลิเวอร์กับเด็กคนนี้เป็นพี่น้องกันเหรอ?!” โพรทาเลียเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
“ถูกต้องน่านะ ข้าดันพลาดมารักหญิงคนเดิมเข้า ข้าเซ็งหน่อยๆ น่านะ เอาล่ะงั้นข้าไปนะ เอสเทล ไม่มีธุระอะไรไม่ต้องโทรหาข้าอีกนะ แต่ถ้าไปเดทกับข้าก็โทรมานะ”
“ข้ามศพพี่ชายฉันไปก่อนไหม? อะพอลโล!” เอสเทลยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ทำเอาอะพอลโลมีสีหน้าเจื่อนๆ ไปทันที
“แหะๆ งั้นข้าไปก่อนล่ะ ฝากลูกข้าด้วยนะ!”
อะพอลโลเดินมาข้างๆ โพรทาเลียพร้อมกับยกมือแตะที่ศีษระของเธอเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากสถานีตำรวจไป ทิ้งความงุนงงไปก่อนที่สามสาวจะได้สติทันที
“เมื่อกี้เขาว่าไงนะ!!”
ทั้งสามสาวตั้งสติได้ก็ได้รู้ว่าอะพอลโลดันทิ้งลูกตัวเองไว้ให้พวกเธอดูแลซะงั้นนั้นทำให้เอสเทลโกรธมากๆ ที่เทพอย่างอะพอลโลกล้าทิ้งลูกไว้กับพวกเธอจริงๆ แต่ที่แย่ที่สุดคือตอนนี้เลยเวลาที่พวกเธอควรกลับที่พักแล้วนี่สิ ทำให้โฟกัสต้องโทรไปหาโทมัสถึงจะเสี่ยงกับการใช้มือถือ แต่ดีที่มีมือถือที่เฮเฟตัสสร้างขึ้นทำให้ปลอดภัยขึ้นสักเล็กน้อย
“ใช่แล้วค่ะ พวกเราเลยจะไปค้างบ้านของคนรู้จักที่อยู่แถวๆ นี่นะคะ”
“อืมๆ ระวังตัวด้วยนะ เจอพวกปีศาจก็รีบหนี อย่าไปต่อสู้ล่ะ พวกเธอยังไม่เคยเจอปีศาจตัวจริงๆ นะ”
“ข้าเข้าใจแล้วค่ะ”
โฟกัสคิดเลยว่าตัวเองเคยเจอมาหลายครั้งล่ะ ยิ่งพี่สาวเธอคงเจอมาเยอะกว่าเธอแน่ๆ
“งั้นแค่นี้นะคะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้เช้าค่ะ” โฟกัสคุยเสร็จก็เดินไปหาพี่สาวและน้าสาวทันที พวกเธอกำลังคุยกับเด็กน้อยอยู่
“ตั้งแต่วันนี้เธอต้องอยู่กับพวกพี่ๆ นะ” เอสเทลย่อตัวคุยกับเด็กน้อย
“เดี๋ยวจะพาไปหาพี่ชายนะ”
“พี่ชาย...พี่โอลิเวอร์!” พอพูดถึงพี่ชายเด็กน้อยก็ดูจะร่าเริงขึ้นมาทันที
“ใช่ เดียวพี่ๆ ทำงานอะไรเสร็จจะพากลับไปหาพี่ชายนะ เอ่อ...หนูชื่ออะไรนะ?”
“โนอาห์ มิวเลอร์ ค่ะ”
“โนอาห์...ทำไมชื่อเหมือนผู้ชายจัง...” โพรทาเลียรู้สึกว่าคนเป็นแม่ตั้งชื่อได้ไม่เหมาะกับเด็กน้อยเลยจริงๆ
“จริงด้วย…” เอสเทลพยักหน้าทันที
โฟกัสฟังอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยพูดขึ้นมา “เอาล่ะ ถึงเวลากลับกันแล้วล่ะ!”
โพรทาเลียหันไปน้องสาวทันที “กลับที่พักเหรอ?”
“เลยเวลาแล้ว ที่พักปิดไปแล้วล่ะนะคะพี่ หนูเลยขอโทมัสว่าจะไปค้างบ้านคนรู้จักนะคะ”
“บ้านใครเหรอ?” โพรทาเลียเอียงคอมองอย่างสงสัย
เอสเทลได้ยินก็ยิ้มอย่างชอบใจทันที เธอเข้าไปประชิดข้างๆ โพรทาเลีย “ก็บ้านเราไง!”
“เอ๋!?” โพรทาเลียมองอย่างง แต่ในหัวของโพรทาเลียตอนนี้กำลังคิดเลยว่าคืนนี้ได้วุ่นวายแน่ๆ
จบตอนที่ 49 โปรดติดตามตอนที่ 50 ต่อไป