ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด
ความงัวเงียหลงเหลืออยู่ภายในหัวของโพรทาเลีย จนเธอเดินจูงมือโนอาห์ไปทั้งที่กึ่งหลับตากึ่งลืมตา ทั้งสองคนเดินลงมาจนมาถึงชั้น 2 โพรทาเลียแอบมองคนเป็นคุณย่าอยู่แถวๆ ขั้นบันได คุณย่ากำลังทำอาหารอยู่ในครัวเมื่อทุกที ทำให้นึกถึงเวลาสมัยเด็กที่เธอและพี่น้องแอบมองคุณย่าจากข้างประตูครัวทุกครั้ง แล้วพวกเธอจะได้เห็นรอยยิ้มอันงดงามของท่าน แซลลี่รู้สึกว่ามีคนจ้องมองก็เห็นหลานสาวสุดรักและเจ้าหนูตัวน้อยกำลังจ้องมองเธออยู่แถวๆ บันได
“ไงจ๊ะ ทั้งสองคน! ตื่นแล้วเหรอ?”
“คะ...ค่ะ...” โพรทาเลียค่อยๆ เดินออกมาพร้อมกับยิ้มให้คนเป็นย่า
“คะ...ครับ” โนอาห์พยายามขานตอบแบบเด็กผู้ชาย
พอเห็นเด็กน้อยพยายามขานตอบแบบเด็กผู้ชาย โพรทาเลียก็ยกมือลูบหัวของเด็กน้อยเบาๆ
“เก่งมาก โนอาห์”
“คิกๆ” โนอาห์ยิ้มอย่างดีใจที่มีคนชมตัวเอง
โพรทาเลียพาโนอาห์ไปนั่งที่โซฟา ก่อนจะเดินไปหาคุณย่าแล้วกอดคุณย่าจากด้านหลัง “คุณย่าอยากให้หนูช่วยอะไรไหมคะ?”
แซลลี่หันไปมองหลานสาวพร้อมกับหอมแก้มหนึ่งครั้ง “ไม่ต้องหรอกจ้ะ หลานไปอยู่กับเจ้าหนูน้อยเถอะ อีกสักพักเดียวย่าจะทำอาหารเสร็จแล้วล่ะ”
“จะดีเหรอคะ?”
“ดีจ๊ะ ย่าทำแบบนี้มาเยอะแล้วนะจ๊ะ”
“ก็ได้ค่ะ…เดียวหนูไปดูแลโนอาห์นะคะ”
โพรทาเลียเดินออกมาหาเจ้าหนูโนอาห์ในทันที โนอาห์กำลังพยายามเปิดทีวี เธอเห็นแบบนั้นก็เลยยื่นมือไปหาเด็กน้อยทันที
“มาพี่ช่วยนะ!”
โนอาห์เห็นแบบนั้นก็ยื่นรีโมทไปให้พี่สาวทันที โพรทาเลียรับรีโมทมาก่อนจะมองปุ่มต่างๆ ตอนแรกเธอก็ไม่เคยใช้รีโมทพวกนี้เลย ดีที่โฟกัสสอนเธอกดปุ่มรีโมททีวีตอนที่มาครั้งแรก โพรทาเลียหันไปทีวีก่อนจะกดปุ่มทีวีก็เปิดขึ้นก็เจอรายการการ์ตูนในทันที
“การ์ตูน!!”
โนอาห์ร้องอย่างดีใจ แล้วตั้งใจดูทีวีอย่างชอบใจ โพรทาเลียเห็นแบบนั้นก็นั่งลงข้างๆ โนอาห์เพื่อดูการ์ตูน
สักระยะหนึ่งโฟกัสก็ลงตามมาหัวของเธอยุ่งเหยิงไปหมด คงเพราะผมสั้นลงแล้วเลยยุ่งได้ง่าย โฟกัสเดินลงมาก็เจอพี่สาวกับโนอาห์นั่งกันดูการ์ตูน โฟกัสเดินมานั่งข้างๆ พี่สาวแล้วซุกไหลหลับต่อทันที โพรทาเลียดูการ์ตูนก็รู้สึกว่าคนมานั่งข้างๆ หันสายตามองก็เห็นเป็นโฟกัสก็แอบยิ้มหน่อยๆ แล้วดูการ์ตูนต่อ ผ่านไปสักระยะหนึ่งคุณย่าก็เดินมาหาเด็กๆ ที่กำลังนั่งดูการ์ตูนอยู่
“เอาล่ะ ปิดทีวีแล้วมาทานอาหารได้แล้วนะ!”
โพรทาเลียละสายตาจากการ์ตูนทันที "อาหาร! โนอาห์ได้เวลาอาหารแล้วล่ะ!!"
“อาหารเหรอ!” โนอาห์ได้ยินก็ตาลุกวาวทันที
“ใช่แล้ว” โพรทาเลียเรียกโนอาห์เสร็จก็หันไปหาคนข้างๆ ที่ซุกหลับอยู่ “โฟกัสตื่นได้แล้ว ถึงเวลาอาหารเช้าแล้ว!”
“หือ...?” โฟกัสได้ยินเสียงพี่สาวที่ปลุกเธอ “ฮ้าววววว...อาหารเช้าเหรอ?”
“ใช่ ตื่นเร็ว!” โพรทาเลียขยับตัวให้น้องตื่น
“ค่าาาาาาาา เดียวหนูขอไปแปรงฟันก่อนนะ...” โฟกัสพยายามลุกขึ้น ก่อนจะเดินขึ้นข้างบนเพื่อไปแปรงฟัน
โพรทาเลียมองน้องสาวกำลังขึ้นข้างบนไป พอหันกลับมามองคนเป็นย่า เธอก็โดนมองแบบจับจ้อง
“อะไรเหรอคะ?”
“ไม่ต้องมาอะไรเลยนะ หลานแปรงฟันกันแล้วเหรอ?”
โพรทาเลียอึ้งทันทีที่ย่าถามแบบนั้นก่อนจะยิ้มแฮะๆ ออกมา “แฮะๆ ถูกจับได้ซะแล้ว”
“ไปเลย!!”
“ค่ะ!!” โพรทาเลียลุกขึ้นแล้วอุ้มโนอาห์ขึ้นข้างบนในทันที
แซลลี่มองหลานสาวขึ้นข้างบน เธอส่ายหน้าเบาๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปเป็นแม่ที่มีลูกเพิ่มจริงๆ โพรทาเลียเดินตามขึ้นข้างบนไป แล้วเข้าไปในห้องของน้าเอสเทล น้าสาวนั้นกำลังหลับอยู่ที่เตียง โพรทาเลียเดินผ่านเข้าไปในห้องน้ำ กำลังเห็นโฟกัสกำลังแปรงฟันอยู่ โฟกัสเห็นทั้งสองคนเข้ามา เธอยื่นแปรงอันใหม่ที่น้าสาวเตรียมไว้ให้ ให้กับทั้งสองคน โพรทาเลียรับมาก็ส่งให้แก่โนอาห์ เด็กน้อยรับแปรงมาจะแปรงฟัน โพรทาเลียลากเก้าอี้ให้เด็กได้เห็นตัวเองแปรงฟัน พอได้เห็นตัวเองในกระจกก็แปรงฟันต่อ โฟกัสมองพี่สาวที่กำลังดูแลเด็กน้อยอย่างกับแม่คนหนึ่ง พอโพรทาเลียเห็นน้องสาวมองเธอ
“มีอะไรเหรอ?”
“เปล่าค่ะ แค่มองพี่ดูแลเด็กน้อยดีเกินไปเท่าล่ะ”
“แหม อิจฉาเด็กหรือไงโฟกัส” โพรทาเลียชนแขนน้องสาวเบาๆ ก่อนที่เธอจะเริ่มแปรงฟัน
“จะบ้าเหรอ! ฉันอยู่กับพี่ตลอดจะอิจฉาทำไม?” โฟกัสพูดแล้วก็บวมฟองของยาสีฟันออกจากปากของตนเอง ก่อนจะบวมน้ำล้างปากทันที “ดูอิจฉาเด็กก็เกินไปแล้วนะ”
“เอรออออ (เหรออออ)" โพรทาเลียมองไปที่น้องอย่างขำๆ เธอแปรงฟันอยู่นานก่อนจะบวมฟองของยาออกจากปากแล้วบวมน้ำล้างปากของเธอ “เดียวพี่จะมีเรื่องอยากถามเธอหน่อยนะ”
“เรื่องอะไรเหรอ?”
“ได้ถามแน่ๆล่ะ” โพรทาเลียพูดจบเธอก็บีบยาเพิ่มแล้วแปรงฟันรอบสองต่อ
“พี่นี่เหมือนตอนเด็กๆ จริงๆ อะไรก็ต้องสองรอบไม่เว้นแม้กระทั่งการแปรงฟัน”
“ก็พี่ไม่ชอบทำให้สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงนี่น่า ยิ่งฟันต้องแปรงเยอะๆ ไม่งั้นไม่แปรงอะไรเลยเดียวแมงมันก็มาหรอก”
“ค่า ค่า พี่นี้รักสะอาดจริงๆ”
โฟกัสยังยืนมองพี่สาวกำลังแปรงฟัน ถึงแม้ตัวเธอนั้นจะทำอะไรเสร็จแล้ว ยิ่งมองพี่สาวดูแลเจ้าหนูโนอาห์ ทำให้เธอนึกถึงช่วงที่พี่สาวอยู่กับลูกสาวเวลาตอนอยู่ในค่ายมันดูน่ารักดี แต่พอนึกเรื่องราวของพี่สาว มีแต่เรื่องน่าเจ็บปวดจริงๆ เธออยากเจอเทพชั่วร้ายที่จับพี่สาวเธอไปขังไว้บนเกาะบ้านั้น อยากชกหน้าสักครั้งหนึ่งจริงๆ แต่พอมานึกเรื่องเด็ก เธอจำได้ว่าในความทรงจำของพี่สาว มีลูกชายอีกคนที่เธอยังไม่เคยเจอ พอนึกหน้าเด็กคนนั้นเธอรู้สึกคุ้นๆ เคยเห็นที่ไหน พอระลึกความทรงจำทั้งหมดของเธอ ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเคยเห็นหน้าหลานชายที่ไหน
“เด็กคนนั้น!!!”
“หือ?” โพรทาเลียได้ยินเสียงน้องสาวตะโกนออกมาทำให้สงสัยว่าน้องเป็นอะไร “เป็นอะไรหรือเปล่า? โฟกัส”
"อ๊ะ!" โฟกัสหันไปมองพี่สาวอย่างตกใจ “เปล่านะคะ หนูพึ่งนึกอะไรออกเกี่ยวกับใครบางคนนะ”
“งั้นเหรอ?” โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างสงสัย แต่เธอก็หันไปแปรงฟันต่อ
เห็นว่าพี่สาวไม่สนใจเธอต่อ โฟกัสถึงกับโล่งใจที่พี่สาวไม่ถามอะไรต่อ พอเธอนึกถึงเด็กชายคนหนึ่งที่อยู่กับฟีนีอุสขึ้นมาได้ จำได้ว่าเด็กคนนั้นก็ชื่อเดวิคเหมือนกัน นั้นทำให้เธอคิดและวิเคราะห์ได้ว่านั้นหลานชายเธอแน่ๆ
‘ฉิบแล้ว! หลานชายเราอยู่กับฟีนีอุสเหรอ? อย่างงี้ก็แปลว่าฟีนีอุสเขา...’
เมื่อโพรทาเลียแปรงฟันเสร็จ เธอก็หันไปมองน้องสาวที่กำลังครุ่นคิดบางอย่าง โนอาห์แปรงฟันเสร็จพอดี เจ้าตัวเล็กเลยอยากไปข้างล่างก่อน
“พี่โพร หนู...ผม...ขอไปข้างล่างก่อนได้ไหม?”
“เอาสิ! เดียวพี่ตามไปนะ”
“คะ...ครับ…”
โพรทาเลียลูบหัวโนอาห์เบาๆ เพื่อเหมือนชมเจ้าตัวเล็กว่าเก่งมากๆ ตอนนี้ภายในห้องน้ำเหลือแค่พวกเธอสองคน โฟกัสมองพี่สาวว่าทำไมไม่ออกไป
“เอาล่ะพี่มีเรื่องคุยจริงๆล่ะ”
“คุยในนี้นะเหรอ?”
“ใช่ เอาล่ะ ส่งพลังไปที่มือ”
“มือข้างไหนเหรอ?” โฟกัสยกมือตัวเองขึ้นมามอง
“ข้างที่มีสัญลักษณ์นะ”
“โอเค...”
โฟกัสมองไปที่มือข้างขวาของตนเองในทันใด ก่อนจะส่งพลังของตัวเองเข้าไปที่มือ ก่อนจะมีแสงประกายจากสัญลักษณ์บนมือเกิดขึ้น
“แล้วให้ใส่พลังทำไมเหรอ?”
“ก็มองที่มือสิ!”
โฟกัสเอียงคออย่างสงสัยก่อนจะมองไปที่มือของตนเองก่อนจะเห็นบางอย่างที่มือของเธอ ดวงตาของเธอโตขึ้นในทันใด
“อีกตราหนึ่งมันมาได้ไง!!”
“ฉันควรมาถามเธอนะ”
“พี่เห็นมันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“เมื่อคืนนะ พอดีฉันฝันแปลกๆ ว่าเห็นสัญลักษณ์คล้ายๆ ของเทพีองค์หนึ่งเขา จนสะดุ้งตื่นขึ้น ตอนแรกฉันตรวจที่มือตัวเองแต่ไม่ใช่ จนเห็นมือของเธอมีแสงสว่างนี่ล่ะ”
โฟกัสจ้องมองฝ่ามือตัวเองที่มีสัญลักษณ์ใหม่ขึ้นมา “ทำไมของฉันถึงชอบมาแบบไม่มีอะไรบอกสักอย่าง ของพี่ยังมีบอก แต่ฉันไม่มีเลยนะ”
“เหอะๆ ...คงเพราะ...เธอเป็นที่รักของพวกอดีตชาติของตัวเองล่ะมั้ง”
“อย่าพูดแบบนั้นสิ โพรทาเลีย!!” เสียงของเซเรน่าพูดออกมาทันที พร้อมกับโผล่ออกมากลางอากาศ “พวกเราก็รักเจ้านะ แต่แค่หน้าที่ของเรานั้นดู ถ้ารุนแรงกว่าพวกอดีตชาติของโฟกัสนะ”
“จริงด้วย!” เฟอร์ร่าโผล่ออกมากลางอากาศแล้วเข้ามาใกล้ๆ ใบหน้าของโพรทาเลีย “พวกเราก็อยากทำให้งานมันง่ายนะ แต่พอเราโดนควบคุมด้วยจิตของตนเอง ความรุนแรงของการทดสอบมันก็...”
“มันก็เป็นไปตามที่เธอเห็นตอนโดนทดสอบนะ” รัลลอยตัวอยู่กลางอากาศ
“แล้วแบบว่าคนที่จะเจอแต่การทดสอบที่ต้องได้รับบาดเจ็บก็มีแต่พี่สาวฉันเหรอ?” โฟกัสถามพวกจิตวิญญาณ ก่อนที่พวกนั้นจะพยักหน้าให้โพรทาเลีย โฟกัสรีบไปกอดพี่สาวทันที “แงงงงง พี่คะ! ทำไมพี่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วยค่ะ!!”
“ฉันจะรู้ไหมล่ะ!! เธอเถอะ เรียกจิตวิญญาณตนใหม่ออกเร็ว! จะได้ดูว่าเขายอมรับเธอแล้วจริงๆ ใช่ไหม?”
“จริงด้วย!” โฟกัสผละตัวออกแล้วยกมือที่มีสัญลักษณ์ออกมา “อดีตชาติผู้ไร้นาม โปรดเผยโชว์ของท่านออกมา ให้เราได้รับรู้การมีตัวตนของเจ้า!!”
เมื่อคำกล่าวเรียกจบลงก็มีแสงสว่างขึ้น ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งโผล่มา เธอใส่เสื้อผ้าเหมือนพวกนักล่าสัตว์ เธอมีรัดเกล้าอยู่ที่หน้าผา ทำให้โพรทาเลียสนใจว่าเธอคนนี้เป็นใครในหมู่พรานหญิงของอาร์เทมีส
“คุณเป็นใคร?” โพรทาเลียถามออกไป
หญิงสาวตรงหน้าที่มีขนาดปกติจริง ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาก่อนจะมองพวกเธอสองคน
“ร่างจุติทั้งสองเอย ข้ามีนามว่า ไดแอน ข้าคือธิดาแห่งอาร์เทมีส”
“ธิดา?” โพรทาเลียสงสัยเลยว่าอาร์เทมีสไม่เคยมีลูกเลยไม่ใช่เหรอ “เอ่อ...คือ...”
“เจ้าสงสัยสินะ ร่างจุติคนพี่ว่าข้านั้นทำไมเป็นธิดาแห่งอาร์เทมีสได้?”
“ถูกต้องตามที่ท่านพูด...”
“นานแสนนานมาแล้ว มีอยู่วันหนึ่งมารดาของข้าเกิดประชวรขึ้นอย่างกะทันหัน”
“ประชวร? เทพประชวรได้เหรอ?”
“เทพยังตายได้ เจ้านึกว่าเทพประชวรไม่ได้หรือสาวน้อย?” ไดแอนจ้องมองโพรทาเลียอย่างสงสัย
โพรทาเลียรูดซิปปากของตนเองทันที “โทษค่ะ! เชิญต่อ!”
“หึ...ตอนนั้นแม่แม่ข้าประชวร เพราะมีเทพที่ไม่ค่อยชอบท่านแม่ จึงวางยาท่านถึงแม่พิษจะไม่ทำให้ท่านแม่ถึงตาย แต่ทำให้ท่านนั้นรู้สึกประชวรจนเป็นลมไป ตอนนั้นอะพอลโลต้องมาช่วยดูอาการเลยล่ะ”
“ขนาดนั้นเชียว...” โฟกัสฟังยังรู้สึกแย่แทนเลย
“ใช่ ร่างกายของท่านแม่นั้นปกติหมดยกเว้นอาการที่แสนจะทรมานในท้อง อะพอลโลเลยให้ยาแก้พิษในร่างกาย พอได้ดื่มไปตอนแรกนั้นแม่รู้สึกสบายท้องขึ้นเยอะ แต่แล้วก็เกิดความเจ็บปวดละรอบสุดท้าย ก็มีบางอย่างกระเด็นออกมาจากร่างท่านแม่ และนั้นก็คือข้าในร่างเด็กตัวน้อย”
“ว้าว ตอนเล่าข้านึกว่าท่านมาจากสมองของนาง เหมือนกับที่ซุสให้กำเนิดท่านยายของเราซะอีก”
“อ๋อ หมายถึงอาธีน่าสิ ก็จริงที่ข้านั้นเกิดจากความเจ็บปวดของท่านแม่ ก็พอๆกับตอนที่ซุสปวดหัวจนอาธีน่าออกมาล่ะนะ”
“ก็จริงแหะ...งั้นท่านก็เป็นอดีตชาติของน้องข้าสินะ”
ไดแอนหันไปมองโฟกัสพร้อมกับยิ้มอย่างพอใจ “ใช่แล้วล่ะ”
ไดแอนลอยตรงไปหาโฟกัสใกล้ๆ ก่อนจะสัมผัสใบหน้าของโฟกัส
“เอ๋...?” โฟกัสมองอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายมีอะไรขึ้นเจ้ามาใกล้เธอ
“ข้าดูเจ้ามาตลอดหลายปีว่าเจ้านั้นจะมีความโอบอ้อมอารีแค่ไหน โฟกัส เจ้านั้นช่วยเหลือผู้คนมาเสมอ กระทั่งตอนนี้...”
“ช่วยเหลือ?”
“อย่าบอกนะที่ท่านเอ่ยขึ้นนั้น เพราะว่าน้องสาวข้านั้น ช่วยเหลือญาติท่านที่เป็นสายเลือดของอะพอลโล”
“พูดมาก็ถูกครึ่งไม่ถูกครึ่งนะ”
“หมายความว่าไง?”
“ข้ายอมรับน้องเจ้า เพราะนางช่วยเหลือผู้คนตามจำนวนที่ข้าต้องการ ส่วนเรื่องที่เจ้าพูดว่าช่วยสายเลือดของอะพอลโล ข้าไม่ได้สนใจเลยว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยสายเลือดของอะพอลโล!”
น้ำเสียงของไดแอนที่ดูดุดันทันทีที่พูดถึงสายเลือดอะพอลโล ทำให้โพรทาเลียตกใจสักเล็กน้อยที่เห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าที่เปลี่ยน
“ดูท่านจะเคยบาดหมางกับสายเลือดญาติของท่านเหรอ?”
“ข้าเกลียดสายเลือดของท่านลุงที่สุด!”
โพรทาเลียเงียบปากทันที เธอพอรู้ละว่าไม่ควรเอ่ยถึงพวกสายเลือดอะพอลโลให้อดีตชาติคนนี้ฟังเด็ดขาด
‘แต่เมื่อกี้นางยังพูดถึงอะพอลโล ตอนที่ช่วยแม่ตนเองได้อยู่เลยแท้ๆ คนสองบุคลิกหรือไงกันนะ อดีตชาติคนนี้!?’ โพรทาเลียคิดอย่างสงสัยกับอดีตชาติคนนี้จริงๆ
“แปลว่าท่านยอมรับฉันแล้วสินะคะ”
“ใช่แล้ว ข้ายอมรับเจ้า โฟกัสเมซ่า แจ็กสัน ข้า ไดแอน ธิดาแห่งอาร์เทมีส ยอมรับให้เจ้าผ่านบททดสอบของข้า!”
แสงที่มือของโฟกัสส่องประกายทันที
“เท่านี้ก็จบนะ ฉันคงต้องไปแล้วล่ะนะ ขอไปนอนเพราะเสียพลังให้เจ้ามาเยอะ”
“พลังเหรอ?” โฟกัสมองอย่างสงสัย
“ใช่ เพราะว่าตลอดหลายปีที่ข้าอยู่กับเจ้าตลอด ข้าส่งพลังเพื่อปกป้องเจ้าจากสิ่งชั่วร้าย และจากอสูรร้ายที่ปลอมเป็นเจ้า” ไดแอนหันไปมองโพรทาเลีย
โพรทาเลียได้ยินก็ไม่แปลกใจที่น้องเธออยู่มาได้ทุกวันนี้ “ขอบคุณมากท่านไดแอน”
“เรื่องเล็กน้อย ข้าขอตัวไปพักนะ” ไดแอนโค้งตัวก่อนจะหายตัวไปทันที
“ดูเข้าๆ หายไปแบบง่ายๆ เลยล่ะ” เซเรน่าอยากไม่ชอบใจกับสายเลือดของอาร์เทมีส
“พอเถอะ เซเรน่า พวกเจ้ารีบกลับไปเถอะ”
“เข้าใจแล้ว!”
พวกเซเรน่าหายเข้าไปในตัวของโพรทาเลีย พอข้างในห้องน้ำสงบลง สองพี่น้องมองหน้ากัน
“พี่ดีใจที่ไดแอนช่วยเหลือเธอตลอด”
“ฉันก็ด้วยค่ะ...ไม่งั้นตลอดหลายปีฉันคงโดนนูอัสเล่นงานแน่ๆ”
“ก็จริงของเธอ”
ทั้งสองต่างคุยกันอยู่นาน จนทำให้เอสเทลที่กำลังมองพวกเขาอยู่นั้นต้องเคาะประตูห้องน้ำให้ทั้งสองคนสนใจเธอ
‘ก๊อก ก๊อก’
สองพี่น้องตกใจกับเสียงเคาะประตู พวกเธอหันไปมองต้นเสียงที่เคาะประตูในทันใด พอหันไปก็เจอน้าสาวกำลังยื่นพิงประตูมองพวกเธออยู่
“พี่เอสเทล...”
“คือ...ไม่อยากขัดจังหวะเท่าไร แต่...” เอสเทลเดินเข้าหาทั้งสองคนก่อนจะจับคอเสื้อทั้งสองคนแล้วอุ้มออกมาปล่อยที่หน้าประตูห้องน้ำ “ฉันจะใช้ห้องน้ำ!!”
“เอ๋?”
สองพี่น้องมองกันอย่างสงสัยว่าตัวเองโดนลากออกมากันง่ายแบบนี้เลยเหรอ
“พี่เขาแรงเยอะจัง”
“คงเพราะสมัยก่อนไปขอให้พ่อเราสอนเรื่องพละกำลังบ่อยๆ น่านะ...” โฟกัสกระซิบกับโพรทาเลียก่อนจะมองเวลา “ตายล่ะ เสียเวลาในห้องน้ำมาเยอะล่ะ ลงไปข้างล่างกันเถอะค่ะ!”
“จริงด้วยนะ” โพรทาเลียมองเวลาที่ตอนนี้มันเจ็ดโมงครึ่งแล้ว “ลงข้างล่างกัน!”
เมื่อเห็นเวลานั้นผ่านไปเร็วมาก ทั้งสองคนต่างพากันเดินลงมาข้างล่างก็เห็นสีหน้าของคุณย่าที่ไม่พอใจที่พวกเธอเดินลงมาข้างล่างช้าแบบนี้ ทั้งสองคนเห็นแบบนั้นก็รีบเดินไปนั่งทานอาหารที่โต๊ะทันที แซลลี่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจที่หลานๆ นั้นทำตัวเหมือนเด็กไม่เหมือน สองพี่น้องทานอาหารกันอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะได้รีบไปทำงานตอนแปดโมง ทั้งสองคนทานอาหารหมดภายในสิบนาที คนเป็นน้าสาวก็ลงมาข้างล่างพอดี
“ทานฉันเสร็จแล้วเหรอ?” เอสเทลถามหลานๆ ที่กำลังเตรียมตัวจะไปทำงานกัน
“ค่ะ เรากำลังจะไปกันแล้วนะคะ”
“พี่เอสเทล หนูฝากโนอาห์ไว้กับพี่ได้ไหม?”
โนอาห์กำลังดูการ์ตูนอยู่นั้น ก็ได้ยินที่พี่สาวพูดจึงลุกออกจากโซฟาทันที
“ไม่ได้หรอกๆ พี่ต้องไปมหาลัยอีกนะ ฝากไว้กลับย่าสิ!” เอสเทลปฏิเสธในทันที
“งั้นไว้กับย่าก็ได้นะ” แซลลี่เสนอตัวทันที แค่เลี้ยงเด็กคงไม่ลำบากสำหรับเธอ
โนอาห์เดินมาอยู่ข้างๆ เอสเทลทันที “พี่ๆ จะทิ้งผมเหรอ!?”
พอได้ยินโนอาห์พูดแบบนั้น โพรทาเลียรีบเดินไปหาโนอาห์พร้อมกับย่อตัวมองเด็กน้อยทันที
“เปล่านะ โนอาห์ พวกพี่ต้องไปทำงาน อีกสัก 6 วันเดียวก็มารับเราไปหาพี่โอลิเวอร์นะ”
“ไม่เอาๆ! หนูจะอยู่กับพวกพี่โพรทาเลีย!!” โนอาห์โวยวายดิ้นไปมา
“โนอาห์...” โพรทาเลียมองเด็กน้อยกำลังดิ้นด้วยความไม่พอใจที่พวกเธอจะทิ้งเขาไว้ที่นี้
“ก็พาไปสิ” เอสเทลพูดขึ้น
“เอ๋...แต่ว่า...” โฟกัสมองคนเป็นน้าอย่างสับสน
“พี่ว่าเฮอร์มีสคงยอมให้อยู่ ถ้าบอกเหตุผลไปนะ”
สองพี่น้องมองหน้ากันอย่างสงสัยว่าทำไงดี โฟกัสพยักหน้าให้พี่สาวเหมือนบอกว่าทำแบบนั้นก็ไม่น่าเสียหาย โพรทาเลียคิดอยู่สักพักก่อนจะมองโนอาห์ที่ทำหน้าอย่างจะร้องไห้ ทำให้โพรทาเลียใจอ่อนในทันที
“ก็ได้ งั้นไปกับพวกพี่!”
“เย้!!” โนอาห์ยกแขนไชโยในทันที
“แต่ไปแล้วอย่าดื้อ อย่าซนเด็ดขาด เข้าใจพี่ไหม โนอาห์”
“เข้าใจคะ...ครับ!”
“ดีมาก!! โอเคไปกันได้แล้ว โฟกัสพาโนอาห์ออกไปเลย”
“ได้ค่ะพี่ ไปกันโนอาห์” โฟกัสเข้าไปจูงมือโนอาห์ออกจากประตูไปทันที
“โพรทาเลีย” แซลลี่เรียกหลานสาว
“ค่ะ คุณย่า...” โพรทาเลียได้ยินเสียงย่าเรียก จึงหันกลับไปมองอย่างสงสัยว่าเรียกเธอทำไม
แซลลี่เข้าไปหาหลานสาว พร้อมกับยกมือขึ้นมาสัมผัสแก้มของหลานสาว
“ทำวันนี้ให้ดีที่สุดนะจ๊ะ หลานจะทำอะไรหรือมีเรื่องเดือดร้อนอะไร ครอบครัวเป็นที่พึ่งของหลานเสมอนะ...”
โพรทาเลียได้ยินแบบนั้น เธอเกือบน้ำตาแตก ก่อนจะยิ้มให้คนเป็นย่า
“ค่ะ หนูจะจำไว้!” โพรทาเลียกอดย่าทันที
แซลลี่กอดหลานสาวอย่างมีความสุข ก่อนที่พวกโพรทาเลียจะเดินออกจากประตูไปทันที แซลลี่มองหลานสาวที่เดินออกไปแล้วก่อนจะเอ่ยพูดบางอย่างออกมา
“ลูกรู้เรื่องนี้ก่อนพ่อกับแม่อีกสินะ เอสเทล...”
เอสเทลได้ยินที่แม่ถามทำเอาเธออ้ำอึ้งไปหมด “ขอโทษนะคะแม่...หนูไม่กล้าบอกแม่...เพราะมัน...เป็นเรื่องที่...อาจจะทำให้แม่เสียใจเหมือนกัน...”
“แม่ไม่นึกนะ...ว่าเด็กคนนั้นจะเจออะไรที่เลวร้ายกว่าพี่ชายของลูกเจอ...”
“ค่ะ...ตอนหนูได้ยิน หนูก็รู้สึกแย่เหมือนกัน...”
“ทำไม...มีอะไรไม่เคยบอกกันก่อนเลย...นิสัยเหมือนเพอร์ซีย์ไม่มีผิด” แซลลี่รู้สึกน้อยใจไม่เคยมีใครบอกอะไรเธอก่อนเลย ก่อนจะมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
"ขอโทษที่ไม่เคยบอกอะไร เพราะผมคนหนึ่งที่ไม่อยากให้คนที่ผมรักเจ็บปวดไปมากกว่านี่ไงล่ะ"
“เอ๋!” แซลลี่หันไปทางต้นเสียงที่คุ้นเคยในทันที
เอสเทลเห็นคนที่พูดขึ้นทำให้เธอมีสีหน้าแปลกใจทันที “นี่ นาย!!”
“เรียกพี่ชายตัวเองว่านาย นี่ ไม่เหมาะสมเลยนะ เอสเทล!”
“เพอร์ซีย์/ พี่เพอร์ซีย์!!”
จบตอนที่ 51 โปรดติดตามตอนที่ 52 ต่อไป