ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม

เนื้อหา

ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก

 

ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก

ออกมาจากร้านบลูเมอร์เมดแล้ว พวกโพรทาเลียก็รีบวิ่งออกมากันอย่างเร็ว เพื่อไปยังที่ไปรษณีย์โอลิมปิก พาร์เซล เซอร์วิส ก็ที่ฝึกงานของพวกเธอนั้นล่ะ ถ้าพวกเธอไม่รีบไปละก็คงสายแน่ๆ เพราะเวลานั้นไม่เคยคอยใครจริงๆ โฟกัสอุ้มประคองโนอาห์อย่างดี โนอาห์ก็ไม่ขยับไปไหน เป็นเด็กดีค่อยเกาะโฟกัสไม่ให้หลุด โพรทาเลียก็วิ่งตามทั้งสองคน จนเธอคิดเลยว่าไม่คิดว่านอกจากวิ่งหนีพวกปีศาจ เธอต้องมาวิ่งเพื่อไปที่ฝึกงานอีก

 

“แย่จริงๆ อีกไม่กี่นาทีก็จะเข้างานแล้วนะ!” โฟกัสพูดพร้อมกับเวลาในกำไล “กำไลพี่นี่บอกเวลาดีจริงๆ เลยนะ”

“ก็พึ่งสร้างเสริมเข้าไปหลังจากที่พวกน้องๆ บอกว่าไม่มีบอกเวลา เลยสร้างเสริมเข้าไปให้นี่น่า” โพรทาเลียพูดไปก็วิ่งไป “แต่ตอนนี้ไม่รีบ ได้โดนเฮอร์มีสต่อว่าแน่ๆ!” 

“เป็นอย่างที่พี่พูดแน่ๆ” 

โฟกัสคิดเลยว่าเฮอร์มีสเห็นพวกเธอมาสายคงโดนต่อว่าแน่ๆ พวกเธอวิ่งจนมาถึงจุดที่ผู้คนเดินกันให้วุ่น โพรทาเลียไม่ได้ตั้งใจมองทาง เธอก้มหน้ามองหาของบางอย่างในกระเป๋าคาดเอว จนเดินไปชนกับคนอื่นเข้า

“อ๊ากกก!!” โพรทาเลียทรงตัวลงไม่อยู่จนล้มไปกับพื้นอย่างแรง

“กรี๊ดดด!!” 

คนที่โดนโพรทาเลียชน ข้าวของต่างๆ ของเธอตกลงสู่พื้นไปหมดพร้อมกับร่างกายที่ล้มลงไปกับพื้น

“เจ็บๆ ...” โพรทาเลียค่อยๆ พยุงตัว เธอมองภาพตรงหน้าก็เห็นว่าเธอชนหญิงสาวคนหนึ่งเข้าให้ “ตายแล้ว! ขอโทษนะ ฉันกำลังรีบนะ!!” 

โพรทาเลียรีบพยุงตัวช่วยเก็บของให้อีกฝ่าย หญิงสาวที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการล้ม เธอส่ายหัวเบาๆ ให้อาการหายมึนออกไป พอได้ยินเสียงของคนที่ชนเธอ เธอได้ยินอีกฝ่ายขอโทษ ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้ามอง

“ไม่เป็นไรค่ะ...เรื่องแค่นี่เอง...” 

เมื่อหญิงสาวเงยหน้ามองคนที่ชนเธอ สีหน้าของเธอกลับเปลี่ยนไปทันใด จากนิ่งเฉยกลายเป็นอ้ำอึ้ง เพราะใบหน้าของอีกฝ่าย

“อ๊ะ นี่ของเธอ ฉันขอโทษด้วยนะ!” โพรทาเลียส่งของให้อีกฝ่ายพร้อมกับลุกขึ้น เธอไม่ได้สนเลยว่าอีกฝ่ายจ้องเธออย่างไม่ละสายตา

โฟกัสเดินกลับมาพร้อมกับมองว่าพี่อยู่ไหน จนเห็นพี่กำลังบางอย่างอยู่ “พี่โพรทาเลีย! ไปเร็วจะสายแล้วนะ!” 

“ไปเดี๋ยวนี่ล่ะ!! รอด้วย!! โฟกัส!” 

โพรทาเลียวิ่งตามน้องสาวไปโดยไม่ได้สนใจ หญิงสาวที่ตัวเองชนเขาเลย เธอค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้น สายตายังจับจ้องมองอีกฝ่ายที่วิ่งไปอย่างสงสัย ชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งตามหาใครบางคนก่อนจะมาเจอหญิงสาวที่เขาตามหาอยู่

“แอบบี้!! ทำอะไรอยู่นะ ฉันตามหาเธอเกือบทั่วนิวยอร์กเลยนะ” 

“อ๊ะ...สกอร์เปียส โทษที...ฉันล้มนิดหน่อยนะ” 

“บาดเจ็บมากไหม!?” เขามองอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วง

“ไม่นะ...ฉันว่าเราไปกันเถอะ...เดียวพวกอาจารย์จะเป็นห่วงเอานะ...”

“ห่วงแน่ล่ะ ยิ่งอาจารย์ใหญ่อย่างศาสตราจารย์มักกอนนากัลได้เล่นงานเธอแน่ ๆ” 

“ฉันรู้อยู่แล้วล่ะนะ...” 

ทั้งสองคนได้เดินออกจากตรงนั้น แต่ในหัวของหญิงสาวยังนึกถึงหญิงสาวที่ชนเธอ

‘ทำไมผู้หญิงคนเมื่อกี้...หน้าคล้ายเรามาก...ตั้งแต่...ทรงผม...สีผม...และก็สีตา...เธอ...เธอเป็นใครกันแน่?’ 

 

โพรทาเลียวิ่งตามโฟกัสจนอยู่ข้างกันแล้ว เธอก็จับมือน้องสาวพาไปยังที่ลับตาคน แล้วหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าคาดเอว มันคือเครื่องเคลื่อนย้ายที่เธอหาซื้อมาได้ตอนหนีจากพวกอสูร ที่จริงเธอใช้ในเวลาจำเป็น แต่ตอนนี้ก็จำเป็นมากๆ พอเอาออกมาก็พาน้องสาววาร์ปไปยังห้องนั่งเล่นในโซนที่พัก โฟกัสที่ตั้งสติได้ก็งุนงงว่าตัวเองอยู่ไหนก่อนจะพูดใส่พี่สาว

 

“นี่! พี่ทำอะไรเนี่ย?” 

“ก็เห็นเวลามัน...จะใกล้แปดโมงอยู่แล้ว...เราต้องรีบนี่น่า...แฮ่กๆ”

“มันก็ใช่ แต่ว่า...เรายังอยู่ในร่างเดิมนะ!!” 

“เอ๋!!” โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็ก้มมองตัวเองก็ลืมไปว่าตัวเองยังอยู่ในร่างเดิมนี่น่า “ลืมไปเลย!!” 

“ถ้าใครเข้ามาเจอเรา เราจะพูดยังไง!!” 

สิ้นสุดคำพูดโฟกัสเสียงประตูก็ดังขึ้น ทำให้สองสาวต่างพากันหันไปมองด้วยสีหน้าตกใจ คนที่เข้ามานั้นคือโทมัสที่กำลังเข้ามาตรวจว่าไม่มีใครโดดงานอยู่ในโซนที่พักใช่ไหม แต่เขาก็เจอกับสองสาวเข้าให้

“นี่ พวกเธอ...” 

“พี่โทมัส...” โฟกัสถึงกับหน้าซีดทันที

โทมัสเห็นก็เกาหัวอย่างงุนงงก่อนจะพูดขึ้น “ยังไม่ปลอมตัวกันอีกเหรอ? ทั้งสองคน”

“เอ๋...?” สองพี่น้องมองตาค้างเลยว่าอีกฝ่ายพูดอะไร

“เดียวนะ! เมื่อกี้พี่พูดอะไรนะ?” โพรทาเลียถามเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อกี้อีกฝ่ายพูดอะไร

“ฉันถามว่าพวกเธอยังไม่ปลอมตัวเป็นคีย์กับลิซ่าอีกเหรอ? เดียวงานจะเริ่มแล้วนะ?” 

สองสาวอ้าปากค้างก่อนที่โฟกัสจะถามอีก “นี่พี่รู้!?” 

“ใช่ ฉัน...ฉันรู้อยู่แล้ว ว่าพวกเธอปลอมตัวกันนะ!” 

“ห๊า!!” เสียงอุทานของทั้งสองคนดังไปทั่วทั้งห้อง

“พอๆ ไม่ต้องตกใจแล้ว เปลี่ยนร่างกันซะ!” 

โทมัสเข้ามาพร้อมกับยกมือโพรทาเลียกดปุ่มที่กำไลแล้วหันไปกดของโฟกัส จนทั้งสองกลายเป็นคีย์และลิซ่าทันที ก่อนที่โทมัสจะไปด้านหลังของทั้งสองแล้วดันทั้งสองออกไปจากห้อง

“แล้วไปทำงานซะ!!” โทมัสปิดประตูทันที

สองสาวต่างมองอย่างงุนงงว่าโดนอีกฝ่ายพาลากออกมาโดยที่พวกเธอยังไม่ได้รับคำตอบที่ว่าทำไมเขาถึงรู้ว่าพวกเธอปลอมตัวได้ไง ก่อนที่โพรทาเลียจะมองโฟกัสที่ไม่ได้อุ้มโนอาห์แล้ว

“โนอาห์ล่ะ?” 

โฟกัสมองซ้ายมองขวา ไม่เห็นโนอาห์ก่อนจะคิดได้ “หนูวางเขาไว้ที่พื้นในห้องนั่งเล่น”

โพรทาเลียเปิดประตูไปก็เจอโทมัสมองโนอาห์ที่จ้องมองเขาอย่างไม่ชอบใจ

“เธอเป็นใครเนี่ย?” 

“หนูชื่อโนอาห์! หนูมากับพวกพี่โพรทาเลีย!” 

ทั้งสองคนจ้องหน้าอย่างไม่ชอบใจกันเท่าไร โทมัสยังจ้องเจ้าหนู เพราะเขารู้สึกว่าเด็กนี้คล้ายๆ ใครกันคน พอทั้งสองคนเห็นแบบนั้น พวกเธอต่างมองกันแล้วพยักหน้าให้กันอย่างรู้ใจ ก่อนจะพูดพร้อมกัน

“พี่...เราขอฝากเด็กคนนั้นด้วยนะ!!” 

ทั้งสองคนต่างพากันหนีไปทำงานทันที โทมัสได้ยินถึงกับหันไปมองทั้งสองคนที่หนีไปแล้ว

“เอาทั้งสองคน!!” 

 

พอสองสาวปล่อยทิ้งระเบิดลูกใหญ่ให้โทมัสดูแลเด็กไปพวกเธอก็ต่างพากันไปทำงานกัน ระหว่างที่ทำงานโพรทาเลียเอาแต่คิดเรื่องโทมัสอย่างสงสัยว่าเขารู้เรื่องที่เธอกับน้องสาวปลอมตัวอยู่ได้ มือของเธอทำงานไปแต่หัวก็คิดอะไรไปเรื่อยๆ จนโฟกัสที่กำลังขนพัสดุขึ้นรถนั้น จ้องมองด้วยความสงสัย พอเห็นการกระทำของพี่สาว ทำเอาเธอส่ายหน้าทันที ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ พี่สาวพร้อมกับสะกิดทางด้านหลัง

 

“หือ?” โพรทาเลียรู้สึกถึงแรงสะกิดเลยหันไปมอง ก็เห็นน้องสาวอยู่ข้างหลัง “มีอะไรเหรอ? โฟกัส”

“จะใจลอยไปถึงไหนคะ?” 

“เอ๋? ใจลอยเหรอ?” โพรทาเลียเอียงคออย่างสงสัย

 

โฟกัสยกมือชี้ไปที่ข้างๆ พี่สาว กองพัสดุนั้นถูกกองไปเรียบร้อย แต่ตัวโพรทาเลียยังทำตัวเหมือนว่ายังมีของอยู่ก็ทำท่ายกของ แต่ยกอากาศไปอย่างเดียว โพรทาเลียเห็นถึงกับหน้าแดง เพราะความอายทันที เธอค่อยๆ หันไปหาน้องสาวพร้อมกับลูบหลังหูอย่างเขินๆ

 

“แฮะๆ ใจลอยไปนิด...” 

“ดีนะที่เราขนพัสดุขึ้นรถ ถ้าไปนั่งเช็ดพัสดุ หนูคงห่วงพี่น่าดู!” 

“โทษทีๆ พอดีคือเรื่องพี่โทมัสเขานะ!” 

“คิดที่ว่าพี่เขารู้เรื่องเราได้ไงนะเหรอ?” 

“ใช่...” 

“หนูว่า...” โฟกัสนึกคิดสักพักก่อนจะมองพี่สาว “ต้องมีคนบอกพี่เขาแน่ๆ”

“คนบอกเหรอ?” พอได้คำตอบแบบนั้น โพรทาเลียก็คิดเลยว่าใครกันที่บอก

“ไว้ค่อยคิดดีกว่านะ ถึงเวลาพักแล้วล่ะ!” 

“พัก?” 

โฟกัสชี้ไปที่กำไลของตนเอง โพรทาเลียมองที่กำไลของตนเองก็เห็นว่าเวลาใกล้จะเที่ยงแล้ว ก่อนที่เวลาจะถึงเข็มตอนสิบสองนาฬิกา ก็มีเสียงตะโกนออกมาจากลำโพงที่ติดกำแพงไว้

“พักเที่ยงได้!!” 

พอสิ้นเสียงนั้น ทุกคนต่างหยุดงานของตนเองแล้วเดินออกจากจุดที่ตัวเองไปทำงานแล้วไปทานอาหารทันที

“เวลา...ไวแท้...” 

“ใช่ไหม! นึกว่าทำงานไปไม่กี่นาทีเอง แต่เวลาผ่านไปไวเป็นชั่วโมงแล้ว ช่างเรื่องงานเถอะ ไปทานอาหารกัน!” 

“จ้าๆ” 

 

โพรทาเลียเลิกงานกันทันที พวกเธอเอาของออกจากรถแล้วปิดประตู พร้อมป้ายที่เขียนว่าของใส่ไปแล้วครึ่งคัน ถึงจะเขียนครึ่งคัน แต่จริงๆ พวกโพรทาเลียทำเสร็จไปแล้วถึงห้าคัน ของเยอะสุดๆ ตอนที่พวกโพรทาเลียจัดของกัน พวกเธอเดินไปโซนที่พักที่มีโรงอาหาร พอเลือกอาหารอะไรเสร็จก็กำลังหาที่นั่งดีๆ ก็มีบางอย่างมาชนแถวๆ ขาโพรทาเลียทันที

 

“อ๊ะ!” 

“พี่คีย์!” โนอาห์เอ่ยเรียกอีกฝ่ายทันที

“โนอาห์!” โพรทาเลียรอยยิ้มนั้นบานขึ้นมาทันใดเมื่อเห็นเด็กน้อย เธอลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ “ทำไมอยู่นี่ล่ะ?” 

“พี่ชายเขาพาผมมา!” 

โนอาห์หันไปชี้ที่โต๊ะที่โทมัสจองเอาไว้ เขาโบกมือให้พวกเธอ ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะเดินไปหาโทมัส

“มาเลยทั้งสองคน มานั่งกับพี่มา!” 

“แหมๆ ชวนมานั่งแบบนี้ ไม่ได้คิดจะแกล้งเราที่เราทิ้งเด็กไว้กับพี่นะ” โพรทาเลียพูดแซวพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้

“เหอะๆ พวกเธอนี่แสบจริงๆ เห็นว่าฉันว่างเลยฝากเด็กไว้!” 

“ก็เราต้องทำงานนี่น่า!” 

“เหอะๆ” โทมัสถึงกับยิ้มกระตุกเลยทีเดียว “ก็อย่าพามาสิ” 

“ทำไงได้เป็นคำสั่งของอะพอลโลที่เราต้องพาเด็กมาด้วย”

“อะพอลโล?” โทมัสได้ยินถึงกับงง “พวกเธอไปเกี่ยวข้องกับอะพอลโลได้ไง”

“ก่อนจะถามเรา เราอยากถามพี่มากกว่า พี่รู้เรื่องที่เราปลอมตัวได้ไง!?” 

โพรทาเลียเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเยือกเย็นแต่แฝงความดุดันอยู่ในน้ำเสียง พร้อมกับสายตาจับจ้องเหยื่อ

“อ๊า... อย่ามองแบบนั้นสิ...เดียวฉันเล่าให้ฟังระหว่างทานอาหารนะ...” 

 

โทมัสยอมเล่าให้ฟังว่าเขานั้นรู้เรื่องหลังจากที่พวกเธอมาถึงที่นี้ ก็ตอนกลางคืนหลังจากที่โฟกัสโทรหาเรื่องที่พวกเธอต้องค้างที่อื่นแทน ก็มีอีกสายหนึ่งเข้ามาก็คือพี่ชายของพวกเธอ ตอนนั้นเขาถามหาพวกเธออย่างเดียวว่าเป็นไงมั้ง จนเผลอหลุดพูดชื่อของโพรทาเลียและโฟกัส แล้วพูดบางอย่างออกมาว่า

 

‘ถ้าปลอมตัวแบบนั้นแล้วเกิดพวกอสูรมันรู้ว่าเป็นสายเลือดโพไซดอนถึงมาทำไง’

 

นั้นเลยเป็นจุดที่ทำให้โทมัสรู้ทันทีว่าคีย์นั้นเป็นใครแล้วทำไมโพรทาเลียถึงต้องปลอมตัว โพรทาเลียได้ยินเรื่องทั้งหมดก็ถึงกับกำหมัดแน่น

“ไอ้พี่เว้ย!! ช่วงนี้เจอแต่คนเปิดเผยเรื่องของเราตลอดเลยนะเนี่ย!!” 

ใบหน้าอันอ่อนเยาว์มีริ้วของการขมวดคิ้วทันใด โฟกัสเห็นแบบนั้นก็เข้าไปช่วยทำให้ผ่อนคล้ายทันที เธอใช้มือสัมผัสข้างขมับของพี่สาวแล้วนวดให้

“น่าๆ ใจเย็นๆ นะ พี่จ้า” 

โฟกัสช่วยทำให้พี่สาวใจเย็น เพราะตัวเองก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่เปิดเผยเรื่องพี่สาวด้วย ที่ช่วยทำให้พี่สาวใจเย็น เธอกลัวพี่สาวอาละวาดใส่เธอนั้นล่ะ

“จริงของโฟกัสนะ ใจเย็นๆ นะ โพรทาเลียไม่ต้องห่วงฉันไม่บอกใครแน่ๆ ระหว่างเธออยู่นี่กับโฟกัสฉันจะช่วยให้อย่างดีเลย ฉันจะตอบแทนแทนเจ้าน้องชายเองนะ”

พออีกฝ่ายพูดถึงดีแลน ทำเอาโพรทาเลียเปลี่ยนสีหน้าไปทันที โทมัสเห็นรู้สึกแย่เลยที่พูดถึงน้องชาย

“โพรทาเลีย...ไม่เศร้าน่า หมอนั้นไม่อยู่แล้วนะ...” 

“ขอโทษค่ะ...ฉันแค่...พอนึกถึงช่วงเวลานั้นแล้ว...มันรู้สึกแย่นะ...”

“น่าๆ หมอนั้นคงไม่อยากเห็นเธอมานั่งเศร้าหรอกนะ” 

“หึ…” โพรทาเลียนึกถึงใบหน้าอีกฝ่ายตอนที่เข้ามาปลอบเธอ “ก็จริงนะ” 

“อ๋อ...งั้นฉันอยากถามมั้ง...เจ้าเด็กคนนี้เป็นใครเหรอ?” โทมัสชี้ไปหาโนอาห์ที่นั่งข้างโพรทาเลีย "ฉันอยู่ด้วยกับเด็กนี้ เจ้าหนูไม่พูดกับฉันเลยเอาแต่พยักหน้า และบอกแค่ชื่อโนอาห์อย่างเดียวนะ...แต่เด็กผู้หญิงอะไรชื่อโนอาห์..."

สองสาวมองหน้ากันก่อนจะขำออกมา ทำเอาโทมัสมองอย่างสงสัย

“พวกเธอขำอะไรกัน?” 

“เปล่านี่...” โพรทาเลียยกช้อนทานอาหารทันที

“ไม่เชื่อ บอกมาเลยนะว่าทำไมต้องขำ!” 

“พี่คิดว่าเด็กที่มีทรงผมเหมือนเด็กผู้หญิงจะเป็นเด็กผู้หญิงตลอดเหรอ?” 

“เอ๋...หมายความว่าไง?” 

“พวกพี่สาวก็หมายความว่า โนอาห์ไม่ใช่เด็กผู้หญิงไงครับ!!” 

“ครับ!?” โทมัสมองเจ้าเด็กข้างๆ ถึงกับตาค้าง ก่อนจะได้สติ “เดียวนะ!! เจ้าเด็กนี่เป็นเด็กผู้ชายเหรอ!!” 

“ปิ๊งป่อง” สองสาวต่างยิ้มให้อย่างทะเล้น

โทมัสถึงกับหน้าซีดทันที “อ๊ากกกกกกกก!! เซนส์ฉัน!!” 

โทมัสสลบลงบนโต๊ะทันที สองสาวต่างขำออกมาเบาๆ ไม่ให้ใครเห็น แต่เสียงอีกฝ่ายก็ทำให้คนรอบข้างมองกันอย่างสงสัย

“พี่นี่เบาๆ หน่อยสิ!” 

“นี่ฉัน...มองคนไม่ออกขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย...”

“ไม่ใช่พี่คนเดียวที่มองไม่ออกนะ พวกเราตอนแรกก็มองไม่ออกเหมือนกันนะ” โฟกัสมองอีกฝ่ายที่นอนซบโต๊ะอย่างหมดอาลัยตายอยาก

“ฮือออออ~~” 

โนอาห์มองพวกพี่ๆ พลางทานอาหารไปพลาง ใบหน้าของโนอาห์เต็มไปด้วยอาหารจนโพรทาเลียเห็นก็ต้องเช็ดปากให้

“ปากเลอะหมดแล้วนะ” 

“อืออออ” โนอาห์มองพี่สาวเช็ดปากให้ตัวเอง “ขอบคุณครับ ม๊ะม๊า” 

“เอ๋...หึๆ” โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นทำเอานึกถึงเจ้าตัวเล็กของเธอขึ้นมาเลย เธอลูบหัวโนอาห์เบาๆ

“ไม่ทักท้วงเลยนะว่าไม่ใช่ม๊ะม๊านะ...” โฟกัสแอบแซวพี่สาวเบาๆ

“อ๊ะ! พูดอะไรนะ โฟกัส!” โพรทาเลียกระซิบกับน้องสาวเบาๆ

“เปล่านะ ม๊ะ ม๊า!” 

“งื้มมมม!!” โพรทาเลียจ้องมองน้องสาวที่ยังแหย่เธออยู่

โทมัสมองทั้งสองคนก่อนจะมีคำถามเพิ่มอีกสักข้อ จนยกมือขึ้นเพื่อถามอีกครั้ง

“ขอถามเพิ่ม! นอกจากเจ้าเด็กนี่ไม่ใช่เด็กผู้หญิงแล้ว ทำไมเด็กคนนี้ต้องอยู่กับพวกเธอกัน?” 

คำถามที่คาดคิดไว้ก็โผล่มาทันที ทำให้โพรทาเลียทำหน้าไม่ถูกเลยจริงๆ เธอถอนหายใจหนึ่งครั้ง ก่อนจะพูดออกไป

“คือ...เป็นคำสั่งของอะพอลโล...ให้เราช่วยพาลูกเขากลับไปหาพี่ชายอีกคนของเด็กคนนี้นะ”

“ห๊า ลูกอะพอลโล!? แถมยังต้องส่งเด็กไปหาพี่ชายอีก? แล้วพี่เด็กนี้อยู่ไหนกัน?” 

“ค่ายฮาล์ฟบลัด!” 

“อยู่ค่ายฮาล์ฟบลัด! เป็นมนุษย์กึ่งเทพเหมือนกัน...สายเลือดเดียวกันด้วยเหรอ?” 

“ใช่แล้วค่ะ” โฟกัสตักอาหารเข้าปาก ก่อนจะเคี้ยวจนหมดแล้วพูดขึ้น “เรากำลังคิดว่าจะพาไปตอนฝึกงานจบหรือจะขอให้พี่เรียกพี่ชายเขามาดีไหมนะคะ”

“พี่ชายเด็กคนนี้...ฉันรู้จักด้วยหรือเปล่า?” 

“น่าจะรู้จักเลยล่ะ เป็นถึงที่ปรึกษาบ้านอะพอลโลนี่น่า” 

“ที่ปรึกษา...บ้านอะพอลโล!?” โทมัสได้ยินแบบนั้นก็นึกถึงคนคนเดียวที่มีตำแหน่งนั้น “เดียวนะ!! เจ้าบ้าขี้เก๊กอย่างโอลิเวอร์นี่นะ!!” 

“อย่าว่าพี่ชายหนูนะ!!” 

“โอ๊ย เจ้าหนูพูดอะไรสักอย่างได้ไหม จะหนูจะผมอีกนานไหม!!” โทมัสตะโกนเสียงใส่โนอาห์ทันที

“ฮือ...ก็...หนู...กำลัง...ฝึก...แง๊!!” โนอาห์ซุกกอดโพรทาเลียทันที

“พี่โทมัส!” 

“เด็กร้องเลยนะคะ! เด็กเขาฝึกอยู่นะคะ เพราะโดนแม่สอนว่าเป็นเด็กผู้หญิงมาตลอดนะคะ!” โฟกัสดุอีกฝ่ายทันที

“อ๊ะ...ฉัน...ฉันไม่รู้...ขอโทษ...” โทมัสหน้าเสียทันที โดยเด็กร้องไห้ใส่ แถมยังโดนสองสาวดุอีก

“แต่ทำไมต้องเหมือนว่าพี่โอลิเวอร์ไม่สามารถมีน้องได้ล่ะนั้น” โพรทาเลียถามอย่างสงสัย

“ก็เจ้านั้น...ไม่เคยบอกใครว่ามีพี่น้องนี่น่า...”

“เอ๋?” โพรทาเลียถึงกับขมวดคิ้วข้างหนึ่งอย่างสงสัย

“ก็จริงนะคะพี่ เพราะพี่น้องที่มีสายเลือดของเทพเดียวกันนะ หายากมากเลยนะ” 

“เอ๋...งั้นเหรอ?” 

 

ทำให้โพรทาเลียพึ่งรู้เลยว่า การมีพี่น้องที่เกิดจากเทพโดยตรงนั้นหายากมากๆ ไม่เหมือนพวกเธอที่มีพ่อแม่เป็นมนุษย์กึ่งเทพเลยมีสายเลือดเทพอยู่ในสายเลือดด้วย และยิ่งเรื่องของโอลิเวอร์จากที่โทมัสบอกโอลิเวอร์ไม่เคยบอกเรื่องส่วนตัวกับใคร ทำให้ทุกคนคิดว่าเขาก็เหมือนทุกคนที่เป็นลูกคนเดียวมาตลอด

 

“อืมมมม ถ้าเป็นแบบนี้ พวกเธอต้องการให้ฉันติดต่อหมอนั้นสินะ” 

“ก็อยากนะ...เพราะว่าเราไม่อยากให้โนอาห์อยู่ในที่ที่ไม่ปลอดภัย” โพรทาเลียลูบปลอบโนอาห์เบาๆ

“ได้เลย ฉันจะจัดการให้” โทมัสยิ้มปากกว่ามากๆ

ทำให้สองสาวต่างมองด้วยสีหน้าไม่ไหวใจสุดๆ ความคิดของพวกเธอพูดเลยว่า ‘ใบหน้าโคตรน่าสงสัย’

 

หลังเสียงหัวเราะอันน่าสยดสยองของโทมัส ตกเย็นเขาเลยโทรหาโอลิเวอร์ที่กำลังพักตอนเย็นอยู่ ทางด้านค่ายฮาล์ฟบลัด ณ สถานพยาบาล ห้องทำงานใหญ่ของที่ปรึกษาบ้าน โอลิเวอร์กำลังเขียนเอกสารรายงานผู้ใหญ่ อยู่ๆ เสียงบางอย่างก็ดังขึ้น แต่โอลิเวอร์กลับไปรับมัน ปล่อยให้มันดังไป จนเสียงนั้นหยุดไปดังไปอย่างงั้นหลายรอบจนโอลิเวอร์ทนไม่ไหวตรงดูว่าใคร พอเห็นชื่อถึงกับหงุดหงิดทันที

 

“เจ้าโทมัส!!” เขากดรับทันทีก่อนจะพูดขึ้น “ว่าไง ไอ้คนอู้งานไปอยู่ข้างนอกพอใจหรือยังล่ะ!”

“อุ๊ย!” พอเจอคำพูดแบบนั้นไปถึงกับอึ้งไปทันที "อะไรกันๆ โอลิเวอร์ อยู่ๆ ก็บ่นฉันซะงั้น!"

“ก็นายทิ้งให้รองที่ปรึกษาบ้านดูแลบ้านเฮอร์มีสคนเดียวรู้ไหมแค่สองวันก็มีเรื่องมากแค่ไหน”

“แฮะๆ ถ้ากลับไปจะจัดการให้นะ!” 

“แล้วนายมีเรื่องอะไรถึงโทรมาหาในเวลาแบบนี้!”

“คงอยากได้คำหวานๆ ราตรีสวัสดิ์จากนายล่ะมั้ง!” 

“…” โอลิเวอร์ถึงกับนิ่งจนรู้สึกขนลุกไปหมด “นั้นฉันวาง...” 

“เดียวๆๆ ฉันล้อเล่น!!” 

“อย่ามาล้อเล่นอะไรที่สยิวๆ สิเว้ย! ฉันมีคนที่ชอบแล้วนะเว้ย!!” 

“เออๆ น่าๆ ฉันแค่มีเรื่องจะถามเท่านั้นล่ะ”

“ว่า...” 

“นายมีพี่น้องใช่ไหม?” 

เมื่อได้ยินคำว่าน้อง โอลิเวอร์เหมือนคิดอะไรบางอย่างก่อนจะตอบออกไป “ฉันเคยบอกแล้วนะว่าไม่มีนะ!” 

“เอ๋? เหรอ...งั้นนึกว่าเด็กคนนั้นเป็นน้องนายซะอีก”

“นายหมายความว่าไง?” 

“อ๋อ...ก็เมื่อเช้าเกิดเหตุการณ์น่าสลดขึ้นนะ”

“เหตุการณ์น่าสลด?” 

"ใช่ มีผู้ชายคนหนึ่งทำร้ายร่างกายเด็ก แถวๆ หน้าที่ทำงานไปรษณีย์ของพ่อฉันพอดี ตัวเด็กนะมีทั้งบาดแผลและเลือดออกไปหมด พอตำรวจมา เขาสอบถามเด็กจนเด็ก เรียกหาแต่พี่ชาย"

“...” โอลิเวอร์ได้ยินก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา ในใจมันรู้สึกอึดอัดขึ้นมา “แล้วไงต่อ?” 

“ก็เด็กเรียกชื่อพี่ชายว่าพี่โอลิเวอร์ทั้งน้ำตา ฉันได้ยินจนสงสารเลยล่ะนะ แต่ตอนที่ได้ยินว่ามีนามสกุลว่า มิวเลอร์ ฉันเลยลองโทรมาถามนายว่าใช่พี่น้องนายไหมนะ” 

พอได้ยินว่านามสกุลเดียวกับตัวเอง เขากับมีความรู้สึกกังวลทันที “แล้วเด็กคนนั้นอยู่ไหน?” 

“อยากรู้ไปทำไม เด็กก็อยู่โรงพยาบาลนั้นล่ะนะ โดนไปขนาดนั้น งั้นฉันวางล่ะนะ บายเพื่อน!” โทมัสวางสายไปทันที

โอลิเวอร์ยังไม่ได้คำตอบอะไรเลย เขาจ้องมองไปที่มือถือด้วยใบหน้าอันน่าสะพรึงกลัว หญิงสาวคนหนึ่งกำลังถือเอกสารเข้ามาข้างในพอดี

“โอลิเวอร์ ฉันมีเอกสารมาเพิ่ม...อึ้ก!!” หญิงสาวถึงกับตกใจกับใบหน้าอีกฝ่าย “โอลิเวอร์...” 

“เมรี่...ฉันขอออกไปทำธุระสักครู่!!” โอลิเวอร์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ของตนเองทันที

หญิงสาวมองอีกฝ่ายที่เดินออกไป เธอถึงกับหน้าซีดทันที “ใครไปทำให้...โอลิเวอร์มีใบหน้าเหมือนยักษ์แบบนั้นล่ะนั้น...โคตรน่ากลัวสุดๆ ...”

 

หลังจากโทมัสวางสายเขาเอาแต่อวดว่าตัวเองเก่งไหมที่หลอกโอลิเวอร์ได้ แต่พวกโพรทาเลียกับคิดว่าถ้าอีกฝ่ายมาทั้งสภาพอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา พวกเธอไม่คิดจะช่วยอีกฝ่ายแน่ๆ ตอนนี้พวกเธออยู่ในห้องนั่งเล่นในที่พัก ทุกคนต่างพากันไปนอนหมดแล้ว เหลือแค่พวกเธอสามคนร่วมโนอาห์ก็เป็นสี่คน โนอาห์อยู่ในบนตักของโพรทาเลีย

 

“ทำไมพี่เอาต้องโกหกพี่ชายผมด้วยล่ะว่าผมบาดเจ็บ”

“พี่ก็บอกไม่ได้นะ แต่อีกไม่นานพี่โนอาห์ก็คงมาหาแล้วนะ” 

“งั้นเหรอครับ ผมอยากเจอพี่จัง” 

“ไม่ต้องห่วง หมอนั้นต้องมาแน่ๆ เพราะว่ามีฉัน โทมัส วาโอเยอร์...” 

โทมัสกำลังพูดอยู่นั้นตัวเขาก็โดนบางอย่างกระชากไปด้านข้างอย่างเร็ว จนพวกโพรทาเลียเห็นไม่ทันเลย จนตัวโทมัสไปติดกับกำแพง

“ไอ้บ้า!! อยู่ๆ มาวางสายฉัน!! เด็กที่นายบอกว่านามสกุลเดียวกับฉัน เขาชื่อโนอาห์ใช่ไหม!! นั้นน้องฉัน! โนอาห์อยู่ไหน!!”

“โอ…ลิเวอร์!!” โทมัสโดนยกตัวขึ้นสูงจนเริ่มหายใจไม่ออก

พวกโพรทาเลียเห็นแบบนั้นก็ตกใจทันทีไม่นึกว่าสิ่งที่คิดจะเป็นจริงๆ

“พี่โอลิเวอร์! หยุดก่อนครับ!! น้องพี่อยู่ตรงนี้นะ!” โพรทาเลียพูดเพื่อให้อีกฝ่ายหันมา แต่ไม่มีที่ท่าจะหันมาเลย

“พี่จ้า!!” 

เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น มือที่ยกตัวโทมัสขึ้นค่อยๆ ผ่อนแรงลง เขาค่อยๆ หันหน้าไปมอง โนอาห์ยิ้มให้พี่ชายของตนเอง

“พี่โอลิเวอร์!” 

“โนอาห์...” 

***อยากลองวาดฉากเล่นๆ ดูนะคะ อาจจะมีบางตอนนะ เพราะไม่รู้ว่าจะมีใครชอบมั้งไหมนะ แฮะๆ

ดวงตาของโอลิเวอร์เบ่งกว้างเมื่อได้เห็นน้องชาย โอลิเวอร์สะบัดมือที่กระชากคอโทมัสไปอีกทางทันที ทำเอาตัวโทมัสกระเด็นไปที่กำแพงจนชนเข้าอย่างเต็มจนล้มนอนกับพื้น สองสาวมองกันก็รู้สึกเจ็บแทนจริงๆ

 

‘ก็สมกับที่ไปหลอกเขาล่ะนะ...’ 

 

โนอาห์ลงจากตักของโพรทาเลียแล้ววิ่งเข้าไปกอดพี่ชายที่ตนรักและคิดถึงมากๆ โอลิเวอร์ลูบหัวน้องชายพร้อมกับหอมไปที่ศีรษะ

“โนอาห์ พี่เป็นห่วงนายจริงๆ พอได้ยินว่านายโดนเจ้าชาติชั่วนั้นทำร้าย พี่รีบมาหาเลยนะ!!” โอลิเวอร์จ้องมองน้องชาย เขาเห็นว่าน้องไม่มีบาดแผลเลย “นายไม่มีแผลเลยนี่น่า...”

“ก็พี่ชายคนนั้น...โกหกพี่อ่ะ...” โนอาห์ชี้ไปที่โทมัสที่นอนกับพื้น

“ว่า...ไงนะ...!!” โอลิเวอร์หันขวับไปมองโทมัสในทันที

“น่าๆ โทมัสเขาอยากให้พี่มา เพราะกลัวพี่จะไม่มารับโนอาห์นะครับ” โพรทาเลียเดินออกมาขัดจังหวะพี่น้องคุยกัน

“คีย์?” โอลิเวอร์หันไปมองทั้งสองคนอย่างสงสัย “พวกเธอหนีออกจากค่ายกันจริงๆ สินะ โพรทาเลีย?” 

“!!” โพรทาเลียมองอย่างอึ้งๆ “พี่พูดอะไรนะ?” 

“พี่รู้จากโอราอุสนะ ถึงแม้โอราอุสจะบอกให้พี่เก็บเงียบไว้ก็เถอะ...” 

โพรทาเลียถึงกับหัวร้อนขึ้นมา เธอค่อยๆ หายใจเข้าออกช้าๆ “โอเค กลับไปคงต้องคุยกับพี่สักทีล่ะ!” 

“ฉันว่าได้เห็นคนโดนเฉือนแน่ๆ” โฟกัสแบบแซวขึ้นมาทันที

โอลิเวอร์มองน้องชายก่อนจะถามอย่างสงสัย “เอ่อ...ขอถามได้ไหมว่าถ้าเรื่องที่โทมัสโกหก แล้วทำไมน้องฉันมาอยู่กับพวกเธอ?” 

“พวกเราช่วยโนอาห์ตอนอยู่ในร้านทาโก้นะ” 

“พอดีได้ยินเสียงตบเข้าเลยรู้ว่าโนอาห์โดนทำร้ายนะ โฟกัสเลยเข้าไปช่วยน่านะ เตะไปทีหนึ่งนะ” 

“แล้วแม่...กับพ่อเลี้ยงล่ะ?” โอลิเวอร์ถามเพราะอยากรู้ชะตากรรมของแม่และพ่อเลี้ยง

“สองคนนั้นโดนจับเข้าคุกข้อหาทำร้ายร่างกายเด็กนะ”

เมื่อได้ยินแบบนั้นทำให้โอลิเวอร์โล่งใจขึ้นมาก ก่อนจะถามน้องชาย “แล้วตอนโดนทำร้ายเจ็บมากมาย? โนอาห์”

“นิดหน่อย แต่พวกพี่สาวปลอบและรักษาให้นะคะ”

“ดีแล้วล่ะนะ” 

“ขอบใจพวกเธอจริงๆ ที่ช่วยน้องฉันได้นะ ฉันนึกว่าจะเสียน้องไปซะแล้ว...” 

“แต่...ดูพี่รักน้องมากๆ เลยนะ แต่ทำไมบอกทุกคนว่าไม่มีพี่น้องล่ะ?” โพรทาเลียถามอย่างสงสัย

โอลิเวอร์นิ่งกับคำถามของโพรทาเลีย “เฮ้อ...ฉันโดนแม่...สั่งห้ามเข้าใกล้โนอาห์นะ ผ่านมาก็3ปีแล้วน่านะ จนโนอาห์ 8 ขวบแล้วเนอะ?” 

“อืม!” โนอาห์พยักหน้าทันที

“8 ขวบ!” โพรทาเลียมองโนอาห์อย่างสงสัย “ตัวเล็กเท่าคาเร็นน่า แต่อายุ 8 ขวบ!” 

“อืม แม่คงเลี้ยงไม่ค่อยให้มีสารอาหารดีๆ นะ แต่ถ้าอยู่กับฉันก็ให้ทานอะไรเยอะๆ เลยล่ะ” 

“ดีจังเลยนะ อ๋อ...จริงสิ!” 

พออีกฝ่ายพูดแบบนั้น โพรทาเลียก็นึกบางอย่างได้ เธอก็หยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าคาดเอวที่ใส่ตลอดเวลา เธอหยิบซองจดหมายออกมาแล้วยื่นให้อีกฝ่าย

“พ่อพี่ฝากมาให้นะ” 

“พ่อเหรอ?” โอลิเวอร์เห็นซองสีน้ำตาลที่โพรทาเลียให้เขา เขารับมันแล้วดูเอกสารข้างใน “นี่มัน!”

“เอกสารผู้อุปการะบุตร นี่พ่อ...ฝากฝังน้องไว้กับฉัน?!” 

“ใช่แล้ว ตั้งแต่วันนี้พี่ก็ดูแลน้องชายพี่ดีๆ ละกันนะ! แล้วต้องสอนเขาเป็นเด็กผู้ชายด้วยนะ!” 

“อืม...เอ๋!?” โอลิเวอร์ส่ายหน้าหันไปหาอีกฝ่ายทันที “เธอว่าไงนะ?” 

“นี่พี่...ไม่รู้เรื่องที่แม่พี่ทำสินะ?” 

“ทำอะไร?” 

“แม่พี่นะ ทำให้น้องพี่เป็นเด็กผู้หญิงไง!” 

“ว่าไงนะ นอกจากให้น้องฉันไว้ผมยาวแล้ว ยังทำให้น้องฉันเป็นผู้หญิงอีก!” 

“อืม พวกเราสองคนเลยสอนอะไรไปนิดหน่อยแล้วล่ะนะ”

“ใช่ค่ะ ฝากพี่โอลิเวอร์ดูแลน้องดีๆ ล่ะค่ะ” 

พอได้ฟังคำพูดของทั้งสองคน โอลิเวอร์ก็ยิ้มออกมาทันที “ขอบใจทั้งสองคนอีกครั้งมากๆ นะ พี่จะดูแลน้องพี่ให้ดีที่สุด งั้นกลับไปกับพี่นะ โนอาห์” 

โนอาห์ได้ยินก็หันไปหาพี่ชายสลับกับมองพวกโพรทาเลีย “เอ๋...ต้องไปแล้วเหรอครับ? ผมจะไม่ได้เจอพี่ๆ อีกแล้วเหรอ?” 

โพรทาเลียเห็นสีหน้าอันเศร้าสร้อยของโนอาห์ เธอเดินเข้าไปข้างๆ แล้วย่อตัวลงนั่งตรงหน้าอีกฝ่าย

“ต้องได้เจอสิ พวกพี่ๆ แค่ฝึกงานอยู่ที่นี้ช่วงหนึ่ง เดียวพวกพี่ก็ตามกลับไปที่ที่โนอาห์จะไปกับพี่ชายนะ”

“จริงนะครับ?” 

“จริงสิ ไว้พี่กลับไป พี่จะพาไปให้รู้จักกับลูกสาวพี่นะ” 

“อืม!” โนอาห์พยักหน้าทันที

“มาให้พี่หอมหน่อยมา!” โนอาห์เขยิบเข้าไปหาอีกฝ่าย โพรทาเลียหอมแก้มซ้ายขวาอย่างอ่อนโยน “ไว้เจอกันนะ”

“โชคดีนะ โนอาห์” 

“ของโนอาห์ไม่มีอะไรใช่ไหม?” 

“ไม่มีค่ะ เสื้อผ้าโนอาห์ก็เป็นของน้าสาวเรานะ” 

“โอเค งั้นไปกันโนอาห์” 

“ครับ!! บายๆ” 

โนอาห์หันไปโบกมือลาทั้งสองสาว ก่อนที่โอลิเวอร์จะใช้ตั๋วเดินทางไปฮาล์ฟบลัด ถึงแม้จะอยู่กับโนอาห์ไม่กี่วันโพรทาเลียรู้สึกเหงาเลยจนคิดถึงลูกสาวเลย โฟกัสเข้าหาโอบไหล่ซบพี่สาวทันที ก่อนที่คนบางคนที่สลบไปฟื้นขึ้นมา

“เกิดอะไรขึ้น...” โทมัสส่ายหัวไปมาอย่างมึนๆ

“ฮ่าๆ ฟื้นแล้วเหรอ! พี่โทมัส” 

“พวกเธอ...เจ้าบ้านั้นไปไหนแล้ว...” 

“พี่โอลิเวอร์กลับไปแล้วค่ะ จริงสิน่าว่าถึงเวลาที่เข้านอนได้แล้วนะคะ” โฟกัสมองนาฬิกาในกำไล

“จริงด้วยนะ งั้นพวกเราไปนอนนะ พี่โทมัส บายๆ” โพรทาเลียจูงมือน้องสาวพากันกลับห้องทันที

“พวกเธอ...” โทมัสมองสองสาวที่เดินกลับห้องนอนไป “ดูๆ พอฉันหมดประโยชน์แล้ว ก็...ไปกันหมดเลยนะ” 

โทมัสนั่งอย่างมึนๆ หัวเขากระแทกกำแพงแต่ดีที่ไม่นูนขึ้นมา เพราะหัวอีกฝ่ายนั้นเหมือนแข็งอย่างกับหินจริงๆ สองสาวเดินกลับห้องพักของพวกเธอ ระหว่างที่เดินๆ กันนั้น โฟกัสคิดถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ เธอหันไปมองพี่สาวทันที

“พี่ค่ะ...พี่คงไม่ลืมใช่ไหมคะ? ว่าเรามาทำอะไรที่นี่นะ!?” 

“อ๋อ...” โพรทาเลียหันไปพยักหน้าให้น้องสาว เธอทำหน้าซีเรียสในทันที "ไม่ลืมหรอก...พึ่งจำได้เมื่อเช้านะ...ว่าต้องหาอดีตชาติอีกคนที่เรามาหาถึงที่นี้"

 

จบตอนที่ 52 โปรดติดตามตอนที่ 53 ต่อไป