ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง
ภาพตรงหน้านั้นตัดไปอย่างชั่ววูบแต่ยาวนานจนไม่รู้ว่าภาพตรงหน้านั้นจะเปิดเมื่อไร ความรู้สึกทุกอย่างนั้นหายไปชั่วขณะทำให้โพรทาเลียไม่รับรู้เลยว่าตนเองเป็นอะไรไปหรือเกิดอะไรขึ้นกับตนเองหรือเปล่า จนกระทั่งความรู้สึกเริ่มกลับมา ทำให้เธออยากจะลืมตาขึ้นร่างกายที่นิ่งเฉยไม่รู้นานเพียงใดก็เริ่มขยับเล็กๆ น้อยๆ จนทำให้คนที่เฝ้าดูอาการนั้นถึงกับตื่นเต้นที่อีกฝ่ายนั้นกำลังจะฟื้นขึ้น ดวงตาสีเขียวกำลังค่อยๆ เปิดออกช้าๆ ก่อนที่ดวงตาจะเห็นใบหน้าอันคุ้นเคยของน้องสาว แต่ดวงตากับจมูกของเธอกับแดงก่ำอย่างน่าแปลกใจ ก่อนที่โพรทาเลียจะเอ่ยเรียกน้องสาว
“โฟกัส...”
“พี่...พี่ค่ะ!!” โฟกัสรีบสวมกอดคนเป็นพี่สาวทันใด พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มทั้งสอง “ฮือ...พี่...หนูนึกว่าจะเสียพี่ไปแล้วซะอีก…ฮือ...”
เสียงของโฟกัสสั่นเครือจนโพรทาเลียสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ก่อนจะลูบหลังน้องสาวเบาๆ ระหว่างที่กอดก็พอเข้าใจถึงความรู้สึกน้องสาวและคำพูดของเธอว่าสื่ออะไร
“นี่พี่...ตายอีกแล้วสินะ?” โพรทาเลียถามอย่างสงสัย
โฟกัสผละตัวออกด้วยใบหน้าที่ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจกับคำพูดของคนเป็นพี่
“พูดแบบนั้นได้ไง!! ถ้าเกิดพี่ไม่ฟื้นขึ้นมาจะทำไงกัน!!”
พอได้เห็นสีหน้าของน้องสาวก็ทำเอาโพรทาเลียรู้สึกผิดขึ้นมากับคำพูดของตนเอง
“พี่ขอโทษ...โฟกัส...พี่ไม่นึกว่าการทดสอบนี้จะทำให้พี่บาดเจ็บจนถึงขั้น...เสียชีวิตได้นะ...”
“งื้มมม!” โฟกัสกอดซุกไหล่พี่สาวอย่างเป็นห่วง “อย่าทำแบบนี้อีกนะ หนูไม่อยากเสียพี่ไปอีก”
“อืม พี่จะไม่ให้เกิดเรื่องนี้อีกแล้วล่ะ” โพรทาเลียลูบหัวน้องสาวเบาๆ
“ฮือออ”
โพรทาเลียนั่งปลอบน้องสาวสักพัก ก่อนจะมีคนคนหนึ่งจะเอ่ยพูดขึ้นมาเมื่อเห็นโพรทาเลียกำลังปลอบอีกคนอยู่
“อ๊า~ มีคนฟื้นแล้ว พวกเรารอตั้ง 3 วันกว่าเธอจะฟื้นนะเนี่ย โพรทาเลีย”
“หือ?” โพรทาเลียเงยหน้ามองก็เห็นโทมัสยิ้มให้เธอ “พี่โทมัส!”
โทมัสยิ้มอย่างดีใจที่อีกฝ่ายฟื้นแล้ว ก่อนจะเดินเข้าไปพร้อมกับกระติกที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มอาหารเทพ
“ฉันกำลังนำอาหารเทพมาให้พอดี ไม่นึกว่าจะได้เจอข่าวดี งั้นฉันจะเอาเรื่องที่เธอฟื้นไปบอกพ่อก่อนนะ”
“งั้นฉันไปด้วย! ต้องไปคั่นกลางระหว่างสองเทพด้วย”
“เอ๋...เทพียังอยู่เหรอ?” โพรทาเลียได้ยินว่าสองเทพ เธอก็คิดว่าเทพียังอยู่เหรอ
“ใช่ค่ะ...เทพีบอกอยากรอจนกว่าพี่จะฟื้น เฮอร์มีสเลยให้พักอยู่ที่นี้ระหว่างซ่อมแซมตึกไปด้วยนะคะ”
“ซ่อมแซม...” โพรทาเลียนึกภาพตอนที่ต่อสู้กับลักซ์คงทำให้ที่นี้ต้องซ่อมแซมอีกสักระยะแน่ๆ “ถึงขั้นต้องปิดเลยสินะ...”
“ใช่ ก็ข้างล่างกับห้องทำงานเฮอร์มีสเลอะแบบนั้น ทำให้พัสดุที่ต้องส่งต้องถูกย้ายไปอีกสาขาหนึ่งแทน ร่วมถึงต้องให้พนักงานตึกนี้พักหลังจากเหตุการณ์นั้นล่ะนะ”
“คงต้องขอโทษเฮอร์มีสยาวล่ะที่นี้” โพรทาเลียถึงกับอยากจะร้องไห้กับการต่อสู้ของเธอจริงๆ
“ได้ขอโทษแน่ๆ ล่ะ งั้นพวกเราไปตามพวกเขามาก่อนนะ”
“อืม!”
ทั้งสองคนได้เดินออกไป ทำให้ข้างในนั้นเงียบไปหมด โพรทาเลียทำหน้านิ่งก่อนจะมองรอบๆ เธออยู่ในห้องที่ไม่ใช่ห้องพัก ทำให้เธอคิดว่าเธอคงโดนแยกออกมา โพรทาเลียมองไปที่มือข้างที่มีสัญลักษณ์แล้วลองส่งพลังเข้าไปก็เห็นสักลักษณ์แค่ 3 อันเท่านั้น ทำให้สีหน้าของโพรทาเลียเปลี่ยนไป
“นี่ฉัน...ไม่ผ่านการทดสอบเหรอ?”
เสียงโพรทาเลียสั่นเครือ เธอนึกว่าตัวเองทำแบบนั้นจะผ่านแล้วซะอีก ก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
‘ผิดแล้วล่ะ...’
“เอ๋?”
โพรทาเลียเงยหน้าขึ้นก็เห็นชายที่คุ้นเคยอยู่ตรงหน้าเธอ ตอนนี้เธอเห็นเขาเด่นชัดมากกว่าตอนที่เป็นเงามืด
“ลักซ์...”
สีหน้าของลักซ์ดูเศร้าหมองมากๆ จนเธอเห็นแล้วยังเป็นห่วงเลย
“นายเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ข้า...ข้าขอโทษ...”
“เอ๊ะ...” คำพูดอีกฝ่ายทำให้โพรทาเลียอึ้งไปสักครู่ “ทำไม...ถึงขอโทษฉัน...”
“เพราะสิ่งที่ข้าทำ...บางอย่างมันไม่เกี่ยวกับการทดสอบ...”
“ว่าไงนะ?”
“ข้าควรที่จะทดสอบว่าเจ้ารับความเจ็บปวดของข้าได้มากเพียงใด แต่...ข้าไม่รู้ว่าสิ่งที่ฝังอยู่ในร่างข้า...จะเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องบ้าๆ ขึ้น พอเจ้าช่วยนำมันออก ข้าก็ตาสว่างขึ้นและหวาดกลัว...ข้าเกือบทำร้ายบิดามารดาของตนเอง...แต่ข้าก็...ฆ่าเจ้า...”
เขานึกย้อนกลับไปตอนที่ได้ยินเสียงน้องสาวอีกฝ่ายบอกพี่สาวกำลังจะตาย นั้นทำให้เขาหวาดกลัวจนหนีออกมาจากโลกแห่งความจริงไปสู่ความมืด
“ช่างเถอะ...ลักซ์”
“เอ๋?” ลักซ์จ้องมองอีกฝ่ายกอย่างสงสัย
ใบหน้าของโพรทาเลียไม่มีคำว่าโกรธหรือไม่พอใจอีกฝ่ายที่ทำให้เธอต้องได้รับบาดเจ็บ ใบหน้าของเธอมีแค่ยิ้มกับเห็นใจอีกฝ่ายมากกว่า
“ฉันไม่โทษนายหรอกนะ นายไม่รู้ว่าปลายมีดนั้น จะทำให้ตัวเองกลายเป็นอีกคน กลายเป็นปีศาจที่โกรธแค้นพ่อแม่ตนเอง แต่ว่า...”
โพรทาเลียยกมือตัวเองขึ้นมา แล้วยื่นมือไปหาอีกฝ่าย
“นายก็หลุดพ้นจากสิ่งนั้นมาแล้ว นายไม่ใช่ปีศาจอีกแล้ว ลักซ์ ความเจ็บปวดของนายฉันได้รับรู้แล้ว ความเจ็บปวดก่อนตายที่ไม่สามารถบอกความรู้สึกนั้นให้แก่ผู้เป็นแม่ได้ ฉันจะส่งมันต่อเอง”
น้ำตาของลักซ์กำลังไหลออกมาระหว่างฟังโพรทาเลียพูด เขาเงยหน้าไม่ให้น้ำตาตัวเองไหลออกมา ก่อนที่เขาจะยื่นมือไปจับมืออีกฝ่ายพร้อมกับรอยยิ้มที่มีลักยิ้มข้างแก้มขวา
“ขอบใจ...ขอบใจจริงๆ”
“อืม!!” โพรทาเลียยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
ลักซ์ค่อยๆ ลอยขึ้นตัวของเขาเริ่มส่องประกายสีส้มออกมาก่อนจะมีตราสัญลักษณ์คทาของเฮอร์มีสกับงูของเฮคาทีขึ้นมาผสมกัน จนเกิดตราแบบใหม่
“ข้า ลักซ์ บุตรแห่งเฮอร์มีสและเฮคาที ขอยอมรับให้โพรทาเลีย แจ็กสัน ร่างจุติของข้า ผ่านการทดสอบในครั้งนี้”
แสงสว่างเกิดขึ้นบนมือของโพรทาเลีย ตราของเฮอร์มีสที่ผสมกับตราของเฮคาทีประทับลงบนมือของเธอ ตอนนี้เธอก็มีตรา 4 อันแล้วเหลืออีกกี่อัน เธอก็ยังไม่รู้
“แล้วก็...” ลักซ์วางมีดสั้นสองเล่มไว้ตรงบนผ้าห่มที่เธอกำลังห่มไว้อยู่ “ฉันขอมอบอาวุธของฉันให้เธอ ฉันว่ามันควรอยู่กับเจ้าของคนใหม่มากกว่าถูกตั้งไว้นะ”
โพรทาเลียจ้องมองมีดอย่างสงสัย เธอพึ่งสังเกตว่ามีดสั้นนี้มีลักษณะโค้งปลายมีด ไม่เหมือนดาบหรือมีดสั่นทั่วไปที่จะตรงไม่โค้งไม่ง้อ
“ขอบใจนะ ฉันจะเก็บไว้อย่างดีเลย” พอเธอยกมีดสั้นขึ้นมามีดทั้งสองเล่มหล่อหลวมต่อหน้าโพรทาเลีย แล้วกลายเป็นแหวนขนาดเล็กแทน “เอ๊ะ!?”
“พอได้อยู่กับเจ้านายใหม่ก็ชอบเปลี่ยนร่างเป็นสิ่งที่เหมาะกับเจ้านายนะ”
“งั้นเหรอ?” โพรทาเลียมองมีดสั้นที่กลายเป็นแหวนไปแล้ว ก่อนจะนำมาสวมที่นิ้วที่พอดี นิ้วที่พอดีดันกลายเป็นนิ้วกลางซะด้วย “นิ้วอื่นเล็กไปจริงๆ สินะ”
“หึๆ” ลักซ์ขำอีกฝ่ายอย่างชอบใจ จู่ๆ ก็รู้สึกถึงพลังที่คุ้นเคยขึ้นมา “ข้าขอตัวก่อนล่ะ”
“อ๊ะ...ลักซ์!”
โพรทาเลียมองอีกฝ่ายหายตัวไปอย่างรวดเร็วเหมือนหนีใครสักคน แต่พอประตูเปิดออกก็ทำให้เธอรู้ว่าอีกฝ่ายหนีใคร เทพทั้งสองเข้ามายังห้องของเธอ พร้อมกับอีกสองคนที่ไปตามเทพมาหาเธอ โฟกัสเดินเข้ามานั่งข้างๆ เตียงของพี่สาว เทพทั้งสองเดินมาอยู่ข้างๆ เตียงของเธอ พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มจนโพรทาเลียรู้สึกตึงเครียด
“อย่ามายิ้ม เพียงเพราะดีใจที่ข้าเป็นอดีตสายเลือดของพวกท่านได้ไหม!?”
โพรทาเลียรู้ว่าพวกเขายิ้มเพราะอะไร เพราะเธอก็เผลอไปบอกว่าเป็นคนเดียวกับลักซ์ พวกเขาคงคิดออกแล้วว่าเธอเป็นอดีตลูกของพวกเขา
“โธ่ โพรทาเลีย เจ้าต้องทำใจที่เจ้าเป็นอดีตสายเลือดของข้านะ!!”
เฮอร์มีสกล่าวออกมาอย่างไม่รู้สึกอะไรเลยที่คนต้องหน้าเขานั้นคนสายเลือดโพไซดอนไม่ใช่สายเลือดตรงๆ ของเขาสักหน่อย
“หือ...?” โพรทาเลียหน้านิ่งที่อีกฝ่ายเรียกชื่อเธอ ก่อนที่เธอจะก้มมองว่าตัวเองมีหน้าอกใช่ไหม พอเห็นว่ามีก็หันไปกระซิบกับโฟกัส “นี่ฉันกลับร่างเดิมตั้งแต่ตอนไหน?”
“หลังจบการต่อสู้เลยนะ...”
“ห๊า...เฮ้อ...” โพรทาเลียกุมขมับก่อนจะมองเทพทั้งสอง ก่อนจะก้มหัวต่อหน้าเทพทั้งสอง “ข้าต้องขออภัยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยเจ้าค่ะ!!”
“ข้าไม่ถือสาหรอกนะ ยกเว้นห้องข้าต้องซ่อมอีก 2 ถึง 3 วันล่ะนะ”
“ฮ่าๆ เจ้าค่ะ...” โพรทาเลียรับรู้เหมือนอีกฝ่ายประชดเรื่องห้องของเขา
“ไม่ต้องขอโทษหรอกนะ โพรทาเลีย เจ้าทำให้เราได้รับรู้ความทุกข์ของลูกชาย...” เฮคาทีจับตัวโพรทาเลียให้เงยหน้ามองตนเอง พร้อมกับจับใบหน้าอีกฝ่ายขึ้นมามอง “และข้าต้องเป็นฝ่ายขอโทษแทนด้วยซ้ำ...เพราะตอนนั้นถ้าข้าไม่วู่วามจนทำให้ลูกชายต้องตายจากไป เขาก็คงไม่แค้นเคืองข้าขนาดนี้”
“ไม่เจ้าค่ะ!!” โพรทาเลียกุมมือของเทพีขึ้นมา “ไม่ใช่ความผิดท่าน ตอนนั้นท่านแค่โดนมีดเล่มนั้นครอบงำจิตใจต่างหาก ท่านถึงเป็นเช่นนั้น!!”
“เจ้ารู้ได้ไง? โพรทาเลีย” เฮอร์มีสถามอย่างสงสัย เพราะมีไม่กี่คนที่รู้ว่ามีดที่เฮคาทีใช้มีบางอย่างสิงอยู่
“ข้ารู้เห็นผ่านความทรงจำของลักซ์ รวมถึง...วาระสุดท้ายที่เขาอยากจะพูดบางอย่างกับท่าน...” โพรทาเลียจ้องมองเทพีพร้อมกับกุมมือ
“ข้าเหรอ?”
“ท่านแม่...ทุกอย่างไม่ใช่ความผิดท่าน...ข้ารับชะตากรรมนี่เอง ได้โปรดหลังข้าตาย...อย่าโทษตนเองเด็ดขาด…”
เฮคาทีได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูดน้ำตาของเธอเริ่มไหลออกมา เธอค่อยๆ เงยหน้ามองอีกฝ่าย แต่ภาพตรงหน้าก็ทำให้เธออึ้งไปในทันที ร่างกายของโพรทาเลียเริ่มเปลี่ยนไป ใบหน้า ดวงตา ทรงผม จนกลายเป็นลักซ์
“ข้ารักท่าน ท่านแม่” ลักซ์บอกรักคนเป็น
“ละ...ลักซ์!” เฮคาทีกอดลักซ์ทันที
“เอ๋?”
ลักซ์ถึงกับงงที่คนเป็นแม่กอดเขาได้ ความรู้สึกอบอุ่นที่แม่เคยกอดมันช่างอบอุ่นกว่าที่เขาจะรับรู้ได้ เขากอดคนเป็นแม่ของเขาทันที
“ท่านแม่...”
สามคนที่อยู่ตรงนั้นถึงกับอ้ำอึ้งแบบสุดๆ จนโฟกัสเดินถอยมาหาโทมัสทันที โทมัสยังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะถามโฟกัส
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? โฟกัส”
“ฉันจะรู้ได้ไง? แล้วพี่สาวฉันอยู่ไหน!!”
โฟกัสยังสับสนว่าพี่สาวอยู่ไหน ทางด้านโพรทาเลียยังสับสนอยู่ ที่จู่ๆ เธอมาอยู่รอบๆ ข้างอดีตชาติที่มีร่างเป็นคนปกติ พวกเขาทั้งสามคนยังมองกันอย่างตกใจที่อยู่ โพรทาเลียก็โผล่ออกมาจากต้นไม้ที่กำลังฉายภาพที่พวกเขามองผ่านสายตาของโพรทาเลีย ทำให้สามอดีตชาติตกใจงงไปหมด
“โพรทาเลียเธอ...” เฟอร์ร่าจ้องมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย
“ออกมาจากต้นไม้นั้น...ได้ไง?” เซเรน่ามองอย่างสับสนสุดๆ
“เมื่อกี้เหมือนลักซ์แตะต้นไม้นะ!!” รัลจ้องไปที่ต้นไม้ที่ลักซ์แตะ
“จริงสิ!!” เซเรน่ารีบไปที่ต้นไม้ทันที แล้วแตะมือลงบนต้นไม้ “ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่น่า!!”
เฟอร์ร่าเข้าไปใกล้โพรทาเลีย “โพรทาเลียไม่เป็นไรนะ แล้วมันเกิดเรื่องนี้ได้ไง?”
“คนที่ถามน่าจะเป็นฉันมากกว่านะ! เฟอร์ร่า” โพรทาเลียเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าจอที่ฉายภาพจากสายตาของลักซ์อยู่
ทำให้โพรทาเลียสงสัยเลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับลักซ์มันคืออะไรกัน ลักซ์ยังกอดแม่ของเขาอย่างคิดถึง เขาไม่ได้เจอผู้เป็นแม่มานานเกือบร้อยกว่าปี ความรู้สึกคิดถึงช่างเยอะกว่าอะไรอีก เฮอร์มีสเข้ามามองอย่างสงสัยว่าใช่จริงๆ เหรอ แต่พอมองก็รับรู้เลยว่าเป็นลูกชายเขา
“ลักซ์...”
“ท่านเฮอร์มีส...” ลักซ์มองเทพเฮอร์มีส เมื่อก่อนเขาเรียกอีกฝ่ายอย่างงั้นเสมอ “แก่ขึ้นเยอะเลยนะขอรับ”
“กล้าพูดแบบนี้กับข้าเหรอ? เจ้าเด็กนี่!!”
“ฮ่าๆ”
ลักซ์ขำคนเป็นพ่อของตนเอง เฮอร์มีสมองลูกชายแล้วยิ้มออกมาอย่างดีใจ ก่อนที่โฟกัสจะมาขัดจังหวะของครอบครัว
“อย่าพึ่งมาดีใจกันได้ไหมคะ!! ลักซ์ พี่สาวฉันอยู่ไหน!!”
“เอ่อ...ข้าไม่รู้เหมือนกัน...”
“ห๊า!!” โฟกัสถึงกับตบะแตกขึ้นมา รีบเข้ามาเขย่าไหล่อีกฝ่ายทันที “เอาพี่สาวฉันคืนมาเลยนะ!!”
“อ๊า! ข้าไม่รู้นี่น่า ข้าจะคืนได้ไงล่ะ!!” ลักซ์โดนโพรทาเลียเขย่าจนมึนหัวไปทันที
โพรทาเลียจ้องมองภาพหน้าจอก็รู้สึกอยากอาเจียนเลยที่โฟกัสเขย่าแบบนั้น เธอมองรอบๆ ตัวเธอ เหมือนห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้อยู่กลางห้องจนโพรทาเลียสงสัยว่าที่นี้มันที่ไหนกันแน่ แล้วพอมองคนตรงหน้าทั้ง 3 คน เธอไม่คิดว่าจะได้เห็นอดีตชาติใกล้ๆ และในร่างปกติแบบนี้
“เอ่อ...พวกเธอมองภาพนี่ตลอดเหรอ?”
“ไม่ตลอดนะ แค่ช่วงเวลาที่จำเป็นเวลาส่วนตัวภาพมันจะตัดไปตลอดนะ!”
“ดีแท้...” เธอโล่งใจนึกว่าภาพมันจะเปิดตลอด “แล้วพวกเราอยู่ไหน?”
“ภายในร่างกายเจ้านะ!” รัลโผล่มาตลอดหน้าของอีกฝ่ายทันที
“ร่างกายฉัน?” โพรทาเลียมองรัลอย่างสงสัย
“ใช่แล้ว! ถ้าให้พูดจริงๆ ก็น่าจะเป็นภายในจิตใจ!”
“ไม่ๆ ต้องเรียกว่าที่เก็บวิญญาณมากกว่า!!”
โพรทาเลียมองทุกคนกำลังเถียงกันว่าจะเรียกที่ที่แห่งนี้ว่าอะไรดี เธอยกมือขึ้นมาขัดพวกเขาในทันที
“คือว่า...ขอเรียกง่ายๆ ว่า เซฟโซนของพวกเธอได้ไหม?”
ทั้งสามคนได้ยินแบบนั้นก็ชอบคำเรียกของอีกฝ่ายทันที “ได้เลย!!”
“แล้วแบบนี้ฉันจะเข้าร่างได้ไงกันล่ะเนี่ย?” โพรทาเลียจ้องมองอย่างสงสัย
“ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยล่ะนะ”
“แต่เมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ ตอนที่ลักซ์ยอมรับเจ้าด้วยนะ” เฟอร์ร่าเอยพูดขึ้น
“เสียงแปลกๆ”
“เสียงติ๊ก”
“ติ๊ก?” โพรทาเลียครุ่นคิดอย่างสงสัย เสียงนั้นคือเสียงอะไร “แล้วมีใครมาแตะต้นไม้นี้มั้งไหม?”
“ข้ากับรัลแต่หลังจากลักซ์โผล่ออกมาจากต้นไม้”
“หือ? จะบอกว่าทุกคนออกเข้าและออกจากต้นไม้นี้เหรอ?”
“เปล่าๆ ปกติเราจะออกทางด้านบนนะ”
พวกเขาเงยหน้ามองใบไม้ที่เต็มไปหมด โพรทาเลียพึ่งเห็นว่าต้นไม้ต้นนี้สูงถึงชั้นที่สอง โพรทาเลียหลับตาใช้ความคิด ก่อนจะลองบางอย่างถ้าเธอเป็นเจ้าของร่างน่าจะทำได้เช่นกัน เธอเดินตรงไปที่ต้นไม้พร้อมกับแตะมันแสงสว่างขึ้น เมื่อเธอแตะต้นไม้ก่อนที่เธอจะถูกดูดเข้าไปแล้วลักซ์ก็ออกมาทันที
“เอ๋...กลับมาแล้วเหรอ?”
“ใช่!”
พวกเฟอร์ร่าจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่ชอบใจที่พวกเขามาอยู่ก่อนแต่อีกฝ่ายนั้นกลับได้ออกไป
ลืมตาตื่นขึ้นก็เห็นเทพีตรงหน้าแล้วก็โฟกัสที่กำลังมองเธออยู่ เธอเห็นแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นไปมองตัวเองที่กระจกทันที ร่างกายของเธอกลับเป็นปกติสักที ทำให้เธอนอนซบหน้ากับกระจกอย่างดีใจที่ตัวเองสามารถกลับร่างเดิมของตัวเอง ทุกคนก็มองอย่างงงๆ ที่โพรทาเลียกลับเป็นคนเดิมแล้ว
“พี่ค่ะ!!” โฟกัสเข้าหาพี่สาวทันที “พี่กลับมาแล้ว”
“พี่ว่าจะต้องอยู่ในสภาพนั้นซะแล้ว!” โพรทาเลียหันไปกอดน้องสาวทันที
“ช่างแปลกประหลาดจริงๆ” เฮอร์มีสจ้องมองเด็กสาวอย่างสนใจกับการเปลี่ยนร่างของเธอคล้ายๆ พวกเขาที่เป็นเทพไม่มีผิด
เทพีมองอย่างเซ็งๆ ที่อยู่กับลูกได้เพียงเสี้ยววิเท่านั้น ทำให้เธอคิดบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วเดินตรงไปหาเด็กสาวโดยทันที
“โพรทาเลีย!”
“ค่ะ...เทพี?”
เฮคาทีเข้าใกล้เด็กสาวพร้อมกับกุมมืออีกฝ่ายขึ้นมา “มาเป็นลูกทูนหัวของข้านะ!!”
“เออออออออออออออ๋!?”
ทุกคนต่างอุทานอย่างตกใจ หายากที่เทพีเฮคาทีจะรับใครเป็นบุตรบุญธรรมแบบนี้ เฮอร์มีสถึงกับตกใจก่อนจะพูดกับเทพีทันที
“เดียวสิ! เฮคาที ข้าต้องพูดก่อนสิ!!”
“เสียใจ เฮอร์มีส ข้าอยากให้เด็กน้อยคนนี้เป็นลูกทูนหัวข้าก่อนท่าน!!”
“ก่อนข้าเนี่ยนะ!!” เฮอร์มีสถึงกับของขึ้นทันที “ไม่นึกเลยว่าข้ากับเจ้าเคยเป็นอะไรกัน”
“หึ แต่ตอนนี้เป็นแค่คนรู้จักนี่เจ้าค่ะ!!”
โพรทาเลียจ้องมองเทพสององค์ทะเลาะกันอย่างน่ารำคาญ ก่อนจะสงสัยอยู่ว่าก่อนหน้าเกิดอะไรขึ้นมั้ง
“ก่อนหน้าเกิดอะไรขึ้นมั้งนะ?”
“อดีตชาติของพี่เขามาสิงร่างพี่ แล้วรูปร่างก็เปลี่ยนไปเป็นของอีกฝ่ายด้วยนะ”
“หือ?”
โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นแอบคิดว่ามีการเปลี่ยนร่างด้วย ทำให้เธอสงสัยว่าจะมีอะไรแบบนี้อีกไหม ก่อนจะได้ยินเฮอร์มีสพูดบางอย่างขึ้นมา
“แต่ยังไงเจ้าก็ไม่ใช่คนแรกของนางอยู่ดี เฮคาที!”
“ข้ารู้แล้ว!!” เฮคาทีหันไปหาโพรทาเลียพร้อมกับจับหน้าของเธอ "โธ่ ลูกแม่ เจ้าดันเป็นลูกทูนหัวของเจ้าเทพโสดนั้นได้ไง?"
“เอ่อ...ท่านพูดนี่หมายความว่าไงหรือขอรับ เทพีเฮคาที”
“ท่านแม่จ๊ะ ต้องเรียกว่าท่านแม่” เฮคาทีใช้นิ้วจิ้มที่จมูกของโพรทาเลีย ทำเอาเธอถึงกับเหนื่อยใจกับผู้เป็นพ่อแม่ของอดีตชาติของตนเองจริงๆ
“เอ่อ...ท่านแม่...ที่ท่านพูดนั้นหมายความว่าไงหรือขอรับ?”
“ที่เฮคาทีพูดนั้นหมายถึงบนหัวของเจ้ามีตราของอะพอลโลอยู่นะ” เฮอร์มีสพูดอธิบายพร้อมกับชี้บนหัวของตนเอง
“ตราของอะพอลโล!?” โฟกัสกับโทมัสถึงกับตกใจทันที
“ว่าจังใด๋!!” โพรทาเลียถึงกับแปลกใจทันที “เดียวนะ ข้าไม่เคยให้อะพอลโลใส่ตรากับข้านะ”
“แต่บนหัวเจ้ามีนะ ลูกรัก” เฮคาทีกอดอีกฝ่ายพร้อมกับจ้องมองบนหัวเด็กน้อย “อยากเอาตราเฮงซวยนี่ออกจริงๆ”
“ห๊า!!” โพรทาเลียกลัวคำพูดของเทพีขึ้นมาทันที
“เฮคาทีทำลูกตกใจล่ะ”
“ตายล่ะ!” เทพีผลักโพรทาเลียเพื่อมอง “แม่ขอโทษนะจ๊ะ”
‘เทพีน่ากลัวจริง’ โพรทาเลียคิด
โฟกัสกำลังช่วยคิดว่าทำไมพี่สาวมีตราอะพอลโลได้จนคิดบางอย่างขึ้นมาได้ “อ๋อ!! หรือว่าตอนนั้นล่ะค่ะ! พี่”
“ตอนไหน?”
“ก็ก่อนออกจากสถานีตำรวจ อะพอลโลแตะหัวของพี่หนึ่งครั้งนะ”
“เอ๋?” โพรทาเลียนึกภาพเธอก็จำได้ว่าเทพองค์นั้นแตะหัวเธอ “ห๊า!! แล้วทำเพื่ออะไรกัน!!”
“ก็...คงเพื่อบ่งบอกบางอย่างล่ะมั้ง” เฮอร์มีสพูดออกมา “หมอนั้นคงรู้อะไรเขาเลยทำสัญลักษณ์ไว้อย่างเช่น...”
“เขารู้แล้วว่าอดีตชาติที่ข้ากำลังตามหานั้น...มีลูกของตนเองด้วย...”
“หือ!?” ทุกคนมองโพรทาเลียกันอย่างแปลกใจ
“อืมมม ตอนนี้มีสายเลือดเทพคนละ 4 ตน...” โพรทาเลียครุ่นคิดเธอใช้ความทรงจำทุกอย่างที่อยู่ในหัว
‘คำใบ้ คำใบ้...’
โพรทาเลียคิดจนกระทั่งภาพในหัวผุดขึ้นมา คำใบหน้าของตราสัญลักษณ์มากมายตามสิ่งต่างๆ ในความทรงจำทั้งอดีตของพวกสายเลือดและอดีตของเธอ ตราของเทพที่โดนแย่งออกจากกันแย่งออกเป็น 6 ตรา และตราที่ใหญ่ที่สุด ตรารูปสายฟ้า
“เทพทั้ง 13 องค์...สายเลือดที่ถูกแบ่งออก!”
“สายเลือดที่ถูกแบ่งออก...” โฟกัสมองพี่สาวอย่างสงสัย “พี่รู้แล้วเหรอ?”
“อืม!” โพรทาเลียพยักหน้า “เธอมีสายเลือด 4 ตนเหลืออีก 2 ส่วนฉันมีสายเลือด 4 ตน เหลืออีก 3 ตน แล้วหนึ่งในนั้นที่ฉันหายังไม่เจอคือสายเลือดของอะพอลโล แปลว่าอีกสองตน ก็อาจจะเป็น...สายเลือดของไดโอนีซุสและก็...ซุส!!”
“!!” ทุกคนได้ยินแบบนั้นก็นึกไม่ถึงจริงๆ
“นี่…ข้ามาฟังอะไรที่เหนือความคาดหมายจริงๆ สินะ” เฮคาทีฟังถึงกับอึ้งสุดๆ
“แล้วการรวบรวมสายเลือดเทพเพื่ออะไรกันนะ?” โทมัสเอ่ยถามขึ้น เขายังยื่นอยู่เฉยๆ
สองพี่น้องมองหน้ากันก่อนจะตอบพร้อมกัน “เพื่อต่อกรกับแซเทิร์นและปิดผนึกเขา!!”
เฮอร์มีสได้ยินแบบนั้นก็เครียดขึ้นมาทันที “แปลว่าจะเกิดสงครามอีกสินะ!”
“ก็...อาจจะเป็นแบบนั้นที่ไหนเมื่อไร เราไม่มีทางรู้นะคะ...”
เฮคาทีได้ยินเรื่องทั้งหมด ทำให้เธอคิดจะกลับบ้านของเธอดีกว่า “คงมีเรื่องอีกเยอะ งั้นข้าต้องกลับแล้วล่ะ”
“เฮคาที...”
“ข้าว่ายังไงเดียวก็ต้องมีคนบอกเทพตนอื่นๆ แน่ล่ะ อะพอลโลคงไม่ยอมปล่อยเฉย เมื่อครั้งก่อนที่เขาโดนลงโทษไปเป็นมนุษย์หน้าตาน่าเกลียดได้หรอกนะ!”
“มันก็จริง...”
“งั้นเราก็ทำตามหน้าที่ตัวเองไปจนกว่าซุสจะสั่งดีกว่า งั้นก็...”
เทพีหันมาหาโพรทาเลียพร้อมกับยื่นริมฝีปากไปแตะหน้าผากของเด็กน้อยเบาๆ ก่อนจะเกิดแสงสว่างขึ้นเป็นตราของเทพีประทับที่หน้าผากแล้วจางหายไป เฮอร์มีสเห็นก็ตกใจทันที
“เห้ย! เฮคาที”
เฮคาทีเดินหนีก่อนจะหันหลังกลับมาโบกมือให้โพรทาเลีย “งั้นแม่ไปก่อนนะ ลูกรัก”
โพรทาเลียเอามือแตะหน้าผากก่อนจะยิ้มแบบเขินๆ แล้วยกมือบอกลาอีกฝ่าย “เดินทางปลอดภัยเจ้าค่ะ ท่านแม่”
เฮคาทียิ้มให้ทั้งผู้เป็นลูกก่อนจะเดินออกมา ในหัวของเธอมีความคิดที่จะเตรียมตัวไว้สำหรับสงครามที่กำลังจะมา ถึงจะไม่รู้ที่ไหนเมื่อไร แต่เธอก็จะเตรียมพร้อมเพื่อสิ่งสำคัญของเธอ เฮอร์มีสเดินมาจ้องมองโพรทาเลียอย่างหงุดหงิด เพราะตรงหน้าผากอีกฝ่ายมีตราของเทพีตนนั้น ก่อนที่เขาจะใช้นิ้วแตะลงบนหน้าผากอีกฝ่ายแล้วประทับตราทับตราของเทพี
“เจ้าเป็นลูกทูนหัวข้าแล้วนะ โพรทาเลีย!!”
“อ๊ะ...เจ้าค่ะ...ท่าน...เฮอร์-”
เฮอร์มีสจ้องเธอเขม็งอย่างไม่พอใจที่เธอเรียกเขาแบบนั้น ก่อนที่โพรทาเลียจะทำหน้าเหวอแล้วพูดใหม่
“ท่าน...ท่านพ่อ...”
“ดี!” เฮอร์มีสยิ้มร่าทันที แถมยังพบไหล่ของโพรทาเลียซะเต็มที่อีก
“ดูเข้าๆ พ่อฉันรับสายเลือดโพไซดอนเป็นลูกทูนหัว ฉันเชื่อเลยว่าเทพองค์อื่นๆ ตรงมาด้วยแน่ๆ ”
“ขอล่ะ!! แค่นี้ก็วุ่นวายแล้ว!” สองแฝดพูดพร้อมกันด้วยสีหน้าเซ็งๆ
โพรทาเลียรู้สึกเพลียเลยถ้าคิดว่าเทพองค์อื่นๆ จะมาขอให้เธอหรือน้องสาวเป็นลูกทูนหัวกัน จนโพรทาเลียปวดหัวไปหมดจนโฟกัสให้พี่สาวพักอีกสักหน่อยอีก 2 ถึง 3 ชั่วโมง เวลาผ่านไปจนโพรทาเลียได้พักเต็มอิ่มมากๆ ตอนแรกพวกเธอจะทำงานต่อ แต่ว่าระยะเวลาของพวกเธอหมดแล้ว จากที่นับๆ พวกเธอได้ทำงานแค่ 4 วันเอง เพราะมีเรื่องเข้ามาตลอด เฮอร์มีสฝากคำพูดให้โทมัสบอกพวกเธอให้กลับค่ายไปซะ เพื่อความปลอดภัยของพวกเธอ จนต้องยอมทำตามไม่งั้นโดนเทศน์แน่ๆ โพรทาเลียเลยขอเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางกลับค่าย จู่ๆ เฮอร์มีสก็ขอเข้ามาคุยกับเธอในห้องที่เธอพักรักษาตัว
“ลูกข้า...”
โพรทาเลียได้ยินก็หันไปมองอย่างสงสัย “ท่านเฮอ...เอ๊ย...ท่านพ่อ...มีอะไรหรือเจ้าค่ะ?”
“พูดปกติก็ได้ ไม่ต้องใช้คำสมัยก่อนกับข้าก็ได้”
“อ๋อ...ค่ะ...แล้ว...”
“ข้าอยากถามนะ...เจ้าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครแน่หรือ? แล้วก็...มีแค่ข้ากับเฮคาทีแค่สองคนที่รู้เรื่องนี้สินะ”
“ถ้าสำหรับเทพก็มีอีกสองคือโครนอสกับเรอาที่รู้!”
“อ๋อ...แปลว่าโพไซดอนกับอาธีน่าไม่รู้สินะ”
“…” โพรทาเลียนิ่งเงียบไปในทันที “ฉันยังไม่พร้อมที่จะบอกพวกท่านเท่าไร...”
“กลัวเหตุการณ์ร้ายแรงสินะ”
“หึ...ท่านก็รู้นี่น่า...พวกท่านรักหลานจะตาย...ถ้ารู้สึกอดีตของฉันด้วย...พวกเขาคงจะโกรธน่าดู”
“ก็จริง...น้องเจ้าบอกหมดแล้วว่าอดีตของเจ้านั้นเจออะไรมั้ง”
“งั้นเหรอคะ...” โพรทาเลียถึงกับปลงกับทุกอย่างล่ะที่น้องสาวทำแล้ว
หมดเวลาเศร้ากับเรื่องที่น้องสาวเธอทำ ตอนนี้เธอแต่งตัวอะไรเสร็จแล้ว “ฉันกำลังจะกลับค่ายแล้วล่ะ?”
“งั้นเหรอ...”
ทั้งสองต่างมองหน้ากันและกันอย่างนิ่งเงียบ พวกทั้งสองไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกันต่อ จนเฮอร์มีสพูดบางอย่างขึ้นมา
“ถ้ามีเรื่องเดือดร้อน สามารถเรียกข้าได้เสมอนะ ขอความช่วยเหลือได้เสมอ เพราะตอนนี้ข้าเป็นพ่อทูนหัวเจ้าแล้วนะ”
“ค่ะ ถ้ามีเรื่องจริงๆ ฉันจะขอความช่วยเหลือค่ะ!”
เฮอร์มีสฉีกยิ้มด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน “อ๊ะ! นี่คือเอกสารที่บอกว่าพวกเจ้าผ่านการฝึกของข้า”
“จะดีเหรอคะ? พวกข้าทำงานได้แค่ไม่กี่วันเอง”
“ดีแล้ว เจ้าทำมากกว่าทำงานซะอีก เจ้าทำให้ข้ากับปรับความเข้าใจกับเฮคาทีด้วยซ้ำ”
“เอ๋? คงไม่กลับไปคบหากันนะคะ” โพรทาเลียพูดแซวออกไป
“พรวดดดดดดดดด!! ไม่มีทาง! ข้ากับนางไม่มีทางเด็ดขาด! นางเล่นเกลียดข้าซะขนาดนั้น!!”
“ฉันจะรอดู!” โพรทาเลียฉีกยิ้มอย่างชอบใจ
เฮอร์มีสเห็นรอยยิ้มอีกฝ่ายแบบนั้น ช่างเหมือนกับลักซ์สมัยก่อนไม่มีผิด ทำให้ไม่ถามเลยว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นลูกใคร
“เจ้านี่นะ ช่างสมกับเป็นลูกข้าจริงๆ” เฮอร์มีสยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนจะลืมของที่มืออีกอย่าง “จริงสิ! อ๊ะนี่...”
เขายื่นกล่องขนาดใหญ่ให้เธอ ทำให้เธอสงสัยว่าของข้างในคืออะไร “ข้างในคืออะไรนะคะ?”
“ลองเปิดดูสิ”
คิ้วของเธอขมวดคิ้วอย่างสงสัย ก่อนจะลองเปิดฝากล่องขึ้นมา โพรทาเลียได้ยินสิ่งของที่อยู่ข้างในคือ รองเท้าผ้าใบติดปีก
“นี่มัน...?”
“รองเท้าติดปีกเวอร์ชันรุ่นลิมิเต็ด”
“ลิมิเต็ด...ท่านพ่อ...ขอบคุณสำหรับของขวัญค่ะ” โพรทาเลียปิดกล่องก่อนจะดันเข้ากระเป๋าคาดเอวของเธอ แล้วมันก็หายเข้าไปข้างใน
“มีกระเป๋าดีนะ”
“ข้าสร้างเอง!” โพรทาเลียบอกกล่าว
“สมกับมีสายเลือดเฮเฟตัสติดตัวจริงๆ”
“หึๆ” โพรทาเลียยิ้มให้เฮอร์มีส เธอก็คิดบางอย่างได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขาไม่แปลกใจกันมั้งหรือ “ข้าถามบางอย่างหน่อยสิ?”
“เรื่องอะไรเหรอ?”
“ท่านไม่ตกใจเลยเหรอที่ข้าเป็นถึงหลานสาวโพไซดอน แล้วอดีตของข้าเป็นบุตรของท่านด้วยนะ”
“อ๋อ...ข้าก็แอบแปลกใจเล็กน้อย แต่ข้าก็เจอเรื่องอะไรแปลกๆ มาเยอะ แต่การได้เจอลูกบุญธรรมที่จริงๆ แล้วเป็นลูกชายมันช่างน่ามหัศจรรย์มากกว่า ข้าอยากขอโทษต่อเขาที่ข้าบางครั้งอาจจะเลี้ยงดูไม่ดีเท่าที่ควรแต่ข้าก็ดีใจที่ข้าได้เป็นพ่อเขา”
คำพูดของอีกฝ่ายทำให้น้ำตาของโพรทาเลียไหลออกมาจนเธอหันหน้าหนี เธอรับรู้ถึงความรู้สึกของลักซ์ที่กำลังเสียใจกับสิ่งที่เขาทำไป
“ดูเหมือนคำพูดข้าจะทำให้ใครสักคนบ่อน้ำตาแตกสินะ”
“พูดอะไรกัน...ไม่ใช่สักหน่อย...” โพรทาเลียเช็ดน้ำตาออกไปในทันที
“หึ”
เฮอร์มีสรับรู้ว่าลูกชายของเขาคงส่งความรู้สึกถึงตัวโพรทาเลียออกมา โพรทาเลียหลุดน้ำตาไหลไม่ได้จนกระทั่งได้ยินเสียงของลักซ์ออกมาจากข้างใน
‘ข้าก็ขอโทษ...ที่ทำแบบนั้นลงไป...และข้าก็ดีใจที่ได้เป็นลูกของท่าน...ท่านพ่อ...’
โพรทาเลียได้ยินคำพูดของลักซ์ เธอเช็ดน้ำตาไปให้หมดก่อนจะหันไปหาเฮอร์มี “ลักซ์เขาฝากบอกกับท่าน...เขาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็...เขาดีใจที่ได้เป็นลูกของท่าน”
“อ๊ะ...” เฮอร์มีสได้ยินแบบนั้น ข้างในของเขานั้นรู้สึกปั่นป่วนไปหมด แต่ก็หายใจเข้าหายออกอย่างใจเย็น แล้วจ้องมองเด็กสาวตรงหน้า “เจ้าไม่เคยเกลียดข้าสินะ...ข้าดีใจที่เจ้าพูดแบบนั้น...ลูกรัก...”
คำพูดของคนเป็นพ่อเข้าไปในใจของคนเป็นลูกเป็นอย่างมาก ถึงโพรทาเลียจะไม่ใช่ลูก แต่ก็ซึ้งกับคำพูดอีกฝ่าย พอเตรียมตัวอะไรเสร็จโพรทาเลียก็ลงข้างล่างเพื่อออกเดินทาง โฟกัสก็รอพี่สาวอยู่ข้างล่างอย่างตื่นเต้น พอเห็นพี่สาวลงมาแล้วก็เตรียมตัวพร้อมสุดๆ
“จะไปเลยไหมคะ พี่!!”
“อืม ไปกันเลย”
“จะไปกันแล้วเหรอ? ข้างนอกกำลังจะมืดแล้วนะ!” โทมัสเอ่ยถามขึ้น
“เอ๋!!” สองสาวมองข้างนอกผ่านหน้าต่าง ท้องฟ้าเป็นสีส้มและก็พระอาทิตย์กำลังตกลง
“แบบนี้ได้ออกไปเจอพวกอสูรเยอะแน่ๆ แหะ...คงต้องพักที่นี่อีกคืน”
โฟกัสจ้องมองอย่างครุ่นคิด แล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “หนูขอเสนอค่ะ เราไปค้างที่ที่หนึ่งกัน!”
“ที่ไหนเหรอ?”
“บ้านคุณย่าไง บ้านนั้นดีที่สุดแล้วนี่นา”
“จะดีเหรอ? เราไปรบกวนท่านอีกนะ?”
“ไม่หรอก หนูว่าคุณย่าคงดีใจที่เรากลับไปอีกนะ!!”
“เอางั้นก็ได้ ของก็ครบแล้ว งั้นไปบอกลาทุกคนก่อนกลับละกัน”
“โอเค!!”
“ดูเหมือนพวกเจ้าจะตัดสินใจได้แล้วนะ” เฮอร์มีสเดินลงมาจากชั้นสองมองทั้งสองคน
ทั้งสองคนมองหน้าก่อนจะหันไปตอบอีกฝ่าย “ค่ะ!”
พวกเธอบอกกล่าวลากับเฮอร์มีสและพี่โทมัส เฮอร์มีสรู้สึกเศร้าที่โพรทาเลียต้องกลับค่าย แต่เขาก็บอกว่าจะไปเยี่ยมเป็นบางครั้ง จนโทมัสแซวคนเป็นพ่อว่าพอเป็นลูกๆ ตัวเองกลับไม่เคยมาเยี่ยม ทำเอาเฮอร์มีสถึงกับเขินเลยที่โดนลูกชายแซวแบบนั้น สองสาวต่างขำกัน พอบอกลาเสร็จพวกเธอก็ออกจากโอลิมปัส พาร์เซล เซอร์วิส แล้วตรงดิ่งไปยังร้านบลูเมอร์เมดที่อยู่ไม่ห่างกี่กิโล พอมาถึงร้านกำลังจะปิด พนักงานชายคนหนึ่งกำลังจะเก็บร่าง เขารู้สึกถึงเงาของใครบางคนก่อนจะพูดบางอย่างออกไปโดยไม่ได้มองพวกเธอ
“ขอโทษครับร้านจะปิดแล้ว...”
สองสาวต่างมองหน้ากันก่อนจะพูดบางอย่างออกไป “เรามาหาคุณย่าแซลลี่นะ!”
พนักงานชายได้ยินน้ำเสียงที่คุณเคยก็หันไปมองทันที “ตายล่ะ! คุณหนูทั้งสองไม่เจอกันตั้งหลายวัน ผมนึกว่าทั้งสองกลับไปลองไอส์แลนด์แล้วซะอีก”
“โทษทีนะ เรามีธุระจึงอยู่ที่นี่นานหน่อยนะ แล้วคุณย่าล่ะ?”
“เมื่อกี้นายหญิงขึ้นไปข้างบนพร้อมกับคุณหนูเอสเทลแล้วนะขอรับ”
“โอเค เราขอเข้าไปนะ”
“เชิญเลยขอรับ!”
สองสาวต่างรีบพากันเข้าไปข้างในแล้วเดินขึ้นข้างบนไป พวกเธอหยิบกุญแจที่ย่าแซลลี่ให้พวกเธอไว้ แล้วเปิดประตูเข้าไปในทันที โพรทาเลียก็ตะโกนเข้าไปข้างในทันที
“คุณย่าค่ะ!! โพรทาเลียกับโฟกัสค่ะ!”
แซลลี่ได้ยินเสียงหลานๆ ก็อึ้งไปเลยที่หลานกลับมาหา “สองสาวของย่า เข้ามาข้างในเลยจ้ะ ย่าอยู่ห้องครัว”
“คุณย่าค่ะ พวกหนูขอค้างก่อนกลับค่ายนะคะ” โพรทาเลียกำลังเดินเข้ามาข้างในห้องโถง
“เชิญเลยจ้ะ ดีเลยมีคนอยากเจอหลานๆ พอดี” แซลลี่เห็นโพรทาเลียเข้ามาก็ยิ้มให้ทันที
“ใครเหรอคะ?” โพรทาเลียมองย่าอย่างสงสัยว่าใครอยากเจอพวกเธอ
โฟกัสเดินตามเข้ามา เธอมองย่าก่อนจะหันไปมองทางห้องนั่งเล่น สีหน้าของเธอกับซีดเผือดในทันที เธอยกมือขึ้นมากระตุกชายเสื้อของพี่สาวอย่างช้าๆ
“พี่! พวกเราซวยแล้ว!”
“อะไรเหรอ?”
โพรทาเลียยกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยหันไปมองน้องสาวที่มองไปยังห้องนั่งเล่น สายตาเธอก็หันมองตามก็เจอกับบุคคลที่พวกเธอนั้นไม่อยากเจอสุดๆ นั้นก็คือพ่อของพวกเธอที่มารออยู่ที่นี้ตั้ง 4 วันแล้ว
“ไง ลูกรัก!” เพอร์ซีย์จ้องมองเหมือนสิงโตรอเหยื่อพร้อมกับรอยยิ้มอันน่ากลัว
สองสาวต่างทำหน้าเหวอทันที “พ่อ!!”
จบตอนที่ 56 โปรดติดตามตอนที่ 57 ต่อไป