ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?

เนื้อหา

ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน

ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน

เพอร์ซีย์ต้องเล่ารายละเอียดทุกอย่างตั้งแต่ต้นเรื่องจนถึงตอนที่พวกปีศาจบุกมาที่ค่ายของทั้งสองค่าย การที่เขายอมเล่าเรื่องทั้งหมดเพื่อให้พวกทวยเทพรับรู้ว่าเทพอย่างแซเทิร์นสร้างเรื่องอะไรไว้ให้และเทพองค์นั้นกล้าทำแบบนี้กับลูกที่เขามากขนาดนี้ได้อย่างไร เมื่อเขาเล่าจนจบเสียงภายในห้องโถงก็เงียบไปหมดเหมือนพวกเขาตั้งใจฟังจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา เทพบางตนต่างครุ่นคิดว่าเกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้เกิดกับสายเลือดพวกเขาล่ะก็ คงโกรธเหมือนกันแน่ๆ แต่ซุสสั่งห้ามให้เทพยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์กึ่งเทพที่เป็นสายเลือดของตน แต่ก็มีบางคนยุ่งตลอด ระหว่างที่ทุกคนกำลังคิดอยู่นั้นเทพีอาธีน่าเก็บงำความรู้สึกไม่อยู่จนแสดงออกมา

 

“เลวทรามที่สุด!!” อาธีน่าสบถออกมาพร้อมกับใช้มือทุบลงบนบัลลังก์ของตน

“อาธีน่า...สงบอารมณ์หน่อย” เฮร่ากล่าวตักเตือนขึ้น

“ขอประทานอภัย เทพีเฮร่า” อาธีน่าตั้งสติแล้วหันไปขอโทษถึงสิ่งที่ตนกระทำ

นางเป็นคนที่ไม่แสดงอารมณ์ความโกรธออกมาง่ายๆ แต่พอรู้เรื่องที่หลานๆ ของตนเจอเรื่องอันเลวร้ายกว่าที่ลูกของตนเคยเจอ ความโกรธทุกอย่างมันก็ปะทุออกมา เฮร่าพอเข้าใจความรู้สึกแบบนั้น แล้วหันไปหาเพอร์ซีย์เพื่อคุยต่อ

“เอาล่ะ บุตรโพไซดอน ขอบคุณที่เล่าสิ่งที่เป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมด นั้นทำให้เรารู้ปัญหาที่เจ้าจะมาบอก” 

“ขออภัยเทพีเฮร่า ปัญหาของผมไม่ใช่เรื่องที่เล่าไป ถ้าเป็นปัญหานั้น ผมคงไม่ท้อมาถึงนี้หรอกนะ!” 

“เพอร์ซีย์!” แอนนาเบ็ธใช้แขนชนหลังอีกฝ่าย “ให้ความเคารพเหล่าเทพด้วย”

“น่าเคารพ? ถ้าพวกเขาไม่พูดแทรก เราก็เข้าเรื่องไปแล้ว!” เพอร์ซีย์ไม่สบอารมณ์ที่เหล่าเทพเอาแต่พูดกันเองโดยไม่ฟังปัญหาที่เขาต้องการจะมาบอก "ที่ผมมาครั้งนี้มันเป็นเรื่องซีเรียสมากๆ ผมต้องการให้พวกท่านช่วยเหลือลูกสาวของผมก็เท่านั้น!"

สิ้นคำพูดของเพอร์ซีย์ทำให้เทพสององค์ที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาถึงกับตาตื่นกันอย่างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลานๆ ของตน

“เกิดอะไรขึ้นกับเด็กๆ บุตรโพไซดอน!” สีหน้าอาธีน่ารู้สึกตกใจกับคำพูดของอีกฝ่าย

“จริงด้วย! เพอร์ซีย์ เกิดอะไรขึ้นกับหลานๆ กัน!?” โพไซดอนพูดเสริมขึ้น

เขาจำได้ว่าเด็กๆ ปลอดภัยตามที่อีกฝ่ายพูด แต่ต้องมาคิดหลังจากปีศาจบุกค่าย ว่าพวกเขาเป็นอะไรหรือเปล่า

“จงใจเย็นๆ ก่อนทั้งสองคน” เฮร่าหันไปห้ามให้สองเทพแสดงอารมณ์มากเกินไป ก็นั่งไปจ้องมองเพอร์ซีย์อีกครั้ง "แล้วเจ้าต้องการให้เราช่วยยังไง? บุตรโพไซดอน"

“มอบพลังของพวกท่านให้เด็กทั้งสอง!!”

“ว่าไงนะ!!” ทวยเทพต่างอุทานกันออกมาอย่างดัง

“พลังของพวกเราเนี่ยนะ! จะบ้าหรือไง!?” แอรีสกล่าวขึ้นด้วยความสับสน

“จริงของแอรีส!! พลังของพวกเราเป็นพลังอำนาจที่เหนือว่าที่มนุษย์กึ่งเทพจะครอบครอง ถึงแม้มนุษย์กึ่งเทพจะพลังของพ่อแม่แค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น” 

“จริงของอาร์เทมีส~” อะพอลโลพูดขึ้น เขาตอนนั่งในท่าที่สบายเกินกว่าที่จะแสดงท่าทางแบบนั้น "แต่ว่าพลังของเด็กบางคนก็คงขึ้นกับชาติกำเนิดของพวกเขา เพราะเด็กสองคนนี้มีสายเลือดของเทพตั้งสองอยู่แล้ว จะมีอีกสัก 4 ถึง 5 พลังก็ได้ไม่ใช่เหรอ?"

คำพูดของอะพอลโลไปกระตุกต่อมบางอย่างก็พวกเทพ ทำให้เทพบางตนสงสัยในสิ่งที่อีกฝ่ายเห็นในอนาคตอย่างมาก เพราะอะพอลโลจะไม่พูดอะไรที่เขารู้ก่อนล่วงหน้าให้พวกเขาฟังแน่ๆ

“เจ้ารู้อะไรกัน? อะพอลโล” อาร์เทมีสถามผู้เป็นพี่ชายของตนด้วยสายตาอันจิกกัดอีกฝ่าย

“เปล่านี่~ ถ้าอยากรู้ข้าว่าถามบุตรโพไซดอนน่าจะดีกว่านะ”

 

ทุกคนต่างหันไปมองเพอร์ซีย์ ทำให้เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจที่อะพอลโลทิ้งระเบิดลูกใหญ่ใส่เขา เหมือนตอนนี้เข้าอยู่ในสงครามเย็นที่จ้องมองกันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเขา แต่การเงยหน้ามองเทพที่เอาแต่นั่งอยู่บนบัลลังก์ก็ทำให้เขาปวดคอมากๆ ในตอนนี้

 

“อะพอลโลกล่าวแบบนั้น เจ้ามีความเห็นอย่างไร บุตรโพไซดอน” เฮร่าเอ่ยถามออกไป “จริงหรือไหม? ว่าสายเลือดของเจ้านั้นมีพลังเทพมากกว่า 2 จริงๆ” 

“ใช่ ขอรับ!” 

“บ้าไปแล้ว!”

“มนุษย์กึ่งเทพที่ไหนจะมีพลังมากกว่าสายเลือดที่ถูกถ่ายทอดกัน!”

“เจ้ารู้หรือไหมว่าทำไมสายเลือดของเจ้าถึงมีพลังเทพมากกว่า 2 กัน!?” 

“พวกท่านเชื่อเรื่องอดีตชาติไหม?” เพอร์ซีย์ถามพวกทวยเทพด้วยคำถามที่พวกเขาไม่คาดคิด

“อดีตชาติ...พูดยากนะ สำหรับเหล่าเทพ...มันก็จะมีสักครั้งที่มีคนที่รู้จักกลับมาเกิดใหม่ แต่จำเราไม่ได้...” 

“แล้วอดีตชาติที่ว่านี่...มาในรูปแบบดวงวิญญาณที่ติดตามดวงวิญญาณดวงใหม่มาด้วยล่ะ?” เพอร์ซีย์ตั้งคำถามที่เป็นปริศนาเพิ่มอีกครั้ง

“เจ้าหมายความว่าไงกัน? บุตรโพไซดอน” 

“ผมขอไม่กล่าวอะไรเพิ่ม ขอแค่พวกท่านโปรดเรียกเทพโครนอสมาอธิบายต่อ...หลังจากนี้พวกท่านจะได้รับรู้ว่าที่ผมกล่าวหมายความว่าอะไร”

เกิดเสียงซุบซิบเกิดขึ้นภายในห้องโถงแห่งนี้ ซุสได้ยินถึงชื่อบิดาของตนก็ทำให้เขาไม่ชอบใจจนต้องกล่าวบางอย่างขึ้น

“ข้า-”

“นั้นต้องเรียกท่านผู้นั้นมา!” เฮร่าพูดแทรกขึ้นมาทันที

“จะบ้าหรือไง เฮร่า!!” ซุสหันหน้ามองภรรยาของตนด้วยความรู้สึกไม่พอใจ “เจ้าจะให้คนที่เราไม่รู้หน้าไม่รู้ใจอย่างเทพองค์นั้นเข้ามายังเขาโอลิมปัสเนี่ยนะ!!”

“ข้ารู้ว่าท่านยังกังวลเรื่องในสิ่งที่มันเคยเกิดขึ้น แต่ยังไงตอนนี้เราก็ต้องช่วยมนุษย์กึ่งเทพที่มาร้องขอจากเรา...” สิ่งบางอย่างสะกิดใจของนางถึงได้ยอมทำแบบนี้ “แต่ถ้าท่านกลัวว่าเขาจะสร้างเรื่อง ท่านก็เชิญท่านผู้นั้นมาแค่ภาพด้วยอุปกรณ์ของเฮเฟตัสก็ได้ไม่ใช่หรือไง?” 

“!?” 

ทุกคนต่างมองซุสกันอย่างหน้านิ่งโดยไม่พูดอะไร แต่ใบหน้าขอซุสกับขึ้นสีอย่างอับอายหน่อยๆ ก่อนจะพูดขึ้น

“อะแฮ่ม!! เฮเฟตัส!” 

“รับทราบ!”

เฮเฟตัสหยิบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเขาขึ้นมา กดบางอย่างที่หน้าจอและแล้วภาพของโครนอสก็โผล่ขึ้นมาโดยที่โครนอสกำลังจ้องมองสิ่งบางอย่างที่กำลังลอยอยู่เหนือเขาอย่างสนใจ

“นี่คืออุปกรณ์ของเฮเฟตัสสินะ ช่างมหัศจรรย์จริงๆ” 

“เทพโครนอส!”

เฮร่าเอ่ยเรียกอีกฝ่ายที่น่าจะมองพวกเขาผ่านภาพโฮโลแกรมของเฮเฟตัสเช่นกัน โครนอสได้ยินเสียงลูกสาวก็ยิ้มขึ้นมาทันที พร้อมกับมองใบหน้าของทุกคน

“แหมๆ ได้เห็นพวกเจ้าอยู่กันพร้อมหน้าดีจริงๆ เลยนะ” 

“เลิกพูดดีกว่านะ!” ซุสขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจที่เห็นอีกฝ่ายกำลังยิ้มหน้าระรื่น

“โอ้ๆ ซุส ดูสีหน้าเจ้าสิ...คงโกรธและเกลียดข้ามาสินะ ข้าเข้าใจดี ข้าไม่ได้เป็นคนทำสิ่งต่างๆ ก็ตามที แต่ใครจะไว้ใจคนที่อยู่ๆ ก็โผล่มาล่ะเนอะ” 

“ถ้ารู้ก็รีบๆ บอกสิ่งที่ควรบอกแล้วกลับไปอยู่ที่ที่ท่านอยู่!!” 

“ซุส...คุณค่ะ...” เรอามองลูกชายมองผู้เป็นพ่ออย่างไม่ชอบใจ

“เฮ้อ...ก็ได้ๆ” โครนอสเดินไปหาเด็กน้อยทั้งสองที่ยังแอบอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่และลูกสาวของตน “ธิดาอาธีน่า ลูกข้า จงพาเด็กทั้งสองออกมา” 

“ค่ะ!”

ทั้งสองคนต่างรับคำสั่งพร้อมกับเดินออกไปข้าง จนเหล่าเทพเห็นบางอย่างที่พวกเขากำลังอุ้มนั้นเป็นเด็กตัวน้อยสองคนที่มีสีผมต่างกัน อาธีน่ากับโพไซดอนเห็นก็นึกออกเลยว่าเด็กทั้งสองเป็นใคร

“เดียวนะ นั้นมัน!” 

“โพรทาเลียกับโฟกัสไม่ใช่เหรอ?” 

“ถูกต้อง! อาธีน่า โพไซดอน” โครนอสกล่าวออกมา “เอาล่ะ เหล่าเทพทั้งหลายเอ่ยถึงเวลาช่วยเด็กทั้งสองกันแล้วล่ะ!” 

เทพแต่ละองค์กำลังตั้งใจดูว่าพวกเขาจะต้องอะไรกันมั้ง แต่สายตาของเทพบางองค์หันไปมองหญิงสาวที่มีใบหน้าสละสลวยกับผมยาวสีฟ้าจนไม่ได้สนใจคำพูดของโครนอสเลยสักนิด จนโครนอสเห็นจึงเดินมาอยู่ตรงหน้าของพวกเทพเหล่านั้น

“นี่ๆ ข้าพูดอะไรโปรดฟังกันหน่อยสิ! ไม่ใช่จ้องลูกสาวข้าอย่างเดียวนะ!!” 

“ลูกสาว!!” พวกเทพหนุ่มต่างมองกันอย่างเหงื่อตก

"ใช่สาวผมฟ้าคนนั้น!! ลูกสาวข้าอย่าแตะเป็นอันขาด!!"

โครนอสปล่อยคำขู่ใส่เทพที่จ้องลูกสาวของเขา เพราะเขาไม่อยากให้เทพมาวุ่นกับลูกเขาแน่ๆ

"เอาล่ะ!! มาเข้าเรื่องกัน! เด็กทั้งสองกลายเป็นเด็กเนื่องจากพลังที่หายไป เพราะช่วยกำจัดพวกปีศาจออกจากค่ายจูปิเตอร์จนหมดไป! ร่างกายเหลือเพียงพลังอันน้อยนิดจึงต้องการพลังใหม่มาทดแทนอันที่หายไป!!"

“แล้วพลังที่หายไปคือพลังเทพสินะ” ไดโอนีซุสพูดขึ้นหลังจากที่ตนเองเงียบมานาน

“ใช่ แต่พลังเทพนั้นไม่ใช่ใส่ได้ส่งๆ ต้องเป็นพลังของอดีตพ่อแม่ล่ะนะ” 

“อดีตพ่อแม่?” 

“ใช่ เพราะเด็กทั้งสองนั้นมีอดีตชาติเป็น...” 

โครนอสเดินไปหาเด็กๆ ที่พวกเพอร์ซีย์กำลังอุ้มอยู่ มืออันใหญ่โตกว่าใบหน้าของพวกเพอร์ซีย์กำลังยื่นให้ไปอยู่ตรงหน้าเด็กๆ เขาตวัดมือไปด้านหลังพร้อมกับแสงประกายทำให้เกิดจนทำให้เกิดตราสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงสายเลือดของทั้งสองคน

“ลูกของพวกเจ้าไงล่ะ!!”

“!!”

 

ภาพตรงหน้าทำให้พวกเทพต่างอ้ำอึ้งกันไปเลย เมื่อเห็นตราสัญลักษณ์ของตนออกมาจากเด็กทั้งสอง ด้านซ้ายออกมาจากตัวโพรทาเลียมีตั้งแต่ตราของโพไซดอน ดิมีเทอร์ เฮเฟตัสและเฮอร์มีส ส่วนทางด้านขวาออกมาจากตัวโฟกัสก็มีตราของเฮร่า อาธีน่า อะโฟร์ไดต์ และอาร์เทมีส ที่หมุนไปๆ รอบจนเรียงกันเป็นสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด นอกจากตราที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงสิ่งอยู่ภายในตรานั้นเลือนราง แต่เห็นเด่นชัดคือเจ้าของตราพวกนั้น สายเลือดของพวกเขา

 

“รัล!”

ดิมีเทอร์เห็นภาพของบุตรของตน ทำให้ความรู้สึกบางอย่างกำลังทะลักออกมา ผู้เป็นลูกอย่างเพอร์ซีโฟนี่ได้ยินน้ำเสียงของผู้เป็นแม่ เธอเงยหน้าเห็นร่างของคนที่เธอไม่คิดว่าจะเจอกันอีก

“น้องพี่...”

“เซเรน่า...”

น้ำเสียงของเฮเฟตัสถึงกับสั่นเครือที่เห็นลูกสาวของตนอีกครั้ง แต่อะโฟร์ไดต์เห็นลูกสาวที่ตนเกลียดอีกครั้ง ทำใหเธอโกรธเคืองกว่าเดิม

“ดาเฟ่...ธิดาของข้า...” อาธีน่าไม่คิดว่าได้เห็นธิดาที่จากมานานเป็นพันปีอีกครั้ง

“เฮเลน...” เฮร่ามองอย่างอ้ำอึ้ง ธิดาที่ตนรักมากๆ มาอยู่ตรงหน้าของตนอีกครั้ง

อาร์เทมีสไม่กล่าวอะไรออกมา เธอไม่อยากนึกเลยว่าการเจอคนที่ตายจากไปกลับมาอยู่ตรงหน้ามันทรมานแค่ไหน ยิ่งเป็นเด็กสาวที่ตนไม่เคยเรียกว่าลูกสักครั้ง ซุสเห็นภาพตรงหน้า ทำเอาเขาไม่เคยคิดว่าจะได้เจอเหตุการณ์เหนือโชคชะตาแบบนี้

“พวกเขา...ยังมีชีวิตยังงั้นหรือ!? พระบิดา” ดิมีเทอร์กล่าวถามอย่างสับสนไปหมด

“ไม่เชิง...พวกเขาตอนนี้เป็นแค่ดวงจิตที่ถูกแย่งออกจากดวงจิตหลักที่ตายจากไป เพื่อถูกส่งมาเกิดเป็นแหล่งพลังให้เด็กทั้งสอง แต่ความทรงจำของพวกเขาก็ถูกส่งต่อให้เด็กทั้งสองอยู่เหมือนกัน” 

“พวกเขาขยับไม่ได้งั้นหรือ?” เฮร่าถาม

“ไม่...ถ้าร่างต้นไม่มีการขยับ พวกเขาก็ไม่ตื่นเช่นกัน เพราะไม่มีพลังไปหล่อเลี้ยงพวกเขา” 

เทพบางตนได้ยินแบบนั้นก็ลุกขึ้นยืนขึ้นมีตั้งแต่ โพไซดอน เฮอร์มีส เฮเฟตัส อาธีน่า เฮร่า และดีมิเธอร์ พวกเขาต่างจ้องมองไปที่ตราสัญลักษณ์ของตนเองกัน แล้วหันกลับมามองโครนอส

“เราจะต้องทำยังไงถึงจะส่งพลังให้เด็กๆ ได้กัน?” 

“พวกเจ้า!!” แอรีสต่างลุกขึ้นเมื่อเห็นเทพที่ใจอ่อนยอมมอบพลังของตนให้เด็กสองคน “อย่าทำอะไรบ้าๆ กันสิเฟ้ย!! ถ้าการให้พลังนั้นทำให้พวกมันมีอำนาจกว่าเราจะเกิดอะไรขึ้น!! จริงไหม? ท่านพ่อ” 

ซุสรับฟังลูกชายของตน เขาก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น “จริงของแอรีส ว่า-” 

“หุบปาก!!”

“เอ๋!!” ซุสสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงภรรยาของตนพูดคำสบถแบบนั้นออกมา “เฮร่า...เจ้า...” 

“ถ้าเห็นแก่ลูกเรา!! ซุส จงเงียบปากของท่านซะ!!” เฮร่าเดินมาประจันหน้ากับสามี ทำเอาซุสสั่นกลัวเล็กน้อย

“ข้า....จะเงียบปากของตนจ๊ะ...”

“ดี!” เฮร่ากลับมายิ้มปกติแล้วเดินกลับไปดูเด็กๆ

พวกเทพต่างโล่งใจ นึกว่าซุสจะทำให้เฮร่าเดือดซะแล้ว เพราะเมื่อเฮร่าเดือดไม่มีใครหยุดนางได้แน่ๆ

“ช่างเป็นเวลาที่หรรษาจริงๆ นะ” โครนอสกล่าวอย่างชอบใจ

“ผมว่ามันคนละความหมายเลยนะ...” เพอร์ซีย์พูดเสริมขึ้น

“เหรอ เอาล่ะๆ มาช่วยลูกของพวกเราดีว่านะ! แจ็กสัน!” 

“ครับ! ขอความกรุณาด้วย!” 

 

ดวงตาอันเปี่ยมไปด้วยความหวังของเพอร์ซีย์กำลังปะทุขึ้น เขาอยากให้ลูกๆ ฟื้นไวๆ เขาขออลิซ่าเบ็ธเป็นคนอุ้มโพรทาเลียต่อ โครนอสจัดแจงเทพหลักที่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดมากที่สุดเป็นคนมองพลังเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ให้เด็กทั้งสอง ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์จะให้เทพที่เกี่ยวข้องทางสายเลือดเช่นพ่อหรือแม่มอบพลังให้ด้วยเช่นกัน เทพทุกองค์ยอมที่ทำการมอบพลังของตนส่งไปยังตราสัญลักษณ์ที่มีลูกๆ ของตนลอยอยู่ประจำตรา ปริมาตรพลังพวกนั้นเล็กเท่าลูกบอลของมนุษย์ แต่ก็ทำให้พวกเด็กทั้งสองคนค่อยๆ มีชีวิตชีวามากขึ้น เหลือแค่เทพที่ต้องให้พลัง 20 เปอร์เซ็นต์ เทพทางฝั่งของโฟกัสต่างยอมส่งพลังให้ง่ายๆ เมื่อพลังถูกส่งครบตราทั้งหมดก็พุ่งตรงไปหาโฟกัสแสงสว่างรอบๆ ตัวเธอก็เปล่งประกายขึ้นมา แอนนาเบ็ธแสบตาเล็กน้อย แต่เมื่อมองลูกสาวของเธอ ดวงตาค่อยๆ ขยับไปมา ก่อนที่เปลือกตาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ดวงตาสีเทาจับจ้องผู้เป็นแม่อยู่ตรงหน้า

 

“แม่...เหรอคะ...?” 

“โฟกัส! ลูกแม่...ลูกฟื้นแล้ว!” แอนนาเบ็ธกอดลูกสาวอย่างคลายกังวล

 

เพอร์ซีย์ดีใจที่ลูกสาวอีกคนฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่ยังเหลือทางเขาที่ยังเหลืออีกตราหนึ่งที่เป็นตราของเฮเฟตัสที่เทพรองนั้นก็คือ อะโฟร์ไดต์ ที่ไม่ชอบใจที่ต้องส่งพลังให้แก่เด็กที่เธอเหมือนจะรังเกียจมากๆ จนเฮเฟตัสเคืองกับพฤติกรรมของนางจึงต้องออกมาพูดกับนาง

 

“อะโฟร์ไดต์! เลิกเล่นตัวสักที!” 

“ทำไม!! ข้าจะไม่ส่งพลังให้เด็กนั้นแน่ๆ ไม่มีวันซะหรอก!” อะโฟร์ไดต์กอดอกไม่สนใจสามีของตน

“เจ้ามัน…!!” เฮเฟตัสบีบมือของตนจนเลือดไหล

เพอร์ซีย์มองอย่างสงสัยจนหันไปหาพ่อของตนที่อยู่ข้างๆ เนื่องจากหดร่างจนตัวเท่าเขา

“เทพทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน แต่ไม่เคยเข้ากันได้สักทีนะ” 

“แน่อยู่แล้ว...แต่ที่ทะเลาะกัน คงเพราะธิดาของพวกเขา” 

“อดีตชาติของลูกผม เขาทำไม?” 

“นางโดนอะโฟร์ไดต์ส่งให้ไปตายนะ...เฮเฟตัสเลยโกรธและเกลียดอะโฟร์ไดต์มากๆ จนแกล้งนางได้ตลอดนั้นล่ะ” 

“แบบนี้เอง วุ่นวายจริงๆ” เพอร์ซีย์มองเทพทั้งสองทะเลาะกันจนเฮเฟตัสยั่วยุเทพี

“เจ้าคงกลัวสิถ้านางฟื้นขึ้นมานะ!!”

“ข้าเนี่ยนะ กลัว!” 

“ใช่! ไม่งั้นเจ้าก็ช่วยยัยหนู แล้วก็ไสหัวออกจากที่นี้ไปแล้วนะสิ!! ไม่สิ!! คงกลัวนางสวยกว่าเจ้าอีกล่ะสิ!” 

“เจ้า!!” อะโฟร์ไดต์โกรธเคืองอีกฝ่ายที่พูดแบบนั้นขึ้นมา “ข้างดงามว่าใครๆ บนโลกนี้ ไม่มีใครจะสวยกว่าข้า!! ได้!! แค่ส่งพลังใช่ไหมล่ะ!?”

 

นางรีบยกมือขึ้นพร้อมกับส่งพลังอันเล็กน้อยของตนไปยังตราสัญลักษณ์ของเฮเฟตัส เมื่อพลังครบกันหมดเป็นที่เรียบร้อยตราทั้งหมดพุ่งตรงไปหาโพรทาเลียทันที ร่างกายอันเล็กจ๋อยเปล่งประกายออกมา เพอร์ซีย์ใจจดใจจ่อว่าลูกสาวของตนจะฟื้นขึ้นมาแล้วยิ้มให้เขาไหม แต่ทางด้านโฟกัสมีความแปลกไปเมื่อเธอมองรอบๆ ก็สงสัยว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่ห้องนอนเหรอ

 

“แม่ค่ะ...เราอยู่ไหน? เมื่อกี้แม่พึ่งเล่านิทานให้หนูฟังเองไม่ใช่เหรอคะ?” 

แอนนาเบ็ธฟังที่ลูกสาวพูดก็งุนงงว่าลูกพูดนั้นหมายความว่าอะไร

“โฟกัสเมซ่า ลูกหมายความว่าไงกัน? ลูกพึ่งฟื้นจากการต่อสู้กับพวกปีศาจไม่ใช่เหรอ?” 

“แม่พูดอะไรนะ? หนูพึ่ง 6 ขวบนะ แล้วโลกเราจะมีพวกปีศาจได้ไง?” 

“ว่าไงนะ!?” 

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!”

“!!”

 

เสียงเพอร์ซีย์ร้องดังลั่นไปทั้งห้องโถงใหญ่จนทุกคนตรงนั้นแล้วหันไปมองสิ่งที่เห็นคือเลือดที่ไหลอาบแขนของเพอร์ซีย์ เขาตกใจที่จู่ๆ ลูกสาวกัดเข้าที่แขนเข้าอย่างรุนแรงจนมันเจ็บไปทั้งแขน แต่สิ่งที่ประหลาดใจที่ร่างของโพรทาเลียกลายเป็นสีดำทมิฬ เล็บที่จิกแขนเพอร์ซีย์ก็ยิ่งไหลมากขึ้น แอนนาเบ็ธรีบวิ่งมาดูก็ตกใจกับสิ่งที่เห็น เธอไม่ให้โฟกัสเห็นภาพนี้จึงฝ่ายโฟกัสไว้กับอลิซ่าเบ็ธ แต่อลิซ่าเบ็ธกับอึ้งกับรูปลักษณ์ของโพรทาเลียจนเธอจำคำของเด็กได้

 

‘ร่างอันดำทมิฬ...เหมือนปีศาจ...หนูกลายเป็นปีศาจชั่วขณะ...’

 

“ไม่จริง...ช่วงเวลานั้น...”

 

จบตอนที่ 67 โปรดติดตามตอนที่ 68 ต่อไป