ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?

เนื้อหา

ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน

ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน

ตกเย็นท้องฟ้าข้างนอกเริ่มมืดลงจนโดยรอบนั้นเริ่มมีแสงสว่างจากทางเดินที่มีหลอดไฟตามทาง แอนนาเบ็ธลงไปส่งผู้เป็นพ่อของเธอที่ป้ายรถเมลที่อยู่ใกล้ ๆ ส่วนเด็ก ๆ บ้านแจ็กสันก็ช่วยพากันจัดห้องนั่งเล่นนำโซฟา โต๊ะเล่น ชั้นต่าง ๆ ให้ห้องนั่งเล่นหลบไปไว้โซนห้องเก็บของของคนเป็นย่า แต่ระหว่างเก็บของมีทะเลาะกันเล็ก ๆ น้อย ๆ

 

“เฮ้! มาร์โค อย่ายกแต่ของเบาสิเฟ้ย!!” 

“เรื่องสิ! จะยกอ่ะ!” มาร์โคไม่สนใจแล้วเดินไปต่อพร้อมกับโต๊ะเล็กเอาไปเก็บ

สองแฝดตัวเท่ากันเดินมาหาคนเป็นพี่ชายด้วยการที่กำลังช่วยขนหมอน ผ้าห่มมาให้อย่างไม่บ่นอะไร ก่อนจะมาอยู่ข้าง ๆ พี่ชาย

“พี่โอราอุสค่ะ พวกเรายกผ้าห่มมาแล้วค่ะ!” น้ำเสียงอันสดใสของโพรทาเลียกล่าวพูดกับพี่ชายด้วยการเงยหน้ามองเขา

“หนูหยิบหมอนมาให้ค่ะ” 

 

โอราอุสก้มมองน้องสาวทั้งสองคนที่ตอนนี้ตัวเท่ากันแล้ว โพรทาเลียกลับร่างเดิมระหว่างที่เพอร์ซีย์กำลังอธิบายเรื่องพ่อของลูกโพรทาเลีย เธอก็กลับร่างจนทุกคนตกใจเล็กน้อย ตอนนั้นเลยต้องพาไปเปลี่ยนเสื้อใหม่จนทั้งสองคนเหมือนกันมากขึ้น โอราอุสฉีกยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะรับของจากน้อง ๆ

 

“ขอบใจทั้งสองคนมาก ๆ เลยนะ” โอราอุสวางของแล้วลูบหัวน้องสาวทั้งสองคน

“คิก ๆ” ทั้งสองมองหน้ากันแล้วได้แต่ยิ้มให้กันและกัน

ระหว่างที่กำลังจัดที่นอนกันนั้น โพรทาเลียก็หันไปเห็นคนเป็นพ่อโดนเทพทั้งสองเรียกลงไปข้างล่างด้วยท่าทางที่ซีเรียลสักเล็กน้อยว่าพวกเขามีเรื่องอะไรกันจนพวกเขาออกไปตรงทางเดินที่มีทางออกลงไปข้างล่างชั้นหนึ่งจนโพรทาเลียเอ่ยถามพี่ชายที่อยู่ข้าง ๆ

“พี่ค่ะ คุณปู่กับคุณยายพาพี่ ๆ ไปกันนะ?”

“หือ?” โอราอุสหันไปมองทางที่น้องสาวมองเมื่อกี้ แต่เขาก็ไม่เห็นแล้ว ”คงจะไปคุยธุระกันละมั้ง?” 

“อ๋อ...เหรอ?” แต่สายตาของโพรทาเลียก็แอบสงสัยอยู่ดีว่าผู้ใหญ่ทำอะไรกันจนเธอคิดบางอย่างใด

 

ชั้นล่างที่เป็นร้านอาหารพวกโพไซดอนเรียกเพอร์ซีย์มาจับกลุ่มนั่งจุดหนึ่งในร้าน ไม่นานแอนนาเบ็ธก็กลับมาหลังจากส่งคนเป็นพ่อของเธอ เธอมานั่งข้าง ๆ สามีของเธอ พวกเขาคุยเรื่องเหตุการณ์ก่อนหน้าว่ามีพวกปีศาจแฝงมาให้ค่ายเกือบครึ่งหนึ่ง แล้วเป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องนี้ ทำเอาพวกเทพแตกตื่นตอนที่ได้ยิน แล้วบางคนเศร้าใจที่ลูกของตนบางคนเสียชีวิต เพราะพวกปีศาจพวกนั้น เลยทำให้ต้องมาแจ้งให้เพอร์ซีย์ที่เป็นคนดูแลค่ายช่วยจัดการให้มากกว่า แล้วเดียวเฮเฟตัสจะมาจัดการเรื่องความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม แต่เรื่องทุกอย่างที่โพไซดอนกับอาธีน่าเอามาบอกก็เป็นคำสั่งของซุสเมื่อรู้ว่าเขาจะลงมาโลกมนุษย์เพื่อหาหลาน ๆ ทำเอาเขาเหมือนคนส่งสาส์นไม่มีผิด

 

“เรื่องที่คุยก็เท่านี้ล่ะ เพอร์ซีย์ หลังจากนี้ก็ดูแลดี ๆ ละทั้งสองคน” 

“ครับ/ค่ะ” ทั้งสองคนตอบรับคำสั่ง

พอพูดคุยถึงเรื่องสำคัญเสร็จนั้น โพไซดอนก็รู้สึกเหมือนมีเรื่องจะคุยกับลูกชาย

“เพอร์ซีย์...” 

“ครับ?” เพอร์ซีย์หันไปมองคนเป็นพ่อที่เรียกเขา

“ไม่สนใจให้เจ้าเด็กจูปิเตอร์นั้นแต่งงานกับโพรทาเลียหรือ?”

“!!” 

สองสามีภรรยาต่างตาลุกวาวกับคำพูดของเทพโพไซดอนที่เสนออะไรที่มันไม่เข้าท่าเลย ก่อนที่เพอร์ซีย์จะลุกขึ้นทุบโต๊ะอย่างไม่ชอบใจ

“นี่พ่อพูดอะไร? ให้โพรทาเลียแต่งงานกับเด็กเปรตนั้นเนี่ยนะ?”

“ทำไมล่ะ? เจ้าไม่ได้คิดถึงจุดหนึ่งเลยสินะ ว่าถ้าโพรทาเลียโดนแซเทิร์นจับตัวไปอีกครั้งแล้วแซเทิร์นให้ลูกของมันทำมิดีมิร้ายกับเด็กคนนั้น เจ้าจะรู้สึกยังไง?” 

“อึ้ก!!” 

 

โพไซดอนพูดแบบนั้นทำให้เพอร์ซีย์เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายสื่อถึงสิ่งที่เคยเห็นในความทรงจำของลูกสาวว่าเจ้าลูกชายของแซเทิร์นจ้องจะเขมือบลูกเขาไปเป็นเมียของมันตั้งกี่ครั้ง พอนึกถึงภาพพวกนั้นทำให้เขาโกรธมาก เขายอมนั่งลงกับที่เหมือนเดิม โพไซดอนจ้องมองลูกชาย เขาก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายโกรธเรื่องที่เขาเสนอ แต่มันก็เป็นทางเดียวทำให้หลานสาวปลอดภัยด้วย

 

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบใจ เพอร์ซีย์ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นโพรทาเลียก็เหมือนศพตายทั้งเป็นเลยนะ” 

“ผมจะไม่ยอมให้ลูกสาวเป็นแบบนั้นแน่ ๆ” 

“งั้นก็ลองเอาไปคิดดูว่าเด็กคนนั้นผูกมัดกับใครสักคน เจ้าพวกนั้นก็ไม่สามารถมายุ่งได้ ถ้าการผูกมัดเกิดจากการสาบานต่อแม่น้ำสติ๊กซ์” 

“จริงด้วย...!” 

 

เพอร์ซีย์นึกถึงคำสาบานต่อแม่น้ำสติ๊กซ์ทันที เพราะพวกเทพชอบใช้กัน แล้วก็ถ้าผิดสัญญามันก็มีหลายอย่างที่ส่งผลต่อตัวเองเช่นกัน มันก็ลำบากจุดหนึ่งสำหรับคนที่จะสาบานต่อสิ่งที่ทำผิดได้เช่นกัน อาธีน่าได้ฟังก็คิดถึงสิ่งที่อีกฝ่ายพูดก็จริงของโพไซดอน คำสาบานดี แต่ไม่ดีเสนอไป

 

“ฉันก็ค้าน! โพไซดอน” 

“อะไรกัน? อาธีน่า ความคิดของข้าก็ดีออก” 

“คำสาบานนั้นก็สามารถแหกกฎได้ เหมือนที่พวกท่านทำเนี่ยนะ!?” 

โพไซดอนสะดุ้งขึ้นมาในทันใดที่อีกฝ่ายพูดถึงกับไม่พูดต่อเลย

“แม่คิดว่าควรใช้วิธีไหนแทนหรือคะ?” 

“ก็...” อาธีน่าคิดอยู่สักระยะ ก่อนจะนึกบางอย่างได้ “การสาปแช่งไง” 

“สาปแช่ง!?” 

“ใช่ แต่ก็ไม่เชิงเป็นการสาปแช่ง แต่เป็นการอวยพรในเชิงข้อห้าม เทพอวยพรทีไรก็มีปัญหาเหมือนกันนั้นล่ะ อย่างตอนสาบานตอนแต่งงานก็ให้พวกเทพจัดการอย่างอวยพรว่าอย่าให้มิผู้ใดมาแตะต้องพวกเขาทั้งสอง ใครมาแตะต้องจะร้อนเหมือนโดนเผาไหม้ แบบนี้ก็น่าสนใจนะ”

“โอ้...เป็นความคิดที่เจ๋งดีนะ!” โพไซดอนพูดอย่างถูกใจเลย

“ก็ยังดีกว่าความคิดของเทพบ้า ๆ แถวนี้ละกัน” 

โพไซดอนหันขวับไปมองคนข้าง ๆ ที่พูดแบบนั้นกับเขา “เจ้าว่าไงนะว่า เทพบ้าเหรอ?” 

“เปล่านี่” 

 

อาธีน่าหันหน้าหนีอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรว่าตัวเองว่าอีกฝ่าย โพไซดอนไม่ชอบใจเลยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คนที่ไม่ชอบใจอยู่แล้วยังจะมาโดนด่าอีก ทำเอาคนเป็นลูกทั้งสองจ้องมองคนเป็นพ่อแม่ที่กำลังจะทะเลาะกัน เป็นใครจะไปเชื่อว่าเทพทั้งสองมานั่งข้างกันได้แบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเพอร์ซีย์กับแอนนาเบ็ธแต่งงานกัน คงไม่ได้มาเห็นภาพนี้บ่อย ๆ แน่ โพไซดอนจะเตรียมตัวกลับเขาก็เตรียมลุกขึ้น

 

“เอาล่ะ ๆ พวกเราคงต้องกลับไปมั้งแล้วล่ะ ต้องทำงานของตนเองที่ถูกส่งมาอีก” 

“ใช่ งั้นพวกเราไปก่อนนะ” 

อาธีน่าลุกขึ้นออกจากเก้าอี้แล้ว มายืนตรงจุดที่ไม่มีอะไรแล้วหันมาโบกมือให้ลูกสาว แอนนาเบ็ธโบกมือตอบกลับ ก่อนที่จะเกิดแสงสว่างแล้วเทพีก็หายไป โพไซดอนพอเห็นว่าอีกฝ่ายไปแล้วเขายังไม่ไปไหนก่อนจะเดินไปหาลูกชายและลูกสะใภ้

“ข้าว่าจะให้พวกเจ้าก็ลืมไปหลายครั้ง” 

“หือ? จะให้อะไรนะ พ่อ?”

“จริงด้วยค่ะ? ท่านจะให้อะไรเรากัน?”

โพไซดอนตวัดมือลงแล้วขึ้นมามีสิ่งที่บางเหมือนกระดาษโผล่มา ก่อนที่เขาจะส่งให้ลูกชายรับไป

“หือ?” เพอร์ซีย์จ้องมองกระดาษที่พ่อให้มาก่อนจะเห็นว่าสิ่งนี้คือตั๋วปริศนาสองใบ เพอร์ซีย์ชูขึ้นมาแล้วยกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยว่ามันคืออะไร “นี่คือ...?” 

“เห็นว่า 20 ปีมานี่พวกเจ้าไม่ได้พักผ่อนมานานแล้วนี่น่า หรือว่าเป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากพ่อสามีละกันนะ” 

“ตายจริง! นี่มันโรงแรมระดับห้าดาวในกรุงกรีซเลยนะ เพอร์ซีย์” 

“ห๊า? นี่พ่อจองไว้ให้พวกเราเหรอ?”

“เปล่า พวกเจ้าว่างเมื่อไรก็ไปละกันนะ ตั๋วพวกนี้ไม่มีกำหนดว่าจะหมดอายุเมื่อไรนะ” 

“ว้าวววว ขอบคุณค่ะ ท่านโพไซดอน” แอนนาเบ็ธยิ้มอย่างชอบใจในทันที

“พ่อสามี ๆ สิ ลูกสะ-” 

“เจ้า! กล้าดียังไงให้ของขวัญสองคนนั้นก่อนข้ากัน!?” 

อาธีน่าโผล่ออกมาจากไหนก็ไม่รู้ เมื่อสัมผัสได้ว่าโพไซดอนทำแต้มให้ลูกตัวเองและลูกสาวของนาง ทำให้คนที่กลับไปแล้วต่างแตกตื่นจนต้องรีบย้อนกลับมา

“เปล่าซะหน่อย” โพไซดอนทำหน้าอย่างไม่รู้ไม่เห็น

อาธีน่ากำหมัดอย่างไม่พอใจเจ้าเทพขี้ประจบคนนี้จริง ๆ ก่อนจะตกดิ่งไปอย่างสายฟ้าแลบไปหาลูกสาว

“แอนนาเบ็ธ!!” 

“ค่ะ!!” 

อาธีน่าส่งตั๋วให้กับมือของลูกสาวทันที “นี่ตั๋วของแม่เอาไว้พักผ่อนที่กรีซมีตั้งแต่ร้านนวด ร้านอาหาร ร้านอะไรอีกมากที่แม่อยากให้เจ้าได้พักมั้ง!” 

 

แอนนาเบ็ธฟังสิ่งที่แม่พูดออกมา ทำเอาเธอน้ำตาซึมไปเลยครั้งแรกที่แม่ของเธอหันมาสนใจกัน ตั้งแต่เกิดเธอไม่เคยมีแม่อยู่ข้างกายเลยสักครั้ง แต่มาตอนนี้เริ่มที่จะได้อยู่ข้าง ๆ กัน หลังจากปลดล็อคกฏที่ห้ามเจอลูกหลาน เทพบางองค์ก็แอบไปหาลูกของตน บางองค์ไม่สนใจเลยด้วยซ้ำถึงจะปลดล็อกแล้วก็ตามที แต่ยังดีที่แม่ของเธอห่วงลูกทุกคนถึงจะไม่ค่อยมาหา แต่ก็มาพร้อมกับคำห่วงใยเสมอจนพวกเขาเหล่าสายเลือดอาธีน่าก็ยังรักคนเป็นแม่ไม่เปลี่ยนแปลง

 

“ขอบคุณค่ะ คุณแม่” 

คำขอบคุณของลูกสาวทำให้ผู้เป็นแม่ยิ้มแก้มปริจนทำให้คิดเลยว่าคนที่เอาแต่ขมวดคิ้วต่อหน้าลูกเขยนั้นจะยิ้มได้แบบนี้ ทำเอาเพอร์ซีย์ที่อยู่ข้าง ๆ แอบยิ้มไม่ได้เลยจนต้องยิ้มออกมา แต่ทว่าสายตาของเทพีก็จ้องเขาจนต้องหุบยิ้มไปเลย พอจบธุระอาธีน่ากำลังจะกลับ แต่เธอก็ยื่นมือไปจับหูของโพไซดอน

“เจ้ารีบกลับไปเดียวนี่! อย่าคิดจะมาทำแต้มอะไรอีกนะ!!” 

“โอ๊ย! โอ๊ย! ใครมันจะทำแต้มกัน เจ้าบ้าหรือเปล่าเนี่ย!?” โพไซดอนโวยวาย

อาธีน่าดูไม่สนใจอะไรก่อนจะลากอีกฝ่ายให้กลับไปยังท้องทะเลที่เป็นอาณาเขตของอีกฝ่าย ก่อนที่นางจะหันกลับมาโบกมือลาอีกครั้งแล้วก็หายตัวไปเหมือนไม่อะไรเกิดขึ้น

 

‘ทำไมมองแล้วเหมือนภรรยาลากสามีกลับบ้านกัน?’ เพอร์ซีย์กับแอนนาเบ็ธคิดพร้อมกัน

 

เพอร์ซีย์ถอนหายใจเหนื่อยกับเทพทั้งสองคนที่ชอบแซงความดีความชอบตลอดจริง ๆ พอเรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว เขาหันไปมองภรรยาที่กำลังจ้องมองตั๋วทั้งสี่ใบที่คนเป็นพ่อสามีและผู้เป็นแม่ให้ จนเธอยิ้มกริบจนอย่างมีความสุขที่เธอได้รับของขวัญที่ดีมาก ๆ เพอร์ซีย์เห็นใบหน้าของภรรยาเขาก็มีความสุขแล้ว เขาเขยิบเข้าหาภรรยาแล้วโอบเอวของเธอ

 

“มีความสุขมากเลยนะ ได้ตั๋วไปเที่ยวแบบไม่ต้องจ่ายแบบนี้นะ” 

“แหม ๆ เราไม่มีเวลาได้ไปเที่ยวนี่น่า~” แอนนาเบ็ธหันไปยิ้มอย่างมีความสุข

“หึ ๆ ก็จริงนะ เราค่อยหาโอกาสหนีลูก ๆ ไปเที่ยวละกันนะ” เพอร์ซีย์หอมแก้มอีกฝ่ายเบา ๆ ”เอาล่ะ เราก็กลับขึ้นข้างบนไปพักผ่อนเลยดีกว่านะ เดียวพรุ่งนี้เราจะได้เดินทางกลับกัน” 

“อืม ๆ ฉันฝากค่ายไว้กับเจสันด้วยเนี่ยสิ” แอนนาเบ็ธนึกถึงก่อนเดินทางมาว่าตัวเองขอให้เจสันดูแลค่ายให้

“หือ? เจ้าบ้านั้นดูแลค่ายเหรอ?” เพอร์ซีย์ยกมือขึ้นมาลูบปลายคางที่มีหนวดสักเล็กน้อย ก่อนจะคิดบางอย่างขึ้นมาแล้วฉีกยิ้มอย่างคนบ้า “งั้นให้หมอนั้นดูแลค่ายสักสองสามวันละกัน!!!” 

“หือ? นี่จะโยนหน้าที่ตัวเองให้หมอนั้นเลยเหรอ?”

“แหม ๆ เราไม่ได้ออกมาข้างนอกนานแล้วนะ สักวันสองวันคงไม่มีปัญหาเนอะ” เพอร์ซีย์ยิ้มให้ภรรยามีความสุข

“โธ่ นายนี่น่า ตามใจละกัน โดนเจสันว่าอะไรฉันก็ไม่เกี่ยวนะ” 

“เธอนี่เปลี่ยนไปเยอะจริง ๆ” 

 

เพอร์ซีย์มองภรรยาที่เปลี่ยนไปเยอะกว่าแต่ก่อนมาก ๆ ตั้งแต่นิสัยที่จะรับผิดชอบทุกอย่างแต่ตอนนี้ปล่อยวางอะไรหลายอย่างจนไปถึงรูปลักษณ์ภายนอกของอีกฝ่าย เมื่อก่อนแค่สาวผิวแทนเหมือนสาวแคลิฟอร์เนียคนคนหนึ่ง แต่ตอนนี้กลายเป็นสาวผิวขาวหิมะเหมือนสาวอเมริกามากกว่าเดิมอีก แต่ถึงจะเปลี่ยนไปยังไงเขาก็รักอีกฝ่ายมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

 

“นายก็ด้วยล่ะ พ่อหนุ่มซื่อบื้อ” 

 

แอนนาเบ็ธได้ยินคำพูดของสามีเธอก็เงยหน้ามองอีกฝ่ายที่เปลี่ยนไปมากกว่าครั้งแรกที่เธอเจอเขาที่เป็นเด็กตัวเล็กไม่ชอบฟังใคร ทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ แล้วเป็นเด็กผู้ชายที่เธอไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่วันแรก ๆ แต่เธอไม่นึกว่าวันนี้เธอได้จะเป็นภรรยาและแม่ของลูกอีกฝ่าย ยิ่งตอนนี้เพอร์ซีย์มีความรับผิดชอบมากขึ้นถึงบางครั้งจะทำตัวเป็นเด็กอยู่บ้าง แล้วเรื่องรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายทำเอาเธอเขินสักเล็กน้อยที่เขาตัวสูง ร่างกำยำกว่าแต่ก่อนจนทำให้เด็กสาวในค่ายต่างพากันชื่นชอบจนเธอก็มีหึงบางแต่ยังไงก็ตามที

 

“ถึงจะหล่อขึ้นยังไง แต่ก็เป็นสามีของฉันล่ะนะ” แอนนาเบ็ธยิ้มเยาะอย่างมีความสุข

แต่คนที่อยู่ข้าง ๆ กับเขินขึ้นมา เพราะความคำพูดของภรรยานี่ล่ะ เขาก็โอบกอดเธอในทันที

“เธอก็เหมือนกัน สวยขึ้นทุกวัน เธอก็ยังเป็นภรรยาของฉันนะ” เพอร์ซีย์หอมแก้มภรรยาอย่างรักใคร่

“ตายจริง~ เพอร์ซีย์ ไม่เอานะ” แอนนาเบ็ธตีสามีสักเล็กน้อย

 

ทั้งสองมองหน้ากันก็แสดงความรักสักเล็กน้อยจนทำให้คนที่เห็นนั้นถึงกับมองด้วยสายตาที่เบื่อหน่ายกับสองสามีภรรยาคู่นี้ที่อายุตั้งขนาดนี้แต่ยังมาแสดงความรักที่หวานจนน่าอิจฉาทุกครั้งจริง ๆ พวกเขามาดูเนื่องจากก่อนหน้านั้น โพรทาเลียแอบทำท่าทางแปลก ๆ ด้วยการเอาหูแนบกับพื้นทำให้พวกเขาสงสัยจนต้องถามเลยได้รู้อะไรบางอย่างว่าโพรทาเลียจะโดนจับแต่งงานกับใครสักคนที่เป็นสายเลือดของจูปิเตอร์ ทำเอาเธอหน้าแดงจนสงสัยว่าคนที่ว่าเป็นใคร พวกเขาที่ได้ยินจึงจะลงมาจะพูดกับพ่อแม่ แต่ทว่ามาเห็นภาพที่ไม่ควรเห็นเขา จนสองสามีภรรยากำลังจะเตรียมหันกลับไปที่บันไดก็ต้องตกใจสิ่งที่เห็นนั้นก็คือ ลูกชายทั้งสี่กำลังมองพวกเขาด้วยสายตาเบื่อหน่ายสุด ๆ

 

“เห้ย!! เด็ก ๆ มาทำอะไรกันนะ?” เพอร์ซีย์ถึงกับตาค้างเลยที่เห็นลูก ๆ สี่คนกำลังนั่งอยู่ตรงบันได แถมมองเขาด้วยสายตาเบื่อหน่ายอะไรกันสักอย่าง

“เฮ้อ...จะมาถามอะไรสักหน่อย แต่มาเห็นสภาพนี้ไม่อยากถามต่อเลย...ขึ้นไปหาอลิซ่าเบ็ธดีกว่า” โอราอุสลุกขึ้นเปิดประตูเข้าบ้านไปหาแฟนสาวดีกว่า

“ไม่อายฟ้าตอนค่ำคืนเลยนะ พ่อแม่” 

“อายุตั้งเลขสี่ยังรักกันก็คือว่าดีแล้วนี่น่า แต่รักให้พอดีนะครับพ่อแม่ เดียวมีน้องเพิ่มเราจะต้องมารับบทพี่ ๆ อีกนะครับ” 

“บ้า! ลูก ๆ นี่มัน! กลับขึ้นข้างบนไปเลย!” แอนนาเบ็ธหน้าแดงทันทีที่ลูก ๆ พูดแบบนั้นออกมา

พวกเด็กต่างรีบเดินหนีกันขึ้นข้างบนไปในทันใด เพอร์ซีย์ส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น

“เจ้าพวกนี้ตั้งแต่เด็กจนโตก็เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ”

“ก็ดีกว่าลูกเปลี่ยนไปจนไม่เข้าหาเรานะ” แอนนาเบ็ธจ้องมองลูก ๆ ที่กำลังเดินขึ้นไป

“ก็จริงนะ...แต่ว่า...โพรทาเลียตอนนี้กำลังรับบททดสอบอะไรอยู่นะ?”

“ไม่รู้สินะ...แต่ฉันห่วงลูกว่าไม่อยู่กับเรานาน ๆ แกจะจิตตกอีกนะ” 

เพอร์ซีย์ฟังที่อีกฝ่ายพูดเขาก็ยกมือขึ้นมาโอบไหล่ภรรยาเบา ๆ “ลูกเข้มแข็งจะตายไม่มีทางเป็นอย่างที่เธอพูดแน่ ๆ” 

“เฮ้อ...ก็ให้เป็นแบบนั้นละกัน งั้นเราขึ้นข้างบนกันเถอะ” 

“อืม ไปกันเถอะ” 

 

ทั้งสองคนต่างพากันขึ้นไปข้างบนก็เห็นเด็ก ๆ กำลังนั่งดูหนังกันอย่างมีความสุขบนเตียงที่มาวางตรงข้างหน้าแล้ว พ่อแม่เห็นก็มีความสุขที่ลูก ๆ กำลังมีความสุขกัน แต่ที่ทำให้จ้องมองก็คือพ่อแม่ของเพอร์ซีย์กำลังเอาใจเหลนกันด้วยการป้อนขนมให้อย่างมีความสุข จนพวกเขาสองคนที่เป็นตายายอิจฉาขึ้นมาในทันที ก่อนจะเข้าร่วมวงด้วยในทันที

 

ทางด้านนอกกำลังมีความสุขกับช่วงเวลาอันแสนสงบสุข ยกเว้นคนที่อยู่ส่วนลึกของจิตใจอย่างโพรทาเลียที่กำลังวิตกกังวลกับการสร้างเมล็ดพันธุ์ เธออุตส่าห์สร้างเมล็ดพันธุ์ของกระบองเพชรสำเร็จ แต่โดนปฏิเสธว่าง่ายไป ทำเอาโพรทาเลียโกรธเคืองเป็นอย่างมากก่อนจะมานั่งร้อนฉ่าอยู่ในทะเลในร่างเด็กวัยสิบขวบ ทำให้เธอรู้ว่ายาที่เธอกินอาจจะหมดฤทธิ์ไปแล้วนั้นเอง แต่เสื้อผ้าเธอก็ตัวใหญ่จนเกินไปจนเธอต้องถอดออก

 

“อากาศก็ร้อน...ยังมาเจอเสื้อผ้าผู้ใหญ่ที่ตัวใหญ่จนร้อนอีก...อยากได้ชุดเด็กจริง ๆ” 

โพรทาเลียพูดไม่กี่นาทีก็มีชุดที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ โพรทาเลียประหลาดใจที่จู่ ๆ ก็มีเสื้อผ้าโผล่ออกมา

“หรือว่า...เจ้ารัลส่งมา...หรือ...” 

เธอจ้องมองก่อนจะหลับตาแล้วนึกถึงพิซซ่าที่อยากกิน ก่อนที่อาหารจะออกมา โพรทาเลียเห็นก็ตกใจจริง ๆ

“อ๋อ...นี่ร่างเรานี่น่า อาจจะจินตนาการได้ตลอดนี่น่า...เหอะ ๆ นั่งกินอาหารก่อนดีกว่า” 

โพรทาเลียเปลี่ยนจากการปวดหัวมาใส่ใจกับอาหารการกินตอนนี้ยังจะดีกว่า แต่เธอจ้องมองพื้นทะเลทราย เธอนึกถึงตอนที่รัลปฏิเสธการสร้างเมล็ดพันธุ์ของเธอไปครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะตะโกนออกมา

 

“อ๊ากกกกกกกกกกก ร้อนแบบนี้จะปลูกอะไรกัน!! กระบองเพชรก็ไม่ได้ ไปตายซะ รัลลลลลลลลลลลลลลลลล!!” 

 

จบตอนที่ 83 โปรดติดตามตอนที่ 84 ต่อไป