ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?

เนื้อหา

ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ

ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ

เสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณย่านการค้า ผู้คนต่างพากันแตกตื่นและกรีดร้องกับสิ่งที่เกิดขึ้น ใครอยู่บริเวณนั้นก็ต้องวิ่งหนีอย่างตื่นกลัว ผู้คนบางส่วนหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายตึกชั้นสองของร้านบลูเมอร์เมดที่จูง ๆ ก็เกิดเสียงดังขึ้นสนั่น เหล่าผู้คนต่างพากันพูดคุยกันว่าอาจจะเกิดระเบิดจนทำให้ตึกระเบิด แล้วกำลังจะถล่ม พวกลูกจ้างที่อยู่ชั้นหนึ่งต่างพากันรีบหนีออกจากหลังร้านกันอย่างโกลาหลกันยกใหญ่ แต่เหล่ามนุษย์ไม่รู้เลยว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ระเบิด แต่เป็นการโจมตีจากบุคคลที่เป็นเทพ

 

ชั้นสองที่มีสภาพเหมือนระเบิดโจมตี แต่เป็นการโจมตีจากข้างนอกทำให้หน้าต่าง กำแพง เพดานพุ่งเข้ามาข้างในตัวตึกชั้นสองจนมองไม่เห็นผู้คนที่อยู่ในตอนแรก กองซากสิ่งก่อสร้างที่พังทลายกำลังมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น ก่อนจะมีคนหนึ่งดังสิ่งพวกนั้นออกจากตัวเขาในทันใด

 

“ย้าก!!” 

เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกับสร้างสิ่งก่อนสร้างตกลงสู่ที่พื้น ตามตัวของเพอร์ซีย์มีแต่ฝุ่นควันจากสร้างพวกนี้ แต่ที่หัวของเขาก็มีเลือดออกจากผลกระทบจากของที่พุ่งใส่ เขาหันไปหาแม่และน้องสาวที่เขาช่วยตอนเกิดการโจมตี

“แม่ เอสเทล ไม่เป็นอะไรนะ?” 

“จ๊ะ ไม่เป็นอะไร...” แซลลี่ถึงกับมึนหัวเลยที่จู่ ๆ ก็เกิดเรื่องขึ้นแบบนี้

“ไม่ต้องห่วงเรา พี่เพอร์ซีย์ หลาน ๆ กับพี่แอนนาเบ็ธอยู่ไหน?” 

เพอร์ซีย์ได้ยินแบบนั้นก็หันไปมองจุดห้องครัวที่อยู่ตอนแรก ตอนนี้มีแต่ซากปรักหักพังอย่างเดียว ใบหน้าเขาถึงกับซีดเผือดไปที่ไม่เห็นเด็ก ๆ หรือภรรยาโผล่ขึ้นมา ก่อนที่เขาจะพุ่งไปดูแล้วรื้อซากปรักหักพังพวกนั้น

“แอนนี่! เด็ก! เด็ก!” 

 

เสียงของเพอร์ซีย์ส่งเสียงดังไปทั่วทั้งห้องนั้นด้วยความหวาดกลัวและกระวนกระวายว่าครอบครัวเขาจะเป็นอะไรไป เสียงผู้เป็นพ่อดังเข้ามาใส่โซนประสาทของคนเป็นลูกที่กำลังอ้อมกอดหลานทั้งสองหลังจากที่รีบกระโดดเข้ามาปกป้องหลาน ๆ เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาก็เห็นใบหน้าของน้องชายที่อยู่ตรงหน้า

 

“เอ...เดอร์...” 

“อึ้ก...” 

 

เบเดอร์มองน้องชายที่ยังดูเหมือนยังไม่ได้สติ แล้วก้มมองหลานทั้งสองคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา ตอนแรกที่ได้ยินเสียงพ่อตะโกนก็ทำให้พวกเขาตกใจจนทำตัวไม่ถูก แต่ก็ยังหาที่หลบภัยจากการโจมตีนั้นได้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสักเล็กน้อย แต่เขาก็ดีใจที่หลานเข้าไม่เป็นอะไรมาก แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ภายใต้เกาะป้องกันจากกำไลที่กำลังส่องแสงอยู่ ทำเอาเขาโล่งใจจริง ๆ

 

“ถ้าไม่ใช่...เพราะกำไลของโพรทาเลีย...ป่านนี้คง...บาดเจ็บกว่านี้แล้วมั้ง...”

“ใช่...ตอนแรกนึกว่า...จะตายซะแล้ว...” 

เสียงอันแผ่วเบาของน้องชายทำให้เบเดอร์หันไปมองก็เห็นน้องชายกำลังจับจ้องมองเขาอยู่ด้วยใบหน้าอันสับสนเล็กน้อย

“นายไม่เป็นอะไรนะ...?” 

“อืม...เด็ก ๆ ล่ะ...” เอเดอร์ถามพี่ชายด้วยความเป็นห่วงหลานชายและหลานสาว

เบเดอร์ก้มมองเด็ก ๆ ที่สลบไปสักพักหลังจากการโจมตีนั้น “ปลอดภัยดี...” 

“ดีจริง ๆ ...แล้วพี่ล่ะเป็นไงมั้ง...” 

“ก็แค่...เอวเข็ดจากการกระแทกนะ...” 

“เพราะเล่นพุ่งแบบนั้นใส่หลานนี่น่า” 

“พอเลย...นายลุกได้ไหม ไอ้หงอก” 

“เอ๋?” 

เอเดอร์มองอย่างสงสัยว่าพี่ชายเรียกแบบนั้นกับเขาทำไม ก่อนที่เบเดอร์จะยิ้มกับคำพูดของเขาที่ตอนนี้นั้น น้องชายของเขามีผมเป็นสีเทาจากฝุ่นซากปรักหักพังพวกนี้ เอเดอร์จ้องมองอยู่สักพักก่อนจะเก๊กกับมุกตลกของพี่ชายที่พูดแบบนั้นใส่เขา

“แหมมมม ทำอย่างกับนายไม่เป็นล่ะนะ ตาแก่!” 

“อ้าว ๆ นี่มาพูดแบบนี้ กลับบ้านเราต้องจัดกันสักยกไหม?” 

“เอาสิ ฉันจะทำให้นายเป็นลมเลย เจ้าพี่บ้า!!” 

“หึ ๆ ปากหมาได้แปลว่ายังดีสินะ” 

“พี่ก็ด้วยนั้นล่ะ!” 

“เด็ก ๆ แอนนี่ ใครอยู่ตรงไหนบอกพ่อด้วย!!” เพอร์ซีย์ยังตะโกนหาลูก ๆ เพราะซากของตึกมันยังทับลูกและภรรยาของเขาอยู่

“เสียงพ่อเรียกล่ะ...” 

“นายตะโกนไปไหนละกัน” 

“โอเค...” เอเดอร์ตอบพี่ชายก่อนจะหันหน้าไปข้างนอกเพื่อตะโกน ”พวกเราอยู่นี่ครับ!! พ่อ!“

เพอร์ซีย์หันไปทางแถว ๆ เคาน์เตอร์ครัว เขาก็รีบเดินเข้าไปทางนั้นด้วยความว่องไว เพราะความเป็นห่วงลูก ๆ

“เบเดอร์ เอเดอร์ ลูกสองไม่เป็นอะไรนะ?”

“ไม่ครับ พ่อ แต่อาจจะนานหน่อย เพราะพี่เบเดอร์เขาเอวเข็ดเป็นคนแก่เลยครับ” 

“ไอ้น้องเวร! ไปบอกเพื่อ” 

“เหอะ ๆ ยังขำกันได้อีกนะ” เพอร์ซีย์ได้ยินเสียงลูก ๆ ก็ดีใจที่พวกเขาปลอดภัยและยังร่าเริงเหมือนเดิม “แล้วนอกจากลูกยังมีใครอยู่ไหม?”

“มีหลานสองคนครับ” เบเดอร์กล่าวออกมา

“แล้วหลานเป็นอะไรหรือเปล่า?” 

“ไม่ครับ เดียวพวกผมออกไป ขอทำตัวตามสบายสักครู่” 

“ไม่ใช่เรื่องตลกนะ เบเดอร์” 

“ไม่ต้องห่วงครับ พวกผมได้รับการป้องกันจากกำไลของโพรทาเลีย เดียวอีกสักพักก็ออกไป” 

“ถ้าพูดแบบนั้นก็รีบออกมามันยิ่งอันตรายต่อหลาน ๆ อีกนะ!” เพอร์ซีย์ตักเตือนลูก ๆ ก่อนจะตะโกนเรียกคนอื่น ๆ ต่อ “แอนนี่ เด็ก ๆ อยู่ไหนนะ?” 

“พี่แอนนาเบ็ธอยู่ไหนคะ?” เอสเทลมาช่วยพี่ชายในการตามหาพี่สะใภ้กับหลาน ๆ

“แอนนี่!!” เพอร์ซีย์ใช้มือในการดันของต่าง ๆ ออกจากพื้นบริเวณต่าง ๆ

 

น้ำเสียงของคนเป็นสามีดังขึ้นจนแอนนาเบ็ธที่สลบไปหลังจากการโจมตีนั้นก็รู้สึกตัวหลังจากกอดลูกสาวแล้วล้มลงกับพื้น เธอค่อย ๆ ลืมตามองว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน แต่สภาพเธอตอนนี้มันคือการโดนซากกำแพงปกคลุมพวกเธอไปหมด เธอกำลังขยับร่างกาย แต่ก็ลำบากที่มันเจ็บแถว ๆ ขา เพราะข้อเท้าเหมือนบิดตอนดึกตัวลูกสาวเข้าหา

 

“อึ้ก...” 

“แม่ค่ะ...” โพรทาเลียจ้องมองแม่อย่างเป็นห่วง

“!!” แอนนาเบ็ธก้มหน้ามองลูกสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของตนเอง ก่อนจะซุกหน้าเข้าหาลูกสาว “โพรทาเลีย ลูกไม่เป็นไรนะ?” 

“ค่ะ...แต่...มันมี...อะไรบางอย่างช่วยปกป้องเรานะคะ”

“หือ?” แอนนาเบ็ธเงยหน้ามองก็เห็นเกราะสีเขียวปกคลุมตัวพวกเธอ “มันมาอยู่นี่ได้ไง?”

“ก็เพราะพวกเราสองคนมาช่วยไงคะ” เสียงของสองแฝดเอ่ยพูดขึ้น

แอนนาเบ็ธหันทางไปต้นเสียงก็เห็นลูกทั้งสองคน “คารีเซล! เรน่า!” 

ทั้งสองคนต่างฉีกยิ้มให้คนเป็นแม่ที่ทำหน้าอย่างตกใจที่เจอลูกสาวทั้งสองมาอยู่แถวนี้ด้วย แต่ใบหน้าของลูกสองคนกับมีเลือดไหลออกมาที่ข้างศีรษะเนื่องจากตอนที่วิ่งมาหาแม่และพี่สาวพวกเขาโดนเศษปูนกระเด็นใส่ใบหน้ากัน

“ลูก ๆ ไม่เป็นอะไรนะ?” แอนนาเบ็ธรีบพยุงตัวขึ้นมาดูคนเป็นลูกทั้งสองคน

ดีที่มีเกราะเลยทำให้แม่ขยับไปหาลูกทั้งสองได้อย่างสบาย โพรทาเลียก็เขยิบขึ้นมานั่งแล้วมองน้อง ๆ สองคน

“พวกเธอไม่เป็นไรนะ?” 

“ไม่เลย แค่นี้เอง เดียวรักษาก็หายแล้ว พี่” 

“จริงด้วย ๆ” 

“ไม่เจ็บเนี่ยนะ เด็ก ๆ ดูสิ ลูกกำลังเจ็บนะ!” แอนนาเบ็ธจ้องมองดูว่าวิตก ลูก ๆ ของเธอมาโดนโจมตีด้วยแบบนี้ ทำเอาเธอโกรธเจ้าผู้ชายที่บุกมาโจมตีสุด ๆ “แม่เจอหน้านะ จะซัดให้ลูกเลย!!” 

“น่าว่า...แม่กำลังโกรธนะ” 

“แน่ล่ะ...” 

สองแฝดต่างซุบซิบกันอย่างสนุกที่คนเป็นแม่ห่วงพวกเธอแบบนี้ ทั้งสองเลยโอบกอดแม่ในทันที คนเป็นแม่ก็กอดลูกสาวทั้งสองอย่างโล่งใจที่ทั้งสองไม่เป็นอะไรมาก โพรทาเลียจ้องมองทั้งสามคนอย่างเป็นห่วงก่อนจะตะโกนบางอย่างเพื่อส่งเสียง

“พ่อค่ะ! ช่วยด้วยค่ะ! คารีเซลกับเรน่าบาดเจ็บ!!” 

 

เพอร์ซีย์หันไปมองทางต้นเสียงที่ตะโกนขึ้นมา หลังจากมาช่วยโอราอุส อลิซ่าเบ็ธกับโฟกัสที่อยู่ด้วยกันแถว ๆ โซนห้องครัวริมเตาแก๊ส เพอร์ซีย์หันไปมองทางที่มีรูกำแพงขนาดใหญ่ เขาก็เห็นกองหนึ่งที่ดูใหญ่กว่าปกติ เขาก็รีบวิ่งเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วงว่าภรรยากับลูกเป็นอะไรมั้ง

 

“แอนนี่ เธอไม่เป็นอะไร!?” เพอร์ซีย์รีบมาช่วยยกของพวกซากกำแพงออก

“ไม่เป็นไร แต่คาเร็นน่ากับเรน่ามีบาดแผลที่หัวนะ” 

“แล้วโพรทาเลียล่ะ?” 

“หนูไม่เป็นไรค่ะ แต่ว่าไอ้เจ้านั้นล่ะ!?”

สิ้นคำถามของลูกสาวนั้นทำให้เขาพึ่งนึกมาได้ว่าตัวที่โจมตีใส่พวกเรายังอยู่หรือเปล่า พอเพอร์ซีย์หันไปทางที่พวกเขาเจอมันครั้งแรก แต่ทว่ากับไร้วี่แววของร่างชายสูง ทำให้เขาตาโตอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายนั้นอยู่ไหน

“เจ้านั้นหายไปไหน?” 

“หายไปไหนน๊า~” เสียงอันทุ้มต่ำเอ่ยพูดภายในบ้านของพวกเขา

ทุกคนได้ยินต่างกันไปทางเดียวกันก็เห็นชายผมดำกำลังนั่งอย่างชิว ๆ ทุกคนต่างตกตะลึงว่าอีกฝ่ายมาตั้งแต่ตอนไหน เพอร์ซีย์จ้องมองอย่างไม่พอใจ เขาจำได้ดีกว่าอีกฝ่ายเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้ลูกสาวเขาต้องบาดเจ็บและมันจ้องจะจับลูกเขาเป็นเมียมันตั้งหลายรอบ ยิ่งทำให้เขาโกรธเคืองมาก ๆ จนออกนอกหน้า วากาเน็ทเห็นก็รับรู้เลยว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังแสดงท่าทางไม่ชอบใจอยู่

 

“ดูหน้าเข้าสิ บุตรโพไซดอน หลานข้า” 

“ข้าไม่ใช่หลานแก! ไอ้สัตว์เดรัจฉาน!! แกและพ่อแกกล้ามาขโมยลูกสาวคนอื่น!! แถมแก…!!” เพอร์ซีย์กำหมัดอย่างโกรธเคือง

“อะไร? ข้าอุตส่าห์ลดตัวมาคุยกับพวกแกแท้ ๆ แต่มาพร่ำเพ้อถึงอดีตอยู่นั้นล่ะ น่ารำคาญจริง ๆ” 

“ว่าไงนะ!?” 

“ถ้าไม่เป็นการพูดมาก ส่งตัวลูกสาวเจ้าคืนมา!! บุตรโพไซดอน!” 

“มาของ่าย ๆ แบบนี้เนี่ยนะ!!” เอเดอร์กล่าวขึ้นอย่างโกรธเคือง

“ใช่!! มันต้องโดนสักหมัด!! แล้วบอกเลยว่าไม่มีวันที่แกจะได้น้องเราไป!!” เบเดอร์พูดพร้อมกับชักดาบออกมา

“แหม ๆ ลูก ๆ เจ้านี่ช่างใจร้อนจังนะ บุตรโพไซดอน” 

“ก็เพราะพวกเขารังเกียจเจ้าพอ ๆ กับข้าไงล่ะ วากาเน็ท!!” 

“หือ?!” วากาเน็ทหันไปทางห้องครัวก็เห็นหญิงสาวที่มีผมสีฟ้าที่โดนฝุ่นปกคลุม ก่อนที่เธอจะปัดฝุ่นพวกนั้นออกจากตัว “โอ้ ไม่ได้เจอกันนานนะ อลิซ่าเบ็ธ” 

“หึ! ข้าล่ะเกลียดขี้หน้าเจ้าเหลือเกิน” 

“เกลียดข้าแต่มาเจอคิดถึงข้าหรือไง?” 

โอราอุสเอาตัวมาบังให้อลิซ่าเบ็ธในทันที “อย่ามายุ่งแฟนคนอื่นดีกว่านะ”

“หือ? เดียวนะ นี่เจ้าตกหลุมรักมนุษย์กึ่งเทพ? โธ่ ๆ อลิซ่าเบ็ธเจ้าบ้าแล้วนะ” 

“ข้าจะรักใครมันสิทธิ์ของข้า เจ้าไม่เกี่ยว วากาเน็ท แล้วก็...” อลิซ่าเบ็ธยกนิ้วชี้หน้าใส่อีกฝ่าย “เจ้าริอ่านจะมาลักพาตัวโพรทาเลียไปอีก เรากับเหล่าสายเลือดโพไซดอนและอาธีน่า จะไม่ยอมให้เจ้าทำได้เด็ดขาด!!” 

สิ้นคำพูดของอลิซ่าเบ็ธทุกคนเหล่ามนุษย์กึ่งเทพก็ได้ทำการยกอาวุธของตนเองออกมาเต็มไม้เต็มมือไปหมด โอราอุสให้โฟกัสพาหลาน ๆ ไปอยู่ด้านหลังเพื่อความปลอดภัย วากาเน็ทจ้องมองด้วยสายตาดูถูกแล้วหัวเราะออกมา

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คิดว่าพวกเจ้าจะจัดการกับข้าได้งั้นเหรอ?” 

“ไม่ลองก็ไม่รู้!! พวกเราสายเลือดโพไซดอนและอาธีน่าจะไม่ยอมให้พวกแกมาลักพาตัวโพรทาเลียไปได้เด็ดขาด!!” เพอร์ซีย์กล่าวพร้อมกับสะบัดดาบของตนออกมา

“โอ้! จะเป็นศัตรูกับฉันสินะ พวกแก! ได้!!” 

วากาเน็ทพูดจบก็ขยับมือของตนเองเกิดประกายสีดำออกมา ก็มีเคียวขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากประกายสีดำอย่างกับมายากล ใบหน้าอันฉีกยิ้มเหมือนฆาตกรโรคจิตเฉิดฉายอยู่บนใบหน้าของวากาเน็ท

“ฉันจะเล่นงานพวกแกให้ตายตกนรกทาร์ทารัส!!” 

“อย่าหวังซะเลย!!” 

สิ้นเสียงที่ตะโกนขึ้น ซากกำแพงก็ตกลงสู่พื้นอย่างจนฝุ่นตลบไปทั้งชั้นสองนั้น แอนนาเบ็ธลุกขึ้นมาจ้องมองเทพที่พูดแบบนั้นใส่ครอบครัวของเธอ

“คนที่จะต้องตกนรกทาร์ทารัส มันแกต่างหาก!!” 

 

แอนนาเบ็ธยกดาบที่ถือตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ชี้ไปทางวากาเน็ทอย่างโกรธเกรี้ยวมาก ๆ ทำให้ลูกสามคนที่อยู่ตรงนั้นเกิดกลัวกับท่าทางอารมณ์ของผู้เป็นแม่ โพรทาเลียจ้องมองแม่สักพักก่อนจะหันไปมองวากาเน็ทที่ยังไม่เห็นตนเอง เธอจ้องมองอย่างไม่ชอบใจที่ต้องมาเจออีกฝ่ายในสภาพนี้ เธอกุมมือแล้วพูดบางอย่างภายในใจออกมา

 

‘ได้โปรดใครก็ได้ โปรดมาช่วยหนูและครอบครัวหนูที ใครก็ได้...ได้โปรด...’ โพรทาเลียคิด

 

เสียงของเด็กสาววัยสิบขวบกำลังดังก้องไปทั้งภายในร่างกายของเธอ แล้วเสียงนั้นกำลังถูกส่งไปหาร่างต้นที่กำลังรับการทดสอบอยู่นั้นเอง โพรทาเลียที่อยู่ในร่างวัยสิบขวบกำลังให้รัลตรวจสอบผลงานของเธอที่สร้างเม็ดจากการคิดวิเคราะห์ตามแบบฉบับของเธอด้วยการเขียนรายละเอียดใส่กระดาษนั้นเอง รัลจ้องมองพร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะยกนิ้วขึ้นมาให้อีกฝ่าย

 

“เก่งมาก โพรทาเลียผ่านการทดสอบ!” 

“เยยยยยยยยยยยยยยยย้!!” 

โพรทาเลียกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขที่ประสบความสำเร็จไปอีกหนึ่งเหลืออีกแค่สองอย่างเธอจะได้กลับไปโลกปัจจุบันเสียที

 

‘ได้โปรด...’ เสียงหนึ่งดังขึ้น

 

“เอ๋?” 

 

โพรทาเลียหยุดกระโดด แล้วหันไปทางด้านหลังอย่างสงสัยว่าเสียงนั้นมาจากไหน แต่ไม่รู้ทำไมพอได้ยินเสียงนั้นเธอกับรู้สึกโหวง ๆ ชอบกลเหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ แถมเสียงนั้นเธอรู้สึกคุ้นหูชอบกล ก่อนจะหันไปทางรัลเพื่อถามถึงเสียงนั้น

 

“รัล ได้ยินอะไรไหม?” 

“หือ?” รัลหันมามองอีกฝ่ายอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายได้ยินอะไร แต่เขาไม่ได้ยิน ”ไม่เห็นได้ยินเลยนี้? ตั้งใจทดสอบจนได้ยินแว่วไปเปล่า?”

 

‘ได้โปรดใครก็ได้ โปรดช่วยด้วย!!’ 

 

ครั้งนี้เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง แล้วครั้งนี้รัลก็ได้ยินเสียงที่อีกฝ่ายถามขึ้นมา เสียงนั้นเป็นเสียงเล็กเหมือนเด็ก เป็นเสียงขอความช่วยเหลือ ทำให้รัลตาลุกวาวอย่างสงสัยว่าเสียงนี้จากไหนแล้วใครเป็นคนสงสัย แต่ทว่าพอฟัง ๆ เขากับรู้สึกว่าคุ้นเคยทำเสียงนี้ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนจนกระทั่งเขาจำได้ว่าเสียงนี้เป็นของใคร

 

“เสียงนี่มัน...” 

“เสียงนี่มันทำไมนะ? รัล” โพรทาเลียหันไปถามอีกฝ่ายอย่างสงสัย

“คือว่า…” รัลอ้ำอึ้งว่าจะบอกอีกฝ่ายยังไงดีเกี่ยวกับเสียงนี้ดี

“พี่ค่ะ!!” 

 

เสียงหนึ่งตะโกนขึ้นมาทำให้โพรทาเลียหันไปมองก็เห็นโฟกัสกับพวกอดีตชาติกำลังเดินทางมาทางนี้ แต่สายตาของโพรทาเลียกับคิดอะไรพิเรนทร์ตอนที่เห็นพวกอดีตชาติลอยตามโฟกัสมาเหมือนกับผีตามติด ทำเอาเธอเกือบขำออกมาแต่ต้องเก็บอาการแล้วเอ่ยถามน้องสาวที่เดินมาถึงเธอแล้ว

 

“โฟกัส!! เธอมาได้ไงนะ?” 

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะถามนะคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วล่ะ!!” 

“เกิดเรื่อง? เรื่องอะไรนะ?”

“คือหนูจะอธิบายยังไงดีล่ะ? แบบว่า…” โฟกัสกำลังกังวลมาก ๆ เพราะอยากทำอะไรสักอย่างแต่ทำอะไรไม่ได้

“วากาเน็ทบุกโจมตีที่ร้านบลูเมอร์เมด!!” เซเรน่ากล่าวพูดขึ้น

โพรทาเลียหันไปมองก็เห็นพวกเซเรน่าเดินกันมาสี่คนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โพรทาเลียเห็นแบบนั้นแล้ววิเคราะห์ชื่อร้านที่เซเรน่าพูด ดวงตาของเธอก็เปิดกว้างอย่างตกตะลึง เพราะชื่อร้านนั้นคือร้านของย่าเธอที่ตอนนี้ทุกคนที่ที่ร้านของคุณย่า

“เดี๋ยว!! หมายความว่าไงนะ! ครอบครัวเราอยู่ที่ร้านของย่านะ แล้วเกิดอะไรขึ้นภายนอกกัน!?” โพรทาเลียตื่นตระหนกทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

“พี่ค่ะ ใจเย็น ๆ ก่อนนะ ตอนนี้ยังไม่มีการโจมตีเกิดขึ้นนะ” 

“ถึงไม่มีแล้วถ้ามีล่ะ!! พ่อแม่ไม่สามารถต่อกรกับวากาเน็ทได้แน่ ๆ !!” โพรทาเลียดูตื่นตระหนกกว่าเดิมเป็นสองเท่า

“พี่ค่ะ...” 

“โพรทาเลียข้าเข้าใจว่าเจ้าเคยเจออะไรมากับวากาเน็ท...” เฟอร์ร่าเข้ามาหาโพรทาเลียใกล้ ๆ

“แต่ว่า...” 

“พวกเราจะเร่งรัดการทดสอบนี้!!” 

“เฟอร์ร่า!!!” พวกสาว ๆ ต่างเรียกชื่ออีกฝ่ายเหมือนตักเตือนสิ่งที่จะทำ

“ไม่มีเวลาแล้ว พวกเจ้าอยากให้เด็กคนนี้ต้องตกไปอยู่ในมือของแซเทิร์นอีกหรือ?” 

ทุกคนต่างนิ่งเงียบกันไปในทันที ทุกคนก็ไม่อยากแล้วยิ่งวากาเน็ทรู้ว่าไม่ใช่มีแค่โพรทาเลียที่มีพลังของเทพ แล้วจับตัวโฟกัสไปด้วยทุกอย่างก็จบหมด โพรทาเลียนึกอย่างครุ่นคิดว่าเธอจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องพันนี้เด็ดขาด ก่อนจะหันไปทางพวกเฟอร์ร่า

“แล้วฉันต้องทำยังไง?” 

“เดียวเราจะจัดการให้ ก่อนที่วากาเน็ทจะโจมตีครอบครัวเจ้า” 

 

จบตอนที่ 85 โปรดติดตามตอนที่ 86 ต่อไป