ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?

เนื้อหา

ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส

ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส

สถานการณ์จบลงอย่างดี ก็ทำให้หลายคนสบายใจไปอย่างหนึ่ง แต่ว่าทุกคนก็พักผ่อนก่อนกลับอีกหนึ่งวันคนเป็นพ่อมองก็คิดว่าทำตามลูก ๆ สักวันก็ดี เพราะยังไงเขาก็โดนภรรยาและแม่ตัวเองรั้งให้พักผ่อนสักหน่อย เนื่องจากภรรยาเขาเล่าสถานการณ์ทุกอย่างให้แม่เขาฟัง ทำเอาสายตาน่ากลัวของสองสาวก็พุ่งตรงใส่เขาในทันใด วันนั้นเขายอมให้พักผ่อนหนึ่งวันก่อนจะกลับค่ายกัน แต่ก็มีเรื่องทำให้โพรทาเลียสงสัยคือฟีนีอุสมาที่นี่ได้ไง

 

“แล้วนี่พี่มีทำธุระอะไรนะ?” 

“อ๋อ...ก็มาทำธุระให้พ่อนะ เขาอยากให้ได้ของบางอย่าง แล้วพี่ก็ทำอะไรเสร็จกำลังกลับ แต่ว่าได้ยินเสียงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเลยลองมาดู”

“ขอบคุณที่ช่วยฉันนะ” โพรทาเลียขอบคุณอีกฝ่ายที่ช่วยเธอ

“ไม่เป็นไร แค่เธอไม่บาดเจ็บก็ดีแล้วล่ะนะ” 

“อะแฮ่ม!!!” เพอร์ซีย์กระแอมขึ้นมาอย่างไม่ชอบใจที่มาเจอไอ้เด็กที่ผู้ชาย

 

ทั้งสองคนต่างออกห่างกันในทันใด แต่สายตาของพวกเขาก็แอบมองกันและกัน ความรู้สึกบางอย่างเหมือนอยากอยู่ข้าง ๆ กันโดยไม่ต้องการอะไร จนเวลาผ่านไปตอนเช้าวันถัดมา พวกเพอร์ซีย์ได้เดินทางออกจากร้านบลูเมอร์เมดในตอนบ่ายเนื่องจากตอนเช้าขี้เกียจกันมาก ๆ เลยออกตอนบ่ายกัน ตอนนี้พวกเขาเดินทางกันอย่างเงียบ ๆ คนขับก็คือ พี่โอราอุสที่สลับกับพ่อ ส่วนพ่อมานั่งกับพวกโพรทาเลียที่อยู่ด้านหลังกระบะ ส่วนภายในรถก็มีแม่นั่งอยู่ข้างคนขับ แล้วก็ด้านหลังก็มีคาเร็นน่า เดวิคกับฟีนีอุสนั่งอยู่ด้วยกันพ่อลูก เนื่องจากโดนบังคับให้มานั่งกับลูก

 

สมาชิกแจ็กสันนั่งกันอยู่หลังรถกันอย่างสบายอารมณ์ ไม่มีใครเอ่ยพูดอะไรนอกจากนั่งกันแบ่งน้ำดื่มกันอย่างกระหายสักเล็กน้อย แต่ว่าภายในหัวของพวกเขาก็มีความคิดบางอย่างที่อยากจะถามคนคนหนึ่งตรงนี้สุด ๆ โพรทาเลียที่กำลังดื่มน้ำอย่างสบายใจก็รู้สึกถึงสายตาของครอบครัวที่จ้องเธออย่างกับมีคำถามที่อยากถามเธอเป็นอย่างมาก ก่อนที่เธอจะถือแก้วน้ำดี

 

“จ้องแบบนี้มีอะไรอยากพูดกับหนูไหมคะ?” 

คำถามนั้นทำเอาบางคนที่สงสัยถึงกับสะดุ้งกันไปเลย แต่ว่าคนที่สะดุ้งก็มีพ่อ เบเดอร์ เอเดอร์ และก็สามแฝดเท่านั้น พวกเขามองหน้ากันก่อนจะเอ่ยพูดกัน

“ใช่ มีเรื่องอยากจะพูดกับเธอมากเลยล่ะ โพรทาเลีย” เบเดอร์จ้องมองน้องสาวอย่างสงสัยสุด ๆ

“อยากถามอะไรล่ะ?” 

“ทำไมพี่ไปเอาเงินเยอะมาจากไหนนะ?” มาร์โคเอ่ยถามอย่างสงสัย

โพรทาเลียได้ยินก็นิ่งไปชั่วขณะ แล้วมองหน้าของทุกคนที่กำลังมองเธออย่างสงสัย

“ขโมยมานะสิ” 

“ห๊า! ขโมย!!”

“นี่ลูกขโมยของเหรอ?” 

“อะไรกันจะตกใจทำไม? ขโมยก็ขโมยจากไอ้คนที่พังชีวิตหนูไปเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ของชีวิตหนูเชียวนะ!!”

“หือ? พี่จะบอกว่าพี่ขโมยของพวกนั้นมาจากแซเทิร์นเหรอ?” เรน่าเอ่ยถามสิ่งที่พี่พูดออกมา

“ถูกต้องจ้า น้องนี่เข้าใจง่ายจริง ๆ” 

“นี่ลูกเอาเงินของเทพนั้นมาใช้กับพ่องั้นเหรอ?” 

“ก็แม้ ก็แค่...5 เปอร์เซ็นต์”

“5 เปอร์เซ็นต์!!!” 

แฝดคนพี่ตะโกนกันอย่างตกใจ ทำเอาคนที่อยู่ภายในรถต่างหันมามองว่าข้างนอกคุยอะไรกัน จนแอนนาเบ็ธสงสัย ก่อนจะเอ่ยถามฟีนีอุส

“ฟีนีอุส เธอได้ยินไหมว่าข้างนอกเขาคุยอะไรกันนะ?” 

“ไม่รู้สิครับ ได้ยินแค่ 5 อะไรสักอย่างนะครับ” 

“เสียงดังจนทำเอานึกว่าเกิดเรื่องจริง ๆ” แอนนาเบ็ธส่ายหน้าอย่างสงสัยว่าครอบครัวเธอนั้นเป็นอะไรกันถึงตะโกนแบบนั้น

เพอร์ซีย์จ้องมองลูกสาวอย่างสงสัยว่าของมีค่าที่ลูกเอามาจากแซเทิร์นมีเยอะ แค่ไหนก่อนจะใช้สายตาจ้องเขม็งใส่ลูกพร้อมกับพูดเตือนเอาไว้

“โพร...พ่อว่าลูกต้องให้พ่อดูแล้วล่ะว่าลูกมีอะไรติดตัวมามั้งที่มาจากเกาะนั้น!”

โพรทาเลียเห็นสีหน้าคนเป็นพ่อก็ขนลุกสุด ๆ ทำเอาสองคนที่นั่งข้าง ๆ ต่างพากันซุบซิบกับเธอ

“หนูว่าพี่ซวยแล้วล่ะนะ” 

“โพร...พี่ว่าน้องได้เจอหายนะแน่ ๆ” 

“จริงที่สุด...” โพรทาเลียถึงกับน้ำตาตกเลยที่ตัวเองนั้นกำลังจะดวงซวย เพราะการเอาเงินออกมานี่ล่ะ

 

โพรทาเลียคิดเลยว่าเธอต้องโดนพ่อดุแน่ ๆ ที่มีของมีค่าติดตัวเยอะขนาดไหนในกระเป๋าคาดเอว ตลอดทางก็มีแต่บรรยากาศตึงเครียดสำหรับโพรทาเลียจนสองถึงสามชั่วโมงก็บ่ายสามหรือสี่โมงเย็นเสียแล้ว พอรถจอดแอนนาเบ็ธก็ลงมาจากรถก็เห็นสภาพลูกสาวคนโตทำหน้าเคร่งเครียดกับอะไรบางอย่างจนเธอสงสัย

 

“ตายจริง โพรทาเลีย ลูกเป็นอะไรนะ?” 

“พ่อกับพี่เล่นจ้องจนหนูเครียดลงท้องแล้วอ่ะ...” 

“เพอร์ซีย์! เด็ก ๆ อย่างแกล้งโพรทาเลียสิ!!” แอนนาเบ็ธพูดระหว่างช่วยลูกสาวลงจากหลังกระบะอย่างช้า ๆ

“ไม่ได้แกล้งเสียหน่อย!!” 

“โพร แม่ว่าลูกไปพักผ่อนหน่อยดีกว่านะ” 

“เอางั้นก็ได้ค่ะ...” โพรทาเลียตอบออกไปอย่างหน้าซีด ๆ

 

สองแม่ลูกเดินกันไปยังสถานพยาบาล คนอื่น ๆ เห็นคุณแอนนาเบ็ธต่างก็ตกใจว่าพวกเขากลับมาแล้วงั้นเหรอ โอลิเวอร์ได้ยินเสียงคนอื่น ๆ โหวกเหวกโวยวายอยู่ข้างนอกก็ออกมาดู ก็เห็นเพื่อน ๆ ในบ้านกำลังปฐมพยาบาลให้โพรทาเลีย ทำเอาเขาสงสัยเลยว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร ก่อนจะเดินออกไปมาจากโซนของเขาแล้วเดินไปหาพวกเขา

 

“มาครั้งนี้เป็นอะไรนะ?” 

“หือ?” โพรทาเลียเงยหน้าก่อนจะกินยาแก้เครียดแล้วหันไปยิ้มให้อีกฝ่าย “ไง โอลิเวอร์ ดูเหมือนพี่จะสบายดีนะ”

“ฉันสบายมาตลอดนั้นล่ะ แต่เธอเถอะมีแต่เรื่องเข้าตัว ครั้งนี้เป็นอะไรนะ?”

“แค่เครียดที่พ่อกับพี่จ้องมองฉันอยากจะเอาเรื่องนะ” 

“เธอเครียดเป็นด้วยเหรอเนี่ย?” 

“ฉันเครียดได้ตลอดนั้นล่ะ ขอนอนพักสักคืนก็น่าจะดีนั้นล่ะ” 

“แม่...” 

น้ำเสียงของลูกทั้งสองทำให้ผู้เป็นแม่หันไปมองก็เห็นใบหน้าอันเศร้าหมองด้วยความเป็นห่วงว่าแม่ของตนเป็นอย่างไร

“วันนี้ลูกคงต้องไปอยู่กับพ่อก่อนนะ” 

“แล้วแม่ล่ะครับ!” 

“จริงด้วย!” 

“แม่ขอนอนพักก่อนนะ แล้วเดียว...” 

โพรทาเลียเงยหน้าขึ้นมามองคนที่อยู่ตรงหน้าตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ แต่รอยยิ้มของโพรทาเลียก็ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกขนลุกหน่อย ๆ

“ฉันไปคุยอะไรด้วยหน่อยนะ!! พี่ฟีนีอุส” 

“อ๊ะ...ฮะ ฮะ...ได้สิ...” 

 

ฟีนีอุสตอบอย่างเหงื่อตกไปทั้งใบหน้า ทำให้ว่าพรุ่งนี้คงเรื่องวุ่นวายแน่ ๆ ก่อนที่เขาจะพาลูก ๆ กลับบ้านของเขา เหลือก็แค่ผู้เป็นแม่และลูกสาวสองคนเท่านั้น แอนนาเบ็ธให้ลูกสาวนอนพักที่สถานพยาบาลเสียหน่อย เพื่อความปลอดภัยถึงแม้ของแค่นี้ทำอันตรายโพรทาเลียไม่ได้ก็ตามที แต่แม่ก็อยากให้ลูกนอนพักนั้นล่ะ โพรทาเลียยอมทำตามที่แม่สั่งเพราะแม่สั่งทำให้เธอสบายใจมากกว่า โพรทาเลียนอนหลับอย่างสบายใจไปได้สักระยะ แต่แล้วก็มีสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นในความฝันของเธอ

 

เปลือกตาค่อย ๆ เปิดขึ้นเผยให้เห็นดวงตาสีเขียวที่กำลังมองรอบ ๆ ภาพตรงหน้าของเธอนั้นเห็นแต่ผู้คนที่ใส่ชุดสีดำมากมายเต็มไปหมด ทำให้เธอสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน จนเธอเดินไปตามทางระหว่างคนพวกนั้น แต่บางคนที่เดินมาทางเธอก็ทะลุร่างกายของเธอไป ทำเอาตกใจไปหมดนึกว่าจะโดนชน ก่อนที่เธอจะเดินไปตรงโลงศพที่มีผู้คนกำลังร้องไห้กัน เธอเดินไปก็เห็นหญิงสาวผมทองกำลังร้องไห้พร้อมกับลูก ๆ ของตนเองที่กำลังจับมือร้องไห้

 

‘นี่มันเรื่องอะไรกัน...’ 

โพรทาเลียกำลังคิดอย่างสงสัยว่าที่นี่มันที่ไหนแล้วเธอมางานนี้ได้ไง แต่สภาพแวดล้อมมันคล้ายกับยุคสงครามสมัยก่อนตามหนังสือไม่มีผิด แต่ก็สงสัยว่านี่งานศพใครนั้นล่ะ

’ ฉันมาอยู่ในงานศพของใครกัน?’ 

ระหว่างที่เธอคิดก็มีความสุขบางอย่าง เกิดขึ้นนั้นก็คือมีใครบางคนอยู่ข้างหลังของเธอ นั้นทำให้เธอหันควับไปอย่างรวดเร็วจนได้เห็นใบหน้าอันไม่คุ้นเคย แต่พลังภายในนั้นกับคุ้นเคยยังบอกไม่ถูก

‘ชายคนนี้...หรือว่า...เขาคือ...อะพอลโล!!’ 

โพรทาเลียตกใจที่อีกฝ่ายมายังโลกมนุษย์แบบนี้ แล้วมายังงานศพของใครก็ไม่รู้ เธอสงสัยว่าอีกฝ่ายมาทำอะไร ก่อนจะเห็นอีกฝ่ายเดินทะลุตัวเธอไปยังโลงศพที่ถูกปิดฝาโลงเอาไว้ โดยที่ปกติต้องเปิดเอาไว้ เขาเดินไปพร้อมกับสัมผัสโลงศพ

 

“เจ้าเป็นเพียงตนหนึ่ง...แต่ทำไมเจ้า...ถึงสลายหายไป...ทำไมกัน...ธีเอมัส!” น้ำเสียงของอะพอลโลสั่นเครือยิ่งกว่าอะไร

 

‘ชื่อใครกัน?’ โพรทาเลียคิด

 

โพรทาเลียได้ยินชื่อนั้นก็สงสัยว่าชื่อนั้นเป็นชื่อของใครที่เทพเรียก แต่แล้วรอบ ๆ กับกลายเป็นภาพคด ๆ เคี้ยว ๆ บิดเบี้ยวไปหมด ทำเอาโพรทาเลียรู้สึกมึนหัวขึ้นมา แต่แล้วภาพนั้นก็ทำให้โพรทาเลียต้องสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากความฝันนั้น เนื้อตัวของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ ภาพเดิมตรงหน้าของเธอก็คือเพดาน เธอถอนหายใจอย่างโล่งใจที่มาอยู่ที่เดิม แต่แล้วพอขยับตัวเธอก็เห็นภาพที่ไม่คิดว่าตื่นมาจะเจองั้นก็คือพวกเฟอร์ร่าไซซ์มินิที่มายืนอยู่บนหน้าอกของเธอกัน

 

“ดูสิ ว่าเธอฝันอะไรนะ?” 

“ฝันถึงอดีตของอดีตชาติใช่ไหม?” 

“คนไหน? บุตรแห่งอะพอลโลหรือบุตรแห่งซุส”

“นี้ ๆ อย่าพึ่งรบเร้าคนที่พึ่งตื่นสิ” 

“จริงด้วย ให้โพรทาเลียตั้งสติก่อน!” 

โพรทาเลียเอามือกุมหน้าอย่างเพลีย ๆ ตื่นมาก็เจอเสียงบันเทิงใจตั้งแต่ตื่นนอนจริง ๆ “พวกเธอโผล่ออกมาทำอะไรกัน?” 

“ก็รู้สึกบางอย่างในตัวเจ้าเปลี่ยนไป เราเลยออกมาดูก็รู้ว่าเจ้ากำลังฝันถึงอดีตชาติเราเลยมาดูว่าเธอฝันถึงใคร” 

โพรทาเลียฟังที่ทุกคนพูดก็คิดสงสัยว่าพวกนี้ไม่รู้เหรอว่าเธอจะฝันถึงอะไร

“แล้วพวกเธอไปดูไม่ได้เหรอ?” 

“ไม่!” 

ทุกคนต่างตอบพร้อมกันจนทำให้โพรทาเลียเอาหมอนมาพิงหลังแทน

“ฉันฝันเห็นอะพอลโล…” 

“ว่าไงนะ!” 

“หายนะชัด ๆ” 

“ทำไมไม่เป็นฮาลอนนะ...” 

โพรทาเลียมองทุกคนที่โวยวายกันอย่างกับจะเจอกับอะไรที่แย่ ๆ ทำเอาเธอสงสัยก่อนจะเอ่ยถามขึ้น

“คนนี้แย่เหรอ?” 

“ไม่ใช่!” แดเรียลกล่าวออกมา “คนที่แย่คือฮาลอน หมอนั้นไม่ควรได้คนสุดท้าย หมอนั้นมีพลังแค้นยิ่งกว่า...หมอนั้นแค้นพ่อตัวเองสุดหาใครมาหยุดยั้ง เราทั้งหมดยังไม่มีใครต้านทานเขาได้ น้องสาวเขาก็เช่นกัน” 

“แล้วใครจัดการได้?” 

“เราไม่รู้ แล้วตอนนั้นเจ้าจะรู้เองว่าใครหรืออะไรจะช่วยเจ้า” 

“งั้นเหรอ...” 

 

สิ้นสุดท้ายที่พวกนั้นพูด ทำเอาโพรทาเลียครุ่นคิดเลยว่าถ้าเป็นฮาลอนมันจะวุ่นมากน้อยเพียงใด แต่เป็นคนในไม่สำคัญตอนนี้ เราต้องจัดการให้ได้ว่าการที่เธอเป็นภาพนิมิตนี้มันจะบ่งบอกถึงสถานการณ์อันใดต่อไป ช่วงเช้ากำลังดำเนินไปอย่างช้า ๆ โพรทาเลียมองแสงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นสูงฟากฟ้า จนมีคนหนึ่งเดินมาดูเธอเพื่อตรวจอาการของเธอ

 

“น่าจะหายดีแล้วนะ” 

โพรทาเลียหันไปมองหญิงสาวผมสีน้ำตาลกล่าวพูดกับเธอ “อืม รู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ” 

“ดีแล้วล่ะ...เอ่อ...”

โพรทาเลียมองอีกฝ่ายที่ทำท่าทางเหมือนจะพูด “หือ? อะไรเหรอ?” 

“ขอบคุณนะสำหรับเรื่องที่ช่วยคนในค่ายจากการโดนสลับตัวนะ” 

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก...ฉันก็อาจจะเป็นต้นตอด้วยที่ทำให้พวกนั้นสลับตัวกันได้นะ” 

“แต่ฉันก็ดีใจที่โพรทาเลียสามารถทำให้ทุกคนกลับมาได้ ถึงจะไม่ครบทุกคน...แต่...ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรนี่เนอะ” 

“ไม่หรอก...แต่...เสียใจนะ ถ้าเธอ...เสียใครไป” 

หญิงสาวผมสีน้ำตาลอึ้งไปชั่วขณะก่อนจะแสดงสีหน้าที่มีรอยยิ้มแต่แฝงความเศร้าเอาไว้ ก่อนจะตอบด้วยคำสั้น ๆ

“อืม...” 

 

พอหญิงสาวผมสีน้ำตาลดูเธอสักพักก่อนจะออกไปทำหน้าที่ตัวเองต่อ พอฟังคำพูดอีกฝ่ายที่ขอบคุณเธอนั้นมันทำให้เธอเศร้ามากกว่าว่าถ้าเธอไม่โดนลักพาตัวไป บางนี้คงไม่มีใครต้องมาตายเพราะนูอัสเด็ดขาด ความรู้สึกผิดเต็มในใจของเธอ แต่ถ้าพ่อแม่มาได้ยินคงจะบอกว่าเธอไม่ผิด ผิดก็ผิดที่คนที่ลักพาตัวเธอไป นั้นทำให้เธอคิดได้ว่าต้องกำจัดแซเทิร์นให้สิ้นซากเสียทีถึงแม้จะกำจัดได้ แต่สักวันอีกฝ่ายก็จะฟื้นมาอีก เธอต้องทำให้อีกฝ่ายหายจากชีวิตเธอไปยาว ๆ อีกหลายพันปีให้ได้

 

พอฟ้าสว่างสดใสผู้คนจากบ้านต่าง ๆ ก็ออกมาทำกิจกรรมตอนเช้าอย่างเคย ก่อนเวลาอาหารว่างประจำวัน หลายคนออกมาวิ่ง หลายคนออกมาเล่นกัน โพรทาเลียมองคนอื่น ๆ ผ่านสถานพยาบาลอยู่นานก่อนที่จะมีเสียงเป่าแตรที่บ่งบอกว่าถึงเวลาทานอาหารหลายคนต่างพากันเดินไปยังโรงอาหารยกเว้น โพรทาเลียที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นอย่างครุ่นคิดกับบางอย่างอยู่สักระยะ อย่างไม่สนใจรอบข้าง แต่แล้วก็มีหนึ่งเข้ามาแตะไหล่ของเธอเบา ๆ ทำเอาเธอสะดุ้งจนหันไปมองก็เห็นชายผมสีทองที่เธอต้องการพบพอดี

 

“ยังไม่หายดีเหรอ? โพรทาเลีย”

“พี่...ฟีนีอุส...”

“บอกแล้วนี่น่าว่าเรียกฟีนีอุสนะ?”

“เรียกแบบนี้ดีกว่านี่น่า...เรียกห้วน ๆ มันแปลกนี้...”

“ซะงั้น...” ฟีนีอุสทำหน้าเจื่อน ๆ

ลูกทั้งสองของโพรทาเลียก็โผเข้ากอดแม่ของตนในทันใด โพรทาเลียก็ลูบหัวลูกอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเงยหน้ามองอีกฝ่าย

“งั้น...เราไปหาที่คุยกันเลยดีกว่านะ”

“อ๊ะ!!”

 

ฟีนีอุสถึงกับหน้าเหวอเลยที่อีกฝ่ายชวนไปหาที่คุย ทำเอาเขาระแวงแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นจะทำอะไรกับเขา เขาพาอีกฝ่ายไปยังบ้านของเขา พอถึงบ้านก็ให้เด็กขึ้นไปข้างบนห้องนอนของเดวิค ตอนนี้ก็เหลือแค่ชายหญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้ากันและกัน ฟีนีอุสจ้องมองอีกฝ่ายว่าจะพูดอะไรกับเขา เพราะสถานการณ์ตอนนี้มันช่างตึงเครียดยิ่งกว่าอะไร โพรทาเลียจ้องมองสักพักก่อนจะเอ่ยพูดออกมา

 

“ฉันจะไม่พูดอ้อมค้อมกับพี่! แต่พี่รู้ตั้งแต่ตอนไหนว่าฉันคือโพรทาเลีย” 

“เอ่อ...ตั้งแต่เธอเข้ามานะ...”

“เพราะเดวิคสินะ!” 

“ใช่...เด็กคนนั้นเขา...สัมผัสได้ว่าเป็นเธอ...เขาก็เลย...บอกว่านั้นคือเธอ...” 

“แล้วพี่จะไม่พาลูกมาหาฉันมั้งเลยหรือไง?” 

“ก็...แบบ...เดวิคเขา...สั่งห้ามฉันบอกว่าเขาอยู่ที่นี่...” 

สีหน้าของเธอดูไม่พอใจอย่างมาก ทำเอาฟีนีอุสไปไม่เป็นสุด ๆ เพราะถ้าพูดอะไรอีกฝ่ายคงโกรธแน่ ๆ แล้วภายในใจของโพรทาเลียก็โกรธมาก ๆ แต่ที่โกรธนั้นไม่ได้โกรธลูก แต่โกรธสิ่งที่เธอเผชิญอยู่ต่างห่าง

“รู้ไหมว่าฉันรู้สึกโง่แค่ไหนที่อยู่กับผู้ชายที่เป็นชายที่ฉันไม่คิดว่าจะต้องมาเป็นพ่อของลูกฉัน แล้วแสดงท่าทางโง่เง่าว่าฉันคือคีย์ วันเดอร์เลอร์ตลอด24ชั่วโมง แล้วพี่ก็มองฉันด้วยสายตาหัวเราะเยาะฉันตลอดเวลาด้วย!!” 

“เดียว ๆ ๆ ฉันไม่เคยมองเธอแบบนั้นนะ” 

“โกหก!! ตลอดเวลาที่ฉันเจอพี่ พี่ก็เอาแต่ยิ้มให้ตลอดจนเหมือนคนกำลังกลั้นขำเนี่ยนะ!!!” 

 

โพรทาเลียใช้มือตบโต๊ะอย่างแรงจนมันหันต่อหน้า ทำเอาฟีนีอุสสะดุ้งโหยงที่คนเป็นว่าที่ภรรยาแรงเยอะแบบนี้ แต่เสียงข้างล่างดังจนมาถึงข้างบนทำเอาเด็ก ๆ สงสัยเลยว่าพ่อทำอะไรให้แม่โกรธ โพรทาเลียจ้องมองอย่างขุ่นเคือง ฟีนีอุสเห็นก็ถอนหายใจก่อนจะอธิบายต่อ

 

“พี่ไม่ได้หัวเราะเธอนะ” ฟีนีอุสเริ่มอธิบายให้ฟัง “ไม่ได้หัวเราะหรือยิ้มเยาะ เพราะขำเธอนะ” 

“แล้วยิ้มอะไรนักหนา ห๊า!!” 

“ก็...เธอน่ารักนี่น่า....”

“เอ๊ะ?!” 

แค่คำว่าน่ารักก็ทำเอาโพรทาเลียไปไม่เป็นสุด ๆ เธอไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะมาพูดแบบนี้ในเวลาที่เธอโกรธแบบนี้ ก่อนที่เธอจะหันหน้าหนีเพื่อหลบซ่อนใบหน้าที่มีสีแดงอย่างกับลูกมะเขือเทศ เธอนั่งลงแล้วกอดอย่างไม่พอใจ

“ไม่ต้องมาปากหวานกับฉันเลยค่ะ! ฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ!!” 

“แหม ๆ โพรทาเลีย” ฟีนีอุสเห็นอีกฝ่ายเขินอายจนทำตัวไม่ถูก เขาทำให้เขารู้สึกชอบใจจริง ๆ “แต่เธอโกรธที่พี่ไม่บอกเธอสินะว่ารู้เรื่องเธอนะ”

“ใช่สิ! แบบนี้ก็ไม่เหมือนว่าฉันอุตส่าห์แอบทำตั้งนาน ถ้าฉันรู้ว่าพี่รู้ ฉันก็ขอความช่วยเหลือไปแล้วสิ!” 

“โทษที ๆ พวกเราอยากดูนะว่าเธอจะทำยังไง?” 

“พวกเรา?” โพรทาเลียดึงสติกลับมาแล้ว ค่อย ๆ หันไปหาอีกฝ่ายด้วยสายตาที่จ้องอย่างอาฆาตในทันใด “นอกจากพี่กับลูก...มีคนอื่นที่รู้ด้วยเหรอ?”

“มีสิ น้องสาวฉันกับที่ปรึกษาเฮอร์มีสไงล่ะ” 

“ที่ปรึกษา?” โพรทาเลียได้ยินก็นึกถึงคนคนหนึ่ง “หรือว่า!!” 

“เอ่อ...ใช่...โทมัสไงล่ะ” 

“เจ้าพี่นั้น!!!” โพรทาเลียจ้องด้วยสายตาโกรธเคืองเป็นอย่างมากที่อีกฝ่ายมาทำตัวสนิทกับเธอ เพราะแบบนี้เองสินะ “ขอตัวไปจัดการหมอนั้นได้ไหมคะ!?” 

โพรทาเลียกำลังจะลุกขึ้นเพื่อออกไปจัดการโทมัส แต่ว่าฟีนีอุสก็รีบวิ่งไปห้ามอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้ไปฆ่าเพื่อนเขาเสียก่อนที่จะได้เห็นที่ปรึกษาบ้านเฮอร์มีสโดนสายเลือดโพไซดอนเล่นงาน

“หยุด ๆ อย่าทำอะไรบ้า ๆ สิ” ฟีนีอุสมาดักหน้าของโพรทาเลียในทันใด

“หลบไป!! ฟีนีอุส”

“ไม่! เธอต้องใจเย็นแล้วอย่าทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังหน่อยเลย”

“หึ!”

โพรทาเลียพองแก้มอย่างไม่พอใจเป็นอย่างมากจนหันหลังให้อีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ฟีนีอุสเห็นท่าทางอีกฝ่ายก็ทำให้อดยิ้มไม่ได้เลย ก่อนจะกอดอีกฝ่ายจากข้างหลังแล้วซุกหน้ากับไหล่ของอีกฝ่าย ทำเอาโพรทาเลียสะดุ้งที่อีกฝ่ายเข้ามากอดแบบนี้

“พี่!!” 

“ฉันรู้ว่าเธอโกรธที่โดนหลอกนะ แต่ถึงทุกคนจะรู้ว่าเธอเป็นใคร พวกเขาก็ช่วยเธอเป็นอย่างมากเลยนะ” 

“พี่พูดหมายความว่าไง?” 

ฟีนีอุสหมุนตัวอีกฝ่ายหันมาทางเขาแล้วกอดเอวอีกฝ่ายเอาไว้ ทำเอาโพรทาเลียเกร็ง ๆ เลย

“หมายถึงที่ผ่าน ๆ มาเธอได้รับความช่วยเหลือจากพวกเรามาตลอดไงล่ะ” 

“เอ๋?” โพรทาเลียงุนงงว่าอีกฝ่ายหมายความว่าไง แต่ที่ผ่าน ๆ มาเธอทำอะไรก็ไม่มีอะไรติดขัดเลยสักนิดทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายช่วยอย่างงั้นเหรอ “นี่...พี่กับทุกคน...ช่วยฉันมาตลอด...งั้นเหรอ?” 

“มีหรือว่าพวกเราจะไม่ปกป้องเธอนะ แล้วอีกอย่างฉันรักเธอคนเดียวฉันก็ต้องปกป้องเธอสุดชีวิตของฉันนั้นล่ะ” 

“พี่...” 

 

ใบหน้าของโพรทาเลียตอนนี้มันช่างแดงยิ่งกว่าอะไรจนเธอไม่กล้ามองอีกฝ่ายเลย แต่ว่าฟีนีอุสเห็นอีกฝ่ายเขินอายจนเขาอยากแกล้งเธอมาก ๆ ด้วยการประคองใบหน้าอีกฝ่ายขึ้นมาหาเขาแล้วเขาค่อย ๆ ยื่นใบหน้าเข้าหาเธอ โพรทาเลียรู้สึกใจเต้นเป็นอย่างมากที่อีกฝ่ายกำลังจะยื่นหน้าเขามาหาเธอ เธอหลับตาลงอย่างคล้อยตามบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ แต่ภาพของทั้งสองคนที่กำลังจะจูบหันก็ทำให้คนที่ยืนอยู่แถว ๆ หน้าประตูบ้านก็มองอย่างไม่พอใจสุด ๆ

 

“ถ้าแกยังเข้าใกล้ลูกฉันอีกนิดเดียว แกตายแน่ ๆ ฟีนีอุส!!!” 

“!!!” 

 

จบตอนที่ 89 โปรดติดตามตอนที่ 90 ต่อไป