ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?

เนื้อหา

ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ

ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ

ตกเย็นผู้คนมากมายกำลังทำกิจกรรมของตัวเองกันอย่างสนุกสนาม แต่ทว่าผู้ใหญ่กำลังพูดคุยกันอยู่ภายในบ้านใหญ่ถึงเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ ยิ่งเพอร์ซีย์ไม่อยากให้เด็กที่เขาดูแลอยู่นั้นไม่ต้องเจอเรื่องโหดร้ายเหมือนครั้งนี้อีก ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา ทำเอาทุกสายตาหันไปมองประตูที่มีเสียงดังขึ้น ผู้ใหญ่บางคนต่างมองกันอย่างสงสัยว่าไม่มีใครต้องมาแล้วนี่น่า แล้วใครมาเคาะเวลานี้กัน ก่อนที่เพอร์ซีย์จะเอ่ยพูดขึ้นมา

 

“นั้นใครนะ!?” 

 

เสียงของเพอร์ซีย์เงียบลง ประตูก็กำลังเปิดออกไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งเห็นเส้นผมสีดำทองกำลังชะโงกหน้าเข้ามาทำให้พวกผู้ใหญ่โล่งใจที่เห็นว่าคนที่เขามาเป็นเด็กตัวเล็ก แต่บางคนที่เห็นเด็กสองคนนี้ก็มีความสงสัยว่าเป็นลูกหลานใครที่เดินเข้ามาอย่างไม่สนใจอะไรเลย สายตาของบางคนกำลังจับจ้องหลาน ๆ ที่กำลังเดินเข้ามาอย่างมีความสุข

 

“เดวิค คาเร็นน่า หลานปู่มาทำอะไรกันเอ่ย~” 

เสียงของเจสันดัดเสียงเหมือนคนอารมณ์ดีทำเอาคนอื่น ๆ ถึงกับขนลุกกับเสียงนั้น

 

‘หลานเจ้าเจสันจริง ๆ ด้วย’ ทุกคนคิด

 

เด็กทั้งสองได้แต่ยิ้มให้คนเป็นปู่ แต่ความสนใจของพวกเขาอยู่อีกทางจนเดินไปทางอื่นที่ไม่ปู่ของพวกเขา เจสันที่เห็นหลานเดินไปทางอื่นก็รู้สึกหน้าแตกที่หลาน ๆ ไม่มาหาตนเอง แต่ไปหาอีกคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะนั้นก็คือเพอร์ซีย์ที่จ้องมองหลาน ๆ ที่เดินมาหาตนอย่างสงสัย สายตาของเด็ก ๆ กำลังจ้องมองเขาด้วยสายตากลมโต จนความรู้สึกภายในของเขานั้นมันจั๊กจี้ไปหมด ก่อนจะโดนท่าไม้ตายของหลานทั้งสองเข้าให้

 

“คุณตาครับ~ / คุณตาค่า~” 

 

เสียงออดอ้อนของเด็กน้อย ทำให้คนเป็นตาอย่างเพอร์ซีย์รู้สึกหวั่นไหวให้กับเรียกที่ไม่คุ้นชิน สักเท่าไหร่ถึงจะได้ยินมามั้งแต่น้ำเสียงของหลาน ๆ ทำเอาเขารู้สึกใจบางมาก ๆ ในตอนนี้ ผู้คนเห็นสีหน้าของเพอร์ซีย์ต่างพากันจ้องมองว่าเพอร์ซีย์จะทำยังไงกับหลาน ๆ เพอร์ซีย์หันไปมองหลานด้วยท่าทางที่กำลังกัดฟันพูดออกไป

 

“ละ...หลาน...มีอะไรเหรอ...?” 

“พวกเราอยากให้คุณแม่นอนกับพวกเราครับ/ค่ะ!!” 

“ก็...ไปนอนสิ ทำไมมาขอตาล่ะ?” 

”พวกเราจะไปนอนที่บ้านพ่อครับ/ค่ะ!” 

 

เปรี๊ยะ!!

 

เสียงสายฟ้าดังขึ้นในหัวของเพอร์ซีย์ทันที เขาอุตส่าห์เคยสั่งแล้วว่าห้ามสองคนนั้นอยู่ด้วยกันแต่นี่หลาน ๆ มาขอให้แม่ของตนไปนอนด้วยแถมยังนอนบ้านเดียวกับเจ้าลูกชายเจสันอีก ทำเอาเพอร์ซีย์ทำหน้าเคร่งเครียดกว่าเดิม แต่ก็ต้องเก็บสีหน้าสักระยะแล้วก้มมองหลาน ๆ อย่างยิ้มแย้ม

 

“ถ้าอยากนอนกับแม่ทำไมหลาน ๆ ไม่ไปนอนที่บ้านตาหรือไม่ก็บ้านโพไซดอนล่ะ?” 

“ไม่เอา! พวกเราอยากนอนกับแม่และพ่อครับ!” 

“ใช่ ๆ คุณตาค่า ให้พวกเรานอนกับแม่และพ่อนะคะ” 

สายตาออดอ้อนพร้อมกับน้ำตาคลอเป้า ทำเอาคนเป็นตาถึงกับสะดุ้งและไม่กล้าพูดอะไรต่อ จนต้องยอมถอดใจเพื่อยอมแพ้ต่อหลาน ๆ ของเขา

“เฮ้อ...ก็ได้เด็ก ๆ แค่คืนเดียวนะ” 

“เย้!! ขอบคุณค่ะ/ครับ คุณตา!!” 

 

เด็กทั้งสองกล่าวขอบคุณแล้วเดินออกไปจากห้องประชุมโดยปล่อยให้พวกผู้ใหญ่มองกันอย่างสงสัย แต่บางคนกับเศร้าใจที่หลานไม่เข้าหาตัวเองเลยสักนิด แอนนาเบ็ธเห็นหลาน ๆ เดินออกไปก็หัวเราออกมาเบา ๆ ที่คนเป็นสามีนั้นยังแพ้สายตาหรือความออดอ้อนของลูกหรือหลานจริง ๆ

 

“ถึงจะเมื่อไหร่ก็ตามที นายก็แพ้สายตาน่ารักของเด็ก ๆ นะ เพอร์ซีย์” 

“เหอะ ๆ ตั้งแต่เอสเทลล่ะ...เด็ก ๆ น่ารักจนฉันใจอ่อนแบบนี้ไง...” เพอร์ซีย์ยอมรับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้จริง ๆ

“ก็ดีแล้วล่ะนะ เธอถึงรักครอบครัวมาก ๆ ไม่งั้นตอนนั้นถ้าไม่ได้เจสันไปช่วยด้วย เพื่อไปหายามารักษาเบเดอร์และเอเดอร์ เธอคงตายไปแล้วล่ะนะ” 

“ก็จริงนั้นล่ะนะ...” 

 

ลงมาชั้นล่างที่ห้องโถงใหญ่ของบ้านพักใหญ่ โพรทาเลียกับฟีนีอุสกำลังรออยู่ ๆ อยู่นั้น โพรทาเลียรู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้มันช่างเงียบมาก ๆ จนเธอไม่รู้เลยว่าจะพูดอะไรกับอีกฝ่าย พอ ๆ กับฟีนีอุสที่ไม่รู้จะคุยอะไร ทั้งสองคนต่างใช้หางตามองกันก็ทำให้สะดุ้งว่าพวกเขานั้นสบตากันพอดี โพรทาเลียเขินอายสักครู่แล้วเงยหน้ามองอีกฝ่าย

 

“เอ่อ...ไม่รู้เลยนะ ว่าลูกจะ...อ้อนพ่อฉันสำเร็จไหมนะ...?” 

“อ๊ะ...ฉันว่าสำเร็จนั้นล่ะนะ ลูกเธอนี่น่า...” 

“ลูก...ของเรา...” โพรทาเลียพูดเปลี่ยนคำของอีกฝ่าย

“อ๊ะ...ใช่...ลูกของเรา” ฟีนีอุสได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย

โพรทาเลียเงยหน้ามองใบหน้าอีกฝ่ายที่ยิ้มอย่างเขิน ๆ กับรอยยิ้มนั้น ก่อนจะมีความคิดหนึ่งขึ้นมาในทันที

“เอ่อ...พี่ค่ะ...” 

“ฟีนีอุส...” ฟีนีอุสเอ่ยเรียกชื่อของตนเองให้อีกฝ่ายเรียกเขาแบบนั้น

“พอเลย หนูจะเรียกยังไงก็ได้อ่ะ! จะเรียกชื่อ เรียกพี่ เรียกที่รักก็เรื่องของหนู!” 

“ที่รัก...” ฟีนีอุสได้ยินคำสุดท้ายก็สนใจในทันใด แล้วพุ่งเข้ามาจับมือของอีกฝ่าย “เรียกแบบนั้นได้ไหม?” 

“อ๊ายยยย~ อย่าเข้ามาใกล้แบบนี้สิ!” 

ใบหน้าของโพรทาเลียแดงก่ำยิ่งกว่าอะไร ข้างในหัวใจของเธอนั้นเต้นตึกตักอย่างรุนแรงจนกระทั่งเด็กน้อยทั้งสองคนกำลังลงบันไดพร้อมกับตะโกนขึ้นมา

“พวกเราทำสำเร็จแล้ว!!” 

“คุณตาอนุญาตแล้วค่ะ!!” 

โพรทาเลียดันตัวของอีกฝ่ายออกไปอย่างรวดเร็ว “งั้นเหรอจ๊ะ!”

“พ่อแม่กำลังทำอะไรกันนะคะ?” คาเร็นน่าลงมาเห็นพ่อกับแม่อยู่ใกล้ ๆ กันก็สงสัย

เดวิคเห็นพ่อโดนแม่ดันออกจากตัวก็รู้สึกว่าต้องเป็นแบบที่เขาคิดแน่ ๆ “เอ๋~ หรือว่าพ่อแม่กำลังจะจูจุ๊บกันเหรอครับ!?” 

“ตายแล้ว! เดวิคลูกไปเอาคำนั้นจากไหนกัน!!” โพรทาเลียได้ยินก็หน้าแดงในทันใด

“จริงด้วย ๆ ลูกไปเอาคำนั้นจากไหนกัน!” ฟีนีอุสเข้ามาพูดเช่นกัน เพราะมันไม่สมควรจริง ๆ

“จากหนังที่พ่อดูกันนะ มีแต่ฉากจูบกันบ่อยเลยนี่น่า!” 

โพรทาเลียได้ยินคำพูดลูกก็หันไปมองอีกฝ่ายที่อยู่ข้าง ๆ ในทันใด “พี่ให้ลูกดูอะไรนะ!!” 

“เปล่านะ! ก็เป็นหนังวัยรุ่นหรือเด็กดูได้นะ! แต่ไม่นึกว่าลูกเขาจะ...เอามาจำแบบนั้นนะ...” 

“พี่ฟีนีอุส!!!” 

“ขอโทษษษษษษษษษษษษ!!!” 

 

หลังจากที่โพรทาเลียจัดการอีกฝ่ายที่ทำให้ลูกจำเรื่องไม่ควรจำ ทั้งสองก็พากันออกจากบ้านใหญ่ พวกเขาเดินไปตามทางยังช้า ๆ ตามทางในค่ายที่มีบางคนยังเดินเล่นหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นอยู่ก็ต่างพากันหันมาให้ความสนใจพวกเขาทั้งสี่ที่กำลังจูงมือเดินเล่นกันเพื่อกลับบ้านพักที่ห่างจากบ้านใหญ่พอตัว พวกผู้หญิงบางคนต่างน้ำตาตกจริง ๆ ที่ว่าฟีนีอุสมีลูกอย่างที่เขาบอกจริง ๆ ถึงตอนแรกที่พวกเธอจะไม่เชื่อก็ตามที่จนทำให้โพรทาเลียรู้สึกถึงสายตาต่าง ๆ ที่มองมาทางนี้

 

“ทำไมทุกคนถึงมองเราแบบนี้นะหรือว่า...” หางตาของโพรทาเลียมองไปคนข้าง ๆ เธอ

“อย่ามองแบบนั้นสิ...” 

“ก็พี่เป็นจุดสนใจของผู้คนนี้น่า สูง หล่อ หน้าตาดี เก่ง ฉลาด มีฐานะ มีหรือจะไม่มีคนสนใจชายหนุ่มแบบพี่นะ” 

“งั้นโพรทาเลียก็ชอบพี่สินะ” 

“แน่ล่ะ...อ๊ะ! นี่อย่ามาหลอกถามกันสิคะ!!” โพรทาเลียถึงกับตะโกนใส่อีกฝ่ายในทันใด

“คิก ๆ คนอะไรก็ไม่รู้น่ารักจริง ๆ นะ” 

“อยากอ้วกกับช่วงเวลานี่จริง ๆ” เดวิคทำหน้าอยากอาเจียนสุด ๆ

“พี่ห้ามอ้วกนะ! แม่พี่จะอ้วก!!” คาเร็นน่าเห็นสีหน้าพี่ชายแล้วรีบตะโกนบอกแม่ในทันใด

โพรทาเลียได้ยินก็ย่อตัวลงตรงหน้าของลูกทันที “เดวิคไม่สบายเหรอ?” 

“เปล่าครับ ผมแค่ประชดนะ” เดวิคพูดพร้อมกับมองคนเป็นพ่อ

“ลูกคนนี้นี่!!” ฟีนีอุสยกคิ้วขึ้นมาอย่างกระตุก

สองพ่อลูกมองหน้ากันอย่างไม่ชอบขี้หน้ากันสักเท่าไหร่ถึงบางครั้งจะเข้าขากันก็ตามที ระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกันนั้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาพอดี

“คุณเกรซ คุณแจ็กสัน” 

“หือ?” 

พวกโพรทาเลียหันไปมองเจ้าของเสียงก็เห็นเด็กหนุ่มที่โพรทาเลียเคยเห็นหน้าตอนอยู่บ้านเฮอร์มีสก็พอจำได้ว่าใคร

“นาย...ดีลนี่น่า” 

“จำผมได้ด้วยเหรอครับ! ดีใจสุด ๆ ผมชื่นชอบนาย...ไม่สิ คุณตั้งแต่ตอนเป็นคีย์แล้วล่ะ ตัวเล็กแต่แข็งแกร่ง กล้าหาญ ผมอยากเป็นแบบนั้นมั้งจัง!”

“ขอบคุณนะ ถ้านายพยายามอย่างเปลี่ยนตัวเอง นายก็ทำได้เหมือนกันนั้นล่ะนะ” 

“จริงเหรอครับ! งั้นผมจะพยายามครับ! จริงสิ ผมมีกล้องที่คุณแม่ส่งมาให้ ผมขอถ่ายทั้งสี่คนเป็นการตอบแทนได้ไหมครับ!?” 

“จะดีเหรอ? ดีล ค่าทำรูปมันแพงนะ” 

“ไม่ต้องห่วงครับที่บ้านผมมีเครื่องปริ้น เพราะบ้านผมเป็นร้านถ่ายรูปอยู่แล้วนะครับ”

“อ๋อ แบบนี้เอง ถ้าไม่อะไรมากก็ขอรบกวนด้วยนะ” ฟีนีอุสชอบใจเลยอีกฝ่ายจะถ่ายรูปให้

“ครับ!” 

 

ดีลหยิบกล้องขึ้นมาพร้อมกับเตรียมตัวจะถ่ายทั้งสี่คน โพรทาเลียกำลังคิดเลยว่าจะถ่ายท่าไหนดี จนคาเร็นน่าเดินมาหาคนเป็นแม่แล้วอ้าแขนเพื่อให้แม่อุ้ม โพรทาเลียเห็นก็ย่อตัวอุ้มลูกสาวขึ้นมา คาเร็นน่ายิ้มอย่างชอบใจแล้วกอดคนเป็นแม่อย่างมีความสุข เดวิคเห็นก็ทำหน้าบูดบึ้งอย่างไม่พอใจสุด ๆ ฟีนีอุสไปอุ้มลูกชายขึ้นมาอยู่ข้างเขา ทั้งสองคนมายืนระยะประชิดพร้อมกับอุ้มลูกอยู่ ดีลเห็นว่าพวกเขาตั้งท่ากันดีแล้วเขาก็กดถ่ายรูปไปหลายภาพจนพอใจ ดีลจะหาโอกาสกลับบ้านตอนไหนจะเอาไปเข้ากรอบให้

 

“ขอบใจมากนะ ดีล” 

“ครับ งั้นเจอกันใหม่นะ!” 

ดีลโบกมือลาทั้งสี่คน พวกเขามองอีกฝ่ฝ่ายที่เดินออกไป พอพูดถึงรูปถ่ายทำให้โพรทาเลียอยากเห็นรูปที่ถ่ายกับครอบครัวสุด ๆ

“อยากเห็นเร็ว ๆ แล้วสิ” 

ฟีนีอุสได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็ทำให้ยิ้มอย่างพึงพอใจที่พวกเขากำลังจะมีรูปครอบครัวครั้งแรกแบบนี้ เขายกมือขึ้นพร้อมกับลูบหัวอีกฝ่ายเบา ๆ

 

 

“คิดเหมือนกันเลยนะ” 

 

โพรทาเลียหันมามองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ความรู้สึกอบอุ่นของอีกฝ่ายทำให้เธอคิดว่าการมีใครที่ทำดีกับเธอมันช่างรู้สึกดีแบบนี้ แถมคนข้าง ๆ เป็นว่าที่สามีของเธออีก ทำเอารู้สึกถึงความรักมากกว่าเดิมอีก แต่ท่าทางของทั้งสองที่เหมือนกำลังแสดงความรักต่อกันนั้น ทำให้ลูก ๆ ที่กำลังยืนอยู่เงยหน้าจ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน

 

“ถ้าจู้จี้กัน ผมว่ากลับบ้านดีกว่าไหม? ผมอายคนอื่นเขานะ” 

“พี่ค่ะ!” คาเร็นน่าตีแขนพี่ชายในทันที

 อ๊ะ!! ลูก ๆ ก็...” 

“ทำให้คิดแล้วนะ...ว่าพวกแกอายุ 5 ขวบแน่เหรอ?” 

“ฉันไม่รู้นะ แต่ว่า...สิ้นเดือนนี้ก็วันเกิดลูก ๆ แล้วนี่เนอะ” 

เด็ก ๆ ได้ยินก็หันขวับไปมองแม่ในทันใด วันนั้นเป็นวันที่พวกเขาเกิดมาดูโลกอันแสนน่าหวาดกลัว

“จริงด้วย ทุกปีเราจัดงานวันเกิดตลอดนี่เนอะ เดวิค” 

“จริงครับ! นี่ คาเร็นน่า เราจะได้จัดงานวันเกิดด้วยกันแล้วนะ!!” 

“งานวันเกิดที่แม่เคยจัดแบบเล็ก ๆ เหรอ?” คาเร็นน่าได้ยินก็มองคนเป็นพี่ชายอย่างสงสัย

“ไม่จ๊ะ...งานต้องใหญ่กว่างานที่แม่จัดให้...” 

โพรทาเลียนึกถึงช่วงเวลาที่เธอจัดงานวันเกิดให้ลูกทั้งสองมันช่างไม่มีอะไรมีแต่แป้งหนา ๆ ที่เอาไปย่างกับแผ่นหินร้อน ๆ คล้ายแพนเค้กแต่มันทั้งหยาบและมีรสชาติหวานจากน้ำตาลเท่านั้น โพรทาเลียย่อตัวลงนั่งข้าง ๆ ลูกสาวแล้วยกมือมาลูบหัวเบา ๆ

“แม่จะให้ลูกมีความสุขกว่าตอนอยู่ที่สถานที่แย่ ๆ นั้น ให้ลูกได้เห็นเค้กที่แม่เคยให้ลูกดูตอนเราเดินทางครั้งแรก” 

“จริงนะคะ” คาเร็นน่ามองคุณแม่อย่างมีความหวัง

“จ้ะ”

 

คาเร็นน่าได้ยินแบบนั้นก็อ้าแขนเข้าไปกอดคนเป็นแม่อย่างมีความสุข โพรทาเลียดีใจที่จะได้สร้างความทรงจำดี ๆ ให้ลูก ก่อนที่พวกเขานั้นจะพากันกลับบ้านของฟีนีอุสไปอย่างเงียบ ๆ กัน ไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงบ้าน ฟีนีอุสอุ้มลูกทั้งสองพาไปอาบน้ำจนโพรทาเลียอยากช่วยแต่โดนอีกฝ่ายห้ามแล้วจะพาอาบเอง โพรทาเลียเลยคิดว่าตัวเองคงต้องเตรียมชุดให้ลูก ๆ นั่นแหละ แต่เธอไม่มีชุดให้ลูกนี่สิ ก่อนจะเดินไปที่ห้องของอีกฝ่ายว่ามีชุดของเด็กไหม ก็เจอชุดเด็กคงจะเป็นของเดวิค เธอก็เตรียมเอาไว้ให้ ไม่นานนักเด็ก ๆ ก็วิ่งกันมาทั้งผ้าเช็ดตัวพื้นเดียว แต่เหมือนวิ่งหนีอะไรมา

 

“วิ่งหนีอะไรกันมานะ?” 

“ก็...” 

 

เดวิคกับคาเร็นน่ามาแอบข้างหลังของคนเป็นแม่ก่อนจะมองทางเข้าประตู โพรทาเลียก็มองตามก็เห็นบางอย่างกำลังเดินมาอยู่หน้าประตู สภาพของชายหนุ่มที่เปียกไปทั้งตัวจนผมยาว ๆ นั้นปกปิดใบหน้าของเขาไปเลย แล้วสภาพที่เป็นแบบนั้นเนื่องจากโดนคนเป็นลูกใช้พลังสาดน้ำใส่เขา

 

“ตายจริง...โดนลูกแกล้งเหรอ?” 

“แค่จะถูตัวให้...แต่ว่า...คาเร็นน่าเล่นใช้พลังสาดน้ำใส่นี่สิ”

“คิก ๆ บอกแล้วว่าเดียวช่วย...” 

โพรทาเลียเดินไปหาอีกฝ่ายแล้วโบกมือให้น้ำออกจากร่างกายอีกฝ่ายให้กลับไปที่ห้องน้ำจนอีกฝ่ายแห้งเหมือนไม่ได้เปียกมาก่อน

“ขอบใจนะ” 

“ไม่มีปัญหาค่ะ” 

โพรทาเลียยิ้มแล้วเดินไปหาลูกทั้งสองแล้วพาลูกแต่งตัวกันอย่างรวดเร็ว พอจัดการให้เสร็จเธอก็ให้ลูกอยู่กับพ่อแค่สามคนเธอก็เตรียมตัวไปอาบน้ำสักครู่ ฟีนีอุสก็เอาชุดของเขามาให้ แต่เป็นชุดสมัยที่เขายังเด็กให้อีกฝ่าย

“ฉันว่าเสื้อผ้าตรงนี้นะ...” 

“ขอบคุณค่ะ” โพรทาเลียพูดพร้อมกับเปิดฝักบัว

ฟีนีอุสยังยื่นอยู่ข้างนอกห้องน้ำก่อนจะคิดบางอย่างแล้วเอ่ยพูดกับอีกฝ่ายที่กำลังอาบน้ำอยู่

“ก่อนหน้านั้นเหมือนเธอจะถามอะไรฉันหรือเปล่า?” 

“อ๊ะ...เกือบลืมเลย...” โพรทาเลียนึกได้ว่าตัวเองอยากปรึกษาบางอย่างกับอีกฝ่าย แต่เจออีกฝ่ายขัดจังหวะเลยทำให้เธอลืมไปเลย “ขอถามอะไรได้ไหมคะ?” 

“ได้สิ” 

“คนเรามีสิทธิ์เห็นภาพหลอนหรืออะไรที่มันแปลกประหลาดไหมคะ?” 

“หมายความว่ายังไงนะ?” ฟีนีอุสเอ่ยถามอย่างสงสัยว่าคำถามของอีกฝ่ายนั้นหมายความว่าอะไร

“คือ...พี่อาจจะคิดว่าฉันบ้าก็ได้นะ...แต่ว่าวันนี้ฉันมีต่อสู้กับพ่อ...”

“ต่อสู้? เธอไม่เป็นอะไรนะ” 

“ไม่ค่ะ ฉันชนะด้วยนะ” 

“เธอนี่น่าเก่งเกินไปแล้วนะ” 

“คิก ๆ ค่ะ แต่ขอเข้าเรื่องต่อนะ” 

“เชิญ ๆ” 

“คือหลังจากที่พี่ได้รับดาบริดไทด์…” 

“เอ๋!! โอราอุสได้ดาบริดไทด์จากคุณแจ็กสันแล้วเหรอ!?” 

“พี่ค่ะ...” โพรทาเลียกำหมัดระหว่างที่กำลังอาบน้ำ

“อ๊ะ...โทษที ๆ” ฟีนีอุสรีบปิดปากตัวเองที่ขัดอีกฝ่ายอีกแล้ว ก่อนจะรอฟังอีกฝ่าย

“เฮ้อ...ก็หลังจากนั้นนะคะ ทุกคนกำลังมีความสุข แต่แล้วภาพตรงหน้าหนูก็เปลี่ยนไปภาพของพ่อแม่ที่มีความสุขกลายเป็นภาพของแม่ที่ดูเศร้าหมองผิวซีดยิ่งกว่าอะไร...”

“หือ...เธอไม่ได้ตาฝาดไปเหรอ?” 

“ไม่ค่ะ...ตอนนั้นเหมือนจริงมาก ๆ เหมือนอะไรบางอย่างกำลัง...เปลี่ยนสภาพรอบ ๆ ของเราชอบกล...” 

“เธอคงคิดมากนั้นล่ะนะ คงไม่มีอะไรหรอกนะ” 

“เหรอ...” 

 

โพรทาเลียคิดอย่างสับสนว่าตัวเองนั้นกำลังเจออะไร แต่ว่าคงต้องหาใครมาให้คำตอบของเธอ เธอปิดก๊อกแล้วเดินออกมาแต่งตัวตรงหน้ากระจก เธอจ้องมองตัวเองที่กำลังใส่เสื้อที่อีกฝ่ายเอามาให้ แต่ว่าเสื้อของอีกฝ่ายนั้นใหญ่มาก ๆ จนเธอไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายเอาเสื้อตัวใหญ่มาให้ เธอหยิบกางเกงมาสวมดีที่มันใส่ได้ไม่งั้นได้ใส่เสื้อตัวใหญ่กับกางเกงในแน่ ๆ พอแต่งตัวเสร็จเธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นอีกฝ่ายอยู่ข้าง ๆ ห้องน้ำก่อนที่เธอจะถามอีกฝ่าย

 

“แล้วเราควรไปถามพวกผู้ใหญ่ดีไหมคะ?” 

“ก็ดีนะ...!!!” 

 

ฟีนีอุสสะดุ้งเล็กน้อยที่เห็นสภาพที่อีกฝ่ายออกมา เส้นผมที่เปียกจากน้ำเล็กน้อย กลิ่นอายหลังอาบน้ำ เสื้อผ้าที่เขาให้อีกฝ่ายที่มันล่อแหลมสายตาของเขา มันทำให้ต่อความรู้สึกของเขากำลังถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้น จนเขาอยากเข้าไปหาอีกฝ่ายแล้วจูบสักครั้งหนึ่ง ความรู้สึกที่อดกลั้นตอนนี้กำลังตบะแตกไปหมด จนโพรทาเลียรู้สึกถึงสายตาของอีกฝ่ายที่กำลังจ้องมองเธอมันทำให้ร่างกายเธอมันรู้สึกแปลก ๆ ก่อนจะพูดเรียกสติอีกฝ่าย

 

“นี่!พี่คะ! เลิกจ้องแบบนั้นได้แล้วนะคะ” 

“อ๊ะ...โทษที...ฉัน...” 

ฟีนีอุสหันหน้าหนีอย่างละอายใจ เขากำลังคิดอยากจะจูบอีกฝ่ายจนแถมจะทนไม่ไหว ดีที่อีกฝ่ายทันเขาก่อน ไม่งั้นเขาพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายแน่ ๆ ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังอยู่ด้วยกันสองคนนั้น คนเป็นลูกก็ตะโกนขึ้นมา

“พ่อ! แม่! มานอนได้แล้ว!” 

“อ๊ะ!!” ทั้งสองคนต่างสะดุ้งกับเสียงของลูกก่อนจะมองหน้ากัน

“เอ่อ...ลูกเรียก...” 

“ค่ะ...เอ่อ...งั้นขึ้นบนกันเถอะ” 

 

ทั้งสองคนต่างพากันขึ้นข้างบนกันไปอย่างเงียบ ๆ แล้วพาลูก ๆ เข้านอนกันตอนนี้เด็กทั้งสองนอนอยู่ตรงกลางโดยมีคนเป็นแม่และพ่ออยู่ด้านข้างทั้งสองข้าง เด็กทั้งสองสบายใจอย่างมากก่อนที่พวกเขาจะนอนหลับไปอย่างสบายใจอย่างไม่รู้ตัว คนเป็นแม่เห็นก็ยิ้มอย่างชอบใจที่ลูก ๆ นั้นหลับไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่เธอจะจุ๊บที่หน้าผากของลูกทั้งสอง ก่อนที่จะมีคนหนึ่งจ้องมองเธอด้วยสายตาขอร้อง

 

“เอาอะไรคะพี่...” 

“จุ๊บหน้าผากฉันด้วยสิ” 

“นั้นสำหรับลูก ๆ ค่ะ” 

“เอ๋! พี่ด้วยสิ” 

“ชู่วววว!! เดียวลูกตื่นหรอกนะคะ” 

“ถ้าโพรไม่ทำพี่จะตะโกนให้ลูกตื่น!!” 

 

พออีกฝ่ายเล่นขู่แบบนั้น เธอกำหมัดอย่างชกอีกฝ่ายจริง ๆ แต่ก็ต้องยอมก่อนที่เธอจะยื่นหน้าไปหาอีกฝ่ายเพื่อจะจุ๊บที่หน้าผาก แต่ทว่าฟีนีอุสขยับใบหน้าจนริมฝีปากของโพรทาเลียมาโดนริมฝีปากของเขา โพรทาเลียเห็นแบบนั้นก็ตกใจกับสิ่งที่ตัวเองโดนกระทำแบบนี้

 

“พี่!!” 

“หึ ๆ” ฟีนีอุสหัวเราะในลำคอก่อนจะเอาผ้าคลุมตัวเองนอนทันที

 

โพรทาเลียเห็นแบบนั้นก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่อีกฝ่ายหลอกเธอ แบบนี้ก่อนจะนอนลงอย่างเคือง ๆ เธอจ้องมองอีกฝ่ายที่นอนคลุมโปงไปแล้ว ก่อนที่เธอจะใช้นิ้วทั้งสองนิ้วชี้ไปที่ตาของเธอแล้วชี้ไปทางอีกฝ่ายเหมือนบอกว่าพรุ่งนี้เจอกัน ฟีนีอุสเห็นท่าทางอีกฝ่ายผ่านผ้าห่มว่าอีกฝ่ายอาฆาตเขาสุด ๆ ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มนอนหลับ โพรทาเลียกำลังจะเตรียมตัวเธออยากให้ถึงพรุ่งนี้ที่เธอจะจัดการกับอีกฝ่ายในตอนเช้า แต่โพรทาเลียยังไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ของเธอกำลังจะเป็นวันที่เธอทรมานใจที่สุดในชีวิต

 

ณ บ้านเจสัน ห้องทำงานของเจสัน

หลังจากการประชุมเจสันเศร้าใจมาก ๆ ที่หลาน ๆ ไม่เข้ามาหาเขาเลย คนเป็นภรรยาอย่างไพเพอร์ต้องปลอบใจว่าอย่าคิดว่าตัวเองเป็นที่รักคนเดียว เพอร์ซีย์ก็มีสิทธิ์เพราะเป็นตาของเด็ก ๆ แต่เจสันไม่ยอมอยากเป็นผู้ใหญ่คนเดียวที่หลาน ๆ รัก ไพเพอร์ส่ายหัวไปมาอย่างช้า ๆ ก่อนจะตบไหลอีกฝ่ายแล้วหอมแก้มเบา ๆ

 

“เลิกโวยวายได้แล้วนะ วันนี้คุณต้องเขียนเอกสารต่อไม่ใช่เหรอ?” ไพเพอร์พูดพร้อมกับหอมแก้มอีกข้างของอีกฝ่าย “รีบทำงานเถอะ เดี๋ยวจะได้พัก” 

“ครับ...” 

 

เจสันขานตอบไพเพอร์ก็ยิ้มให้แล้วเดินออกจากห้องนั้นไปอย่างเงียบ ๆ เจสันเห็นภรรยาเดินออกไปก็ยิ้มอย่างสบายใจ ที่เขายังมีชีวิตและได้มีความสุขแบบนี้เขาได้มีลูกที่น่ารักและมีหลาน ๆ ที่น่ารักจนอยากหอมแก้มตลอด เขาหยิบเอกสารขึ้นมาเพื่อจะเขียนอะไรต่อ แต่แล้วจู่ ๆ หน้าอกของเขาก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา เจสันกุมหน้าอกของเขาด้วยสีหน้าที่ซีดเผือดเหมือนคนขาดเลือด เจสันถึงกับล้มลงจากเก้าอี้ของเขา

 

“นี่มัน...เกิดอะไรขึ้นกัน...” 

เขาพูดพร้อมกับลากตัวเองที่นอนซุกกับพื้นจะไปที่ประตูห้องทำงาน

“ต้อง...ต้องรีบไปหาไพเพอร์...” 

เจสันกำลังลากสังขารตัวเอง แต่ระหว่างลากร่างกายตัวเองไปตามพื้นนั้น ร่างกายของเขาก็เจ็บปวดเหมือนตอนที่เขานั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโดนตกลงจากหลังของเทมเพสต์ (ม้าของเจสัน) แล้วตกลงสู่เรือของพวกศัตรู

“แฮก แฮก บ้าจริง...” 

 

‘นายต้องรอด!’ เสียงปริศนาพูดขึ้น

 

“เสียงใครกัน...” เจสันที่กำลังเจ็บปวดได้ยินเสียงที่เขารู้สึกคุ้นเคยดังขึ้น

 

‘ฉันช่วยนายได้เท่านี้...นายต้องอยู่ต่อ...เพื่อ...คนที่ฉันรัก...’ เสียงที่พูดนั้นอ่อนนุ่มยิ่งกว่าอะไร แล้วก็ดวงตาที่มีสีเขียวกำลังจับจ้องมองเขา

 

นอกจากเสียงก็มีภาพขึ้นมาข้างในความทรงจำของเขา ทำให้เขาเห็นดวงตาสีเขียวพร้อมกับเส้นผมสีดำ ดวงตาเขาเบิกกว้างขึ้นอย่างตกตะลึงว่าคนตรงหน้าในความทรงจำของเขาคือใคร

“เจ้าของเสียงนี้...คือ...” 

แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยพูดอะไรร่างกายของเขาก็สลายหายไปจากตรงนั้นอย่างไม่รู้สาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าอีกไม่นานพวกโพรทาเลียกำลังจะเจอกับเรื่องที่ทำให้พวกเธอต้องเจอกับความทุกข์ที่ยังไม่ปล่อยตัวพวกเธอไป

 

จบตอนที่ 92 โปรดติดตามตอนที่ 93 ต่อไป