ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 139 ขัดขวางจนตัวตาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 140 คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 141 จุดสิ้นสุดไม่ใช่จุดสิ้นสุดเสมอไป [จบ]

เนื้อหา

ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม

ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม

30 นาทีก่อนเกิดเหตุระเบิด

ประตูลิฟต์เปิดออก ณ ชั้นที่นี่สิบ ภายในลิฟต์มีสองหนุ่มพี่น้องเดินออกมาจากภายในลิฟต์ แล้วตรงดิ่งไปยังประตูบานใหญ่ เจ้าหน้าที่สองคนในชุดยามสองคนยืนอยู่ก็เห็นทั้งสองเดินมาพวกเขาจับไปที่ด้ามจับประตูแล้วเปิดให้ทั้งสองคนเดินเข้าไปยังภายในที่ตอนนี้มีแต่เสียงทะเลาะกันถึงเหตุการณ์ที่ไม่พึ่งประสงค์ในช่วงนี้ พวกเขามองลงไปยังสถานที่ที่คล้ายโคลอสเซียมที่มีรอบวงกลมเป็นที่นั่งแล้วมีที่ว่างตรงกลางวงกลม แต่ตรงกลางนั้นมีเพียงโต๊ะกลมขนาดใหญ่ที่ไว้สำหรับวางของต่าง ๆ รวมไปถึงเป็นโต๊ะสำหรับการประชุมในครั้งนี้

 

สองหนุ่มต่างมองหน้ากันว่าพวกผู้ใหญ่กำลังสนทนาอะไร โดยวันนี้พวกเขาเห็นว่าผู้ที่มีประชุมมีตั้งแต่ทางฝั่งกรีก โรมัน กลุ่มพรานหญิง แล้วก็กลุ่มปริศนาที่พวกเขาสังเกตตั้งแต่เข้ามาพวกนั้นนั่งอยู่ด้านบนสุดในที่มืดทำเอา พวกเขาสวมผ้าคลุมมีฮู้ดปกปิดทั้งร่างกายจนโอราอุสเกิดสงสัยว่าพวกนี้เป็นใครแล้วมาร่วมประชุมในมุมมืดโดยที่ไม่ลงมาร่วมทำไม

 

“ชักน่าสงสัย...” 

“มีแต่เรื่องน่าสงสัยถึงทุกวันนั้นล่ะ แล้วก็วันนี้ผมไปเจอของบางอย่างระหว่างออกเดินทางไปต่างประเทศด้วย!” 

“อะไร?” 

“รอดูละกัน! เอาล่ะ ลงไปร่วมประชุมดีกว่านะ!” เบเดอร์กล่าวพร้อมกับเดินลงข้างล่างทันที

โอราอุสมองน้องชายลงไปยังด้านล่าง เขาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเดินตามลงไป พวกผู้ใหญ่พูดกันเสียงดังมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า เพราะพวกเขาเอาแต่เถียงถึงความรับผิดชอบของการเกิดพวกอสูรเริ่มบุกรุกมาตามจุดต่าง ๆ

“พวกนายไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องนะว่าพวกเราไม่จัดการพวกอสูรพวกนั้นนะ”

แอนนาเบ็ธขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ ใบหน้าของเธอผอมจนแก้มตอบลงไปเยอะ แล้วก็ขอบตาที่ดำคล้ำไปหมดจนสังเกตเห็นได้

“ไม่งั้นพวกปีศาจพวกนั้นจะมาฝั่งโรมันได้ไง! รู้ไหมว่าพวกมันดักรอกินเด็กไปแล้วกี่คนในค่ายเรา!!” หญิงสาวร่างสูงเอ่ยขึ้น

“ฉันจะรู้ไหมล่ะ!? ไม่ใช่แค่ทางนายนะ เด็กค่ายฮาล์ฟบลัดก็เช่นกัน!!” 

“พอ ๆ พวกเธอสองคนคิดว่าการทะเลาะกันแบบนี้จะสามารถช่วยคนที่ตายไปแล้วกลับมาหรือไง?” หญิงสาวผมสีดำเอ่ย เธอมีดวงตาสีฟ้า จับจ้องมองทั้งสองคนที่ทะเลาะกัน “แอนนาเบ็ธ เรย์น่า” 

“ก็ดูยัยนี้สิ!! ธาเลีย!!” 

“ทำไม!? ฉันไม่ใช่เธอนี้ ที่เอาแต่อมทุกข์กับการตายของสามีนะ!!” 

แอนนาเบ็ธจะพุ่งเข้าใส่จนโกรเวอร์รีบเข้ามาสกัด “ใจเย็น ๆ แอนนี่!!” 

“ปล่อยฉัน โกรเวอร์! ฉันจะต่อยยัยนี้สักที!!” 

เรย์น่าแลบลิ้นใส่อีกฝ่ายอย่างชอบใจ แอนนาเบ็ธเห็นก็ยิ่งไม่ชอบใจ ทำเอาผู้ใหญ่บางคนต่างส่ายหน้า แล้วหันมาหารือคุยกันดีกว่า

“ปล่อยสองคนนั้นเถอะ เอาล่ะ กลับมาคุยกันดีกว่านะ” ไพเพอร์เอ่ยพูดขึ้นตอนนี้เธอรูปลักษณ์ที่ต่างไปเธอผมสั้นแล้วก็ยังมัดเปียด้านหน้าเหมือนเดิม “ถ้าไล่ตามเหตุการณ์ต่าง ๆ จะเริ่มจากไหนล่ะ?” 

“ถ้าไล่ก็คงยาวน่าดูเลยนะ มีหลายคนที่ทำภารกิจหลายปีก่อนต้องตายไป...แล้วตอนนี้พวกเด็ก ๆ ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องมาตายระหว่างภารกิจ เหมือนกับมีคนรู้ว่าเด็ก ๆ จะไปช่วงไหน?”

“ที่จริงนะ การทำภารกิจมันก็ต้องเสี่ยงกันเป็นธรรมดา แต่การเสี่ยงครั้งนี้...มันเยอะเกินไป!” 

“จริง...ที่สุด...” ธาเลียกล่าวเพราะคนของเธอก็โดนไปหลายคนถึงจะเป็นแค่พรานหญิงที่เป็นอมตะ แต่ก็โดนโจมตี “ถ้าครั้งนี้ไม่ใช่การโจมตีเล่น ๆ แต่เป็นการตัดขาของทวยเทพล่ะ?” 

“!!” ทุกคนต่างหันไปมองธาเลียก็ยิ่งรู้สึกว่ามันตรงประเด็นสุด ๆ

“ใช่เลย...เพราะพวกเรานั้น...เป็นเหมือนหมากของเทพ...”

“พวกที่เป็นศัตรูกับเราต้องการเล่นงานพวกเราไม่ให้เหลือ...เพื่อตัดแขนตัดขาเทพเนี่ยนะ...บ้าบอสิ้นดี!” แอนนาเบ็ธกล่าวขึ้น เธอนึกถึงเพอร์ซีย์ที่ตอนนั้นออกไปหาสมุนไพรรักษาลูก ๆ มันยิ่งเจ็บปวดใจกว่าเดิม

“แอนนาเบ็ธ...” 

ทุกคนต่างมองแอนนาเบ็ธที่มีสีหน้าอมทุกข์มาก ๆ จนไพเพอร์เข้าไปหาแล้วปลอบใจอีกฝ่ายเบา ๆ ชายร่างใหญ่อวบ ๆ หันไปมองหญิงผมสีส้มในทันใด

“แล้วครั้งนี้มีคำพยากรณ์อะไรโผล่มามั้งไหม? เรเชล” 

“ใจเย็น...ลีโอ...ถึงมีมันก็แค่คำพยากรณ์ไร้สาระ”

“ไร้สาระยังไง?” 

“มันก็แค่คำสั้น ๆ ไม่ได้ช่วยอะไรสักนิด!!” 

“งั้นเหรอ...แย่จริง ๆ” 

ทุกคนที่ได้ยินต่างหากันถอนหายใจกันยกใหญ่ คนที่อยู่รอบนอกต่างก็ไม่มีความคิดเห็นแต่อย่างใดจนพวกโอราอุสเดินลงมา

“รู้สึกเครียดกันน่าดูเลยนะครับ” โอราอุสกำลังเดินลงมาอย่างช้า ๆ แต่ว่าเบเดอร์เดินนำจนมาถึงโต๊ะประชุม

“ไง ทุกคน สบายดีกันไหม!?” 

“ยังกล้าถามเจ้าเด็กนี้!!” 

“ไม่เอาน่า อาไทสัน เอาแต่เครียดกันเดี๋ยวผิวหนังย่นกันพอดี” 

พวกผู้หญิงได้ยินแบบนั้นต่างพากันทำให้ตัวเองหายขมวดคิ้วหรือเอากระจกมาส่องหน้าตัวเองทันที แอนนาเบ็ธมองทุกอย่างขบขันเล็กน้อย ก่อนจะมองลูกชายก็เห็นว่ามีแค่สองคน

“ทั้งสองคน แล้วเอเดอร์ล่ะ?” 

“หมอนั้นไม่อยากมานะ แม่ หมอนั้นบอกว่าน่าเบื่อ” เบเดอร์ยกมือขึ้นมาประคองต้นคอของเขา

“โธ่ ลูกคนนี้!” แอนนาเบ็ธรู้สึกเป็นห่วงลูกคนที่สามที่เริ่มออกห่างขึ้นทุกวัน

“แต่ว่าแม่เลิกสนใจหมอนั้นแล้วมาสนใจของที่ผมเจอดีกว่านะ!!”

“เจออะไรล่ะนั้น?” ชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ย

”ไม่รู้สินะ แต่ผมรู้สึกว่าน่าสนใจ ถึงมันจะเป็นหีบก็ตามที” เบเดอร์หยิบกระเป๋าทำงานสีดำของเขาขึ้นมา

“หีบ?” 

 

สิ้นเสียงของทุกคนนั้นเบเดอร์ก็ล้วงมือเข้าไปภายในกระเป๋าจนมิดแขนของเขา แล้วสิ่งที่เขาดึงออกมาเป็นหีบไม้ขนาดใหญ่ที่ไม่มีแม้แต่กุญแจล็อก แต่มันไม่มีทีท่าจะเปิดแต่อย่างใด ทุกคนต่างมองอย่างสงสัยว่าสิ่งตรงหน้ามันก็แค่หีบไม่ใช่หรือไง จนผู้ใหญ่หนึ่งคนเอ่ยถามอย่างสงสัย

 

“มันก็แค่หีบไม่ใช่เหรอ? เบเดอร์”

“จุ๊ ๆ อย่ามองมันเป็นแค่หีบนะทุกคน ผมเคยไปให้เฮเฟตัสตรวจสอบแล้ว เขาบอกว่าหีบตัวนี้มีพลังบางอย่างซ่อนอยู่ ผมเลยคิดว่า!!” เบเดอร์ยกหีบกระแทกกับโต๊ะทันที “มันอาจจะมีอุปกรณ์ที่สามารถจัดการพวกปีศาจอยู่ก็ได้นะ!!”

ทุกคนต่างมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่สิ้นหวังสุด ๆ ที่อีกฝ่ายหวังกับหีบเล็ก ๆ นี้ เรเชลส่ายหน้าเบา ๆ แต่สายตาของเรเชลก็ไปเห็นสิ่งบางอย่างที่ถูกสลักอยู่บนหีบอันนั้น

“สิ่งนั้นล่ะ!!” 

เรเชลตะโกนออกมาอย่างเสียงดังออกไปจนทุกคนต่างตกใจกับเสียงของเธอ เบเดอร์เห็นอีกฝ่ายตะโกนออกมาจนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

“เอ่อ...เมื่อกี้หมายความว่าอะไร คุณเรเชล” 

“หีบนั้น! ข้อความพยากรณ์อยู่บนหีบนั้น!!” 

ทุกคนได้ยินแบบนั้นก็หันไปมองก็เห็นว่าบนกล่องนั้นมีตัวอักษรภาษากรีกอยู่ แล้วทุกคนต่างพากันมองตัวหนังสือก็สลับไปมาจนอ่านได้ว่า ‘ข้าเปิดเมื่อสัมผัส’ 

“ข้าเปิดเมื่อสัมผัส...” ลีโอเอ่ยออกมาอย่างสงสัย “มันหมายความว่าไง?”

“ที่ผมรู้มานะ เฮเฟตัสบอกว่าเจ้าของหีบนี้คงตั้งรหัสอะไรเอาไว้นะครับ” 

“แล้วเจ้าของล่ะ?” 

“ผมไม่รู้อ่ะ...” 

“โอ๊ย!! ไม่รู้แล้วเอามาทำไม!! เรเชลพูดอย่างกับเจ้าสิ่งนี้มีประโยชน์ แต่จะไม่มีประโยชน์เพราะเธอเลย! เบเดอร์!!” เรย์น่าตะโกนใส่อย่างไม่ชอบใจสุด ๆ

“ทำไงได้ล่ะครับ! มีคนบอกว่ามันโผล่มาจากท้องฟ้า ผมเลยจะลองเอามาให้เทพดูนะ เพื่อเทพองค์ไหนเป็นคนทำตกไว้นะ” 

“ถ้าของเทพคงมีคนบ่นแล้วว่าทำของหายนะ” 

“จริงด้วย...งั้นเก็บสิ่งนั้นไปก่อนเราจะคุยเรื่องการวางแผนจัดการพวกปีศาจที่เริ่มไล่ล่ามนุษย์กึ่งเทพกัน”

 

พวกเขาเริ่มกลับมาคุยกันถึงเรื่องแผนที่จะรับมือกัน ระหว่างที่เบเดอร์กำลังอยากตรวจสอบหีบอยู่นั้นก็มีหนึ่งในกลุ่มปริศนาเดินตรงไปทางเบเดอร์อย่างช้า ๆ โดยไม่มีคนสนใจสักนิด แต่ทว่าโอราอุสกับรู้สึกแปลก ๆ ก็หันไปมองก็เห็นคนปริศนาในเสื้อคลุมมีฮู้ดอยู่ข้าง ๆ เบเดอร์แล้ว

 

“นี่เจ้าหนู~” 

“ห๊ะ?” 

เบเดอร์หันไปมองก็เห็นอีกฝ่ายที่อยู่ด้านข้าง อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ จนเผยให้เห็นดวงตาสีทอง แต่ลักษณะของดวงตานั้นมันคล้ายกับตางูที่กำลังจับจ้องเหยื่อจนเบเดอร์รู้สึกว่าร่างกายนั้นเหมือนถูกแช่แข็งไม่มีผิด ก่อนที่อีกฝ่ายนั้นจะเอ่ยคำสั่งกับเขา

“จงส่งหีบนั้นมาให้ข้า” 

“ห๊า!?” 

เบเดอร์อุทานออกมาแต่ทว่าร่างกายของเขานั้นกับขยับตามคำสั่งนั้น มือของเขากำลังจับไปที่หีบแล้วกำลังหมุนตัวไปทางอีกฝ่ายอย่างช้า ๆ จนทำให้เบเดอร์สงสัยว่าร่างกายของเขาเป็นอะไรไป

 

‘นี่มัน...อะไรกัน...!!’ เบเดอร์คิด ‘ต้องบอกพี่!!’

 

ถึงจะคิดแบบนั้นแต่เบเดอร์ไม่สามารถขยับปากพูดอะไรได้เลย จนโอราอุสที่กำลงัคุยกับพวกอาลีโอนั้นก็สังเกตเห็นน้องชายกำลังทำตัวแปลก ๆ เขาก็เห็นว่าบุคคลปริศนาที่อยู่กลุ่มพวกสวมฮู้ดอยู่ตรงหน้าน้อง แล้วกำลังยื่นมือจะรับหีบที่น้องชายกำลังขยับจะส่งให้ ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงของน้องชายในหัว

 

‘พี่โอราอุส ช่วยด้วย!!’ 

 

โอราอุสได้ยินแบบนั้นก็รีบพุ่งตัวไปหาน้องชายในทันใด “ออกห่างจากน้องฉันนะ!!”

ทุกคนหันไปมองโอราอุสที่ตะโกนแบบนั้นออกมา พวกเขาก็เห็นว่าคนสวมชุดเสื้อคลุมอยู่ตรงหน้าของเบเดอร์ เมื่อมืออันผอมบางจับไปที่หีบก็เผยให้เห็นรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าอะไร

“หึ ๆ เริ่มแผนได้!” 

 

ตู้มมมมมมมมมมม!!!

 

เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรงทำให้พวกที่อยู่แถว ๆ เก้าอี้นั่งต่างพากันกระเด้งไปทางตรงข้ามของระเบิด พวกแอนนาเบ็ธที่อยู่ใจกลางต่างพากันหลบใต้โต๊ะประชุมกันยกใหญ่ โอราอุสถึงกับเซไปด้านข้างเมื่อเกิดการระเบิดขึ้น เขาสะบัดใบหน้าของตนเองสองสามรอบ ก่อนจะเงยหน้ามองภาพตรงหน้าว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ดวงตาอันสีเขียวมรกตจะลุกวาวอย่างตะลึงกับภาพที่เห็นคนที่อยู่ตรงหน้า ผ้าคลุมได้ถูกถอดออกจนเผยให้เห็นรูปลักษณ์ภายใต้เสื้อคลุมนั้น รูปลักษณ์ที่คล้ายกับหญิงสาวแต่ทว่าผมของอีกฝ่ายมีสิ่งที่ขยับไปมานั้นก็คืองูที่มีเกล็ดสีน้ำเงิน โอราอุสเห็นจึงรีบหลับตาของเขาในทันใด เพราะเขาจำได้ว่าสิ่งที่มีงูบนหัวนั้นมีแต่อย่างเดียวนั้นก็คือ เมดูซ่า

 

“ทุกคนระวังนะ!! มีเมดูซ่าโผล่มาด้วย!!” 

“ว่าไงนะ!!” 

ทุกคนที่อยู่ภายในนั้นต่างพากันตื่นตกใจว่ามีเมดูซ่าที่สาปคนให้กลายเป็นหินด้วยเหรอ บางคนที่กำลังคิดจะหนีกันก็โดนพรรคพวกของหญิงสาวผมงูจับได้แล้วจะฆ่าทิ้ง เรย์น่าเห็นคนของตนเองจะโดนฆ่านั้นทำให้เธอรีบพุ่งตัวออกไปโดยไม่สนใจอะไร

“เรย์น่า!!” 

พวกแอนนาเบ็ธเห็นอีกฝ่ายวิ่งออกไปก็กังวลยิ่งกว่าอะไร ก่อนจะมองกันและกันว่าจะทำไงดี โกรเวอร์ที่จำเหตุการณ์ครั้งแรกที่ได้ผจญภัยกับเพอร์ซีย์เขายังผวาไม่หายเลยจริง ๆ กับการต่อสู้กับเมดูซ่า

“เมดูซ่าเนี่ยนะ!! ครั้งนั้นเพอร์ซีย์จัดการไปแล้วไม่ใช่เหรอ!?” โกรเวอร์กล่าวออกมา 

“นางคงฟื้นคืนชีพนั้นล่ะ!!!” แอนนาเบ็ธตอบอีกฝ่ายเธอก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน แต่เธอพึ่งนึกว่าลูก ๆ อยู่ข้างนอกนั้น “โอราอุสกับเบเดอร์อยู่ข้างนอกนั้น...ฉันต้องไปช่วย!!”

“เดียวแอนนี่! เธอไปก็ซวยโดนมันสาปนะ!!” 

“แต่ลูกฉันอยู่ตรงนั้นนะ” 

“ฉันรู้ แต่ตอนนี้ต้องเอาตัวรอดก่อน!!” 

โกรเวอร์เตือนสติอีกฝ่าย แต่ตัวแอนนาเบ็ธกับไม่ชอบใจกับคำเตือนนั้น ก่อนที่เธอจะสะบัดมือออกจากอีกฝ่ายทันที

“ถ้าเป็นลูกนาย นายจะยอมอยู่เฉยไหมล่ะ!!” แอนนาเบ็ธคลานออกจากโต๊ะทำงานทันที

“แอนนี่!!!” 

“โกรเวอร์อย่าไปห้ามเธอ จริงของเธอนะ นั้นลูกเธอ ถ้าเป็นลูกนายจะยอมไหมล่ะ?” 

“ไม่มีทาง! โทษที ฉันสติแตกเพราะเมดูซ่า!!” 

โกรเวอร์กล่าวขอโทษก่อนที่เขาจะตั้งสติแล้วพยายามออกจากตรงนั้นแล้วไปช่วยคนอื่น ๆ ที่กำลังโดนโจมตี แอนนาเบ็ธออกมาจากโต๊ะประชุม เธอก็เห็นลูกชายกำลังวิ่งตรงเข้าหาหญิงสาวที่คล้ายเมดูซ่า

“เอาหีบคืนมานะ!!” 

 

โอราอุสหยิบปากกาขึ้นมาแล้วถอดปลอกออกจนกลายเป็นดาบขนาดใหญ่ แล้วเขากระโดดพุ่งหาอีกฝ่ายอย่างไม่สนใจอะไร อีกฝ่ายเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่พุ่งมาหาเธอแต่เธอก็เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นหลับตาไม่มองเขาก็ยิ่งทำให้เธอยิ้มออกมาที่อีกฝ่ายนั้นช่างประมาทยิ่งกว่าอะไร จนเธอหลบการโจมตีอีกฝ่ายแล้วยกขาขึ้นเตะไปอย่างรุนแรงจนโอราอุสกระเด้งไปอย่างไกลจนชนกับเก้าอี้ยาว

 

“โอราอุส!!” แอนนาเบ็ธเห็นลูกชายกระเด้งไปจนเธอรีบวิ่งกลับไปหาลูกชายคนโตทันที

“พี่ครับ!!” เบเดอร์หันไปมองทางที่พี่ชายกระเด้งไป

“พวกอ่อนแอ...ข้าขอเอาหีบนี้ไปละกัน? สิ่งนี้อาจจะเป็นของที่เจ้านายต้องการก็ได้” 

“ฉันไม่ให้หรอกน่า!!” 

เบเดอร์ที่นอนอยู่กับพื้นหลังจากมีเสียงระเบิด สติของเขาก็ครบถ้วนเขาหมอบลงเพื่อความปลอดภัยของตนเอง ยิ่งทำให้เขาคิดเลยว่าตัวเองไม่น่าเอาหีบมาเลยจนมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา เขารีบเกาะขาของหญิงสาวที่กำลังจะเอาหีบไปในทันใด

“น่ารำคาญจริง ๆ” 

ปีศาจหญิงสาวมองอีกฝ่ายที่มาเกาะขาของเธอจนเธอสะบัดขาแล้วเตะเข้าไปที่ปลายคางอีกฝ่ายในทันที

“อ๊ากกกกกกก!!” เบเดอร์ถึงกับน็อคไปเลยที่โดนเตะเข้าที่ปลายคางจนเขาสลบไปตรงนั้น

 

พวกผู้ใหญ่ที่ออกมากำลังต่อกรกับพวกปีศาจที่กำลังโจมตีใส่พวกใส่พวกเขา บางคนเห็นแล้วว่าหญิงที่โอราอุสบอกว่าเป็นเมดูซ่านั้นไม่เป็นจริงอีกฝ่ายแค่มีรูปลักษณ์นั้นคล้ายกับเมดูซ่าแต่สาปพวกเขาไม่ได้นั้นทำให้พวกเขาออกมาต่อกรอย่างไม่สนใจอะไรอีกแล้ว แอนนาเบ็ธดูลูกชายที่บาดเจ็บของเธอยิ่งทำให้เธอเคืองยิ่งกว่าเดิมจนเธอรีบตรงไปหาปีศาจผู้หญิงผมงูที่โจมตีลูกชายของเธอ

 

“แก!! กล้ามาทำร้ายลูกฉันเหรอ!?” แอนนาเบ็ธวิ่งไปสุดแรงแล้วกระโดดโจมตีท่าเดียวกับโอราอุส

ปีศาจงูเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นพุ่งตรงมาหา เธอก็ทำการหลบการโจมตีทันที “โธ่ ๆ ผัวเป็นยังไง เมียก็เป็นยังงั้นสินะ!!” 

“แก...พูดแบบนั้นหมายความว่าไง?” ดวงตาสีเทาของแอนนาเบ็ธลุกวาวอย่างสงสัยกับคำพูดอีกฝ่าย

“ผัวแกก็ใจกล้าพุ่งเข้ามาไม่คิดไงล่ะ จนทำหมอนั้นตายยังไงล่ะ!!” 

 

แอนนาเบ็ธได้ยินแบบนั้นเลือดก็ขึ้นหน้าที่มีคนพูดแบบนั้นถึงสามีของเธอมันยิ่งโกรธยิ่งกว่าอะไรจนเธอพุ่งเข้าโจมตีปะทะดาบกันอย่างรุนแรง ภายในห้องประชุมอย่างกับสนามรบที่กำลังฆ่าฟันกันอย่างบ้าคลั่ง แต่ทว่าประตูบานใหญ่ที่เป็นทางออกเดียวของห้องประชุมก็มีการเปิดออกอย่างรุนแรงจนบานประตูนั้นพุ่งมาโดนพวกปีศาจสี่ตนที่กำลังต่อสู้อยู่กับพวกลีโอที่รีบหลบเมื่อเห็นบานประตูลอยมา หลายตาจ้องมองไปทางบานประตูก็เผยให้เห็นบุคคลที่โจมตีจนบานประตูกระเด้งมานั้นก็คือ โพรทาเลีย ที่รำคาญที่พวกยามเอาแต่บอกว่าไม่ให้เข้าไปถึงจะมีเหตุการณ์ร้าย แต่เธอทนไม่ไหวเพราะคนในครอบครัวเธออยู่ในนี้ พอบานประตูเปิดออกโพรทาเลียก็ได้เห็นสถานที่ที่คล้ายโคลอสเซียมมันก็ยิ่งทำให้รู้สึกแปลกใจกับสถานที่ประชุม แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าแม่ที่กำลังต่อสู้กัน

 

‘ถึงโลกไหน...แกก็อยู่ให้น่ารำคาญใจจริง ๆ นูอัส!!’ โพรทาเลียคิด

 

จบตอนที่ 99 โปรดติดตามตอนที่ 100 ต่อไป