ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 101 อธิบายความจริง โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 139 ขัดขวางจนตัวตาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 140 คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 141 จุดสิ้นสุดไม่ใช่จุดสิ้นสุดเสมอไป [จบ]

เนื้อหา

ตอนที่ 101 อธิบายความจริง

ตอนที่ 101 อธิบายความจริง

พลังของมนุษย์มีหลายรูปแบบเกินกว่าที่คนอื่น ๆ จินตนาการได้หลายรอบพันแปลก เพราะไม่มีใครรู้ว่าหลังจากเกิดมาจะมีพลังให้อะไรกันมั้ง แต่สำหรับบางคนก็เป็นกรณีพิเศษกว่าใคร ๆ อย่างพวกโพรทาเลียที่ตอนนี้ตัวเธอนั้นกำลังฟิวส์ขาด เพราะพี่ชายตะคอกใส่น้องสาวของเธอ แรงกดดันนี้ทำให้ทุกคนรับรู้ได้เลยว่าเด็กวัยสิบหกกำลังทำให้พวกเขาเสียเปรียบจากการโดนพลังของอีกฝ่ายกดตัว โฟกัสสัมผัสได้ถึงพลังของพี่สาวว่าพี่กำลังใช้พลังกดทุกคน จนทำให้เธอจ้องหันไปมองพี่สาวที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะจับไปที่ไหล่ของอีกฝ่ายแล้วเขย่าเพื่อเรียกสติทันที

 

“พี่หยุดเดี๋ยวเลยนะ!! เดียวพวกพี่เขาสลบกันพอดี!! หยุดปล่อยพลังกดดันนั้นเลยนะ!!” 

“อ๊า!! อ๊ะ!!” 

การเขย่าของน้องสาวทำให้อารมณ์ของโพรทาเลียแปรปรวนไปในทันใด จนเธอนั้นได้สติกลับมาก็ต้องนั่งย่อง ๆ เพราะมึนหัวจากการเขย่านั้น

“โฟกัส...เขย่าทำไม...” 

ทุกคนหลุดพ้นจากแรงกดดันนั้น บางคนถึงกับสลบไปตรงนั้น บางคนถึงกับหน้ามืดกันไปเลย บางคนยังตั้งสติของตนเองได้ก็ไปช่วยคนที่สลบไปในทันที โฟกัสเท้าเอวมองพี่สาวที่ทำอะไรไม่คิดทันที

“เห็นไหม? พี่ทำอะไรกัน!? เกือบทำคนตายเพิ่มแล้วนะ!! ลืมไปไหมว่าเราสองคนนั้นอยู่เหนือจากพวกมนุษย์กึ่งเทพทั่วไปแล้วนะ!!” 

“แต่ว่า...” โพรทาเลียเอานิ้วจิ้ม ๆ เข้าหากัน

“ไม่มีแต่!! แล้วต้องไปขอโทษทุกคนด้วย!!” โฟกัสดุพี่สาวอย่างหนัก

“ค่ะ...” โพรทาเลียถึงกับหงอยคอตก

 

สถานการณ์ตอนนี้สงบลงทันทีอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ใครคิด แต่พวกเขากำลังมองคนเป็นน้องสาวกำลังดุพี่สาวของตน เอเดอร์ที่เดินมาดูแม่ที่สลบไปแล้วตั้งแต่ที่โพรทาเลียปล่อยแรงกดดันนั้นออกมา เขาตรวจสอบว่าแม่ไม่เป็นอะไร ก่อนจะเงยหน้ามองน้องสองคนที่กำลังสั่งสอนกันและกันอยู่ ทำเอาเขาคิดเลยว่าทั้งสองคนนี้เหมือนขั้วบวกกับขั้วลบเลยจริง ๆ ต่างจากน้องทั้งสองของเขาจริง ๆ

 

หลังจากจบเรื่องโพรทาเลียก็ได้ไปขอโทษทุกคนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ถึงแม้จะมีบางคนไม่คิดมากอยู่แล้วยกเว้นพี่คนโตที่ยังเคืองใจกับน้องคนที่สี่อย่างเธอก็ตามที แต่เขาก็โกรธน้องสาวไม่ลงเนื่องจากตอนนั้นเขาก็ตะคอกน้องเช่นกันเป็นใครไม่โกรธมั้ง เขาขอโทษอีกฝ่ายเช่นกันที่ไม่ฟังอะไรเอาแต่ตะคอก เพราะความเป็นห่วงที่ดูจะเกินเหตุไปสักหน่อย ถ้าดูจากสถานการณ์การต่อสู้เมื่อกี้เขาไม่ต้องห่วงน้องเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าไม่มีการต่อสู้นั้นเขาคงส่งตัวน้อง ๆ กลับไปแล้ว เวลาผ่านไปพวกเขาพาตัวคนที่ยังไม่ได้สติไปยังอีกสถานที่ที่ปลอดภัยนั้นก็คือโรงพยาบาลในเครือมนุษย์กึ่งเทพ

 

ครั้งแรกที่พวกโพรทาเลียเห็นสถานที่ตรงหน้านั้น โฟกัสเคยแค่ได้ยินแต่ยังไม่เคยมา นี่เลยเป็นครั้งแรกที่มาที่แห่งนี้ ทุกคนที่พามาต่างก็พาไปยังห้องพักฟื้นกัน ส่วนบางคนที่พอประคองสติได้ก็มาพักในห้องรับรองที่ใหญ่กว่าห้องไหน ๆ ทุกคนต่างพักอยู่ในสภาพอากาศเย็น ๆ อย่างสบายใจ โพรทาเลียรู้สึกชอบใจกับบรรยากาศเย็น ๆ มากกว่าร้อน ๆ ระหว่างที่พักอยู่ในห้องนั้นพวกผู้ใหญ่พากันเข้ามาข้างในแล้วจะประชุมกันอย่างสบาย ๆ ไม่อะไรกันมาก แล้วโพรทาเลียก็เห็นพี่เบเดอร์ที่มีผ้าปิดแผลที่ปลายคางเดินเข้ามาพร้อมหีบที่โพรทาเลียช่วยเอาคืนมา เขายื่นให้ผู้ใหญ่อีกคนก่อนจะเดินมานั่งกับพวกโพรทาเลีย แต่สายตาของโพรทาเลียจับจ้องหีบนั้นอย่างสงสัย เธอรู้สึกถึงพลังของคนที่คุ้นเคยชอบกล พวกผู้ใหญ่มายืนหน้ากระดาษเรียงหนึ่ง

 

“เอาล่ะ ทุกคน สถานการณ์ตอนนี้กำลังตึงเครียด พวกที่ตามปีศาจสาวที่ชื่อนูอัสตามที่โพรเทียบอก"

ทุกคนต่างมองมาทางโพรทาเลีย ระหว่างที่ธาเลียเอ่ยขึ้นถึง ทำเอาโพรทาเลียระแวงสายตาที่จับจ้องเธอทันที

“แล้วเธอรู้ได้ไงนะ?” เบเดอร์เอ่ยถาม

“ไม่ต้องรู้หรอก พี่” โพรทาเลียตัดบทอีกฝ่ายในทันที

“อึ้ก!!” 

“รู้สึกพวกนั้นจะหนีไปทางทะเลคงเป็นปีศาจทะเล…” ลีโอเอ่ยพูดขึ้นพร้อมกับมองเอกสารในมือ

“พวกนั้นคงหนีกลับไปเกาะของเจ้านายนั้นล่ะ” 

“เอ๋?” ทุกคนต่างตกใจกับคำพูดของโพรทาเลียอีกครั้ง

“เดียวนะ เด็กน้อยทำไมเธอรู้เรื่องนี้ได้ล่ะ?”

“…” พอผู้ใหญ่ถามแบบนั้นทำให้โพรทาเลียมองออกไปข้างนอกทันที “ไม่ขอพูดดีกว่าค่ะ แต่ขอบอกว่ารู้ก็แล้วกัน” 

“อ๊ะ!” ลีโอได้ยินแบบนั้นรู้สึกว่าเด็กน้อยมีลับลมคมในสุด ๆ

“งั้นคงต้องคุยกันที่หลัง ก่อนหน้านี้ได้ข่าวมาจากค่ายฮาล์ฟบลัดว่าโดนโจมตีไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว” 

“ว่าไงนะ!!” 

“มีคนบาดเจ็บไหมครับ?” 

“น้อง ๆ พวกผมล่ะ?” 

“ไม่ต้องห่วง ไครอนบอกว่าเด็กที่อยู่ที่นั่นจัดการไปหมดแล้ว” เรเชลเอ่ยแล้วมองไปจุดจุดหนึ่ง ”แต่รู้สึกเด็กทุกคนจะบอกว่ามีคนเดียวที่จัดการรู้สึกจะอธิบายแค่ผมดำ ดวงตาสีเขียว มีรอยแผลบนร่างกายแล้วก็เป็นเด็กผู้หญิง” 

“ผมดำ?” 

“ดวงตาสีเขียว?” 

“รอยแผลตามร่างกาย...แล้วก็เด็กผู้หญิง...” เอเดอร์พูดแล้วหันไปมองคนข้าง ๆ ที่ตรงกับที่คุณเรเชลพูด

โพรทาเลียรู้สึกถึงสายตาข้าง ๆ ก็มองอย่างสงสัยว่ามีอะไร “อะไรคะ?” 

“เปล่านะ...” 

เอเดอร์หันไปมองตรงหน้า เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายนั้นจะไม่เห็น แค่เรื่องก่อนหน้าก็น่ากลัวแล้ว แล้วในค่ายเจออะไรมั้ง

“แล้วในค่ายเจอกับอะไรที่โจมตีเหรอครับ?” ชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยพูดขึ้น

โฟกัสได้ยินเสียงที่เอ่ยถามนั้นทำให้เธอหันไปมองก็เห็นชายหนุ่มที่ไว้หนวดไว้เคราเหมือนกับชายสมัยโบราณที่ชอบไว้รกบนใบหน้า โฟกัสมอง ๆ รู้สึกคุ้น ๆ หน้าอีกฝ่ายชอบกล

“คนที่ถามเป็นเธอเหรอเนี่ย? คราวิล” 

 

‘คราวิลเหรอ!?’ โฟกัสคิดใบหน้าของเธอมีสีแดงระรื่นเด่นชัด

‘หือ...คราวิล...หมอนี้ดูสกปรกกว่าคราวิลพวกเราอีกแฮะ...อ๊ะ...’ โพรทาเลียกำลังคิดอยู่นั้นก็หันไปเห็นใบหน้าของโฟกัสที่เป็นประกายทันที

‘คราวิล...แบบไว้หนวด...หล่อเกินคาด...’ 

‘เดียวเถอะคุณน้อง พี่จะไปฟ้องคราวิลนะ’ โพรทาเลียพูดออกมาให้อีกฝ่ายได้ยิน

 

โฟกัสได้ยินก็หันมาแล้วทำท่าทางสะบัดมือแบบห้ามบอกเด็ดขาด ทำเอาคนเป็นพี่มองกันว่าสองคนนี้ทำอะไรกัน ก่อนที่พวกผู้ใหญ่จะพูดต่อ

“พวกที่เด็ก ๆ บอกว่าปีศาจที่เจอมีตั้งแต่ยักษ์ไซคลอปส์จนไปถึงไททันเลยล่ะ” 

“ไททัน!!” 

“อยากเห็นเด็กที่ต่อกรกับไททันเลยแฮะ...” 

“ฉันอุตส่าห์ใบ้ให้แล้วนะ” เรเชลเอ่ยพร้อมกับสายตาที่หันมามองโพรทาเลีย

สายตานั้นทำให้โพรทาเลียไม่กล้ามองไปทางที่กำลังมองเธอจริง ๆ ทำเอาเธออยากอยู่ในร่างของคีย์แทนจริง ๆ

“แล้วก็เขามีข้อความมาบอกว่าช่วยดูแลเด็กสองคนที่ออกมาจากค่ายเพื่อมาหาพวกเราด้วยนะ จริงไหม? สองแฝดแจ็กสัน” 

“อึ้ก!!” สองพี่น้องได้ยินก็สะดุ้งทันที อุตส่าห์หลบการสนทนาก็ยังหาเรื่องมาให้พวกเธออีก

“ไครอนบอกว่าพวกเธอมีเหตุผลที่มาหาพวกเราในการประชุมครั้งนี้สินะ”

“ก็...นิดหน่อย...นะคะ...” โฟกัสหลบสายตาแบบไม่อยากพูดเลยจริง ๆ

“เฮ้อ...เรื่องมาขนาดนี้แล้วสินะ...คนที่อยู่ที่นี่มีตั้งแต่คนของค่ายฮาล์ฟบลัดจนไปถึงพรานหญิงสินะคะ” โพรทาเลียลุกขึ้นยืนแล้วล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกง

“ใช่แล้วล่ะ ทำไมเหรอ?” 

“เพราะว่าอยากคุยกับแค่กับคนจำนวนน้อย ๆ เพราะว่า...หนูไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ ถ้าตรวจสอบว่าใครในนี้เป็นหนอน...ฉันจะฟันไม่เลี้ยงเลยล่ะ!!”

โพรทาเลียกวาดสายตาคนในนี้ที่ถึงจะไม่มีใครเป็นหนอน แต่เธอก็จะคาดโทษไว้ถ้าใครนั้นจะย้ายฝั่ง ทำให้คนที่อยู่ที่นี่บางคนที่มีความคิดที่อยากจะเอาตัวรอดเหงื่อตกทันที

“ฉันสาบานเลยว่าคนของเราไม่มีใครเป็นหนอนแน่ ๆ” เรย์น่าพูดอย่างไม่ชอบใจกับคำพูดเด็ก

“ขอให้จริงละกันค่ะ...เพราะว่าถ้าพวกเราไม่อยู่พวกคุณก็ต้องจัดการกันเอง”

“ไม่อยู่?” เบเดอร์ขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“น้อง ๆ จะไปไหนกันอีกล่ะ?” โอราอุสเอ่ยถามออกมา

เอเดอร์ได้ยินแบบนั้นก็รับรู้ว่าโพรทาเลียหมายถึงอะไรนั้นทำให้คิดเลยว่าใกล้ถึงเวลาที่สองคนนี้จะไปงั้นเหรอ

“พวกเธอ...จะกลับไปโลกตัวเองสินะ...” 

 

คำพูดของเอเดอร์ทำให้หลายคนตรงนั้นต่างพากันงุนงงกับคำว่ากลับโลกตัวเอง ระหว่างที่กำลังอ้ำอึ้งนั้นก็มีบางคนเดินกันเข้ามาข้างในเพื่อจะประชุมหารือ แต่พอคนสุดท้ายเข้ามาก็คือแอนนาเบ็ธ เธอคิดว่าควรจะล็อกประตูไม่ให้ใครเข้ามาวุ่นวายเวลาประชุมเธอก็เลยล็อกประตูในทันใด ก่อนจะหันไปมองสถานการณ์ว่าตอนนี้เป็นไงมั้งในการประชุมครั้งที่สอง แต่ว่าเธอกับรู้สึกว่ามันตึงเครียดชอบกล แอนนาเบ็ธเดินไปตรงที่พวกของเธออยู่ก่อนจะเอ่ยถามไพเพอร์

 

“เกิดอะไรขึ้นนะ? ไพเพอร์”

“แอนนี่! เมื่อกี้เธออยู่ห้องพักฟื้นไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงไม่พักผ่อนนะ?” 

“ไม่เอานะ...พอพักแล้วกังวลนะ...ขอฉันมาฟังการประชุมก่อนดีกว่า...แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นทำไมทุกคนดูตึงเครียดกันจัง?”

“ก็...เมื่อกี้ลูกสาวคนโตของเธอพูดอะไรบางอย่างที่ไม่เข้าใจแถมลูกชายของเธอเอเดอร์ยังพูดกับน้องสาวตัวเองว่าจะกลับโลกตัวเองเหรอ? ทำเอาทุกคนสงสัยว่าเด็ก ๆ พูดอะไรกัน?

“เอ๋?” แอนนาเบ็ธฟังอีกฝ่ายก็สงสัย ก่อนที่จะหันไปมองลูก ๆ ของเธอที่อยู่ริมห้องนี้

โพรทาเลียมองพี่เอเดอร์ถึงจะโลกไหนก็ดูรู้ไปหมดทุกอย่างสมกับเป็นสายเลือดอาธีน่าจริง ๆ

“ก็ตามที่พี่รู้ก่อนหน้าจากเรา...สักวันเราก็ต้องกลับโลกเดิมอยู่ดี พี่เอเดอร์” 

“แต่...” เอเดอร์ไม่อยากให้อีกฝ่ายไปเลย เพราะว่าสองคนนี้ดูเก่งกว่าน้องของพวกเขาอีก

“เดียว ๆ พวกนายพูดถึงอะไรกันเนี่ย?” เบเดอร์ขัดทั้งสองคนคุยกันด้วยความไม่เข้าใจที่สองคนพูด

โพรทาเลียมองพี่เบเดอร์ที่อยู่โลกไหน ๆ ก็ไม่ฉลาดเท่าพี่คนเล็กเลย เธอถอนหายใจอย่างแรงจนทำเอาคนเป็นพี่มองด้วยสายตาไม่พอใจกับท่าทางของน้องสาว

“นี่...เธอ!” 

“เอาล่ะ พูดเยอะเกินไปล่ะ งั้นขอแนะนำตัวหน่อยละกัน”

“เดียวสิ!! มาเมินพี่ชายเนี่ยนะ แล้วอีกอย่างทุกคนก็รู้หมดล่ะนะว่าเธอเป็นใครนะ โพรเทีย” 

“ไม่รู้ต่างหาก อีกอย่างฉันไม่ได้ชื่อโพรเทีย!”

“ว่าไงนะ!?” 

แอนนาเบ็ธนั่งฟังลูกสาวพูดก็ตกใจว่าทำไมลูกสาวถึงพูดแบบนั้นแล้วบอกว่ามาจากอีกโลกหนึ่งและบอกว่าไม่ได้ชื่อโพรเทียอีก เธอยิ่งสับสนเข้าไปอีกว่าลูกสาวหมายถึงอะไร

”ชื่อของฉันนั้นมาจากบุคคลที่พ่อนับถือที่สุดชื่อแรก ชื่อของปู่โพไซดอน และชื่อที่สองเป็น...เอ่อ...” 

“ชื่อที่สองคือธิดาของซุส คุณธาเลียที่เป็นพรานหญิง” โฟกัสช่วยเสริมขึ้นมา เพราะเธอจำได้ว่าชื่อของพี่มาจากอะไร

“ใช่ ๆ” 

“เอ๋?” ธาเลียที่อยู่ตรงนั้นก็หน้าแดงที่เพอร์ซีย์เอาชื่อเธอไปเสริมใส่ชื่อลูกสาวด้วย

“แล้วชื่อของฉันก็คือ โพรทาเลีย แจ็กสัน ลูกคนที่ 4 จากลูกทั้ง 8 คนของครอบครัวแจ็กสัน”

“8...คน...” พวกพี่ชายได้ยินก็กะพริบตากันเป็นสายตาเดียวกัน

“ส่วนฉัน โฟกัสเมซ่า แจ็กสัน ลูกคนที่เท่าไหร่...ทุกคนก็น่าจะรู้นะคะ...” 

“8…คน...ไพเพอร์...ฉันได้ยินไม่ผิดนะ…” แอนนาเบ็ธหันไปหาไพเพอร์อย่างสงสัย

“ไม่ผิด...เพราะฉันก็ได้ยิน...” 

“เราทั้งสองคนมาจากอีกโลก แล้วพวกเราสองคนถูกส่งมายังโลกนี้โดยใครไม่รู้ พวกเราเลยอยากขอความร่วมมือกับพวกคุณเพื่อพาเรากลับไปยังโลกของเรา...ที่อีกไม่ช้า แซเทิร์นจะบุกมาตอนไหนก็ไม่รู้” 

“แซเทิร์น!? หมายถึงร่างแยกของโครนอสน่านะ”

“ผิดแล้ว...แซเทิร์นก็คือแซเทิร์น โครนอสก็คือโครนอส...พวกเราไม่รู้หรอกนะว่าโลกนี้จะเหมือนกับโลกของเรามากน้อยแค่ไหน...แต่สำหรับโลกของเรานั้นโครนอสคือคนพี่ ส่วนแซเทิร์นคือคนน้อง แล้วเรื่องทุกอย่างนั้นมีอะไรที่แปลกไปหมด” 

“อ๊ายยยยย! นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ลีโอตาลายไปหมดกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

“อืม อย่างงี้ก็อธิบายถึงพละกำลังของโพร...เอ่ย...” เรเชลเอ่ยขึ้น แต่เธอลำบากใจการเรียกชื่อเด็กชอบกล

“เรียกโพรก็ได้ค่ะ ง่ายกว่าเรียกโพรทาเลียเต็มยศล่ะนะ” 

“ส่วนหนูเรียกโฟกัสก็ได้ค่ะ ยังไงคุณเรเชลก็ชอบเรียกหนูว่าโฟกัสอยู่แล้ว” 

“งั้นเหรอ...ก็ได้จ้ะ...” 

“คุณเรเชลเหรอ?” 

“ใช่ พี่ยังไม่เคยเห็นเธอนี่น่า คุณเรเชลเป็นถึงผู้บริหารใหญ่ของโลกเลยนะ! แล้วก็เป็นถึงผู้หยั่งรู้ในค่ายของเราเชียวนะ!!” 

เรเชลฟังที่เด็กอธิบายถึงตัวเองในโลกของพวกเขาทำเอาหน้าเธอเขินอย่างประมาทสุด ๆ

“นี้ ๆ โฟกัส พูดชมคุณเรเชลจนเขาหน้าแดงไปหมดแล้ว” โพรทาเลียชี้ไปทางคุณเรเชลที่หน้าแดงจนโดนคนอื่น ๆ แซว

“อ๊า ขอโทษค่ะ...” โฟกัสกล่าวขอโทษที เธอลืมไปว่านี้ไม่ใช่โลกของเธอ

“มีคำถาม!!” เบเดอร์ยกมือขึ้นมาจนทุกคนหันไปมอง

“มีอะไรหรือ? เบเดอร์” 

“ผมขอถามเจ้าสองหน่อบ้านแจ็กสันครับ!!” 

“ถามพวกเรา? ทำไมเหรอ?”

“ที่บอกลูก 8 คนหมายความว่าไง!? ในโลกนี้พวกเรามีกันแค่ 5 คนเองนะ!” 

“ก็…” โพรทาเลียกับโฟกัสมองหน้ากันก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น “ก็หมายความตามนั้นล่ะ”

“เอ๋!? จะบอกว่าแม่มีลูกเพิ่มอีก 3 คนหลังพ่อเสียเหรอ?” 

“ใครว่าล่ะ?” โพรทาเลียกอดอกมองพี่ชายคนรองอย่างสงสัย ”ก็ต้องลูกของพ่อเราสิ”

“อ๋อ...” พวกพี่ชายทั้งสามพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะตกใจกัน “ว่าไงนะ!!” 

เสียงตะโกนของทั้งสามทำเอาหลายคนต่างต้องปิดหู เพราะเสียงของทั้งสามคน แล้วโอราอุสก็ลุกขึ้นเพื่อจะถามทั้งสองอย่างสงสัย

“พวกเธอหมายความว่าไง? จะบอกว่าโลกของพวกเธอพ่อยังมีชีวิตอยู่เหรอ?”

“ลืมไปว่า...โลกนี้พ่อเสียแล้วนี่น่า...” โพรทาเลียลืมคิดถึงพ่อของเธอในโลกนี้จริง ๆ ก่อนจะหันไปหาพี่ชาย ”ใช่...ในโลกของเรานั้น พ่อยังมีชีวิตอยู่นะ” 

“เดียวนะ ลูกสองคนจะบอกว่าโลกของลูก ๆ พ่อ...ยังอยู่เหรอ?” 

แอนนาเบ็ธตะโกนขึ้นมาทำให้พวกลูก ๆ ต่างหันไปมองก็สงสัยว่าแม่มาตั้งแต่ตอนไหน โพรทาเลียมองแม่ที่ผอมจริง ๆ จนเธอพยักหน้าเบา ๆ

“ใช่ค่ะ...ในโลกของหนูเขายัง...มีชีวิตอยู่นะ...”

“อ๊ะ...!” แอนนาเบ็ธได้ยินแบบนั้นก็ตะลึงที่โลกของทั้งสองคนสามีที่เธอรักยังอยู่ แล้วทำไมโลกของเธอถึงขาดเขาไปกันจนเธอกำหมัดแน่นด้วยสีหน้าอมทุกข์ “งั้นเหรอ...” 

“แม่ครับ...” 

“คุณแม่...” 

โพรทาเลียเห็นท่าทางของแม่นั้น เธอเข้าใจการสูญเสียเป็นยังไง ความรู้สึกเจ็บปวดใจ ทรมานเหมือนมีอะไรกรีดหัวใจ เธอถอนหายใจเบา ๆ แล้วยกมือเท้าเอวยิ้มอย่างร่าเริงออกมา

“ถึงคุณพ่อไม่อยู่แล้วก็ตามที่หนูก็อยากให้แม่สู้ต่อนะคะ!! สู้ต่อในส่วนของพ่อเขา หนูว่าพ่อก็ต้องการแบบนั้นเขาไม่อยากให้แม่มาอมทุกข์หรอกนะคะ” 

แอนนาเบ็ธได้ยินแบบนั้นก็นึกถึงเพอร์ซีย์ที่เคยพูดว่าถ้าใครคนใดตายจากไปก่อนก็ต้องอยู่ให้ได้เพื่อตัวเองและลูก ๆ แอนนาเบ็ธนึกก็ลืมคำสัญญานั้นก่อนจะยิ้มออกมา

“อืม...ขอบใจนะ โพร...ทาเลีย...แม่จะพยายามนะ...” 

“ค่ะ!!” 

พอเห็นสถานการณ์ที่ไม่เข้ากับการประชุมตอนนี้ โพรทาเลียก็หันกลับมาคุยกับทุกคนต่อในทันที

“เอาล่ะ ๆ คุยเรื่องส่วนตัวมากไปแล้วสินะคะ พวกเราก็แค่มาหาเบาะแสเพื่อกลับโลกเดิม แต่ที่ฟัง ๆ จากค่ายฮาล์ฟบลัดก็มาส่วนหนึ่ง เลยอยากมาฟังจากผู้ใหญ่ที่อายุเท่าพ่อเพื่อเพิ่มข้อมูลล่ะนะ” 

“ข้อมูลเหรอ?” 

“เราจะมีข้อมูลอะไรให้นะ?” 

“อืม ๆ” พวกเขาพยักหน้ากันอย่างเห็นด้วยกับสิ่งที่เรย์น่าพูดขึ้น

“ก็อย่างเช่นข้อมูลจากในค่ายก็มีหลายอย่างเลย เช่นคนดูแลค่ายปัจจุบันยังเป็นคุณดี แต่โลกของเรานั้นคนดูแลค่ายคือพ่อของเรา” 

“ห๊า! ตาแจ็กสันเนี่ยนะ! เป็นผู้ดูแล!!” 

“ว้าว เพอร์ซีย์เป็นผู้ดูแลค่าย ฉันอยากเห็นเลยแฮะ!!” โกรเวอร์เอ่ยอย่างชอบใจ

“แหะ ๆ” 

“แล้วนอกจากพ่อเป็นผู้ดูแลมีอะไรที่ต่างจากนี้อีกไหมนะ?”

“ก็เยอะเลยล่ะนะ...เช่น...ประตูเชื่อมระหว่างสองค่ายนะ”

“ประตูเชื่อมระหว่างสองค่าย?” 

“ระหว่างค่ายฮาล์ฟบลัดกับค่ายจูปิเตอร์นะคะ” โฟกัสพูดเสริมขึ้นมา

“ว้าว...แบบนี้สองค่ายก็ผ่านกันไปกันมาได้นะสิ”

“ค่ะ แต่แค่บางครั้ง ไม่บ่อยเกินไป พวกเราจะมีเวลาเดินผ่านกันตามเวลาที่กำหนดนะคะ” 

“อืมมม แบบนี้เราต้องคุยกับค่ายฮาล์ฟบลัดกันหน่อยแล้วล่ะ ว่าจะสร้างยังไงดี” เรย์น่ากล่าวเธอสนใจสิ่งนั้น เพราะถ้าเชื่อมต่อระหว่างสองค่ายอาจจะเป็นเรื่องนี้

“หนูแนะนำว่าคุยกับเฮเฟตัสดีที่สุดนะคะ” 

“ขอบใจสำหรับคำแนะนำโพรทาเลีย"

“ค่ะ เรื่องอื่นก็มีให้พูดเยอะแต่เราขอไม่พูดเยอะเกินไป...” โพรทาเลียยิ้มอย่างเป็นมิตรก่อนจะนึกบางอย่างได้อีกเรื่อง ”เอ่อ...ถ้าพวกคุณจะไปบนเกาะที่พวกปีศาจไปพวกคุณต้องระวังอะไรอีกเยอะเลยล่ะ”

“งั้นเหรอ ไว้ค่อยมาคุยกันดีกว่านะ” 

“โอเคค่ะ แล้วโลกของพวกคุณตั้งแต่หลังก่อนที่พ่อพวกหนูเสียไม่มีอะไรที่แปลกประหลาดหรือมีจุดเปลี่ยนอะไรมั้งนะคะ”

“ถ้าให้นึก ๆ ก็…” 

“เราไม่รู้ว่าโลกของเรานั้นมีจุดเปลี่ยนอะไรมั้งที่ต่างไปจากพวกเธอมั้ง คงต้องไปไล่กันยาว ๆ งั้นต้องย้ายสถานที่ล่ะนะ” 

“งั้นเหรอคะ...” 

 

สิ่งที่พวกผู้ใหญ่พูดก็เป็นความจริง เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าโลกตัวเองมีจุดเปลี่ยนอะไรมั้ง แล้วเธอก็ไม่รู้ว่าโลกตัวเองนั้นมีจุดเปลี่ยนอะไรมั้งตอนเธอไม่อยู่ในค่าย ยิ่งทำให้เธอครุ่นคิดยิ่งกว่าเดิม ระหว่างที่โพรทาเลียกำลังใช้สมองอยู่นั้น โฟกัสก็นั่งอยู่เฉย ๆ อย่างไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรดี เธอก็มองซ้ายมองขวาอยู่ไปเรื่อย ๆ จนสายตาไปมองหีบที่พวกผู้ใหญ่เอามาวางบนโต๊ะไปแล้วนั้นทำให้เธอได้มองอย่างชัดเจนก็รู้สึกว่าคุ้นเคยจนถึงบางอย่างในอดีตได้

 

‘กล่องนี้เปิดตอนครบรอบวันเกิดแต่ละคน แต่ถ้ามีเรื่องฉุกเฉินค่อยมาเปิดกันนะ’ 

 

เสียงของพ่อดังอยู่ในหัวของโฟกัสจนเธอจำได้ว่าเคยเห็นหีบตรงหน้าตอนนี้ที่ไหน ก่อนจะลุกขึ้นพรวดพราดทันที

“หีบนั้น!!” 

เสียงตะโกนของโฟกัสทำให้ทุกคนต่างตกใจรวมไปถึงโพรทาเลียด้วยที่ตกใจที่น้องสาวจู่ ๆ ก็ตะโกนขึ้นมา

“โฟกัส เธอเป็นอะไรนะ?” 

“หีบอันนั้นนะ” โฟกัสชี้ไปทางที่หีบวางไว้ตรงหน้าพวกผู้ใหญ่

“หีบทำไมเหรอ?” เรเชลเอ่ยถาม

“จริงด้วย โฟกัส หีบมันทำไมเหรอ?” 

“หีบกล่องนั้น ฉันจำได้แล้วว่าเคยเห็นที่ไหน?”

“เธอรู้เหรอว่าเคยเห็นที่ไหน แล้วรู้ไหมว่าเจ้าของเป็นใคร” เรย์น่าจี้ถามจนคนอื่น ๆ มอง

“เรย์น่า ใจเย็น ๆ หน่อย” 

“โทษที...” 

“น้องบอกได้ไหมว่าหีบนั้นมาจากไหนนะ?” 

“จากโลกเรา หีบนั้นเป็นของพ่อ” 

“ว่าไงนะ?” 

 

จบตอนที่ 101 โปรดติดตามตอนที่ 102 ต่อไป