ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย
น้ำเสียงที่เอ่ยเรียกชื่อหนึ่งเมื่อมองร่างอันไร้การเคลื่อนไหวที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศนั้น ทุกคนต่างมองกันเป็นสายตาเดียวว่าสิ่งตรงหน้าใช่สิ่งที่พวกเขาคิดหรือไหม นอกเว้นแต่โพรทาเลียที่ตอนนี้สมองของเธอมันว่างเปล่าไปหมด หัวใจเหมือนจะหยุดเต้นเมื่อมองชายที่เป็นพ่อของคนรักแน่นิ่งอยู่กลางอากาศยิ่งทำให้เธอนึกภาพของคนที่เห็นรักกำลังสลายหายไปเธอไม่อยากให้เป็นแบบนั้น โฟกัสที่กำลังมองร่างที่ลอยอยู่เธอก็หันกลับมามองพี่สาวที่ร่างกายเริ่มมีอาการสั่น
“พี่ค่ะ...”
โพรทาเลียไม่ได้ยินเสียงเรียกก็โฟกัสแต่อย่างใดยิ่งความรู้สึกของเธอกำลังจมลงสู่ความมืดในจิตใจ แต่แล้วก็เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหัวของเธอ
‘ตั้งสติหน่อย ถ้าเธอเอาแต่หวาดกลัวแล้วจะทำอะไรได้ล่ะ’ เสียงทุ้มเอ่ยพูดกับเธอ
‘ฟี...ฟีนีอุส...’ โพรทาเลียคิด
โพรทาเลียเบิ่งตากว้างจนลูกม่านตาเล็กลงเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เธอนึกถึง เขาหันมามองเธอพร้อมกับยิ้มให้เธอก่อนที่จะสลายหายไปเหมือนภาพลวงตา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอนึกถึงเขาจนเห็นภาพหลอนนั้นยิ่งทำให้เธอรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นสำคัญกับเธอเพียงใดก่อนที่เธอนั้นจะยกมือทั้งสองข้างตบลงบนแก้มทั้งสองอย่างแรงจนทุกคนต่างหันมอง โฟกัสเห็นพี่สาวทำร้ายร่างกายอีกแล้วจนเธอนั้นช่างเป็นห่วงจนเอ่ยเรียกอีกฝ่าย
“พี่ค่ะ...”
“เข้าไปดูกัน!”
สีหน้าอันตื่นกลัวของโพรทาเลียเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังที่เตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ตรงหน้า แต่พวกอดีตชาติยังกังวลกับสิ่งที่เห็นว่าสิ่งตรงหน้าจะเป็นกับดักหรือเปล่า ก่อนที่คนหนึ่งในกลุ่มจะเดินมาหาโพรทาเลีย
“ข้าขอแนะนำอย่าพึ่งทำอะไร เจ้าไม่กลัวหรือไงว่าจะเป็นกับดัก!?”
โพรทาเลียเงยหน้ามองแดเรียล “ธีเอมัสก็สลบไปแล้ว พวกนายคิดว่าเขาจะทำอะไรได้เหรอ?”
“แต่ว่า...”
แดเรียลกำลังหาเหตุผลหยุดร่างจุติ แต่ว่าสีหน้าและสายตาของอีกฝ่ายนั้นทำเอาเขานั้นเหงื่อไหลพล่านไปทั้งใบหน้า ก่อนที่เขาจะหันไปหาทุกคนที่อยู่ด้านหลังเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ทุกคนนั้นต่างมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่บอกว่าให้ยอม ๆ ร่างจุติซะดีกว่า เพราะยังไงเขาก็ไม่ฟังพวกเราแล้วแน่ ๆ แดเรียลส่ายหัวแล้วบอกว่าไม่ยอมแพ้แน่ ๆ เขาไม่ยอมให้ร่างจุติต้องมีปัญหาอีก ทำเอาทุกคนมองแดเรียลที่เหมือนพี่ชายที่หวงน้องสาวเกินไประหว่างที่พวกแดเรียลกำลังคุยด้วยสายตานั้น โฟกัสก็รีบเดินไปจับแขนของพี่สาวทันใด
“อย่าไปสนใจดีกว่านะ เราไปกันเถอะ”
“อืม! ไปกัน”
โพรทาเลียพยักหน้าให้น้องสาว ทั้งสองเดินนำไปข้างหน้ากันอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจแดเรียลที่กำลังคุยกับพวกอดีตชาติ จนแดเรียลรู้สึกว่าอีกฝ่ายหนีเขาไปแล้ว
“เห้ย!! เจ้าทั้งสองคน!! ไม่ฟังข้าเลยเหรอ!?” แดเรียลตะโกนพูดกับหญิงสาวทั้งสองที่เดินหนีเขาไปแล้ว
“พอเถอะ!! แดเรียล”
แดเรียลหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงอันแข็งกระด้างเอ่ยห้ามเขา เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นรัลอยู่ในรูปลักษณ์ของชายรูปงาม รัลเดินตรงเข้ามาแตะไหล่อีกฝ่ายเบา ๆ ด้วยความเบื่อหน่ายกับความดื้อรั้นของอีกฝ่าย
“ถึงเจ้าห้ามไปแบบนั้น มีฤๅว่าพวกนางจะยอมฟัง”
“แต่ว่า...!!”
“เจ้าคงไม่ลืมว่าพวกเราแต่ละคนก็อายุเท่าพวกนาง”
“...” แดเรียลได้ยินแบบนั้นก็งุนงงว่าอายุพวกเขานั้นเกี่ยวอะไร “แล้วมันเกี่ยวอะไร?”
“ข้าสื่อหมายถึงพวกเราอายุเท่าพวกนางมีหรือพวกนางจะสนใจฟังคำห้ามของเรากัน?”
“เอ่อ...แต่พวกเราบางคนก็อายุเกือบร้อย ๆ ปีแล้วนะ...รัล...” ลักซ์เอ่ยพูดแทรกขึ้นมา
“ทำอย่างกับอายุร้อยปีแล้วนับเป็นอายุมนุษย์ไม่เข้าเลข 15 กันเลยฤๅ”
รัลกล่าวแบบนั้นก็นับอายุแต่ละคนถึงอายุเป็นร้อยปี ถ้าสำหรับเทพนั้นก็คือว่าเป็นเด็กกันทั้งนั้นบางคนตรงนั้นก็มีอายุได้แค่สิบห้า บางคนก็อายุปาไปร้อยปีด้วยซ้ำ แต่ยังไงซะสำหรับเทพที่อายุมากกว่าพันปีก็คิดว่าพวกเขายังเป็นเด็กด้วยซ้ำ ไม่มีใครกล้าเถียงคำพูดของรัล ทุกคนก็พากันตามทั้งสองคนที่เดินไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่ง โพรทาเลียกับโฟกัสเดินกันจนมาถึงร่างที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศ เธอเห็นใบหน้าอย่างชัดเจนความคล้ายคลึงของใบหน้าที่เธอจำได้ ใบหน้าของคุณเจสัน ภายในใจมันรู้สึกเหมือนอะไรมาอุดตันจนรู้สึกอึดอัดไปหมด เธอกำลังเอื้อมมือไปข้างหน้าเพื่อแตะร่างคุณเจสัน พอมือของเธอแตะเพียงเล็กน้อยร่างกายที่ล่องลอยอยู่นั้นก็กำลังจะตกลง
“อ๊ะ!!” โพรทาเลียรีบตรงดิ่งไปรับร่างกายนั้นทันที “คุณเจสัน!! คุณเจสัน!!”
เสียงเรียกนั้นไร้การตอบรับจนโพรทาเลียต้องตรวจสอบชีพจรของชายหนุ่มก็สัมผัสถึงการเต้นที่อ่อนและร่างกายที่อยู่ครึ่งกลางระหว่างอุ่นและเย็น แต่ก็ยังไม่สามารถโล่งใจได้เพราะว่าร่างนี้มีแค่ร่างกายแต่ไร้วิญญาณ สภาพร่างกายของอีกฝ่ายนั้นบาดเจ็บจนมีเลือดไหลแต่เลือดนั้นก็แห้งไปแล้ว ลูกธนูที่ติดอยู่กับร่างกายอีกฝ่ายเธอพยายามจะดึงออก แต่ก็พึ่งนึกได้ว่าถ้าดึงออกอีกฝ่ายจะเสี่ยงอันตรายอะไรไหม เธออยากได้สิ่งของที่จะช่วยรักษาอีกฝ่ายแต่วัตถุดิบในการทำยาก็ไม่มีแล้ว แถมสิ่งที่ช่วยฟื้นชีวิตคนตายอย่างขนแกะทองคำก็ไม่มี จนเธอนั้นใช้ความคิดวิเคราะห์สถานการณ์อย่างครุ่นคิด
โฟกัสมองคุณเจสันวัยรุ่นอย่างสงสัยว่าจะช่วยยังไงก่อนที่เธอจะหันไปมองพี่สาว “พี่ค่ะ...”
โพรทาเลียหันไปมองน้องสาวเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามออกไป “อะไรเหรอ?”
“คุณเจสันเขา...”
“ยัง...ยังไม่ตาย...แต่แค่...”
“แต่แค่...?”
“กึ่งเป็นกึ่งตายเท่านั้นล่ะ”
“ว่าไงนะ...แล้วเราจะช่วยเขายังไง?”
คำถามของน้องสาวเป็นสิ่งที่โพรทาเลียไม่กล้าตอบว่าจะช่วยชายหนุ่มอย่างไงโดยที่เธอไม่มีแผนการอะไรเลย นอกจากสีหน้าอันครุ่นคิดกำลังคิดหาทางเพื่อช่วยเหลือจนกระทั่งนึกถึงคำพูดของใครบางคนที่พูดถึงชายตรงหน้าของเธอว่าจะช่วยเขาอย่างใด แต่วิธีที่ว่าก็มีความเสี่ยงอยู่เช่นกันจนเธอเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น
“เราต้องไปนรก”
“ว่าไงนะ?”
โฟกัสตาโตทันใดเมื่อได้ยินคำพูดของพี่ที่บอกว่าจะไปยังสถานที่ที่อันตรายกว่าที่ใดที่เคยผจญภัยกันมา คำว่านรกก็ทำให้เธอนึกถึงนิทานก่อนนอนของพ่อแม่ขึ้นมาที่มันทั้งตื่นเต้นและสนุก แต่จนเข้าสู่วัยที่เข้าค่ายถึงได้รู้ว่านิทานก่อนนอนนั้นคือเรื่องราวของพ่อแม่ที่ดัดแปลงให้สนุกกับพวกเธอ แต่พอฟังเรื่องจริงมันช่างเสี่ยงตายและมีแต่ภัยอันตรายที่เข้ามาหา แล้วพี่สาวเธอกำลังจะไปยังสถานที่อันตรายที่พ่อแม่สั่งห้ามให้ไปยังสถานที่แบบนั้น
“พี่จะบ้าเหรอ!? นรกคืออาณาเขตของเทพฮาเดสเชียวนะ!!”
“จริงของโฟกัสนะ!” แดเรียลเอ่ยเสริมขึ้นมาอย่างเสียงแข็ง เขาเดินตรงมาหาทั้งสองคน "เจ้าจะไปยังที่อันตรายแบบนั้นเนี่ยนะ? ไม่เคยมีมนุษย์กึ่งเทพตนใดกลับมาเลยนะ!"
“มี! เคยมี!” โพรทาเลียเงยหน้ามองอีกฝ่าย “มีสองคนที่เคยไปยังนรกแล้วกลับมา!!”
“ใครกันล่ะ?” แดเรียลเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เจ้านี่จะโง่ตลอดสินะ” รัลใช้หางตามองชายหนุ่มผมยาวสีม่วงอย่างเหนื่อยใจ
“เจ้าว่าไงนะ!?”
“นางก็หมายถึงพ่อแม่ของพวกนางไงล่ะ เจ้างั่ง!!” เซเรน่าเอ่ยตอบแทนโพรทาเลีย
“อ๊ะ!!”
แดเรียลนึกถึงคู่สามีภรรยาแจ็กสันทันที สองคนนั้นเคยไปยังนรกสมัยเป็นเด็กและยังเคยตกลงไปยังนรกที่ลึกที่สุด ตอนที่พวกเขาเคยเห็นภาพฉายของเด็กพวกนั้นก็รับรู้ว่ามันเป็นสถานที่อันตรายเกินกว่าที่มนุษย์คนใดจะไป แต่เขาก็ไม่ยอมให้ร่างจุติไปเด็ดขาด
“แต่ก็ไม่ได้!! มันอันตรายเกินกว่าที่พวกเจ้าจะไป!!”
“แล้วพวกนายห้ามฉันได้ว่างั้น?” โพรทาเลียเอ่ยถามขึ้น
“ถึงไม่ได้ก็จะห้าม เพราะถ้าเจ้าไปแล้วเกิดอะไรขึ้น พวกข้าก็ไม่ทันที่จะปกป้องได้นะ!!”
“ฉันปกป้องตนเองได้!!”
“ไม่มีทาง เมื่อกี้พวกเรายังต้องช่วยเธอหลบการโจมตีของธีเอมัสเลยนะ!!”
โพรทาเลียยืนเถียงอยู่กับแดเรียลที่ทุกทีจะไม่เคยเข้ามาวุ่นวายกับเรื่องต่าง ๆ แต่วันนี้อีกฝ่ายนั้นกำลังขัดขวางเธอ ระหว่างที่สองคนกำลังเถียงอยู่นั้น โฟกัสกำลังใช้ความคิดว่าไม่มีวิธีที่เหมาะกว่านี้จริง ๆ งั้นเหรอ ต้องไปยังสถานที่อันตรายนั้นจนกระทั่งนึกถึงคำพูดของคนคนหนึ่งขึ้นมา
‘ไม่นานเธอจะได้ตามพี่สาวไปยังสถานที่อันตราย!’
คำพูดที่ทิ้งไว้ของเรเชล ทำให้โฟกัสสงสัยมาตลอดหลังจากคุยกับพวกไครอนว่าหมายความว่ายังไง พวกเธอยังต้องไปยังสถานที่อันตรายอะไรอีก จนตอนนี้เธอรับรู้ความหมายของคำพูดนั้นแล้วว่าคืออะไร พวกเธอต้องไปยังนรกเพื่อตามหาวิญญาณของคุณเจสัน ถ้าพี่สาวเธอจะไปยังสถานที่นั้นเธอก็พร้อมที่จะเดินทางไปเช่นกัน ใบหน้าของเธอนั้นดูมุ่งมั่นที่จะทำบางอย่างเพื่อเตรียมตัว เธอลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนโพรทาเลียหันไปมองน้องสาวทันที
“โฟกัส...เธอจะไปไหนนะ?”
“หนูจะไปนรกกับพี่ด้วย!!”
“!!” โพรทาเลียลุกขึ้นด้วยสีหน้าตกใจก่อนจะตะโกนออกมา “ไม่ได้!!”
โฟกัสขมวดคิ้วอย่างงุนงงว่าพี่สาวไม่ยอมให้เธอไปงั้นเหรอ “ไม่ได้? เมื่อกี้พูดบอกว่าเราไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ แต่คำว่าเรา!! มีแค่พี่กับพวกอดีตชาติเท่านั้น โฟกัส ถ้าเสี่ยงไปตายพี่คนเดียวก็พอ!!”
“ไม่!!” โฟกัสขึ้นเสียงใส่คนเป็นพี่พร้อมกับสายตาอันดุดันที่จะไม่ทำตามคำสั่ง “ถ้าต้องไปเสี่ยงอันตรายหนูก็จะไปด้วย!!”
“ไม่ได้เด็ดขาด!!”
“แต่หนูจะไป!!”
“พี่บอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้!!”
พวกอดีตชาติมองสองพี่สองเถียงกันจนไม่กล้าจะพูดอะไรจนกระทั่งคนเป็นน้องสาวรู้สึกอารมณ์ข้างในมันจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อถ้ายังเถียงกับพี่สาวแบบนี้จนเธอหันหลังให้พี่สาวทันที
“หนูไม่สนใจว่าพี่จะห้ามยังไง!! แต่หนูก็จะไปด้วย!”
“ไม่ได้นะ!! โฟกัส!!”
โพรทาเลียกำลังจะห้ามอีกฝ่ายไม่ให้ไปกับเธอแต่ว่าโฟกัสเดินออกจากตรงนั้นแล้วร่างกายก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว
“อึก!! โฟกัส!! น้องคนนี้!!”
“ดู ๆ เจ้าทำให้ร่างจุติคนน้องหนีไปแล้ว โพรทาเลีย”
โพรทาเลียหันขวับมามองแดเรียลด้วยสายตาไม่พอใจอย่างแรงกล้า จนทำเอาทุกคนที่เห็นแบบนั้นก็หาอะไรมาอุดปากแล้วลากแดเรียลออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
“อย่าไปฟังเจ้านั้นดีกว่านะ โพรทาเลีย”
“รู้สึกช่วงนี้จะปากมีเสียงมากกว่าปกตินะ...” โพรทาเลียเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น
“ฮ่า ๆ ก็นะ...”
เฟอร์ร่าออกมารับหน้าแทนทุกคนหลังจากที่คนอื่น ๆ กำลังลากตัวปัญหาออกมาจากตรงนั้นไม่ให้กวนโพรทาเลียต่อ เพราะถ้ายังก่อความรำคาญให้โพรทาเลียอีกพวกเธอได้ตายแน่ ๆ เนื่องจากลึก ๆ ตัวโพรทาเลียก็ยังมีความน่ากลัวที่พวกเธอยังไม่เคยเจอถ้าเจอมีหวังตายแน่ ๆ โพรทาเลียมองไปทางที่น้องสาวหายไปความรู้สึกตอนนี้รู้สึกว่าน้องสาวอยู่ห่างจากเธอตอนนี้คงกลับไปยังค่ายแล้ว เธอคงต้องรีบจัดการอะไรให้จบก่อนที่น้องสาวจะตามเธอไปจริง ๆ เธอหันมามองเจสันที่นอนอยู่ที่พื้น ถ้าเธอต้องการช่วยอีกฝ่ายพาวิญญาณเข้าร่างเธอต้องเอาร่างกายอีกฝ่ายไปฝากกับคนกลุ่มหนึ่งเสียก่อนเพื่อช่วยรักษาแผลของอีกฝ่าย
“ฉันต้องตามหาพวกโกรอส!”
“เจ้าว่าไงนะ!?”
“หมายถึงพวกตัวจิ๋วสีฟ้าพวกนั้นนะเหรอ?”
“ใช่ ฉันต้องการให้พวกเขาช่วยรักษาร่างของคุณเจสันก่อนที่ฉันจะไปหาดวงวิญญาณเขากลับร่าง”
“แล้วพวกเขาอยู่ไหน?”
“ฉันรู้...ว่าพวกเขาอยู่ไหน!”
โพรทาเลียกล่าวแบบนั้นพร้อมกับเดินไปใกล้ ๆ เธอกำลังครุ่นคิดว่าจะแบกร่างกายอีกฝ่ายไปยังไงจนนึกถึงวิธีที่แซเทิร์นเคยใช้ขังลูกสาวของเธอมันเป็นวิธีอันน่ารังเกียจที่ทำให้ลูกสาวเธอโดนขังอยู่ในลูกแก้วกลม ๆ นั้น โพรทาเลียล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าคาดเอวก็หยิบสิ่งที่มีความโปร่งใสคล้ายลูกบอลขนาดเล็ก แต่มันคือลูกแก้วโปร่งใสที่คล้ายกับลูกแก้วที่ขังลูกสาวของเธอ พอหยิบขึ้นมาเธอมองมันชั่วครู่ก่อนที่จะยื่นไปแตะที่ตัวของเจสัน ร่างกายของชายหนุ่มก็ถูกดูดเข้าไปข้างในลูกแก้วอย่างรวดเร็ว
“เรียบร้อยแล้วสินะ...”
“อืม...” โพรทาเลียตอบเฟอร์ร่า
“เอาล่ะ...ถึงตาพวกเราออกเดินทางกัน!!” ลักซ์ตะโกนขึ้นมาอย่างดี๊ด๊า
“แล้วเจ้านั้นล่ะ!?” โพรทาเลียเอ่ยถาม
ทุกคนต่างหันไปมองธีเอมัสที่นอนสลบอยู่ตรงนั้น ร่างที่ไหม้เกรียมจนดูไม่ได้แถมยังไม่รู้ว่าจะฟื้นเมื่อไรจนโพรทาเลียหันไปหาทุกคน
“พวกนายคิดว่าไงล่ะ?”
“งั้นข้าขอจัดการเอง!!”
เซเรน่าเอ่ยขึ้นมาอย่างรวดเร็วไม่ให้ใครมาขัดคำพูดของเธอ ก่อนจะเดินนำหน้าเป็นคนแรก ๆ ทุกคนต่างมองอีกฝ่ายที่กำลังเดินไปข้างหน้าแล้วหยิบอุปกรณ์ออกมามัดธีเอมัสที่สลบอยู่ แล้วเซเรน่าหันมายกยิ้มก่อนจะหายไป ทุกคนเห็นแบบนั้นก็หันกลับมามองโพรทาเลียแล้วโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะหายตัวไปเช่นกัน ตอนนี้เหลือเพียงโพรทาเลียก็ถึงเวลาที่เธอนั้นจะเดินทางไปข้างหน้า ระหว่างเดินเธอจับไปที่กำไลข้อมือก่อนจะกดปุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอให้มิดชิดเพื่ออำพรางกายไม่ให้ผู้ใดเห็นเธอ
ภายในค่ายฮาล์ฟบลัด
กลิ่นอายที่แสนคุ้นเคยกลิ่นอับชื้นที่คล้ายกับกลิ่นของตะไคร้น้ำที่เกาะตามโขดหิน กลิ่นนี้กระทบกับจมูกของโฟกัสเต็มทีจนทำให้การรับรู้ของเธอตื่นขึ้น ทำให้เธอรับรู้ว่าตนเองนั้นได้กลับมายังค่ายฮาล์ฟบลัดและกลับมายังถ้ำพยากรณ์เป็นที่เรียบร้อย เปลือกตาสีเนื้อกำลังยกตัวขึ้นอย่างเชื่องช้าเผยให้เห็นดวงตาสีเทาที่ถูกเปลือกตาบดบัง ภาพตรงหน้าที่กำลังฉายอยู่นั้นคือหญิงสาวผมแดงกำลังนั่งมองเธออยู่ที่ประจำที่ของตนเอง สายตาที่จับจ้องอยู่นั้นเป็นสายตาที่รับรู้ถึงสิ่งต่าง ๆ ไม่ต้องให้โฟกัสอ้าปากพูดอีกฝ่ายก็รับรู้แล้วว่าเธอจะทำอะไรต่อ
“พร้อมที่จะไปนรกหรือเปล่า? โฟกัส”
“เป็นคำถามที่ตรงดีนะคะ คุณเรเชล”
“แน่ล่ะ สำหรับสาวน้อยที่กำลังจะทำภารกิจเพื่อกลับไปยังโลกของตนเองนั้น มีหรือฉันจะไม่รู้?”
“…” โฟกัสได้ฟังคำพูดอีกฝ่ายนั้นก็ทำให้เธอนิ่งไปชั่วขณะกับความคิดของเธอ
“เธอนิ่งแบบนี้กำลังคิดสินะว่าจะทำไงถึงจะไปนรกได้ เพราะถ้าเดินทางไปลาเวกัสต้องใช้เวลาเหมือนกัน”
“ถูกต้องค่ะ...”
“หึ ๆ” เรเชลหัวเราะในลำคอหน่อย ๆ ก่อนจะลุกขึ้นมา “ตามมา!”
“หือ? เราจะไปไหน?”
“คนที่จะช่วยเธอได้จะมาในไม่อีกกี่นาที”
“หือ?”
โฟกัสเอียงคออย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร ก่อนที่เธอจะลุกตามอีกฝ่ายออกไปนอกถ้ำ พอเดินออกมาก็พบกับรูปปั้นของคุณยายที่ตั้งเด่นชัด เธอมองกี่ครั้งก็รู้สึกอลังการกับรูปปั้นของคุณยายอาธีน่า แต่ก็มีความรู้สึกอันแปลกประหลาดข้างในใจของเธอ ระหว่างที่จ้องอยู่นั้นเธอก็หันกลับไปมองเรเชลที่เดินนำเธอไปห่างไกลแล้ว นั้นทำให้เธอต้องรีบเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างรวดเร็ว เส้นทางที่เดินไปนั้นมันไกลกว่าที่คิดแต่สถานที่ตรงไปนั้นไม่ใช่บ้านพัก แต่ห่างออกไปสักเล็กน้อยก็มาถึงโรงอาหารของค่าย เธอมองอย่างสงสัยว่าทำไมถึงมาที่นี่แล้วคนที่จะช่วยเธออยู่ไหนจนเธอได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันจนสายตาของเธอเห็นบุคคลที่เธอไม่เห็นก่อนหน้าชายที่มีผมลอนสีดำ ร่างกายอันผอมบางผิวขาวซีด ชุดในโทนสีดำ มองกี่ครั้งก็ดูมืดมนไปหมดทุกที ชายคนนั้นกำลังพูดคุยอยู่กับกลุ่มของคุณพ่อ
“คุณ...นิโค...”
“ถูกต้อง!” เรเชลหยุดเดินแล้วหันมามองเธอทันที "ถ้าจะไปนรกก็ต้องให้สายเลือดของฮาเดสช่วยเธอสิ!!"
“ก็จริงค่ะ...”
โฟกัสก็คิดอยู่ว่าถ้าไปไม่ได้เพราะระยะไกลก็คงต้องติดต่อกับสายเลือดฮาเดส เธอกำลังจะเดินตรงไปขอความช่วยเหลือจากสายเลือดฮาเดส แต่ทว่าขาที่ก้าวกับหยุดชะงักเมื่อความรู้สึกแปลก ๆ กำลังพุ่งตรงมาทางเธอ ภายในหน้าอกมันวูบวาบไปหมดเหมือนครั้งที่รู้สึกถึงอดีตชาติมาอยู่ตรงหน้า ระหว่างที่เธอกำลังรู้สึกอยู่นั้นถึงพลังบางอย่างก็มีควันออร่าปรากฏตรงหน้าเธอรีบหันไปต้นทางของควันนี้ก็เห็นร่างผอมบางอย่างหญิงสาวชุดดำที่คลุมผ้าทั้งหัวจนไม่เห็นใบหน้าแต่อย่างใด นอกจากใบหน้าท่อนล่างเท่านั้น โฟกัสหยีตามองอีกฝ่ายด้วยความสงสัยออร่าที่คล้ายกับคุณนิโคทำให้เธอรู้สึกเลยว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นคนที่เธอตามหาหรือไหม
เรเชลมองนิโคที่อยู่ห่างออกไปก่อนจะเตรียมตัวเดิน “เอาล่ะ ไปกันเถอะให้หมอนั้นช่วยเธอเถอะนะ”
“คงไม่ต้องแล้วล่ะค่ะ...”
“เอ๋? หมายความว่าไง?”
คำพูดอีกฝ่ายทำให้เรเชลงุนงงว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น เธอหมุนตัวหันไปมองเด็กน้อยที่หันหลังให้เธอ ทำให้สงสัยว่าเด็กน้อยกำลังทำอะไรจนสายตาของเธอมองไปตามทางที่มองก็ทำให้เธอเห็นบุคคลปริศนาที่แต่งตัวคล้ายผู้หญิง แต่รอบกายกับมีออร่าสีดำปกคลุมร่างกาย พอเห็นแบบนี้แล้วทำให้รู้สึกขนลุกไปหมด
“ใครกัน? หรือว่าเทพี?” เรเชลเอ่ยถาม
“ไม่เชิงค่ะ...”
โฟกัสเอ่ยตอบก่อนจะเดินตรงไปหาผู้หญิงคนนั้นอย่างช้า ๆ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ความรู้สึกหนาวเหน็บก็เข้ามาทำให้โฟกัสรู้สึกว่ารอบกายอีกฝ่ายช่างหนาวเหลือเกิน ก่อนที่ระยะห่างของทั้งสองใกล้พอสมควร โฟกัสจ้องมองอีกฝ่ายสักระยะก่อนจะเอ่ยถาม
“เธอ...ธิดาของฮาเดส...เซียใช่ไหม?”
“ถูกต้อง...” น้ำเสียงที่ตอบออกมาเหมือนคนไร้ชีวิต
โฟกัสครุ่นคิดว่าสมกับเป็นสายเลือดของเทพนรกที่มีน้ำเสียงอันน่าสะพรึงเยี่ยงนี้ เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าอีกฝ่ายมาที่นี่ทำไมก่อนจะเอ่ยถามบางอย่างออกมา
“เธอมาที่นี่ทำไม?”
“ข้ามาหาเจ้า...”
“หาฉัน?”
“ถูกต้อง...”
โฟกัสเอียงคอมองเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยอีกอย่างออกมา “บททดสอบของเธอคืออะไร?”
เซียได้ยินเยี่ยงนั้นก็ยื่นมือออกไปข้างหน้า มืออันผอมแห้งสีขาวซีดออกมาจากแขนเสื้อ ทำให้รู้สึกว่าแขนอีกฝ่ายเหมือนก้อนเมฆที่ถ้ายื่นมือไปจับมันจะสลายหายไปอย่างรวดเร็ว โฟกัสจ้องมองอีกฝ่ายก่อนที่จะเห็นรอยยิ้มอันน่าสะพรึงเผยออกมาให้เห็น
“จงเดินทางไปนรกกับข้า~ สายเลือดแห่งโพไซดอน~!”
จบตอนที่ 120 โปรดติดตามตอนที่ 121 ตอนต่อไป