ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 139 ขัดขวางจนตัวตาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 140 คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 141 จุดสิ้นสุดไม่ใช่จุดสิ้นสุดเสมอไป [จบ]

เนื้อหา

ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย

ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย

น้ำเสียงที่เอ่ยเรียกชื่อหนึ่งเมื่อมองร่างอันไร้การเคลื่อนไหวที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศนั้น ทุกคนต่างมองกันเป็นสายตาเดียวว่าสิ่งตรงหน้าใช่สิ่งที่พวกเขาคิดหรือไหม นอกเว้นแต่โพรทาเลียที่ตอนนี้สมองของเธอมันว่างเปล่าไปหมด หัวใจเหมือนจะหยุดเต้นเมื่อมองชายที่เป็นพ่อของคนรักแน่นิ่งอยู่กลางอากาศยิ่งทำให้เธอนึกภาพของคนที่เห็นรักกำลังสลายหายไปเธอไม่อยากให้เป็นแบบนั้น โฟกัสที่กำลังมองร่างที่ลอยอยู่เธอก็หันกลับมามองพี่สาวที่ร่างกายเริ่มมีอาการสั่น

 

“พี่ค่ะ...” 

โพรทาเลียไม่ได้ยินเสียงเรียกก็โฟกัสแต่อย่างใดยิ่งความรู้สึกของเธอกำลังจมลงสู่ความมืดในจิตใจ แต่แล้วก็เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหัวของเธอ

 

‘ตั้งสติหน่อย ถ้าเธอเอาแต่หวาดกลัวแล้วจะทำอะไรได้ล่ะ’ เสียงทุ้มเอ่ยพูดกับเธอ

‘ฟี...ฟีนีอุส...’ โพรทาเลียคิด

 

โพรทาเลียเบิ่งตากว้างจนลูกม่านตาเล็กลงเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เธอนึกถึง เขาหันมามองเธอพร้อมกับยิ้มให้เธอก่อนที่จะสลายหายไปเหมือนภาพลวงตา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอนึกถึงเขาจนเห็นภาพหลอนนั้นยิ่งทำให้เธอรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นสำคัญกับเธอเพียงใดก่อนที่เธอนั้นจะยกมือทั้งสองข้างตบลงบนแก้มทั้งสองอย่างแรงจนทุกคนต่างหันมอง โฟกัสเห็นพี่สาวทำร้ายร่างกายอีกแล้วจนเธอนั้นช่างเป็นห่วงจนเอ่ยเรียกอีกฝ่าย

 

“พี่ค่ะ...” 

“เข้าไปดูกัน!” 

สีหน้าอันตื่นกลัวของโพรทาเลียเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังที่เตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ตรงหน้า แต่พวกอดีตชาติยังกังวลกับสิ่งที่เห็นว่าสิ่งตรงหน้าจะเป็นกับดักหรือเปล่า ก่อนที่คนหนึ่งในกลุ่มจะเดินมาหาโพรทาเลีย

“ข้าขอแนะนำอย่าพึ่งทำอะไร เจ้าไม่กลัวหรือไงว่าจะเป็นกับดัก!?”

โพรทาเลียเงยหน้ามองแดเรียล “ธีเอมัสก็สลบไปแล้ว พวกนายคิดว่าเขาจะทำอะไรได้เหรอ?” 

“แต่ว่า...” 

 

แดเรียลกำลังหาเหตุผลหยุดร่างจุติ แต่ว่าสีหน้าและสายตาของอีกฝ่ายนั้นทำเอาเขานั้นเหงื่อไหลพล่านไปทั้งใบหน้า ก่อนที่เขาจะหันไปหาทุกคนที่อยู่ด้านหลังเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ทุกคนนั้นต่างมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่บอกว่าให้ยอม ๆ ร่างจุติซะดีกว่า เพราะยังไงเขาก็ไม่ฟังพวกเราแล้วแน่ ๆ แดเรียลส่ายหัวแล้วบอกว่าไม่ยอมแพ้แน่ ๆ เขาไม่ยอมให้ร่างจุติต้องมีปัญหาอีก ทำเอาทุกคนมองแดเรียลที่เหมือนพี่ชายที่หวงน้องสาวเกินไประหว่างที่พวกแดเรียลกำลังคุยด้วยสายตานั้น โฟกัสก็รีบเดินไปจับแขนของพี่สาวทันใด

 

“อย่าไปสนใจดีกว่านะ เราไปกันเถอะ” 

“อืม! ไปกัน” 

โพรทาเลียพยักหน้าให้น้องสาว ทั้งสองเดินนำไปข้างหน้ากันอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจแดเรียลที่กำลังคุยกับพวกอดีตชาติ จนแดเรียลรู้สึกว่าอีกฝ่ายหนีเขาไปแล้ว

“เห้ย!! เจ้าทั้งสองคน!! ไม่ฟังข้าเลยเหรอ!?” แดเรียลตะโกนพูดกับหญิงสาวทั้งสองที่เดินหนีเขาไปแล้ว

“พอเถอะ!! แดเรียล” 

แดเรียลหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงอันแข็งกระด้างเอ่ยห้ามเขา เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นรัลอยู่ในรูปลักษณ์ของชายรูปงาม รัลเดินตรงเข้ามาแตะไหล่อีกฝ่ายเบา ๆ ด้วยความเบื่อหน่ายกับความดื้อรั้นของอีกฝ่าย

“ถึงเจ้าห้ามไปแบบนั้น มีฤๅว่าพวกนางจะยอมฟัง” 

“แต่ว่า...!!” 

“เจ้าคงไม่ลืมว่าพวกเราแต่ละคนก็อายุเท่าพวกนาง” 

“...” แดเรียลได้ยินแบบนั้นก็งุนงงว่าอายุพวกเขานั้นเกี่ยวอะไร “แล้วมันเกี่ยวอะไร?” 

“ข้าสื่อหมายถึงพวกเราอายุเท่าพวกนางมีหรือพวกนางจะสนใจฟังคำห้ามของเรากัน?”

“เอ่อ...แต่พวกเราบางคนก็อายุเกือบร้อย ๆ ปีแล้วนะ...รัล...” ลักซ์เอ่ยพูดแทรกขึ้นมา

“ทำอย่างกับอายุร้อยปีแล้วนับเป็นอายุมนุษย์ไม่เข้าเลข 15 กันเลยฤๅ” 

 

รัลกล่าวแบบนั้นก็นับอายุแต่ละคนถึงอายุเป็นร้อยปี ถ้าสำหรับเทพนั้นก็คือว่าเป็นเด็กกันทั้งนั้นบางคนตรงนั้นก็มีอายุได้แค่สิบห้า บางคนก็อายุปาไปร้อยปีด้วยซ้ำ แต่ยังไงซะสำหรับเทพที่อายุมากกว่าพันปีก็คิดว่าพวกเขายังเป็นเด็กด้วยซ้ำ ไม่มีใครกล้าเถียงคำพูดของรัล ทุกคนก็พากันตามทั้งสองคนที่เดินไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่ง โพรทาเลียกับโฟกัสเดินกันจนมาถึงร่างที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศ เธอเห็นใบหน้าอย่างชัดเจนความคล้ายคลึงของใบหน้าที่เธอจำได้ ใบหน้าของคุณเจสัน ภายในใจมันรู้สึกเหมือนอะไรมาอุดตันจนรู้สึกอึดอัดไปหมด เธอกำลังเอื้อมมือไปข้างหน้าเพื่อแตะร่างคุณเจสัน พอมือของเธอแตะเพียงเล็กน้อยร่างกายที่ล่องลอยอยู่นั้นก็กำลังจะตกลง 

 

“อ๊ะ!!” โพรทาเลียรีบตรงดิ่งไปรับร่างกายนั้นทันที “คุณเจสัน!! คุณเจสัน!!” 

 

เสียงเรียกนั้นไร้การตอบรับจนโพรทาเลียต้องตรวจสอบชีพจรของชายหนุ่มก็สัมผัสถึงการเต้นที่อ่อนและร่างกายที่อยู่ครึ่งกลางระหว่างอุ่นและเย็น แต่ก็ยังไม่สามารถโล่งใจได้เพราะว่าร่างนี้มีแค่ร่างกายแต่ไร้วิญญาณ สภาพร่างกายของอีกฝ่ายนั้นบาดเจ็บจนมีเลือดไหลแต่เลือดนั้นก็แห้งไปแล้ว ลูกธนูที่ติดอยู่กับร่างกายอีกฝ่ายเธอพยายามจะดึงออก แต่ก็พึ่งนึกได้ว่าถ้าดึงออกอีกฝ่ายจะเสี่ยงอันตรายอะไรไหม เธออยากได้สิ่งของที่จะช่วยรักษาอีกฝ่ายแต่วัตถุดิบในการทำยาก็ไม่มีแล้ว แถมสิ่งที่ช่วยฟื้นชีวิตคนตายอย่างขนแกะทองคำก็ไม่มี จนเธอนั้นใช้ความคิดวิเคราะห์สถานการณ์อย่างครุ่นคิด

 

โฟกัสมองคุณเจสันวัยรุ่นอย่างสงสัยว่าจะช่วยยังไงก่อนที่เธอจะหันไปมองพี่สาว “พี่ค่ะ...” 

โพรทาเลียหันไปมองน้องสาวเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามออกไป “อะไรเหรอ?” 

“คุณเจสันเขา...” 

“ยัง...ยังไม่ตาย...แต่แค่...” 

“แต่แค่...?” 

“กึ่งเป็นกึ่งตายเท่านั้นล่ะ” 

“ว่าไงนะ...แล้วเราจะช่วยเขายังไง?” 

 

คำถามของน้องสาวเป็นสิ่งที่โพรทาเลียไม่กล้าตอบว่าจะช่วยชายหนุ่มอย่างไงโดยที่เธอไม่มีแผนการอะไรเลย นอกจากสีหน้าอันครุ่นคิดกำลังคิดหาทางเพื่อช่วยเหลือจนกระทั่งนึกถึงคำพูดของใครบางคนที่พูดถึงชายตรงหน้าของเธอว่าจะช่วยเขาอย่างใด แต่วิธีที่ว่าก็มีความเสี่ยงอยู่เช่นกันจนเธอเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น

 

“เราต้องไปนรก” 

“ว่าไงนะ?” 

 

โฟกัสตาโตทันใดเมื่อได้ยินคำพูดของพี่ที่บอกว่าจะไปยังสถานที่ที่อันตรายกว่าที่ใดที่เคยผจญภัยกันมา คำว่านรกก็ทำให้เธอนึกถึงนิทานก่อนนอนของพ่อแม่ขึ้นมาที่มันทั้งตื่นเต้นและสนุก แต่จนเข้าสู่วัยที่เข้าค่ายถึงได้รู้ว่านิทานก่อนนอนนั้นคือเรื่องราวของพ่อแม่ที่ดัดแปลงให้สนุกกับพวกเธอ แต่พอฟังเรื่องจริงมันช่างเสี่ยงตายและมีแต่ภัยอันตรายที่เข้ามาหา แล้วพี่สาวเธอกำลังจะไปยังสถานที่อันตรายที่พ่อแม่สั่งห้ามให้ไปยังสถานที่แบบนั้น

 

“พี่จะบ้าเหรอ!? นรกคืออาณาเขตของเทพฮาเดสเชียวนะ!!”

“จริงของโฟกัสนะ!” แดเรียลเอ่ยเสริมขึ้นมาอย่างเสียงแข็ง เขาเดินตรงมาหาทั้งสองคน "เจ้าจะไปยังที่อันตรายแบบนั้นเนี่ยนะ? ไม่เคยมีมนุษย์กึ่งเทพตนใดกลับมาเลยนะ!"

“มี! เคยมี!” โพรทาเลียเงยหน้ามองอีกฝ่าย “มีสองคนที่เคยไปยังนรกแล้วกลับมา!!” 

“ใครกันล่ะ?” แดเรียลเอ่ยถามอย่างสงสัย

“เจ้านี่จะโง่ตลอดสินะ” รัลใช้หางตามองชายหนุ่มผมยาวสีม่วงอย่างเหนื่อยใจ

“เจ้าว่าไงนะ!?” 

“นางก็หมายถึงพ่อแม่ของพวกนางไงล่ะ เจ้างั่ง!!” เซเรน่าเอ่ยตอบแทนโพรทาเลีย

“อ๊ะ!!” 

แดเรียลนึกถึงคู่สามีภรรยาแจ็กสันทันที สองคนนั้นเคยไปยังนรกสมัยเป็นเด็กและยังเคยตกลงไปยังนรกที่ลึกที่สุด ตอนที่พวกเขาเคยเห็นภาพฉายของเด็กพวกนั้นก็รับรู้ว่ามันเป็นสถานที่อันตรายเกินกว่าที่มนุษย์คนใดจะไป แต่เขาก็ไม่ยอมให้ร่างจุติไปเด็ดขาด 

“แต่ก็ไม่ได้!! มันอันตรายเกินกว่าที่พวกเจ้าจะไป!!” 

“แล้วพวกนายห้ามฉันได้ว่างั้น?” โพรทาเลียเอ่ยถามขึ้น

“ถึงไม่ได้ก็จะห้าม เพราะถ้าเจ้าไปแล้วเกิดอะไรขึ้น พวกข้าก็ไม่ทันที่จะปกป้องได้นะ!!” 

“ฉันปกป้องตนเองได้!!” 

“ไม่มีทาง เมื่อกี้พวกเรายังต้องช่วยเธอหลบการโจมตีของธีเอมัสเลยนะ!!”

 

โพรทาเลียยืนเถียงอยู่กับแดเรียลที่ทุกทีจะไม่เคยเข้ามาวุ่นวายกับเรื่องต่าง ๆ แต่วันนี้อีกฝ่ายนั้นกำลังขัดขวางเธอ ระหว่างที่สองคนกำลังเถียงอยู่นั้น โฟกัสกำลังใช้ความคิดว่าไม่มีวิธีที่เหมาะกว่านี้จริง ๆ งั้นเหรอ ต้องไปยังสถานที่อันตรายนั้นจนกระทั่งนึกถึงคำพูดของคนคนหนึ่งขึ้นมา

 

‘ไม่นานเธอจะได้ตามพี่สาวไปยังสถานที่อันตราย!’ 

 

คำพูดที่ทิ้งไว้ของเรเชล ทำให้โฟกัสสงสัยมาตลอดหลังจากคุยกับพวกไครอนว่าหมายความว่ายังไง พวกเธอยังต้องไปยังสถานที่อันตรายอะไรอีก จนตอนนี้เธอรับรู้ความหมายของคำพูดนั้นแล้วว่าคืออะไร พวกเธอต้องไปยังนรกเพื่อตามหาวิญญาณของคุณเจสัน ถ้าพี่สาวเธอจะไปยังสถานที่นั้นเธอก็พร้อมที่จะเดินทางไปเช่นกัน ใบหน้าของเธอนั้นดูมุ่งมั่นที่จะทำบางอย่างเพื่อเตรียมตัว เธอลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนโพรทาเลียหันไปมองน้องสาวทันที

 

“โฟกัส...เธอจะไปไหนนะ?” 

“หนูจะไปนรกกับพี่ด้วย!!” 

“!!” โพรทาเลียลุกขึ้นด้วยสีหน้าตกใจก่อนจะตะโกนออกมา “ไม่ได้!!” 

โฟกัสขมวดคิ้วอย่างงุนงงว่าพี่สาวไม่ยอมให้เธอไปงั้นเหรอ “ไม่ได้? เมื่อกี้พูดบอกว่าเราไม่ใช่เหรอ?” 

“ใช่ แต่คำว่าเรา!! มีแค่พี่กับพวกอดีตชาติเท่านั้น โฟกัส ถ้าเสี่ยงไปตายพี่คนเดียวก็พอ!!” 

“ไม่!!” โฟกัสขึ้นเสียงใส่คนเป็นพี่พร้อมกับสายตาอันดุดันที่จะไม่ทำตามคำสั่ง “ถ้าต้องไปเสี่ยงอันตรายหนูก็จะไปด้วย!!” 

“ไม่ได้เด็ดขาด!!” 

“แต่หนูจะไป!!” 

“พี่บอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้!!” 

พวกอดีตชาติมองสองพี่สองเถียงกันจนไม่กล้าจะพูดอะไรจนกระทั่งคนเป็นน้องสาวรู้สึกอารมณ์ข้างในมันจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อถ้ายังเถียงกับพี่สาวแบบนี้จนเธอหันหลังให้พี่สาวทันที

“หนูไม่สนใจว่าพี่จะห้ามยังไง!! แต่หนูก็จะไปด้วย!” 

“ไม่ได้นะ!! โฟกัส!!” 

โพรทาเลียกำลังจะห้ามอีกฝ่ายไม่ให้ไปกับเธอแต่ว่าโฟกัสเดินออกจากตรงนั้นแล้วร่างกายก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว

“อึก!! โฟกัส!! น้องคนนี้!!” 

“ดู ๆ เจ้าทำให้ร่างจุติคนน้องหนีไปแล้ว โพรทาเลีย” 

โพรทาเลียหันขวับมามองแดเรียลด้วยสายตาไม่พอใจอย่างแรงกล้า จนทำเอาทุกคนที่เห็นแบบนั้นก็หาอะไรมาอุดปากแล้วลากแดเรียลออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

“อย่าไปฟังเจ้านั้นดีกว่านะ โพรทาเลีย” 

“รู้สึกช่วงนี้จะปากมีเสียงมากกว่าปกตินะ...” โพรทาเลียเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น

“ฮ่า ๆ ก็นะ...” 

 

เฟอร์ร่าออกมารับหน้าแทนทุกคนหลังจากที่คนอื่น ๆ กำลังลากตัวปัญหาออกมาจากตรงนั้นไม่ให้กวนโพรทาเลียต่อ เพราะถ้ายังก่อความรำคาญให้โพรทาเลียอีกพวกเธอได้ตายแน่ ๆ เนื่องจากลึก ๆ ตัวโพรทาเลียก็ยังมีความน่ากลัวที่พวกเธอยังไม่เคยเจอถ้าเจอมีหวังตายแน่ ๆ โพรทาเลียมองไปทางที่น้องสาวหายไปความรู้สึกตอนนี้รู้สึกว่าน้องสาวอยู่ห่างจากเธอตอนนี้คงกลับไปยังค่ายแล้ว เธอคงต้องรีบจัดการอะไรให้จบก่อนที่น้องสาวจะตามเธอไปจริง ๆ เธอหันมามองเจสันที่นอนอยู่ที่พื้น ถ้าเธอต้องการช่วยอีกฝ่ายพาวิญญาณเข้าร่างเธอต้องเอาร่างกายอีกฝ่ายไปฝากกับคนกลุ่มหนึ่งเสียก่อนเพื่อช่วยรักษาแผลของอีกฝ่าย

 

“ฉันต้องตามหาพวกโกรอส!” 

“เจ้าว่าไงนะ!?” 

“หมายถึงพวกตัวจิ๋วสีฟ้าพวกนั้นนะเหรอ?” 

“ใช่ ฉันต้องการให้พวกเขาช่วยรักษาร่างของคุณเจสันก่อนที่ฉันจะไปหาดวงวิญญาณเขากลับร่าง”

“แล้วพวกเขาอยู่ไหน?” 

“ฉันรู้...ว่าพวกเขาอยู่ไหน!” 

 

โพรทาเลียกล่าวแบบนั้นพร้อมกับเดินไปใกล้ ๆ เธอกำลังครุ่นคิดว่าจะแบกร่างกายอีกฝ่ายไปยังไงจนนึกถึงวิธีที่แซเทิร์นเคยใช้ขังลูกสาวของเธอมันเป็นวิธีอันน่ารังเกียจที่ทำให้ลูกสาวเธอโดนขังอยู่ในลูกแก้วกลม ๆ นั้น โพรทาเลียล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าคาดเอวก็หยิบสิ่งที่มีความโปร่งใสคล้ายลูกบอลขนาดเล็ก แต่มันคือลูกแก้วโปร่งใสที่คล้ายกับลูกแก้วที่ขังลูกสาวของเธอ พอหยิบขึ้นมาเธอมองมันชั่วครู่ก่อนที่จะยื่นไปแตะที่ตัวของเจสัน ร่างกายของชายหนุ่มก็ถูกดูดเข้าไปข้างในลูกแก้วอย่างรวดเร็ว 

 

“เรียบร้อยแล้วสินะ...” 

“อืม...” โพรทาเลียตอบเฟอร์ร่า

“เอาล่ะ...ถึงตาพวกเราออกเดินทางกัน!!” ลักซ์ตะโกนขึ้นมาอย่างดี๊ด๊า

“แล้วเจ้านั้นล่ะ!?” โพรทาเลียเอ่ยถาม

ทุกคนต่างหันไปมองธีเอมัสที่นอนสลบอยู่ตรงนั้น ร่างที่ไหม้เกรียมจนดูไม่ได้แถมยังไม่รู้ว่าจะฟื้นเมื่อไรจนโพรทาเลียหันไปหาทุกคน

“พวกนายคิดว่าไงล่ะ?” 

“งั้นข้าขอจัดการเอง!!” 

 

เซเรน่าเอ่ยขึ้นมาอย่างรวดเร็วไม่ให้ใครมาขัดคำพูดของเธอ ก่อนจะเดินนำหน้าเป็นคนแรก ๆ ทุกคนต่างมองอีกฝ่ายที่กำลังเดินไปข้างหน้าแล้วหยิบอุปกรณ์ออกมามัดธีเอมัสที่สลบอยู่ แล้วเซเรน่าหันมายกยิ้มก่อนจะหายไป ทุกคนเห็นแบบนั้นก็หันกลับมามองโพรทาเลียแล้วโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะหายตัวไปเช่นกัน ตอนนี้เหลือเพียงโพรทาเลียก็ถึงเวลาที่เธอนั้นจะเดินทางไปข้างหน้า ระหว่างเดินเธอจับไปที่กำไลข้อมือก่อนจะกดปุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอให้มิดชิดเพื่ออำพรางกายไม่ให้ผู้ใดเห็นเธอ

 

ภายในค่ายฮาล์ฟบลัด

กลิ่นอายที่แสนคุ้นเคยกลิ่นอับชื้นที่คล้ายกับกลิ่นของตะไคร้น้ำที่เกาะตามโขดหิน กลิ่นนี้กระทบกับจมูกของโฟกัสเต็มทีจนทำให้การรับรู้ของเธอตื่นขึ้น ทำให้เธอรับรู้ว่าตนเองนั้นได้กลับมายังค่ายฮาล์ฟบลัดและกลับมายังถ้ำพยากรณ์เป็นที่เรียบร้อย เปลือกตาสีเนื้อกำลังยกตัวขึ้นอย่างเชื่องช้าเผยให้เห็นดวงตาสีเทาที่ถูกเปลือกตาบดบัง ภาพตรงหน้าที่กำลังฉายอยู่นั้นคือหญิงสาวผมแดงกำลังนั่งมองเธออยู่ที่ประจำที่ของตนเอง สายตาที่จับจ้องอยู่นั้นเป็นสายตาที่รับรู้ถึงสิ่งต่าง ๆ ไม่ต้องให้โฟกัสอ้าปากพูดอีกฝ่ายก็รับรู้แล้วว่าเธอจะทำอะไรต่อ

 

“พร้อมที่จะไปนรกหรือเปล่า? โฟกัส”

“เป็นคำถามที่ตรงดีนะคะ คุณเรเชล” 

“แน่ล่ะ สำหรับสาวน้อยที่กำลังจะทำภารกิจเพื่อกลับไปยังโลกของตนเองนั้น มีหรือฉันจะไม่รู้?”

“…” โฟกัสได้ฟังคำพูดอีกฝ่ายนั้นก็ทำให้เธอนิ่งไปชั่วขณะกับความคิดของเธอ

“เธอนิ่งแบบนี้กำลังคิดสินะว่าจะทำไงถึงจะไปนรกได้ เพราะถ้าเดินทางไปลาเวกัสต้องใช้เวลาเหมือนกัน” 

“ถูกต้องค่ะ...” 

“หึ ๆ” เรเชลหัวเราะในลำคอหน่อย ๆ ก่อนจะลุกขึ้นมา “ตามมา!” 

“หือ? เราจะไปไหน?” 

“คนที่จะช่วยเธอได้จะมาในไม่อีกกี่นาที” 

“หือ?” 

 

โฟกัสเอียงคออย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร ก่อนที่เธอจะลุกตามอีกฝ่ายออกไปนอกถ้ำ พอเดินออกมาก็พบกับรูปปั้นของคุณยายที่ตั้งเด่นชัด เธอมองกี่ครั้งก็รู้สึกอลังการกับรูปปั้นของคุณยายอาธีน่า แต่ก็มีความรู้สึกอันแปลกประหลาดข้างในใจของเธอ ระหว่างที่จ้องอยู่นั้นเธอก็หันกลับไปมองเรเชลที่เดินนำเธอไปห่างไกลแล้ว นั้นทำให้เธอต้องรีบเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างรวดเร็ว เส้นทางที่เดินไปนั้นมันไกลกว่าที่คิดแต่สถานที่ตรงไปนั้นไม่ใช่บ้านพัก แต่ห่างออกไปสักเล็กน้อยก็มาถึงโรงอาหารของค่าย เธอมองอย่างสงสัยว่าทำไมถึงมาที่นี่แล้วคนที่จะช่วยเธออยู่ไหนจนเธอได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันจนสายตาของเธอเห็นบุคคลที่เธอไม่เห็นก่อนหน้าชายที่มีผมลอนสีดำ ร่างกายอันผอมบางผิวขาวซีด ชุดในโทนสีดำ มองกี่ครั้งก็ดูมืดมนไปหมดทุกที ชายคนนั้นกำลังพูดคุยอยู่กับกลุ่มของคุณพ่อ

 

“คุณ...นิโค...” 

“ถูกต้อง!” เรเชลหยุดเดินแล้วหันมามองเธอทันที "ถ้าจะไปนรกก็ต้องให้สายเลือดของฮาเดสช่วยเธอสิ!!"

“ก็จริงค่ะ...” 

 

โฟกัสก็คิดอยู่ว่าถ้าไปไม่ได้เพราะระยะไกลก็คงต้องติดต่อกับสายเลือดฮาเดส เธอกำลังจะเดินตรงไปขอความช่วยเหลือจากสายเลือดฮาเดส แต่ทว่าขาที่ก้าวกับหยุดชะงักเมื่อความรู้สึกแปลก ๆ กำลังพุ่งตรงมาทางเธอ ภายในหน้าอกมันวูบวาบไปหมดเหมือนครั้งที่รู้สึกถึงอดีตชาติมาอยู่ตรงหน้า ระหว่างที่เธอกำลังรู้สึกอยู่นั้นถึงพลังบางอย่างก็มีควันออร่าปรากฏตรงหน้าเธอรีบหันไปต้นทางของควันนี้ก็เห็นร่างผอมบางอย่างหญิงสาวชุดดำที่คลุมผ้าทั้งหัวจนไม่เห็นใบหน้าแต่อย่างใด นอกจากใบหน้าท่อนล่างเท่านั้น โฟกัสหยีตามองอีกฝ่ายด้วยความสงสัยออร่าที่คล้ายกับคุณนิโคทำให้เธอรู้สึกเลยว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นคนที่เธอตามหาหรือไหม

เรเชลมองนิโคที่อยู่ห่างออกไปก่อนจะเตรียมตัวเดิน “เอาล่ะ ไปกันเถอะให้หมอนั้นช่วยเธอเถอะนะ” 

“คงไม่ต้องแล้วล่ะค่ะ...” 

“เอ๋? หมายความว่าไง?” 

 

คำพูดอีกฝ่ายทำให้เรเชลงุนงงว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น เธอหมุนตัวหันไปมองเด็กน้อยที่หันหลังให้เธอ ทำให้สงสัยว่าเด็กน้อยกำลังทำอะไรจนสายตาของเธอมองไปตามทางที่มองก็ทำให้เธอเห็นบุคคลปริศนาที่แต่งตัวคล้ายผู้หญิง แต่รอบกายกับมีออร่าสีดำปกคลุมร่างกาย พอเห็นแบบนี้แล้วทำให้รู้สึกขนลุกไปหมด

 

“ใครกัน? หรือว่าเทพี?” เรเชลเอ่ยถาม

“ไม่เชิงค่ะ...” 

โฟกัสเอ่ยตอบก่อนจะเดินตรงไปหาผู้หญิงคนนั้นอย่างช้า ๆ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ความรู้สึกหนาวเหน็บก็เข้ามาทำให้โฟกัสรู้สึกว่ารอบกายอีกฝ่ายช่างหนาวเหลือเกิน ก่อนที่ระยะห่างของทั้งสองใกล้พอสมควร โฟกัสจ้องมองอีกฝ่ายสักระยะก่อนจะเอ่ยถาม

“เธอ...ธิดาของฮาเดส...เซียใช่ไหม?” 

“ถูกต้อง...” น้ำเสียงที่ตอบออกมาเหมือนคนไร้ชีวิต

โฟกัสครุ่นคิดว่าสมกับเป็นสายเลือดของเทพนรกที่มีน้ำเสียงอันน่าสะพรึงเยี่ยงนี้ เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าอีกฝ่ายมาที่นี่ทำไมก่อนจะเอ่ยถามบางอย่างออกมา

“เธอมาที่นี่ทำไม?” 

“ข้ามาหาเจ้า...” 

“หาฉัน?” 

“ถูกต้อง...” 

โฟกัสเอียงคอมองเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยอีกอย่างออกมา “บททดสอบของเธอคืออะไร?” 

เซียได้ยินเยี่ยงนั้นก็ยื่นมือออกไปข้างหน้า มืออันผอมแห้งสีขาวซีดออกมาจากแขนเสื้อ ทำให้รู้สึกว่าแขนอีกฝ่ายเหมือนก้อนเมฆที่ถ้ายื่นมือไปจับมันจะสลายหายไปอย่างรวดเร็ว โฟกัสจ้องมองอีกฝ่ายก่อนที่จะเห็นรอยยิ้มอันน่าสะพรึงเผยออกมาให้เห็น

“จงเดินทางไปนรกกับข้า~ สายเลือดแห่งโพไซดอน~!”

 

จบตอนที่ 120 โปรดติดตามตอนที่ 121 ตอนต่อไป