ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 139 ขัดขวางจนตัวตาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 140 คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 141 จุดสิ้นสุดไม่ใช่จุดสิ้นสุดเสมอไป [จบ]

เนื้อหา

ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน

ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน

เหลือเวลาอีก 2 วัน

แสงแดดอันร้อนฉ่ากำลังสาดส่องลงมายังร่างผอมบางที่กำลังเดินไปตามทางเส้นถนน XX ถนนที่สร้างจากยางมะตอยเส้นทางนี้ไร้ยานพาหนะผ่านทางมาจึงเป็นสถานที่จะขอความช่วยเหลือก็ลำบาก หลายชั่วโมงแล้วตั้งแต่ออกจากป่า โพรทาเลียก็เดินทางมานานพอตัวจนมาถึงทะเลทรายอันร้อนฉ่าสุด ๆ ยิ่งทำให้เธอนึกถึงบททดสอบอันหฤโหดของแซเทิร์นขึ้นมา ทำให้บรรยากาศอันร้อนฉ่านี้ด้อยลงไปเลย แต่โพรทาเลียก็เกลียดอากาศร้อนมาก ๆ ยิ่งถนนสีดำปะทะกับแสงแดดมันก็ยิ่งร้อนเกินกว่าที่เธอจะรับมือไว้จริง ๆ จนเหงื่อไหลเต็มตัวไปหมด เธอหยุดเดินแล้วยกชวดน้ำที่พกมาด้วยดื่มอย่างรวดเร็ว

 

“ฮ๊า~ ร้อนเป็นบ้า!!” 

โพรทาเลียตะโกนออกมาดังอย่างสุดเสียงอย่างที่จะตะโกนออกมา เสียงหอบหายใจดังกว่าเสียงใด ๆ รอบตัว ดวงตาสีเขียวจ้องมองท้องฟ้าสีฟ้าอย่างเฉื่อยชา แสงแดดก็สาดซัดมาทางเธอก่อนที่จะยกมือปัดแสงแดดนั้น

“อย่าซัดเจ้าเทพพระอาทิตย์ให้หายไปจริง ๆ ทำไมต้องให้แดดมันแรงแบบนี้ด้วยนะ!!” 

โพรทาเลียบ่นกับสภาพแวดล้อมรอบตัวของตนเอง ก่อนจะมองรอบกายของเธอนั้นที่ไม่มีอะไรนอกจากทราย หิน ต้นกระบองเพชร และถนนสีดำที่ทำจากยางมะตอยจนทำให้เธอตั้งคำถามกับตนเองจริง ๆ

“อยู่ไหนกันนะ? อาณาจักรของโกรอส...”

โพรทาเลียเอ่ยขึ้นมาก่อนจะยกหนังสือเก่า ๆ ที่ตัวปกทำจากหนังสัตว์ ส่วนกระดาษข้างในยับยู่ยี่ไปหมด เธอมองตัวหนังสือที่ไม่ใช่ทั้งภาษาอังกฤษและภาษากรีกแต่อย่างใด มันเป็นภาษาของเผ่าโกรอสแล้วโพรทาเลียก็อ่านมันออก แต่เธอกำลังอ่านจุดที่บอกว่าจะเจอทางเข้าอาณาจักรโกรอสยังไง

“จงไปยังทิศดวงอาทิตย์ เดินตามถนนสีทอง เสียงจะนำทางท่าน...”

โพรทาเลียเกาหัวอย่างเหนื่อยใจกับทิศที่บอกเพราะเธอเดินมาหลายชั่วโมงแล้วจริง ๆ แถมทะเลทรายมีเยอะกว่าอะไร แต่ว่าดีที่มันบอกว่าอยู่ที่ไหน

“อืมมม...” 

โพรทาเลียกำลังนึกบางอย่างอยู่นั้นพวกเฟอร์ร่าก็โผล่ออกมาตรงหน้าของเธอ

“มีอะไรกันนะ?” 

“ให้พวกเราออกไปหาให้ไหม?” 

“จริงด้วยนะ พวกเราลอยได้นะ!” ลักซ์เอ่ยพูดขึ้น

รัลมองลักซ์ที่กำลังลอยไปมาก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ “โพรทาเลียมีรองเท้าเฮอร์มีสแล้วไม่ได้ใช้เหรอ?”

ทุกคนต่างได้ยินโพรทาเลียก็ถึงกับหน้าถอดสีหน่อย ๆ เพราะว่าตัวเธอนั้นลืมสนิทว่ามีของสะดวกสบายอยู่กับตัวนี่น่า

“โพรทาเลีย เจ้าลืมสินะ...” 

“ใช่...สวมอยู่ก็ลืม...” 

โพรทาเลียกำลังก้มมองรองเท้าที่ใส่อยู่ เธอลืมไปว่ารองเท้ามันมีปีกบินได้อยู่ ระหว่างที่กำลังเขินอายอยู่นั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาก้องในหูของเธอ

 

เป้ง~ เป้ง~ เป้ง~

 

โพรทาเลียระฆังดังมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ทำให้เธอเงยหน้าเพื่อหาต้นตอของเสียงจนทุกคนต่างมองมาที่เธออย่างสงสัยว่าเป็นอะไร

“มีอะไรหรือ? โพรทาเลีย” 

“พวกเธอไม่ได้ยินเหรอ?” โพรทาเลียเอ่ยถามทุกคน

“เสียงเหรอ?” 

ทุกคนต่างมองหน้ากันก่อนจะเงียบหูฟัง แต่เสียงนั้นไม่ได้ดังเข้าหูพวกอดีตชาติ ก่อนที่ทุกคนจะลอยมาเกาะบนใบหน้าของโพรทาเลียกันยกใหญ่ก่อนจะเริ่มได้ยินเสียงนั้น

“เสียงนั้นมาจากไหนนะ?” 

“แต่น่าแปลกที่ไม่จับตัวโพรทาเลียก็ไม่ได้ยินเสียง...” 

 

“แปลว่ามีแค่โพรทาเลียที่ได้ยินล่ะนะ” 

“แต่ว่า...เสียงนี้...มันกำลังเรียกโพรทาเลียสินะ...” รัลเอ่ยถามอย่างสงสัย

“น่าจะใช่...” 

“แต่น่ากลัวที่ได้ยินเสียงที่ไม่มีตัวตนนะ...” ลักซ์กลอกตาไปมาอย่างสงสัย

“มันมี...แต่เราแค่ไม่เห็นเท่านั้น...สำหรับพวกโกรอส การที่ผู้ใดได้ยินเสียงที่ดังระหว่างที่กำลังตามหาบางอย่างอยู่นั้น แปลว่าพวกเขาได้รับเชิญให้เข้าไปยังสถานที่แห่งนั้น...”

“แล้วมันคือที่ไหนนะ?” 

“ไม่รู้สินะ...คงต้องลองเดินไปตามต้นเสียงของระฆังนี้ก่อนละ”

 

โพรทาเลียเอ่ยคำหนึ่งออกมาสองคำรองเท้าก็กางปีกออกมาก่อนที่เธอนั้นจะลอยไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เธอมองหน้าต้นเสียงว่าตรงไหนยิ่งขยับไปข้างหน้ามากขึ้นเสียงก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งก็รู้สึกถึงบางอย่างว่ากำลังลอยข้ามอาณาเขตบางอย่างก่อนที่เธอจะลอยไปพบเจอกับสิ่งที่คาดไม่ถึง โพรทาเลียลอยลงพื้นก็ต้องตะลึงกับสถานที่สุดอลังการ บ้านเมืองที่สร้างจากดินเหนียวผสมกับทรายและตรงกลางเมืองมีสิ่งก่อสร้างที่คล้ายปราสาทใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ ยิ่งมองก็ยิ่งตะลึงกับสิ่งตรงหน้าที่คล้ายกับภาพวาดในสมุดที่เธอกำลังยกขึ้นมา

 

ภาพอาณาจักรเอราเซียน สร้างโดยเว็บ AI my www.bing.com

“ที่นี่ล่ะ...อาณาจักรของพวกโกรอส...เอราเซียน...” 

 

สายลมพัดทรายขึ้นมากระทบใบหน้าของโพรทาเลีย เธอหลับตาชั่วขณะก่อนที่จะมีเสียงฝีเท้ากำลังวิ่งตรงมาทางเธออย่างรวดเร็วและหลายจำนวนที่กำลังวิ่งตรงมาก่อนที่โพรทาเลียจะหันไปมองก็เห็นกลุ่มคนตัวเล็กกำลังวิ่งตรงมาทางนี้ ก่อนที่จะมาล้อมรอบตัวเธอไปหมดทุกคนมีส่วนสูงเพียงแค่สองฟุตกว่า ๆ เท่านั้นส่วนสูงประมาณหัวเข่าของเธอนั้นล่ะ เธอมองพวกตัวเล็กสีฟ้าชี้หอกมาทางเธออย่างกับเห็นเธอเป็นศัตรูก่อนที่จะมีคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาอย่างเสียงดัง

 

“เจ้าผู้บุกรุก!! บังอาจเข้ามายังอาณาเขตของเรา!!” 

 

โพรทาเลียหันไปมองเจ้าของเสียงตะโกนนั้นก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นโกรอสเพศชายที่รู้จัก แต่เธอจำได้เพียงแค่ว่าอีกฝ่ายนั้นมีนิสัยที่ดูขี้ขลาด ไม่สู้คนจนต้องหลบหลังคนอื่น ๆ เสมอ แต่คนตรงหน้าของเธอนั้นกับดูมีความกล้ามากกว่าครั้งใด ๆ แถมชุดที่อีกฝ่ายใส่นั้นดูเหมือนชุดทหารแบบกรีกที่ใส่ชุดเกราะเต็มยศ แต่อีกฝ่ายดูเหมือนอยู่ในระดับหัวหน้าหน่วยยิ่งน่าสงสัยว่าอีกฝ่ายนั้นมีตำแหน่งอะไรในอาณาจักรแห่งนี้กัน

 

“ไม่อยากเชื่อจริง ๆ” โพรทาเลียพึมพำออกมาเบา ๆ

“เจ้าผู้บุกรุกจงออกไปจากอาณาจักรเอราเซียนเดียวนี้!! ที่นี่ไม่ต้อนรับให้มนุษย์อย่างพวกเจ้า!!” 

“ไม่ต้อนรับ?” โพรทาเลียเอียงคอมองอย่างสงสัย

“ถูกต้อง!! ในนามขององค์ชายอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรเอราเซียน” 

“องค์ชาย?” โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างสงสัยที่อีกฝ่ายเอ่ยว่าตัวเองเป็นองค์ชาย

 

‘แบบนี้เอง...พวกโกรอสแต่ละคนถึงดูมีมารยาทและอัธยาศัยดี เพราะมีการศึกษาที่สูงกันนี่เอง...เจ้าหมอนี้ถึง...ดูอ่อนแอที่สุดเพราะเป็นพวกสมองมีแต่กล้ามสินะ!!’ โพรทาเลียคิด

 

โพรทาเลียกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องในอดีตของคนรู้จัก ระหว่างนั้นเองพวกเฟอร์ร่าก็โผล่ออกมาอยู่แถวไหล่ของโพรทาเลีย

“เจ้าแมลงตัวเล็กนี้ยังจะพูดมาอีกไหม!?” ลักซ์เอ่ยอย่างรำคาญใจ

“น่าว่า...คงเป็นพวกบ้าน้ำลายนั้นล่ะ?” เซเรน่าเอ่ยขึ้น

“ข้าว่าเจ้านี้คงเป็นพวกเบ่งอำนาจเห็นว่าตัวเองใหญ่สุดละมั้ง” รัลกำลังปีนเส้นผมของโพรทาเลียขึ้นมาอยู่บนศีรษะของโพรทาเลีย

“ไม่นึกว่าสมัยนี้ก็ยังมีคนประเภทนี้อยู่สินะ” 

“ไม่ต้องสมัยเจ้าหรอก...สมัยไหนก็มีคนแบบนี้ทั้งนั้นล่ะ”

โพรทาเลียพึมพำออกมาเบา ๆ จนเจ้าโกรอสเพศชายจ้องมองอย่างสงสัยว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่

“เจ้ากำลังคุยกับใคร!!” 

“หือ?” โพรทาเลียมองรอบ ๆ ก่อนจะหันมามองอีกฝ่าย “ไม่มีนี่?” 

“แต่เมื่อกี้เจ้าพึมพำบางอย่างอยู่!! หรือว่าเจ้ากำลังร่ายมนตร์ใส่พวกข้า!!” 

“ทำแล้วได้อะไรล่ะ?” โพรทาเลียหยีตามองอย่างสงสัยว่าเจ้านี้มีแต่คิดเออเองหมดเลยนี่น่า

“เจ้าจะล้างปราดพวกเรานะสิ!!” 

“ห๊า!?” 

โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกบางอย่างขึ้นมาว่าพวกนี้คงได้คำพยากรณ์บางอย่างแล้วแน่ ๆ ว่าจะมีคนบุกรุกเข้ามาพังที่นี่ ตามที่มิเรียเอ่ยเล่าให้ฟัง

“เฮ้อ...ฉันขอพูดไว้อย่างละกัน การที่จะมองว่าคนไหนบุกรุกหรือหลงทางเข้ามามันก็ควรมองอย่างรอบคอบดีกว่าจะเอาอาวุธมาจ่อคนอื่นยังจะดีกว่านะ บอเรซ!!” 

“อึ้ก!! ทำไมเจ้าถึงรู้จักข้า!?” 

“ไม่ต้องรู้ดีกว่าว่าฉันรู้จักนายได้ไง แต่ว่าการที่พวกนายกำลังกล่าวหาผู้มาเยือนแบบฉันโดยไม่มีหลักฐานเท่ากับมีความผิดมาตราที่ 25 ของอาณาจักรเอราเซียน!!” 

“ห๊า! เจ้าพูดอะไร!! เจ้าเป็นคนภายนอกจะรู้จักกฎของอาณาจักรเราได้เยี่ยงใด!!” 

โพรทาเลียหยิบสมุดที่อ่านก่อนหน้าขึ้นมาอีกครั้งแล้วเปิดหน้าที่จำได้ว่าเขียนกฎต่าง ๆ ที่มียาวจนเกือบปาไปครึ่งหน้าของสมุดเล่มนั้น เธอเปิดจากด้านหลังก่อนมันจะหามาตราที่เธออ่านจนจำได้

“อะแฮ่ม! มาตราที่1 เมื่อผู้มาเยือนหรือผู้ผลักหลงเข้ามายังอาณาจักร จงต้อนรับพวกเขา แต่พวกนายกับจ่ออาวุธมาทางฉัน แถมยังกล่าวหาฉันว่าเป็นผู้บุกรุกอีก โดน 2 กระทงแบบนี้คงไม่ต้องหัวเลยว่าจะเห็นแสงอาทิตย์วันไหนเลยนะ”

โพรทาเลียพูดจบพร้อมรอยยิ้มที่ฉีกยิ้มออกมาจนพวกโกรอสทหารแต่ละตนถึงกับหน้าซีดเผือด มีโกรอสชายตนหนึ่งที่ใส่แว่นก็รีบเปิดหนังสือที่เขียนกฎอาณาจักรก่อนจะเห็นกฎที่ว่านั้นก็เอ่ยตะโกนออกมา

"จริงของนาง!! หัวหน้า!! กฎที่นางกล่าวทั้งหมดตรงหมดเลยนะขอรับ!!"

“ว่าไงนะ!!” 

ทุกคนหันไปมองหัวหน้ากันอย่างตกใจก่อนจะหันมามองผู้มาเยือนกันอย่างช้า ๆ ก่อนที่โพรทาเลียจะปิดหนังสือในมืออย่างรวดเร็ว เธอยกยิ้มอย่างกับบอกว่าตัวเธอนั้นชนะในครั้งนี้ ทุกคนเห็นรอยยิ้มที่แฝงความน่ากลัวอยู่ข้างในก็รีบปล่อยอาวุธในมือแล้วคุกเข่าขอความเมตตาจากเธอทันที

“ได้โปรดให้อภัยพวกเราด้วย!!” 

“พวกแก!! ลุกขึ้น!!” บอเรซมองทุกคนด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวที่ทุกคนกำลังก้มหัวให้แก่มนุษย์อย่างน่าละอาย "ข้าบอกให้ลุกขึ้น!!"

“พอได้แล้วท่านพี่!!” 

 

เสียงอันคุ้นเคยตะโกนสุดเสียงจนผู้คนโดยรอบต่างชะงักแล้วหันไปมองก่อนจะก้มทำความเคารพให้แก่คนผู้นี้ ดวงตาสีฟ้ากลมกลืนกับสีผิว เครื่องแต่งกายสองชั้น ชั้นแรกเป็นชุดสีขาว ชั้นสองด้านนอกจะเป็นเสื้อคาดตัวที่มีสีเนื้ออ่อน ๆ แต่นอกจากโกรอสชายหนุ่มที่กำลังเดินมานั้นก็มีชายชราที่ใบหน้าอันชรา ผมสีขาวเทายาว ดวงตาสีฟ้าอ่อน เครื่องแต่งกายคล้ายกับโกรอสชายแต่เป็นชุดทรงยาวถึงเท้าพร้อมกับไม้เท้าที่แกะสลักจากไม้ เธอจำใบหน้าของชายชราได้ดีก่อนที่อีกฝ่ายจะเสียไปเมื่อหลายปีก่อนหลังจากที่เข้ามาอยู่บนเกาะ

 

“ปู่...กาเซียน...” โพรทาเลียพึมพำออกมา

พวกเขากำลังเดินตรงมาหาทางนี้ บอเรซเห็นครอบครัวของตนเองที่กำลังเดินตรงมา แต่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ผู้เป็นบิดาและน้องชายด้วยสายตาไม่พอใจ

“เสด็จพ่อ...เจคอบ!” บอเรซเอ่ยชื่อน้องชายก็หันไปมองด้วยสายตาไม่พอใจ “เจ้าเอาเรื่องข้าไปบอกเสด็จพ่อสินะ!! หน้าไม่อาย!!” 

“…” 

“หุบปาก!! บอเรซ!! คนที่หน้าไม่อายคือเจ้าต่างหาก!!” 

“เสด็จพ่อ...” บอเรซมองคนเป็นบิดาตะคอกใส่ตนแบบนั้นก็ยิ่งไม่พอใจ “มีตรงไหนที่ข้าทำสิ่งหน้าไม่อายกัน!! ข้าช่วยปกป้องจากผู้บุกรุกนะ!!” 

“แต่ข้าเคยบอกเจ้าแล้ว!! ว่าจงรอบคอบและใช้ความคิดมากกว่านี้!! ถ้าคนที่มาเป็นแค่บุคคลทั่วไปจะทำเยี่ยงใด!!”

“แต่ว่า!! คนผู้นี้ดูออร่าของมันสิ!! ออร่าที่ดูไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไปด้วย!!” บอเรซชี้มาทางโพรทาเลีย

สิ่งที่บอเรซเห็นจากตัวโพรทาเลียเป็นออร่าที่เบ่งประกายถึงพลังอันหลากหลายออกมาจากตัวเธอ ทำเอาโพรทาเลียคิดเลยว่ารอบตัวเธอมีอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ แต่คงเพราะเธอมีพลังของอดีตชาติอยู่ร่างกายทำให้เธอดูเป็นคนที่ทรงพลังยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วไปเป็นแน่

“พอได้แล้ว!! เจ้าจงกลับไปซะ! ก่อนที่ข้าจะสั่งลงโทษเจ้า!” 

“แต่ว่าตามคำพยากรณ์จะมีผู้บุกรุกเข้ามาทำร้ายอาณาจักรเรานะ!! เสด็จพ่อจะยอมให้มันเข้ามาหรือไง!!” 

“บอเรซ!!” 

“อึ้ก!!” บอเรซกำหมัดอย่างเจ็บใจก่อนจะตะโกนสั่งลูกน้องของตนเอง “ทุกคนกลับ!!” 

เหล่าทหารทุกนายได้ยินคำสั่งก็รีบเก็บอาวุธของตนเองแล้วเตรียมตัวถอยกลับกันอย่างรวดเร็ว โพรทาเลียโล่งใจที่หนึ่งเรื่องหมดไปได้แต่ยังมีอีกเรื่องที่ตรงหน้ายังไม่ไปไหน ชายชรามองหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะกล่าวคำขอโทษออกมา

“ข้าขออภัยอย่างยิ่งที่คนของข้าก่อเรื่องกับเจ้า ผู้มาเยือน” 

โพรทาเลียส่ายหัวอย่างช้า ๆ “ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อยนะ”

“แต่ยังไงให้ข้าแสดงความรับผิดชอบต่อลูกชายของข้าเสียหน่อยเถอะ”

“อ๊า...งั้น…ช่วยฟังคำขอของฉันได้ไหมล่ะ?” 

“ฟังคำของั้นเหรอ?” 

“ใช่...ฉันเคยได้ยินมาว่าพวกท่านมีสตรีศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหมล่ะ?”

 

โพรทาเลียจำได้ดีเลยว่าในชนเผ่าโกรอสจะมีคนผู้หนึ่งที่ทุกคนจะเรียกว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์อยู่ตามคำบอกเล่าของพวกมิเรียเคยเล่าให้ฟังแถมคนคนนี้ที่ทุกคนพูดถึงยังเป็นบุคคลที่มีพลังในการรักษาอีก ตอนแรกก่อนมาเธอก็ลองหลายวิธีในการรักษาอีกฝ่ายแต่พลังของเธอกับช่วยไม่ได้สักอย่างจนเธอต้องหาวิธีอื่นจนจำได้ว่ามีที่นี่ที่จะช่วยเธอได้โดยไม่ต้องหวังพลังของทวยเทพ

 

“!!” องค์ราชาได้ยินแบบนั้นก็ตกใจเล็กน้อย ก่อนจะพินิจเล็กน้อยแล้วเอ่ยบางอย่างออกมา“ขอโทษด้วย แต่เราคงทำให้ไม่ได้!!” 

“เอ๊ะ? ท่านหมายถึงอะไร?” โพรทาเลียเอียงคออย่างสงสัยกับคำพูดอีกฝ่าย

“คนผู้นั้นเป็นสิ่งสำคัญของอาณาจักรเรา เราไม่สามารถยกนางให้เจ้าได้!” 

โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็แอบขำออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นมา “ใครบอกว่าฉันต้องการให้ท่านยกสตรีศักดิ์สิทธิ์ให้แก่ฉันกัน!!”

“อ๊ะ!!” 

องค์ราชาตกตะลึงกับคำพูดหญิงสาวที่เขาเผลอคิดไปเอง เขานึกว่าหญิงสาวต้องการตัวของสตรีศักดิ์สิทธิ์ เพราะส่วนใหญ่ผู้คนที่ได้รู้จักสตรีศักดิ์สิทธิ์มีแต่ต้องการตัวอีกฝ่ายอย่างเดียว พวกเหล่าผู้ติดตามเห็นท่าทางอันน่าอับอายเช่นนี้ขององค์ราชาก็ได้แต่กู้หน้าให้แก่องค์ราชาก่อนจะชี้หน้าของหญิงสาวตรงหน้า

“บังอาจ! เจ้ากล่าวหาว่าองค์ราชาของเราเข้าใจในสิ่งที่เจ้ากล่าวผิดฤๅ” 

“อ้าว? ก็มันจริงนี่น่า ฉันยังไม่ได้กล่าวเลยว่าต้องการตัวของคนผู้นั้น ฉันแค่ต้องการยืมหลังของคนผู้นั้นก็เท่านั้น!!” 

“พลัง?” องค์ราชาทวนคำพูดของอีกฝ่าย

“ใช่ ฉันแค่ต้องการยืมพลังเท่านั้น!!” 

“โกหก!! ไม่มีใครเชื่อเจ้าหรอกนะ!! องค์ราชา มนุษย์ผู้นี้ต้องการดูดพลังของสตรีศักดิ์สิทธิ์แน่ ๆ” 

“จริงขอรับ!! นางต้องไม่ใช่คนดีอย่างที่องค์ชายบอเรซกล่าวแน่ ๆ” 

โพรทาเลียจ้องมองพวกนี้ที่กล่าวหาว่าเธอนั้นอาจจะเป็นศัตรูที่จ้องจะเอาพลังของสตรีศักดิ์สิทธิ์แน่ ๆ จนเธอนั้นปวดหัวขึ้นมาทันทีแต่ไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่กำลังปวดหัวพวกองค์ชายที่อยู่ข้างหลังก็มองกันอย่างสงสัย

“พวกอาวุโสเป็นแบบนี้ตลอดจนน่ารำคาญชอบกล...” 

“ไม่ใช่แค่ท่านพี่นะ น้องก็เช่นกัน” โกรอสชายอีกคนเอ่ยพูดขึ้น

“เฮ้อ...สงสาร...มนุษย์ผู้นี้จริงๆ” 

โพรทาเลียทำหน้าคิ้วขมวดเป็นอย่างมาก เธอกำลังครุ่นคิดว่าจะทำไงให้พวกนี้เลิกโวยวายก่อนที่ตัวเธอนั้นจะนึกบางอย่างขึ้นมาถึงคำพูดของเจคอปที่จะส่งมอบสิ่งหนึ่งให้ก่อนจะแยกทางกัน

 

‘เจ้าจงเก็บเอาไว้เพื่อสักวันมันจะช่วยเจ้าได้’ เจคอปกล่าวพร้อมกับยื่นบางอย่างใส่มือของเธอ

 

นั้นทำให้เธอนึกถึงสิ่งนั้นก่อนจะจำได้ว่าเก็บไว้ในกระเป๋าคาดเอว เธอก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าคาดเอวอย่างรวดเร็ว ทำให้การกระทำของเธอนั้นเป็นที่จับตาของพวกผู้ติดตาม

“องค์ราชารีบหนี!! นางผู้นี้กำลังหยิบอาวุธออกมาแน่ ๆ ขอรับ!!” 

“จริงด้วยขอรับ!! รีบหนีเร็วขอรับ!!” 

พวกผู้ติดตามรีบดึงตัวองค์ราชาออกจากตรงนั้น แต่ตัวเขาไม่ขยับไปไหน เพราะท่าทางของหญิงสาวนั้นเหมือนหาของมากกว่าจะหยิบอาวุธมากกว่า เขาเลยไม่คิดจะหนี แต่คนเป็นลูกรำคาญพวกผู้ติดตามจึงเข้าไปตักเตือนเสียหน่อย

“นี่!! พวกคุณใจเย็น ๆ ก่อนสิ!!” 

“องค์ชายจะให้ใจเย็นได้ไง! ท่านใจเย็นเกินไปแล้ว!!” 

“เกิดนางชักดาบขึ้นมาทำไง!?” 

“ถ้าชักดาบก็คงชักไปนานแล้ว ข้างกายนางก็มีดาบนะ!!” 

เจคอปชี้ไปที่ข้างเอวของหญิงสาวก็เห็นว่าข้างเอวมีดาบอยู่ถ้าอีกฝ่ายจะฆ่าพวกเขา ไม่หยิบดาบข้างเอวดีกว่าหรือไง พวกเขาถกเถียงกันจนกระทั่งโพรทาเลียจับของที่ต้องการได้แล้ว เธอก็รีบหยิบขึ้นมาพร้อมกับโชว์ให้พวกคนตรงหน้าเห็น

“สิ่งนี้พอจะทำให้ท่านช่วยเราเจอกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ไหมล่ะ?”

ทุกคนต่างตกตะลึงกับสิ่งของที่อีกฝ่ายนำออกมา สร้อยคอทองคำบริสุทธิ์ที่มีตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์อยู่ตรงกลางพร้อมกับลวดลายอันประณีต เจคอปที่มองสร้อยนั้นก็ตกตะลึงเช่นกันก่อนจะก้มมองสร้อยที่ตนเองใส่

 

‘ทำไม...สร้อยนั้น...คล้ายกับของที่เราใส่อยู่?’ เจคอปคิด

 

โพรทาเลียมองทุกคนก็ตะลึงกันยกใหญ่จนตัวเธอเองนั้นต้องเอ่ยบางอย่างขึ้นมาให้พวกคนตรงหน้าได้สติกลับมา

“อะแฮ่ม! ทีนี้ฉันขอใช้สิทธิ์จากสร้อยเส้นนี้ได้หรือไหม? องค์ราชากาเซียน!!” 

“!!” 

ทุกคนต่างตะลึงที่หญิงสาวปริศนาที่โผล่มาทำท่ารู้จักสิ่งต่าง ๆ ของที่นี่แถมยังมีตราสัญลักษณ์ราชวงศ์รวมไปถึงรู้จักพระนามขององค์ราชา ยิ่งทำให้องค์ราชาประหลาดใจที่หญิงสาวตรงหน้ารู้จักตน

“นี่เจ้ารู้จักเรางั้นฤๅ” 

“ความลับ สิ่งบางอย่างท่านอย่าพึ่งรู้ดีกว่าในตอนนี้” 

“สามห้าว!! แปลว่าเจ้าโกหก เจ้าสามารถอ่านใจคนอื่นจนรู้พระนามขององค์ราชาแน่ ๆ!!” 

“ใช่ ๆ!!” 

พวกผู้ติดตามให้ท้ายกันจนทำเอาองค์ราชาส่ายหัวเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยบางอย่าง

“พวกเจ้าช่วยหุบปากสักครู่หนึ่งได้หรือไหม!!” 

น้ำเสียงอันดุดันอย่างไม่ต้องตะโกนก็ทำให้พวกผู้ติดตามหงอยไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่องค์ราชากาเซียนจะหันกลับมามองหญิงสาวตรงหน้าต่อ

“รู้สึกวันนี้เป็นวันโชคไม่ดีของข้าเสียจริง มีแต่ลูกและบริวารที่ไม่ได้เรื่องแบบนี้” 

“ฉันไม่ถือสาท่านหรอกนะ” 

“ขอบคุณจริง ๆ ที่ไม่ถือสา...งั้น...มิเรีย” 

องค์ราชาเอ่ยนามของคนคนหนึ่งออกมาทำเอาโพรทาเลียตาลุกวาวขึ้นมา ก่อนที่เจ้าของนามนั้นจะค่อย ๆ เดินตรงมาทางนี้ด้วยเครื่องแต่งานชุดกระโปรงยาวมีผ้าคลุมหน้าทั้งตัวเหลือเพียงให้เห็นแค่ดวงตาสีน้ำเงิน

“ถวายบังคม องค์ราชา” มิเรียจับชายกระโปรงทั้งสองข้างแล้วย่อตัวเล็กน้อย

“ผู้มาเยือน นางผู้นี้คือสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าอยากเจอ มิเรีย” 

 

จบตอนที่ 121 โปรดติดตามตอนที่ 122 ต่อไป