ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 139 ขัดขวางจนตัวตาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 140 คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 141 จุดสิ้นสุดไม่ใช่จุดสิ้นสุดเสมอไป [จบ]

เนื้อหา

ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย

ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย

สิ่งที่ตกค้างในลำคอมันช่างทำให้นึกถึงช่วงอันขมขื่นที่เคยเผชิญ ภายในคอร้อนเหมือนโดนคนเอาอะไรมาเผา กลิ่นเลือดที่คลุ้งไปทั้งลำคอจนไม่สามารถกลืนอะไรเข้าไปได้เลยแถมยังทรมานไปทั้งร่างกายเหมือนคนกำลังจะตายไม่มีผิด แต่ความตายนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเธอจริง ๆ แต่แสงสว่างที่เจิดจ้าของประตูมันควรจะแสบตาแต่มันกับทำให้เธอรู้สึกสงบจนอยากจะเดินเข้าไปข้างในนั้น

 

โพรทาเลียตีตัวเองเล็กน้อยให้สติกลับมา ประตูบานใหญ่นี้กำลังล่อลวงเธอให้เข้าไปตายจริง ๆ แสงสว่างนี้คงเกิดจากผลไม้ที่เธอกินเข้าไปทำให้เส้นทางตรงหน้าเปิดออกเพราะนึกว่าเธอกำลังจะตาย ยิ่งมองคลื่นที่กำลังเคลื่อนไหวไปมาภายในประตูนั้นก็ยิ่งรู้สึกแปลก ๆ กับแสงที่กำลังเรือนแสงอยู่นั้น มิเรียมองเด็กน้อย เธอรู้สึกว่าเป็นกังวลถ้าอีกฝ่ายเข้าไปข้างในนั้น แต่เส้นทางของมนุษย์ตัวน้อยคนนี้เธอไม่สามารถกำหนดได้ เธอเดินตรงไปหาอีกฝ่าย

 

“เจ้าจะเข้าไปเลยเหรอ? เด็กน้อย” 

โพรทาเลียที่ได้ยินน้ำเสียงโทนต่ำเหมือนเป็นกังวล ความรู้สึกที่คุ้นเคยกำลังทำให้เธอรู้สึกมีความสุขที่ได้ยินความเป็นห่วงของอีกฝ่าย ก่อนที่เธอจะหมุนตัวไปหาอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม

“ก็ต้องเข้าไปนั่นแหละ! อุตส่าห์ยอมทรมานแล้วทั้งที...จะรออะไรล่ะเนอะ!”

“...” มิเรียเห็นรอยยิ้มนั้นเธอกับรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา “คือว่า...”

มิเรียกำลังจะพูดบางอย่างออกมาอยู่นั้นก็มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจและเสียมารยาทแบบสุด ๆ 

 “แล้วเข้าไปในนั้น แล้วเกิดไม่รอดล่ะ? ก็สมน้ำหน้านั้นล่ะ!!” 

ทุกคนต่างหันไปมองเจ้าของเสียงอย่างจอห์นที่กำลังกอดอกอย่างไม่พอใจ ทำเอาคนเป็นเจ้านายอย่างเจคอบถึงกับปวดหัวที่มีลูกน้องแบบนี้จริง ๆ 

“เจ้าพูดอะไรให้มันมีสีสันไม่ได้เลยฤา!! จอห์น!!” 

“แต่เจ้าชาย...” 

“ข้าจะไม่พูดซ้ำสองนะ!!” 

“ขออภัยขอรับ...” 

จอห์นถึงกับก้มเงียบ เขาสงสัยว่าอีกฝ่ายถึงต้องตะโกนใส่เขากัน ยิงทำให้สงสัยว่ามนุษย์ตรงหน้าทำอะไรให้เจ้านายของเขาสนใจโดยไม่ฟังเขาเลยสักนิด 

“ขอโทษด้วยนะ เจ้ามนุษย์ จริงสิเจ้ายังไม่ได้บอกนามของตนเองเลยนะ ข้า เจคอบ เป็น...”

“ฉันรู้ว่าท่านเป็นใคร เจคอบ...แต่ชื่อฉันถ้าเป็นชื่อที่คุณชอบเรียกล่ะก็...เจ้าลูกน้อยน่าจะดีกว่านะ”

“เจ้าลูกน้อย!!” 

ทุกคนต่างพูดพร้อมกันอย่างตกใจกับคำพูดอีกฝ่ายการเรียกว่าลูกน้อยอาจจะสื่อไปในหลายความหมายอย่างเช่นอีกฝ่ายเป็นลูกของเจ้าชายหรือเปล่า

“นี่เจ้า!! จะให้เจ้าชายเรียกเจ้าแบบนั้นงั้นหรือ?”

“ฉันไม่ได้ขอนะ...แต่นั่นเป็นคำพูดที่เขาชอบเรียกสมัยฉันยังเด็กจนฉันบ่นบ่อย ๆ ล่ะนะว่าอย่าเรียกแบบนั้น...เพราะคุณอาจจะไม่สามารถมีคนรักได้นะ...”

เจคอบจ้องมองอีกฝ่ายที่พูดแบบนั้น เขาไม่รู้เลยว่าชีวิตของเขาจะมีอะไรแบบนั้น โพรทาเลียเห็นสีหน้าอีกฝ่ายก็รู้สึกน่าขันหน่อย ๆ ก่อนจะนึกบางอย่างที่อยากเตือนอีกฝ่ายอีก

“นี่...เจคอบ...”

“หือ?” 

โพรทาเลียยิ้มให้อีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง “อย่าให้ศักดิ์ศรีของคุณพังความรักของคุณนะคะ”

 

เจคอบที่ได้ยินแบบนั้นก็ตาค้างเพราะศักดิ์ศรีของเขานั้นมันสำคัญยิ่งกว่าอะไร แต่พอโดนเตือนแบบนี้ก็ทำให้คิดว่าศักดิ์ศรีของเขาทำให้ความรักของเขาพังงั้นเหรอ โพรทาเลียหันหลังให้โกรอสทั้งสามด้วยสีหน้าอันมุ่งมั่นก่อนที่จะก้าวขาไปข้างหน้าด้วยความเด็ดเดี่ยวอย่างไม่ร้องขอว่าต้องการให้ใครตามไป นี่เป็นภารกิจของเธอแล้วเธอต้องเป็นคนกำหนดเองถึงการเดินทางครั้งนี้ มิเรียจ้องมองเด็กน้อยที่กำลังก้าวไปข้างหน้านั้น ความรู้สึกบางอย่างบอกว่าไม่ต้องให้เด็กคนนั้นเข้าไปข้างใน ระหว่าที่เธอกำลังจะเข้าไปหานั้นก็มีบางอย่างผุดเข้ามาข้างในหัวพร้อมกับน้ำเสียงของใครบางคน

 

‘อย่าเข้าไปยุ่งนะ...เด็กน้อยต้องผ่านกาลเวลานี้ของเราไปก่อน...สักวัน...เดี๋ยวก็เจอ...แล้ว...’

 

สิ้นเสียงนั้นมิเรียก็ส่ายหน้าเบา ๆ น้ำเสียงที่คุ้นเคยนั้นคือน้ำเสียงของเธอที่เหมือนกับถูกส่งต่อมาให้เธอห้ามไปยุ่งกับการกระทำของอีกฝ่ายแต่ในนามเสียงนั้นเหมือนเอ่ยนามของใครบางคนออกมาจนเธอนั้นไม่รู้ว่าเป็นนามของใคร แต่เธอเชื่อว่าเป็นนามของคนตรงหน้า

“โพรทาเลีย!!”

น้ำเสียงที่ตะโกนออกมานั้นทำเอาโพรทาเลียไม่กล้าที่จะหันกลับไป เพราะเธอกำลังก้าวข้ามไปยังอีกฝั่ง เธอได้แต่เพียงยกแขนโบกมือลาเท่านั้น 

“ต้องกลับมานะ!! เจ้าต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ!!”

ความรู้สึกหนักอึ้งข้างในอกมันทำเอาเธออยากร้องไห้กับคำพูดอีกฝ่าย เมื่อก้าวข้ามประตูบานใหญ่มันทั้งหนาวและเย็นวาบไปทั้งร่างกาย เมื่อทะลุเข้ามายังอีกฝั่งก็ต้องตะลึงกับภาพอันแปลกประหลาดตาตรงหน้า รอบตัวนั้นเป็นสีเงินเหมือนทำจากโลหะทุกที ความเงาของมันทำให้เห็นร่างกายของเธอได้เลยยิ่น่าแปลกใจว่าที่นี่คือนรกงั้นเหรอ

“ที่นี่มัน...?” 

โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าที่นี่มันคือที่ไหนหรือว่าเป็นทางผ่านตรงดิ่งไปยังนรกงั้นเหรอ แต่ว่าเธอพึ่งสังเกตว่าโกรอสก่อนหน้าที่เข้ามาไม่อยู่ตรงนี้ ยิ่งทำให้สงสัยว่าเธอถูกพามาที่ไหนจนเธอกำลังจะหันหลังออกไปจากที่นี่ แต่ว่าประตูที่พาเธอเข้ามายังที่แห่งนี้ได้หายไปแล้ว

“ซวยล่ะ!!”

 

ข้างหลังเธอเหลือเพียงแค่กำแพงหนาที่ทำจากหินสีดำหนา สีหน้าอันตกใจของโพรทาเลียเริ่มซีดเผือกว่าเธอเลือกทางผิดงั้นเหรอ แต่เธอเหลือเวลาไม่มากเธอต้องรีบหาทางไปยังนรกให้ได้ เธอหมุนตัวไปข้างหน้าเพื่อเดินตามทางที่จะพาเธอออกไปจากที่นี่ ในมุมมืดจุดหนึ่งมีเงาปริศนากำลังจ้องมองเธอจากที่ไกล ๆ เขายกมือขึ้นก็เกิดควันสีดำขึ้นมาบนฝ่ามือ

 

โพรทาเลียกำลังเดินไปตามทางที่ไร้จุดสิ้นสุดและไร้ประตูให้เข้าไป มันยิ่งทำให้เธอสับสนว่าเธอเหลือเวลาแค่ไหนกันที่จะออกไปจากที่นี่ ยิ่งเดินเธอก็ยิ่งล้ามันต่างจากข้างนอกสุด ๆ การหายใจมันลำบากสุด ๆ จนเธอนั้นต้องหาน้ำขึ้นมาดื่ม เธอค้นหาขวดน้ำในกระเป๋าคาดเอว พอหยิบขวดน้ำขึ้นมาแล้วยกดื่มเพียงแค่ไม่กี่อึกเธอต้องกระอักน้ำออกมาจากปากพร้อมเลือดสีแดงไหลออกมา

“อ๊า!! ร้อน!! เรื่องบ้าอะไรกัน!!!”

โพรทาเลียตะโกนออกมาพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจากปาก เธอมองน้ำในขวดที่ไม่มีอะไรนอกจากความใสของมัน

“ระวังไว้นะ ที่นี่ต่างจากข้างนอกกินเข้าไปแล้วมันเหมือนจะเป็นพิษต่อเจ้านะ!!” รัลปรากฏตัวออกมาพร้อมกับลอยมาตรงหน้า

“รัล...หมายความว่าไง...”

“ข้าไม่แน่ใจนะว่าเป็นอย่างที่ข้าได้ยินจากท่านพี่ไหม...นี่อาจจะเป็น...สถานที่หนึ่งในนรกที่ไม่เคยมีคนเห็นนะ...”

“สถานที่ในนรก...แต่มันไม่เห็นร้อนเลยสักนิด…”

“หน้าตาของมันอาจจะเป็นแบบนั้นแต่ระวังไว้ สิ่งที่เธอดื่มหรือจะกินมันอาจจะเป็นพิษฆ่าเธอได้...”

“บ้าชิบ!!”

โพรทาเลียสบถออกมาอย่างไม่พอใจ เธอไม่คิดว่าตัวเองจะต้องเข้ามายังสถานที่อันแปลกประหลาดแบบนี้แถมของกินที่เธอเอามายังกลายเป็นพิษอีก รัลที่กำลังมองอีกฝ่ายที่กำลังทรมานจากพิษที่ได้รับนั้น เขาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังมาทางนี้

“มีอะไรกำลังมา!!”

“ว่าไงนะ!?” 

โพรทาเลียรีบเช็ดเลือดที่ออกมาจากปากของตนเองแต่ยังไงก็ตามทีมันก็ยังไหลออกมาอยู่ดี เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองตรงหน้าก็เห็นเหล่ากองทัพสิบนายกำลังวิ่งพุ่งตรงมาทางนี้

“โครงกระดูกเหรอ!?” 

“ฮาเดสส่งมาหรือไงกัน?” รัลกล่าวขึ้นมาอย่างสงสัย

“พวกโครงกระดูกเนี่ยนะ?”

“ใช่...แต่...อีกอย่าง...ถ้าไม่ใช่ฮาเดส...ก็อาจจะเป็นสายเลือดของเขาก็ได้”

“สายเลือดฮาเดสเหรอ?” 

ยังไม่ได้พูดอะไรต่อนั้นโครงกระดูกตนหนึ่งก็พุ่งมาฟาดฟันใส่โพรทาเลีย ตัวเธอรีบถอยหลังสุดกำลัง พื้นที่โดนโครงกระดูกฟาดใส่ถึงกับยุบลงไปจนเกิดดรอยแตกรอยแยกเป็นวงกลม เธอเห็นแบบนั้นก็อารมณ์ขึ้นทันทีที่โดนโจมตีก่อนแบบนี้ 

“โจมตีแบบนี้...จะฆ่ากันเลยเหรอ!? ได้!! ฉันกำลังเลือดขึ้นหน้าเลยล่ะ!!”

“เลือดขึ้นปากมากกว่ามั้ง...” รัลกล่าวมองสภาพอีกฝ่ายที่เลือดยังไหลออกมาจากปาก

“หุบปาก! รัล!!”

 

โพรทาเลียจับไปที่ด้ามดาบแล้วชักออกมาจากฝักอย่างรวดเร็ว ดาบของเธอกำลังเปร่งประกายเหมือนมันได้รับพลังจากเจ้าของอย่างเต็มที โพรทาเลียปล่อยพลังออกมาจากร่างกายอย่างเต็มกำลังก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปจัดการพวกมันทั้งสิบตน เธอตวัดดาบหมุนตัวฟันตัวตรงหน้า ก่อนจะไถลไปฟันอีกตัวกลางลำตัวจนมันล้มลงไป กระบวนท่าต่าง ๆ โจมตีพวกโครงกระดูกได้อย่างง่ายดายจนทำให้คนที่แอบซ่อนอยู่นั้นเห็นถึงกับตะลึงในสิ่งที่เห็น ก่อนที่เขานั้นจะเรียกพวกโครงกระดูกเพิ่มขึ้นมาอีก

 

โพรทาเลียที่กำลังหอบหายใจหลังจากจัดการพวกโครงกระดูกสิบตน ยิ่งร่างกายไม่สมบูรณ์จากการรับพิษเธอยิ่งรู้สึกหอบและอ่อนล้าสุด ๆ 

“บ้าจริง...” 

โพรทาเลียสบถออกมาเบา ๆ ก่อนที่จะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนเข้ามา เธอก็หันไปมองทิศของเสียงก็เห็นสิ่งที่ไม่คาดคิด นั้นก็คือกองทัพโครงกระดูกอีกชุดที่กำลังวิ่งมาทางนี้แถมยังมีจำนวนที่เยอะกว่าด้วย

“อ๊ากกกกกกกก!! ฉันกำลังรีบนะเว้ย!! ฉันช้ากว่านี่ เจสันต้องตายจริง ๆ แน่!!” 

 

‘!!!’ 

 

ผู้หลบซ่อนอยู่นั้นได้ยินแบบนั้นก็นิ่งไปชั่วขณะก่อนที่พวกโครงกระดูกกำลังโจมตีเด็กสาวอยู่ เขามองอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายเอ่ยชื่อนั้นคงไม่ได้หมายถึงเจสัน เกรซใช่ไหม เพราะมีคนเดียวเท่านั้นที่ตายในช่วงนี้ ยิ่งทำให้คิดว่าอีกฝ่ายนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับเจสัน เขาครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะเห็นว่าเด็กสาวล้มลงเพราะความอ่อนล้า โครงกระดูกกำลังจะฟาดใส่เด็กสาว ผู้หลบซ่อนเห็นแบบนั้นก็ยกมือขึ้นมาหยุดการโจมตีทุกอย่าง

 

‘หยุด!!’

 

โพรทาเลียเห็นการโจมตีตรงหน้าที่กำลังจะฟาดฟันใส่เธอ ทำให้เธอต้องยกมือที่ถือดาบขึ้นมาห้องกัน แต่ทว่าโครงกระดูกก็หยุดชะงักไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย โพรทาเลียจ้องมองอย่างตกใจที่จู่ ๆ โครงกระดูกก็หยุดนิ่งไป ก่อนที่พวกมันจะเก็บอาวุธแล้วถอยหลังกันไป โพรทาเลียจ้องมองอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่จะมีฝีเท้าดังขึ้นมาตามทาง เธอหันไปต้นเสียงท่ามกลางกองทัพโครงกระดูกมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีผิวกายที่ซีดเผือก ผมดำหยักศกและดวงตาสีดำกำลังจ้องมองมาทางนี้ ถึงรูปลักษณ์อีกฝ่ายจะดูแตกต่าง แต่เธอก็จำได้อย่างดีว่าคนนั้นคือใคร

 

“นิโค...ดิแองเจโล...” 

“รู้สึกเธอจะรู้จักฉันนะ...คนแปลกหน้า...”

“ก็...นิดหน่อย...แต่นาย...เป็นคนควบคุมพวกมัน...จะฆ่าฉันเหรอ?”

“ก็...ใครที่เข้ามายังที่แห่งนี้...ถ้าไม่ใช่พวกโกรอส...ฉันจะตัองฆ่าให้หมดล่ะนะ...”

“เหอะ ๆ” 

 

‘นี่เหรอ...คนที่ยิ้มอย่างน่ารัก...ตอนมาช่วยพาพวกฉันไปค่ายนะ...’ โพรทาเลียคิด

 

นิโคจ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังมองเขา ความรู้สึกของเขากำลังคิดว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใครแล้วทำไมต้องการจะช่วยเจสันกัน แต่ว่าการช่วยคนที่ตายไปแล้วไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นั้นทำให้เขาคิดว่าควรจะพูดยังไงกับอีกฝ่าย

“จงกลับไปซะ!!” 

“เอ๊ะ?” โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็ตาลุกวาวอย่างตกใจว่าอีกฝ่ายพูดอะไร “เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ?” 

“ฉันบอกให้เธอกลับไปซะ!!” 

“หมายความว่าไง?” 

“เธอบอกเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ? ว่าจะมาช่วยเจสัน เกรซ” 

“ใช่ แต่ว่า...” 

“เขาตายไปแล้ว!!” นิโคขึ้นเสียงจนมันดังไปทั้งบริเวณนั้น

เสียงอีกฝ่ายที่ดังเข้าโซนประสาทของโพรทาเลียทำให้เธอนิ่งไปชั่วขณะ เธอรู้ว่าเจสันตายไปแล้ว แต่เธอยังไม่หมดความหวังว่าอีกฝ่ายที่กำลังจะตายในอีกไม่ช้า ถ้าเธอไม่รีบจนเธอนั้นรู้สึกว่าต้องตอกหน้าอีกฝ่ายสักทีกับคำพูดนั้นของอีกฝ่าย

 “แล้วไง!?” 

“ว่าไงนะ!?” นิโคยกคิ้วขึ้นมองอย่างสงสัย

โพรทาเลียพยายามพยุงตนเองให้ลุกขึ้นแต่มันก็ลำบากยิ่งกว่าอะไรจนเธอพยุงตัวเองได้ เธอเงยหน้ามองอีกฝ่ายก่อนจะพูดต่อ

“ฉันบอกว่า...แล้วไง!? ฉันไม่สนใจหรอกนะว่านายจะพูดอะไร แต่ว่า...เจสัน เกรซยังมีชีวิตอยู่!!” 

“เธอไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรือไง!? เขาตายมานานแล้ว!! เขากำลังเดินทางสู่เส้นทางแห่งการเกิดใหม่ เธอจะไปขัดขวางเขาหรือไง!?” 

“ฉันไม่สนใจ!! ฉันต้องไปช่วยเขาขึ้นมาจากนรกนั้นเพื่อให้สมดุลของโลกฉันกลับมา!! ไม่งั้นครอบครัวเขา...ครอบครัวฉัน...!! มันกำลังพัง!! ถ้าไม่มีเจสัน...ลูกน้อยทั้งสองของฉันก็จะหายไป...” 

โพรทาเลียก้มมองมือของเธอที่กำลังสัมผัสหน้าท้องของเธอพร้อมความรู้สึกที่อัดอั้นสุด ๆ เธอนึกสองแฝดตัวน้อยของเธอที่เป็นแรงผลักดันให้เธอมีรอยยิ้มได้ เธอเงยหน้าจ้องมองนิโคอีกครั้ง

“ฉันไม่สนใจว่านายจะห้ามอะไร แต่ฉันจะช่วยเขา!! ฉันจะช่วยเจสันจนกว่าร่างกายนี้จะพังทลาย!!” 

นิโคมองอีกฝ่ายที่ตอนนี้ดูมีอารมณ์ที่หลากหลายกว่าที่เขาจะเข้าใจ แต่มันทำให้เขานึกย้อนไปถึงพี่สาวของเขาที่ไม่มีใครช่วยเธอได้จนเธอเสียสละตัวเองแล้วตายจากไป

 

‘เธอเป็นใครกัน...ทำไม...คนอย่างเธอถึงไม่โผล่มาตอนที่พี่สาวฉันอยู่กัน...ถ้าเธอโผล่มาเธอจะช่วยพี่สาวฉันไหม...ฉันอิจฉาเหลือเกิน...อิจฉาที่มีคนยอมเสียสละตัวเองเพื่อคนอื่น...เหมือนพี่สาวฉัน...’ นิโคคิด

 

นิโคก้มหน้าลงเขาหันหน้าหนีอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้เห็นว่าเขากำลังทำสีหน้าแบบไหน โพรทาเลียมองอีกฝ่ายว่าถ้าอีกฝ่ายหนีเธอจะล็อกตัวอีกฝ่ายทันที นิโคเอามือขึ้นมาเช็ดบางอย่างบนใบหน้า ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้นมาพร้อมกับมือที่นิ้วกำลังแตะเข้าหากัน

“ฉันไม่รู้ว่าเธอเกี่ยวข้องกับเจสันยังไง...แต่ฉันจะยอมปล่อยเธอไป...แต่ฉันบอกคำเดียว...เธอไม่มีวันช่วยเขาได้หรอกนะ!!” นิโคกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ยังดูถูกอีกฝ่ายถึงความตั้งใจนั้น

“ฉันไม่สนใจหรอกนะว่านายจะคิดยังไง!! แต่ฉันจะทำให้นายเห็นว่าฉันสามารถช่วยเจสันกลับมาได้!! พาเขามายืนตรงหน้านายได้!!” 

“แล้ว...ที่ไหน...ที่เธอจะพาเขาไปส่ง?” นิโคถามสถานที่ที่อีกฝ่ายจะพาเจสันไปส่ง

โพรทาเลียได้ยินคำถามก็อย่างมั่นใจ “ค่ายฮาล์ฟบลัด!!”

“งั้นเหรอ...งั้นฉันจะรอละกัน!!” 

นิโคตอบอีกฝ่ายจบเขาก็ดีดนิ้วของเขาที่ตั้งตารออยู่สักพัก โพรทาเลียเห็นท่าทางอีกฝ่ายดีดนิ้วแบบนั้นก็รู้สึกเสียวขาของตนเองก่อนจะก้มมองก็เห็นหลุมสีดำที่อยู่ใต้เท้าตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ก่อนที่ร่างกายของเธอจะตกลงเข้าไปในหลุมนั้นอย่างรวดเร็ว

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! นิโคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค!! เจ้าบ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!”

น้ำเสียงอีกฝ่ายทำให้นิโคนึกถึงเพอร์ซีย์ขึ้นมาทันที นานแค่ไหนที่เขาไม่ได้กลับไปยังค่ายฮาล์ฟบลัดกันคงถึงเวลาที่เขานั้นจะต้องยอมเสียเวลาที่จะไปเยี่ยมทุกคนที่ค่ายเสียหน่อย แต่เขาเดินมามองมองหลุมดำที่เขาสร้างขึ้น 

 

‘ถ้าเธอผ่านนรกนั้นมาได้จริง ๆ สร้างปาฏิหาริย์นั้นให้ฉันเห็นหน่อยละกัน คนแปลกหน้า...’นิโคคิด

 

หลุมดำนั้นพาโพรทาเลียไปสู่เส้นทางอันดำมืดที่ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากสีดำรอบกายของเธอ ร่างกายที่ตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลกก็ยิ่งตกลงมาเรื่อย ๆ ไม่เห็นก้นทางเลยสักนิด เวลายิ่งผ่านไปก็ไร้วี่แววจนกระทั่งเห็นบางอย่างเห็นแสงสว่างที่ก้นทางที่คิดว่าไม่น่าจะมี โพรทาเลียเห็นก็ฉีกยิ้มอย่างดีใจที่เธอกำลังจะถีงเส้นทางสู่นรก พอหลุดออกมาเส้นทางนั้นก็ต้องตาโตอีกครั้งเมื่อสิ่งที่เธอเห็นนั้นก็คือกลางอากาศภายใต้ท้องฟ้าที่ไหนไม่รู้ก่อนที่ร่างกายของเธอจะพุ่งตกลงข้างล่าง

 

“ชิบ!! ทำไมต้องกลางอากาศตลอดเลยเนี่ย!!!”

เสียงตะโกนของโพรทาเลียดังไปทั่วพืนที่นั้นแล้วที่ที่เธออยู่นั้นทั้งดำมืดและไร้สีสัน เสียงอันดังก้องของโพรทาเลียทำให้คนที่เฝ้ารอได้แต่ฉีกยิ้มอย่างดีใจว่าคนที่เธอรอมาถึงเสียที

“พี่โพรทาเลีย!!” 

 

จบตอนที่ 124 โปรดติดตามตอนที่ 125 ต่อไป