ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ - ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค

รายละเอียด

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำอธิบายจากนักเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน 

เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน

เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ

แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ

ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย

---------------------------------------------------------------------

บทนำของเรื่อง

          

        ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]

          เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?

------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง

เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ

------------------------------------------------------------------------

กำหนดการการลงนิยาย

ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.

------------------------------------------------------------------------

ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ 

ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ

 

สารบัญ

[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 1 ห้วงคืนสู่บ้านอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 2 ค่ายฮาล์ฟบลัด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 3 ระลึกถึงคนที่จากไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 4 ต่อกรกับพวกเกเร,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 5 ฝันประหลาด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 6 การท้าทายครั้งใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 7 ได้เจอกันอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 8 การทดสอบที่ทะเลสาบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 9 ปลอบใจพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 10 สวรรค์ของโพรทาเลีย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 11 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 12 เค้กของพี่ชาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 13 รูปปั้นพี่น้อง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 14 คันเข้าไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 15 น้องใครกันแน่?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 16 ควันอันตราย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 17 แผนการล้ม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 18 ผลแพลเปิ้ล,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 19 ผลแพลเปิ้ล [ต่อ],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 20 แอบฟัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 21 สารนั้นคืออะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 22 มีแต่เรื่องให้ตกใจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 23 ข้อสงสัยมากมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 24 ปลดปล่อยจากการกักขัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 25 ปรุงยาสำเร็จ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 26 หยดเดียวช่วยชีวิต,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 27 พักผ่อน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 28 ลอบทำร้าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 29 ความโกรธไม่ใช่ทุกสิ่งที่จัดการได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 30 พี่น้องที่ได้กลับมาเจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 31 ความอยากรู้จนเจ็บตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 32 นิมิตแจ้งเตือน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 33 เวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างช้าๆ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 34 การฝึกที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 35 การต่อสู้ระหว่างพ่อลูก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 36 ค้างคืน ณ บ้านแจ็กสัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 37 อดีตที่หนีไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 38 อดีตที่หนีไม่ได้ [2] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 39 อดีตที่หนีไม่ได้ [3],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 40 เจ้ายังมีเราอยู่ข้างกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 41 วันพักผ่อนของผู้ใหญ่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 42 สิ่งที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 43 ว่าที่ลูกสะใภ้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 44 ร้านอาหารบลูเมอร์เมด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 45 ครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 46 บุคคลที่ไม่คิดว่าจะเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 47 ไปรษณีย์ของเฮอร์มีส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 48 กินทาโก้กับอาสาว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 49 แม่ที่โคตรเฮงซวย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 50 มาค้างคืน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 51 จิตวิญญาณดวงใหม่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 52 น้องชายที่รัก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 53 ความฝันอันเจ็บปวด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 54 การโจมตีของอดีตชาติตนที่ 4,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 55 ความเจ็บปวดจากสิ่งเล็กๆ ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 56 สลับร่างกันอย่างงุนงง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 57 ความลับจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 58 ไม่อยากพบเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 59 ก่อจลาจลของเหล่าปีศาจ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 60 รถกระบะจะพุ่งชนยักษ์ไซคลอปส์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 61 จงเละไปซะเถอะ นูอัส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 62 ถ้ำปริศนา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 63 หลอมรวมพลัง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 64 กลับมากันอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 65 เจ้าทอดทิ้งข้าได้ไง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 66 ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจริงๆ เหรอ?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 67 มอบพลังให้แก่สายเลือดของตน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 68 [ตอนพิเศษ1.1] พ่อลูกได้เจอกัน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 69 [ตอนพิเศษ1.2] พ่อลูกได้เจอกัน [จบ] ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 70 สิ่งที่โหยหามาตลอด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 71 เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 72 มันความจริง จริงๆ เหรอ? ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 73 เต้นรำอย่างสนุกกับเถาวัลย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 74 เผลอทำอะไรไม่เข้าเรื่องซะแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 75 การทรยศของครอบครัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 76 แองเจิลปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 77 ตะลุยเยี่ยมคุณย่าอีกครั้ง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 78 การพบปะที่ไม่ได้เจอกันนาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 79 ความกล้าเป็นแสงสว่างอันใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 80 พ่อข้าคือแซเทิร์น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 81 ความสุดยอดของตนเอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 82 จงสรรค์สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 83 หารือการแต่งงาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 84 บลูเมอร์เมดโดนโจมตี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 85 ถึงเวลาที่ต้องเร่งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 86 ต้องไปช่วยให้ได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 87 สายเลือดแอรีสมาแล้ว!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 88 มหาเทพ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 89 มาคุยกันหน่อยสิ พี่ฟีนีอุส,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 90 การหมั้นหมาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 91 ส่งมอบ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 92 จุดเริ่มต้นของความพินาศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 93 กาลเวลาที่บิดเบี้ยว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 94 สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 95 โจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 96 หาหนทางสู่โลกเดิม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 97 เดินทางสู่ตึกเอ็มไพร์สเตท,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 98 อันตรายก่อนขึ้นชั้น 20,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 99 ห้องประชุมโคลอสเซียม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 100 ไม่มีความปรานี,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 101 อธิบายความจริง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 102 เบาะแสจากเพอร์ซีย์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 103 เวลาที่อยากเจอ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 104 ตัวช่วยที่จะพาเรากลับบ้าน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 105 ออกเดินทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 106 เริ่มแผนตะลุยเกาะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 107 โจมตีอย่าได้ยั้งมือ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 108 ชีวิตที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 109 หาหนทางใหม่,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 110 สองบุคคลที่ไม่คาดคิด,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 111 ปาฏิหาริย์มาอยู่ตรงหน้า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 112 กุญแจนำทาง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 113 เกือบตายยกกวนเสียแล้ว,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 114 ถูกจับแยก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 115 หายไปไหนกันหมด?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 116 แสดงพลังออกมาเสียนั้น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 117 ก็ไม่อยากให้รู้,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 118 ผู้ทรยศ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 119 โดนฟ้าผ่า,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 120 สายเลือดฮาเดสปรากฏกาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 121 สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 122 สตรีศักดิ์แห่งอาณาจักรเอราเซียน [2],[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 123 ความหวังสีดำ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 124 เหล่าโครงกระดูกทั้งหลาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 125 กองทัพปีศาจนรก,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 127 ความจริงที่ปิดมานาน,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 128 นำทางสายเลือดจูปิเตอร์กลับค่าย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 129 เหล่าเทพตามหา,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 130 แรงกดดันของเทพตัวน้อย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 131 ได้กลับมาอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 132 กลับมายุคเดิมอย่างปลอดภัย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 133 เราขอท้าดวลท่านทั้งสอง,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 134 เริ่มสงคราม,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 135 ถึงเวลาตามคำพยากรณ์,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 136 พ่อจะไปเสี่ยงไม่ได้นะ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 138 คำทำนายอะไร?,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 139 ขัดขวางจนตัวตาย,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 140 คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!!,[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญ-ตอนที่ 141 จุดสิ้นสุดไม่ใช่จุดสิ้นสุดเสมอไป [จบ]

เนื้อหา

ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น

ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น

เซีย ธิดาของเทพแห่งนรก นางเป็นบุคคลหนึ่งที่โพรทาเลียไม่คิดว่าจะมาเจอในสถานที่แห่งนี้ ตอนแรกที่เธอเจออีกฝ่ายก็ยังจำไม่ได้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่พอจำได้แล้วนั้นเธอโคตรอยากหนีออกจากที่นี่ไปอยากรวดเร็วพอมานึกถึงอดีตที่เธอเคยเห็นของหนึ่งในอดีตชาติของเธอนั้นก็คือลักซ์ ในความทรงจำของหมอนี้เคยมีความสุขกับหญิงคนหนึ่งจนกระทั่งเขานั้นต้องตายจากโลกนั้นไปหลังจากนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าเธอตรงหน้าเป็นไงมั้ง แต่แค่เห็นสีหน้าอีกฝ่ายที่กำลังยิ้มให้เธอมันก็น่ากลัวชอบกล แต่ตอนนี้เธอกำลังทำท่าทางเหมือนอยากโดนชมก่อนที่โพรทาเลียจะเอ่ยบางอย่างออกไป

 

“เอ่อ...ขอบใจที่มาช่วย-”

โพรทาเลียพยายามที่จะลุกขึ้นมาแต่เธอยังกล่าวไม่ทันจบอีกฝ่ายก็มานั่งคร่อมตัวเธอพร้อมกับจับใบหน้าของเธอแล้วก็ยื่นหน้าเข้ามาจนริมฝีปากทั้งสองประกบเข้าหากันจนโพรทาเลียตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“อื้ม!!!!”

ทุกคนต่างมองอย่างตกใจไม่ได้ดูเลยว่าอีกฝ่ายกำลังจูบอย่างดูดดื่มกับโพรทาเลียจนเจ้าตัวยกมือขอความช่วยเหลือ โฟกัสที่อยู่ภายในร่างของตัวเองถึงกับตะลึงจนเรียกสติกลับมาได้เธอก็ดันตัวเองออกมาจากร่างได้ก็ตะโกนเสียงดังทันที

“เซียยยยยยยยยยยยยย!!เธอทำบ้าอะไร!!”

เซียไม่สนใจเสียงอีกฝ่าย แต่เธอก็เสร็จกิจของเธอพอดีจนเธอนั้นผละจูบออกจนริมฝีปากนั้นมีน้ำลายไหลติดมาจนยืด โพรทาเลียที่โดนจูบถึงกับน็อคสลบไปเลย ก่อนที่เซียจะหันไปตอบ

“หือ...? ก็ช่วยพี่สาวเจ้าไงล่ะ~”

“ช่วยบ้าอะไร!? จูบมันช่วยอะไรได้กัน!! พี่ค่ะ!!” โฟกัสรีบวิ่งเข้าไปประคองพี่สาวทันที “พี่ค่ะ!! ทำใจดี ๆ ไว้นะ!!”

เซียมองอีกฝ่ายกำลังปลุกพี่สาวที่สลบก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ “ฮ่า ๆ อะไรกัน~ แค่จูบเองนะ มันไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดเลยนะ”

“ไม่แปลกสำหรับเธอ แต่สำหรับเรามันแปลกในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ เซีย!!”

“โธ่! ตอนนี้ก็ปกติแล้วนี่น่า แล้วอีกอย่างฉันช่วยบรรเทาอาการที่พี่เจ้าเป็นให้ก็เท่านั้นเอง~”

“บรรเทาบ้าอะไรกัน!? เธอช่วยพี่ฉันได้หรือไงกัน!?”

“ก็รอดู~” เซียยกยิ้มอย่างสนุก

โฟกัสมองจ้องมองอย่างงุนงงว่าอีกฝ่ายหมายความว่าไงก่อนที่ตัวของโพรทาเลียจะเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างกำลังจะไหลออกมาจากปากเธอก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมอาเจียนบางอย่างที่มีสีแดงออกมา ทุกคนเห็นก็ตกใจที่จู่ ๆ อีกฝ่ายอาเจียนสิ่งบางอย่างออกมาจนโฟกัสลูบหลังอีกฝ่ายที่อาเจียนบางอย่างออกมาจนเธอหันไปหาอีกฝ่ายที่กำลังยืนมองอยู่

“เธอทำอะไรพี่สาวฉัน!?”

“ก็บอกแล้วนี่ว่าข้าช่วยบรรเทาอาการพี่เจ้าที่โดนพิษจากสิ่งที่นางกินก็เท่านั้น”

“ห๊า!!”

 

โพรทาเลียอาเจียนสิ่งที่ตนเองกินออกมาหมดจนตอนนี้ท้องเธอโล่งไปหมด เธอเช็ดปากของตนเอง ตอนนี้เธอเงยหน้ามองหญิงสาวที่กำลังยกยิ้มให้เธออย่างชอบใจ แต่เธอไม่ชอบท่าทางอีกฝ่ายเลยจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นอดีตชาติของน้องสาว เธอคงเล่นงานอีกฝ่ายจมดินไปแล้วแถมยังเป็นอดีตคู่นอนของลักซ์อีก ทำเอาเธอประมาทไปหมดยิ่งภายในลึก ๆ กับรู้สึกคิดถึงและโหยหาสิ่งที่ขาดหายไป เธอส่ายหน้าเบา ๆ เพื่อเรียกสติกลับมาคงเพราะความทรงจำของลักซ์ทำให้เธอมีท่าทีกับอีกฝ่ายแบบนี้

 

“ขอบใจที่ช่วย...แต่...หาวิธีอื่นนอกจากวิธีนั้นไม่ได้หรือไง?” โพรทาเลียเงยหน้าขึ้นมาลองขยับมือตัวเองว่ามันก็รู้สึกสบายตัวมากกว่าเมื่อกี้

“เอ๋~ มีวิธีอื่นด้วยเหรอ? เจ้าน่าจะรู้นะวิธีอื่นของข้านั้น มันอาจจะมากกว่าจูบก็เป็นได้นะ ลักซ์~”

โพรทาเลียได้ยินก็หน้าแดงขึ้นมา เธออยากให้ลักซ์ลากผู้หญิงคนนี้ออกไปจากตรงนี้จริง ๆ “แค่วิธีนี้พอล่ะ...อย่าเอาอย่างอื่นเลย...แล้วอีกอย่างฉันไม่ใช่ลักซ์ของเธอ”

“เอ๋~? ข้าสนใจเหรอ? ยังไงข้างในนั้นก็มีลักซ์อยู่ไม่ใช่หรือไง~ ยอดรัก~”

คำพูดนั้นและใบหน้าที่ดูโรคจิตทำเอาโพรทาเลียรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตกหลุมรักอีกฝ่ายเพราะความรู้สึกของลักซ์ แต่ทว่าก็มีคนมาขัดขวางนั้นก็คือโฟกัสที่ไม่พอใจที่อดีตชาติของตนเองกำลังล่อลวงพี่สาวของเธอ

“หยุดใช้พลังสว่านเสน่ห์ใส่พี่สาวฉันเลยนะ!! เซีย”

“โธ่~ อะไรของเจ้ากัน? ข้ากำลังสว่านเสน่ห์ใส่ยอดรักของข้าต่างหาก” เซียส่งจุ๊บให้โพรทาเลีย

โฟกัสรีบจับอากาศแล้วขยี้ลงในมือทันที เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่น่าเป็นอดีตชาติของเธอจริง “หยุดทำเรื่องบ้า ๆ เลย แล้วเอาร่างฉันคืนมาเดี๋ยวนี้!!!”

“แล้วถ้าข้าไม่คืนล่ะ~”

“ว่าไงนะ!!”

โฟกัสเลือดขึ้นหน้าทันทีเธอพลาดแล้วที่ยอมให้อีกฝ่ายใช้งานของเธอ ก่อนที่เธอจะยืนประจันหน้ากับอีกฝ่าย โพรทาเลียเลียแบบนั้นก็เดินหนีถอนออกมาอยู่ข้าง ๆ เจสันที่กำลังยืนหลบมุมอย่างไม่อยากยุ่งกับใครจริง ๆ ยิ่งมาเจอสถานการณ์อันน่าอายก่อนหน้านั้นอีก ก่อนที่เขาจะมองอีกฝ่ายที่มายืนใกล้ ๆ ก่อนจะแซวอีกฝ่าย

“ดูเหมือนว่า...เธอจะเนื้อหอมจังนะ...”

“เหอะ ๆ ก็งั้น...” โพรทาเลียกอดอกอย่างไม่ชอบใจ

เจสันมองอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยพูดต่อ "เอ่อ...ชื่อโพรทาเลียสินะ”

“อ๊ะ...ใช่...”

“เอ่อ...สิ่งที่ฉันเห็น...เมื่อกี้ผู้หญิงสายเลือดฮาเดสเข้าร่างน้องเธอ...”

“พวกเขาเป็นอดีตชาตินะ...”

“อดีตชาติ?”

“ใช่...พวกเราสองคนเกิดจากเทพเจ้ากรีกทั้ง 13 ตน”

“ห๊า!? จะบอกว่าพวกเธอกลับมาเกิดใหม่ถึง 13 ครั้งเหรอ?”

“เปล่านะ...ฉันคือฉัน เราแค่มีอดีตชาติติดตัวมากันคนละ 7 ถึง 6 คน ไม่ใช่การเกิดใหม่หลาย ๆ รอบ ถึงพวกเราจะสามารถดูความทรงจำของพวกเขาได้ก็ตามที และก็อดีตชาติของฉันพวกเขาแค่ตายไปแล้วถูกรวบรวมให้รอเวลามาเกิดใหม่พร้อมพวกเรา พวกเขาถึงเรียกเราว่าเป็นร่างจุติที่สามารถให้พวกเขายืมร่างได้นะ”

โพรทาเลียอธิบายถึงกลไกการเกิดใหม่ของพวกเธอที่มันเป็นมายังไงก่อนที่เขาจะหันไปมองอีกฝ่ายก็เห็นอีกฝ่ายที่ยืนนิ่งด้วยสีหน้างุนงง เพราะข้อมูลที่อีกฝ่ายพูดไม่ได้เข้าหัวเขาสักนิด

“เอ่อ...คุณเจสัน...คุณเจสัน...” โพรทาเลียยกนิ้วขึ้นพร้อมกับดีดนิ้วหนึ่งครั้ง “คุณเจสัน!!”

“อ๊ะ!! ขอโทษที...ฉัน...สับสนไปหมดกับคำพูดเธอ...”

“ขอโทษด้วยนะ...เอ่อ...เอาง่าย ๆ ก็ฉันคือฉัน ไม่ได้มีชีวิตอยู่มานานค่ะ...แต่ว่าตอนนี้เรารีบไปดีกว่าเหลือเวลาอีกไม่มาที่จะพาคุณเข้าร่างของคุณ”

“ร่างฉัน? เธอเจอร่างฉันเหรอ?”

“ใช่...แต่ตอนนี้ยังอธิบายมากกว่านี้ไม่ได้ นาย...อ๊ะ คุณเจสันต้องไปกับฉันก่อนนะ”

“อ๊ะ...โอเค...แต่ฉันสงสัยนิดหน่อย...เธอรู้สึกว่าจะเรียกฉันลำบากนะ ก่อนหน้าก็นายตอนนี้ก็คุณนะ”

“อ๊ะ...ก็...ช่างเถอะค่ะ!!” โพรทาเลียขี้เกียจอธิบายเธอหันไปทางสองสาวที่กำลังทะเลาะกันอยู่ “นี่เลิกทะเลาะกันได้แล้ว!! เซียหาทางไปยังอาณาจักรเอราเซียนให้หน่อยสิ!!”

“หือ? ประตูของพวกตัวสีฟ้าเหรอ?” เซียมองอีกฝ่ายพร้อมกับยกยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ "อืมมมมม จะบอกดีไหมนะ?”

“อย่าลีลา!!” โฟกัสดักทางอีกฝ่ายที่กำลังลีลาใส่พี่สาวของเธอ

“ก็ได้ยะ!” เซียพองแก้มอย่างไม่พอใจก่อนจะเข้าไปกอดแขนของโพรทาเลีย “นี่~ ข้ายอมบอกเจ้าก็ได้นะ แต่ว่า~ หลังจากนี้กลับเป็นลักซ์แล้ว...มาคุยกับข้าหน่อยสิมาย้อนวันวานของเราหน่อยน๊า~”

 

‘ลักซ์!!’ โพรทาเลียคิด ‘เอาเมียเอ็งไปเก็บเดี๋ยวนี้!!’

 

เสียงแหลมของโพรทาเลียที่ตะโกนภายในใจกำลังดังก้องไปทั้งห้วงแห่งจิตใจที่พวกเฟอร์ร่าอยู่ ทุกคนกำลังอยู่ในทิศทางของตนเองกัน แต่ก็มีความสนใจต่อสิ่งภายนอกที่กำลังถ่ายทอดให้พวกเขาดูกันตั้งแต่ฝั่งของโพรทาเลียกับฝั่งของโฟกัส ทุกคนอยู่รวมตัวกันอย่างสบายเหมือนบ้านตัวเองกัน แต่พอจอฉายไปที่หญิงสาวคนหนึ่งก็ทำให้ทุกคนรู้เลยว่าได้เจอกับอดีตชาติคนสุดท้ายของโฟกัสแล้ว แต่ว่าพวกเขานั้นคิดว่าทำไมคนสุดท้ายต้องเป็นบุตรแห่งซุสกันด้วย แต่ระหว่างที่ทุกคนกำลังหารือเรื่องนี้อยู่นั้นก็มีเสียงบางคนกำลังพรรณนาถึงหญิงสาวในจอภาพ

 

“เซีย...ยอดรัก~ เจ้าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของข้าจริง ๆ”

ทุกคนหันไปมองอีกฝ่ายที่กำลังพรรณนาถึงหญิงสาวจนพวกเฟอร์ร่าเห็นแล้วเหนื่อยใจกับอีกฝ่ายที่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว แต่พวกเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไปเล่นหูเล่นตากับธิดาแห่งฮาเดสแบบนี้ก่อนที่จะมีคนหนึ่งพูด

“เจ้านี้มันสติดีใช่ไหม? ถึงไปรักกับธิดาฮาเดสนะ?”

“ข้าว่าไม่นะ”

“แหม ๆ ถ้าเจ้านั้นสติดีคงไม่คบกับสายพันธุ์เดียวกันหรอกนะ~” รัลเอ่ยพร้อมกับกินธัญพืชไปด้วยอย่างอร่อย

“เหรอ? รัล ข้าว่าเจ้านั้นคงได้เชื้อจากเจ้ามานั้นล่ะ เพราะเจ้าก็เคยคบหากับสายเลือดแอรีสไม่ใช่หรือไง?” เซเรน่าแซวอีกฝ่ายที่ประชดลักซ์แต่มันสะเทือนตัวเองมากกว่า

“พรวด!!” รัลถึงกับสำลักของที่กินเข้าไปทันทีน้ำก่อนจะมองสาว ๆ “ฉันไม่ได้คบกับเจ้านั้นซะหน่อย...ข้าแค่โดนเจ้านั้นหลอกฟันเท่านั้น!!”

สิ่งที่รัลพูดนั้นกระทบถึงชายอีกคนที่โดนพูดเขากำลังออกกำลังกายอยู่ก็เดินตรงมาหาอีกฝ่ายพร้อมกับกอดเอวอีกฝ่ายพร้อมกับกระซิบข้างหูทันที

“ยอดรักพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะ ไม่งั้นข้าก็เป็นชายฉกรรจ์ที่ข่มเหงคนอื่นกันพอดี”

“ก็มันควรเป็นไหมล่ะ!? เจ้ามันชายที่ไร้ยางอาย ท่านเจ้าเมืองจอมลามก!!”

“ข้าชอบคำนี้นะเนี่ย~ งั้นเจ้ามาเป็นศรีภรรยาให้ข้าหน่อยสิ”

“ไม่!!”

“ปฏิเสธข้าจังนะ~”

ทุกคนต่างมองทั้งสองที่กำลังทะเลาะกันอยู่ต่อหน้าพวกเขา แต่ท่าทางของชายร่างใหญ่ไม่ได้ทะเลาะแต่เป็นการจู้จี้ในแบบที่เขาทำเป็นประจำกับอีกฝ่าย ก่อนที่หญิงสาวในกลุ่มนั้นจะเอ่ยพูดบางอย่าง

“นี่เลิกมาจู้จี้กันตรงนี้สักที!!”

“อะไรเจ้าอิจฉาเราหรือไง? เซเรน่า”

“เฮอะ ทำไมข้าต้องมาอิจฉาพวกเจ้ากัน?”

“จริงด้วย พี่ข้าไม่ต้องมาอิจฉาพวกเจ้าด้วยซ้ำ!!” อาเดียนเดินเข้ามาเกาะไหล่พี่สาวเบา ๆ

พาราซอนเห็นอีกฝ่ายเกาะอีกฝ่ายก็ขมวดคิ้วหน่อย ๆ “เดียวสิเจ้าน้องชาย ไปเกาะยัยนั้นไม่เข้าข้างพี่ชายตนเองหรือไง!?”

“เสียใจ!ข้ายังไม่เคยรู้จักเจ้าตอนที่ข้ามีชีวิต คนที่ข้ารู้จักมีแต่พี่สาวคนเดียว”

“อย่ามาทะเลาะกันบนหัวข้าได้ไหม?” เซเรน่ากล่าวพร้อมกับเสกค้อนขึ้นมา

 

จนหนุ่มทั้งสองคนเงียบลงทันทีที่เห็นอาวุธในมือของหญิงสาว ทุกคนต่างมองกันอย่างเหนื่อยใจว่าวัน ๆ ที่อยู่ในห้วงแห่งจิตใจนั้นไม่ใช่เงียบสงบตลอดเวลา เฟอร์ร่ามองไปที่ลักซ์ที่ยังคงพรรณนาถึงหญิงสาวที่อยู่ในหน้าจอ เธอลุกขึ้นแล้วเดินไปหาแดเรียลที่กำลังนอนในสภาพที่ยังเมาอยู่ เธอยื่นหน้าเข้าใกล้หูอีกฝ่ายแล้วกระซิบเบา ๆ จนเจ้าตัวที่นอนอยู่ก็เอามือลงมองหน้าหญิงสาวแล้วมองไปที่คนที่อีกฝ่ายอยากให้เขาจัดการ เขาขยับนิ้วก็มีเถาวัลย์องุ่นขึ้นมาแล้วพุ่งตรงไปหาลักซ์จนเจ้าตัวตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา

 

“อ๊ากกกกกกกก เจ้าบ้า ทำอะไรนะ!!”

 

ลักซ์ตะโกนแบบแต่ก็โดนเหวี่ยงเข้าไปยังประตูทางออกไปสู่โลกภายนอกทันที ทุกคนรู้สึกเบาหูไปได้อีกเยอะ แต่ทางด้านนอกโพรทาเลียกำลังสะบัดเซียออก เพราะเธอรู้สึกขนลุกกับท่าทางอีกฝ่ายที่มีต่อเธอ จนกระทั่งลักซ์นั้นทะลุออกมาจากตัวเธอ จนทุกคนนั้นมองกันอย่างสงสัยว่าอะไรพุ่งออกมา แต่สิ่งที่ออกมาคือลักซ์ที่นอนสไลด์อยู่ที่ฟื้น ก่อนจะพยายามลุกขึ้นพยุงตัว

 

“ไอ้เว้ยนั้น!! ข้ากลับเข้าข้างในเมื่อไหร่!! แกตายแน่!!”

น้ำเสียงอันคุ้นเคยทำให้เซียได้ยินก็ตาลุกวาวก่อนจะเห็นชายผมสีน้ำตาลอันคุ้นเคย

“ลักซ์!!” 

เซียปล่อยมือจากโพรทาเลียก็รีบวิ่งตรงไปหาอีกฝ่าย ลักซ์ได้ยินก็รีบหันมาอีกฝ่ายที่กำลังวิ่งตรงมาหาเขา

“อ๊ะ!!ยอดรัก!” ลักซ์อ้าแขนต้อนรับอีกฝ่าย

เซียกระโดดเข้าไปกอดอีกฝ่ายพร้อมกับจู้จี้กันอย่างลึกซึ้งจนเด็ก ๆ ที่อยู่ตรงนั้นถึงกับเขินอายสุด ๆ

“พวกบ้า…ไม่อายกันเลยหรือไง!?” โฟกัสเอ่ยออกมาอย่างไม่ชอบใจ

“ถ้าอายพวกนั้นคง ๆ มาทำกันตรงนี้หรอก…”

“คนพวกนี้เป็นใครกัน? มีแต่เรื่องให้แปลกใจจังนะ พวกเธอนะ?”

เจสันมองสองสาวที่หันมามองเขาพอดี เขามองโพรทาเลียที่มีดวงตาสีเขียวน่าดึงดูดจนเขานึกถึงใครบางคน

 

‘เหมือนเพอร์ซีย์จัง…’ เจสันคิด

 

โพรทาเลียมองอีกฝ่ายที่มองเธอก่อนจะหันไปทางอื่นแล้วเตรียมตัวออกเดินทางต่อ เพราะยิ่งอยู่นรก อันตรายก็ยิ่งทวีคูณ โพรทาเลียหวังว่าจะเรียกทั้งสองคนที่อยู่ตรงนั้น แต่เธอเซ็งตรงนี้เรียกแล้วไม่ได้ยินกันจนเธอตัดสินใจว่าหาทางออกกันไปเองดีกว่าก่อนที่เธอจะพาเจสันกับน้องสาวออกจากตรงนั้น ทั้งสองคนที่กำลังจู้จี้นัวเนียกันนั้นก็เห็นว่าพวกโพรทาเลียทิ้งพวกเขาก่อนจะรีบตามไปทันใด โฟกัสสั่งการให้เซียหาทางพาพวกเธอไปยังสถานที่ที่พี่สาวต้องการจนพวกเขามาถึงประตูบานหนึ่งที่ดูคุ้นเคย โพรทาเลียจ้องมองรอบข้างว่ามีสิ่งใดที่เป็นอันตรายไหม ก่อนที่เซียจะเห็นก็ยิ้มหน่อย ๆ

 

“ไม่ต้องคิดมาก ที่รัก ที่นี่เป็นอาณาเขตของข้าไม่มีผู้ใดทำอะไรเจ้าได้หรอกนะ”

“อ๊ะ...จะจริงเหรอ?” โพรทาเลียสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายพูดแบบนั้น

“ไม่ต้องห่วง นอกจากพวกปีศาจที่จะไม่โผล่มา แต่คนที่จะโผล่มามีเพียงพ่อข้าที่จะพุ่งตรงมาทางนี้ข้าเท่านั้นล่ะ!!”

“ห๊า!!!!!”

โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็ให้อีกฝ่ายพาออกจากที่นี่เดียวนี้ก่อนที่ฮาเดสจะโผล่มายังสถานที่แห่งนี้ เซียที่โดยสั่งการก็ทำท่าทางอย่างจะไม่เชื่อฟังก่อนที่โพรทาเลียเสกเปลวเพลิงออกมาจนเซียเห็นก็ตกใจก่อนจะยอมทำตาม เธอผลักประตูบานนั้นออกเพื่อเปิดประตูบานนั้น แต่โพรทาเลียก็นึกบางอย่างได้ก่อนจะเอ่ยถามออกไป

“เดี๋ยว!!การเข้าประตูนั้นเราไม่ต้องกินอะไรงั้นเหรอ?”

“ไม่ต้อง!!มีข้าอยู่ทั้งคน ออกจากที่นี่ได้ง่าย ๆ เลยล่ะ”

เซียกล่าวแบบนั้นก็ทำให้โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจหน่อย ๆ ว่าจะเชื่อใจได้มากน้อยเพียงใด

“เชื่อนางเถอะนะ ถึงจะเป็นสายเลือดฮาเดส แต่จิตใจลึก ๆ ของนางก็เป็นคนใจดีนะ” ลักซ์กล่าวให้ร่างจุติเชื่อตนเอง

“ขอให้จริงเถอะ! ฉันนะ ไม่อยากจะมีปัญหากับอดีตชาติแต่ละคน แต่ถ้ามีการเล่นตุกติกขึ้นมา ฉันเอาไม่เลี้ยงแน่ ๆ”

“ค่า ๆ ที่รักควบคุมเข้าอยู่แล้วนะ จริงไหม~? ลักซ์”

“จริงจ้ะ~”

 

โพรทาเลียเห็นท่าทางของทั้งสองก่อนจะทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนที่เซียจะนำทางพวกเขาเข้าไปข้างในประตูก่อนใครทุกคนต่างมองหน้ากัน ลักซ์เดินนำไปเช่นกันเพื่อให้พวกเห็นว่าทางออกนั้นเป็นสิ่งที่คล้ายกับที่ที่เธอเคยเห็น พอเห็นแบบนั้นเธอก็พยักหน้าให้ทุกคนว่าปลอดภัย เธอหันไปมองชายอีกคนที่กำลังมีสีหน้าไม่สู้ดีว่าตนเองนั้นจะออกไป โพรทาเลียเดินไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับจับมืออีกฝ่าย

 

“อ๊ะ!”

“ไม่ต้องห่วง เราจะออกไปด้วยกันนะคะ”

เจสันนิ่งไปสักพักก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “เธอเหมือนอ่านใจฉันออกเลยนะ”

“แค่ดูสีหน้านะคะ” โพรทาเลียยกยิ้มอย่างอ่อนโยน

“คุณเจสันไม่กลัวอะไรนะคะ พี่กับหนูจะพาคุณกลับไปหาทุกคนเองนะคะ”

“ขอบใจพวกเธอมาก ๆ เลยนะ”

 

เจสันกล่าวอย่างดีใจก่อนที่โพรทาเลียกับโฟกัสจะกอดแขนของทั้งสองข้างของอีกฝ่ายแล้วพาเข้าไปยังประตูบานใหญ่ที่กำลังรอพวกเธออยู่ ก้าวข้ามไปยังอีกฝ่ายได้แล้วนั้นก็รู้สึกถึงกลิ่นอายอันคุ้นเคย บรรยากาศอันโล่งสบายไม่ทุกข์ทรมาน เจสันได้ออกมาจากนรก เขารู้สึกถึงสดชื่นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว แต่ทว่าร่างกายของเขากำลังลอยขึ้นอยู่กลางอากาศ

 

“อ๊ะ!! นี่มันอะไรกัน!?”

โพรทาเลียกับโฟกัสหันไปมองอีกฝ่ายที่อยู่ตรงกลางที่กำลังลอยขึ้นเหนือหัวพวกเธอ ทั้งสองก็รีบกระโดดจับมืออีกฝ่ายทันที

“คุณเจสันจับมือพวกเราค่ะ!!” โฟกัสกระโดดจับมืออีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

“เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!?” ลักซ์มองอย่างตกใจ

“ที่รักก็ไปช่วยสิ!!”

เซียสั่งให้ลักซ์เข้าไปช่วยเจ้าตัวก็รีบไปช่วยแต่มือของเขานั้นทะลุอีกฝ่ายไปซะงั้น

“อ๊ะ!! ข้าจับเขาไม่ได้!!”

“งั้นข้าเอง!!”

 

เซียรีบวิ่งเข้าไปช่วยแต่ตัวเธอก็ทำไมได้ พวกโพรทาเลียพยายามดึงอีกฝ่ายลงมาให้ได้ แต่ก็ไม่เป็นผลจนกระทั่งร่างกายของเจสันเริ่มเคลื่อนที่ ทั้งสองคนเริ่มโดนลากแต่พวกเธอก็พยายามดึงดันที่จะจับอีกฝ่ายเอาไว้ พวกเธอกลัวว่าอีกฝ่ายจะโดนดูดเข้าไปยังประตู แต่พอดูมันไม่ใช่ทิศทางย้อนกลับแต่เป็นทิศอื่น ก่อนที่แรงดึงจะเยอะขึ้นจนพวกเธอหลุดจากการรั้งตัวเองจนมือนั้นหลุดและล้มลงกับพื้น

 

“อ๊ะ!!”

“ไม่นะ!!” เจสันโดนลากไปยังทิศที่เขาไม่รู้ว่าไปทางไหน

 

โพรทาเลียพยายามลุกขึ้นมาถึงจะเจ็บแสบเพียงใดเธอก็ต้องช่วยอีกฝ่ายก่อนจะวิ่งตามอีกฝ่าย โฟกัสเห็นพี่สาวที่วิ่งนำไปก่อนเธอก็รีบลุกขึ้นและวิ่งตามไป เจสันพยายามที่จะรั้งตัวเองไม่ให้โดนลากไปตามอากาศ แต่ก็ไร้ผลเขาก็ยังโดนดึงไปอย่างรวดเร็วโดยมีสองสาวกำลังวิ่งตาม โพรทาเลียมองอย่างสงสัยว่าตัวอีกฝ่ายกำลังไปไหนก่อนที่ทิศทางที่กำลังไปนั้นมันคล้ายกับก่อนหน้าที่เธอเคยเดินจนเธอรู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังจะโดนลากไปไหน เธอเงยหน้าก่อนจะตะโกนเรียกอีกฝ่าย

 

“เจสัน!!”

“อะไร!?” เจสันก้มมองอีกฝ่ายเรียกเขา

“ปล่อยตัวตามสบายซะ! นายกำลังตรงไปหาร่างตัวเอง!!”

“ว่าไงนะ!?” เจสันขมวดคิ้วอย่างงุนงงว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร

การเร่งฝีเท้าไปข้างหน้าเป็นอะไรที่ง่ายสำหรับโพรทาเลีย เธอนำไปข้างหน้าก่อนจะเห็นว่าทางข้างหน้ามีประตูบานใหญ่อันคุ้นเคยอยู่ก่อนที่เธอจะตรงดิ่งมาถึงประตูก่อนจะเปิดประตูบานใหญ่นั้นออก ข้างในนั้นมีพวกโกรอสสามตนที่กำลังรอเวลาอยู่ พวกเขาหันมามองเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู โพรทาเลียเห็นก็ดีใจที่เป็นอย่างที่ตนคิด

“มิเรีย!!”

“เด็กน้อย!?” มิเรียลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตนเองนั่ง

“เริ่มพิธีเลย!!” โพรทาเลียกล่าวจบนั้น

 

มิเรียได้ยินแบบนั้นก็งุนงงก่อนที่เธอนั้นจะร่างหนึ่งที่กำลังลอยเข้ามายังข้างใน เธอเห็นก็มองกลับไปยังร่างที่นอนอยู่ ก่อนที่เจ้าตัวนั้นจะโดนดึงเข้าไปยังร่างของตนเอง มิเรียเห็นแบบนั้นก็รีบใช้พลังของเธอแสงสว่างกำลังเจิดจ้าขึ้นเมื่อเริ่มบทสวดของสตรีศักดิ์ โพรทาเลียรีบตรงไปที่โต๊ะบูชาที่เธอวางเจสันให้นอนไว้ เธอรีบจับไปที่คันธนูก่อนจะดึงมันออกแต่ละอัน โฟกัสที่วิ่งตามมาหลังก็เห็นแสงสว่างตรงหน้าที่เธอรู้สึกมันเจิดจ้าเกินกว่าจะเข้าไป บทสวดของมิเรียกำลังรักษาร่างกายของชายหนุ่มที่กำลังนอนอยู่แผลตามร่างกายกำลังผสานเข้าหากัน โพรทาเลียมองภาพตรงหน้าเธอขอเพียงอย่างเดียวขอให้อีกฝ่ายฟื้นขึ้นมา

 

“ได้โปรด...เจสัน...นายต้องฟื้นนะ!! นายต้องฟื้นนะ!!”

คำอ้อนวอนที่ไร้การตอบสนองกับร่างตรงหน้ามันยิ่งเจ็บปวดยิ่งกว่าอะไร เธอขอให้การรักษานี้ได้ผล แต่ทว่าแสงสว่างเริ่มอ่อนลงเพราะว่าร่างกายของชายหนุ่มนั้นไร้ร่องรอยทุกอย่างแล้ว แต่ว่าไร้วี่แววการตอบสนอง โพรทาเลียเงยหน้ามองพวกมิเรียทันที

“มิเรีย!! หยุดทำไม!? รักษาเขาต่อสิ!!”

“ข้ารักษาจบแล้วเด็กน้อย…”

“ไม่! เขายังไม่ฟื้นเลยนะ!!”

“ข้ารู้...แต่ว่า...” มิเรียทำสีหน้าเหนื่อยมาก ๆ เธอเหมือนใช้พลังไปเยอะพอตัวแล้วแต่ว่าอีกฝ่ายยังไม่ฟื้น

โพรทาเลียเห็นสีหน้าอีกฝ่ายที่ดูเหนื่อยล้านั้นบ่งบอกว่าอีกฝ่ายใช้พลังตัวเองหมดแล้ว ก่อนที่เธอจะจับแขนอีกฝ่ายเบา ๆ เหมือนนึกย้อนไปว่าถ้าเธอทำพลาดทุกอย่างจะจบ ทุกคนที่เธอรู้จักจะหายไปร่วมถึงตัวเธอก็เช่นกัน

“ไม่นะ...มิเรีย ฉันขอร้อง...ช่วยเขา...ช่วยเขาได้โปรดเขาเป็นตัวแปรสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตที่หายไปกลับมาได้โปรด!!”

“ขอโทษนะ...”

 

โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นเธอก็นิ่งไปอย่างอึ้งไปกับคำพูดนั้นเธอพยายามแทบตายแต่ไม่เป็นอะไร ยิ่งทำให้ใจของเธอเหมือนฉีกออกจนน้ำตาไหลออกมาอาบทั้งสองข้างแก้มของเธอ โฟกัสมองสถานการณ์ตรงหน้าเธอรู้สึกจุกไปหมดพวกเธอทำไม่สำเร็จงั้นเหรอ แต่ว่าพวกเธอช่วยเจสันออกมาได้แล้ว โฟกัสมองไปที่โต๊ะบูชาก็ต้องเห็นกับภาพที่ไม่คาดคิด

 

“พี่ค่ะ!!”

โพรทาเลียไม่ได้ยินเสียงของน้องสาวเรียกตนเอง โฟกัสเห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งไปหาพี่สาวพร้อมกับจับใบหน้าของเธอหันไปมองที่โต๊ะบูชา

“ดูค่ะ!!”

“อ๊ะ!?”

โพรทาเลียโดนให้หันอย่างบังคับก่อนที่ดวงตาของเธอจะเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นชายที่กำลังเดินตรงมาหาเธอแล้วย่อตัวนั่งลงตรงหน้าของเธอ

“ไม่ได้คุยด้วยแค่ไม่กี่นาที ทำไมมาร้องไห้แล้วล่ะ?” เจสันเอ่ยถามอีกฝ่ายอย่างสงสัย

โพรทาเลียมองอีกฝ่ายเธอนึกว่าอีกฝ่ายจะไม่ฟื้น “นาย...นาย...”

“หือ?”

“ทำไมไม่รีบลุกขึ้นมากัน!!” โพรทาเลียกำหมัดพร้อมกับชกไปที่ข้างเอวอีกฝ่าย

เจสันถึงกับจุกกับการโจมตีของอีกฝ่ายก่อนที่เขานั้นจะหลบ “โกรธอะไรฉันกัน ฉันต้องการเวลาตื่นมั้งสิ!!”

“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย!!เป็นถึงสายเลือดจูปิเตอร์ต้องแข็งแกร่งสิเว้ย!!”

 

โพรทาเลียพูดพร้อมน้ำตาที่ไร้ออกมา เธอรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองมีอารมณ์ที่อ่อนไหวเกินไป ยิ่งเป็นอีกฝ่ายที่เป็นพ่อสามีของเธอมันยิ่งเจ็บปวดถ้าเธอช่วยเขาไม่ทัน ยิ่งอีกฝ่ายมาทำแบบนี้ยิ่งทำเอาเธอรู้สึกแย่กว่าเดิม เจสันได้แต่ลูบหัวอีกฝ่ายเบา ๆ อย่างปลอบใจ หลังจากเวลาผ่านไปโพรทาเลียสงบสติอารมณ์หลังจากสลบไปตอนที่เจสันปลอบ คงเพราะความเหนื่อยล้าและความโล่งใจทำให้เธอสลบไป แต่เธอก็นอนได้ไม่นานเพราะเธอมีเวลาไม่มากที่จะต้องเดินทางพาเจสันกลับ แต่การนอนได้ไม่กี่นาทีก็ทำให้โฟกัสห่วงพี่สาวที่ไม่ได้พักเลย

 

“พี่ค่ะ เราพักอีกสักหน่อยก็ได้นะ”

“ไม่!! ต้องทำภารกิจให้เสร็จ ฉันถึงจะยอมพัก!!”

“แต่ว่า...”

“ไม่มีแต่!! พี่ยังมีอีกที่ที่ต้องไป!!”

“ไป?” โฟกัสยกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย "พี่จะไปไหน?”

“รอไปแล้วเราจะรู้เองนะ”

“โพรทาเลีย...” มิเรียเอ่ยเรียกอีกฝ่ายที่กำลังคุยกับน้องสาวอยู่

โพรทาเลียหันไปมองอีกฝ่ายที่เรียกเธอด้วยชื่อที่เธอคิดว่าไม่น่าจะหูฝาดก่อนหน้านั้น เธอเดินออกจากน้องสาวแล้วตรงดิ่งไปหาอีกฝ่าย เธอย่อตัวลงให้อยู่ระดับเดียวกับอีกฝ่าย

“เจ้าจะไปแล้วหรือ?”

“ใช่...”

ทั้งสองทำหน้าเศร้าหน่อย ๆ ถึงจะรู้จักกันไม่นานนัก แต่ก็รู้สึกผูกพันถึงแม้โพรทาเลียจะผูกพันกับอีกฝ่ายอยู่แล้วก็ตามที เธอถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้อีกฝ่าย

“ขอบคุณสำหรับที่ผ่านมานะ มิเรีย”

“ข้าทำเท่าที่ช่วยได้ล่ะนะ”

“ไม่ คุณเป็นหญิงที่แข็งแกร่งมาก ๆ ต้องขอบคุณมากสำหรับครั้งนี้ ถ้าไม่มีคุณมิเรียครั้งนี้หนูไม่รู้ว่าจะผ่านไปได้ไง ขอบคุณนะคะ"

คำพูดของอีกฝ่ายทำให้มิเรียอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่าย “จ๊ะ...”

ทั้งสามคนจะเตรียมตัวสำหรับเดินทางกลับไปยังค่ายฮาล์ฟบลัดเพื่อส่งตัวเจสันกลับ พวกเขาบอกลาองค์ราชาและสมาชิกคนอื่น ๆ ก่อนไปโพรทาเลียคุยกับเจคอบสักครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปหาพวกโฟกัสที่กำลังรออยู่ที่อาณาเขต

“เมื่อกี้คุยอะไรกันนะ?”

“ก็เรื่องเล็กน้อยนะ”

 

โพรทาเลียตอบแบบนั้นอย่างไม่คิดอะไร เพราะว่าสิ่งที่เจคอบถามก็แค่ถามว่าในอนาคตเขาจะสมหวังในรักไหม โพรทาเลียได้แต่ตอบออกไปสั้น ๆ ว่าขึ้นกับตัวเขาที่จะทำให้มันสมหวังได้ไหม เธอบอกแค่นั้นให้อีกฝ่ายเอาไปคิด พอเดินออกมาจากอาณาเขตอาณาจักรเอราเซียนทุกอย่างข้างหลังก็หายไปกลายเป็นทุ่งทะเลทรายเหมือนเดิม เธอนึกถึงสถานการณ์ที่พวกเขาจะเอาตัวรอดกันไหม แต่ว่าเธอจะได้เจอพวกเขาในอนาคตเป็นแน่

 

‘ขอให้พวกคุณผ่านช่วงเวลาหลังจากนี้ไปได้นะ มิเรีย เจคอป...และเหล่าโกรอสทั้งหลาย...’ โพรทาเลียคิด

 

จบตอนที่ 126 โปรดติดตามตอนที่ 127 ต่อไป