ชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
แฟนตาซี,ผจญภัย,แฟนตาซี,YukiCoCo,เพอร์ซีย์,percy,สายเลือดโพไซดอนที่หายสาบสูญ,สายเลือดโพไซดอน,สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสายสูญ,สายเลือดกรีก,แฟนฟิคเพอร์ซีย์,แฟนฟิคสายเลือดเทพ,แฟนฟิค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[Fanfiction percy jacesok] สายเลือดแห่งโพไซดอนที่หายสาบสูญชีวิตของสาวน้อยที่แสนจะอันทนทุกข์ทรมานมานานแสนน่ากำลังจะหมดไป เมื่อได้หนีออกมาจากเกาะนรก โพรทาเลีย แจ็กสัน กำลังได้กลับสู่ครอบครัวอีกครั้ง แต่ก็ยังมีอุปสรรคเข้ามาขวางเธออยู่ดี เธอจะทำไงดีล่ะเนี่ย?
คำอธิบายจากนักเขียน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แต่งฟิครุ่นลูกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
เพอร์ซีย์ แจ็กสันคือใคร เขาคือบุตรชายของโพไซดอน จากผู้เขียน ริก ไรออร์แดน
เนื้อเรื่องนิยายนั้นทำให้นักเขียนชอบเรื่องนี้มากๆจนเอามาแต่งแฟนฟิคเกี่ยวกับรุ่นลูกต่อ
แต่นิยายแฟนฟิคนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกอย่างเดียว แต่อาจจะมีเอาตัวละครจากนิยายมาใช้กันเพื่อ
ประกอบเนื้อเรื่อง และมีตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นและนำมาปรับเนื้อเรื่องใหม่ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของนิยาย
---------------------------------------------------------------------
บทนำของเรื่อง
ชีวิตที่โหดร้ายกำลังจะจบลงเมื่อสาวน้อยมีนามว่า โพรทาเลีย แจ็กสัน ได้หนีออกจากเกาะที่ขังเธอเอาไว้นานถึง 8 กว่าปี เธอได้หนีออกมาได้แล้วแต่ก็ต้องหนีจากการตามล่าของอมนุษย์ที่ตามมาด้วยคำสั่งของคคคนที่่ขังเธอ แซเทิร์น เทพฝาแฝดของโคนอส [ปล.ในประวัติศาสตร์กรีกไม่ใช่แบบนั้น แซเทิร์นคือร่างโรมันของโคนอส จำไว้นะจ้ะ แต่ในเรื่องแบ่งออกมาเป็นฝาแฝดของแซเทิร์นก็เหมือนเงามืดของโคนอสนั้นเอง]
เธอจะหนีรอดหรือไหม? แล้วเธอจะได้กลับไปเจอครอบครัวไหม? เรื่องร้ายๆจะจบลงไหม? ชีวิตของเธอจะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย?
------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เชื่อมโยงกับโลกเวทมนตร์ในนิยายแฟนฟิคของเราอย่างเรื่อง
เด็กหญิงที่เหลือรอด นะคะไปติดตามกันได้นะ
------------------------------------------------------------------------
กำหนดการการลงนิยาย
ลงทุกๆวัน เสาร์ เวลา 17:00น.
------------------------------------------------------------------------
ปล.1 สวัสดีทุกคนที่เคยติดตามงานของยูกิโคโค่นะคะ ขอโทษทีลบอันเก่าออกไป เพราะอยากเปลี่ยนใหม่หมดให้จบจริงๆ เพราะตอนแรกมันตันนะคะ ครั้งนี้เลยอยากให้จบจริงๆเลยล่ะคะ ใครที่ยังติดตามทางนี้อยู่ไปตลอด ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ส่วนใครที่มาใหม่ โปรดเข้าใจว่านี้เป็นนิยายฟิคนิยายจากเรื่อง เพอร์ซีย์แจ็กสัน ส่วนอันนี้เป็นนิยายรุ่นลูกนะคะ แต่งฟิคเล่นๆสนุกๆจนให้จบแน่ๆค่ะ
ปล.2 นิยายฟรีๆให้อ่านสนุกนะคะ อิอิ
ตอนที่ 126 แรงดึงดูดที่ไม่เห็น
เซีย ธิดาของเทพแห่งนรก นางเป็นบุคคลหนึ่งที่โพรทาเลียไม่คิดว่าจะมาเจอในสถานที่แห่งนี้ ตอนแรกที่เธอเจออีกฝ่ายก็ยังจำไม่ได้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่พอจำได้แล้วนั้นเธอโคตรอยากหนีออกจากที่นี่ไปอยากรวดเร็วพอมานึกถึงอดีตที่เธอเคยเห็นของหนึ่งในอดีตชาติของเธอนั้นก็คือลักซ์ ในความทรงจำของหมอนี้เคยมีความสุขกับหญิงคนหนึ่งจนกระทั่งเขานั้นต้องตายจากโลกนั้นไปหลังจากนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าเธอตรงหน้าเป็นไงมั้ง แต่แค่เห็นสีหน้าอีกฝ่ายที่กำลังยิ้มให้เธอมันก็น่ากลัวชอบกล แต่ตอนนี้เธอกำลังทำท่าทางเหมือนอยากโดนชมก่อนที่โพรทาเลียจะเอ่ยบางอย่างออกไป
“เอ่อ...ขอบใจที่มาช่วย-”
โพรทาเลียพยายามที่จะลุกขึ้นมาแต่เธอยังกล่าวไม่ทันจบอีกฝ่ายก็มานั่งคร่อมตัวเธอพร้อมกับจับใบหน้าของเธอแล้วก็ยื่นหน้าเข้ามาจนริมฝีปากทั้งสองประกบเข้าหากันจนโพรทาเลียตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“อื้ม!!!!”
ทุกคนต่างมองอย่างตกใจไม่ได้ดูเลยว่าอีกฝ่ายกำลังจูบอย่างดูดดื่มกับโพรทาเลียจนเจ้าตัวยกมือขอความช่วยเหลือ โฟกัสที่อยู่ภายในร่างของตัวเองถึงกับตะลึงจนเรียกสติกลับมาได้เธอก็ดันตัวเองออกมาจากร่างได้ก็ตะโกนเสียงดังทันที
“เซียยยยยยยยยยยยยย!!เธอทำบ้าอะไร!!”
เซียไม่สนใจเสียงอีกฝ่าย แต่เธอก็เสร็จกิจของเธอพอดีจนเธอนั้นผละจูบออกจนริมฝีปากนั้นมีน้ำลายไหลติดมาจนยืด โพรทาเลียที่โดนจูบถึงกับน็อคสลบไปเลย ก่อนที่เซียจะหันไปตอบ
“หือ...? ก็ช่วยพี่สาวเจ้าไงล่ะ~”
“ช่วยบ้าอะไร!? จูบมันช่วยอะไรได้กัน!! พี่ค่ะ!!” โฟกัสรีบวิ่งเข้าไปประคองพี่สาวทันที “พี่ค่ะ!! ทำใจดี ๆ ไว้นะ!!”
เซียมองอีกฝ่ายกำลังปลุกพี่สาวที่สลบก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ “ฮ่า ๆ อะไรกัน~ แค่จูบเองนะ มันไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดเลยนะ”
“ไม่แปลกสำหรับเธอ แต่สำหรับเรามันแปลกในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ เซีย!!”
“โธ่! ตอนนี้ก็ปกติแล้วนี่น่า แล้วอีกอย่างฉันช่วยบรรเทาอาการที่พี่เจ้าเป็นให้ก็เท่านั้นเอง~”
“บรรเทาบ้าอะไรกัน!? เธอช่วยพี่ฉันได้หรือไงกัน!?”
“ก็รอดู~” เซียยกยิ้มอย่างสนุก
โฟกัสมองจ้องมองอย่างงุนงงว่าอีกฝ่ายหมายความว่าไงก่อนที่ตัวของโพรทาเลียจะเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างกำลังจะไหลออกมาจากปากเธอก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมอาเจียนบางอย่างที่มีสีแดงออกมา ทุกคนเห็นก็ตกใจที่จู่ ๆ อีกฝ่ายอาเจียนสิ่งบางอย่างออกมาจนโฟกัสลูบหลังอีกฝ่ายที่อาเจียนบางอย่างออกมาจนเธอหันไปหาอีกฝ่ายที่กำลังยืนมองอยู่
“เธอทำอะไรพี่สาวฉัน!?”
“ก็บอกแล้วนี่ว่าข้าช่วยบรรเทาอาการพี่เจ้าที่โดนพิษจากสิ่งที่นางกินก็เท่านั้น”
“ห๊า!!”
โพรทาเลียอาเจียนสิ่งที่ตนเองกินออกมาหมดจนตอนนี้ท้องเธอโล่งไปหมด เธอเช็ดปากของตนเอง ตอนนี้เธอเงยหน้ามองหญิงสาวที่กำลังยกยิ้มให้เธออย่างชอบใจ แต่เธอไม่ชอบท่าทางอีกฝ่ายเลยจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นอดีตชาติของน้องสาว เธอคงเล่นงานอีกฝ่ายจมดินไปแล้วแถมยังเป็นอดีตคู่นอนของลักซ์อีก ทำเอาเธอประมาทไปหมดยิ่งภายในลึก ๆ กับรู้สึกคิดถึงและโหยหาสิ่งที่ขาดหายไป เธอส่ายหน้าเบา ๆ เพื่อเรียกสติกลับมาคงเพราะความทรงจำของลักซ์ทำให้เธอมีท่าทีกับอีกฝ่ายแบบนี้
“ขอบใจที่ช่วย...แต่...หาวิธีอื่นนอกจากวิธีนั้นไม่ได้หรือไง?” โพรทาเลียเงยหน้าขึ้นมาลองขยับมือตัวเองว่ามันก็รู้สึกสบายตัวมากกว่าเมื่อกี้
“เอ๋~ มีวิธีอื่นด้วยเหรอ? เจ้าน่าจะรู้นะวิธีอื่นของข้านั้น มันอาจจะมากกว่าจูบก็เป็นได้นะ ลักซ์~”
โพรทาเลียได้ยินก็หน้าแดงขึ้นมา เธออยากให้ลักซ์ลากผู้หญิงคนนี้ออกไปจากตรงนี้จริง ๆ “แค่วิธีนี้พอล่ะ...อย่าเอาอย่างอื่นเลย...แล้วอีกอย่างฉันไม่ใช่ลักซ์ของเธอ”
“เอ๋~? ข้าสนใจเหรอ? ยังไงข้างในนั้นก็มีลักซ์อยู่ไม่ใช่หรือไง~ ยอดรัก~”
คำพูดนั้นและใบหน้าที่ดูโรคจิตทำเอาโพรทาเลียรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตกหลุมรักอีกฝ่ายเพราะความรู้สึกของลักซ์ แต่ทว่าก็มีคนมาขัดขวางนั้นก็คือโฟกัสที่ไม่พอใจที่อดีตชาติของตนเองกำลังล่อลวงพี่สาวของเธอ
“หยุดใช้พลังสว่านเสน่ห์ใส่พี่สาวฉันเลยนะ!! เซีย”
“โธ่~ อะไรของเจ้ากัน? ข้ากำลังสว่านเสน่ห์ใส่ยอดรักของข้าต่างหาก” เซียส่งจุ๊บให้โพรทาเลีย
โฟกัสรีบจับอากาศแล้วขยี้ลงในมือทันที เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่น่าเป็นอดีตชาติของเธอจริง “หยุดทำเรื่องบ้า ๆ เลย แล้วเอาร่างฉันคืนมาเดี๋ยวนี้!!!”
“แล้วถ้าข้าไม่คืนล่ะ~”
“ว่าไงนะ!!”
โฟกัสเลือดขึ้นหน้าทันทีเธอพลาดแล้วที่ยอมให้อีกฝ่ายใช้งานของเธอ ก่อนที่เธอจะยืนประจันหน้ากับอีกฝ่าย โพรทาเลียเลียแบบนั้นก็เดินหนีถอนออกมาอยู่ข้าง ๆ เจสันที่กำลังยืนหลบมุมอย่างไม่อยากยุ่งกับใครจริง ๆ ยิ่งมาเจอสถานการณ์อันน่าอายก่อนหน้านั้นอีก ก่อนที่เขาจะมองอีกฝ่ายที่มายืนใกล้ ๆ ก่อนจะแซวอีกฝ่าย
“ดูเหมือนว่า...เธอจะเนื้อหอมจังนะ...”
“เหอะ ๆ ก็งั้น...” โพรทาเลียกอดอกอย่างไม่ชอบใจ
เจสันมองอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยพูดต่อ "เอ่อ...ชื่อโพรทาเลียสินะ”
“อ๊ะ...ใช่...”
“เอ่อ...สิ่งที่ฉันเห็น...เมื่อกี้ผู้หญิงสายเลือดฮาเดสเข้าร่างน้องเธอ...”
“พวกเขาเป็นอดีตชาตินะ...”
“อดีตชาติ?”
“ใช่...พวกเราสองคนเกิดจากเทพเจ้ากรีกทั้ง 13 ตน”
“ห๊า!? จะบอกว่าพวกเธอกลับมาเกิดใหม่ถึง 13 ครั้งเหรอ?”
“เปล่านะ...ฉันคือฉัน เราแค่มีอดีตชาติติดตัวมากันคนละ 7 ถึง 6 คน ไม่ใช่การเกิดใหม่หลาย ๆ รอบ ถึงพวกเราจะสามารถดูความทรงจำของพวกเขาได้ก็ตามที และก็อดีตชาติของฉันพวกเขาแค่ตายไปแล้วถูกรวบรวมให้รอเวลามาเกิดใหม่พร้อมพวกเรา พวกเขาถึงเรียกเราว่าเป็นร่างจุติที่สามารถให้พวกเขายืมร่างได้นะ”
โพรทาเลียอธิบายถึงกลไกการเกิดใหม่ของพวกเธอที่มันเป็นมายังไงก่อนที่เขาจะหันไปมองอีกฝ่ายก็เห็นอีกฝ่ายที่ยืนนิ่งด้วยสีหน้างุนงง เพราะข้อมูลที่อีกฝ่ายพูดไม่ได้เข้าหัวเขาสักนิด
“เอ่อ...คุณเจสัน...คุณเจสัน...” โพรทาเลียยกนิ้วขึ้นพร้อมกับดีดนิ้วหนึ่งครั้ง “คุณเจสัน!!”
“อ๊ะ!! ขอโทษที...ฉัน...สับสนไปหมดกับคำพูดเธอ...”
“ขอโทษด้วยนะ...เอ่อ...เอาง่าย ๆ ก็ฉันคือฉัน ไม่ได้มีชีวิตอยู่มานานค่ะ...แต่ว่าตอนนี้เรารีบไปดีกว่าเหลือเวลาอีกไม่มาที่จะพาคุณเข้าร่างของคุณ”
“ร่างฉัน? เธอเจอร่างฉันเหรอ?”
“ใช่...แต่ตอนนี้ยังอธิบายมากกว่านี้ไม่ได้ นาย...อ๊ะ คุณเจสันต้องไปกับฉันก่อนนะ”
“อ๊ะ...โอเค...แต่ฉันสงสัยนิดหน่อย...เธอรู้สึกว่าจะเรียกฉันลำบากนะ ก่อนหน้าก็นายตอนนี้ก็คุณนะ”
“อ๊ะ...ก็...ช่างเถอะค่ะ!!” โพรทาเลียขี้เกียจอธิบายเธอหันไปทางสองสาวที่กำลังทะเลาะกันอยู่ “นี่เลิกทะเลาะกันได้แล้ว!! เซียหาทางไปยังอาณาจักรเอราเซียนให้หน่อยสิ!!”
“หือ? ประตูของพวกตัวสีฟ้าเหรอ?” เซียมองอีกฝ่ายพร้อมกับยกยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ "อืมมมมม จะบอกดีไหมนะ?”
“อย่าลีลา!!” โฟกัสดักทางอีกฝ่ายที่กำลังลีลาใส่พี่สาวของเธอ
“ก็ได้ยะ!” เซียพองแก้มอย่างไม่พอใจก่อนจะเข้าไปกอดแขนของโพรทาเลีย “นี่~ ข้ายอมบอกเจ้าก็ได้นะ แต่ว่า~ หลังจากนี้กลับเป็นลักซ์แล้ว...มาคุยกับข้าหน่อยสิมาย้อนวันวานของเราหน่อยน๊า~”
‘ลักซ์!!’ โพรทาเลียคิด ‘เอาเมียเอ็งไปเก็บเดี๋ยวนี้!!’
เสียงแหลมของโพรทาเลียที่ตะโกนภายในใจกำลังดังก้องไปทั้งห้วงแห่งจิตใจที่พวกเฟอร์ร่าอยู่ ทุกคนกำลังอยู่ในทิศทางของตนเองกัน แต่ก็มีความสนใจต่อสิ่งภายนอกที่กำลังถ่ายทอดให้พวกเขาดูกันตั้งแต่ฝั่งของโพรทาเลียกับฝั่งของโฟกัส ทุกคนอยู่รวมตัวกันอย่างสบายเหมือนบ้านตัวเองกัน แต่พอจอฉายไปที่หญิงสาวคนหนึ่งก็ทำให้ทุกคนรู้เลยว่าได้เจอกับอดีตชาติคนสุดท้ายของโฟกัสแล้ว แต่ว่าพวกเขานั้นคิดว่าทำไมคนสุดท้ายต้องเป็นบุตรแห่งซุสกันด้วย แต่ระหว่างที่ทุกคนกำลังหารือเรื่องนี้อยู่นั้นก็มีเสียงบางคนกำลังพรรณนาถึงหญิงสาวในจอภาพ
“เซีย...ยอดรัก~ เจ้าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของข้าจริง ๆ”
ทุกคนหันไปมองอีกฝ่ายที่กำลังพรรณนาถึงหญิงสาวจนพวกเฟอร์ร่าเห็นแล้วเหนื่อยใจกับอีกฝ่ายที่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว แต่พวกเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไปเล่นหูเล่นตากับธิดาแห่งฮาเดสแบบนี้ก่อนที่จะมีคนหนึ่งพูด
“เจ้านี้มันสติดีใช่ไหม? ถึงไปรักกับธิดาฮาเดสนะ?”
“ข้าว่าไม่นะ”
“แหม ๆ ถ้าเจ้านั้นสติดีคงไม่คบกับสายพันธุ์เดียวกันหรอกนะ~” รัลเอ่ยพร้อมกับกินธัญพืชไปด้วยอย่างอร่อย
“เหรอ? รัล ข้าว่าเจ้านั้นคงได้เชื้อจากเจ้ามานั้นล่ะ เพราะเจ้าก็เคยคบหากับสายเลือดแอรีสไม่ใช่หรือไง?” เซเรน่าแซวอีกฝ่ายที่ประชดลักซ์แต่มันสะเทือนตัวเองมากกว่า
“พรวด!!” รัลถึงกับสำลักของที่กินเข้าไปทันทีน้ำก่อนจะมองสาว ๆ “ฉันไม่ได้คบกับเจ้านั้นซะหน่อย...ข้าแค่โดนเจ้านั้นหลอกฟันเท่านั้น!!”
สิ่งที่รัลพูดนั้นกระทบถึงชายอีกคนที่โดนพูดเขากำลังออกกำลังกายอยู่ก็เดินตรงมาหาอีกฝ่ายพร้อมกับกอดเอวอีกฝ่ายพร้อมกับกระซิบข้างหูทันที
“ยอดรักพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะ ไม่งั้นข้าก็เป็นชายฉกรรจ์ที่ข่มเหงคนอื่นกันพอดี”
“ก็มันควรเป็นไหมล่ะ!? เจ้ามันชายที่ไร้ยางอาย ท่านเจ้าเมืองจอมลามก!!”
“ข้าชอบคำนี้นะเนี่ย~ งั้นเจ้ามาเป็นศรีภรรยาให้ข้าหน่อยสิ”
“ไม่!!”
“ปฏิเสธข้าจังนะ~”
ทุกคนต่างมองทั้งสองที่กำลังทะเลาะกันอยู่ต่อหน้าพวกเขา แต่ท่าทางของชายร่างใหญ่ไม่ได้ทะเลาะแต่เป็นการจู้จี้ในแบบที่เขาทำเป็นประจำกับอีกฝ่าย ก่อนที่หญิงสาวในกลุ่มนั้นจะเอ่ยพูดบางอย่าง
“นี่เลิกมาจู้จี้กันตรงนี้สักที!!”
“อะไรเจ้าอิจฉาเราหรือไง? เซเรน่า”
“เฮอะ ทำไมข้าต้องมาอิจฉาพวกเจ้ากัน?”
“จริงด้วย พี่ข้าไม่ต้องมาอิจฉาพวกเจ้าด้วยซ้ำ!!” อาเดียนเดินเข้ามาเกาะไหล่พี่สาวเบา ๆ
พาราซอนเห็นอีกฝ่ายเกาะอีกฝ่ายก็ขมวดคิ้วหน่อย ๆ “เดียวสิเจ้าน้องชาย ไปเกาะยัยนั้นไม่เข้าข้างพี่ชายตนเองหรือไง!?”
“เสียใจ!ข้ายังไม่เคยรู้จักเจ้าตอนที่ข้ามีชีวิต คนที่ข้ารู้จักมีแต่พี่สาวคนเดียว”
“อย่ามาทะเลาะกันบนหัวข้าได้ไหม?” เซเรน่ากล่าวพร้อมกับเสกค้อนขึ้นมา
จนหนุ่มทั้งสองคนเงียบลงทันทีที่เห็นอาวุธในมือของหญิงสาว ทุกคนต่างมองกันอย่างเหนื่อยใจว่าวัน ๆ ที่อยู่ในห้วงแห่งจิตใจนั้นไม่ใช่เงียบสงบตลอดเวลา เฟอร์ร่ามองไปที่ลักซ์ที่ยังคงพรรณนาถึงหญิงสาวที่อยู่ในหน้าจอ เธอลุกขึ้นแล้วเดินไปหาแดเรียลที่กำลังนอนในสภาพที่ยังเมาอยู่ เธอยื่นหน้าเข้าใกล้หูอีกฝ่ายแล้วกระซิบเบา ๆ จนเจ้าตัวที่นอนอยู่ก็เอามือลงมองหน้าหญิงสาวแล้วมองไปที่คนที่อีกฝ่ายอยากให้เขาจัดการ เขาขยับนิ้วก็มีเถาวัลย์องุ่นขึ้นมาแล้วพุ่งตรงไปหาลักซ์จนเจ้าตัวตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา
“อ๊ากกกกกกกก เจ้าบ้า ทำอะไรนะ!!”
ลักซ์ตะโกนแบบแต่ก็โดนเหวี่ยงเข้าไปยังประตูทางออกไปสู่โลกภายนอกทันที ทุกคนรู้สึกเบาหูไปได้อีกเยอะ แต่ทางด้านนอกโพรทาเลียกำลังสะบัดเซียออก เพราะเธอรู้สึกขนลุกกับท่าทางอีกฝ่ายที่มีต่อเธอ จนกระทั่งลักซ์นั้นทะลุออกมาจากตัวเธอ จนทุกคนนั้นมองกันอย่างสงสัยว่าอะไรพุ่งออกมา แต่สิ่งที่ออกมาคือลักซ์ที่นอนสไลด์อยู่ที่ฟื้น ก่อนจะพยายามลุกขึ้นพยุงตัว
“ไอ้เว้ยนั้น!! ข้ากลับเข้าข้างในเมื่อไหร่!! แกตายแน่!!”
น้ำเสียงอันคุ้นเคยทำให้เซียได้ยินก็ตาลุกวาวก่อนจะเห็นชายผมสีน้ำตาลอันคุ้นเคย
“ลักซ์!!”
เซียปล่อยมือจากโพรทาเลียก็รีบวิ่งตรงไปหาอีกฝ่าย ลักซ์ได้ยินก็รีบหันมาอีกฝ่ายที่กำลังวิ่งตรงมาหาเขา
“อ๊ะ!!ยอดรัก!” ลักซ์อ้าแขนต้อนรับอีกฝ่าย
เซียกระโดดเข้าไปกอดอีกฝ่ายพร้อมกับจู้จี้กันอย่างลึกซึ้งจนเด็ก ๆ ที่อยู่ตรงนั้นถึงกับเขินอายสุด ๆ
“พวกบ้า…ไม่อายกันเลยหรือไง!?” โฟกัสเอ่ยออกมาอย่างไม่ชอบใจ
“ถ้าอายพวกนั้นคง ๆ มาทำกันตรงนี้หรอก…”
“คนพวกนี้เป็นใครกัน? มีแต่เรื่องให้แปลกใจจังนะ พวกเธอนะ?”
เจสันมองสองสาวที่หันมามองเขาพอดี เขามองโพรทาเลียที่มีดวงตาสีเขียวน่าดึงดูดจนเขานึกถึงใครบางคน
‘เหมือนเพอร์ซีย์จัง…’ เจสันคิด
โพรทาเลียมองอีกฝ่ายที่มองเธอก่อนจะหันไปทางอื่นแล้วเตรียมตัวออกเดินทางต่อ เพราะยิ่งอยู่นรก อันตรายก็ยิ่งทวีคูณ โพรทาเลียหวังว่าจะเรียกทั้งสองคนที่อยู่ตรงนั้น แต่เธอเซ็งตรงนี้เรียกแล้วไม่ได้ยินกันจนเธอตัดสินใจว่าหาทางออกกันไปเองดีกว่าก่อนที่เธอจะพาเจสันกับน้องสาวออกจากตรงนั้น ทั้งสองคนที่กำลังจู้จี้นัวเนียกันนั้นก็เห็นว่าพวกโพรทาเลียทิ้งพวกเขาก่อนจะรีบตามไปทันใด โฟกัสสั่งการให้เซียหาทางพาพวกเธอไปยังสถานที่ที่พี่สาวต้องการจนพวกเขามาถึงประตูบานหนึ่งที่ดูคุ้นเคย โพรทาเลียจ้องมองรอบข้างว่ามีสิ่งใดที่เป็นอันตรายไหม ก่อนที่เซียจะเห็นก็ยิ้มหน่อย ๆ
“ไม่ต้องคิดมาก ที่รัก ที่นี่เป็นอาณาเขตของข้าไม่มีผู้ใดทำอะไรเจ้าได้หรอกนะ”
“อ๊ะ...จะจริงเหรอ?” โพรทาเลียสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายพูดแบบนั้น
“ไม่ต้องห่วง นอกจากพวกปีศาจที่จะไม่โผล่มา แต่คนที่จะโผล่มามีเพียงพ่อข้าที่จะพุ่งตรงมาทางนี้ข้าเท่านั้นล่ะ!!”
“ห๊า!!!!!”
โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นก็ให้อีกฝ่ายพาออกจากที่นี่เดียวนี้ก่อนที่ฮาเดสจะโผล่มายังสถานที่แห่งนี้ เซียที่โดยสั่งการก็ทำท่าทางอย่างจะไม่เชื่อฟังก่อนที่โพรทาเลียเสกเปลวเพลิงออกมาจนเซียเห็นก็ตกใจก่อนจะยอมทำตาม เธอผลักประตูบานนั้นออกเพื่อเปิดประตูบานนั้น แต่โพรทาเลียก็นึกบางอย่างได้ก่อนจะเอ่ยถามออกไป
“เดี๋ยว!!การเข้าประตูนั้นเราไม่ต้องกินอะไรงั้นเหรอ?”
“ไม่ต้อง!!มีข้าอยู่ทั้งคน ออกจากที่นี่ได้ง่าย ๆ เลยล่ะ”
เซียกล่าวแบบนั้นก็ทำให้โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจหน่อย ๆ ว่าจะเชื่อใจได้มากน้อยเพียงใด
“เชื่อนางเถอะนะ ถึงจะเป็นสายเลือดฮาเดส แต่จิตใจลึก ๆ ของนางก็เป็นคนใจดีนะ” ลักซ์กล่าวให้ร่างจุติเชื่อตนเอง
“ขอให้จริงเถอะ! ฉันนะ ไม่อยากจะมีปัญหากับอดีตชาติแต่ละคน แต่ถ้ามีการเล่นตุกติกขึ้นมา ฉันเอาไม่เลี้ยงแน่ ๆ”
“ค่า ๆ ที่รักควบคุมเข้าอยู่แล้วนะ จริงไหม~? ลักซ์”
“จริงจ้ะ~”
โพรทาเลียเห็นท่าทางของทั้งสองก่อนจะทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนที่เซียจะนำทางพวกเขาเข้าไปข้างในประตูก่อนใครทุกคนต่างมองหน้ากัน ลักซ์เดินนำไปเช่นกันเพื่อให้พวกเห็นว่าทางออกนั้นเป็นสิ่งที่คล้ายกับที่ที่เธอเคยเห็น พอเห็นแบบนั้นเธอก็พยักหน้าให้ทุกคนว่าปลอดภัย เธอหันไปมองชายอีกคนที่กำลังมีสีหน้าไม่สู้ดีว่าตนเองนั้นจะออกไป โพรทาเลียเดินไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับจับมืออีกฝ่าย
“อ๊ะ!”
“ไม่ต้องห่วง เราจะออกไปด้วยกันนะคะ”
เจสันนิ่งไปสักพักก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “เธอเหมือนอ่านใจฉันออกเลยนะ”
“แค่ดูสีหน้านะคะ” โพรทาเลียยกยิ้มอย่างอ่อนโยน
“คุณเจสันไม่กลัวอะไรนะคะ พี่กับหนูจะพาคุณกลับไปหาทุกคนเองนะคะ”
“ขอบใจพวกเธอมาก ๆ เลยนะ”
เจสันกล่าวอย่างดีใจก่อนที่โพรทาเลียกับโฟกัสจะกอดแขนของทั้งสองข้างของอีกฝ่ายแล้วพาเข้าไปยังประตูบานใหญ่ที่กำลังรอพวกเธออยู่ ก้าวข้ามไปยังอีกฝ่ายได้แล้วนั้นก็รู้สึกถึงกลิ่นอายอันคุ้นเคย บรรยากาศอันโล่งสบายไม่ทุกข์ทรมาน เจสันได้ออกมาจากนรก เขารู้สึกถึงสดชื่นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว แต่ทว่าร่างกายของเขากำลังลอยขึ้นอยู่กลางอากาศ
“อ๊ะ!! นี่มันอะไรกัน!?”
โพรทาเลียกับโฟกัสหันไปมองอีกฝ่ายที่อยู่ตรงกลางที่กำลังลอยขึ้นเหนือหัวพวกเธอ ทั้งสองก็รีบกระโดดจับมืออีกฝ่ายทันที
“คุณเจสันจับมือพวกเราค่ะ!!” โฟกัสกระโดดจับมืออีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
“เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!?” ลักซ์มองอย่างตกใจ
“ที่รักก็ไปช่วยสิ!!”
เซียสั่งให้ลักซ์เข้าไปช่วยเจ้าตัวก็รีบไปช่วยแต่มือของเขานั้นทะลุอีกฝ่ายไปซะงั้น
“อ๊ะ!! ข้าจับเขาไม่ได้!!”
“งั้นข้าเอง!!”
เซียรีบวิ่งเข้าไปช่วยแต่ตัวเธอก็ทำไมได้ พวกโพรทาเลียพยายามดึงอีกฝ่ายลงมาให้ได้ แต่ก็ไม่เป็นผลจนกระทั่งร่างกายของเจสันเริ่มเคลื่อนที่ ทั้งสองคนเริ่มโดนลากแต่พวกเธอก็พยายามดึงดันที่จะจับอีกฝ่ายเอาไว้ พวกเธอกลัวว่าอีกฝ่ายจะโดนดูดเข้าไปยังประตู แต่พอดูมันไม่ใช่ทิศทางย้อนกลับแต่เป็นทิศอื่น ก่อนที่แรงดึงจะเยอะขึ้นจนพวกเธอหลุดจากการรั้งตัวเองจนมือนั้นหลุดและล้มลงกับพื้น
“อ๊ะ!!”
“ไม่นะ!!” เจสันโดนลากไปยังทิศที่เขาไม่รู้ว่าไปทางไหน
โพรทาเลียพยายามลุกขึ้นมาถึงจะเจ็บแสบเพียงใดเธอก็ต้องช่วยอีกฝ่ายก่อนจะวิ่งตามอีกฝ่าย โฟกัสเห็นพี่สาวที่วิ่งนำไปก่อนเธอก็รีบลุกขึ้นและวิ่งตามไป เจสันพยายามที่จะรั้งตัวเองไม่ให้โดนลากไปตามอากาศ แต่ก็ไร้ผลเขาก็ยังโดนดึงไปอย่างรวดเร็วโดยมีสองสาวกำลังวิ่งตาม โพรทาเลียมองอย่างสงสัยว่าตัวอีกฝ่ายกำลังไปไหนก่อนที่ทิศทางที่กำลังไปนั้นมันคล้ายกับก่อนหน้าที่เธอเคยเดินจนเธอรู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังจะโดนลากไปไหน เธอเงยหน้าก่อนจะตะโกนเรียกอีกฝ่าย
“เจสัน!!”
“อะไร!?” เจสันก้มมองอีกฝ่ายเรียกเขา
“ปล่อยตัวตามสบายซะ! นายกำลังตรงไปหาร่างตัวเอง!!”
“ว่าไงนะ!?” เจสันขมวดคิ้วอย่างงุนงงว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร
การเร่งฝีเท้าไปข้างหน้าเป็นอะไรที่ง่ายสำหรับโพรทาเลีย เธอนำไปข้างหน้าก่อนจะเห็นว่าทางข้างหน้ามีประตูบานใหญ่อันคุ้นเคยอยู่ก่อนที่เธอจะตรงดิ่งมาถึงประตูก่อนจะเปิดประตูบานใหญ่นั้นออก ข้างในนั้นมีพวกโกรอสสามตนที่กำลังรอเวลาอยู่ พวกเขาหันมามองเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู โพรทาเลียเห็นก็ดีใจที่เป็นอย่างที่ตนคิด
“มิเรีย!!”
“เด็กน้อย!?” มิเรียลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตนเองนั่ง
“เริ่มพิธีเลย!!” โพรทาเลียกล่าวจบนั้น
มิเรียได้ยินแบบนั้นก็งุนงงก่อนที่เธอนั้นจะร่างหนึ่งที่กำลังลอยเข้ามายังข้างใน เธอเห็นก็มองกลับไปยังร่างที่นอนอยู่ ก่อนที่เจ้าตัวนั้นจะโดนดึงเข้าไปยังร่างของตนเอง มิเรียเห็นแบบนั้นก็รีบใช้พลังของเธอแสงสว่างกำลังเจิดจ้าขึ้นเมื่อเริ่มบทสวดของสตรีศักดิ์ โพรทาเลียรีบตรงไปที่โต๊ะบูชาที่เธอวางเจสันให้นอนไว้ เธอรีบจับไปที่คันธนูก่อนจะดึงมันออกแต่ละอัน โฟกัสที่วิ่งตามมาหลังก็เห็นแสงสว่างตรงหน้าที่เธอรู้สึกมันเจิดจ้าเกินกว่าจะเข้าไป บทสวดของมิเรียกำลังรักษาร่างกายของชายหนุ่มที่กำลังนอนอยู่แผลตามร่างกายกำลังผสานเข้าหากัน โพรทาเลียมองภาพตรงหน้าเธอขอเพียงอย่างเดียวขอให้อีกฝ่ายฟื้นขึ้นมา
“ได้โปรด...เจสัน...นายต้องฟื้นนะ!! นายต้องฟื้นนะ!!”
คำอ้อนวอนที่ไร้การตอบสนองกับร่างตรงหน้ามันยิ่งเจ็บปวดยิ่งกว่าอะไร เธอขอให้การรักษานี้ได้ผล แต่ทว่าแสงสว่างเริ่มอ่อนลงเพราะว่าร่างกายของชายหนุ่มนั้นไร้ร่องรอยทุกอย่างแล้ว แต่ว่าไร้วี่แววการตอบสนอง โพรทาเลียเงยหน้ามองพวกมิเรียทันที
“มิเรีย!! หยุดทำไม!? รักษาเขาต่อสิ!!”
“ข้ารักษาจบแล้วเด็กน้อย…”
“ไม่! เขายังไม่ฟื้นเลยนะ!!”
“ข้ารู้...แต่ว่า...” มิเรียทำสีหน้าเหนื่อยมาก ๆ เธอเหมือนใช้พลังไปเยอะพอตัวแล้วแต่ว่าอีกฝ่ายยังไม่ฟื้น
โพรทาเลียเห็นสีหน้าอีกฝ่ายที่ดูเหนื่อยล้านั้นบ่งบอกว่าอีกฝ่ายใช้พลังตัวเองหมดแล้ว ก่อนที่เธอจะจับแขนอีกฝ่ายเบา ๆ เหมือนนึกย้อนไปว่าถ้าเธอทำพลาดทุกอย่างจะจบ ทุกคนที่เธอรู้จักจะหายไปร่วมถึงตัวเธอก็เช่นกัน
“ไม่นะ...มิเรีย ฉันขอร้อง...ช่วยเขา...ช่วยเขาได้โปรดเขาเป็นตัวแปรสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตที่หายไปกลับมาได้โปรด!!”
“ขอโทษนะ...”
โพรทาเลียได้ยินแบบนั้นเธอก็นิ่งไปอย่างอึ้งไปกับคำพูดนั้นเธอพยายามแทบตายแต่ไม่เป็นอะไร ยิ่งทำให้ใจของเธอเหมือนฉีกออกจนน้ำตาไหลออกมาอาบทั้งสองข้างแก้มของเธอ โฟกัสมองสถานการณ์ตรงหน้าเธอรู้สึกจุกไปหมดพวกเธอทำไม่สำเร็จงั้นเหรอ แต่ว่าพวกเธอช่วยเจสันออกมาได้แล้ว โฟกัสมองไปที่โต๊ะบูชาก็ต้องเห็นกับภาพที่ไม่คาดคิด
“พี่ค่ะ!!”
โพรทาเลียไม่ได้ยินเสียงของน้องสาวเรียกตนเอง โฟกัสเห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งไปหาพี่สาวพร้อมกับจับใบหน้าของเธอหันไปมองที่โต๊ะบูชา
“ดูค่ะ!!”
“อ๊ะ!?”
โพรทาเลียโดนให้หันอย่างบังคับก่อนที่ดวงตาของเธอจะเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นชายที่กำลังเดินตรงมาหาเธอแล้วย่อตัวนั่งลงตรงหน้าของเธอ
“ไม่ได้คุยด้วยแค่ไม่กี่นาที ทำไมมาร้องไห้แล้วล่ะ?” เจสันเอ่ยถามอีกฝ่ายอย่างสงสัย
โพรทาเลียมองอีกฝ่ายเธอนึกว่าอีกฝ่ายจะไม่ฟื้น “นาย...นาย...”
“หือ?”
“ทำไมไม่รีบลุกขึ้นมากัน!!” โพรทาเลียกำหมัดพร้อมกับชกไปที่ข้างเอวอีกฝ่าย
เจสันถึงกับจุกกับการโจมตีของอีกฝ่ายก่อนที่เขานั้นจะหลบ “โกรธอะไรฉันกัน ฉันต้องการเวลาตื่นมั้งสิ!!”
“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย!!เป็นถึงสายเลือดจูปิเตอร์ต้องแข็งแกร่งสิเว้ย!!”
โพรทาเลียพูดพร้อมน้ำตาที่ไร้ออกมา เธอรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองมีอารมณ์ที่อ่อนไหวเกินไป ยิ่งเป็นอีกฝ่ายที่เป็นพ่อสามีของเธอมันยิ่งเจ็บปวดถ้าเธอช่วยเขาไม่ทัน ยิ่งอีกฝ่ายมาทำแบบนี้ยิ่งทำเอาเธอรู้สึกแย่กว่าเดิม เจสันได้แต่ลูบหัวอีกฝ่ายเบา ๆ อย่างปลอบใจ หลังจากเวลาผ่านไปโพรทาเลียสงบสติอารมณ์หลังจากสลบไปตอนที่เจสันปลอบ คงเพราะความเหนื่อยล้าและความโล่งใจทำให้เธอสลบไป แต่เธอก็นอนได้ไม่นานเพราะเธอมีเวลาไม่มากที่จะต้องเดินทางพาเจสันกลับ แต่การนอนได้ไม่กี่นาทีก็ทำให้โฟกัสห่วงพี่สาวที่ไม่ได้พักเลย
“พี่ค่ะ เราพักอีกสักหน่อยก็ได้นะ”
“ไม่!! ต้องทำภารกิจให้เสร็จ ฉันถึงจะยอมพัก!!”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่!! พี่ยังมีอีกที่ที่ต้องไป!!”
“ไป?” โฟกัสยกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย "พี่จะไปไหน?”
“รอไปแล้วเราจะรู้เองนะ”
“โพรทาเลีย...” มิเรียเอ่ยเรียกอีกฝ่ายที่กำลังคุยกับน้องสาวอยู่
โพรทาเลียหันไปมองอีกฝ่ายที่เรียกเธอด้วยชื่อที่เธอคิดว่าไม่น่าจะหูฝาดก่อนหน้านั้น เธอเดินออกจากน้องสาวแล้วตรงดิ่งไปหาอีกฝ่าย เธอย่อตัวลงให้อยู่ระดับเดียวกับอีกฝ่าย
“เจ้าจะไปแล้วหรือ?”
“ใช่...”
ทั้งสองทำหน้าเศร้าหน่อย ๆ ถึงจะรู้จักกันไม่นานนัก แต่ก็รู้สึกผูกพันถึงแม้โพรทาเลียจะผูกพันกับอีกฝ่ายอยู่แล้วก็ตามที เธอถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้อีกฝ่าย
“ขอบคุณสำหรับที่ผ่านมานะ มิเรีย”
“ข้าทำเท่าที่ช่วยได้ล่ะนะ”
“ไม่ คุณเป็นหญิงที่แข็งแกร่งมาก ๆ ต้องขอบคุณมากสำหรับครั้งนี้ ถ้าไม่มีคุณมิเรียครั้งนี้หนูไม่รู้ว่าจะผ่านไปได้ไง ขอบคุณนะคะ"
คำพูดของอีกฝ่ายทำให้มิเรียอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่าย “จ๊ะ...”
ทั้งสามคนจะเตรียมตัวสำหรับเดินทางกลับไปยังค่ายฮาล์ฟบลัดเพื่อส่งตัวเจสันกลับ พวกเขาบอกลาองค์ราชาและสมาชิกคนอื่น ๆ ก่อนไปโพรทาเลียคุยกับเจคอบสักครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปหาพวกโฟกัสที่กำลังรออยู่ที่อาณาเขต
“เมื่อกี้คุยอะไรกันนะ?”
“ก็เรื่องเล็กน้อยนะ”
โพรทาเลียตอบแบบนั้นอย่างไม่คิดอะไร เพราะว่าสิ่งที่เจคอบถามก็แค่ถามว่าในอนาคตเขาจะสมหวังในรักไหม โพรทาเลียได้แต่ตอบออกไปสั้น ๆ ว่าขึ้นกับตัวเขาที่จะทำให้มันสมหวังได้ไหม เธอบอกแค่นั้นให้อีกฝ่ายเอาไปคิด พอเดินออกมาจากอาณาเขตอาณาจักรเอราเซียนทุกอย่างข้างหลังก็หายไปกลายเป็นทุ่งทะเลทรายเหมือนเดิม เธอนึกถึงสถานการณ์ที่พวกเขาจะเอาตัวรอดกันไหม แต่ว่าเธอจะได้เจอพวกเขาในอนาคตเป็นแน่
‘ขอให้พวกคุณผ่านช่วงเวลาหลังจากนี้ไปได้นะ มิเรีย เจคอป...และเหล่าโกรอสทั้งหลาย...’ โพรทาเลียคิด
จบตอนที่ 126 โปรดติดตามตอนที่ 127 ต่อไป