รักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก
แฟนตาซี,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,อาชญากรรม,แฟนตาซี,พระเอกเก่ง,นางเอกฉลาด,นางเอกสวยมาก,สืบสวน ,สืบสวนสอบสวน,ต่อสู้,เวทมนตร์,เวทมนต์,เหนือธรรมชาติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Dragon Warrior นักรบมังกรรักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก
ชื่อเรื่อง:Dragon Warrior นักรบมังกร (กำลัง รีไรท์เนื้อหา)
ภาค 1 "ปริศนาเงาคำสาป:Shadow Curse Mystery
แนวเรื่อง: Dark Fantasy, การผจญภัย, ความลึกลับ
เนื้อเรื่องย่อ:
ปฐมบท: ในเงามืดของโลกที่แหลกสลาย
กาลครั้งหนึ่ง โลกนี้เคยเต็มไปด้วยสีสันและความสดใส มนุษย์เคยเดินเคียงข้างกับสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค—เหล่ามังกร ผู้ปกครองฟ้าดินและน้ำ ทั้งสองเผ่าพันธุ์แบ่งปันโลกนี้กันอย่างสงบสุขมานานนับพันปี แต่สงครามแห่งรากนาร็อก (Ragnarok) เปลี่ยนทุกสิ่ง เหล่ามังกรและมนุษย์ถูกบีบให้ต้องต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันอีกครั้ง ทว่าหลังสงครามสิ้นสุดลง สิ่งที่หลงเหลือไว้กลับเป็นเพียงซากปรักหักพังและบาดแผลที่ไม่มีวันลืม
ปฐมบท: ในเงามืดของโลกที่แหลกสลาย
กาลครั้งหนึ่ง โลกเคยเป็นดินแดนแห่งความงดงามและสงบสุข มนุษย์อยู่ร่วมกับเหล่ามังกร ผู้ปกครองท้องฟ้า ดิน และน้ำ ทั้งสองเผ่าพันธุ์แบ่งปันโลกกันอย่างสงบเสงี่ยมนานนับพันปี จนกระทั่งสงครามแห่งรากนาร็อก (Ragnarok) เกิดขึ้น ทุกอย่างกลับตาลปัตร มนุษย์และมังกรจำต้องต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ในสงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่เมื่อสงครามยุติลง ซากปรักหักพังและบาดแผลลึกในจิตใจคือสิ่งที่เหลืออยู่
ในยุคมืดนี้ มังกรหายสาบสูญไป ทิ้งไว้เพียงตำนานและอาวุธวิเศษที่มนุษย์สร้างจากซากของพวกมัน ผู้ครอบครองอาวุธเหล่านี้กลายเป็นผู้ปกครองโลกใหม่ โลกที่บิดเบี้ยวจากสงครามและถูกแบ่งแยกออกเป็นสามอาณาจักรใหญ่ ซึ่งแต่ละอาณาจักรมีวิถีชีวิตและแนวคิดต่างกันไป แม้ว่าสงครามจะสิ้นสุด แต่ความขัดแย้งยังคงสิงสถิตอยู่ในเงามืด มนุษย์ที่ปราศจากเวทมนตร์ถูกมองว่าเป็นชนชั้นต่ำ ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด ความยุติธรรมกลายเป็นสิ่งเลือนลาง และอำนาจมืดครอบงำไปทั่ว
….
ในคืนนี้บนรถม้า เบลล์สวมชุดเครื่องแบบตำรวจหญิงที่ตัดเย็บอย่างประณีต ผ้าสีกรมท่าเข้ารูปโชว์สัดส่วนที่สมส่วนของร่างกาย กระดุมทองอร่ามเรืองประดับอยู่ตรงกลางอก หมวกทรงสูงประดับตราสัญลักษณ์ผู้พิทักษ์ถูกวางไว้ข้างกาย แม้จะเป็นเครื่องแบบที่ดูเรียบง่ายแต่ก็สามารถสะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความมั่นใจของเธอได้เป็นอย่างดี
ท่าทางการนั่งของหญิงสาวสง่างามราวกับนางแบบ มือเรียวบางวางอยู่บนตัก ขาเรียวเหยียดตรง แม้ว่าสภาพอากาศภายนอกจะดูอึมครึมและน่ากลัว แต่เบลกลับดูสงบและผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด ดวงตาคู่สวยของเธอมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่ลึกล้ำราวกับกำลังคิดถึงเรื่องราวบางอย่าง
สายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้บรรยากาศรอบข้างดูมืดมิดและน่ากลัว เสียงฟ้าร้องกึกก้องดังเป็นระยะๆ แต่เบลกลับรู้สึกถึงความสงบภายในจิตใจ เธอชอบบรรยากาศแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและเป็นอิสระ ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกถึงความตื่นเต้นที่กำลังจะได้ไปปฏิบัติภารกิจสำคัญ
….
สองวันก่อนหน้านี้
คฤหาสน์วิลสันตั้งตระหง่านอยู่ในย่านที่หรูหราที่สุดของเมืองหลวง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิกที่งดงามแฝงความเยือกเย็น แสงแดดอ่อนลอดผ่านกระจกสีของหน้าต่างสูงใหญ่ ทอประกายบนเฟอร์นิเจอร์กำมะหยี่สีเข้ม ภายในห้องโถงใหญ่ถูกประดับด้วยผ้าม่านทองคำและภาพวาดของบรรพบุรุษแห่งตระกูลวิลสันเรียงรายบนผนัง บรรยากาศเงียบสงบ แฝงความตึงเครียดที่ซ่อนอยู่
เบลล์ หญิงสาววัยรุ่นผู้มีใบหน้าสวยคม ตาสีฟ้าสดใส ผมบลอนด์ยาวสลวย เธอสวมชุดราตรีสีงาช้างหรูหรา ท่าทางดูสง่างามแต่แววตากลับแฝงความไม่พอใจเล็กน้อย ขณะที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานของพ่อ เธอสูดลมหายใจลึก ผลักประตูเข้าไป ภาพเบื้องหน้าทำให้เธอต้องชะงัก ห้องทำงานที่เคยให้ความรู้สึกอบอุ่น กลับดูเย็นชาและน่าเกรงขาม เงาของพ่อที่ทอดลงบนพื้นยิ่งทำให้บรรยากาศเหมือนมีอสูรกายซ่อนอยู่
เบลล์เดินไปหาพ่ออย่างไม่มั่นใจ เสียงรองเท้าของเธอกระทบพื้นไม้ดังก้องในห้องที่เงียบงัน ทุกย่างก้าวคล้ายเธอกำลังเดินเข้าสู่กับดักที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
พ่อของเบลล์ ชายวัยกลางคนผู้มีใบหน้าคมเข้ม ดวงตาสีน้ำตาลสะท้อนความฉลาดและเด็ดขาด เขานั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสารราชการ สายตาจับจ้องลูกสาวด้วยความเงียบ แต่แฝงความกังวล
เบลล์: (เดินไปที่โต๊ะ) "ทำไมพ่อถึงต้องให้หนูไปทำงานกับนักสืบคนนั้น? มันไม่ใช่หน้าที่ของหนู หนูไม่ใช่คนที่ต้องทำตามคำสั่งใคร"
พ่อของเบลล์: (วางเอกสารลง มองลูกสาวด้วยสายตานิ่ง) "เรื่องนี้สำคัญ มันจำเป็นสำหรับอนาคตของลูก เราตกลงกันแล้ว ถ้าลูกไม่แต่งงาน ลูกก็ต้องไปทำงาน"
เบลล์: (เสียงแข็ง) "แต่งงาน? หนูไม่มีทางเลือกเลยใช่ไหม หนูต้องเลือกระหว่างทำงานที่หนูไม่ชอบหรือไม่ก็ต้องแต่งงาน แล้วทำไมต้องเป็นหนู?"
พ่อของเบลล์: "เพราะลูกเหมาะสมที่สุด ลูกฉลาดและมีความสามารถ ลูกคือทายาทของตระกูลวิลสัน"
เบลล์ยืนขึ้น มองพ่อด้วยความไม่พอใจ
เบลล์: "หนูไม่ต้องการเป็นเครื่องมือของพ่อ หนูอยากใช้ชีวิตตามที่หนูต้องการ ไม่ใช่ติดอยู่ในภารกิจที่ไร้ความหมาย"
พ่อของเบลล์: (น้ำเสียงสงบ) "นี่ไม่ใช่การลงโทษ แต่มันคือโอกาสที่เจ้าจะได้เห็นว่าโลกภายนอกไม่ได้มีแค่ความสะดวกสบาย การทำงานกับนักสืบคนนั้นจะสอนเจ้ามากกว่าที่พ่อจะสอนได้"
เบลล์: (เสียงหงุดหงิด) "หนูมีทุกอย่างแล้ว ทำไมต้องไปทำงานกับคนที่ไม่รู้จักสถานะของหนู หนูเก่งในเวทมนตร์และการทูต หนูควรได้รับความเคารพ"
พ่อของเบลล์: (ขมวดคิ้ว) "การที่ลูกเก่งไม่ได้แปลว่าลูกเข้าใจทุกอย่าง การเรียนรู้ที่แท้จริงมาจากประสบการณ์ ไม่ใช่จากตำรา"
เบลล์: (ตะโกน) "หนูไม่ต้องการสิ่งนั้น หนูสามารถทำให้ตระกูลนี้ยิ่งใหญ่ด้วยเวทมนตร์ ทำไมต้องเสียเวลา!"
พ่อของเบลล์: (น้ำเสียงเย็นชา) "เพราะพ่อหวังให้ลูกเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ความเป็นผู้นำไม่ได้มาจากการออกคำสั่ง แต่มาจากการเข้าใจผู้คน"
พ่อของเบลล์: (เสียงอ่อนลง) "นี่ไม่ใช่เรื่องของความชอบ แต่มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่จะทำเพื่อครอบครัว"
เบลล์: (เสียงสั่น) "หนูเกลียดที่ต้องทำตามคำสั่งพ่อทุกอย่าง!"
พ่อของเบลล์เดินเข้าไปใกล้ จับไหล่เธออย่างอบอุ่น
พ่อของเบลล์: "พ่อทำเพราะเชื่อมั่นในตัวลูก ลูกต้องแข็งแกร่งพอที่จะเผชิญความจริง ใช้เวทมนตร์อย่างชาญฉลาดและมีเมตตา"
เบลล์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น
เบลล์: "ถ้าหนูทำไม่ได้ล่ะ?"
พ่อของเบลล์: "ถ้าลูกทำไม่ได้ แสดงว่าลูกยังไม่พร้อมที่จะเป็นผู้นำของตระกูล"
เบลล์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจ
เบลล์: "หนูจะไป หนูจะพิสูจน์ว่าหนูทำได้ดีกว่าที่พ่อคิด"
พ่อของเบลล์ยิ้มอ่อนๆ
พ่อของเบลล์: "พ่อรู้ว่าลูกทำได้ และพ่อจะเฝ้ารอวันที่ลูกกลับมาด้วยความภาคภูมิใจ"
เเบลล์กัดริมฝีปากล่างด้วยความไม่พอใจแต่ไม่มีทางเลือกอื่น เธอหันหลังกลับและเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ หลังจากเบลล์ออกไป บรรยากาศในห้องก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง พ่อของเบลล์มองตามหลังลูกสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน เขาหวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับเบลล์ และจะทำให้เธอเติบโตเป็นหญิงสาวที่แข็งแกร่งและมีความรับผิดชอบมากขึ้น แววตาของเบลล์ยังคงแฝงไปด้วยความสับสนและโกรธ แต่เธอก็มีความมุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นว่าเธอสามารถทำได้มากกว่าที่ใครๆ คิด เธอจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกหรือบังคับเธอได้อีกต่อไป
………..
ฝนยังคงเทลงมาอย่างหนัก เสียงกระทบหลังคาสังกะสีดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ บ้านเล็กๆ หลังนั้นเต็มไปด้วยความชื้นและความหนาวเย็นจากพายุที่โหมกระหน่ำ เสียงฟ้าร้องเป็นระยะราวกับบอกล่วงหน้าถึงสิ่งเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น ไฟจากผลึกเวทมนตร์ห้อยลงมาจากเพดาน เปล่งแสงสลัวอย่างเหนื่อยล้า เพียงพอให้เห็นใบหน้าชราของชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัยและประสบการณ์ รอบตัวเขามีชายในชุดดำยืนเงียบๆ ราวกับเงาที่จับจ้องทุกความเคลื่อนไหวในห้อง
ในมุมหนึ่งของห้อง ไนท์ยืนสงบ แต่สายตาของเขาไม่ได้ว่างเปล่า ดวงตาสีแดงเข้มของเขาจ้องมองชายชราด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความคาดหวังและความเด็ดขาด เครื่องแบบสีน้ำเงินเข้มของเขาโดดเด่นท่ามกลางเงามืด ความมืดที่ปกคลุมทั่วบ้านราวกับจะเป็นพยานให้กับการสอบสวนที่เคร่งเครียดนี้ เสียงฝนยังคงเป็นจังหวะบีบหัวใจ เหมือนเวลาเดินช้าลงทุกครั้งที่มีคำถามถูกโยนออกมา
“ท่านเห็นคนร้ายชัดเจนหรือไม่?” ไนท์ถามขึ้น น้ำเสียงเย็นเยียบแต่ชัดเจน
ชายชรากลืนน้ำลาย หัวใจเขาเต้นแรง "เห็นชัดเจน มันเป็นชายร่างใหญ่ ผมสีดำ สวมเสื้อคลุมสีดำ... ข้าไม่มีวันลืม"
ขณะที่คำให้การกำลังถูกจดบันทึก ประตูไม้ที่ชำรุดจากกาลเวลาเปิดออก เสียงฝีเท้าเบาๆ เดินเข้ามาในห้อง ทำให้ไนท์หันมองไปที่ประตู หญิงสาวผมยาวสีทองยาวสลวยเดินเข้ามาในห้องอย่างไม่เกรงกลัว เธอสวมชุดเครื่องแบบสีน้ำเงินเข้มแบบเดียวกับไนท์ แต่ดูเหมือนแสงจากผลึกเวทมนตร์จะส่องให้เธอมีความโดดเด่นอย่างประหลาด ท่าทางมั่นใจของเธอตัดกับบรรยากาศมืดมิดของห้องอย่างชัดเจน
เบลล์มองไปรอบๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้โต๊ะ "ข้าขอโทษที่มาช้า ข้าถูกส่งมาเพื่อร่วมมือกับท่าน"
ไนท์ไม่ละสายตาจากเธอ "ฉันรู้ว่าคุณจะมา" น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่งเหมือนท้องฟ้าหลังพายุ "คุณต้องทำงานตามคำสั่งของฉันอย่างเคร่งครัด ไม่มีเวลาให้ความผิดพลาด"
เบลล์ยิ้มมุมปากเล็กน้อย "ข้าก็หวังว่าเราจะไม่ต้องมาทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อย ข้ามาที่นี่เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ไม่ใช่มานั่งเล่น"
ไนท์ขยับตัวเล็กน้อย กลับมามองชายชราอีกครั้ง "เรื่องส่วนตัวเก็บไว้ก่อน ตอนนี้เรามีภารกิจสำคัญกว่าที่ต้องจัดการ"
บรรยากาศในห้องมืดสลัวแต่เต็มไปด้วยความกดดัน เสียงฝนที่ตกกระหน่ำลงมาด้านนอกยิ่งเพิ่มความเคร่งขรึมให้กับการเผชิญหน้าครั้งนี้ ไม่มีใครในห้องรู้ว่าเบื้องหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขาทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดที่ปกคลุมทุกอณูอากาศ
"ชีวิตคือการเผชิญหน้ากับสิ่งที่เราไม่อาจคาดเดาได้ และการเติบโตมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เราไม่พร้อมที่สุด"