รักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก
แฟนตาซี,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,อาชญากรรม,แฟนตาซี,พระเอกเก่ง,นางเอกฉลาด,นางเอกสวยมาก,สืบสวน ,สืบสวนสอบสวน,ต่อสู้,เวทมนตร์,เวทมนต์,เหนือธรรมชาติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Dragon Warrior นักรบมังกรรักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก
ชื่อเรื่อง:Dragon Warrior นักรบมังกร (กำลัง รีไรท์เนื้อหา)
ภาค 1 "ปริศนาเงาคำสาป:Shadow Curse Mystery
แนวเรื่อง: Dark Fantasy, การผจญภัย, ความลึกลับ
เนื้อเรื่องย่อ:
ปฐมบท: ในเงามืดของโลกที่แหลกสลาย
กาลครั้งหนึ่ง โลกนี้เคยเต็มไปด้วยสีสันและความสดใส มนุษย์เคยเดินเคียงข้างกับสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค—เหล่ามังกร ผู้ปกครองฟ้าดินและน้ำ ทั้งสองเผ่าพันธุ์แบ่งปันโลกนี้กันอย่างสงบสุขมานานนับพันปี แต่สงครามแห่งรากนาร็อก (Ragnarok) เปลี่ยนทุกสิ่ง เหล่ามังกรและมนุษย์ถูกบีบให้ต้องต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันอีกครั้ง ทว่าหลังสงครามสิ้นสุดลง สิ่งที่หลงเหลือไว้กลับเป็นเพียงซากปรักหักพังและบาดแผลที่ไม่มีวันลืม
เสียงล้อรถม้าดังก้องเบา ๆ เมื่อมันเคลื่อนตัวไปบนถนนที่ชุ่มไปด้วยน้ำฝน บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความตึงเครียดและลึกลับ ฝนยังคงโปรยปรายอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ไนท์และเบลล์นั่งอยู่ในรถม้าอย่างเงียบงัน ความเงียบนี้กลับทำให้ทั้งคู่รับรู้ถึงการมีอยู่ของกันและกันอย่างลึกซึ้ง เหมือนความรู้สึกที่ยังไม่เอ่ยออกมากำลังค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจ
ค่ำคืนที่ท้องฟ้าดำสนิทดั่งหมึก ฝนโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง เสียงหยดน้ำกระทบหลังคารถม้าดังก้องเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ราวกับบทเพลงเศร้าที่บรรเลงไปไม่มีที่สิ้นสุด รถม้าคันหรูแล่นไปอย่างช้า ๆ บนถนนที่เปียกชื้น บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความลึกลับและน่าสะพรึงกลัว
ไนท์นั่งนิ่ง ดวงตาสีเข้มของเขาจับจ้องออกไปนอกหน้าต่าง ราวกับเขาหลงอยู่ในความคิดที่ซับซ้อนเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจได้ แสงจากตะเกียงในรถส่องกระทบใบหน้าซีดขาวของเขา สร้างเงาที่คมชัด ราวกับเขากำลังซ่อนความลับบางอย่างที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ ความเงียบที่แผ่ซ่านในค่ำคืนนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงบรรยากาศภายนอก แต่ยังลึกซึ้งถึงความคิดและความรู้สึกที่ซ่อนเร้นในใจของทั้งคู่
เบลล์ ผู้ช่วยสาวที่เพิ่งถูกส่งตัวมาจากเมืองหลวงนั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา เธอรู้สึกถึงความแตกต่างในบรรยากาศรอบตัว รถม้าแล่นผ่านซอยที่เงียบสงบ แต่กลับซ่อนความน่ากลัวไว้ในความมืด เธอชะเง้อมองออกไปนอกหน้าต่าง สายตาสำรวจไปยังเงาที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก ความมืดและความเงียบสงบที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนทำให้เธอรู้สึกอึดอัด “ไม่เคยเห็นความเป็นอยู่ของหมู่บ้านนอกเมืองมาก่อน…” เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
ไนท์หันไปมองเธอเล็กน้อย “คุณไม่เคยมาย่านสลัมอย่างนั้นเหรอ?” เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“เคยค่ะ… แต่ไม่เคยเห็นย่านที่เป็นแบบนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นชีวิตของคนที่อยู่นอกเมืองหลวง” เบลล์ตอบ สายตาของเธอยังคงจับจ้องไปยังเงาที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก
ไนท์ไม่ตอบอะไรกลับไป แต่รอยยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากของเขาบ่งบอกถึงความเข้าใจในสิ่งที่เธอรู้สึก
เบลล์สังเกตเห็นอาการไอของไนท์ เธอยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เขา “คุณไม่สบายหรือเป็นเพราะอากาศฝน?” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใย
ไนท์รับผ้าเช็ดหน้าอย่างเงียบ ๆ และพยักหน้าเล็กน้อย “เพียงอาการไอธรรมดา ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณหนูเบลล์”
เบลล์ยิ้มบาง ๆ แต่ในดวงตาของเธอกลับมีประกายของความท้าทาย “อย่าเรียกฉันว่าคุณหนู พวกเขาส่งฉันมาทำงาน ไม่ใช่มาเล่นบทตระกูลใหญ่”
ไนท์หันมามองเธอด้วยสายตาที่นิ่งสงบ “เข้าใจแล้ว เบลล์” เขาตอบเสียงเบา “หวังว่าการทำงานครั้งแรกของคุณในคืนนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง”
เบลล์พยักหน้า “ฉันชื่อเบลล์ ฉันไม่คิดว่างานนี้จะน่าสนใจ แต่พอได้เห็นการทำงานของคุณ ฉันเริ่มรู้สึกตื่นเต้น”
ไนท์เหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง ความคิดของเขายังคงล่องลอยอยู่ในโลกของตัวเอง “ตื่นเต้นอย่างนั้นเหรอ?” เขาพูดเบา ๆ ราวกับพูดกับตัวเองมากกว่าจะพูดกับเธอ
เบลล์มองไนท์ด้วยความสนใจ “ฉายานักสืบน้ำแข็งของคุณคงเป็นเพราะไม่ค่อยพูดสินะ” เธอคิดในใจ ขณะมองใบหน้าของเขาที่ถูกแสงสลัวจากตะเกียงในรถม้าส่องกระทบ ใบหน้านั้นดูสงบนิ่งและเยือกเย็น ราวกับไม่มีสิ่งใดที่สามารถทำให้เขาหวั่นไหวได้
ไนท์หันกลับมามองเธอด้วยสายตาจริงจัง “คุณยังไม่ได้ไปที่พัก คุณมาถึงก็ตรงมาที่นี่เลยอย่างนั้นเหรอ?”
เบลล์พยักหน้า “ใช่ค่ะ ฉันกลัวว่าจะมาไม่ทันช่วยงานของคุณ ฉันอยากรู้ว่าผู้พิทักษ์ที่เก่งที่สุดในการสืบคดีทำงานกันอย่างไร มันไม่ได้เป็นการรบกวนคุณใช่ไหม?”
ไนท์ยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก สายตาของเขายังคงจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง “คุณนี่ช่างเป็นลูกคุณหนูที่แปลกประหลาดจริง ๆ ชอบความลำบากอย่างนั้นเหรอ?”
คำพูดของเขาไม่ได้มีเจตนาประชดประชัน แต่กลับแฝงไปด้วยความอบอุ่น ราวกับเขาเห็นความมุ่งมั่นในตัวเธอและชื่นชมในสิ่งนั้น
“มันก็จริงที่ฉันถูกบังคับมา แต่ไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับฉันที่จะทำงานแบบนี้” เบลล์ตอบด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความมั่นใจ เธอมองเข้าไปในดวงตาของไนท์ แม้ว่าเขาจะไม่สบตาเธอ แต่เธอก็ไม่รู้สึกหวั่นไหว
“คุณต้องการให้ฉันเรียกคุณว่าอะไรคะ?” เสียงของเบลล์แผ่วเบา แต่แฝงไปด้วยความจริงจัง เสมือนดั่งการเปิดประตูสู่การสนทนาที่สำคัญ
ไนท์ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เอกสาร “อะไรก็ได้ที่คุณต้องการเรียก” คำตอบของเขาเรียบง่าย แต่กลับมีน้ำหนัก
เบลล์พยักหน้าเบาๆ “หัวหน้าคะ คดีที่เรากำลังตามอยู่ เกี่ยวกับเรื่องอะไรกันแน่คะ?” เธอเอ่ยถาม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสงสัย เธอได้สังเกตเห็นความเคร่งเครียดบนใบหน้าของเขา เหมือนเขากำลังตามหาอะไรบางอย่าง...หรืออาจเป็นใครบางคน
ไนท์เงยหน้าขึ้นจากแฟ้มเอกสาร สายตาของเขาคมกริบดุจดั่งมีเปลวไฟที่ซ่อนอยู่ “บทเรียนที่ 1 สำหรับคุณ... ต้องรู้จักช่างสังเกต” เขาพูดขึ้นช้าๆ ขณะที่สายตายังคงกวาดผ่านเนื้อหาในเอกสารอย่างไม่หยุดยั้ง
ในขณะนั้น อาร์เธอร์ คนขับรถม้าก็เอื้อมมือไปเปิดช่องหน้าต่างเล็กๆ ด้านหน้า เพื่อเชื่อมโยงการสนทนากับผู้โดยสาร “ท่านครับ จากที่เราตรวจสอบมา คนร้ายที่ก่อเหตุในเมืองต่างๆ น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร” เสียงของอาร์เธอร์แทรกขึ้นจากด้านหน้า
ไนท์ก้มลงตรวจสอบแฟ้มเอกสารอย่างใกล้ชิด สีหน้าของเขาเคร่งขรึม ดวงตาของเขาเคลื่อนผ่านเนื้อหาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อพบข้อมูลสำคัญ “แล้วกิลด์ว่าอย่างไรบ้าง?” เขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
เบลล์เหลือบตามองไนท์ พยายามทำความเข้าใจเรื่องราว ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังตามล่ากลุ่ม Dead Shot แต่กลับพบกับอีกกลุ่มหนึ่งที่ไล่ล่าเป้าหมายเดียวกัน
อาร์เธอร์หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟ ก่อนตอบอย่างลังเล “กิลด์ก็ส่งคนมาตรวจสอบเช่นกัน แต่พวกเขายังไม่สามารถระบุชัดเจนว่าคนร้ายเป็นใคร”
ไนท์นิ่งไปครู่หนึ่ง คิ้วขมวดแน่นขึ้นเล็กน้อย สายตาจ้องมองภาพสะท้อนของตัวเองในหน้าต่างรถม้าที่เปียกชื้นจากละอองฝน ดวงตาของเขาสะท้อนความคิดที่ซับซ้อนภายในใจ “หมายความว่าอย่างไร? กิลด์มีสายข่าวในเมืองนี้มากกว่าเราด้วยซ้ำ ทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้?” เสียงของเขาเย็นชา ราวกับน้ำแข็งที่กำลังละลาย
เบลล์รู้สึกถึงความตึงเครียดที่แฝงอยู่ในคำพูดของไนท์ แม้เขาจะพูดออกมาอย่างเรียบเฉย แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความกังวล กิลด์เป็นสถานที่ที่ชาวบ้านและนักผจญภัยที่มีพลังเวทย์ระดับปานกลางถึงสูงใช้เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนข้อมูลและรับงาน ทำให้ไนท์ตั้งคำถามเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนที่เกิดขึ้นในการสืบสวน
“กิลด์เป็นสถานที่ที่มีผู้คนเข้าออกตลอดเวลา” เบลล์คิด “พวกเขาจึงมีข้อมูลที่หลากหลายรวมถึงวัตถุดิบ อาวุธเวทมนตร์ และอุปกรณ์จากการสำรวจดันเจี้ยน” การที่ข้อมูลของกิลด์มักจะครอบคลุมและละเอียดมากทำให้เธอรู้สึกแปลกใจที่พวกเขายังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้
เบลล์รู้สึกไม่สบายใจจึงพูดขึ้นเบาๆ “ฉันเองก็สงสัยเหมือนกันค่ะหัวหน้า... จากที่ตรวจสอบพยานและสถานที่ ฉันคิดว่ากลุ่มอันธพาลที่ก่อเรื่องที่บาร์น่าจะรู้อะไรบางอย่าง แต่พวกเขากลับปัดความรับผิดชอบ... และการที่พวกเขายอมไปติดคุกมากกว่าที่จะพูดความจริง อาจหมายความว่ามีใครบางคนที่มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง...”
คำพูดของเบลล์สะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นในจิตใจของไนท์ เขาสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความลับและความซับซ้อน ราวกับมีใครบางคนที่กำลังดึงเชือกแห่งชะตาชีวิตของพวกเขาอยู่เบื้องหลัง ความเงียบที่ปกคลุมรถม้าดูเหมือนจะซึมซับความตึงเครียดนี้ไว้ ทำให้ทั้งคู่รู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่เกมที่ไม่รู้จบ