รักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก

Dragon Warrior นักรบมังกร - ตอนที่16 ห้องทรมานแห่งความจริง โดย Koonma @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,อาชญากรรม,แฟนตาซี,พระเอกเก่ง,นางเอกฉลาด,นางเอกสวยมาก,สืบสวน ,สืบสวนสอบสวน,ต่อสู้,เวทมนตร์,เวทมนต์,เหนือธรรมชาติ​,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Dragon Warrior นักรบมังกร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,อาชญากรรม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,พระเอกเก่ง,นางเอกฉลาด,นางเอกสวยมาก,สืบสวน ,สืบสวนสอบสวน,ต่อสู้,เวทมนตร์,เวทมนต์,เหนือธรรมชาติ​

รายละเอียด

รักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก

ผู้แต่ง

Koonma

เรื่องย่อ

ชื่อเรื่อง:Dragon Warrior นักรบมังกร (กำลัง รีไรท์เนื้อหา)

ภาค 1 "ปริศนาเงาคำสาป:Shadow Curse Mystery

แนวเรื่อง: Dark Fantasy, การผจญภัย, ความลึกลับ

เนื้อเรื่องย่อ:

ปฐมบท: ในเงามืดของโลกที่แหลกสลาย

กาลครั้งหนึ่ง โลกนี้เคยเต็มไปด้วยสีสันและความสดใส มนุษย์เคยเดินเคียงข้างกับสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค—เหล่ามังกร ผู้ปกครองฟ้าดินและน้ำ ทั้งสองเผ่าพันธุ์แบ่งปันโลกนี้กันอย่างสงบสุขมานานนับพันปี แต่สงครามแห่งรากนาร็อก (Ragnarok) เปลี่ยนทุกสิ่ง เหล่ามังกรและมนุษย์ถูกบีบให้ต้องต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันอีกครั้ง ทว่าหลังสงครามสิ้นสุดลง สิ่งที่หลงเหลือไว้กลับเป็นเพียงซากปรักหักพังและบาดแผลที่ไม่มีวันลืม

สารบัญ

Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่1 ปฐมบท,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่2 การพบกันครั้งแรก ,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่3 คำให้การของ สเคิล,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่4 คำให้การของชายขอทาน ,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่5 ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ 1,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่6 ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ 2,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่ึ7 สิ่งที่ฉันคิด กับ คนขับรถม้า,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่8 ในเงาของฝน: ความลับที่ถูกปกปิด,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่9 คืนที่ฝนโปรยปราย: การตามล่าในความมืด,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่10 การตามล่าในความมืด2,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่11 ปราสาทซิลเวอร์ลีฟ: การเดินทางสู่เงื้อมมือแห่งความตาย",Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่12 "ราตรีแห่งความมืดและรอยเลือด",Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่13 ห้องทำงานของลอร์ดธอร์น,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่14 ห้องทำงานของลอร์ดธอร์น2,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่15 "ร่องรอยเลือดและสัญลักษณ์ที่ขาดหาย",Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่16 ห้องทรมานแห่งความจริง,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่17 ปริศนาสามใบมีด,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่18 ปริศนาของไนท์เชด,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่19 ผู้สาปแช่งนิรันดร์,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่20 คำสาปนิรันดร์,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่21 ความโกรธที่ลุกโชน,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่ 22 เงามรณะใต้ปราสาท,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่23 ภายในห้องลับ,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่24 กุญแจแห่งความลับ,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่25 เบื้องหลังหน้ากาก,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่ 26 บททดสอบแห่งมิตรภาพ,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่27 บททดสอบแห่งมิตรภาพ 2,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่ 28 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่29 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย2,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่30 จบ

เนื้อหา

ตอนที่16 ห้องทรมานแห่งความจริง

 

ไนท์ยืนอยู่ในความมืด ความเงียบที่ปกคลุมห้องถูกขัดจังหวะด้วยเสียงลมหายใจของเขา เขายืนจ้องตราสัญลักษณ์สามเหลี่ยมบนผนัง จิตใจของเขากำลังทำงานอย่างรวดเร็ว แต่ใบหน้าของเขายังคงเคร่งขรึม

"สัญลักษณ์นี้...มันไม่ใช่สัญลักษณ์ปกติ เหมือนไม่สมบูรณ์" ไนท์พึมพำ น้ำเสียงของเขาติดแววเครียดเล็กน้อย มือของเขาแตะสัญลักษณ์เบาๆ "ฉันสัมผัสได้ถึงบางอย่าง แต่ยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร"

เบลล์ยืนมองอยู่ห่างๆ เธอขมวดคิ้วและสอดส่องตาไปรอบๆ ห้อง เต็มไปด้วยความกังวลและความสงสัย “ไนท์ มันหมายความว่าไงกัน? สัญลักษณ์นี้เกี่ยวข้องกับอะไร?”

ไนท์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมามองเธอ แสงจากตะเกียงในมือเขาส่องสะท้อนบนใบหน้าของเบลล์ "นี่เป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอาร์เจเนีย มังกรเงินที่พวกเขานับถือมานาน... ไฟ น้ำ ดิน ลม ความมืด และแสง มันมีความหมายที่ซับซ้อนกว่าที่เราคิดไว้ แต่ปัญหาคือ—"

เขาชะงัก สายตาของเขาหยุดที่ชั้นหนังสือ ว่างเปล่าระหว่าง ประวัติศาสตร์แห่งอาณาจักรเงา และ ยุคแห่งมังกร เบลล์เห็นความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในสีหน้าของไนท์ “หนังสือเล่มหนึ่งหายไป” เขากล่าวอย่างหนักแน่น “นั่นแหละที่ทำให้ทุกอย่างขาดความสมบูรณ์"

เบลล์ขยับเข้าใกล้ ไหล่ของเธอตกลงเล็กน้อยเพราะความสับสน "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับตราสัญลักษณ์นี้? หรือเกี่ยวกับลอร์ดธอร์น?"

ไนท์ยิ้มเล็กน้อยแต่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ราวกับคนที่เพิ่งพบคำตอบที่ตามหามานาน "ลอร์ดธอร์นไม่ใช่แค่คนที่มีอำนาจ เขายังมีความรู้และรสนิยมที่ซับซ้อน คนที่เข้าใจสัญลักษณ์เหล่านี้อย่างลึกซึ้ง…และที่สำคัญ ไนท์เชด…เอเลียส ไนท์เชด ศิลปินผู้บ้าคลั่งที่นับถือศาสนาเจเนียในสมัยเก่า”

เบลล์มองหน้าเขาอย่างงุนงง "เอเลียส ไนท์เชด?" เธอพูดพร้อมยกคิ้ว “อย่าบอกนะว่านายกำลังกลับไปที่โรคคลั่งศิลปะอีกแล้ว”

ไนท์ถอนหายใจอย่างรำคาญ "เธอไม่เข้าใจ มันสำคัญมาก! ศิลปินคนนั้นเกี่ยวข้องกับศาสนาเจเนียรุ่นแรก นั่นหมายความว่าตราสัญลักษณ์สามเหลี่ยมที่เราพบ มันไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ธรรมดา แต่มันคือตราของศาสนาเจเนียยุคเก่า สมัยที่ความสมบูรณ์ของจักรวาลถูกสื่อสารผ่านภาพลักษณ์ของมังกรเงิน"

เบลล์ยังคงมองเขาด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ "นายพูดอะไรเนี่ย ไนท์? ศาสนานี้มันมีทั้งเก่าและใหม่ด้วยเหรอ?"

ไนท์หันกลับมาที่ชั้นหนังสือ สายตาของเขาจับจ้องช่องว่างที่ไร้หนังสือ “ใช่แล้ว ศาสนาเจเนียในยุคเก่าเชื่อในความสมบูรณ์แบบ ความสมดุล แต่ตอนนี้...ทุกอย่างเปลี่ยนไป รูปสามเหลี่ยมที่เธอเห็น มันไม่สมบูรณ์แล้ว มุมของมันไม่เท่ากัน มันสะท้อนถึงความคิดที่เปลี่ยนไป พวกเขาเชื่อว่าความไม่สมบูรณ์คือธรรมชาติที่แท้จริงของโลก"

เบลล์เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด "ฉันยังตามไม่ทัน ไนท์ ศาสนาเจเนียเก่านายหมายความว่ายังไงศาสนานี้มีศาสนาเก่ากับใหม่ด้วยเหรอ ฉันถามเขาด้วยความสงสัย 

"ดูนี่สิ เบลล์" ไนท์พูดเสียงทุ้ม สายตาจ้องที่สัญลักษณ์นั้น "เธอเห็นอะไรในรูปสามเหลี่ยมนี่บ้าง?"

เบลล์ขมวดคิ้ว เธอเคยเห็นสัญลักษณ์นี้มาก่อน แต่ไม่เคยคิดถึงมันลึกซึ้งขนาดนี้ "มันดูเหมือนรูปสามเหลี่ยมซ้อนทับกัน แต่ฉันไม่เข้าใจว่ามันมีความหมายว่าอะไร"

ไนท์พยักหน้าเบา ๆ ราวกับคาดหวังคำตอบเช่นนั้น "สัญลักษณ์นี้คือของศาสนาเจเนีย ศาสนาเก่าและใหม่ต่างนับถือมังกรเงินเหมือนกัน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือความเชื่อ และนั่นสะท้อนในสัญลักษณ์นี้ ในสมัยก่อน สัญลักษณ์นี้เคยมีรูปทรงสมบูรณ์แบบเหมือนดาวห้าแฉก มันสื่อถึงความสมดุลของจักรวาล มังกรเงินที่เชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความสมบูรณ์และความอุดมสมบูรณ์ของสรรพสิ่ง"

เบลล์ฟังอย่างตั้งใจ ความอยากรู้เริ่มก่อตัวขึ้น "แต่ตอนนี้... มันไม่ใช่แบบนั้นแล้วใช่ไหม?"

ไนท์ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะชี้ไปยังมุมหนึ่งของสัญลักษณ์ที่ดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย "ใช่แล้ว ปัจจุบัน สัญลักษณ์นี้เปลี่ยนไป สังเกตดูดี ๆ สามเหลี่ยมเหล่านี้ไม่สมบูรณ์ มุมของมันไม่เท่ากัน รูปทรงไม่ชัดเจนเหมือนที่เคย มันสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในแนวคิดของศาสนาเจเนียในยุคปัจจุบัน พวกเขาเริ่มเชื่อในความไม่สมบูรณ์แบบในชีวิต ว่าความหลากหลายและความขัดแย้งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และสัญลักษณ์นี้ก็กลายเป็นภาพลักษณ์ของความซับซ้อน ความเปลี่ยนแปลง ความไม่สมดุล"

เบลล์หรี่ตาลง มองสัญลักษณ์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมังกรเงิน?"

ไนท์เดินไปหยุดตรงหน้าชั้นหนังสือ เขาเอามือลูบผ่านสันหนังสือที่เหลืออยู่บนชั้น รอยยิ้มเล็กน้อยปรากฏขึ้น "ในศาสนาเก่า มังกรเงินเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ พลังอำนาจที่สมบูรณ์แบบ แต่ในยุคใหม่ มังกรเงินกลายเป็นตัวแทนของปัญญา การเรียนรู้ที่จะอยู่กับความขัดแย้ง การยอมรับว่าความไม่สมบูรณ์คือธรรมชาติที่แท้จริงของโลก"

เบลล์เงียบไปครู่หนึ่ง ความหมายของสัญลักษณ์ที่เธอเคยคิดว่าเป็นเพียงรูปทรงทางศาสนาธรรมดากลับซับซ้อนกว่าที่คิด เธอเหลือบมองไนท์อย่างทึ่ง "แล้วหนังสือเล่มนั้นล่ะ? มันหายไปไหน?"

ไนท์หันกลับมาสบตาเธอ แววตาเขายังคงมุ่งมั่น "นั่นแหละคือคำถามสำคัญ หนังสือเล่มนั้นไม่ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย มันถูกซ่อน... และบางทีคนที่ซ่อนมัน อาจต้องการปกปิดความจริงเกี่ยวกับสัญลักษณ์นี้ สัญลักษณ์ที่แฝงไปด้วยความหมายมากกว่าที่คนทั่วไปจะเข้าใจ"

"เราต้องหามันให้เจอใช่ไหม?" เบลล์ถาม เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าเธอพร้อมจะเจอความจริงที่ถูกซ่อนไว้หรือไม่

ไนท์เพียงพยักหน้าเล็กน้อย "ใช่ เราต้องตามหาหนังสือเล่มนั้น เพราะมันอาจมีคำตอบที่เรากำลังตามหาอยู่..."

….

ห้องทรมาน 


 

……

ความเงียบในห้องทำงานของลอร์ดธอร์นถูกทำลายด้วยเสียงกระพริบเล็กๆ ที่แผ่วเบา ท่ามกลางความมืดมิดที่ครอบงำ ไนท์และเบลล์หันขวับไปพร้อมกัน เสียง "ปี๊บๆ" ที่ดังขึ้นนั้นไม่ได้มาจากสิ่งใดรอบตัว แต่เป็นจากกระเป๋าสะพายที่ติดอยู่กับเอวด้านหลังของไนท์โดยตรง

ไนท์ไม่แสดงความแปลกใจ มือข้างที่ไม่ได้ถือโคมไฟเอื้อมไปที่กระเป๋าด้านหลังอย่างแม่นยำ ดึงกล่องสี่เหลี่ยมสีดำเล็กๆ ออกมาอย่างรวดเร็ว ผิวของมันสะท้อนแสงเล็กน้อยเป็นลวดลายโลหะแปลกประหลาด เสียง "ตึ๊บๆ" ดังอย่างสม่ำเสมอราวกับมันมีชีวิต ปุ่มข้างๆ กล่องถูกกดลงอย่างรวดเร็ว

"ว่าไง มีอะไรหรือเปล่า อาร์เธอร์?" ไนท์ถาม น้ำเสียงของเขาติดแววเร่งรีบ

เสียงจากอีกฝั่งตอบกลับมาเป็นเสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยความกังวล “บอสครับ ผมอยู่ที่ชั้นใต้ดินของปราสาท...บอสต้องมาที่นี่เดี๋ยวนี้”

ไนท์หยุดนิ่งเล็กน้อย ดวงตาของเขาหรี่ลงด้วยความสงสัย "มีอะไรเกิดขึ้นหรือ?"

“ผม...ไม่รู้จะอธิบายยังไงครับ แต่ผมคิดว่าบอสควรลงมาดูด้วยตัวเองดีกว่า” เสียงของอาร์เธอร์ขาดหายไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบที่เพิ่มความกดดัน

เบลล์ที่ยืนอยู่ด้านข้างมองกล่องสี่เหลี่ยมในมือของไนท์ด้วยความงุนงง "มันคืออะไร?" เธอถามพร้อมขมวดคิ้ว ความสงสัยฉายชัดในดวงตาของเธอ

ไนท์ไม่เสียเวลาอธิบาย เขาเก็บกล่องเล็กๆ นั้นลงกระเป๋า "วิทยุสื่อสารแบบพกพา...ฉันประดิษฐ์มันเอง มันใช้งานได้ดีในสถานการณ์แบบนี้ เอาเถอะ รีบไปกันดีกว่า"

บรรยากาศรอบตัวเริ่มหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ เสียงลมหวีดหวิวผ่านทางหน้าต่างบานเก่าที่ปิดไม่สนิท ไนท์เดินนำออกจากห้องทำงาน ความเงียบขรึมครอบคลุมไปทั่ว เหลือเพียงเสียงฝีเท้าของพวกเขาทั้งสองที่ดังสะท้อนเบาๆ ในทางเดินหินเก่าแก่ที่ทอดยาวไปยังชั้นใต้ดิน เบลล์เดินตามหลังอย่างเงียบๆ แต่สายตาของเธอกวาดมองรอบตัวด้วยความระแวง ร่องรอยของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ยังปรากฏให้เห็น เศษกระจกแตกที่ตกอยู่บนพื้นเหมือนกับความทรงจำที่ถูกลืมเลือน และรอยเผาที่พื้นส่งกลิ่นไหม้จางๆ อยู่ในอากาศ


 "กล่องกระซิบ" 

รูปลักษณ์และวัสดุ

ฟังก์ชันการทำงาน

วิธีการใช้งาน

ข้อจำกัดและความเสี่ยง

………………………

ความมืดที่คลืบคลานอยู่ในปราสาทเหมือนเงาที่ไร้จุดจบ มันเป็นความมืดที่ไม่เคยหลับใหล ไม่เคยหยุดพัก และตอนนี้มันยิ่งทวีความหนาหนักขึ้นเมื่อไนท์และเบลล์เดินลึกลงไปในชั้นใต้ดิน ความหนาวเย็นแผ่ซ่านผ่านอากาศรอบตัว สัมผัสได้ชัดเจนที่ผิวหนัง เบลล์รู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง แม้ว่าไนท์จะดูนิ่งสงบ แต่เบลล์รู้ดีว่าเขากำลังสังเกตทุกอย่างในเสี้ยววินาที ความเงียบกลับกลายเป็นบรรยากาศที่น่ากลัว ยิ่งพวกเขาเดินลึกลงไป ความเงียบก็ยิ่งทิ่มแทง

ประตูหนาหนักเหล็กที่นำไปสู่ห้องทรมานถูกผลักเปิดออก ไนท์ก้าวเข้าไปเป็นคนแรก แสงไฟจากตะเกียงของเขาส่องสว่างเป็นวงเล็ก ๆ ท่ามกลางความมืดมิด แต่ไม่เพียงพอที่จะไล่ความสยดสยองที่ซ่อนอยู่ให้หายไป เสียงฝีเท้าเบา ๆ ของเบลล์สะท้อนในห้องทรมาน หัวใจเธอเต้นรัวเหมือนจะเต้นทะลุออกมา แต่เธอกลับพยายามควบคุมตัวเอง ไม่ให้เผยความหวาดกลัวออกมาให้เห็น

ภายในห้องทรมานนั้น ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับภาพที่ทำให้หัวใจหยุดเต้นชั่วขณะ อุปกรณ์ทรมานต่าง ๆ วางเรียงรายบนโต๊ะเหล็ก มีไม้เรียวที่ถูกใช้จนเปื้อนเลือด คีมเหล็กที่ง้างออกเหมือนกำลังรอเหยื่อ และเครื่องมือแหลมคมอื่นๆ ที่เรียงรายอย่างเยือกเย็น รอยเลือดแห้งกรังถูกฉาบไว้บนผนังสีทึม และพื้นห้องที่เปื้อนไปด้วยซากการต่อสู้ที่เคยเกิดขึ้น เบลล์แทบจะได้กลิ่นเหล็กของเลือดที่แทรกซึมอยู่ในอากาศ ยิ่งทำให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้นไปอีก

สายตาของเธอหยุดที่ซากศพของก็อบลินที่ถูกทิ้งไว้บนเครื่องทรมาน มันถูกตรึงอยู่ในท่าที่น่าเวทนา ร่างกายที่ซีดเซียวและบิดเบี้ยวเหมือนเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของเครื่องมือที่สร้างมาเพื่อทำลาย ไนท์ยืนอยู่เงียบ ๆ ดวงตาคมกริบของเขาสำรวจทุกซอกมุมของห้อง รอยขีดข่วนที่ผนังและรอยเท้าที่พื้นบอกให้เขารู้ว่าที่นี่เคยมีการต่อสู้ ไม่ใช่เพียงแค่การทรมาน แต่มีบางอย่างผิดปกติมากกว่านั้น

ไนท์หันมองเบลล์แวบหนึ่ง ดวงตาของเขามีประกายความสงสัย “มีบางอย่างไม่ถูกต้อง” เสียงของเขาแผ่วเบาราวกับพูดกับตัวเอง แต่ความแน่วแน่ในน้ำเสียงนั้นบ่งบอกว่าเขากำลังประมวลผลบางอย่างอยู่

เบลล์พยายามสงบสติอารมณ์ แต่ความรู้สึกอึดอัดที่มาพร้อมกับบรรยากาศห้องทรมานนี้ทำให้เธอขนลุก “แล้วนายคิดว่ามันคืออะไร?” เธอถาม เสียงของเธอเบาลงด้วยความกังวลที่ซ่อนอยู่

“ที่นี่ไม่ได้มีแค่การทรมาน...มันมีการต่อสู้ และบางคนพยายามทำบางสิ่งบางอย่างที่เรายังไม่รู้” ไนท์พูด พลางเดินไปตรวจสอบร่องรอยขีดข่วนบนผนัง "รอยนี้เกิดขึ้นจากเล็บของก็อบลินหรือบางอย่างที่คล้ายกัน...แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ฉันสงสัย"

ในตอนนั้น อาเธอร์เดินเข้ามาในห้อง เงาร่างสูงใหญ่ของเขาผสมผสานกับบรรยากาศมืดมิดรอบตัว "บอสครับ...คุณเห็นมันแล้วใช่ไหม" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม สายตาของเขากวาดมองไปรอบห้อง รอยเลือดแห้งและซากศพที่เขายืนมองราวกับว่าเคยเห็นความสยองขวัญนี้มาก่อน

ไนท์พยักหน้า "ใช่ แต่ยังไม่เข้าใจทั้งหมด ฉันคิดว่ามีบางอย่างที่เรายังมองข้ามไป"

บรรยากาศในห้องทรมานนี้ยิ่งเพิ่มความเครียด ทุกสายตาจ้องมองกันด้วยคำถามที่ยังไม่ถูกตอบ เสียงลมที่หวีดหวิวจากข้างนอกเหมือนกระซิบถึงความลับที่ยังถูกซ่อนไว้