รักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก
แฟนตาซี,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,อาชญากรรม,แฟนตาซี,พระเอกเก่ง,นางเอกฉลาด,นางเอกสวยมาก,สืบสวน ,สืบสวนสอบสวน,ต่อสู้,เวทมนตร์,เวทมนต์,เหนือธรรมชาติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Dragon Warrior นักรบมังกรรักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก
ชื่อเรื่อง:Dragon Warrior นักรบมังกร (กำลัง รีไรท์เนื้อหา)
ภาค 1 "ปริศนาเงาคำสาป:Shadow Curse Mystery
แนวเรื่อง: Dark Fantasy, การผจญภัย, ความลึกลับ
เนื้อเรื่องย่อ:
ปฐมบท: ในเงามืดของโลกที่แหลกสลาย
กาลครั้งหนึ่ง โลกนี้เคยเต็มไปด้วยสีสันและความสดใส มนุษย์เคยเดินเคียงข้างกับสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค—เหล่ามังกร ผู้ปกครองฟ้าดินและน้ำ ทั้งสองเผ่าพันธุ์แบ่งปันโลกนี้กันอย่างสงบสุขมานานนับพันปี แต่สงครามแห่งรากนาร็อก (Ragnarok) เปลี่ยนทุกสิ่ง เหล่ามังกรและมนุษย์ถูกบีบให้ต้องต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันอีกครั้ง ทว่าหลังสงครามสิ้นสุดลง สิ่งที่หลงเหลือไว้กลับเป็นเพียงซากปรักหักพังและบาดแผลที่ไม่มีวันลืม
เบลล์เบิกตากว้าง มองไปที่หนังสือเล่มหนาที่ซ่อนอยู่ในช่องลับ เธอเอ่ยอย่างทึ่ง “นายพูดถูกจริงๆ ไนท์...” แต่ดวงตาเธอก็หรี่ลงด้วยความสงสัยที่แฝงมากับความไม่พอใจ “แต่ทำไมลอร์ดธอร์นต้องซ่อนมันไว้ในที่ลับขนาดนี้กันนะ?”
ไนท์ยิ้มมุมปาก ราวกับเขากำลังเพลิดเพลินกับปริศนาที่ค่อยๆ คลี่คลาย “นั่นแหละ... น่าสงสัยมาก บางทีหนังสือเล่มนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ไขทุกอย่าง” เขาหยิบหนังสือขึ้นมา พลิกหน้าปกด้วยความตั้งใจ ร่องรอยบนหน้าปกเป็นสัญลักษณ์ที่คุ้นตา “ดูสิ เบลล์ สัญลักษณ์นี่ เหมือนกับที่เราเคยเห็นบนภาพวาดในห้องสมุด”
เบลล์จ้องมองมันด้วยความตื่นเต้น “จริงด้วย! มันต้องมีความเชื่อมโยงกันแน่ๆ”
ไนท์รีบเปิดหนังสือเพื่อดูเนื้อหาภายใน แต่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีที่พบว่าทุกหน้าว่างเปล่า
“อะไรกัน...ทำไมหนังสือเล่มนี้ถึงไม่มีเนื้อหาอะไรเลย!” เบลล์ที่ยืนอยู่ข้างหลังร้องอย่างตกใจ “เราตามหามันมาตั้งนาน แต่กลับไม่มีข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์!”
ไนท์ยืนนิ่ง ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังหน้าว่างๆ ของหนังสือ ราวกับกำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในความเงียบงันนั้น แต่แล้ว...เขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ
เบลล์ขมวดคิ้ว เสียงของเธอเริ่มแสดงความหงุดหงิด “นายหัวเราะทำไม ไนท์? มีอะไรตลกงั้นเหรอ?”
ไนท์หยุดหัวเราะ แล้วหันมามองเธอด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “พวกเราเกือบโดนหลอกแล้ว”
“หมายความว่ายังไง?” เบลล์ถาม น้ำเสียงของเธอแฝงด้วยความไม่เข้าใจ
ไนท์มองหนังสือในมืออย่างพิจารณา “นี่ไม่ใช่หนังสือหรอก เบลล์”
เบลล์เลิกคิ้วขึ้นสูง “ไม่ใช่หนังสือ? นี่นายกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่? ก็นั่นมันหนังสือเห็นๆ!”
ไนท์ยกหนังสือขึ้นมาในระดับสายตา เขาพูดอย่างเคร่งขรึม “มันใช่และไม่ใช่ในเวลาเดียวกัน... เจ้าสิ่งนี้มันดูเหมือนหนังสือ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่”
เบลล์มองไนท์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสน “นายจะพูดอะไรให้งงอีกนานไหม? ฉันไม่เข้าใจ!”
ไนท์หัวเราะเบาๆ ขณะที่เขาเปิดหนังสืออีกครั้ง มือของเขาลูบผ่านหน้ากระดาษว่างเปล่า “นี่ไม่ใช่หนังสือ แต่มันเป็นกุญแจ...กุญแจที่เราตามหาอยู่ตลอด”
เบลล์เบิกตากว้างกว่าเดิม “กุญแจ? นายหมายความว่ายังไงกันแน่?”
ไนท์ยิ้มด้วยความมั่นใจ “หนังสือเล่มนี้ซ่อนความลับเอาไว้ มันไม่ต้องการให้ใครอ่าน แต่ต้องการให้เราค้นพบวิธีใช้มัน...
…..
"มือของข้า...มันชาไปหมดแล้ว" เบลล์เสียงสั่น ริมฝีปากของเธอซีดราวกับกุหลาบเหี่ยวเฉา เธอพยายามฝืนยิ้มให้ แต่ไนท์เห็นแววความหวังในสายตาของเธอที่ค่อยๆ หมดไป
ไนท์มองเบลล์ด้วยความกังวลที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ใบหน้าของเขาอาจดูสงบ แต่ในใจของเขากำลังเต้นรัว "อาการของเธอเกิดจากพิษ และมันแทรกซึมเร็วกว่าที่ฉันคิดไว้" เขารู้ดีว่าต้องรีบช่วยเหลือเธอก่อนที่มันจะสายเกินไป แต่สถานการณ์รอบข้างทำให้เขาต้องระแวดระวังทุกการเคลื่อนไหว
ไนท์ละสายตาจากหนังสือโบราณ หันมามองเบลล์พร้อมขยับตัวเข้ามาใกล้ "ดูเหมือนหนังสือเล่มนี้จะมีพิษที่เราคาดไม่ถึง" น้ำเสียงของเขาเย็นชาแต่เต็มไปด้วยความกังวลที่แฝงอยู่ลึกๆ
เบลล์กัดฟันถามเสียงเบา "ทำไมนายถึงไม่เป็นอะไรล่ะ?"
ไนท์ยกมือขึ้น แสดงถุงมือที่เขาสวมอยู่ "เพราะฉันระวังตัวอยู่เสมอ" เขาพูดพร้อมกับส่งยิ้มเบาๆ หวังให้เธอคลายความกังวล แม้รู้ดีว่ารอยยิ้มนี้อาจไม่ได้ช่วยมากนัก
แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไรเพิ่มเติม ร่างของเบลล์ก็ทรุดลงอย่างไร้เรี่ยวแรง อาเธอร์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ รีบคว้าตัวเธอไว้ได้ทัน "เบลล์! เบลล์!" เสียงเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก มือของเขาสั่นไหวขณะที่พยายามเรียกเธอให้ฟื้นคืนสติ
ไนท์ก้าวเข้ามาใกล้ หยิบขวดแก้วเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อด้วยความแน่วแน่ "ใจเย็นๆ อาเธอร์ เรายังมีทางออก" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเยือกเย็น แม้ใจจะหวั่นไหว
"แต่มันจะได้ผลเหรอ?" อาเธอร์ถามพลางมองไนท์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
ไนท์พยักหน้าช้าๆ "มันจะช่วยระงับพิษได้ชั่วคราว แต่ไม่ใช่การรักษา" เขาตอบอย่างมั่นคงก่อนจะหยอดยาลงในปากของเบลล์ สายตาของเขามองไปที่เธอด้วยความกังวล
ความเงียบที่ปกคลุมห้องนั้นชวนให้ไม่สบายใจ ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขายังไม่เห็น ไนท์เริ่มรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ สัญชาตญาณของเขาบอกว่ามีบางสิ่งซ่อนตัวอยู่ในความมืด
"มีใครซ่อนอยู่หรือเปล่า?" อาเธอร์พูดขึ้นเสียงดัง สายตาของเขากวาดมองไปรอบๆ ห้องอย่างระแวง
ไนท์หันมองรอบๆ ด้วยความเยือกเย็น "รู้สึกได้... แต่ไม่สามารถระบุตำแหน่งได้" เขากล่าวพลางหรี่ตาลง "ดูเหมือนเขาจะมีเวทมนต์อำพรางตัว"
อาเธอร์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย "แล้วนายคิดว่าเราจะจัดการยังไงดี?"
ไนท์ยกหนังสือโบราณขึ้นสูงเหนือศีรษะ สายตาคมกริบจับจ้องไปที่ความว่างเปล่าที่ดูเหมือนไม่มีใครอยู่ "ถ้าคุณไม่ออกมา ผมจะทำลายหนังสือเล่มนี้" เสียงของเขาก้องสะท้อนไปทั่วห้อง ราวกับคำท้าทายที่แผ่ซ่านไปในอากาศ
ทุกอย่างเงียบสงัด ไม่มีเสียงตอบรับจากเงามืด ไม่มีการเคลื่อนไหว ไนท์เหยียดยิ้มเยาะ "คุณกลัวเสียแล้วสินะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
เมื่อไม่มีการตอบสนองใดๆ ไนท์กระชับตะเกียงในมือ หันมองรอบห้อง "ถ้าคุณยังไม่ออกมาอีก ผมจะเผามันจริงๆ" เสียงของเขาเยือกเย็นแต่แน่วแน่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
อาเธอร์ที่กำลังประคองเบลล์อยู่มองไนท์ด้วยความงุนงง "นายพูดกับใคร? มีคนอยู่จริงๆ หรือเปล่า?"
ไนท์หรี่ตามองไปยังมุมหนึ่งของห้อง "พวกเราถูกจับตามองมาตั้งแต่ต้น... และเขายังอยู่ที่
…
ตะเกียงในมือของไนท์ถูกง้างขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนที่เขาจะขว้างลงใส่หนังสืออย่างรวดเร็ว เปลวไฟและน้ำมันกระจายออกมา คลุมหนังสือในชั่วพริบตา เปลวเพลิงลุกโชนขึ้นราวกับจะเผาผลาญทุกสิ่งในห้องให้กลายเป็นเถ้าถ่าน ความร้อนทะลักออกมารอบตัว แต่ยังไม่ทันที่ทั้งไนท์และอาเธอร์จะได้ทำอะไร สายลมแรงวูบหนึ่งพัดเข้ามาอย่างประหลาด
ตามปกติแล้ว เมื่อมีลมพัด เปลวไฟยิ่งควรจะโหมแรงขึ้น ทว่าครั้งนี้กลับตรงกันข้าม เปลวไฟค่อยๆ หรี่ลง ดับไปในไม่กี่วินาที เหลือเพียงเถ้าถ่านที่ไม่มีควันราวกับถูกดูดกลืนโดยสิ่งลี้ลับ สายลมนั้นเย็นยะเยือก แฝงไปด้วยความแปลกประหลาดจนทำให้ทั้งคู่หยุดชะงัก
ไนท์หรี่ตามองรอบห้องด้วยท่าทีระวัง ก่อนจะพูดเสียงต่ำ "ลมนี้... มันมีพิษแน่" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเครียด สัญชาตญาณของเขาบอกว่าอันตรายกำลังซ่อนตัวอยู่รอบๆ
อาเธอร์รับรู้ถึงความไม่ชอบมาพากล รีบขยับมือร่ายเวทมนตร์เพื่อกลั้นหายใจตัวเอง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม มือของเขาเย็นเยียบ แต่จิตใจของเขาตื่นตัวทุกเมื่อ เขามองหาทุกความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในห้อง
"พวกแก... มีฝีมือเหมือนกันนี่" เสียงแหบต่ำดังขึ้นจากมุมมืด ราวกับเป็นเสียงของคนที่จับตามองสถานการณ์มานาน มันเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย และดูเหมือนจะสนุกที่ได้เห็นพวกเขาตกใจ
ไนท์หันขวับไปตามเสียง ดวงตาของเขาแข็งกร้าว ริมฝีปากเม้มแน่น สายตาคมกริบพยายามค้นหาที่มาของเสียง แต่สิ่งที่เขาพบกลับเป็นเพียงความว่างเปล่า “ออกมาเดี๋ยวนี้! อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยนายไปง่ายๆ” เสียงของเขากระชากด้วยความโกรธและหงุดหงิดที่ไม่สามารถเห็นศัตรูได้ชัดเจน
ท่ามกลางความเงียบ เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นจากเงามืด ร่างลึกลับในชุดคลุมสีดำยาวปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางหมอกควันพิษ ชุดคลุมปกปิดร่างกายไว้หมดจด มีเพียงดวงตาสีม่วงเรืองแสงจางๆ ที่เปล่งประกายอยู่ใต้ฮู้ดลึก ลวดลายเร้นลับบนหน้ากากสีดำปกปิดทั้งปากและจมูก เสริมความลึกลับและอันตรายให้กับผู้มาเยือน มือของมันยาวเรียว สวมถุงมือหนังสีดำ ดูเหมือนจะเพิ่มพลังเวทมนตร์คำสาปในทุกการเคลื่อนไหว
ไนท์ขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาสบเข้ากับแสงสีม่วงที่จ้องตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัว "เจ้าลมนี่... มันเป็นฝีมือของนายสินะ" น้ำเสียงของเขาหนักแน่น แต่ในใจเริ่มกังวลถึงพลังที่ไม่คุ้นเคย
ร่างในชุดคลุมยิ้มเยาะ ริมฝีปากที่ถูกปกปิดไว้แทบจะเห็นได้ในความรู้สึก “ดูเหมือนว่า... พวกเจ้าจะอายุยืนเกินไปแล้ว" เสียงแหบต่ำก้องกังวานไปทั่วห้อง ราวกับเป็นเสียงแห่งความตายที่กำลังจะมาถึง เขาเดินเข้ามาช้าๆ เคลื่อนผ่านหมอกควันอย่างเงียบเชียบราวกับเป็นส่วนหนึ่งของมัน
ไนท์ยืนตรง ท่าทางผ่อนคลายลงเล็กน้อยแต่ยังไม่ละสายตา “คืนนี้น่าจะเป็นคืนที่น่าสนใจทีเดียว... ยินดีที่ได้พบกัน ผู้สาปแช่งนิรันดร์” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย้าหยอก แต่แฝงความระแวดระวัง ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ