รักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก
แฟนตาซี,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,อาชญากรรม,แฟนตาซี,พระเอกเก่ง,นางเอกฉลาด,นางเอกสวยมาก,สืบสวน ,สืบสวนสอบสวน,ต่อสู้,เวทมนตร์,เวทมนต์,เหนือธรรมชาติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Dragon Warrior นักรบมังกรรักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก
ชื่อเรื่อง:Dragon Warrior นักรบมังกร (กำลัง รีไรท์เนื้อหา)
ภาค 1 "ปริศนาเงาคำสาป:Shadow Curse Mystery
แนวเรื่อง: Dark Fantasy, การผจญภัย, ความลึกลับ
เนื้อเรื่องย่อ:
ปฐมบท: ในเงามืดของโลกที่แหลกสลาย
กาลครั้งหนึ่ง โลกนี้เคยเต็มไปด้วยสีสันและความสดใส มนุษย์เคยเดินเคียงข้างกับสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค—เหล่ามังกร ผู้ปกครองฟ้าดินและน้ำ ทั้งสองเผ่าพันธุ์แบ่งปันโลกนี้กันอย่างสงบสุขมานานนับพันปี แต่สงครามแห่งรากนาร็อก (Ragnarok) เปลี่ยนทุกสิ่ง เหล่ามังกรและมนุษย์ถูกบีบให้ต้องต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันอีกครั้ง ทว่าหลังสงครามสิ้นสุดลง สิ่งที่หลงเหลือไว้กลับเป็นเพียงซากปรักหักพังและบาดแผลที่ไม่มีวันลืม
อาร์เธอร์ยืนหยัดกลางห้องโถงที่เต็มไปด้วยความเงียบสงัด แสงจันทร์ส่องลงมาผ่านเงาไม้ สาดส่องไปที่ดาบในมือเขา ดาบเปล่งประกายวาววับ เมื่ออาร์เธอร์สะบัดดาบด้วยแรงมหาศาล เสียงกระทบของดาบกับพื้นทำให้เศษกระจกและข้าวของกระจายออกไป พื้นดินสั่นสะเทือนเหมือนโลกกำลังเต้นรำตามการเคลื่อนไหวของเขา พลังงานแปลกประหลาดเริ่มไหลผ่านพื้นดิน ขณะที่พลังอาคมของเซราฟิสส่งสัญญาณเตือน เงามืดที่คลุมร่างของเขาสั่นสะเทือน เกิดรอยแยกเล็กๆ กระจายออกมา
“เจ้า... ฉลาดกว่าที่ข้าคิด” เซราฟิสพูด น้ำเสียงของเขาเย็นชาจนแทบจับต้องได้ แต่มีความขุ่นเคืองแฝงอยู่ในทุกคำพูด เขาสูดหายใจลึก ยกมือขึ้น พร้อมกับปล่อยพลังคำสาปสีม่วงที่เต็มไปด้วยไอพิษออกมาจากฝ่ามือ กลุ่มหมอกเริ่มกระจายไปทั่วบริเวณ ห้องที่เคยสว่างจางลงกลายเป็นโลกสีม่วงที่มืดมน
อาร์เธอร์ก้าวถอยหลัง เลือดในกายเดือดพล่าน ความรู้สึกของนักสู้เตือนเขาว่าคำสาปนี้อันตรายเพียงใด หากเขาประมาทแม้แต่น้อย ความตายอาจแย่งเขาไปในพริบตา แต่เขาไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ ท่าทางของเขาเปลี่ยนไป ดวงตาเริ่มส่องประกายสีเหลืองทอง สัญชาตญาณดิบของนักล่าภายในตัวเริ่มตื่นขึ้น
กล้ามเนื้อของอาร์เธอร์ปูดโปน เสียงกระดูกลั่นดังเปรี๊ยะ เป็นสัญญาณของการกลายร่างจากมนุษย์สู่ร่างมนุษย์หมาป่า ขนหนาเริ่มปกคลุมร่างกาย กรงเล็บที่แหลมคมโผล่จากปลายนิ้ว ร่างของเขาใหญ่ขึ้น ทรงพลังขึ้น ความรู้สึกที่เคยถ่วงหนักจากคำสาปเริ่มหายไป
เซราฟิสขมวดคิ้ว ดวงตาที่ซ่อนอยู่หลังหน้ากากเริ่มฉายแววระแวดระวัง “เจ้าคิดว่า...แค่กลายร่างเป็นสัตว์เดรัจฉานแล้วจะต่อกรกับข้าได้หรือ?”
อาร์เธอร์ไม่ตอบ เขาเพียงใช้จมูกดมกลิ่น กลิ่นของหมอกพิษและคำสาปเริ่มชัดเจน แต่ที่สำคัญกว่านั้น กลิ่นของเซราฟิสที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดก็เช่นกัน สัมผัสที่คมกริบของมนุษย์หมาป่าทำให้เขาแยกแยะความเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว เขามองผ่านหมอกพิษที่คลุมรอบกายของศัตรูด้วยสายตาที่ทะลุทะลวง
“ข้ารู้ว่าเจ้าซ่อนอยู่ตรงไหน” อาร์เธอร์กระชากเสียงคำรามแล้วพุ่งเข้าใส่ เซราฟิสที่ซ่อนตัวในเงาไม่มีเวลาแม้แต่จะหลบ ร่างของเขาถูกกระชากออกมาจากหมอกทันที กรงเล็บของอาร์เธอร์พุ่งปักเข้าใส่แขนของเซราฟิส เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เสียงคำรามของอาร์เธอร์ดังก้องไปทั่วป่า ทำให้หมอกพิษที่สร้างขึ้นเริ่มกระจายตัวและเบาบางลง
“คำสาปของข้า... ทำไมถึง... ไม่ได้ผลกับเจ้า...” เซราฟิสพูดด้วยความตกตะลึงและโกรธเกรี้ยว
“ข้าไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไปแล้ว” อาร์เธอร์ตอบ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เซราฟิสที่ได้รับบาดเจ็บเริ่มสั่นเทา พลังคำสาปของเขาเริ่มเสื่อมสภาพเมื่อเผชิญกับความแข็งแกร่งของร่างมนุษย์หมาป่า การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงอย่างเห็นได้ชัด เขารู้ดีว่าหากไม่ทำอะไรบางอย่าง เขาจะพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
เซราฟิสล้มลงกับพื้น เลือดหยดลงบนใบไม้ที่ปกคลุมพื้นดิน เขาหายใจหอบ สายตาของเขาเริ่มพร่าเลือน แต่ความแค้นในใจยังไม่มอดดับ อาร์เธอร์ที่ยืนเหนือเขาในร่างมนุษย์หมาป่า เฝ้ามองศัตรูที่หมดสภาพ แม้จะเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่ความดุดันและความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยสัญชาตญาณของนักล่าก็ยังอยู่ในสายตาของเขา
เซราฟิสหอบหนัก ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เสียงหัวเราะของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเหนื่อยล้า “เจ้า... ชนะข้าได้จริงๆ” เซราฟิสพูดเบาๆ แต่ยังแฝงความเย้ยหยันอยู่ในน้ำเสียง
อาร์เธอร์ยืนนิ่ง แต่แววตาไม่แสดงความสะใจแม้แต่น้อย “มันไม่จำเป็นต้องจบลงแบบนี้ เซราฟิส” เขาพูดเสียงนิ่งเรียบ แต่หนักแน่น
เซราฟิสหัวเราะแห้งๆ อีกครั้ง ก่อนจะหันหน้าขึ้นไปหาอาร์เธอร์ “นายจะไม่มีวันเข้าใจหรอก ความเจ็บปวดที่ฉันต้องแบกรับมาตลอดชีวิต” ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความโกรธแค้นและความทุกข์ทรมานที่สะสมอยู่ในใจ
“ทุกคนต่างมีบาดแผลของตัวเอง” อาร์เธอร์ตอบ “แต่การใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาไม่ได้เป็นทางออก”
“ความรุนแรงคือสิ่งเดียวที่ฉันรู้จัก” เซราฟิสตะโกนออกมาด้วยความคับแค้น เขายกมือขึ้น รวบรวมพลังคำสาปอีกครั้ง พลังงานมืดเริ่มหมุนวนรอบตัวเขา
ทันใดนั้น เสียงคำรามของเหล่าสัตว์อสูรก็ดังขึ้น เซราฟิสใช้โอกาสสุดท้ายเรียกสเปคเตอร์ สัตว์อสูรจำนวนมากที่ถูกสร้างขึ้นจาก DNA ของมนุษย์และพลังเวทมนตร์มืด ร่างของมันบิดเบี้ยว พุ่งทะยานออกมาจากหมอกควันหนาทึบที่ปกคลุมรอบตัวพวกเขา
อาร์เธอร์ถอยกลับ รู้ดีว่าสิ่งที่กำลังเผชิญหน้าไม่ใช่แค่คำสาปธรรมดาอีกต่อไป สเปคเตอร์จำนวนมหาศาลกระโจนเข้าใส่เขาโดยไม่มีความปราณี แม้จะต่อสู้จนสามารถทำลายพวกมันได้หลายตัว แต่ความเหนื่อยล้าที่สะสมมานานทำให้เขาเริ่มอ่อนแรงลง
เซราฟิสฉวยโอกาสนี้ใช้พลังที่เหลืออยู่หนีออกไป เสียงหัวเราะเย้ยหยันของเขาดังก้องไปทั่วป่า “การต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่จบ... ไว้เจอกันใหม่ อาร์เธอร์!”
อาร์เธอร์มองตามหลังเซราฟิสที่หลบหนีไป หายไปในความมืด เขาหายใจหอบ ยืนท่ามกลางซากของสเปคเตอร์ที่เหลือเพียงความเงียบงัน หัวใจของเขายังเต้นรัวไปด้วยความโกรธและความผิดหวัง
“ยังมีทางอื่นเสมอ...” อาร์เธอร์พูดเบาๆ กับตัวเอง แต่รู้ดีว่าการต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่จบ เซราฟิสยังคงรอคอยโอกาสแก้แค้นอยู่เสมอ และอาร์เธอร์รู้ดีว่าเขาต้องพร้อมเผชิญหน้ากับมันอีกครั้ง
….
ณ ห้องทำงานของลอร์ดธอร์น
ไม่นานนัก ทั้งสองก็กลับมาถึงห้องทำงานของลอร์ดธอร์น เบลล์หรี่ตาลงอย่างระมัดระวัง ขณะที่พยายามประเมินสถานการณ์ "เรื่องทั้งหมดนี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง? คนที่โจมตีพวกเราคือใครกันแน่?" น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวลและความสับสน
ไนท์กลับไม่สนใจคำถามนั้น เขาก้าวเข้าไปใกล้ชั้นหนังสืออย่างสงบ โดยไม่เงยหน้าขึ้นมองแม้แต่น้อย บรรยากาศในห้องอึดอัดคลุ้งไปด้วยความตึงเครียด ขณะที่เขายกตะเกียงขึ้น สำรวจหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่าอย่างรอบคอบ “เราไม่มีเวลามานั่งอธิบายเรื่องนี้” เขาตอบด้วยเสียงราบเรียบ ราวกับไม่ได้ใส่ใจความกังวลของผู้ช่วยเลย
เบลล์รู้สึกหงุดหงิด เธอกัดริมฝีปากแน่น “สถานการณ์เป็นตายขนาดนี้ แต่นายยังสนใจหนังสือพวกนี้อีกเหรอ? มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับสัญลักษณ์บ้าๆ นี่!” เธอคิดในใจ ก่อนจะพูดเสียงดัง “แล้วอาเธอร์ล่ะ? เขาจะไม่เป็นอะไรเหรอ? นายจะไม่ช่วยเขาหน่อยเหรอ?!”
ไนท์หันมามองเธอเพียงครู่หนึ่ง ดวงตาแสดงถึงความเฉยชาอย่างชัดเจน “ไม่ต้องห่วงอาเธอร์ ตอนนี้คนที่เราควรเป็นห่วงที่สุดก็คือตัวเราเอง เราต้องรีบไขปริศนานี้ก่อนที่มันจะบุกเข้ามา”
เบลล์เริ่มรู้สึกไม่พอใจกับคำตอบที่ดูเหมือนไม่ใส่ใจนัก เธอกัดฟันแน่น หายใจเข้าออกอย่างหงุดหงิด ขณะที่ไนท์เริ่มจัดเรียงหนังสือที่ถูกสลับไว้อย่างมีระเบียบ
ทันใดนั้น เสียงหวีดแหลมแทรกผ่านความเงียบในห้อง ราวกับมีบางสิ่งที่น่ากลัวกำลังคลานใกล้เข้ามา เสียงกรงเล็บขูดกับผนังดังก้องตามทางเดิน เสียงกระทบผนังอย่างรวดเร็ว ไนท์เงยหน้าขึ้น “มีอะไรบางอย่างกำลังมาที่นี่” เขาพูดพร้อมกับรีบวิ่งไปที่ประตู
ปัง! ประตูปิดลงอย่างแรง แต่ดูเหมือนสิ่งที่อยู่นอกนั้นจะรวดเร็วกว่า แรงกระแทกอย่างรุนแรงทำให้ไนท์ที่ดันประตูอยู่แทบเสียหลัก เขาถูกกระเด็นไปเล็กน้อย แต่รีบลุกขึ้นมาเพื่อดันประตูไว้แน่นขึ้น
เบลล์ตื่นตัวขึ้น เธอยกมือทั้งสองขึ้น ก้อนน้ำแข็งที่เยือกเย็นรวมตัวกันที่ฝ่ามือ เธอชาร์จเวทมนตร์ของเธอจากบรรยากาศรอบตัว ปากของเธอกระชับแน่น “เมื่อฉันให้สัญญาณ นายรีบถอยออกมาจากประตูนะ”
เสียงกระแทกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ประตูไม้หนากระเด็นออกจากบานพร้อมกับร่างของไนท์ แต่ทันใดนั้น เบลล์พุ่งไปข้างหน้า เวทมนตร์น้ำแข็งของเธอระเบิดออกเป็นประตูน้ำแข็งหนาที่ปิดทางเข้าทันที กำแพงน้ำแข็งนั้นโปร่งใส สามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านนอกได้
สิ่งที่พวกเขาเห็นทำให้เบลล์ตัวสั่น มันคือสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว ร่างกายผิดรูปร่าง มีหูใหญ่เกินมนุษย์ ตาสีแดงก่ำที่ส่องแสงในความมืด ฟันแหลมยาวเหมือนเขี้ยวสัตว์ร้าย กรงเล็บยาวเหมือนใบมีด ผิวหนังซีดคล้ายศพที่ถูกทิ้งไว้เน่าเฟะ
“นั่นมันตัวอะไรกัน?” เบลล์ถามอย่างตกใจ ขณะที่เธอยังไม่ละสายตาจากสัตว์ประหลาดนั้น มันพยายามใช้กรงเล็บข่วนกำแพงน้ำแข็งอย่างบ้าคลั่ง
ไนท์ยืนขึ้นอย่างเงียบๆ พลางปัดฝุ่นจากเสื้อ “ไม่ต้องตกใจ นั่นคือ ‘สเปคเตอร์’ มันถูกส่งมาเพื่อล่าเรา