รักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก
แฟนตาซี,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,อาชญากรรม,แฟนตาซี,พระเอกเก่ง,นางเอกฉลาด,นางเอกสวยมาก,สืบสวน ,สืบสวนสอบสวน,ต่อสู้,เวทมนตร์,เวทมนต์,เหนือธรรมชาติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Dragon Warrior นักรบมังกรรักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก
ชื่อเรื่อง:Dragon Warrior นักรบมังกร (กำลัง รีไรท์เนื้อหา)
ภาค 1 "ปริศนาเงาคำสาป:Shadow Curse Mystery
แนวเรื่อง: Dark Fantasy, การผจญภัย, ความลึกลับ
เนื้อเรื่องย่อ:
ปฐมบท: ในเงามืดของโลกที่แหลกสลาย
กาลครั้งหนึ่ง โลกนี้เคยเต็มไปด้วยสีสันและความสดใส มนุษย์เคยเดินเคียงข้างกับสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค—เหล่ามังกร ผู้ปกครองฟ้าดินและน้ำ ทั้งสองเผ่าพันธุ์แบ่งปันโลกนี้กันอย่างสงบสุขมานานนับพันปี แต่สงครามแห่งรากนาร็อก (Ragnarok) เปลี่ยนทุกสิ่ง เหล่ามังกรและมนุษย์ถูกบีบให้ต้องต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันอีกครั้ง ทว่าหลังสงครามสิ้นสุดลง สิ่งที่หลงเหลือไว้กลับเป็นเพียงซากปรักหักพังและบาดแผลที่ไม่มีวันลืม
รอบตัวของเบลล์เต็มไปด้วยแรงกดดันที่หนักอึ้งเหมือนเมฆหนาทึบที่บดบังแสงจันทร์ เสียงหายใจของเธอสั่นไหว ไม่เป็นจังหวะ มันบอกถึงความกลัวที่ไหลซึมเข้าสู่หัวใจของเธอ ความไม่แน่ใจนั้นคล้ายกับลมที่พัดมากระทบหน้าเธอเบา ๆ ทว่าเย็นเยือกจนรู้สึกถึงมันทุกวินาที แต่แม้ใจจะลังเล เธอก็ก้าวตามไนท์ไป เหมือนเรือเล็กที่ยังลอยตามกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากไม่หยุดหย่อน
เธอมองไนท์ด้วยสายตาที่เริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม ภาพที่เห็นตรงหน้าเขาไม่ใช่คนธรรมดาที่เธอเคยรู้จักอีกแล้ว
ไนท์กระซิบบางสิ่ง เบลล์ดีดตัวขึ้นทันทีด้วยแรงที่เกิดจากสัญชาตญาณ เมื่อเธอหันไป สิ่งที่เธอเห็นคือตัวเขาพุ่งเข้าใส่เซราฟิส ความเร็วของเขารวดเร็วจนเหมือนลมพายุที่เคลื่อนผ่าน มองแทบไม่ทัน ไม่น่าเชื่อเลยว่าไนท์ซึ่งไร้เวทมนตร์จะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างว่องไวแบบนี้
"มันคืออะไรกัน การต่อสู้แบบนี้...ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน" ความคิดของเบลล์ประหนึ่งเสียงกระซิบที่ดังขึ้นในใจ ขณะที่เธอเฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวทุกระเบียดนิ้วของเขา
“ไปซะ เบลล์! หนีไปก่อนที่เขาจะฟื้นตัว!” ไนท์ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแต่เด็ดขาด ขณะเขาหันมารับมือกับเซราฟิสที่กำลังตั้งท่าโจมตีกลับอย่างไม่ลดละ
ในเสี้ยววินาที ไม่มีเวลามากพอให้คิด ไนท์พุ่งตัวเข้าหาอีกครั้ง การเคลื่อนไหวของเขาเฉียบคมดั่งใบมีดที่ตัดผ่านผิวน้ำอย่างเงียบงัน มือของเขาชกออกไปด้วยความเร็วที่แทบมองไม่เห็น เขาปัดป้องการโจมตีของเซราฟิสได้อย่างแม่นยำ ทุกอย่างลื่นไหลเหมือนอสรพิษที่ไล่ตามเหยื่อ เท้าของเขาก้าวย่างชาญฉลาด หลบหลีกคาถาที่กำลังถาโถมเข้ามาราวกับระลอกคลื่นที่ซัดชายฝั่ง แม้เซราฟิสจะเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ แต่เมื่อเขาไม่ได้ร่ายคาถา เขาก็อ่อนแอไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดา
ไนท์หลบหมัดที่เซราฟิสพุ่งเข้ามาอย่างง่ายดาย สวนหมัดอีกข้างกลับไปที่แขนที่ยกขึ้นป้องกันของเซราฟิส เสียงกระแทกดังก้องราวกับหินที่ถูกเหวี่ยงเข้ากระทบโลหะ เซราฟิสร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด แขนของเขาอ่อนลงเล็กน้อยจากแรงที่ได้รับ
…
เบลล์ถอยหลังจนชนกำแพง หัวใจของเธอเต้นระรัวราวกับจะทะลุออกมาจากอก สายตาของเธอจับจ้องไปที่ไนท์ที่กำลังยืนขึ้นอย่างแข็งแรง ความสับสนวนเวียนอยู่ในหัว สมองของเธอเหมือนจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ “ทำไม...ทำไมถึงเป็นแบบนี้” เธอพร่ำบ่นเบาๆ เสียงกระซิบของความสับสนวนเวียนในจิตใจ ไนท์ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอ แต่คำถามก็ยังคงค้างอยู่ในหัวของเธอ เขาเป็นใครกันแน่? ความภักดีและความไม่แน่ใจเริ่มปะทะกันในจิตใจของเธอ เธอไม่รู้ว่าเธอควรหนีตามที่เขาบอก หรือควรอยู่ช่วยเขาต่อไปดี
ภาพของพ่อผุดขึ้นมาในความทรงจำ ใบหน้าเคร่งขรึมของท่านที่มักจะบอกกับเธอเสมอว่า “ลูกต้องเข้มแข็งนะ” เสียงของท่านยังคงดังก้องอยู่ในหู เธอจำได้ว่าท่านเคยบอกว่าความกลัวจะทำให้เราอ่อนแอ เธอจะไม่ยอมให้ความกลัวมาครอบงำอีกต่อไป
เบลล์กำหมัดแน่น รวบรวมพลังทั้งหมดที่มีอยู่ ก้อนผลึกสีฟ้าที่ลอยอยู่ตรงกลางฝ่ามือของเธอค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แสงสีฟ้าสว่างวาบไปทั่วห้อง “ฉันจะไม่หนีไปไหนอีกแล้ว” เธอประกาศเสียงดัง
ไนท์มองเบลล์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “เธอ...”
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เบลล์พูดเสียงแข็ง “ ฉันก็จะต่อสู้ฉันก็เป็นผู้พิทักษ์คนนึงเหมือนกัน”
….
เบลล์ไม่รอช้า ก้อนผลึกน้ำแข็งสีฟ้าสดใสขยายตัวออกจากฝ่ามือของเธออย่างรวดเร็ว พุ่งตรงไปยังเซราฟิสราวกับลูกศรน้ำแข็งที่เฉียบคม ก่อนที่จะปกคลุมร่างของเขาจนแข็งตัวราวกับรูปปั้นน้ำแข็ง เสียงแตกหักดังก้องไปทั่วห้อง มันเหมือนเสียงของโลกที่แตกสลาย เมื่อร่างของเขาแข็งตัวจนแน่นิ่ง ยืนเรียบอยู่ในเงามืดเหมือนกับภาพสะท้อนในฝันร้าย
ไนท์ที่เสียหลักล้มลง หันไปมองเบลล์ ขณะที่แสงจากผลึกน้ำแข็งสาดส่องเข้าที่ใบหน้าของเธอ แววตาและความมุ่งมั่นในดวงตาของเธอทำให้เขารู้สึกถึงความน่ารักที่ซ่อนอยู่ในความแข็งแกร่งนั้น เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะดันตัวลุกขึ้น
“จะไปไหนกัน? เราหยุดเขาได้แล้วไม่ใช่หรอ?” เบลล์ถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นไหว ท่ามกลางความเงียบที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด
“เวทมนตร์แค่นี้ไม่สามารถสังหารพวกนี้ได้หรอก” ไนท์ตอบเสียงเรียบ แต่ความแน่วแน่ในน้ำเสียงของไนท์ทำให้ เบลล์รู้ว่าเธอไม่ยอมแพ้
“เราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป” ไนท์พูดขึ้นเสียงเรียบ เขารู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เย็นเยือกและคุกคามจากมุมมืด “เวทมนตร์ของพวกเขาแข็งแกร่งกว่าที่เราคิด”
“ไปกันเถอะ เราต้องรีบออกจากที่นี่” เขาเร่งเร้า ใจเขาเต้นแรงเหมือนเสียงกลองในยามค่ำคืน บรรยากาศที่น่าอึดอัดยังไม่คลายตัวลงกลับเพิ่มความกังวลและความเครียดให้กับคนทั้งสองมากขึ้น ทำให้หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นทุกวินาทีที่พวกเขาอยู่ที่นี่
….
ขณะที่พวกเขาวิ่งหลบหนี เสียงหอบหายใจของเบลล์ดังก้องอยู่ในอากาศที่หนาวเย็น ลมหายใจของเธอเป็นละอองน้ำที่ลอยออกมาและจางหายไปในความมืด ความเงียบงันของทางเดินใต้ดินแฝงไปด้วยความกดดัน เสียงฝีเท้าที่กระทบพื้นเป็นจังหวะเชื่องช้า เหมือนเสียงนาฬิกาที่เดินช้าในคืนที่ไร้ดาว เธอเหลือบมองไนท์ที่วิ่งนำหน้า สายตาของเขายังคงนิ่ง แต่ในนั้นมีความกังวลเจืออยู่เหมือนลางบอกเหตุ
เมื่อพวกเขาหยุดพักในเงามืด ความหนาวเย็นอ้อมกอดพวกเขาแน่นขึ้น เบลล์ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “นายต้องบอกความจริงกับฉัน ไนท์... ทุกอย่าง”
ไนท์หันมามองเธอ สายตาของเขาอ่อนลงเล็กน้อย แต่ยังคงเต็มไปด้วยความมืดมน “ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องนั้น”
เบลล์กัดริมฝีปาก ความสับสนในใจเริ่มกลับมาอีกครั้ง “แล้วเมื่อไหร่? เมื่อไหร่ที่ฉันจะได้รู้ความจริง? หรือฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้เลย?”
ไนท์เงียบไปชั่วครู่ ขณะที่สายลมเย็นจากอุโมงค์ลับพัดผ่าน ความเงียบงันที่ปกคลุมระหว่างพวกเขาทำให้บรรยากาศยิ่งตึงเครียด ราวกับเวลาหยุดเดิน
“เธอจะรู้ทุกอย่าง… ในเวลาที่เหมาะสม” เขาตอบในที่สุด เสียงของเขาเบาแต่หนักแน่น เหมือนคำสั่งที่ไม่มีทางปฏิเสธ
คำตอบนั้นทำให้เบลล์รู้สึกเหมือนถูกผลักออกไปจากสิ่งที่เธอเคยเชื่อมั่น ความสงสัยและความเจ็บปวดสุมอยู่ในใจ ราวกับไฟที่กำลังคุกรุ่นอยู่ใต้พื้นดิน
เธอจ้องมองไนท์ด้วยความคับข้องใจ แต่ในที่สุดเธอก็เลือกที่จะเงียบและตามเขาต่อไป แม้ในใจเธอจะยังคงรู้สึกไม่มั่นคง ราวกับก้าวผ่านเงามืดที่ไม่รู้ว่าจะนำไปสู่อะไร
..
ในบรรยากาศอันหนาวเย็นที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด เบลล์และไนท์วิ่งหลบหนีเสียงเท้าที่ดังก้องไปทั่วทางเดินที่มืดมิด พวกเขารู้ดีว่าพวกมันอยู่ใกล้แค่เอื้อม สัมผัสถึงลมเย็นที่พัดผ่านเหมือนกับลมหายใจของความตาย เซราฟิสตามติดพวกเขาอย่างไม่ลดละ ดวงตาสีแดงเรืองรองของเขาเปล่งประกายในความมืด
“เราไม่สามารถหยุด!” เบลล์ตะโกน ดวงตาของเธอส่องประกายด้วยความกลัวและความมุ่งมั่น ขณะที่พวกเขาเร่งฝีเท้าขึ้นไปตามบันไดวนที่สูงชัน ในขณะที่เบลล์รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าที่กำลังเข้ามาครอบงำ แต่เธอไม่สามารถคิดถึงเรื่องนั้นได้ ตอนนี้พวกเขาต้องหนี
เมื่อทั้งคู่เปิดประตูออกมา โถงใหญ่ที่เคยเงียบสงบกลับกลายเป็นสมรภูมิรบ เสียงกรีดร้องและเสียงดาบที่ปะทะกันดังก้องไปทั่วเหมือนกับเพลงแห่งความตาย มนุษย์หมาป่าร่างยักษ์ยืนอยู่กลางสมรภูมิ มันกำลังต่อสู้กับฝูงสเปคเตอร์ที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว ราวกับผีที่ถูกเรียกมาจากความมืด
“พวกมันคือ...” เบลล์ร้องออกมาอย่างตกใจ ดวงตาของเธอสั่นไหวเมื่อเผชิญหน้ากับฉากอันน่าสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า
“มนุษย์หมาป่า!” ไนท์ตอบ ขณะที่เขาจับมือเธอแน่น รู้สึกถึงพลังและความมั่นคงจากการสัมผัสของเธอ “มันกำลังต่อสู้กับฝูงสเปคเตอร์”
ทันใดนั้น มนุษย์หมาป่าตนนั้นพุ่งเข้าขวางทาง ระยะห่างที่น้อยลงทำให้เบลล์รู้สึกถึงความกล้าหาญของมัน มันไม่ได้เป็นศัตรู แต่เป็นเพื่อนร่วมสู้ที่ลุกขึ้นสู้เพื่อพวกเขา ไนท์หันไปพยักหน้าให้มนุษย์หมาป่าด้วยความขอบคุณ ก่อนจะดึงเบลล์วิ่งผ่านไปยังประตูทางออกของปราสาท
“ทำไมมนุษย์หมาป่าตัวนี้ถึงช่วยเรา?” เบลล์ถามในใจ ขณะที่หัวใจของเธอเต้นแรง ความสงสัยลอยอยู่ในอากาศ แต่เธอเลือกที่จะไม่เอ่ยออกมาในบรรยากาศที่ตึงเครียดนี้ รู้ดีว่าตอนนี้พวกเขาต้องเร่งฝีเท้าและหนีให้ไกลจากอันตราย
เธอหายใจหนักเมื่อวิ่งตามไนท์ไป ความสงสัยยังคงวนเวียนในใจ แต่เธอก็ไม่สามารถหยุดคิดได้ ณ ตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเอาตัวรอด
…
แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ขยับตัว เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “คิดว่าจะหนีไปได้ง่ายๆ งั้นเหรอ?” เซราฟิสในร่างใหม่ปรากฏตัวขึ้น ดวงตาสีแดงของเขาจ้องมองไนท์และเบลล์ด้วยความโกรธแค้น “พวกแกคิดว่าจะหลบหนีได้ง่ายๆ งั้นเหรอ?” เขาตะโกนลั่น
ทันใดนั้น ฝูงสเปคเตอร์อีกหลายตัวปรากฏตัวขึ้นบริเวณหน้าประตู ราวกับมีอำนาจมืดที่เรียกพวกมันมา กรีดร้องและพุ่งเข้ามาโจมตีทันที
ไนท์เหงื่อตกในสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้น เขาหันไปมองเบลล์ ขณะที่เสียงกระหึ่มจากสเปคเตอร์สั่นสะเทือนอยู่ข้างหลัง “เราต้องรีบขึ้นไปบนดาดฟ้า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้ความกลัวจะกดดันอยู่ในใจ แต่เขารู้ดีว่าไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
ด้วยใจที่เต็มไปด้วยความกลัวและความมุ่งมั่น เบลล์พยักหน้า ก่อนที่ทั้งสองจะก้าวไปข้างหน้า ในขณะที่เสียงกรีดร้องและการต่อสู้ดังก้องอยู่เบื้องหลัง พวกเขาต้องเร่งฝีเท้าในสนามรบที่เต็มไปด้วยความโกลาหลและอันตราย