รักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก

Dragon Warrior นักรบมังกร - ตอนที่30 จบ โดย Koonma @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,อาชญากรรม,แฟนตาซี,พระเอกเก่ง,นางเอกฉลาด,นางเอกสวยมาก,สืบสวน ,สืบสวนสอบสวน,ต่อสู้,เวทมนตร์,เวทมนต์,เหนือธรรมชาติ​,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Dragon Warrior นักรบมังกร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,อาชญากรรม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,พระเอกเก่ง,นางเอกฉลาด,นางเอกสวยมาก,สืบสวน ,สืบสวนสอบสวน,ต่อสู้,เวทมนตร์,เวทมนต์,เหนือธรรมชาติ​

รายละเอียด

รักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก

ผู้แต่ง

Koonma

เรื่องย่อ

ชื่อเรื่อง:Dragon Warrior นักรบมังกร (กำลัง รีไรท์เนื้อหา)

ภาค 1 "ปริศนาเงาคำสาป:Shadow Curse Mystery

แนวเรื่อง: Dark Fantasy, การผจญภัย, ความลึกลับ

เนื้อเรื่องย่อ:

ปฐมบท: ในเงามืดของโลกที่แหลกสลาย

กาลครั้งหนึ่ง โลกนี้เคยเต็มไปด้วยสีสันและความสดใส มนุษย์เคยเดินเคียงข้างกับสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค—เหล่ามังกร ผู้ปกครองฟ้าดินและน้ำ ทั้งสองเผ่าพันธุ์แบ่งปันโลกนี้กันอย่างสงบสุขมานานนับพันปี แต่สงครามแห่งรากนาร็อก (Ragnarok) เปลี่ยนทุกสิ่ง เหล่ามังกรและมนุษย์ถูกบีบให้ต้องต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันอีกครั้ง ทว่าหลังสงครามสิ้นสุดลง สิ่งที่หลงเหลือไว้กลับเป็นเพียงซากปรักหักพังและบาดแผลที่ไม่มีวันลืม

สารบัญ

Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่1 ปฐมบท,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่2 การพบกันครั้งแรก ,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่3 คำให้การของ สเคิล,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่4 คำให้การของชายขอทาน ,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่5 ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ 1,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่6 ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ 2,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่ึ7 สิ่งที่ฉันคิด กับ คนขับรถม้า,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่8 ในเงาของฝน: ความลับที่ถูกปกปิด,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่9 คืนที่ฝนโปรยปราย: การตามล่าในความมืด,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่10 การตามล่าในความมืด2,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่11 ปราสาทซิลเวอร์ลีฟ: การเดินทางสู่เงื้อมมือแห่งความตาย",Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่12 "ราตรีแห่งความมืดและรอยเลือด",Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่13 ห้องทำงานของลอร์ดธอร์น,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่14 ห้องทำงานของลอร์ดธอร์น2,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่15 "ร่องรอยเลือดและสัญลักษณ์ที่ขาดหาย",Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่16 ห้องทรมานแห่งความจริง,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่17 ปริศนาสามใบมีด,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่18 ปริศนาของไนท์เชด,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่19 ผู้สาปแช่งนิรันดร์,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่20 คำสาปนิรันดร์,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่21 ความโกรธที่ลุกโชน,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่ 22 เงามรณะใต้ปราสาท,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่23 ภายในห้องลับ,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่24 กุญแจแห่งความลับ,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่25 เบื้องหลังหน้ากาก,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่ 26 บททดสอบแห่งมิตรภาพ,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่27 บททดสอบแห่งมิตรภาพ 2,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่ 28 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่29 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย2,Dragon Warrior นักรบมังกร-ตอนที่30 จบ

เนื้อหา

ตอนที่30 จบ

อาเธอร์ไม่ได้บอกแผนการอะไรกับเบลล์เลย เขาเดินไปที่กลางดาดฟ้าของปราสาทท่ามกลางความมืดมิดและลมแรงที่พัดกระหน่ำ ความเงียบงันรอบตัวทำให้บรรยากาศยิ่งน่าหวาดกลัว เบลล์ยืนอยู่ห่างออกไป มองอาเธอร์ด้วยความกังวลเมื่อเห็นเขาหยิบวัตถุที่คล้ายกระบอกปืนบางอย่างออกมาจากกระเป๋าที่เก็บไว้ด้านหลัง เขาชูมันขึ้นสู่ฟ้า ก่อนจะยิงมันขึ้นไปในอากาศ

เสียงดัง "ปัง!" ดังสนั่นไปทั่ว และเพียงชั่วพริบตา แสงสว่างจ้าก็แผ่ขยายออกไปราวกับดอกไม้ไฟที่สว่างไสวไปทั่วทั้งบริเวณ แสงนั้นสวยงามตัดกับความมืด แต่สำหรับเบลล์ ความสวยงามนั้นกลับไม่ได้ช่วยลดทอนความกลัวในใจลงเลยแม้แต่น้อย เธอยังคงยืนนิ่ง ขณะที่หูของเธอจับเสียงฝีเท้าของสเปคเตอร์หลายตัวที่กำลังขึ้นมาจากทางโถงบันได พวกมันใกล้เข้ามาทุกที

อาเธอร์หันกลับมาและเดินไปปิดประตูทางขึ้นสู่ดาดฟ้า เขาล็อกมันด้วยมือทั้งสองข้าง ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดเมื่อเขากัดนิ้วตัวเองจนเลือดไหลหยดออกมา เบลล์ยืนมองด้วยความตกใจและสงสัย

“นายกัดนิ้วตัวเองทำไม?” เบลล์ถามเสียงแผ่ว แต่เต็มไปด้วยความสับสน

อาเธอร์ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่หันมาส่งยิ้มให้เธออย่างลึกลับ ก่อนจะพรึมพำคำพูดบางอย่างที่เบลล์ไม่เข้าใจ แสงสว่างวาบขึ้นจากมือของเขา ส่องลงไปที่บานประตู มันเปล่งแสงเจิดจ้าและวิบวับจนไม่อาจเชื่อสายตาได้ ประตูบานเดิมที่เคยดูธรรมดาตอนนี้กลับส่องแสงแปลกประหลาด ประกายสีทองที่ดูราวกับเวทมนตร์กำลังปกคลุมบานประตูนั้นอย่างแน่นหนา

"นั่นมัน...คาถาผนึกยันต์ของลัทธิอาคาเซีย" เบลล์อุทานออกมาอย่างตกใจ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ความหวาดหวั่นผสมปนเปอยู่ในน้ำเสียง "อาเธอร์ นายใช้พลังนี้ได้ยังไง?"

อาเธอร์หันมามองเธออีกครั้ง แววตาของเขาสงบนิ่งราวกับซ่อนความลับไว้มากมาย “ยังมีอีกหลายเรื่องที่เธอไม่รู้เกี่ยวกับพวกเรา” เขาพูดเสียงทุ้มต่ำ แต่ทว่าความลึกลับในน้ำเสียงนั้นยิ่งทำให้เบลล์รู้สึกว่าอาเธอร์ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด


 

อาเธอร์และเบลล์ยืนเคียงข้างกันบนดาดฟ้าของปราสาทซิลเวอร์ลีฟ ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ แต่ก็แฝงด้วยความระทึกใจ รอบๆ ตัวพวกเขามีแต่ความมืดปกคลุม เห็นเพียงเส้นเงาของต้นไม้ที่เรียงรายอยู่นับไม่ถ้วนที่ทอดยาวไปไกลสุดสายตา ลมกลางคืนพัดเบาๆ แต่กลับหนาวเย็นจนถึงกระดูก

ท้องฟ้าคลุมด้วยสีเข้มของราตรี เหลือเพียงแสงจันทร์อ่อนๆ ที่ใกล้จะลับขอบฟ้า ทอแสงสลัวราวกับการกล่าวอำลาค่ำคืนเพื่อรอการมาถึงของยามเช้า ดวงจันทร์เคลื่อนคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ บ่งบอกว่าเวลาแห่งรุ่งอรุณกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ

เบลล์หันมองออกไปจากดาดฟ้า ดวงตาของเธอค่อยๆ ปรับเข้ากับแสงสลัว และสิ่งที่เธอเห็นทำให้หัวใจของเธอหยุดเต้นชั่วขณะ ดวงไฟนับร้อยจุดปรากฏขึ้นจากราวป่า แสงไฟเล็กๆ แต่ส่องประกายจ้า ล้อมรอบบริเวณปราสาทราวกับดาวที่ส่องลงมาแตะต้องพื้นดิน

"แสงไฟเหล่านั้น...ใครกัน?" เบลล์ถามด้วยน้ำเสียงเบาแผ่ว แต่แฝงด้วยความตกใจ หัวใจของเธอเต้นแรง ไม่แน่ใจว่าจะต้องกลัวหรือโล่งใจ

อาเธอร์เพียงยิ้มเล็กๆ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบแต่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ "พวกเราไงล่ะ พวกเขามากันแล้ว"

เบลล์ขมวดคิ้วอย่างสงสัย "พวกเราหมายความว่าไง? ใครกันที่มา?"

"ผู้พิทักษ์ของเรา กองหนุน" อาเธอร์ตอบ พร้อมหันมามองเบลล์ด้วยสายตาอบอุ่น "พวกเขามาเพื่อช่วยเรา"

เบลล์มองไปยังแสงไฟที่กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ เสียงฝีเท้าที่เป็นระเบียบและจังหวะก้าวย่างที่หนักแน่นของกองทัพผู้พิทักษ์ดังก้องเบาๆ ในความเงียบสงบของราตรี พวกเขาคือความหวังสุดท้ายของเบลล์และอาเธอร์ เหล่าผู้พิทักษ์ที่รอคอยมาเนิ่นนานได้มาถึงแล้ว

แสงแรกของรุ่งอรุณค่อยๆ ไล้ผ่านขอบฟ้าทอประกายทองอบอุ่นไปทั่วฟ้า ท้องฟ้าสีเข้มของกลางคืนเริ่มจางหาย กลายเป็นสีส้มอ่อนและสีทองที่อ่อนโยน ปลดปล่อยไออุ่นของแสงอาทิตย์ไล่ความหนาวเย็นของราตรีอย่างช้าๆ ทุ่งดอกไม้ป่ารอบๆ ปราสาทซิลเวอร์ลีฟเริ่มเบ่งบานรับแสงใหม่ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ผสมกับอากาศสดชื่นของยามเช้าทำให้บรรยากาศดูสดใสและมีชีวิตชีวา

เบลล์ทรุดตัวลงนั่งข้างร่างของไนท์ที่นอนสลบอยู่ เธอหันมองใบหน้าของเขาที่ดูสงบเสงี่ยมแม้จะผ่านการต่อสู้ที่ยากลำบาก เบลล์ยิ้มบางๆ พลางเอามือลูบผมของเขาเบาๆ ความรู้สึกอ่อนโยนและอบอุ่นในใจของเธอแผ่ซ่าน เธอมองดูรอบตัวแล้วก็รู้ว่าทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น การต่อสู้ที่ผ่านมาช่างโหดร้ายและเหน็ดเหนื่อย แต่การได้ยืนท่ามกลางแสงแรกแห่งวันใหม่พร้อมกับเพื่อนร่วมทาง ก็ทำให้เธอมั่นใจว่าวันนี้จะเป็นการเริ่มต้นใหม่ของพวกเขา

"อีตาทึ่ม...ทุกอย่างจบลงแล้ว แต่ดันหลับไม่รู้เรื่องอีก" เบลล์เอ่ยขึ้นเบาๆ พลางยิ้มแซวไนท์ที่ยังคงสลบไสลอยู่ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ ขณะที่สายลมยามเช้าพัดผ่านใบหน้าเย็นสบาย ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจ

เธอหันไปมองอาเธอร์ที่ยืนอยู่ไม่ไกล เขายืนอยู่เงียบๆ มองเธอและไนท์ด้วยแววตาอ่อนโยนและห่วงใย ไม่ต้องมีคำพูดใดๆ แต่ในสายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความมั่นใจและการปกป้อง สายตาสบกันเพียงครู่เดียว แต่กลับส่งผ่านความเข้าใจที่ลึกซึ้ง

ไนท์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ความมึนงงจากการสลบยังคงค้างอยู่ในหัวของเขา เมื่อสายตาเริ่มชัดเจนขึ้น ภาพแรกที่เขาเห็นคือใบหน้าของเบลล์ที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอจ้องมองเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แววตาของเธอเต็มไปด้วยความห่วงใยที่เขาสัมผัสได้โดยไม่ต้องเอ่ยคำใด ด้านหลังของเธอ อาเธอร์ยืนอยู่ในท่าทีสงบนิ่ง มองเขาด้วยสายตาที่แฝงด้วยความอ่อนโยนและการปกป้อง

ไนท์พยายามจะลุกขึ้น แต่ความอ่อนล้าทำให้เขาเพียงแค่กระซิบเบาๆ คำถามที่เต็มไปด้วยความหวังและความไม่แน่ใจ “มันจบแล้วใช่ไหม?”

“ใช่ มันจบแล้ว” อาเธอร์ตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่หนักแน่นในทุกถ้อยคำ ราวกับการยืนยันนี้เป็นสิ่งที่ไนท์รอคอย

เบลล์ที่จ้องหน้าไนท์อย่างไม่รู้ตัว สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเผลอจ้องเขานานเกินไป ใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อๆ ด้วยความเขินอาย หัวใจเธอเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ เธอรีบลุกลี้ลุกลนลงไปนั่งข้างไนท์เพื่อปกปิดความรู้สึกที่เกิดขึ้น น้ำเสียงที่เคยมั่นคงเปลี่ยนเป็นกระซิบแผ่ว "นายดูเหนื่อยมาก...พักก่อนเถอะ"

สายลมยามเช้าเย็นสบายพัดผ่านปราสาทซิลเวอร์ลีฟ ใบไม้ที่อยู่รอบปราสาทโบกสะบัดเบาๆ ในอากาศ แสงแรกของดวงอาทิตย์เริ่มฉายแสงลงมา ทาบทับปราสาทที่ครั้งหนึ่งเคยถูกปกคลุมด้วยความมืด แสงสว่างสะท้อนจากกำแพงหินเก่าแก่ ทำให้ทุกสิ่งดูมีชีวิตชีวาและสดใสยิ่งขึ้น

ไนท์หันมองเบลล์อีกครั้ง แสงอาทิตย์อ่อนๆ ตกกระทบใบหน้าของเธอ ทำให้ใบหน้าของเบลล์ดูเปล่งประกายราวกับนางฟ้า แววตาของเธอฉายชัดถึงความโล่งใจและความสุขที่เธอพยายามซ่อนเอาไว้

“ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร” ไนท์พูดขึ้นเสียงเบา สายตาเขาจับจ้องไปที่เบลล์ “ข้ารู้ว่าเราจะไม่ต้องเผชิญกับมันลำพังอีกต่อไป”

เบลล์เงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาสีน้ำตาลของเธอประกายไปด้วยความหวังและความเชื่อมั่น พวกเขายืนเคียงข้างกันบนดาดฟ้าของปราสาทสูงส่ง พร้อมกับความรู้สึกที่พวกเขาเองยังไม่แน่ใจ แต่รู้ว่า ณ เวลานี้ พวกเขามีเพื่อนร่วมทางที่จะอยู่เคียงข้างกันเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม.


 

จบภาคแรก ปริศนาเงาคำสาป