รักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก
แฟนตาซี,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,อาชญากรรม,แฟนตาซี,พระเอกเก่ง,นางเอกฉลาด,นางเอกสวยมาก,สืบสวน ,สืบสวนสอบสวน,ต่อสู้,เวทมนตร์,เวทมนต์,เหนือธรรมชาติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Dragon Warrior นักรบมังกรรักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดและน้ำตา เพื่อเปิดโปงความจริงที่ถูกซ่อนไว้ ในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย ความรักของเขากลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้เธอค้น นิยายสืบสวนสอบสวนในโลกของ Dark แฟนตาซี Monster สัตว์ประหลาดเวทมนต์สงครามและความรัก
ชื่อเรื่อง:Dragon Warrior นักรบมังกร (กำลัง รีไรท์เนื้อหา)
ภาค 1 "ปริศนาเงาคำสาป:Shadow Curse Mystery
แนวเรื่อง: Dark Fantasy, การผจญภัย, ความลึกลับ
เนื้อเรื่องย่อ:
ปฐมบท: ในเงามืดของโลกที่แหลกสลาย
กาลครั้งหนึ่ง โลกนี้เคยเต็มไปด้วยสีสันและความสดใส มนุษย์เคยเดินเคียงข้างกับสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค—เหล่ามังกร ผู้ปกครองฟ้าดินและน้ำ ทั้งสองเผ่าพันธุ์แบ่งปันโลกนี้กันอย่างสงบสุขมานานนับพันปี แต่สงครามแห่งรากนาร็อก (Ragnarok) เปลี่ยนทุกสิ่ง เหล่ามังกรและมนุษย์ถูกบีบให้ต้องต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันอีกครั้ง ทว่าหลังสงครามสิ้นสุดลง สิ่งที่หลงเหลือไว้กลับเป็นเพียงซากปรักหักพังและบาดแผลที่ไม่มีวันลืม
อาเธอร์ถูกหยุดโดยนายทหารในชุดเครื่องแบบผู้พิทักษ์สองนาย
“ขออภัยด้วยครับ คุณอาเธอร์” หนึ่งในนายทหารพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อมแต่หนักแน่น “แต่ท่านหัวหน้าต้องการพบคุณก่อนครับ ผมทราบว่าคุณต้องการไปพบหัวหน้าของคุณเอง แต่ท่านลอร์ดดาเมียน เวลทอส ผู้กำกับหน่วยงาน อยากเจอคุณก่อน”
อาเธอร์หยุดนิ่ง ใบหน้าแสดงออกถึงความครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นห่อกล่องบางอย่างให้กับทหารตรงหน้า
“เอาสิ่งนี้ไปให้เขาด้วย แล้วเดี๋ยวฉันจะเข้าไปพบเขาอีกที” เขาพูดเรียบ ๆ จากนั้นก็เลี้ยวขวาและเดินลึกเข้าไปในอาคารสำนักงานหน่วยผู้พิทักษ์
เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องของลอร์ดดาเมียน อาเธอร์สังเกตเห็นว่าหน้าประตูไม่มีทหารเฝ้า ผนังสีดำดูทึมเทา ประตูห้องเปิดออก เผยให้เห็นชายผู้หนึ่งนั่งสูบเซ็กก้าอยู่หลังโต๊ะที่เต็มไปด้วยเอกสารกองสูง
แต่ทันทีที่ประตูเปิดออก อาเธอร์สัมผัสได้ถึงพลังเวทมนตร์มหาศาลที่แผ่ออกมา มันไม่ได้เป็นเพียงพลังเวทย์ทั่วไป แต่คล้ายกับจิตสังหารที่กดดันทุกสิ่งรอบตัว แม้แต่บานประตูก็ไม่อาจทนไหว ถูกกดดันจนแตกละเอียด กระเด็นออกไปอย่างไร้เสียง ภายใต้พลังมหาศาลที่ถูกปล่อยออกมาจากร่างเบื้องหน้า
“หมอนี่ก็ยังคงไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ” อาเธอร์คิดในใจ เขาเดินฝ่าพลังนั้นเข้าไปอย่างง่ายดาย โดยไม่แม้แต่จะต้องเตรียมตัวรับมือ
ลอร์ดดาเมียนมองเขาด้วยสายตาเฉยชา ก่อนจะพูดขึ้น “สมแล้วที่เคยเป็นองครักษ์ นายควบคุมพลังได้ดี สมคำร่ำลือ…แต่ฉันไม่คิดเลยว่าคนระดับนายจะยอมมาทำงานให้กับคนไร้พลังอย่างหมอนั่น”
อาเธอร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แต่แฝงด้วยความหนักแน่น "คุณเอาเขาไปขังไม่ได้ คุณก็รู้ดี"
ดาเมียนมองหน้าอาเธอร์ พลางถอนหายใจเบาๆ ราวกับพยายามระงับความเครียดในใจ "ฉันก็ทำตามหน้าที่" เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเหนื่อยล้า "พ่อแม่ของผู้หญิงคนนั้นเป็นถึงขุนนางปกครองเมือง พวกเขาจะไม่ยอมให้ลูกสาวของเขาได้รับบาดเจ็บฟรีๆ"
อาเธอร์ขยับตัวเล็กน้อย ท่าทางของเขายังคงมั่นคง แต่แววตากลับแฝงความเป็นห่วง "เธอโดนพิษ" เขากล่าว "พวกเราเจอศัตรูที่เก่งเกินคาด เซราฟิสไม่ใช่คนที่เราจะจัดการได้ง่ายๆ คุณก็รู้... เขาเก่งมาก แต่ตอนนี้เราก็จับตัวคนร้ายได้แล้ว"
ดาเมียนพยักหน้าแผ่วเบา แสดงถึงความเข้าใจ แต่ในแววตากลับมีความขุ่นเคืองสะท้อนอยู่ "ถึงอย่างนั้น... สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ มันก็ต้องมีคนรับผิดชอบ" เขาเว้นจังหวะ ก่อนพูดต่อ "โดยเฉพาะว่าที่คู่หมั้นของเบลล์ เขาไม่ชอบไนท์เลย และเรื่องมันถึงได้บานปลายแบบนี้"
อาเธอร์หายใจเข้าลึก เขาพยายามควบคุมความรู้สึก ไม่ให้สั่นคลอน "พวกเราทำตามหน้าที่ของเรา" เขากล่าว แต่ท่าทีของเขากลับดูแฝงไปด้วยความกดดันจากการตัดสินใจ
"แม้ว่าไนท์จะเป็นหัวหน้าของเรา เขาก็ยังต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น" ดาเมียนพูดขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงที่เปล่งออกมาครั้งนี้แฝงไปด้วยความกังวลและหงุดหงิด ความรับผิดชอบที่หนักอึ้งทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกกดดันจากทุกทิศทาง
“แต่ความยุติธรรมไม่ควรถูกบังคับด้วยอำนาจ” อาเธอร์ตอบกลับเสียงแข็ง “เราไม่อาจละเลยความเป็นจริงของสถานการณ์นี้ได้ พวกเราเอาตัวเข้าแลกและเสี่ยงตายเพื่อให้ได้มาซึ่งคนกระทำความผิด และหยุดยั้งการกระทำชั่วร้ายของเขา เราไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังแท้จริงของเรื่องนี้คืออะไร แม้ว่าเราจะจับตัวผู้กระทำความผิดได้แล้วก็ตาม” อารมณ์ของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและความแน่วแน่ในการปกป้องความยุติธรรม
ดาเมียนสบตากับอาเธอร์ ราวกับกำลังค้นหาความหมายในคำพูดของเขา “แล้วนายมีแผนจะทำอย่างไรต่อไป? เราต้องการแผนการที่ชัดเจน” เขาถามเสียงต่ำ แต่แฝงไปด้วยความเครียดที่ไม่สามารถปิดบังได้
อาเธอร์หยุดคิด เขานึกถึงคำพูดของไมท์ที่บอกเขาก่อนที่จะถูกจับตัวมายังที่นี่ “ปล่อยให้เราตรวจสอบสถานการณ์อย่างละเอียดก่อน” เขาเสนอเสียงมั่นใจ “เราต้องใช้เวลานี้เพื่อทำความเข้าใจศัตรูให้ดียิ่งขึ้น แล้วเราจะสามารถหาทางแก้ไขได้”
“ฮ่าๆ ฉันว่านายเริ่มจะกลายเป็นแบบเขาไปแล้วล่ะ” ดาเมียนกล่าวด้วยเสียงหัวเราะกลั้วรอยยิ้ม แต่แฝงไปด้วยความจริงจัง “เราอาจต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากในอนาคต แต่ว่าตอนนี้ ฉันยังคงช่วยเขาไม่ได้ ดูเหมือนว่าพ่อของเบลล์จะมีอิทธิพลพอสมควร”
“ฉันเข้าใจ แต่ถ้านักโทษหนีออกจากคุกไป มันก็อีกเรื่องนึงถูกป่ะล่ะ” อาเธอร์ตอบด้วยรอยยิ้ม มีแววตาแน่วแน่ เขาเข้าใจดีว่าความยุติธรรมต้องมีการต่อสู้
ดาเมียนส่งยิ้มตอบ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเห็นได้ชัด “ฉันว่าฉันจะออกไปหาอะไรกินซะหน่อย” เขากล่าว ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
อาเธอร์ยิ้มรู้ดีว่าทางข้างหน้ายังมีอุปสรรคมากมายรออยู่ แต่เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจในหน้าที่ของตนที่จะทำให้เกิดความยุติธรรมในสังคมนี้ แม้ว่าจะต้องมีการต่อสู้ที่ยากลำบากก็ตาม ความมุ่งมั่นในใจของเขาชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อเห็นดาเมียนจากไป ความรู้สึกที่เป็นพวกเดียวกันในความยุติธรรมทำให้เขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวในภารกิจที่ท้าทายนี้
ในห้องขังที่มืดและชื้นของสำนักงานผู้พิทักษ์ เสียงฝีเท้าของอาเธอร์สะท้อนผ่านทางเดินหินกรวดเย็นเยียบ แสงสลัวจากหลอดไฟเก่า ๆ ห้อยต่ำให้บรรยากาศเงียบเหงาและกดดัน ทุกก้าวที่เขาเดินเข้าไปเหมือนความตึงเครียดในอากาศเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อมาถึงหน้าแผงเหล็กหนา อาเธอร์เห็นไนท์นั่งอย่างสบาย ๆ ข้าวกล่องในมือถูกเปิดออก อาหารถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ ราวกับว่าเขานั่งกินในร้านอาหาร ไม่ใช่ในคุกอันน่าอึดอัดแบบนี้
ไนท์ยิ้มมุมปาก ขณะที่เคี้ยวข้าวคำหนึ่ง "มาแล้วเหรอ, อาเธอร์? ฉันคิดว่านายจะช้ากว่านี้เสียอีก" น้ำเสียงของเขาฟังดูสบาย ๆ แต่มีความเย็นชาเจือปน บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความตึงเครียด
อาเธอร์หรี่ตามองไปที่กล่องข้าว รู้สึกแปลกใจที่ไนท์ยังคงรักษาความสงบได้ในสถานการณ์เช่นนี้ "ยังมีแรงอยู่สินะ" เขาถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
ไนท์หัวเราะเบา ๆ ส่งกล่องข้าวให้ "นายแวะไปที่บ้านมาใช่ไหม?"
อาเธอร์ขมวดคิ้ว "ใช่ คุณรู้ได้ยังไง?"
ไนท์ยิ้มกว้างขึ้น "ฉันจำได้ ฝีมือผักดองของเอลิซ่า...ของโปรดของฉันเสมอ" เขาพูดขณะยัดข้าวเข้าปากเหมือนคนที่ไม่ได้กินมาหลายวัน
"ค่อย ๆ กินก็ได้ครับบอส เรามีเวลา" อาเธอร์พูดพร้อมกับเหลือบมองไปทางประตู ท่ามกลางบรรยากาศที่น่าอึดอัด การที่ไนท์กินอาหารอย่างมีชีวิตชีวาเป็นสิ่งเดียวที่ดูไม่เข้ากับสถานการณ์ตึงเครียดนี้
ไนท์หยุดกินชั่วคราว สายตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง "เราไม่มีเวลามากแล้ว แผนการของพวกนั้นเริ่มขึ้นก่อนที่เราจะรู้ตัวเสียอีก เราต้องรีบไปก่อนที่พวกมันจะลงมือ ฉันไม่แน่ใจว่าพวกมันวางแผนอะไร แต่ฉันรู้แน่ว่ามันใหญ่พอที่จะทำให้เราเดือดร้อน"
อาเธอร์ขมวดคิ้ว "คุณหมายความว่ายังไง? แม้ว่าเราจะหยุดแผนการของเซราฟิสและจับกุมเขาได้ แต่จากหลักฐานที่พบในปราสาท มันยังมีอีกสองกลุ่มที่เกี่ยวข้อง: กลุ่มที่ใช้พลังเวทไฟโจมตีด้านหน้า และกลุ่มที่อยู่ในห้องทดลองทำการทดลองกับก็อบลินที่ใต้ปราสาท"
ไนท์พยักหน้าอย่างช้า ๆ "ใช่ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด พวกมันไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันหรอก"
อาเธอร์ทำหน้าตื่นตระหนก "คุณกำลังบอกว่า...พวกมันเป็นคนละกลุ่มกันเหรอ?"
ไนท์ยักไหล่ "ตอนแรกฉันก็คิดว่าพวกมันเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่หลังจากจับเซราฟิสได้ ฉันถึงได้รู้ว่าเขาเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในเกมนี้ ยังมีใครบางคนที่คุมเกมอยู่เบื้องหลัง"
"ใครบางคน... หมายถึงยังมีคนอยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้?" อาเธอร์เริ่มเข้าใจถึงความซับซ้อนของสถานการณ์ ความกังวลสะท้อนผ่านสายตาของเขา
ไนท์ถอนหายใจเบา ๆ "ใช่ พวกมันใช้เซราฟิสเป็นแพะรับบาป ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนใหญ่ และคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน"
"นั่นหมายความว่า...เรื่องนี้ยังไม่จบ?" อาเธอร์พูดพร้อมขบฟันแน่น
ไนท์สบตาเขาด้วยแววตานิ่งสงบ "ใช่ และเวลาของพวกเราก็เหลือน้อยลงทุกที"