จอมขวัญ เด็กสาวที่เพิ่งจะเข้าช่วงมัธยมปลาย และดูเหมือนชีวิตในโรงเรียนใหม่กำลังเริ่มต้นไปได้ด้วยดี แต่กลับต้องเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องสูญเสียคนสำคัญ

Memorise Sheep - 0 บทนำ โดย livven @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไซไฟ,แฟนตาซี,หญิง-หญิง,ข้ามเวลา,ดราม่า,ข้ามเวลา,โลกคู่ขนาน,เพื่อน,มิตรภาพ,นักเรียน,ดราม่า,ยูริ,yuri,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Memorise Sheep

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ไซไฟ,แฟนตาซี,หญิง-หญิง,ข้ามเวลา,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ข้ามเวลา,โลกคู่ขนาน,เพื่อน,มิตรภาพ,นักเรียน,ดราม่า,ยูริ,yuri,แฟนตาซี,ทะลุมิติ

รายละเอียด

จอมขวัญ เด็กสาวที่เพิ่งจะเข้าช่วงมัธยมปลาย และดูเหมือนชีวิตในโรงเรียนใหม่กำลังเริ่มต้นไปได้ด้วยดี แต่กลับต้องเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องสูญเสียคนสำคัญ

ผู้แต่ง

livven

เรื่องย่อ

Memorise Sheep

(ความทรงจำของแกะน้อย)

 

ผู้เขียน : livven

 

ภาพ : Kewrom

---------------------------------------------

 

เรื่องย่อ

จอมขวัญ เด็กสาวที่เรียนจบมัธยมต้น และตอนนี้ได้ย้ายโรงเรียนใหม่เพื่อที่จะเข้าเรียนมัธยมปลาย

ในวันแรกที่โรงเรียนใหม่นั้น เป็นไปได้ด้วยดี เพื่อนคนแรกที่เข้ามาทักทายทำให้เขารู้สึกอุ่นใจมากขึ้น

แต่แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น มันจะเรียกว่าอะไรดีล่ะ ย้อนเวลา... ความฝัน... ทะลุมิติ...

จอมขวัญที่เป็นคนอ่านนิยายหรือดูภาพยนตร์มาเยอะ ได้สันนิษฐานไปเรื่อย

แต่แล้วก็มีลางสังหรณ์เกิดขึ้นในจิตใจ บ่งบอกว่านี่มันผิดธรรมชาติ มันอยู่เหนือกฎเกณฑ์ของโลก

ไม่รู้ว่าหนทางแก้ไขของเรื่องนี้คืออะไร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นวิทยาศาสตร์หรือไสยศาสตร์กันแน่...

.

"เราชื่ออิง อิงดาวน่ะ"

"อืม... เราชื่อจอม จอมขวัญ"

.

ขอให้ความทรงจำของพวกเราอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวตลอดไป

 

---------------------------------------------

 

Trigger warning

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

เนื้อหาบางส่วน ถ้อยคำพูดหรือพฤติกรรมที่มีความรุนแรงไม่เหมาะสมกับผู้อ่านอายุต่ำกว่า 18ปี

ข้อมูลในเนื้อหาบางส่วน อาจจะมีแหล่งอ้างอิงที่ไม่น่าเชื่อถือ

อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

 

---------------------------------------------

อัพทุกวันเสาร์

.

ติดตามข่าวสารหรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ https://x.com/_Shy_Rabbit (●ˇ∀ˇ●)

สารบัญ

Memorise Sheep-0 บทนำ,Memorise Sheep-1 ครั้งแรก,Memorise Sheep-2 ที่ปรึกษา,Memorise Sheep-3 อีกแล้ว,Memorise Sheep-4 อยากกลับ,Memorise Sheep-5 กลับมาแล้ว,Memorise Sheep-6 ข้อความ,Memorise Sheep-7 วิจัย,Memorise Sheep-8 ทฤษฎี,Memorise Sheep-9 คืบหน้า,Memorise Sheep-10 เชิญชวน,Memorise Sheep-11 สวนสนุก,Memorise Sheep-12 หงุดหงิด,Memorise Sheep-13 เพื่อน,Memorise Sheep-14 ความฝัน,Memorise Sheep-15 ความหวัง,Memorise Sheep-16 บันทึก,Memorise Sheep-17 เรียกขวัญ,Memorise Sheep-18 ล่องลอย,Memorise Sheep-19 เห็นแก่ตัว,Memorise Sheep-20 คนคนนั้น

เนื้อหา

0 บทนำ

“ลูก ตื่นได้แล้ว” อ่า... เสียงคุ้นเคยที่ไม่อยากได้ยินยามเช้า

“รู้แล้ว กำลังพับผ้าห่มอยู่”

หลังจากสิ้นน้ำเสียงนั้น คนที่กำลังจัดเตรียมอาหารเช้าอยู่ในห้องครัวก็รับรู้ได้ว่า มีคนกำลังพูดโกหก

เมื่อเวลาผ่านไปพอสมควรแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครลงมาจากบันได เขาไม่เห็นหรือไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของผู้เป็นลูกสาวเลยสักนิด จึงเอ่ยถาม “พ่อ ลูกลงมาหรือยัง”

“ยัง” ผู้ชายคนเดียวของบ้านหลังนี้ หรือคุณพ่อของเด็กสาวเอ่ยขึ้น ขณะที่ตัวเองกำลังทานข้าวมื้อเช้าอยู่

คุณแม่ได้ยินแบบนั้น จึงลุกจากเก้าอี้ และเดินตรงไปยังห้องลูกสาว “ถ้ายังไม่ลุกไปอาบน้ำตอนนี้ จะไม่ทันเข้าแถวตอนเช้านะ” เมื่อพูดจบ แม่ก็ดึงผ้าที่ลูกสาวห่มอยู่ออกไปกองอยู่ที่พื้น

“อืม... แม่อ่า เดี๋ยวหนูลงไป ขอเวลาแป๊บนึง”

“แป๊บนึงของแม่กับลูกไม่เท่ากันน่ะสิ รีบลุกไปอาบน้ำ แล้วมากินข้าว เดี๋ยวจะไปโรงเรียนไม่ทัน”

“อืม ลุกแล้วๆ” เด็กสาวลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ยังไม่ลืมตาด้วยซ้ำ

“อย่านอนต่อล่ะ” พอได้ยินเสียงแม่ตัวเองพูดจบ เด็กสาวพยักหน้ารับคำ

เมื่อเด็กสาวอาบน้ำเสร็จก็แต่งกายด้วยชุดนักเรียนมัธยมปลาย พร้อมกับแต่งหน้า แต้มสีให้กับแก้มและฝีปากเล็กน้อยให้สวยงามตามวัย พอเสร็จแล้วก็ลงไปทานข้าวเช้ากับครอบครัว

ใช่แล้วละ วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก และเป็นการได้ย้ายโรงเรียนครั้งแรกของฉัน เพราะว่าโรงเรียนเดิมมีแค่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สาม ทำให้เมื่อเรียนจบแล้ว จำเป็นต้องสมัครเรียนที่ใหม่

จริงๆ ฉันก็พอจะมีเพื่อนจากโรงเรียนเดิมที่ไปสมัครเรียนใหม่ที่เดียวกันอยู่นะ แต่ดันอยู่คนละห้องนี่สิ... เลยต้องหาเพื่อนใหม่ ไม่รู้จะมีใครอยากคุยกับฉันหรือเปล่า

“แม่ พ่อไปไหนแล้ว ไม่มากินข้าวด้วยกันเหรอ” ตอนที่ฉันลงมาจากห้อง ก็ไม่เห็นพ่อแล้ว หรือว่ายังไม่ตื่น แต่วันนี้เป็นวันทำงานของพ่อนี่

“ไปทำงานแล้ว”

“ห้ะ! แล้วใครจะไปส่งหนูอะ”

“แม่นี่ไง” ขอแค่ไม่ต้องเดินหรือนั่งรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างไปก็ดีแล้ว “อุตส่าห์ไปปลุกแล้วก็ยังนอนต่อ”

“ก็คนมันง่วงอะ” กล่าวขึ้นพร้อมทำหน้าไม่พอใจ ตอนเช้าแบบนี้ใครเขาจะตื่น ยุคสมัยนี้ตื่นตอนเที่ยงยังไม่นับว่าสายเลย

 

ตอนนี้แม่ขับรถมาถึงหน้าโรงเรียนแล้ว แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยคำอวยพรให้กับลูกสาวของตน “อย่าให้โดนเรียกเข้าห้องปกครองวันแรกล่ะ”

“โห่... นี่คือคำอวยพรของแม่เหรอ”

คนเป็นแม่หัวเราะ พร้อมกับกล่าวว่า “ก็ดูหน้าลูกสิ เหมือนจะไปหาเรื่องใคร”

ไม่คิดว่าลูกตัวเองจะเป็นที่รักของพ้องเพื่อนบ้างหรือไง...

 

ก็จริงตามที่แม่พูด พอฉันได้เข้ามาอยู่ในโรงเรียนที่เต็มไปด้วยผู้คนแปลกหน้า ฉันก็ทำหน้านิ่ง เหมือนจะไปหาเรื่องใครจริงๆ

ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อส่งข้อความหาเพื่อนคนหนึ่ง ถามเขาว่า ตอนนี้อยู่ตรงไหน จะได้เดินไปหา เพราะถ้าอยู่คนเดียวแบบนี้ต่อไป ฉันคงทำอะไรไม่ถูก

เมื่อเพื่อนคนนั้นตอบว่าอยู่โรงอาหาร ฉันรีบมุ่งหน้าตรงไปที่โรงอาหารทันที ถึงนี่จะเป็นวันแรกที่เปิดเรียน แต่ฉันเคยมาที่โรงเรียนนี้แล้ว เลยทำให้รู้แผนผังในโรงเรียนนี้อยู่บ้าง

พอเดินไปถึงโรงอาหารแล้ว ฉันก็เห็นเพื่อนคนนั้นยกมือ จึงทำให้รู้ว่าเขานั่งอยู่ตรงนั้น และยังมีเพื่อนอีกสองคนนั่งอยู่ด้วย นั่นคือกลุ่มเพื่อนที่มาจากโรงเรียนเดิมและยังอยู่ห้องเดียวกันแต่ตอนนี้พวกเราอยู่คนละห้อง

“ไอ้จอม ไม่น่าเชื่อว่ามึงมาทันก่อนเข้าแถว” พรีมเอ่ยขึ้น และนั่นหมายถึงตัวฉันเอง เพราะตอนอยู่ที่โรงเรียนเดิม ฉันมักจะมาสายตลอดและไม่ทันเข้าแถวตอนเช้า

“จะให้สายตั้งแต่วันแรกก็ยังไงอยู่”

“แสดงว่าหลังจากนี้ มึงจะมาสายทุกวันเหมือนเดิมแล้ว” หลิวกล่าว

หลิวคือเพื่อนที่ฉันสนิทที่สุดในกลุ่มเพื่อน เรียกได้ว่ามีเรื่องอะไรก็จะเล่าให้ฟังหมด ถ้าถามว่าจะให้เลิกคบกับมันไหม บอกเลยว่า ไม่! เพราะมันรู้ความลับของฉันทุกเรื่อง

“ถือว่ารู้ใจกันจริง แต่คงไม่ทุกวันหรอก” จริงๆ แล้วก็อยากมาให้ทันเข้าแถวตอนเช้าอยู่หรอก แต่มันทั้งร้อนและอึดอัด เมื่อไหร่จะยกเลิกระบบนี้สักทีนะ

เวลาผ่านไปสักพัก มีเสียงกริ่งดังขึ้นเพื่อเรียกรวมตัวให้นักเรียนไปรวมตัวเพื่อเข้าแถวยามเช้า

"ถึงเวลาที่ต้องแยกกันแล้วสิ... ไม่อยากไปจากพวกมึงเลยอ่า” ที่ฉันพูดออกไปแบบนั้น เพราะไม่พร้อมที่จะต้องไปเผชิญกับผู้คนแปลกหน้าในห้องเรียนเดียวกัน

“เดี๋ยวตอนกลางวันก็ได้เจอกันแล้ว ถ้ามีเพื่อนก็พามานั่งโต๊ะเดียวกับพวกเราด้วยละ” เหมยกล่าวขึ้น

เหมยกับหลิวอยู่ห้องเดียวกัน เพราะนัดกันว่าจะสอบเข้าห้องคณิต-คอม แต่ตอนนั้นฉันไม่รู้เรื่องเลยได้สอบเข้าห้องวิทย์-คณิตแทน ส่วนพรีมก็สอบได้เข้าห้องศิลป์

“ถ้าเพื่อนหาง่ายแบบนั้นก็ดีสิ” ฉันไม่อยากทำความรู้จักกับใครด้วยซ้ำ ฉันไม่อยากเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่กับใครทั้งนั้น

แต่แล้วยังไงล่ะ สุดท้ายก็ต้องไปเข้าแถวกันตามห้อง และแยกย้ายไปเรียนตามห้องของตัวเอง แล้วได้มาเจอกันแค่ตอนกินข้าวเที่ยง หรือตอนที่เดินเปลี่ยนห้องเรียน และสุดท้ายคือตอนเลิกเรียน

ฉันเดินมาเข้าแถวห้องตัวเอง ดูเหมือนว่า ฉันจะเป็นคนสุดท้ายของแถวพอดี พอได้ลองสังเกตแล้ว ทำไมทุกคนในแถวนี้รู้จักกันหมดเลยล่ะ ฉันเป็นคนเดียวหรือเปล่าที่มาจากต่างโรงเรียน

จมอยู่ในความคิดของตัวเองอยู่นาน พอรู้สึกตัวอีกทีก็มีคนมาสะกิดด้านหลังซะแล้ว ฉันจึงหันไปดูว่าเป็นใคร ใช่อาจารย์หรือเปล่า

“สวัสดีค่ะ เราชื่อ อิง อิงดาวน่ะ” อ่า... ไม่ใช่อาจารย์ แต่เป็นเพื่อนที่มาเรียนห้องเดียวกัน

“สวัสดีค่ะ เราชื่อจอม จอมขวัญ” จะให้เขาแนะนำตัวฝ่ายเดียวก็แปลกๆ ต้องบอกชื่อของฉันให้เขารู้ด้วยถึงจะยุติธรรม

“ชื่อเหมือนผู้ชายเลย งั้นเราเรียกว่า ขวัญ ได้ไหม”

“เราไม่ค่อยชินอะ ปกติพ่อแม่กับเพื่อนก็เรียกว่า จอม มาตั้งแต่เด็กแล้ว” ถ้าโดนเรียกว่า ขวัญ ไม่รู้ว่าตัวฉันจะขานรับตอนไหน อาจจะเป็นชาติหน้าตอนที่เปลี่ยนชื่อแล้วมั้ง

“ก็จริง จะให้เปลี่ยนชื่อเรียกตอนนี้ก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่” อิงพูดขึ้น เพราะนึกได้ว่าตนเองก็มีชื่อคล้ายผู้ชาย ทำไมตอนเด็กพ่อแม่ หรือปู่ย่าตายายไม่เรียกเขาว่า ดาว ทั้งที่ชื่อนี้ดูเป็นผู้หญิงกว่า

คุยกันไปได้สักพัก ก็มีเสียงเรียกให้ยืนตรง และร้องเพลงชาติ สวดมนต์ ทำสมาธิ ตามปกติที่โรงเรียนทำในยามเช้า แต่วันนี้เป็นวันแรกที่เปิดเรียนจึงมีการแนะนำสถานที่ ห้องเรียน ชื่อเรียกของแต่ละตึก ใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควร

หลังจากนั้นก็ปล่อยให้แต่ละชั้นเข้าห้องเรียนตามวิชาแรกของตาราง ฉันเดิมมาถึงที่ห้องเรียนพร้อมกับอิง และนั่งโต๊ะเดียวกัน

โต๊ะนี้มีที่นั่งหกที่ให้นั่งล้อมกัน แต่ตอนนี้มีเพียงแค่ฉันกับอิงสองคนเท่านั้น ภาวนาให้คนที่มานั่งตรงนั้นจะเป็นคนที่เข้ากันกับฉันได้

“เอ่อ... เราชื่อ เบล นะ ขอนั่งด้วยได้ไหมคะ” มีคนมาขอนั่งด้วยแล้ว!

“ได้ค่ะ” ฉันตอบรับคำขอนั้นทันที

“ถ้างั้นเราขอนั่งด้วย!” มีผู้สนทนาคนใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกคน

“ด...ได้ค่ะ” ฉันก็ต้องตอบแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะเดิมทีที่ตรงนั้นไม่มีเจ้าของ

“ลืมแนะนำตัวเลย เราชื่อ ดรีม” ถ้าเขาไม่บอกชื่อ ฉันก็จะไม่ถาม

พอดรีมแนะนำตัว ทุกคนโต๊ะก็บอกชื่อของตัวเองอีกรอบ และบนโต๊ะนี้ไม่ได้เงียบเหงาเหมือนตอนแรกที่เข้ามานั่ง เพราะดรีมเป็นคนชวนคุยเก่งมาก ทำให้ทุกคนได้เริ่มรู้จักและพูดคุยกันแบบเป็นกันเองมากขึ้น

คุยกันได้สักพัก จึงได้รู้ว่าทั้งสี่คนมาจากโรงเรียนที่ต่างกันทั้งหมด ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ในห้องที่รู้จักกันอยู่แล้ว เปรียบเสมือนแกะดำสี่ตัว