จอมขวัญ เด็กสาวที่เพิ่งจะเข้าช่วงมัธยมปลาย และดูเหมือนชีวิตในโรงเรียนใหม่กำลังเริ่มต้นไปได้ด้วยดี แต่กลับต้องเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องสูญเสียคนสำคัญ

Memorise Sheep - 3 อีกแล้ว โดย livven @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไซไฟ,แฟนตาซี,หญิง-หญิง,ข้ามเวลา,ดราม่า,ข้ามเวลา,โลกคู่ขนาน,เพื่อน,มิตรภาพ,นักเรียน,ดราม่า,ยูริ,yuri,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Memorise Sheep

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ไซไฟ,แฟนตาซี,หญิง-หญิง,ข้ามเวลา,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ข้ามเวลา,โลกคู่ขนาน,เพื่อน,มิตรภาพ,นักเรียน,ดราม่า,ยูริ,yuri,แฟนตาซี,ทะลุมิติ

รายละเอียด

จอมขวัญ เด็กสาวที่เพิ่งจะเข้าช่วงมัธยมปลาย และดูเหมือนชีวิตในโรงเรียนใหม่กำลังเริ่มต้นไปได้ด้วยดี แต่กลับต้องเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องสูญเสียคนสำคัญ

ผู้แต่ง

livven

เรื่องย่อ

Memorise Sheep

(ความทรงจำของแกะน้อย)

 

ผู้เขียน : livven

 

ภาพ : Kewrom

---------------------------------------------

 

เรื่องย่อ

จอมขวัญ เด็กสาวที่เรียนจบมัธยมต้น และตอนนี้ได้ย้ายโรงเรียนใหม่เพื่อที่จะเข้าเรียนมัธยมปลาย

ในวันแรกที่โรงเรียนใหม่นั้น เป็นไปได้ด้วยดี เพื่อนคนแรกที่เข้ามาทักทายทำให้เขารู้สึกอุ่นใจมากขึ้น

แต่แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น มันจะเรียกว่าอะไรดีล่ะ ย้อนเวลา... ความฝัน... ทะลุมิติ...

จอมขวัญที่เป็นคนอ่านนิยายหรือดูภาพยนตร์มาเยอะ ได้สันนิษฐานไปเรื่อย

แต่แล้วก็มีลางสังหรณ์เกิดขึ้นในจิตใจ บ่งบอกว่านี่มันผิดธรรมชาติ มันอยู่เหนือกฎเกณฑ์ของโลก

ไม่รู้ว่าหนทางแก้ไขของเรื่องนี้คืออะไร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นวิทยาศาสตร์หรือไสยศาสตร์กันแน่...

.

"เราชื่ออิง อิงดาวน่ะ"

"อืม... เราชื่อจอม จอมขวัญ"

.

ขอให้ความทรงจำของพวกเราอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวตลอดไป

 

---------------------------------------------

 

Trigger warning

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

เนื้อหาบางส่วน ถ้อยคำพูดหรือพฤติกรรมที่มีความรุนแรงไม่เหมาะสมกับผู้อ่านอายุต่ำกว่า 18ปี

ข้อมูลในเนื้อหาบางส่วน อาจจะมีแหล่งอ้างอิงที่ไม่น่าเชื่อถือ

อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

 

---------------------------------------------

อัพทุกวันเสาร์

.

ติดตามข่าวสารหรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ https://x.com/_Shy_Rabbit (●ˇ∀ˇ●)

สารบัญ

Memorise Sheep-0 บทนำ,Memorise Sheep-1 ครั้งแรก,Memorise Sheep-2 ที่ปรึกษา,Memorise Sheep-3 อีกแล้ว,Memorise Sheep-4 อยากกลับ,Memorise Sheep-5 กลับมาแล้ว,Memorise Sheep-6 ข้อความ,Memorise Sheep-7 วิจัย,Memorise Sheep-8 ทฤษฎี,Memorise Sheep-9 คืบหน้า,Memorise Sheep-10 เชิญชวน,Memorise Sheep-11 สวนสนุก,Memorise Sheep-12 หงุดหงิด,Memorise Sheep-13 เพื่อน,Memorise Sheep-14 ความฝัน,Memorise Sheep-15 ความหวัง,Memorise Sheep-16 บันทึก,Memorise Sheep-17 เรียกขวัญ,Memorise Sheep-18 ล่องลอย,Memorise Sheep-19 เห็นแก่ตัว,Memorise Sheep-20 คนคนนั้น

เนื้อหา

3 อีกแล้ว

ตลอดทั้งวันนี้ฉันนั่งจมอยู่ในความคิดของตัวเองทั้งวัน ถ้าคนภายนอกมองมา คงจะคิดว่าฉันคือคนที่จิตหลุดไปแล้ว

ซึ่งในความเป็นจริง ตอนเด็กๆ ฉันมักจะชอบเหม่อลอย ทางบ้านปู่กับย่ามีความเชื่อ ‘ขวัญ’ พวกเขาเชื่อกันว่าเป็นสิ่งที่อยู่ร่างกายคน สัตว์ หรือสิ่งของทุกอย่าง

ฉันไม่รู้ว่าก่อนหน้านั้นเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นถึงได้จัด ‘พิธีฮ้องขวัญ’ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แม่เล่าให้ฟังช่วงที่ฉันเรียนอยู่ชั้นประถม ด้วยความอยากรู้ที่มาของชื่อ ‘จอมขวัญ’ ฉันจึงตั้งคำถามกับแม่ในตอนนั้น

แต่ฉันก็ลืมถาม ว่าทำไมทุกคนถึงเรียกฉันว่า ‘จอม’ ทำไมไม่เรียกว่า ‘ขวัญ’ ทั้งที่ชื่อนี้ดูมีความเป็นผู้หญิงกว่าอันแรกเสียอีก

 

“จอม กลับบ้านยังไงเหรอ” อิงดาวเอ่ยถามขึ้น

ในตอนนี้ก็ได้เวลากลับบ้านแล้ว ถ้าตอนเช้าเป็นพ่อมาส่ง ฉันต้องนั่งรอพ่อถึงห้าโมงเย็น

“พ่อมารับน่ะ อิงจะกลับหรือยัง”

“ถ้างั้น... เรายังไม่กลับดีกว่า เดี๋ยวเรานั่งรอเป็นเพื่อน” ปกติแล้วอิงดาวจะนั่งรถประจำทางไปกลับโรงเรียน แต่ถ้านั่งรอเป็นเพื่อนฉันแบบนี้รถประจำทางจะหมดรอบก่อนหรือเปล่า

“ขอบใจนะ แต่เธอกลับก็ได้ เรานั่งรอคนเดียวได้” ฉันตอบกลับเป็นอย่างเป็นห่วง เพราะกลัวว่าอิงดาวจะกลับบ้านไม่ได้ และการที่ฉันนั่งรอแบบนี้ก็ไม่ได้ลำบากขนาดนั้น

อิงดาวทำท่าคิดก่อนจะพูด ราวกับว่าต้องการคิดวิธีการเอาตัวเองกลับบ้านให้ได้ และจะต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันได้ด้วยเหมือนกัน “แล้วพ่อเธอไปส่งเราที่บ้านได้ไหม... ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เรานั่งรถวินกลับได้”

“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ” พ่อฉันไม่ใช่คนใจร้ายสักหน่อย หรือถ้าพ่อคิดจะดุ ฉันก็แค่ไปบอกเล่าให้แม่ฟัง พ่อก็จะกลับมาเป็นพ่อที่ใจดีเหมือนเดิม

 

“พ่อ วันนี้แวะไปส่งเพื่อนหนูหน่อยนะ รถที่เพื่อนนั่งมันหมดรอบพอดี” ฉันบอกกับพ่อทันทีที่มาจอดรถ

“อืม ขึ้นมาสิ” พ่อหยักหน้ารับ พร้อมปลดล็อกประตูด้านหลังให้อิงดาวขึ้นมานั่ง

“ไปทางก็บอกมาเลยนะลูก ไม่ต้องอาย” ที่พ่อบอกแบบนั้น คงเป็นเพราะไม่อยากเปลืองน้ำมัน เพราะถ้าอิงดาวไม่บอกทาง เอาแต่แสดงท่าทีเขินอาย ต่อให้ตะวันตกดินไปแล้วก็น่าจะไม่ถึงบ้าน อาจจะต้องวิ่งวนหลายหมู่บ้านจนน้ำมันหมดกลางทาง

 

พวกเราเดินทางมาถึงบ้านอิงดาวแล้ว แต่สภาพตัวบ้านที่เห็นด้านหน้า เป็นบ้านไม้ที่ยกสูงจากพื้นดิน มีใต้ถุนบ้านเอาไว้นั่งเล่น

ฉันเห็นหญิงชราคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าเตาอั้งโล่ ในมือถือพัดเพื่อให้ไฟในเตาไม่ดับ ซึ่งเขาน่าจะกำลังทำกับข้าวมือเย็นอยู่

“ขอบคุณค่ะคุณลุง พรุ่งนี้เจอกันนะจอม” อิงดาวก้าวลงจากรถและกล่าวอำลา

ฉันไม่เห็นพ่อแม่ของเธอเลย มีเพียงหญิงชราคนนั้น อาจจะเป็นย่าหรือยายของเธอสักคน แต่ฉันคงไม่ถามเรื่องกับเธอหรอก ให้เธอเป็นคนพูดเองจะดีต่อตัวเธอมากกว่า

“ดูเหมือนจะอยู่กันแค่สองคนยายกับหลานนะ” พ่อพูดขึ้น

“ไม่รู้สิ เราตัดสินคนจากภายนอกไม่ได้ พ่อแม่เขาน่าจะออกไปทำงานที่ต่างจังหวัดเหมือนพ่อกับแม่ก็ได้” ฉันกล่าวตอบ

พ่อแม่ของอิงดาวอาจจะไปทำงานที่ต่างจังหวัด และส่งเงินมาให้ลูกเรียนก็ได้ หรือทางคิดในทางที่แย่ที่สุด...

 

“แม่จ๋า หนูกลับมาแล้ว” ฉันวิ่งเข้าบ้านด้วยความร่าเริง และมุ่งตรงเข้าไปในห้องครัวทันที คาดหวังว่าจะมีอะไรกินหลังจากที่กลับมาจากการเรียนสุดเหนื่อย

“ทำไมลูกใส่ชุดนักเรียนล่ะ นี่มันวันปิดเทอม...”

“อะไรนะ!?”

ฉันแทบจะตะโกนใส่หน้าแม่อยู่แล้ว แม่กำลังถามเรื่องอะไรอยู่ โรงเรียนเพิ่งจะเปิดได้สองวัน ทำไมปิดเทอมแล้วล่ะ

“เป็นอะไรหรือเปล่า” แม่เอ่ยถามด้วยความสงสัย คงจะแปลกใจว่าทำไมวันนี้ฉันถึงใส่ชุดนักเรียน

“แม่”

“หืม” แม่ตอบกลับ ในขณะที่เขายังล้างผักอยู่

“วันนี้แม่ได้ไปช่วงลุงกับมะม่วงไหม” ถ้าเป็นคำถามนี้คงจะพิสูจน์อะไรได้หลาย ๆ อย่าง

“ไม่นะ เราเพิ่งจะเก็บเมื่อสองสัปดาห์ก่อน...”

ฉันฟังคำตอบของไม่จบ แค่ได้ยินคำปฏิเสธ เท้าของฉันแทบจะก้าวออกไปทันที และมุ่งตรงไปที่ห้องนอน พร้อมกับเปิดคอมพิวเตอร์

 

เวลาสิบแปดนาฬิกา วันที่ยี่สิบสาม เดือนเมษายน

 

เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย!?

 

อีกแล้ว... เป็นแบบนี้อีกแล้ว ตอนฉันเปิดประตูเข้ามาในบ้าน ท้องฟ้าไม่ได้เปลี่ยนสี ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีเสียงแปลก ๆ ที่ได้ยินในตอนนั้น

ฉันรีบวิ่งลงบันไดไปหาแม่ “แม่ แล้วพ่ออยู่ไหน”

“ลูกนั่งรถไปตลาดกับพ่อนะ ไม่ได้กลับมาพร้อมกันเหรอ หรือลูกนั่งวินกลับมาก่อน” ยิ่งแม่ตอบกลับมาแบบนั้น ความคิดในหัวก็ยิ่งตีกัน

“ค่ะ หนูปวดท้อง เลยกลับมานอนพัก”

“ถ้าปวดท้องหนักมาก็กินยาด้วย”

“ค่ะ”

“ขึ้นไปนอนพักเถอะ ถ้าแม่ทำอาหารเสร็จแล้วจะขึ้นไปเรียก”

ฉันพยักหน้าตอบกลับ และเดินขึ้นไปบนห้อง ไม่รู้ว่าเงื่อนไขในการออกจากที่นี่ครั้งนี้จะเป็นอะไร เป็นประตูห้องน้ำบานเดิมอีกหรือเปล่า

พอเดินถึงห้อง ฉันก็ล้มตัวลงบนเตียงนอนทันที

ทำไมต้องเป็นฉันอีกแล้ว

สิ่งที่มันควรจะเป็นตอนนี้คือ ฉันกลับมากินข้าวเย็นกับพ่อแม่ และขึ้นไปทำการบ้าน เล่นเกม และนอนหลับอย่างสบายใจ

แต่ดูตอนนี้สิ!! ยิ่งกว่ามรสุมชีวิตซะอีก ชีวิตเด็กมัธยมปลายจำเป็นต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย

พอมาคิดดูแล้ว ถ้าเป็นการย้อนเวลาจริง ทำไมฉันถึงไม่ได้อยู่ร่างเดิมล่ะ ทำไมฉันถึงเข้ามาพร้อมกับสิ่งของที่อยู่ในช่วงปัจจุบัน ณ ตอนนี้ฉันควรจะเข้าไปอยู่ในร่างกายที่เดินตลาดกับพ่ออยู่ตอนนี้

แล้วถ้าเกิดว่าตัวตนฉันอีกคนกลับมาล่ะ พ่อกับแม่กับสงสัยหรือเปล่าว่าทำไมมีลูกสองคน

อ่า... มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย

ฉันได้แต่บ่นกับตัวเองในใจ ถ้าตะโกนออกไปแม่อาจจะเป็นห่วงก็ได้

แล้วเงื่อนไขในการออกจากที่นี่คืออะไร ทำไมถึงไม่มีข้อความปรากฏขึ้นเหมือนครั้งที่แล้ว หรือว่าฉันจะลองไปประตูห้องน้ำบานนั้น ถ้ามันเหมือนเดิมก็จะได้กลับไปที่ปัจจุบัน แล้วจะได้ไม่เจอตัวฉันในอดีตด้วย

ฉันดันร่างกายของตัวเองให้ลุกขึ้น และเดินไปที่ประตูห้องน้ำบานเดิม

ไม่ลองไม่รู้

ฉันดันประตูเข้าไป พร้อมกับพาร่างกายของตัวเองเข้าไปในห้องน้ำด้วย พอเวลาผ่านไปสักพัก จึงออกมาจากห้องน้ำ และเดินไปที่ห้องนอนของตัวเอง พร้อมกับจ้องมองคอมพิวเตอร์ที่ยังเปิดอยู่

 

เวลาสิบแปดนาฬิกาสามสิบนาที วันที่ยี่สิบสาม เดือนเมษายน

 

ฉิบหายแล้ว...