จอมขวัญ เด็กสาวที่เพิ่งจะเข้าช่วงมัธยมปลาย และดูเหมือนชีวิตในโรงเรียนใหม่กำลังเริ่มต้นไปได้ด้วยดี แต่กลับต้องเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องสูญเสียคนสำคัญ

Memorise Sheep - 10 เชิญชวน โดย livven @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไซไฟ,แฟนตาซี,หญิง-หญิง,ข้ามเวลา,ดราม่า,ข้ามเวลา,โลกคู่ขนาน,เพื่อน,มิตรภาพ,นักเรียน,ดราม่า,ยูริ,yuri,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Memorise Sheep

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ไซไฟ,แฟนตาซี,หญิง-หญิง,ข้ามเวลา,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ข้ามเวลา,โลกคู่ขนาน,เพื่อน,มิตรภาพ,นักเรียน,ดราม่า,ยูริ,yuri,แฟนตาซี,ทะลุมิติ

รายละเอียด

จอมขวัญ เด็กสาวที่เพิ่งจะเข้าช่วงมัธยมปลาย และดูเหมือนชีวิตในโรงเรียนใหม่กำลังเริ่มต้นไปได้ด้วยดี แต่กลับต้องเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องสูญเสียคนสำคัญ

ผู้แต่ง

livven

เรื่องย่อ

Memorise Sheep

(ความทรงจำของแกะน้อย)

 

ผู้เขียน : livven

 

ภาพ : Kewrom

---------------------------------------------

 

เรื่องย่อ

จอมขวัญ เด็กสาวที่เรียนจบมัธยมต้น และตอนนี้ได้ย้ายโรงเรียนใหม่เพื่อที่จะเข้าเรียนมัธยมปลาย

ในวันแรกที่โรงเรียนใหม่นั้น เป็นไปได้ด้วยดี เพื่อนคนแรกที่เข้ามาทักทายทำให้เขารู้สึกอุ่นใจมากขึ้น

แต่แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น มันจะเรียกว่าอะไรดีล่ะ ย้อนเวลา... ความฝัน... ทะลุมิติ...

จอมขวัญที่เป็นคนอ่านนิยายหรือดูภาพยนตร์มาเยอะ ได้สันนิษฐานไปเรื่อย

แต่แล้วก็มีลางสังหรณ์เกิดขึ้นในจิตใจ บ่งบอกว่านี่มันผิดธรรมชาติ มันอยู่เหนือกฎเกณฑ์ของโลก

ไม่รู้ว่าหนทางแก้ไขของเรื่องนี้คืออะไร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นวิทยาศาสตร์หรือไสยศาสตร์กันแน่...

.

"เราชื่ออิง อิงดาวน่ะ"

"อืม... เราชื่อจอม จอมขวัญ"

.

ขอให้ความทรงจำของพวกเราอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวตลอดไป

 

---------------------------------------------

 

Trigger warning

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

เนื้อหาบางส่วน ถ้อยคำพูดหรือพฤติกรรมที่มีความรุนแรงไม่เหมาะสมกับผู้อ่านอายุต่ำกว่า 18ปี

ข้อมูลในเนื้อหาบางส่วน อาจจะมีแหล่งอ้างอิงที่ไม่น่าเชื่อถือ

อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

 

---------------------------------------------

อัพทุกวันเสาร์

.

ติดตามข่าวสารหรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ https://x.com/_Shy_Rabbit (●ˇ∀ˇ●)

สารบัญ

Memorise Sheep-0 บทนำ,Memorise Sheep-1 ครั้งแรก,Memorise Sheep-2 ที่ปรึกษา,Memorise Sheep-3 อีกแล้ว,Memorise Sheep-4 อยากกลับ,Memorise Sheep-5 กลับมาแล้ว,Memorise Sheep-6 ข้อความ,Memorise Sheep-7 วิจัย,Memorise Sheep-8 ทฤษฎี,Memorise Sheep-9 คืบหน้า,Memorise Sheep-10 เชิญชวน,Memorise Sheep-11 สวนสนุก,Memorise Sheep-12 หงุดหงิด,Memorise Sheep-13 เพื่อน,Memorise Sheep-14 ความฝัน,Memorise Sheep-15 ความหวัง,Memorise Sheep-16 บันทึก,Memorise Sheep-17 เรียกขวัญ,Memorise Sheep-18 ล่องลอย,Memorise Sheep-19 เห็นแก่ตัว,Memorise Sheep-20 คนคนนั้น

เนื้อหา

10 เชิญชวน

เมื่อถึงวันสุดท้ายของการสอบกลางภาค ทุกคนก็รับรู้ได้ถึงความเป็นอิสระ แต่กับบางคนก็ไม่ใช่แบบนั้น

“พร้อมแก้แล้ว! จะกี่วิชาก็ดาหน้ากันเข้ามาเลย!” ดรีมตะโกนเสียงดัง

“ใจเย็นๆ อาจจะผ่านหมดก็ได้” ฉันตอบกลับไป และตบที่บ่าของดรีมเพื่อปลอบใจ

“มึงเก่งอ่า มึงก็มีสิทธิ์พูด มึงดูพวกกูแต่ละคนดิ” ดรีมพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน

“มันก็... ไม่ได้ยากเท่าไหร่” เบลเอ่ยขึ้น

“เอ้า มึงจะทิ้งกูไปอีกคนเหรอเบล”

เบลส่ายหน้าและก้มหน้าลงต่ำเพราะเขากำลังกลั้นขำอยู่

เบลเป็นคนที่เรียนได้ปานกลาง ไม่ได้เก่งมาก แต่ก็ไม่โง่ขนาดนั้น ต่างกับฉันที่เป็นคนเรียนรู้ค่อนข้างเร็ว และ... ลืมง่ายซะด้วย

“แต่เราไม่ทิ้งดรีมนะ” อิงดาวพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มทั้งน้ำตา

“นี่สิเพื่อนแท้!” ดรีมกระโจนเข้าไปกอดอิงดาวทันทีที่สิ้นเสียง

ฉันได้แต่นั่งมองเพื่อนที่สนทนากันด้วยความรู้สึกเวทนา ทำยังไงได้... ในเมื่อตอนสอบไม่สามารถลอกกันได้เหมือนกับตอนทำการบ้าน คราวนี้ก็คงต้องพึ่งบุญบารมีในชาติก่อนแล้วล่ะ

ระหว่างที่อยู่ในสัปดาห์สอบ ฉันมีความคิดที่อยากจะชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวเล่นสวนสนุก แต่ไม่รู้ว่าจะมีใครสนใจไปด้วยกันบ้างไหม

“เอ่อ... วันเสาร์นี้ มีใครสนใจไปเที่ยวสวนสนุกกันไหม”

“ไป!” ทุกคนตอบกลับอย่างเสียงดังด้วยความพร้อมเพรียง

“ไปทุกคนเลยใช่ไหม” ฉันถามย้ำอีกครั้ง เพื่อให้พวกเขาลองคิดทบทวนคำถามอีกรอบ

“ก็เครียดมาทั้งสัปดาห์แล้ว ได้ไปเที่ยวบ้างก็คงจะดี” เบลตอบกลับ

“ใช่ๆ แต่ว่ากูขอชวนแฟนไปด้วยได้ไหม” ดรีมเอ่ยถาม

“ได้ดิ ไปเยอะๆ ก็สนุกดี เดี๋ยวเราจะลองไปชวนพวกหลิวด้วย”

“ดีมาก กูขอตัวไปหาแฟนสุดที่รักก่อน” ดรีมพูดจบก็เดินจากไป มุ่งหน้าตรงไปยังห้องเรียนของน้องมัธยมศึกษาปีที่สาม

“โคตรติดแฟนเลยอะ” เบลกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“ก็มีดิ” ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ

“หาง่ายมากมั้ง!?”

“ลองไปจีบเขาก่อน ถ้าจีบไม่ติดค่อยหาคนใหม่”

“ไม่อะ เป็นคนรักเดียวใจเดียว จะจีบจนกว่าเขาจะเห็นความจริงใจของกู”

“จ๊ะ แม่คนรักเดียวใจเดียว” ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “ว่าแต่... มีคนที่แอบชอบแล้วเหรอ” ฉันเอ่ยถามต่ออีกสักนิด เพราะเบลไม่เคยกล่าวถึงคนที่เขาแอบชอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว

“ก็มี นานแล้วด้วย” เบลเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ กว่าเขาจะเอ่ยประโยคสุดท้ายก็ทิ้งช่วงนานพอสมควร

แต่ที่น่าแปลกใจที่สุดคือ อิงดาวนั่งเงียบอยู่คนเดียว ไม่ได้สนทนากับใคร ไม่ทำอะไร นั่งเหม่อลอยมองท้องฟ้าอยู่แบบนั้นหลังจากที่ตอบรับคำเชิญชวนเมื่อครู่

“อิง เป็นอะไรหรือเปล่า” ฉันเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ยินที่ฉันถาม ฉันเลยยื่นมือไปสะกิดเล็กน้อย

“อะ ขอโทษนะ” อิงดาวสะดุ้งตกใจ พร้อมกับหันหน้ามากล่าวขอโทษฉัน

“เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายเหรอ” ฉันเห็นริมฝีปากของอิงดาวสีซีดเผือดกว่าปกติ จึงเอ่ยถามและยื่นมือไปสัมผัสที่หน้าผากของเธอเบาๆ เพื่อวัดอุณหภูมิร่างกาย

“เราไม่เป็นอะไร แค่... สอบเสร็จแล้วสบายใจน่ะ จะได้พักสักที” อิงดาวตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม แต่ทำไมฉันรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นไม่ใช่รอยยิ้มของความสุข

“เราขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

“เราไปด้วย”

อิงดาวพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่ฉันอาสาจะเป็นห้องน้ำเป็นเพื่อน

ไม่รู้ว่าฉันคิดมากไปเองหรือเปล่า แต่ช่วงหลังๆ มานี้ อิงดาวไม่ค่อยสดใสเหมือนเมื่อก่อน รอยยิ้มก็เปลี่ยนไปจากเดิม สีหน้าที่ปรากฏก็ดูเหมือนคนที่มีอะไรให้คิดตลอดเวลา

ถ้าฉันถามอะไรไปตอนนี้ จะดูเหมือนคนชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านไหม

ระหว่างทางที่เดินไปห้องน้ำ ฉันคิดในใจว่าควรจะถามออกไปดีไหม ถ้าถามก็จะได้คำตอบ แต่ถ้าไม่ถามก็ไม่ได้อะไรเลย นั่นน่ะสิ... มันเป็นคติประจำใจของฉันนี่ ต้องลองทำก่อนถึงรู้ผลลัพธ์ ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็จะเสียใจภายหลัง

“อิง มันอาจจะดู... ใส่ใจเรื่องเธอไปหน่อย แต่ช่วงนี้มีอะไรหรือเปล่า เธอดูแปลกๆ น่ะ”

ตอนนี้อิงดาวกำลังเดินนำหน้าฉัน แต่เธอก็หันหลังกลับมาตอบ “ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะ”

ลำบากอะไรล่ะ เธอต่างหากที่ลำบาก ไม่รู้ว่าตัวแค่นี้แบกรับปัญหาอะไรเอาไว้บ้าง หากมีอะไรที่ฉันพอช่วยได้ ฉันก็อยากที่จะให้ความช่วยเหลือนั้นแก่เธอ

“แม่น่ะ ช่วงนี้ฉันติดต่อแม่ไม่ได้เลย แล้วก็ไม่ได้โอนเงินมาหลายเดือนแล้วด้วย จอมอย่าเพิ่งเข้าใจเราผิดนะ เราไม่ได้เป็นห่วงเรื่องเงินขนาดนั้น เราแค่เป็นห่วงแม่ ตอนนี้แม่จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ โทรไปก็ไม่รับสาย จดหมายที่ส่งไปก็ไม่เคยตอบกลับ”

ขณะที่อิงดาวพูด เธอก็พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา และนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นอิงดาวพูดยาวขนาดนี้

“เรื่องเงิน... เธอไม่ต้องห่วงหรอก เอาของเราไปใช้ก่อนก็ได้ ส่วนเรื่องแม่...”

ไม่รู้ ไม่รู้เลยว่าควรจะพูดต่อยังไงดี จะกล่าวคำไหนให้ดูเหมือนไม่ล้ำเส้น เพราะฉันเป็นคนนอก ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้... แต่อิงดาวเป็นเพื่อนฉันนี่ ถ้าจะให้มองข้ามไปมันก็ดูโหดร้ายเกินไปหน่อยไหม

“ขอบใจนะ แต่วันเสาร์เราคงไปไม่แล้วล่ะ” อิงดาวเอ่ยขึ้น

“ทำไม”

“เรามีเงินไม่พอสำหรับเดือนนี้ด้วยซ้ำ ถ้าไปเที่ยวกับพวกเธออีก ยายคงจะไม่ให้อภัยเราแน่”

“แต่ตอนนั้นเธอตอบตกลงแล้ว เราไม่อยากให้เธอกลับคำพูดนะ”

“แล้วไง พวกเธอไปกันเถอะ” อิงดาวพูดจบก็หันหลังและจากไป

เธอเดินเร็วขึ้นกว่าเดิม เหมือนอยากจะวิ่งหนีให้ไกลจากฉันมากที่สุด แต่ยังไงขาของฉันก็ยาวกว่า ระยะห่างแค่นี้ฉันตามเธอทันอยู่แล้ว

“เดี๋ยวก่อน” ฉันเดินเข้าไปจับแขนอิงดาว และหวังว่าเธอจะฟังคำพูดของฉันต่ออีกสักนิด

“ไปด้วยกันเถอะนะ เรื่องเงินน่ะ... ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ไปเที่ยวให้สนุกด้วยกันก่อนเถอะ ส่วนปัญหามันต้องมีทางแก้อยู่แล้ว ถึงตอนนั้นเราค่อยมาทางแก้ไขมันอีกทีนะ”

ฉันได้แต่หวังว่าคำที่กล่าวออกไปจะพอเกลี้ยกล่อมและทำให้อิงดาวใจเย็นลงได้บ้าง ถึงแม้ว่าเรื่องปลอบใจคนอื่นจะไม่ใช่เรื่องถนัดก็ตาม แต่เรื่องการโน้มน้าวใจก็พอจะมีทักษะอยู่บ้าง

“...”

“เถอะนะ ไม่ต้องคิดว่าทำเพื่อเราก็ได้ แต่ทำเพื่อคุณยายของเธอไง เราเชื่อว่าคุณยายอยากให้เธอมีความสุขนะอิง”

“อืม ขอโทษที่พูดแบบนั้นกับเธอนะ”

“ไม่เป็นไร อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ดีขึ้นแล้ว กลับมาเป็นอิงดาวคนเดิมเร็วๆ นะ เราชอบอิงดาว... คนที่เข้ามาทักทายเราตั้งแต่วันแรกคนนั้นนะ จะได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้นตอนไหนอีกเหรอ”

“พูดบ้าก็ไม่รู้ ไปเข้าห้องน้ำแล้ว!”

อยู่ใบหน้าของอิงดาวก็ขึ้นสีแดงระเรื่อราวกับลูกพีช มันก็ดูน่ารักดี แต่ฉันพูดอะไรแปลกๆ ไปหรือเปล่า ทำไมตอนที่ฉันพูดประโยคนั้นเธอต้องรีบเดินออกไปด้วย

แต่ดูจากท่าทางแล้ว น่าจะอารมณ์ดีขึ้นมากแล้วล่ะ