จอมขวัญ เด็กสาวที่เพิ่งจะเข้าช่วงมัธยมปลาย และดูเหมือนชีวิตในโรงเรียนใหม่กำลังเริ่มต้นไปได้ด้วยดี แต่กลับต้องเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องสูญเสียคนสำคัญ

Memorise Sheep - 13 เพื่อน โดย livven @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไซไฟ,แฟนตาซี,หญิง-หญิง,ข้ามเวลา,ดราม่า,ข้ามเวลา,โลกคู่ขนาน,เพื่อน,มิตรภาพ,นักเรียน,ดราม่า,ยูริ,yuri,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Memorise Sheep

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ไซไฟ,แฟนตาซี,หญิง-หญิง,ข้ามเวลา,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ข้ามเวลา,โลกคู่ขนาน,เพื่อน,มิตรภาพ,นักเรียน,ดราม่า,ยูริ,yuri,แฟนตาซี,ทะลุมิติ

รายละเอียด

จอมขวัญ เด็กสาวที่เพิ่งจะเข้าช่วงมัธยมปลาย และดูเหมือนชีวิตในโรงเรียนใหม่กำลังเริ่มต้นไปได้ด้วยดี แต่กลับต้องเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องสูญเสียคนสำคัญ

ผู้แต่ง

livven

เรื่องย่อ

Memorise Sheep

(ความทรงจำของแกะน้อย)

 

ผู้เขียน : livven

 

ภาพ : Kewrom

---------------------------------------------

 

เรื่องย่อ

จอมขวัญ เด็กสาวที่เรียนจบมัธยมต้น และตอนนี้ได้ย้ายโรงเรียนใหม่เพื่อที่จะเข้าเรียนมัธยมปลาย

ในวันแรกที่โรงเรียนใหม่นั้น เป็นไปได้ด้วยดี เพื่อนคนแรกที่เข้ามาทักทายทำให้เขารู้สึกอุ่นใจมากขึ้น

แต่แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น มันจะเรียกว่าอะไรดีล่ะ ย้อนเวลา... ความฝัน... ทะลุมิติ...

จอมขวัญที่เป็นคนอ่านนิยายหรือดูภาพยนตร์มาเยอะ ได้สันนิษฐานไปเรื่อย

แต่แล้วก็มีลางสังหรณ์เกิดขึ้นในจิตใจ บ่งบอกว่านี่มันผิดธรรมชาติ มันอยู่เหนือกฎเกณฑ์ของโลก

ไม่รู้ว่าหนทางแก้ไขของเรื่องนี้คืออะไร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นวิทยาศาสตร์หรือไสยศาสตร์กันแน่...

.

"เราชื่ออิง อิงดาวน่ะ"

"อืม... เราชื่อจอม จอมขวัญ"

.

ขอให้ความทรงจำของพวกเราอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวตลอดไป

 

---------------------------------------------

 

Trigger warning

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

เนื้อหาบางส่วน ถ้อยคำพูดหรือพฤติกรรมที่มีความรุนแรงไม่เหมาะสมกับผู้อ่านอายุต่ำกว่า 18ปี

ข้อมูลในเนื้อหาบางส่วน อาจจะมีแหล่งอ้างอิงที่ไม่น่าเชื่อถือ

อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

 

---------------------------------------------

อัพทุกวันเสาร์

.

ติดตามข่าวสารหรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ https://x.com/_Shy_Rabbit (●ˇ∀ˇ●)

สารบัญ

Memorise Sheep-0 บทนำ,Memorise Sheep-1 ครั้งแรก,Memorise Sheep-2 ที่ปรึกษา,Memorise Sheep-3 อีกแล้ว,Memorise Sheep-4 อยากกลับ,Memorise Sheep-5 กลับมาแล้ว,Memorise Sheep-6 ข้อความ,Memorise Sheep-7 วิจัย,Memorise Sheep-8 ทฤษฎี,Memorise Sheep-9 คืบหน้า,Memorise Sheep-10 เชิญชวน,Memorise Sheep-11 สวนสนุก,Memorise Sheep-12 หงุดหงิด,Memorise Sheep-13 เพื่อน,Memorise Sheep-14 ความฝัน,Memorise Sheep-15 ความหวัง,Memorise Sheep-16 บันทึก,Memorise Sheep-17 เรียกขวัญ,Memorise Sheep-18 ล่องลอย,Memorise Sheep-19 เห็นแก่ตัว,Memorise Sheep-20 คนคนนั้น

เนื้อหา

13 เพื่อน

พวกเราเดินมาถึงร้านขายน้ำแล้ว ฉันสั่งแม่ค้าไปว่าเอาน้ำหวานแดงสองแก้ว ระหว่างที่ยืนรออยู่ มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินตรงมาที่ฉัน

ตอนแรกฉันนึกว่าเขาจะเข้ามาสั่งน้ำ จึงหลีกทางออกมาให้เพื่อให้พื้นที่ตรงหน้าร้านว่างสำหรับลูกค้าคนถัดไป แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้มาสั่งน้ำหรือซื้อของจากร้านนี้

“ขอไอจีหน่อยได้ไหมครับ”

เด็กหนุ่มอายุราวประมาณสิบแปดปีเอ่ยประโยคนั้นขึ้นเมื่อเดินเข้ามาและหยุดตรงหน้าฉัน นี่คือประโยคจีบสาวหรือเปล่า... หรือว่าโดนเพื่อนในกลุ่มท้ามาอีกที

“คืออะไรคะ” ฉันตอบกลับแบบนั้นเพราะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ ถ้าจะมาจีบกันจริงๆ ตอนนี้ฉันไม่พร้อมจะมีใคร ถึงหน้าตาเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าจะดีมากจนเหมือนหลุดออกมาจากในอนิเมะ แต่สำหรับฉัน... มันยังไม่ใช่คนคนนี้ คู่ชีวิตฉันไม่ใช่คนนี้แน่นอน

“เอ่อ... ช่องทางการติดต่อก็ได้ครับ” เด็กหนุ่มก็ยังไม่ลดละความพยายาม พร้อมกับส่งสายตาขอร้องอ้อนวอนราวกับลูกหมาที่หิวโหย

“ขอโทษนะคะ แต่นายเป็นคนแปลกหน้า เราไม่อยาก...”

“ไม่เป็นไรครับ ถ้างั้นช่องทางติดต่อน้องสาวเธอได้ไหม”

อิงดาวที่ยืนดูบทสนทนาอยู่นานก็เริ่มรู้สึกตัวว่า ตัวเองกำลังถูกเล็งเป็นเป้าหมายต่อไป

“เธอเป็นเพื่อนค่ะ ไม่ใช่น้องสาว” ฉันโต้ตอบกลับไปทันที เพื่อให้เด็กหนุ่มคนนั้นเข้าใจผิด

มันก็น่าเข้าใจผิดอยู่หรอก ความจริงอิงดาวสูงเท่าปลายคางของฉัน แต่วันนี้ฉันใส่รองเท้าผ้าใบเสริมส้นมาด้วย เลยทำให้ตอนนี้เธอสูงแค่บ่าของฉัน

“อ้าว ขอโทษด้วยนะ แต่... ขอได้หรือเปล่า”

“เอ่อ... นายจะจีบจอมขวัญเหรอ” อิงดาวรู้ว่าฉันไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัว การที่อิงดาวเอ่ยคำถามนี้กับเด็กหนุ่มคงจะเป็นการหยั่งเชิงอีกฝ่าย

เด็กหนุ่มอ้ำอึ้งอยู่สักพักก่อนจะพูดออกมา “ใช่”

“ถ้างั้นเราก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายถามจอมเองเถอะ”

การกระทำของอิงดาวในครั้งนี้เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับฉันมาก เธอไม่ได้คิดแทนฉัน และยังให้ฉันเป็นคนตัดสินใจเองด้วยซ้ำ

“นายไปเถอะ เราไม่พร้อมจะมีแฟน”

“แต่คุยกันก่อนก็ได้นี่”

“ไม่ล่ะ ขอบคุณนะที่เข้ามาสนใจในตัวเรา แต่เราไม่สนใจในตัวนาย”

“...อืม”

หลังจากนั้นเด็กหนุ่มก็เดินออกไปด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

ไม่รู้ว่าที่พูดปฏิเสธออกไปแบบนั้นจะทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายมากแค่ไหน ได้แต่หวังว่าอีกฝ่ายจะก้าวออกจากความรู้สึกนั้นให้เร็วที่สุด อย่าจมอยู่กับความรู้สึกนั้นนานกว่านี้

“จอมไม่สนใจคุยกับเขาหน่อยเหรอ” อิงดาวเอ่ยถาม

“ไม่อะ ตอนนี้เราสนใจแค่เรื่องเรียนกับเพื่อนในกลุ่มมากกว่า ยังไม่พร้อมมีแฟนน่ะ”

ฉันไม่เคยคิดภาพตอนตัวเองมีแฟนเลยสักครั้ง เพราะทุกวันนี้แค่เรียนก็ผลาญเวลาชีวิตไปหมดแล้ว ยิ่งเรียนสูงขึ้นเวลาในการหาความสุขให้ตัวเองก็เริ่มน้อยลง

ยิ่งก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นกับตัวเองด้วย ทำให้ฉันไม่มีเวลาเล่นเกมเหมือนกับตอนมัธยมต้นเลยสักวัน ถึงเหตุการณ์จะไม่เกิดขึ้นมาหนึ่งเดือนแล้ว แต่ลางสังหรณ์มันบอกว่า ยังไม่จบ...

“...ดีแล้วล่ะ” อิงดาวพูดอะไรก่อนหน้านี้หรือเปล่า ฉันไม่ทันได้ฟังประโยคก่อนหน้านี้เลย มัวแต่จมอยู่กับความคิดของตัวเองจนไม่ได้ฟังสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ เริ่มอาการหนักแล้ว

 

เมื่อได้น้ำที่สั่งมาแล้ว พวกเราสองคนก็เดินกลับมาที่เก้าอี้ด้านหน้าเครื่องเล่นบ้านผีสิงที่มีผู้ป่วยสองคนกำลังนั่งรออยู่

ไม่รู้จะเรียกว่าผู้ป่วยได้หรือเปล่า แต่ทำยังไงได้... ในเมื่อคนหนึ่งวิ่งหนีจนหายใจไม่ทันกับอีกคนที่กลัวความมืด ไม่รู้ว่าเสแสร้งหรือเปล่า แต่ถ้าเกิดว่าป่วยเป็นโรคนั้นจริงๆ คงจะต้องลดอคติที่เคยมีมาก่อนหน้านี้

หลังจากที่ให้น้ำหวานแดงกับสองคนนั้นไป ก็ดูเหมือนอาการจะดีขึ้นมาบ้าง

พอนั่งพักจนอาการดีขึ้น พวกเราเห็นพร้อมต้องกันว่าจะไปเล่นรถบั๊มคลายเครียดก่อนจะไปต่อที่เครื่องเล่นไวกิ้งสุดโหด เพื่อดำเนินการแก้แค้นของเหมยต่อ

ส่วนดรีมกับแฟนที่แยกออกไปก่อนหน้านี้ อยู่ๆ ก็บังเอิญเจอกันระหว่างทางเดินไปเล่นไวกิ้ง จึงทำให้พวกเราได้กลับมารวมตัวอีกครั้งก่อนมื้ออาหารกลางวัน

“ใครมันเป็นคนวางแผนวะ ให้กินข้าวหลังเล่นไวกิ้งเนี่ยนะ คิดอะไรอยู่” พรีมบ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

ก็ไม่แปลกใจเท่าไรที่จะรู้สึกไม่พอใจขนาดนี้ เพราะเครื่องเล่นไวกิ้งไม่ได้เป็นมิตรต่อคนที่ขึ้นไปเล่นทุกคนสักทีเดียว บางคนอาเจียนหลังจากที่ลงจากเครื่องเล่น บางคนเป็นลมขณะที่กำลังนั่งอยู่บนเครื่องเล่นเลยก็มี

“ก็ตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ” เหมยกล่าวน้ำเสียงราบเรียบ

“...ก็ใช่ แต่มันกินไม่ลง” พรีมพูดก่อนจะถอนหายใจ

“กินๆ ไปเถอะ เดี๋ยวไปเล่นต่อก็อ้วกออกมา” หลิวกล่าวทั้งที่กำลังทานข้าวในจานของตัวเอง

“อี๋... พูดอะไรน่าเกลียด ไม่อ้วกหรอก เสียดายของ” พรีมกล่าวตอบ

“ถ้างั้นก็หยุดพูดเรื่องอ้วกไม่อ้วกตอนกินข้าวได้ไหม เพื่อนกินไม่ลงแล้วน่ะ” เหมยเริ่มอารมณ์เสียนิดๆ ถ้าให้เปรียบเทียบกลุ่มเพื่อนเป็นครอบครัว เหมยก็เหมือนแม่ของคนในกลุ่ม คอยห้ามปราบและชี้แนะทุกอย่าง

ส่วนพวกเราที่เหลือก็เป็นแค่ลูกเป็ดที่เดินตามแม่เป็ดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะคำแนะนำพวกนั้นมันสามารถใช้ได้จริงและดูสมเหตุสมผลมากที่สุด

หลังจากที่เหมยพูดโพล่งออกไปแบบนั้น ทุกคนก็เริ่มเงียบและตั้งใจทานข้าวที่อยู่ตรงหน้าของตัวเองอย่างตั้งใจราวกับว่าจะโดนดุ ถ้าหากข้าวร่วงหล่นออกจากจานสักเม็ดเดียว

แต่พอทุกคนเริ่มเงียบ ฉันเริ่มมองและสังเกตสิ่งที่อยู่รอบข้าง

ความจริงแล้วฉันเป็นคนที่ชอบมองสิ่งที่อยู่รอบตัวอยู่เสมอ มันเป็นนิสัยติดตัวมาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะพ่อมักจะสอนฉันว่า ให้ระมัดระวังตัวและสังเกตสิ่งที่อยู่รอบข้าง ถ้าเกิดอันตรายอะไรจะได้โทรแจ้งตำรวจและสถานที่อย่างชัดเจน

ซึ่งมันก็เป็นข้อดีมากๆ เพราะตอนนี้ฉันสังเกตได้ว่า มีคนกำลังตามฉันอยู่

ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือสวนสนุกมันแคบ เด็กหนุ่มที่มาขอไอจีตอนนั้นถึงได้มาอยู่ข้างๆ ฉันตลอด

ตอนที่กำลังเล่นรถบั๊มอยู่ ฉันก็มองเหลือบไปเห็นเขากำลังมองมาที่ฉัน ตอนที่เล่นไวกิ้งฉันไม่ได้สังเกตว่าเขากำลังมองฉันอยู่หรือเปล่า แต่ตอนที่ลงมาจากเครื่องเล่นฉันเห็นว่าเขากำลังลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าเครื่องเล่น

น่ากลัว...

สวนสนุกอาจจะแคบตามที่ฉันคิดจริงๆ นั่นแหละ เพราะตอนนี้เขาก็มานั่งกินข้าวอยู่ข้างหน้าฉัน เด็กหนุ่มคนนั้นนั่งห่างจากโต๊ะของพวกเราไปสามโต๊ะ เป็นระยะห่างที่ไกลแต่ก็ไม่ใกล้จนเกิดไป เหมาะแก่การจ้องมองคนที่แอบชอบ

แต่น่าเสียดายที่ระยะห่างสามโต๊ะนั้น ไม่มีใครมานั่งเพื่อบดบังมาสายตา มันเลยทำให้เห็นแววตาของอีกฝ่ายได้ดีกว่าเดิม ว่าเขากำลังจ้องมองฉันอยู่

“จอม คนนั้น...” อิงดาวพูดกระซิบเสียงเบาที่ข้างใบหูของฉัน

ฉันพยักหน้าตอบรับก่อนที่อิงดาวจะพูดจบ “รู้แล้ว”

“คุยไรกันอะ” หลิวพูดแทรกขึ้นมา

“พอดีกูเลี้ยงเสือในเกมอะ ไม่รู้จะตั้งชื่ออะไรดี ก็เลยเติม ก.ไก่ เข้าไปเพิ่มจากคำว่าเสือ”

“อืม... เสือ...” หลิวเงียบไปสักพัก ก็จะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเชิงตะคอก “ไอ้จอม!!”

 

แล้วพวกเราก็เดินมาที่เครื่องเล่นสุดท้ายก่อนที่จะกลับบ้าน เครื่องเล่นนี้เป็นเครื่องเล่นสบายๆ ไม่ได้หวาดเสียวจนต้องร้องขอชีวิต แต่พรีมก็รู้สึกกลัว

เครื่องเล่นนี้เป็นการนั่งบนถ้วยน้ำชา พอเครื่องเริ่มทำงานถ้วยน้ำชาจะหมุนและฐานที่ตั้งก็จะหมุนด้วย แต่จะหมุนสวนทางกับถ้วยน้ำชา ถึงจะหมุนไม่เร็วนัก แต่คนที่กลัวก็กลัวอยู่เหมือนเดิม แต่ก็มีบางคนเวียนหัวเพราะการหมุนด้วยเหมือนกัน

ส่วนเด็กหนุ่มคนนั้นไม่ได้ทำอะไรเกินเลย จนทำให้สะดุดตาหรือเกิดความลำบากใจ ฉันยังสนุกกับเพื่อนๆ ได้อย่างเต็มที่

ขอแค่เขาไม่มายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันก็เพียงพอแล้ว

พวกเราจบทริปนี้ด้วยการถ่ายรูปที่เป็นจุดแลนด์มาร์คของทางสวนสนุก ทุกคนที่ได้เข้ามาเที่ยวเล่นที่นี่จะต้องได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ณ ตรงจุดนี้

ถึงแม้ว่าในระหว่างวันพวกเราจะทะเลาะกัน โวยวายใส่กันบ้าง แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นทริปที่น่าจดจำ

ในอนาคตพวกเราอาจจะไม่ได้มาเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่แบบนี้อีกก็ได้ ดรีมจึงอาสาเป็นคนถ่ายคลิปและรูปตอนที่พวกเรากำลังเล่นสนุกกันอยู่ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

และแน่นอนว่าทุกคนจะต้องมีรูปและคลิปเป็นของตัวเอง บางครั้งที่พวกเราต้องการถ่ายรูปหรือคลิปเป็นกลุ่ม ก็จะเรียกพี่ๆ พนักงานหรือถามความสมัครใจคนที่อยู่ตรงนั้นให้มาถ่ายให้

การมีเพื่อนมาเที่ยวด้วยมันดีแบบนี้นี่เอง...

 

-------------------------------------

 

ขอบคุณภาพวาดน่ารักๆ จากคุณ kewrom ด้วยนะคะ

หลิว & พรีม : ถ้าในเฟรมจะมีกันแค่สองคน ไม่ต้องเรียกกูมาด้วยก็ได้

จอมขวัญ : พวกมึงมาเองต่างหาก กูยังไม่ได้เรียกเลย

อิงดาว : จอมถ่ายเร็วๆ สิ ยิ้มจนเมื่อยหน้าแล้วเนี่ย