จอมขวัญ เด็กสาวที่เพิ่งจะเข้าช่วงมัธยมปลาย และดูเหมือนชีวิตในโรงเรียนใหม่กำลังเริ่มต้นไปได้ด้วยดี แต่กลับต้องเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องสูญเสียคนสำคัญ

Memorise Sheep - 15 ความหวัง โดย livven @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไซไฟ,แฟนตาซี,หญิง-หญิง,ข้ามเวลา,ดราม่า,ข้ามเวลา,โลกคู่ขนาน,เพื่อน,มิตรภาพ,นักเรียน,ดราม่า,ยูริ,yuri,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Memorise Sheep

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ไซไฟ,แฟนตาซี,หญิง-หญิง,ข้ามเวลา,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ข้ามเวลา,โลกคู่ขนาน,เพื่อน,มิตรภาพ,นักเรียน,ดราม่า,ยูริ,yuri,แฟนตาซี,ทะลุมิติ

รายละเอียด

จอมขวัญ เด็กสาวที่เพิ่งจะเข้าช่วงมัธยมปลาย และดูเหมือนชีวิตในโรงเรียนใหม่กำลังเริ่มต้นไปได้ด้วยดี แต่กลับต้องเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องสูญเสียคนสำคัญ

ผู้แต่ง

livven

เรื่องย่อ

Memorise Sheep

(ความทรงจำของแกะน้อย)

 

ผู้เขียน : livven

 

ภาพ : Kewrom

---------------------------------------------

 

เรื่องย่อ

จอมขวัญ เด็กสาวที่เรียนจบมัธยมต้น และตอนนี้ได้ย้ายโรงเรียนใหม่เพื่อที่จะเข้าเรียนมัธยมปลาย

ในวันแรกที่โรงเรียนใหม่นั้น เป็นไปได้ด้วยดี เพื่อนคนแรกที่เข้ามาทักทายทำให้เขารู้สึกอุ่นใจมากขึ้น

แต่แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น มันจะเรียกว่าอะไรดีล่ะ ย้อนเวลา... ความฝัน... ทะลุมิติ...

จอมขวัญที่เป็นคนอ่านนิยายหรือดูภาพยนตร์มาเยอะ ได้สันนิษฐานไปเรื่อย

แต่แล้วก็มีลางสังหรณ์เกิดขึ้นในจิตใจ บ่งบอกว่านี่มันผิดธรรมชาติ มันอยู่เหนือกฎเกณฑ์ของโลก

ไม่รู้ว่าหนทางแก้ไขของเรื่องนี้คืออะไร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นวิทยาศาสตร์หรือไสยศาสตร์กันแน่...

.

"เราชื่ออิง อิงดาวน่ะ"

"อืม... เราชื่อจอม จอมขวัญ"

.

ขอให้ความทรงจำของพวกเราอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวตลอดไป

 

---------------------------------------------

 

Trigger warning

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

เนื้อหาบางส่วน ถ้อยคำพูดหรือพฤติกรรมที่มีความรุนแรงไม่เหมาะสมกับผู้อ่านอายุต่ำกว่า 18ปี

ข้อมูลในเนื้อหาบางส่วน อาจจะมีแหล่งอ้างอิงที่ไม่น่าเชื่อถือ

อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

 

---------------------------------------------

อัพทุกวันเสาร์

.

ติดตามข่าวสารหรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ https://x.com/_Shy_Rabbit (●ˇ∀ˇ●)

สารบัญ

Memorise Sheep-0 บทนำ,Memorise Sheep-1 ครั้งแรก,Memorise Sheep-2 ที่ปรึกษา,Memorise Sheep-3 อีกแล้ว,Memorise Sheep-4 อยากกลับ,Memorise Sheep-5 กลับมาแล้ว,Memorise Sheep-6 ข้อความ,Memorise Sheep-7 วิจัย,Memorise Sheep-8 ทฤษฎี,Memorise Sheep-9 คืบหน้า,Memorise Sheep-10 เชิญชวน,Memorise Sheep-11 สวนสนุก,Memorise Sheep-12 หงุดหงิด,Memorise Sheep-13 เพื่อน,Memorise Sheep-14 ความฝัน,Memorise Sheep-15 ความหวัง,Memorise Sheep-16 บันทึก,Memorise Sheep-17 เรียกขวัญ,Memorise Sheep-18 ล่องลอย,Memorise Sheep-19 เห็นแก่ตัว,Memorise Sheep-20 คนคนนั้น

เนื้อหา

15 ความหวัง

ฉันเอื้อมมือไปเปิดประตูแล้ว แต่พอได้ยินเสียงพูดของคุณพยาบาลหญิง มือก็หยุดนิ่งทันที ในหัวพลันคิดทบทวนคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่

พอคิดได้แบบนั้น ก็พร่ำบอกกับตัวเองว่า มันคือความฝัน ตอนนี้ฉันกำลังหลับอยู่ นี่มันคือห้วงความฝันที่จินตนาการขึ้นมา

“มาแล้วเหรอ” เสียงของพ่อดังขึ้น

ฉันเงยหน้าขึ้นสบตากับพ่อ ก็รับรู้ได้ว่าดวงตาของพ่อบวมแดง ขอบตาเต็มไปด้วยน้ำตาที่เกาะอยู่ บางพื้นที่บนใบหน้ายังมีคราบน้ำตาหลงเหลือ และพอได้ฟังเสียงของพ่อที่พูดคุยกับคุณพยาบาล ทำให้ฉันรู้ว่าพ่อเศร้ากับการสูญเสียครั้งนี้มาก

“ค่ะ” ฉันตอบกลับไป

แต่ก็ยังคิดอยู่ว่า สิ่งที่คุณพยาบาลก่อนที่ฉันเข้าห้องมามันคืออะไร ‘คุณผู้หญิง’ คนนั้นคือใคร

คุณย่าเหรอ พ่อถึงได้โศกเศร้าถึงขนาดนี้

“นี่ลูกของผู้เสียชีวิตใช่ไหมคะ”

หา? ...

“ครับ” พ่อตอบกลับคำถามของคุณพยาบาล

“พ่อคะ? ใครเสียชีวิตเหรอ”

“แม่เธอ”

“...”

“ทางเราจะจัดการเรื่องศพของผู้เสียชีวิตให้นะคะ ถ้าคุณพ่อต้องการให้ทางเราจัดส่งศพกลับบ้านต่างจังหวัด ทำเรื่องเอกสารกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านหน้าได้เลยนะคะ”

เมื่อคุณพยาบาลพูดจบ เขาเดินออกจากห้องไปทันที ปล่อยให้พวกเราสองคนพ่อลูกยื่นนิ่งอยู่กับเตียงที่ไร้คนนอน

“พ่อคะ...”

แม่เธอ ที่พ่อหมายถึง... คือแม่ของฉันเหรอ

“แม่เสียแล้ว แม่จากพวกเราแล้วจอม” พ่อเอ่ยปากพูดได้แค่นั้น ไม่สามารถกล่าวคำใดได้อีกแล้ว น้ำตาที่เอ่อล้นออกมาบ่งบอกความรู้สึกทั้งหมดที่อยู่ในจิตใจ

มีเพียงฉันที่ยังคงอยู่ในความมึนงง เพราะถึงยังไงนี่ก็เป็นแค่ความฝัน ถ้าตื่นขึ้นทุกอย่างก็จะจบ

แต่ทำไมถึงฝันแบบนี้ล่ะ

เพราะฉันยึดติดกับแม่เกินไป หรือเป็นเพราะใครสักคนที่ต้องการให้ฉันมาเห็นเหตุการณ์ในอนาคต หรือเหตุผลที่แย่ที่สุดคือ ฉันทะลุมิติมาอีกโลกหนึ่งเหมือนครั้งก่อนๆ

ถ้าเป็นอย่างหลัง ฉันต้องหาทางกลับไปโลกเดิม แล้วแก้ไขในสิ่งที่โลกนี้ทำผิดพลาด แต่ถ้ากลับไปไม่ได้แล้วล่ะ...

ฉันเงยหน้าขึ้นกลับมามองพ่ออีกครั้ง พ่อนั่งลงกับโซฟาที่อยู่มุมห้อง แล้วยกมือขึ้นกุมใบหน้า เพื่อพยายามไม่ให้ฉันเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้น

แต่เสียงสะอื้นของเขา ไม่สามารถโกหกได้เลยสักนิด

ฉันเดินเข้าไปปลอบใจพ่อ หวังว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้น ถ้าฉันได้กลับไปโลกเดิม ฉันคงแก้ไขเรื่องพวกนี้ได้

“พ่อ... อย่าร้องไห้เลยนะคะ หนูเชื่อว่า แม่อยากให้พวกเรามีชีวิตที่ดีนะ”

“...พ่อรู้ ถ้าพ่อรู้ก็หน้านี้ คงจะรักษาแม่ไว้ได้”

 

เมื่อกลับไปถึงบ้าน ฉันลองค้นหาตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่พรากแม่ไปจากพวกเรา พบว่าเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ โดยการผ่าตัดนำก้อนเนื้อมะเร็งส่วนนั้นออกก่อนที่มันจะโต

ฉันต้องกลับไปบอกเรื่องนี้กับแม่ให้ได้ ต้องออกไปจากโลกนี้ให้ได้

มื้อเย็นวันนี้ อาหารจืดชืดกว่าปกติอย่างมาก ไม่รู้ว่าทำไมในตู้เย็นถึงมีกับข้าวที่แม่ทำไว้เยอะกว่าปกติ หรือแม่จะรู้เรื่องที่ต้องเกิดในวันนี้ ถึงได้ทำกับข้าวแล้วแช่แข็งไว้ เพื่อที่จะได้นำมาอุ่นกิน

หลังจากกินมื้อเย็นจนเสร็จแล้ว ฉันทำความสะอาดโต๊ะและจาน ทำหน้าที่แทนแม่ทุกอย่าง ส่วนพ่อ... เขาเดินขึ้นห้องนอนไปแล้ว ถ้าเป็นปกติเขาจะนั่งดูทีวีอยู่สักพักเพื่อรอแม่ให้ขึ้นห้องพร้อมกัน

เมื่อทำความสะอาดเสร็จ ฉันก็กลับขึ้นห้องนอนของตัวเอง

นี่ก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว ฉันกำลังนั่งคิดอยู่บนเตียงนอนว่าจะออกจากที่นี่ยังไง ออกทางประตูห้องน้ำบานนั้น... หรือต้องนอนแล้วรอเวลาให้พากลับไปเอง

หรือนี่เป็นความฝันจริงๆ แต่มันไม่เหมือนความฝันเลยสักนิด อ้อมกอดของพ่อตอนที่อยู่โรงพยาบาลมันรู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก

ถ้าเป็นความฝันคงจะไม่รู้สึกถึงความอึดอัด หรือความเจ็บต่างๆ ทุกอย่างมันดูเหมือนจริง เหมือนในชีวิตจริงๆ

พอถึงเวลาสี่ทุ่ม ฉันเดินไปที่ประตูห้องน้ำบานเดิม เปิด-ปิดประตูบานนั้นอยู่หลายครั้ง เดินเข้าเดินออกห้องน้ำหลายหน กลับไม่พบความผิดปกติอะไรเลย

ถ้างั้นก็เหลือแค่ทางเดียวคือนอนหลับ แล้วรอให้เวลาพากลับไป

 

ไม่... ไม่กลับ...

เมื่อตื่นเช้าและเปิดคอมพิวเตอร์ พบว่าวันที่ยังเป็นวันที่ต่อเนื่องกับเมื่อวาน มันควรจะเป็นวันอาทิตย์สิ แต่วันนี้เป็นวันพุธ

แถมปีก็ไม่ใช่ปีเดียวกัน ฉันยังอยู่ในโลกที่เรียนอยู่ ม.หก ไม่ใช่ ม.สี่

ฉันรีบวิ่งไปที่ห้องนอนของพ่อกับแม่ เมื่อไม่พบบุคคลในห้องนั้น ฉันก็วิ่งไปที่ห้องครัว เจอพ่อกำลังยืนชงกาแฟอยู่เพียงคนเดียว

“แม่อยู่ไหน”

อยู่ๆ ฉันก็ถามออกไป ไม่รู้ว่าในหัวสมองกำลังสั่งการอะไร ถึงพูดออกไปแบบนั้น ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าโลกนี้แม่ได้ตายจากไปแล้ว

พ่อหันมามองฉันที่กำลังยืนหอบอยู่ แล้วเอ่ยขึ้น “เมื่อวานแม่จากพวกเราไปแล้วไง ลูกคงไม่ได้คิดว่า... เมื่อวานเป็นความฝันใช่ไหม”

ใช่... ตอนแรกฉันคิดว่าทุกอย่างมันเป็นแค่ความฝัน ตั้งแต่ที่รู้ตัวว่าอยู่ในห้องน้ำโรงพยาบาล จนถึงตอนที่กลับบ้าน

แต่ฉันก็คิดในทางที่แย่ที่สุดแล้วว่า ฉันเข้ามาในอีกมิติหนึ่งเหมือนกับครั้งก่อนๆ และคงจะกลับไปที่เดิมได้

แต่รอบนี้ไม่เหมือนเดิม

มันมีทางที่แย่ยิ่งกว่านั้นอีก คือฉันต้องติดอยู่ในโลกนี้ตลอดไป ไม่มีทางกลับไปโลกเดิมได้อีก

“...หนูขอตัวก่อนนะคะ”

ฉันก้มหน้าเดินกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง ดวงตาเริ่มมีชั้นไอน้ำบางๆ เกาะอยู่ เมื่อถึงห้องและล้มตัวลงบนเตียง น้ำตาที่กลั้นไว้ตอนแรก ตอนนี้มันเริ่มไหลพราก เสียงสะอื้นที่พยายามกลั้นไว้ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้

ฉันซุกใบหน้าเข้าหมอนเพื่อที่จะได้กลบเสียงสะอื้นที่ดังออกมา ในห้วงความคิดมีแต่ใบหน้าของแม่ รอยยิ้มของแม่ กระทำที่อ่อนโยนของแม่ รสชาติอาหารที่แม่ทำให้ทุกวัน

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน แต่พอได้ยินเสียงแจ้งเตือนข้อความจากโทรศัพท์ ฉันพยายามดึงความรู้สึกของตัวเองกลับมาให้เป็นปกติมากที่สุด แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่าน

เป็นข้อความจากอิงดาว

วันนี้จอมไม่ต้องมาเรียนก็ได้นะ

เดี๋ยวเราลาครูให้

ขอบใจนะ

ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้สบายมาก

หาอะไรกินด้วยนะ อย่าอดข้าว ห้ามทรมานตัวเองเด็ดขาด!

 

ฉันไม่รู้ว่าในช่วงเวลานี้ความสัมพันธ์ของฉันกับอิงดาวเป็นแบบไหน แต่พอได้คุยกับเธอฉันก็รู้สึกสบายใจขึ้น

ถ้านับตามช่วงเวลาแล้ว ตอนนี้คงจะเป็นช่วงสมัครเรียนเข้ามหาลัย สำหรับคนที่อยากเรียนต่อ ถ้าคนที่ต้องการทำงานก็แค่รอให้เรียนจบแล้วไปสมัครงานที่ต้องการ

ฉันกดเข้าไปแอพส่งข้อความอีกครั้ง แล้วย้อนดูข้อความในกลุ่มเพื่อน ก็พบว่าฉันสมัครเข้ามหาลัยได้แล้ว ดังนั้นการที่ฉันไม่ต้องไปโรงเรียนในช่วงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลก เพราะคนอื่นๆ ก็คงจะวิ่งวุ่นกับการยื่นเอกสารเพื่อเข้าเรียน

ฉันได้ยินเสียงรถของพ่อขับออกจากบ้านไปแล้ว วันนี้พ่อคงจะไปจัดการเรื่องเอกสารของแม่

ฉันเดินออกมาจากห้องของตัวเอง และเดินตรงไปที่ห้องของพ่อกับแม่ ฉันทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ไม่รู้ว่ากำลังคาดหวังอะไรอยู่ แต่อยากให้กลิ่นของแม่อยู่กับฉันตลอดไป... อยู่กับพวกเราตลอดไป

เมื่อนอนอยู่บนเตียงได้สักพัก สายตาของฉันเริ่มกวาดตามองรอบห้อง เพื่อสำรวจสิ่งของที่อยู่ในนี้

ฉันเหลือบตาไปเห็นสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะนั้นพอดี เมื่อลุกไปหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นสมุดจดบันทึกของแม่

ไม่รู้ว่าแม่ใช้สมุดเล่มนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่วันที่เริ่มจดบันทึกคือวันที่เราย้ายบ้านกันมาที่บ้านนี้ ถ้านับตามเวลาของโลกนี้ก็... สามปีแล้ว

พอเปิดอ่านไปเรื่อยๆ ก็พบเรื่องของอิงดาวอยู่ด้วย ถ้าดูจากวันที่บันทึกแล้ว ตอนนั้นพวกเราคงจะเรียนอยู่ ม.ห้า

แม่เขียนไว้ว่า คุณยายของอิงดาวเสียแล้ว และไม่อยากให้เธอต้องอยู่คนเดียว จึงมีอยู่ช่วงหนึ่งที่อิงดาวมานอนที่บ้านด้วยหลายเดือนเลยล่ะ และข้อความสุดท้ายของบันทึกในช่วงเวลาที่อิงดาวมาอยู่ที่บ้านเรานั้น แม่เขียนไว้ว่า อยากรับอิงดาวมาเป็นลูกอีกคน

เรื่องที่แม่ของอิงดาวไม่ส่งเงินมาเลย ฉันพอรับรู้เรื่องนี้จากโลกเดิมแล้ว และตอนนี้คุณยายของเธอยังมาจากเธอไปอีก ไม่อยากคิดเลยว่าตอนนี้ชีวิตเธอจะเป็นยังไงบ้าง

ข้อความที่อิงดาวส่งมาเมื่อครู่ คงจะเป็นหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าตอนนี้เธอยังใช้ชีวิตได้ดี

ยังสดใสเหมือนที่เจอกันวันแรกไหมนะ...