จอมขวัญ เด็กสาวที่เพิ่งจะเข้าช่วงมัธยมปลาย และดูเหมือนชีวิตในโรงเรียนใหม่กำลังเริ่มต้นไปได้ด้วยดี แต่กลับต้องเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องสูญเสียคนสำคัญ

Memorise Sheep - 17 เรียกขวัญ โดย livven @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไซไฟ,แฟนตาซี,หญิง-หญิง,ข้ามเวลา,ดราม่า,ข้ามเวลา,โลกคู่ขนาน,เพื่อน,มิตรภาพ,นักเรียน,ดราม่า,ยูริ,yuri,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Memorise Sheep

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ไซไฟ,แฟนตาซี,หญิง-หญิง,ข้ามเวลา,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ข้ามเวลา,โลกคู่ขนาน,เพื่อน,มิตรภาพ,นักเรียน,ดราม่า,ยูริ,yuri,แฟนตาซี,ทะลุมิติ

รายละเอียด

จอมขวัญ เด็กสาวที่เพิ่งจะเข้าช่วงมัธยมปลาย และดูเหมือนชีวิตในโรงเรียนใหม่กำลังเริ่มต้นไปได้ด้วยดี แต่กลับต้องเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องสูญเสียคนสำคัญ

ผู้แต่ง

livven

เรื่องย่อ

Memorise Sheep

(ความทรงจำของแกะน้อย)

 

ผู้เขียน : livven

 

ภาพ : Kewrom

---------------------------------------------

 

เรื่องย่อ

จอมขวัญ เด็กสาวที่เรียนจบมัธยมต้น และตอนนี้ได้ย้ายโรงเรียนใหม่เพื่อที่จะเข้าเรียนมัธยมปลาย

ในวันแรกที่โรงเรียนใหม่นั้น เป็นไปได้ด้วยดี เพื่อนคนแรกที่เข้ามาทักทายทำให้เขารู้สึกอุ่นใจมากขึ้น

แต่แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น มันจะเรียกว่าอะไรดีล่ะ ย้อนเวลา... ความฝัน... ทะลุมิติ...

จอมขวัญที่เป็นคนอ่านนิยายหรือดูภาพยนตร์มาเยอะ ได้สันนิษฐานไปเรื่อย

แต่แล้วก็มีลางสังหรณ์เกิดขึ้นในจิตใจ บ่งบอกว่านี่มันผิดธรรมชาติ มันอยู่เหนือกฎเกณฑ์ของโลก

ไม่รู้ว่าหนทางแก้ไขของเรื่องนี้คืออะไร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นวิทยาศาสตร์หรือไสยศาสตร์กันแน่...

.

"เราชื่ออิง อิงดาวน่ะ"

"อืม... เราชื่อจอม จอมขวัญ"

.

ขอให้ความทรงจำของพวกเราอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวตลอดไป

 

---------------------------------------------

 

Trigger warning

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

เนื้อหาบางส่วน ถ้อยคำพูดหรือพฤติกรรมที่มีความรุนแรงไม่เหมาะสมกับผู้อ่านอายุต่ำกว่า 18ปี

ข้อมูลในเนื้อหาบางส่วน อาจจะมีแหล่งอ้างอิงที่ไม่น่าเชื่อถือ

อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

 

---------------------------------------------

อัพทุกวันเสาร์

.

ติดตามข่าวสารหรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ https://x.com/_Shy_Rabbit (●ˇ∀ˇ●)

สารบัญ

Memorise Sheep-0 บทนำ,Memorise Sheep-1 ครั้งแรก,Memorise Sheep-2 ที่ปรึกษา,Memorise Sheep-3 อีกแล้ว,Memorise Sheep-4 อยากกลับ,Memorise Sheep-5 กลับมาแล้ว,Memorise Sheep-6 ข้อความ,Memorise Sheep-7 วิจัย,Memorise Sheep-8 ทฤษฎี,Memorise Sheep-9 คืบหน้า,Memorise Sheep-10 เชิญชวน,Memorise Sheep-11 สวนสนุก,Memorise Sheep-12 หงุดหงิด,Memorise Sheep-13 เพื่อน,Memorise Sheep-14 ความฝัน,Memorise Sheep-15 ความหวัง,Memorise Sheep-16 บันทึก,Memorise Sheep-17 เรียกขวัญ,Memorise Sheep-18 ล่องลอย,Memorise Sheep-19 เห็นแก่ตัว,Memorise Sheep-20 คนคนนั้น

เนื้อหา

17 เรียกขวัญ

โชคชะตาอาจจะไม่ได้เล่นตลก แต่กำลังกลั่นแกล้งฉันอยู่แน่นอน

ฉันอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว ไม่มีท่าทีว่าจะมีทางให้กลับ ดังนั้นสิ่งที่ฉันสามารถร้องขอได้ในตอนนี้ คือการให้แม่กลับมาชีวิตทั้งที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้

เวลาล่วงเลยมาถึงวันที่ต้องเผาศพแล้ว ถ้าให้ฉันนับคงจะเป็นวันนี้คงเป็นวันที่เจ็ดที่ฉันได้อยู่ที่นี่

ตอนนี้พวกเรามาที่บ้านต่างจังหวัดที่เป็นบ้านเกิดของแม่ พวกเราอาศัยกันอยู่ที่บ้านของคุณยาย

ทุกคนในบ้านต่างก็แสดงความโศกเศร้าออกมาผ่านทางดวงตา เพื่อนบ้านที่รู้จักกับแม่ตั้งแต่เด็กบางคนรู้สึกใจหาย ไม่คิดว่าเพื่อนในวัยเดียวกันจะเป็นโรคร้าย เสียชีวิตไปอย่างกะทันหันแบบนี้

ต่างกับฉันที่ขังตัวเองอยู่ในห้องนอน

คุณยายบอกให้ฉันใช้ห้องของแม่เป็นห้องนอน และพ่อจะเป็นคนนอนเฝ้าศพของแม่ที่วัด พอถึงตอนเช้าฉันจะเดินทางไปที่วัดอีกที

แต่ฉันไม่อยากออกจากห้องเลย

ไม่อยากเห็นโลงศพของแม่

อยากโกหกตัวเองว่าแม่ยังอยู่

อยากกลับไปโลกเดิมที่มีแม่อยู่

ถ้ากลับไปไม่ได้แล้ว ฉันก็อยากให้แม่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ถึงมันจะดูน่าเหลือเชื่อเกินไปหน่อย แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงก็คงดี

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น พร้อมกับเสียงของเด็กสาวคนหนึ่ง “จอม คุณยายเรียกให้ไปกินข้าวน่ะ”

ฉันจำเสียงนี้ได้ เป็นเสียงของอิงดาว เพื่อนสนิทของฉัน

ตอนแรกฉันมาที่นี่กับพ่อแค่สองคน แต่พ่อขอแยกตัวไปทำธุระ ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาไปทำธุระอะไรมา แต่สุดท้ายเขากับพาอิงดาวมาด้วย พร้อมกับบอกฉันว่า กลัวว่าฉันจะอยู่คนเดียวแล้วคิดมาก

ฉันรู้สึกขอบคุณพ่อที่พาเพื่อนมาอยู่ด้วย แต่พ่อก็อาการเดียวกับฉันไม่ใช่เหรอ พวกเราทั้งคู่ต่างก็รู้สึกเศร้ากับการสูญเสียครั้งนี้ แล้วพ่อยังจะมาทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าลูกอย่างฉันอีก คิดว่ามันเท่นักหรือไง

“อืม เดี๋ยวลงไป”

เวลานี้เป็นเวลาของมื้อเย็น ถ้าลงไปช้าก็จะได้นั่งกินข้าวกับอิงดาวแค่สองคน เพราะพวกผู้ใหญ่ต้องกินข้าวตามเวลา เพื่อที่จะได้กินยาตามใบสั่งที่หมอประจำตัวมอบให้

อิงดาวอาสาเป็นลูกมือของคุณยายในการทำกับข้าวตั้งแต่วันแรกที่มาถึง เลยทำให้คุณยายเอ็นดูเธอมาก จนแทบจะไม่เห็นหัวหลานแท้ๆ คนนี้เลย

แต่มันก็ดีแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันไม่อยากทำอะไรเลย อยากปิดหู ปิดตา ปิดปาก ไม่อยากรับรู้เรื่องราวภายนอก อยากกลับไปที่เดิม...

“จอม! จอมขวัญ!”

“หา... เธอเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็ตอนที่จอมตอบกลับมาไง เราไม่เห็นจอมเปิดประตูสักที ก็เลยเข้ามาดู แล้วก็เห็นจอมสภาพนี้แหละ”

“...”

ฉันคงจะคิดอะไรเพ้อเจ้อนานเกินไปจนอิงดาวเป็นห่วง เธอจึงเข้ามาตาม คงกลัวว่าฉันจะคิดทำอะไรแปลกๆ ละมั้ง

“คุณยายเล่าให้เราฟังแล้วนะ เรื่องจอมขวัญน่ะ” อิงดาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงที่ฉันนอนอยู่

“ทำไมเหรอ”

“ต่อไปนี้เราจะเป็นคนเรียก ‘ขวัญ’ แทนแม่ของจอมเอง จอมจะได้รู้ว่า” อิงดาวเงียบเสียงลงทำให้ฉันอยากรู้คำต่อไป ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองเธอด้วยความสงสัยรอฟังอย่างตั้งใจ อิงดาวยิ้มก่อนจะพูด “ยังมีคนที่เห็นความสำคัญของจอมอยู่ จอมขวัญของอิงดาวจะไม่หนีไปไหน จะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป”

เมื่อสิ้นเสียงพูด อิงดาวเอื้อมมือขึ้นมาลูบหัวของฉัน

ฉันหลับตาลงเมื่อมือข้างนั้นวางลงบนศีรษะ ความอุ่นของฝ่ามือทำให้รู้สึกผ่อนคลาย พอเธอขยับมือลูบเส้นผม ฉันรู้สึกว่าการสัมผัสนี้คล้ายคลึงกับแม่มาก นั่นยิ่งทำให้รู้สึกสบายใจและปลอดภัยมากขึ้น

ฉันรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา แต่น้ำตากลับไม่ได้ไหลออกมาเหมือนกับวันก่อน อาจจะเป็นเพราะน้ำตาในคลังหมดแล้วก็ได้

ฉันสูดหายใจ และถอนหายใจออกมาก่อนพูด “ขอบคุณนะ ถึงจะไม่ใช่ความจริงแต่ช่วยได้มากเลยล่ะ”

ฉันกำลังลุกขึ้นนั่ง แต่ได้ยินเสียงตอบกลับจากข้างลำตัวว่า “เราพูดจริงนะ!”

“...” ฉันหันไปมองอิงดาวด้วยความสงสัย

ตอนที่เธอบอกว่า อยู่เคียงข้างกันตลอดไป ฉันรับรู้ได้ทันทีว่านั่นเป็นคำโกหก ไม่มีใครหรืออะไรที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไปหรอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นเป็นคำปลอบใจที่ดีมากเลยล่ะ

“เราบอกว่าจะอยู่เคียงข้างตลอดไป เราพูดจริงนะ” อิงดาวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

ฉันกลั้นขำพร้อมกับหันหน้าไปทางด้านข้างเพื่อหลบหน้าเธอ แล้วพูดขึ้น “โกหก”

“ถ้าเราโกหก เราจะขอชดใช้ด้วยชีวิตเลย” อิงดาวกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นชูสามนิ้วเพื่อทำท่างสาบาน

ฉันหันกลับมองการกระทำนั้นทันที “เดี๋ยว...”

“ชีวิตเราไม่เหลือใครแล้ว พ่อกับแม่ทิ้งเราไป ยายก็จากไปแล้ว ตอนนี้เรามีแค่ครอบครัวของจอมที่เลี้ยงดู ถ้าเราทำผิดต่อจอมก็เท่ากับทำผิดต่อผู้มีพระคุณ นั่นเป็นบาปที่ยิ่งกว่าบาปอีก เราทรยศต่อผู้มีบุญคุณไม่ได้หรอก”

นั่นก็จริง แต่คนที่ผิดคำพูดของตัวเองก็มีให้ดูเป็นตัวอย่างเยอะแยะ

ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อคำพูดของอิงดาว เพียงแต่ว่าการชดใช้ด้วยชีวิต... มันหมายความว่าอะไร

“แล้วที่ว่า... ชดใช้ด้วยชีวิต คืออะไร”

“...ก็คงหายไปจากโลกนี้เหมือนแม่ของจอมละมั้ง”

“ไม่ได้!” ถ้าเป็นแบบนั้นจะไม่มีโอกาสให้แก้ตัว การตายจากโลกไปไม่ได้หมายความว่าทุกสิ่งจะจบลง แต่มันหมายถึงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงต่างหาก

ก่อนหน้านี้ฉันมีความคิดว่าอยากเก็บร่างของแม่เอาไว้ เผื่อว่าวันหนึ่งแม่จะฟื้นขึ้นมาในร่างนั้นอีกครั้ง หรือไม่ฉันก็ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อฟื้นคืนชีวิตให้แม่จนได้

ถ้าเธอจากฉันไปอีกคน ฉันคงเป็นคนประสาทเสียที่ทำเรื่องผิดธรรมชาติ ทดลองทำสิ่งที่เหนือจินตนาการ

ในอนาคตฉันอาจจะเป็นแบบนั้น